การต้มกบโดยค่อยๆ เพิ่มอุณหภูมิทีละนิดเพื่อให้บรรดากบไม่ตกใจโดดหนีจนหม้อคว่ำถูกใช้กับหลายสิ่งในสังคมไทย
หลายคนพูดถึงยอดผู้ป่วยยอดผู้เสียชีวิตที่ค่อยๆ ถูกทำให้ชินจากการรายงานของภาครัฐ ความเลวร้ายในการบริหารงาน ความฟอนเฟะของความยุติธรรม หลายคดีที่โครมครามแล้วหายไปหรือจบลงอย่างน่าฉงน เสือดำ กระทิง นาฬิกา แป้ง และล่าสุดทุกคนก็ลุ้นว่าคดีถุงพลาสติกจะเป็นอย่างไร
สิ่งที่เกิดขึ้นแต่ละอย่างนั้นค่อยๆ เพิ่มอุณหภูมิความเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ หลายคนบอกว่า ถ้างานนี้รอดอีกก็ไม่ไหวแล้ว หมดสิ้นศรัทธากับประเทศนี้ ได้อ่านหลายสเตตัสเขียนคำว่า 'สิ้นหวัง' ซ้ำแล้วซ้ำอีก
แต่แล้วก็มีเรื่องใหม่มาทำให้สังคมหันไปสนใจ แล้วเรื่องโครมครามของสัปดาห์ก่อนก็จางหายไป การสืบสาวแก้ไขไปถึงต้นตอของระบบและรากของปัญหาเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิด
แล้วเราก็ชินกับ 'new low' หรือ 'จุดต่ำใหม่' ของบ้านเมือง บรรดาผู้มีอำนาจรับผิดชอบทั้งหลายยังคงใช้อำนาจในทางที่ผิดจนกลายเป็นระดับอุณหภูมิใหม่ที่ประชาชนชาชิน--ใช้คำว่า 'รับได้' คงไม่ถูก ต้องใช้คำว่า 'เอือมระอา' แต่ไม่รู้จะทำยังไงกับมัน
🔸🔸🔸
ทุกข่าวใหญ่เป็นเรื่องซีเรียส หลายข่าวถึงขั้นรับไม่ได้ บางข่าวเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
การใช้อำนาจในทางที่ผิดนั้นน่ากลัว ที่น่ากลัวกว่าคือการปกป้องพวกพ้องหรือผู้มีอำนาจผู้มีเงินโดยไม่สะทกสะท้านต่อความเป็นธรรมหรือเสียงโห่ร้องของประชาชน เหมือนที่ผู้คนบอกว่า 'เห็นหัวประชาชนบ้างไหม' หรือ 'คิดว่าพวกกูกินหญ้าเหรอ' ไม่เฉพาะคดีล่าสุด แต่รวมถึงข้อเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรมมากมายในทางการเมืองด้วย
ผู้เรียกร้องความเป็นธรรมที่ต่อต้านการใช้อำนาจในทางที่ผิดกลับถูกจับซ้ำๆ ขณะที่คนผิดเห็นๆ กลับได้รับการดูแล สร้างคำอธิบายสลับซับซ้อนขึ้นมา หน่วงเวลาพิจารณาคดี ฯลฯ
สุดท้าย เราจึงเดินมาถึงจุดที่น่ากลัวที่สุดซึ่งสะท้อนผ่านความเห็นของผู้คนจำนวนมากในสังคม เช่น เชื่อกูสิ เดี๋ยวก็รอด, ชินแล้ว นี่แหละเมืองไทย, สาวไปไม่ถึงตัวใหญ่หรอก ก็รู้ๆ กันอยู่, ตกต่ำลงได้อีก, พนันมั้ยเดี๋ยวเรื่องก็หายเข้ากลีบเมฆ, มึงดูสิคดีนั้นตอนนี้จับได้ยัง จะมาหวังอะไรกับคดีนี้, แมลงวันไม่ตอมแมลงวัน, ฯลฯ อีกมากมาย
ไม่ใช่ไม่ต่อสู้เรียกร้อง ไม่ใช่แยกแยะดีชั่วไม่ออก แต่เมื่อสังคมใด 'ต้มกบ' มาจนถึงจุดที่กบชาชิน (ไม่ใช่รับได้นะครับ) กับความฟอนเฟะต่อเนื่อง มันจะกลายเป็นความสิ้นหวังและได้แต่บอกตัวเองและเพื่อนๆ ว่า "ชินแล้วว่ะ แม่งก็แบบนี้ตลอด"
🔸🔸🔸
ดูเหมือนระบบต้มกบจะมีโครงสร้างใหญ่โตซับซ้อน มันคือความผูกโยงของระบบอำนาจและวัฒนธรรมที่ใช้วิธีเดิมๆ จนชินและไม่เคยได้รับการลงโทษจากความผิดหรือความชั่วร้ายที่ตนและพรรคพวกก่อขึ้น มันกลายร่างมาเป็นพฤติกรรมที่กระทำกับคนอื่นผ่านวัฒนธรรมอำนาจนิยม ผู้ใหญ่-ผู้น้อย พรรคพวกพี่น้อง เจ้านาย เจ้าพ่อ มาเฟีย VVIP VIP อภิสิทธิ์ชน ฯลฯ ถักทอกันเป็นระบบอุปถัมภ์ขนาดยักษ์ ซึ่งยากเหลือเกินที่ 'หนึ่งเหตุการณ์' ที่ 'พลาดหลุด' ออกมาจะเขย่าโครงสร้างแน่นหนานี้ได้
แต่ละข่าวชั่วร้ายล้วนสะท้อนไปถึงระบบต้มกบที่พยายามทำให้เราชาชินกับความเลวร้าย แต่ระบบนี้ก็ไม่เคยสะเทือน มันมักจบไปเป็นเรื่องปัจเจก เหตุกราดยิงที่โคราชไม่นำไปสู่การปฏิรูประบบในกองทัพ เหตุผู้พิพากษาฆ่าตัวตายสองครั้งมินำไปสู่การเปลี่ยนแปลงกระบวนการยุติธรรม เราจะคาดหวังกับเหตุการณ์นี้ว่าจะเปิดโปงเปลี่ยนแปลงระบบตำรวจได้อย่างไรบ้าง?
🔸🔸🔸
เหลือเวลาอีกกี่วันก่อนที่ข่าวนี้จะค่อยๆ จางหายจากความสนใจและถูกกลบด้วยข่าวอื่น เราคาดหวังผลลัพธ์ของมันได้มากน้อยแค่ไหน ไม่เพียงลงโทษผู้กระทำผิด แต่ยังหมายถึงการสืบสาวราวเรื่องให้ความกระจ่างกับสังคม เลยไปถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบของวงการสีกากี ประชาชนคาดหวังได้หรือไม่?
หรือจะเป็นอีกหนึ่ง 'ข่าวร้อน' ที่ค่อยๆ กลายเป็น 'อุณหภูมิปกติใหม่' ให้กบอย่างพวกเราชาชินกับความสิ้นหวังในดีกรีที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้แต่ก้มหน้ายอมรับไป...นี่แหละประเทศไทย
ความชาชินนั้นน่ากลัว เพราะเท่ากับเราอนุญาตให้เกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นอีก อีก และอีก
แต่โปรดระวัง! ผู้ที่อยู่ในระบบต้มกบซึ่งเหิมเกริมในอำนาจรังแต่จะเพิ่มอุณหภูมิความเลวร้ายไม่หยุดหย่อนก็ต้องไม่ลืมเช่นกันว่า
จุดเดือดมีอยู่จริง
เมื่อความสิ้นหวังลงสู่จุดต่ำสุดมันจะเปลี่ยนเป็นพลัง
วันนั้นกบจะกระโดด!
#ประเทศไทยดีกว่านี้ได้
Search
ประเทศไทยดีกว่านี้ได้ 在 ประเทศไทยดีกว่านี้ได้... - Thairath - ไทยรัฐออนไลน์ | Facebook 的推薦與評價
ประเทศไทยดีกว่านี้ได้ คนไทยมีศักยภาพ มีความรู้ มีความทะเยอทะยานอยากเห็นบ้านเมืองน่าอยู่ ลูกหลานมีการศึกษาที่มีคุณภาพ... ... <看更多>