รู้จัก Bill and Melinda Gates มูลนิธิของมหาเศรษฐี เพื่อผู้ด้อยโอกาส /โดย ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่า มูลนิธิ “Bill and Melinda Gates” มียอดใช้จ่ายในโครงการต่าง ๆ เป็นมูลค่ารวมกันกว่า 1.5 แสนล้านบาทต่อปี เทียบเท่ากับงบประมาณกระทรวงสาธารณสุขไทยในปีนี้
โดยยอดใช้จ่ายดังกล่าวจะถูกนำไปช่วยเหลือปัญหาความยากจนและสาธารณสุขทั่วโลก
แล้วมูลนิธินี้ มีโครงสร้างอย่างไรและนำเงินไปทำอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
มูลนิธิ Bill and Melinda Gates Foundation ถูกก่อตั้งในปี 2000 หรือราว 21 ปีก่อน
จากการที่ Bill Gates ซึ่งในขณะนั้นคือบุคคลที่รวยที่สุดในโลก และ Melinda อดีตภรรยาของเขา
ได้อ่านบทความในหน้าหนังสือพิมพ์ที่ระบุว่ามีเด็กนับล้านคนในประเทศยากจนเสียชีวิตทุกปี
จากโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศพัฒนาแล้ว
แต่กลุ่มประเทศด้อยพัฒนายังเข้าไม่ถึงการรักษา
ทั้งคู่จึงได้พูดคุยกับ William H. Gates Sr. ซึ่งเป็นพ่อของ Bill Gates
เพื่อหาทางแก้ไขและก็ได้ข้อสรุปว่าจะควบรวม 2 มูลนิธิเข้าด้วยกันระหว่าง
- Gates Library Foundation มูลนิธิช่วยเหลือห้องสมุดทั่วประเทศซึ่งก่อตั้งโดย Bill Gates
- William H. Gates Foundation มูลนิธิสนับสนุนงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของพ่อ Bill Gates
โดย Bill และ Melinda Gates ได้บริจาคเงินส่วนตัว 4.7 แสนล้านบาทเพื่อก่อตั้งกองทุน
และในปัจจุบันทั้งคู่ได้บริจาคเงินเข้าสู่มูลนิธิไปแล้วเกินกว่า 1 ล้านล้านบาท
ในขณะเดียวกัน เพื่อนสนิทของ Bill Gates อย่าง Warren Buffett ก็ได้บริจาคหุ้นของ Berkshire Hathaway เข้ามูลนิธินี้เช่นกันและบริจาคมาตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปัจจุบัน
โดย Buffett ได้บริจาคทรัพย์สินเข้ามูลนิธิไปแล้วกว่า 9 แสนล้านบาทและมีแผนที่จะบริจาคหุ้นของ Berkshire Hathaway ที่เขาถืออยู่ทั้งหมด ให้กับ 5 มูลนิธิ ซึ่ง Bill and Melinda Gates Foundation ก็คือหนึ่งในนั้น
แล้วเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ มีโครงสร้างในการบริหารจัดการอย่างไร ?
จากการที่ Warren Buffett ได้บริจาคเข้ามูลนิธิด้วยสินทรัพย์มูลค่ามหาศาลทุกปีและยังมีส่วนของ
ผู้บริจาคทั่วโลกที่หลั่งไหลเข้ามาต่อเนื่อง
ทำให้คณะกรรมการของมูลนิธิ ตัดสินใจปรับโครงสร้างใหม่ แบ่งหน้าที่เป็น 2 ส่วน คือ
1. มูลนิธิหรือก็คือการดูแลเรื่องของการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็น ผู้ใช้เงิน
2. กองทรัสต์ เพื่อการบริหารจัดการกองทุนและเงินบริจาคที่ได้รับ หรือก็คือ ผู้จัดหาเงิน
ในส่วนแรกนั้น จะกำกับดูแลโดยคณะกรรมการมูลนิธิซึ่งรวมถึง Bill Gates, Melinda Gates และ Buffett
ที่จะคอยกำหนดทิศทางการลงทุนและใช้จ่ายเงินของมูลนิธิ โดยมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนที่ขาดโอกาส ทั้งการศึกษา ปัจจัยสี่ เทคโนโลยีและนวัตกรรม
หนึ่งในตัวอย่างการนำเงินบริจาคไปใช้ เช่น การสนับสนุนเงินทุน 1.2 หมื่นล้านบาท ในการก่อตั้ง Gavi องค์กรที่มีจุดประสงค์ในการช่วยเหลือประเทศยากจนให้สามารถเข้าถึงวัคซีนในการป้องกันโรค
โดยองค์กรแห่งนี้ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ COVAX ที่ช่วยกระจายวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ไปยังประเทศกำลังพัฒนา
หรือการที่มูลนิธิสนับสนุนเงินทุนในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบให้มีราคาต่ำลง จากเดิมราคา 2,100 บาทต่อโดสให้เหลือเพียง 105 บาทต่อโดส และยังมีส่วนช่วยเหลือในการกระจายวัคซีนไปยังประเทศยากจน
อีกโครงการที่น่าสนใจคือการพัฒนาเครื่องจักร ที่สามารถแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มในพื้นที่แห้งแล้งและยากจน
โดยเครื่องจักรนี้สามารถเปลี่ยนของเสียทางชีวภาพ ให้กลายเป็นน้ำสะอาดที่สามารถดื่มได้และเปลี่ยนกากของเสียให้เป็นพลังงานไฟฟ้า
เครื่องจักรดังกล่าวสามารถรองรับของเสียจากผู้คนได้ถึง 100,000 คน ผลิตน้ำได้สูงสุด 86,000 ลิตร และผลิตไฟฟ้าได้ 250 กิโลวัตต์ต่อวัน ซึ่งในการสาธิตการทำงานของเครื่อง Bill Gates ได้ดื่มน้ำที่แปรสภาพมาจากอุจจาระของคนด้วยตัวเองและกล่าวว่ารสชาติไม่ต่างจากน้ำที่เราดื่มทั่วไป
ส่วนการบริหารอีกส่วนคือ กองทรัสต์
แม้ว่า Bill และ Melinda จะเป็นกรรมการของมูลนิธิและกองทรัสต์นี้
แต่การบริหารทั้งหมดจะดำเนินการโดยทีมผู้จัดการกองทุน
จากภายนอกทั้งหมด ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมูลนิธิ
กองทรัสต์นี้จะนำเงินบริจาคไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนกลับเข้ามูลนิธิ
โดยในปี 2020 กองทุนมีสินทรัพย์มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท
และสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 1.25 แสนล้านบาท
ซึ่งการลงทุนของกองทรัสต์มีการกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้
รวมถึงกระจายการลงทุนในหุ้นมากกว่า 10 กลุ่มอุตสาหกรรม
หนึ่งในนั้นคือ Berkshire Hathaway คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของกองทุน
กองทรัสต์มีแหล่งที่มาของเงิน 2 ส่วนคือ ผลตอบแทนจากการลงทุน และเงินบริจาค
ในขณะที่มีรายจ่ายหลักคือเงินสมทบเข้ามูลนิธิเพื่อนำไปช่วยผู้ด้อยโอกาสในแต่ละปี
โดยมีรายละเอียดดังนี้
ปี 2017 ผลตอบแทนการลงทุนและเงินบริจาค 4.8 แสนล้านบาท นำไปสมทบทุน 1.6 แสนล้านบาท
ปี 2018 ผลตอบแทนการลงทุนและเงินบริจาค 0.5 แสนล้านบาท นำไปสมทบทุน 1.7 แสนล้านบาท
ปี 2019 ผลตอบแทนการลงทุนและเงินบริจาค 2.7 แสนล้านบาท นำไปสมทบทุน 1.8 แสนล้านบาท
ปี 2020 ผลตอบแทนการลงทุนและเงินบริจาค 2.1 แสนล้านบาท นำไปสมทบทุน 2.0 แสนล้านบาท
จะเห็นได้ว่ากองทรัสต์ที่ตั้งขึ้นมานั้นนอกเหนือจากเงินบริจาคแล้ว ยังมีส่วนที่เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนซึ่งจะถูกนำไปสมทบทุนเพื่อพัฒนาโครงการและสนับสนุนให้ผู้ด้อยโอกาสเฉลี่ย 1.5 ถึง 2.0 แสนล้านบาทเป็นประจำทุกปี
แต่แม้ว่าจะมีคนเก่งระดับโลกคอยบริหาร กับเงินบริจาคที่ไหลเข้ามาแทบไม่ขาดสาย
ก็ไม่ได้เป็นการรับรองว่าการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของมูลนิธิ จะประสบความสำเร็จเสมอไป
ตัวอย่างเช่น โครงการพัฒนาระบบการศึกษาในสหรัฐอเมริกาในปี 2009 มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท
ที่มุ่งเน้นการประเมินผลและการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา โดยการทดลองกับโรงเรียน 7 แห่ง
เป็นระยะเวลา 6 ปี
ผลปรากฏว่าโครงการดังกล่าวไม่สามารถทำได้ตามเกณฑ์ที่คาดหวัง
อีกทั้งตัวเลขวัดผลที่เกี่ยวกับนักเรียนในโรงเรียนเอง ก็ไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด
ถึงแม้จะมีความล้มเหลวให้เห็นบ้าง แต่ในความล้มเหลวเหล่านั้น
ก็น่าจะเป็นบทเรียนที่ต่อยอดไปยังโครงการอื่น ๆ ต่อไปอีกในอนาคต
และยิ่งเราได้เห็นโครงการต่าง ๆ ออกมาจากมูลนิธิมากขึ้น ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว
แต่อย่างน้อยมูลนิธิ Bill and Melinda Gates ก็ถือเป็นความพยายาม
ที่จะช่วยให้เพื่อนมนุษย์ที่ขาดแคลนและด้อยโอกาส มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.gatesfoundation.org/
-https://www.gavi.org/covax-facility#what
-https://www.bbc.com/news/world-us-canada-56979480
-https://www.businessinsider.com/bill-melinda-gates-foundation-education-initiative-failure-2018-6
-https://www.reuters.com/business/retail-consumer/wealth-philanthropy-bill-melinda-gates-2021-05-03/
-https://www.gatesnotes.com/development/omniprocessor-from-poop-to-potable
-https://www.gatesfoundation.org/about/financials
「ผลตอบแทนจากการลงทุน」的推薦目錄:
- 關於ผลตอบแทนจากการลงทุน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於ผลตอบแทนจากการลงทุน 在 KIM Property Live Facebook 的最佳貼文
- 關於ผลตอบแทนจากการลงทุน 在 Factor investing ปัจจัยขับเคลื่อนผลตอบแทนการลงทุน - YouTube 的評價
- 關於ผลตอบแทนจากการลงทุน 在 ผลตอบแทนจากการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม | PTT Global Chemical 的評價
- 關於ผลตอบแทนจากการลงทุน 在 SCB Thailand - “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ ... 的評價
ผลตอบแทนจากการลงทุน 在 KIM Property Live Facebook 的最佳貼文
5 ระดับของอิสระภาพทางการเงิน มาดูกันว่าเราอยู่ระดับไหน
.
ระดับที่ 1 : สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเบื้องต้น
.
ขั้นแรกของทุกอย่าง เริ่มจากเรามีเงินสำรองยามฉุกเฉินเป็น 6 เท่าของเงินที่เราใช้ในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ได้ในยามที่ตกงาน หรือ ทำงานไม่ได้ เนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่น อุบัติเหตุ
.
คิดเป็นตัวเลขง่ายๆ ถ้าเรามีค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท เราควรจะมีเงินเก็บยามฉุกเฉินในระดับนี้ 120,000 บาท (6เท่าของค่าใช้จ่าย)
.
ระดับที่ 2 : สามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินได้
.
ในระดับนี้ เราต้องมีรายได้อื่นที่มั่นคง สามารถรองรับค่าใช้จ่ายต่อปีของเราได้ ซึ่งตรงนี้เราต้องลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ได้ที่ให้ผลตอบเเทนรองรับค่าใช้จ่ายของเรา เช่นเรามีค่าใช้จ่าย เดือนละ 20,000 บาท คิดเป็น 240,000 บาท ต่อปี เราต้องมีผลตอบแทนจากการลงทุน เป็นเงิน 240,000 บาท ต่อปี
.
ในระดับนี้ต่อให้เราไม่มีงานทำ เราก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นกุญแจของระดับนี้คือการลงทุนนั่นเองครับ
.
ระดับที่ 3 : เป็นอิสระจากการทำงาน
.
ระดับนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ผลตอบแทนจากการลงทุน เท่ากับรายได้ที่เราสามารถหาได้ในเเต่ละเดือน เช่นเรามีเงินเดือน 40,000 บาท คิดเป็น 480,000 บาท ต่อปี ดังนั้นเราต้องมีผลตอบเเทนจากการลงทุน 480,000 บาท ต่อปี
.
เมื่ออยู่ในสถานะนี้ เราจะมีรายได้เป็น 2 เท่าจากปกติในกรณีที่เรายังทำงานอยู่ ครึ่งนึงมาจากงาน มีครึ่งมาจากการลงทุน ชีวิตช่วงนี้เริ่ม อู้ฟู้เเล้วล่ะ
.
ระดับที่ 4 : มีอิสระภาพในการใช้ชีวิต
.
ระดับนี้เงินจากการลงทุน นอกจากจะครอบคลุมรายได้จากการทำงานแล้ว ยังครอบคลุมไปถึง รายจ่ายด้านอื่นๆที่ไม่จำเป็นของชีวิตอีกด้วย เช่น ซื้อของเเบรนด์เนม ท่องเที่ยว รายจ่ายที่ตอบสนองชีวิตเเละ ไลฟ์ไสตล์ของตัวเองอีกด้วย
.
ยกตัวอย่างถ้าเราใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ โดยมีบ้านมีรถ ไปเที่ยว กินอาหารตามต้องการ สังสรรค์เป็นระยะๆ ใช้งเงินเดือนละ 100,000 บาท คิดเป็น 1,200,000 บาทต่อปี เเปลว่าเราต้องได้ผลตอบเเทนจากการลงทุน 1,200,000 บาทต่อปีครับ
.
ระดับที่ 5 : เป็นอิสระจากการเงินโดยสิ้นเชิง
.
ใช้ชีวิตแบบเป็นอิสระจากพันธะด้านการเงิน ในระดับนี้คุณต้องได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน เป็น 3 เท่าของ ระดับที่ 4 นั่นก็คือถ้าเรามีค่าใช้จ่ายแบบตามไลฟไสตล์ 1,200,000 บาทต่อปี การที่อยู่ในระดับนี้เราต้องมีรายได้จากการลงทุน 3,600,000 บาทต่อปีครับ
.
เอาล่ะ อย่างน้อยระดับพวกนี้ก็น่าจะทำให้เราวางเเผนการเงินตัวเองได้ระดับนึงนะครับ ใช้ชีวิตอิสระให้เเบบที่เราเลือก
.
Kim ZetEstate
Zet Estate sell buy rent invest condo in Pattaya
ผลตอบแทนจากการลงทุน 在 ผลตอบแทนจากการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม | PTT Global Chemical 的推薦與評價
ผลตอบแทนจากการลงทุน ด้านสิ่งแวดล้อม. เลื่อนลง. บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการจัดทำบัญชีการบริหารด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Management Accounting: EMA) ... ... <看更多>
ผลตอบแทนจากการลงทุน 在 SCB Thailand - “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ ... 的推薦與評價
ความเสี่ยงจากการลงทุน คือ โอกาสที่เราจะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้จากการลงทุนนั้นๆ ซึ่งสามารถแบ่งความเสี่ยงได้เป็น 4 ประเภท ดังนี้ ... <看更多>
ผลตอบแทนจากการลงทุน 在 Factor investing ปัจจัยขับเคลื่อนผลตอบแทนการลงทุน - YouTube 的推薦與評價
0:00 intro1:50 Factor investing ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลตอบแทนการลงทุนเวลาพูดถึง # ผลตอบแทน จากการ # ลงทุน อะไรทำให้การลงทุนมีผลตอบแทนแตกต่างกัน ... ... <看更多>