อาจารย์หมอประสิทธิ์ (ศ.นพ.ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์) ก็สนับสนุนให้เด็กไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนได้แล้ว โดยให้เรียนแบบ new normal
เหตุผลที่ให้เด็กไปโรงเรียนได้แล้วนั้น ไม่ใช่ว่าเพราะเราคุมโรคโควิด-19 ได้แล้ว (ซึ่งจริงๆ สถานการณ์ยังทรงๆ และถึงคุมได้ เดี๋ยวก็มีผู้ติดเชื้ออีกเรื่อยๆ) แต่เพราะเราต้องอยู่กับโรคนี้ไปอีกนาน ขณะที่การศึกษาของเด็กเป็นสิ่งสำคัญยิ่งยวดของสังคม
สิ่งที่ควรจะทำคือการเปิดเรียนโดยปรับตัวกันขึ้น ทั้งครอบครัวและโรงเรียน ในด้านการดูแลสุขอนามัย ไม่ไปคลุกคลีกับคนอื่น .. บ้านที่มีคนแก่อยู่ร่วมกับหลาน ยิ่งต้องปรับตัวให้มากขึ้น (แต่ไม่ใช่ห้ามหลานไปโรงเรียน)
การเปิดโรงเรียน ก็อาจจะมีการติดเชื้อเกิดขึ้นได้ ไม่ได้แปลกอะไร ก็แค่ปิดชั้นเรียนเป็นระยะๆ ไม่ควรจะปิดโรงเรียนกันถาวรยาวนาน
ขณะที่ การให้เด็กหยุดเรียนนั้น ไม่ใช่การป้องกันเด็กไม่ให้ติดเชื้อ แต่กลายเป็นการสละความก้าวหน้าของเด็กเพื่อความปลอดภัยของผู้ใหญ่ (โดยเฉพาะพวกคนแก่ที่มีอำนาจ มีปากเสียง มากกว่าเด็กๆ)
นอกจากนี้ อาจารย์ยังเน้นด้วยว่า "เด็กมีความเสี่ยงจากโรคโควิด19 ต่ำกว่าผู้ใหญ่" (ตามข้อมูลด้านล่างนี้)
- จำนวนผู้ป่วยเด็กมีน้อย
- โอกาสที่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จะติดเชื้อน้อยกว่าผู้ใหญ่นั้น อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง
- หากติดเชื้อ ส่วนมากไม่มีอาการ ถ้ามีอาการก็น้อย ไม่รุนแรงแบบผู้ใหญ่
- ผู้ป่วยเด็กที่มีอาการทางปอดมาก ต้องเข้าโรงพยาบาลมักมีอายุมากกว่า 10 ปี
- อาการมักหายเร็วกว่าผู้ใหญ่ เพราะระบบภูมิคุ้มกันของเด็กมีระบบที่เรียกว่า Th2 เด่นกว่าระบบ Th1 (ซึ่งเป็นระบบที่เด่นในผู้ใหญ่) จึงทำให้การกระตุ้นการอักเสบรุนแรงแบบผู้ใหญ่ ไม่ค่อยเกิดขึ้น
- ในหลายประเทศจึงยอมให้เด็กไปโรงเรียน โดยมีมาตรการเข้มงวด เช่น ลดจำนวนเด็กลง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เปิดห้องให้อากาศถ่ายเทดี ห้ามเด็กป่วยมาโรงเรียน
- ประเทศที่ใช้มาตรการเข้มงวดเหล่านั้น ไม่มีปัญหาเรื่องการติดเชื้อโควิดในโรงเรียนรุนแรง แม้ว่าเด็กก็อาจมีการสัมผัสกันบ้าง
- นักวิชาการจำนวนมาก เตือนว่า อันตรายจากโรคโควิดอาจน้อยกว่าอันตรายจากการพลาดโอกาสทางการศึกษา
Search