พัฒนาตัวเองทุกวันอาทิตย์: วันนี้หัวข้อ “การบริหารทักษะ และความรู้”
Skill & Knowledge Management: การบริหารทักษะและความรู้ ไม่ให้หายไป โดยไม่กระทบ กับหน้าที่การงาน
(บทความตัวเต็ม)
ในชีวิตมีทักษะมากมาย ที่เราสะสมมา และต้องพัฒนาต่อเนื่อง
เช่นทักษะ ภาษา ปรัชญา ศิลปะ การทูต ร่างกาย ดนตรี ตรรกะ ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ แม้กระทั้งทักษะในการเข้าใจตนเอง (introspection) รวมทั้งความรู้ยิบย่อยในเรื่องต่างๆ
ที่เราอาจจะหยิบมาใช้ ในยามจำเป็น เพื่อทำให้ชีวิตเราก้าวหน้า ประสบความสำเร็จขึ้น
แต่หลายๆครั้ง เราถูกบีบบังคับด้วยความรับผิดชอบ ณ ชั่วขณะ ทำให้หยุดพัฒนาตนเอง ไม่ว่าจะด้วย งานที่เยอะ ยุ่งกับเรื่องภาระชีวิตต่างๆ ทำให้ไม่ได้พัฒนาทักษะอื่น หรือสายงานที่ทำ ไม่ตรงกับทักษะที่มี ทำให้เสียทักษะไป และลืมความรู้ไป
สิ่งที่เราสามารถทำได้ เพื่อบริหารทักษะ ความรู้ที่เรามี ให้ติดตัวอยู่เสมอ
ที่ผมอยากแชร์ คือการขัดเกลาทักษะที่เป็นจุดแข็งของตนเอง
> ให้มีความลึก : พัฒนาทักษะนั้นๆให้รู้ลึก เจาะจง
> มีความกว้าง : เชื่อมโยงทักษะนั้นๆ กับโลก และทักษะอื่นๆได้กว้าง
> มีความคล่อง : หยิบทักษะขึ้นมาใช้ได้เร็ว ฝึกฝนบ่อยๆ ให้คล่อง
สามข้อนี้ น่าจะช่วยทำให้เราบริหารทักษะ ที่สำคัญๆของตนเองได้
และที่สำคัญ จะช่วยให้เราได้ประโยชน์ จากทักษะที่ "random" หรือที่บางทีมันดูไม่เกี่ยวข้องกัน ได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างที่น่าจะเห็นภาพง่าย
จุดแข็ง: เป็นคนช่างสังเกตุ
> ลึก: ฝึกอ่านหนังสือเร็ว สังเกตุ Keyword สำคัญๆ และค้นคว้าเพิ่มในหัวข้อที่สนใจ
> กว้าง: อ่านหนังสือได้เร็วขึ้น จับจุดเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดได้ อ่านกราฟได้
> คล่อง: เอาทักษะนี้มาใช้จริง สังเกตุ Graph ต่างๆ (ลงทุน) หรือใช้ในชีวิตประจำวัน สังเกตุสิ่งรอบข้าง ทำให้ชีวิตปลอดภัย
จุดแข็ง: ตอนเด็กๆเก่งภูมิศาสตร์ แต่ตอนนี้ทำงานไม่ได้ใช้
> ลึก: ศึกษาเพิ่ม แต่ละภูมิภาคนั้นๆ ที่เราสนใจ มีข้อมูลเชิงลึกอะไรบ้าง
> กว้าง: ศึกษะหลายแง่มุมขึ้น เช่นเกี่ยวกับผู้คน หรือวัฒนะธรรม ของภูมิภาคนั้นๆ
> คล่อง: นำความรู้ในการค้นคว้าต่างๆ มาพัฒนางานของตัวเอง
และอีกตัวอย่าง ขอยกของตัวเองขึ้นมา เพื่อให้เห็นภาพครับ
(เพราะทักษะที่ผมมี มัน Random มาก หลายๆคนน่าจะเป็นเหมือนกัน)
> ลึก: ทักษะที่เป็นจุดแข็งของผมคือ Introspection หรือ ความสามารถในการมองย้อนเข้าหาตนเอง (ผมใช้เวลาอยู่กับตัวเองเยอะ เขียนบันทึกเพื่อสะท้อนตัวเองตลอด) ทำให้ค้นพบอะไรใหม่ๆ จากการถามคำถาม กับตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งคนอื่น
ข้อนี้โยงไปถึงข้อต่อไป
> กว้าง: การคุยกับตัวเอง ด้วยการเขียนเยอะๆ ผมเขียน Diary ต่างๆ วันๆหนึ่งเยอะมาก (ถ้าช่วงไหนเรียนภาษาที่ 3-4 จะพยายามเขียนเป็นภาษานั้นๆ) ทำให้เราตีความ ความหมายต่างๆ ทั้งจากตัวหนังสือ และคำพูด ได้เร็ว และหลากหลาย
> คล่อง: การคุยกับตัวเองมากๆ และพัฒนาทักษะภาษา ทำให้ทักษะการสื่อสารในชีวิตประจำวันเราคล่องขึ้น เพราะได้ "ซ้อม" บทสนทนาบ่อยๆ ในหัวตัวเอง
เมื่อต้องถกเถียง โน้มน้าว หรือสื่อสารกับผู้คน ในสังคมต่างๆ: เรามีบทสนทนาเตรียมในหัว ที่ผ่านการวางแผนไว้แล้ว ทำให้ดึงออกมาใช้ได้ง่าย
(ผมทำบันทึก การเถียง โดยเขียน A vs. B เพื่อให้สามารถเถียงแทนทั้งสองฝ่ายได้)
จะเห็นได้ว่าจากทักษะเดียว โยงได้ถึงการพัฒนาตัวเองในแง่อื่นๆ ที่ใช้ประโยชน์ได้เยอะมาก
สิ่งที่สำคัญสำหรับผู้อ่าน คือการมองให้ออก ว่าจุดแข็งตนเองคือสิ่งไหน
หากนึกไม่ออก ลองถามตัวเอง ว่าทุกวันนี้ เรามาอยู่จุดนี้ได้อย่างไร? ด้วยทักษะอะไร (จุดแข็ง มักเป็นจุดที่นำพาเรามาทำงานได้ แม้ตรง หรือไม่ตรงสายก็ตาม)
หรือถามคนใกล้ตัว ที่สนิทก็ได้ ว่าเธอคิดว่าฉันควรพัฒนาจุดแข็ง (และจุดอ่อน) อะไรบ้าง
เพื่อที่เราจะได้ต่อยอดให้สิ่งนั้นๆ ลึก กว้าง และคล่องขึ้นครับ
.
.
.
.
.
บทความนี้ มาจาก diary หนึ่งที่เขียนไว้ "เตือน" ตัวเอง
ไม่รู้จะเก็บไว้อ่านคนเดียวทำไม เลยขอเอามาแชร์ไว้ที่นี่ครับ
ปรัชญา ต่างๆ 在 สรุป ปรัชญาคืออะไร มนุษย์หลากมิติ ปรัชญา PIM ปิดคอร์ส - YouTube 的推薦與評價

ปรัชญา #philosophy มนุษย์หลากมิติ หัวข้อ2 ความหมายของชีวิต Meaning of Life #PIM #ปัญญาภิวัฒน์ เทอม 2.1 มีนาคม-เมษายน 2564 หมายเหตุ : ลักษณะของ ปรัชญา ... ... <看更多>
ปรัชญา ต่างๆ 在 ปรัชญาตะวันตก ตอนที่ 1 (ปรัชญาคืออะไร) Philosophy หรือในภาษา ... 的推薦與評價
แล้วก็กระบวนการทางปรัชญาคืออะไร ในตอนหน้าผมจะเริ่มพูดเกี่ยวกับแขนงปรัชญาต่างๆ ซึ่งหลักๆก็มี อภิปรัชญา ญาณวิทยา กับ จริยศาสตร์ ไว้เจอกันตอนหน้าครับ. ... <看更多>