สรุปเรื่อง จักรวรรดิอังกฤษ เครือจักรภพ ฉบับสมบูรณ์ /โดย ลงทุนแมน
ภาษาอังกฤษก้าวขึ้นมาเป็นภาษาสากลของโลก
ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ภาษาที่มีคนใช้เป็นภาษาแม่มากที่สุด
โดยหนึ่งในเบื้องหลังที่สำคัญที่สุด ก็คือ “จักรวรรดิอังกฤษ”
จากประเทศเกาะเล็ก ๆ สุดขอบทวีปยุโรป เติบโตขึ้นจนสามารถครอบครองดินแดน
และสร้างอาณานิคมไว้ทั่วทุกมุมโลก จนได้ฉายาว่า จักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน
ในยุครุ่งเรืองที่สุด จักรวรรดิอังกฤษครอบครองพื้นที่มหาศาลถึง 1 ใน 4 ของโลก
ซึ่งนับเป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ..
แล้วถ้าอำนาจของจักรวรรดิอังกฤษยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้จะใหญ่ขนาดไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่น มาฟังความเป็นมาของจักรวรรดิแห่งนี้กันสักนิด..
ดินแดนอังกฤษตั้งอยู่ในหมู่เกาะที่อยู่ริมสุดด้านตะวันตกของทวีปยุโรป
โดยมีช่องแคบกั้นระหว่างหมู่เกาะแห่งนี้กับผืนแผ่นดินใหญ่
การเป็นเกาะโดดเดี่ยวที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับใคร ถึงแม้จะมีข้อเสียในเรื่องการเดินทางค้าขาย
แต่กลับมีข้อดีอย่างมาก เพราะในระหว่างที่ดินแดนอื่น ๆ ในยุโรปที่มีพรมแดนติดต่อกัน
เกิดความขัดแย้งจนกลายเป็นสงครามนับครั้งไม่ถ้วน
ความเป็นเกาะ ที่เป็นเหมือนป้อมปราการตามธรรมชาติ ทำให้อังกฤษมีความได้เปรียบในการตั้งรับเมื่อมีศึกสงคราม และเมื่อมีความสูญเสียน้อย ก็มีทรัพยากรที่จะพัฒนาองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะ “การเดินเรือ”
ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่กลางทะเลเหนือ และมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีลมแรง ทำให้ชาวอังกฤษค่อย ๆ พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินเรือ ทั้งเพื่อการประมง การติดต่อค้าขายกับประเทศต่าง ๆ และเพื่อการป้องกันประเทศ
สิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นรากฐานสำคัญ ที่ทำให้อังกฤษสามารถพัฒนากองเรือรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก้าวขึ้นมาเป็นชาติมหาอำนาจทางกองทัพเรือของยุโรป
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 สเปนกับโปรตุเกสได้นำหน้าอังกฤษในเรื่องของการสำรวจดินแดนนอกทวีปยุโรป เป็นช่วงที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือรับจ้างของจักรวรรดิสเปน
ได้เดินทางมาถึงทวีปใหม่ แต่คิดว่าดินแดนตรงนี้คือทวีปเอเชีย
พอเรื่องเป็นแบบนี้จึงทำให้พระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ ได้แต่งตั้ง จอห์น แคบอต
นักสำรวจชาวอิตาลี ให้เดินทางออกสำรวจเส้นทางไปยังเอเชียเช่นเดียวกันกับสเปน
โดยเดินเรือไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก
จอห์น แคบอต ได้เดินทางถึงทวีปใหม่ ซึ่งก็คือแคนาดาในปัจจุบัน
แต่เขาเข้าใจผิดว่าดินแดนแคนาดานี้คือทวีปเอเชียเช่นเดียวกันกับคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
แต่พออเมริโก เวสปุชชี นักสำรวจชาวอิตาลี ได้เดินทางตามเส้นทางเดินเรือของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส มายังทวีปเอเชียอีกครั้ง เขาก็ได้พบกับความจริงว่า แผ่นดินตรงนี้ไม่ใช่ทวีปเอเชียแต่อย่างใด แต่เป็นดินแดนแห่งใหม่ จึงทำให้เขาตั้งชื่อทวีปนี้ว่า “อเมริกา” ตามชื่อของเขา..
หลังจากนั้น ชาติมหาอำนาจจากตะวันตกต่างก็ยกกองเรือมายังทวีปอเมริกา
และเริ่มที่จะตั้งอาณานิคมของตัวเองในทวีปใหม่แห่งนี้
จักรวรรดิอังกฤษภายใต้การปกครองของพระเจ้าจอร์จที่ 3 ก็ได้ตั้งอาณานิคมของตน
ในฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาตอนเหนือ ตั้งแต่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17
ด้วยความที่ดินแดนใหม่ในทวีปอเมริกา มีหลายประเทศในยุโรปพยายามจะเข้าไปยึดครอง
จึงทำให้เกิดการสู้รบกันบ่อยครั้งเพื่อที่จะแย่งชิงดินแดนและทรัพยากรธรรมชาติ
แต่เหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด กลับกลายเป็นการสู้รบระหว่างประชาชนในอาณานิคม กับเจ้าอาณานิคมเอง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 18 ระหว่างจักรวรรดิอังกฤษ กับดินแดนในอาณานิคมบริติชอเมริกาที่ต้องการประกาศเอกราช
ผลของสงครามทำให้จักรวรรดิอังกฤษเป็นฝ่ายแพ้ และทำให้บริติชอเมริกาได้รับเอกราชในปี 1776 เกิดเป็นประเทศใหม่ที่ชื่อว่า “สหรัฐอเมริกา”
ถ้าเราคิดว่าจักรวรรดิอังกฤษต้องอ่อนแอลงเพราะสูญเสียดินแดนในอเมริกา เรื่องราวทั้งหมดจะไม่ใช่แบบนั้น
จากการที่ต้องสูญเสียบริติชอเมริกา จุดนี้เองได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการล่าอาณานิคมในดินแดนอื่นของจักรวรรดิอังกฤษอย่างเต็มตัว
ด้วยความที่จักรวรรดิอังกฤษมีกองเรือที่สามารถเดินทางรอบโลกได้แล้ว จึงทำให้พวกเขาออกเดินทางเพื่อล่าอาณานิคมแห่งใหม่เรื่อยมา
ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย, แอฟริกา, อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จนถึงในช่วงปี 1920 ซึ่งเป็นช่วงที่จักรวรรดิอังกฤษมีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุด
มากถึงขนาดที่ในสมัยนั้นจักรวรรดิอังกฤษสามารถครอบครองพื้นที่ได้มากกว่า 30 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งคิดเป็นพื้นที่เกือบ 1 ใน 4 ของพื้นที่ทั่วโลก
มากกว่าพื้นที่ของสหภาพโซเวียตที่เพิ่งก่อตั้งในปี 1917 ที่มีพื้นที่ประมาณ 22 ล้านตารางกิโลเมตร จึงทำให้จักรวรรดิอังกฤษในช่วงนั้นมีพื้นที่ในการปกครองมากที่สุดในโลก..
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงปี 1920 ดินแดนที่อยู่ภายใต้จักรวรรดิอังกฤษทั้งหมดรวมกันแล้ว
จะมีจำนวนประชากรมากถึง 440 ล้านคน ซึ่งมากกว่าสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น
ที่มีประชากร 110 ล้านคน ถึง 4 เท่า
อังกฤษในฐานะประเทศเจ้าอาณานิคมจะเข้าไปวางรากฐานให้ประเทศอาณานิคมมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการเมือง, การศึกษา, โครงสร้างพื้นฐาน, ศาสนา และเศรษฐกิจ
จึงทำให้ประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษบางส่วนสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาต่อยอด จนพัฒนาเศรษฐกิจของตัวเองจนเจริญก้าวหน้าได้ เช่น ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, แคนาดา หรือสิงคโปร์
เรื่องราวก็ดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
ที่แต่ละประเทศต่างได้รับความเสียหายมากมายในช่วงสงคราม
ด้วยความที่อังกฤษเป็นคู่ขัดแย้งหลักในมหาสงครามทั้ง 2 ครั้ง
จึงทำให้ประเทศในอาณานิคมต้องมีความเกี่ยวข้องกับสงครามในที่สุด
โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งประเทศในอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษในภูมิภาคเอเชีย ได้ถูกจักรวรรดิญี่ปุ่นเข้าครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นอาณานิคมช่องแคบ, บริติชมาลายา, ฮ่องกง หรือพม่า ส่งผลให้จักรวรรดิอังกฤษเริ่มเสียอำนาจในการปกครองประเทศอาณานิคมดังกล่าว
ถึงแม้ว่าผลสรุปจากสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 จักรวรรดิอังกฤษจะเป็นผู้ชนะสงคราม
แต่มหาสงครามทั้ง 2 ครั้ง ก็ทำให้จักรวรรดิอังกฤษได้รับความเสียหายมากมายนับไม่ถ้วน
จุดจบของสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้เอง ที่ทำให้ศูนย์กลางของชาติมหาอำนาจได้ถูกเปลี่ยนมือจากจักรวรรดิอังกฤษไปสู่สหรัฐอเมริกา
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ได้มีการเคลื่อนไหวของประชาชนในชาติอาณานิคมมากมายทั่วโลกเพื่อที่จะเรียกร้องเอกราชจากประเทศเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษ, เบลเยียม, ฝรั่งเศส, สเปน, โปรตุเกส และเนเธอร์แลนด์
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้จักรวรรดิอังกฤษเริ่มกระบวนการการปลดปล่อยอาณานิคมและได้ก่อตั้ง The Commonwealth of Nations หรือ เครือจักรภพแห่งประชาชาติ โดยไม่ได้บังคับอดีตประเทศในอาณานิคมว่าต้องเข้าเป็นสมาชิกของเครือจักรภพแห่งประชาชาติแต่อย่างใด
ประเทศที่เป็นสมาชิกของเครือจักรภพแห่งประชาชาติจะไม่มีข้อผูกพันใด ๆ กับสหราชอาณาจักร
โดยจุดมุ่งหมายของการก่อตั้งเครือจักรภพแห่งประชาชาตินี้คือ การให้ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องของการค้าระหว่างประเทศ, หลักประชาธิปไตย, สิทธิมนุษยชน, การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ, ความเท่าเทียมทางเพศ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ปัจจุบันมีประเทศสมาชิกเครือจักรภพแห่งประชาชาติอยู่ 54 ประเทศทั่วโลกในทุกทวีป
เช่น มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินเดีย, ปากีสถาน, แอฟริกาใต้ และอีก 49 ประเทศทั่วโลก
และในประเทศสมาชิก 54 ประเทศนี้ มี 16 ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวกันกับสหราชอาณาจักร ซึ่งก็คือสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้แก่ ออสเตรเลีย, แคนาดา, นิวซีแลนด์, ปาปัวนิวกินี, จาเมกา และอีก 10 ประเทศ ซึ่งไม่รวมสหราชอาณาจักร
คำถามที่น่าสนใจก็คือ
สมมติถ้าเครือจักรภพแห่งประชาชาติเป็นประเทศเดียวกัน ซึ่งทุกรัฐและทุกดินแดนจะถูกปกครองโดยอังกฤษ ประเทศนี้มันจะใหญ่แค่ไหน ?
คำตอบก็คือ ประเทศ เครือจักรภพแห่งประชาชาติ จะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
โดยจะมีพื้นที่รวมกันกว่า 29 ล้านตารางกิโลเมตร
มากกว่ารัสเซียที่มีพื้นที่ 17 ล้านตารางกิโลเมตร เกือบ 2 เท่า
ขนาดพื้นที่ของเครือจักรภพแห่งประชาชาติน้อยกว่าในช่วงที่เป็นจักรวรรดิอังกฤษ
ก็เพราะว่ามีบางประเทศที่เคยเป็นดินแดนในอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ แต่พอได้เอกราชแล้วก็ไม่ได้เข้าไปเป็นสมาชิกของเครือจักรภพแห่งประชาชาติ เช่น เมียนมาและอียิปต์
นอกเหนือจากขนาดพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล มีดินแดนตั้งอยู่ในทุกทวีปแล้ว
ประเทศนี้จะมีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม
ด้วยประชากรกว่า 2,400 ล้านคน จะทำให้มีประชากรมากที่สุดในโลก มากกว่าประเทศจีนที่มีประชากร 1,400 ล้านคน และยังมีวัยแรงงานที่พร้อมจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศอย่างมหาศาล
นอกเหนือจากแรงงานแล้ว ประเทศแห่งนี้จะกลายเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรน้ำมันที่มีในแคนาดา ไนจีเรีย และมาเลเซีย
ที่จะทำให้ประเทศนี้มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองมากกว่า 200 ล้านบาร์เรล
ซึ่งจะทำให้ประเทศนี้มีน้ำมันสำรองมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเวเนซุเอลาและซาอุดีอาระเบีย
แต่ถ้าใครคิดว่าประเทศนี้จะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก คำตอบจะไม่เป็นอย่างนั้น
เพราะเครือจักรภพแห่งประชาชาติจะมีขนาด GDP โดยประมาณอยู่ที่ 351 ล้านล้านบาท
ซึ่งเป็นขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาที่ 668 ล้านล้านบาท และจีนที่ 447 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่การสมมติเท่านั้น
เนื่องจากยุคล่าอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษได้สิ้นสุดลงแล้ว
ถ้าจะให้ถือว่าเป็นอย่างทางการจริง ๆ
ก็สิ้นสุดนับตั้งแต่อังกฤษได้คืนเกาะฮ่องกงให้แก่จีนในปี 1997
การสิ้นสุดลงของจักรวรรดิอังกฤษ ส่งผลให้ประเทศในอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษ มีความเป็นประเทศเท่าเทียมกัน กับเจ้าอาณานิคมอย่างสหราชอาณาจักรทุกประการ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.historic-uk.com/HistoryUK/HistoryofBritain/Timeline-Of-The-British-Empire/
-https://praenapa.wordpress.com
-https://www.worldometers.info/world-population/population-by-country/
-https://www.bbc.com/thai/international-43796090
-https://thecommonwealth.org/about-us/charter
-https://www.eia.gov/international/data/world/petroleum-and-other-liquids/
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過32萬的網紅The Topics,也在其Youtube影片中提到,ช่วยเป็นผู้สนับสนุนพวกเรา ผ่านบัญชีกสิกรไทย 0698975539 บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด เพื่อให้เรามีกำลังในการผลิตเนื้อหาสาระแบบนี้ต่อไป ขอบพระคุณมากครับ มา...
「ฝรั่งเศส ศาสนา」的推薦目錄:
- 關於ฝรั่งเศส ศาสนา 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ฝรั่งเศส ศาสนา 在 TravelKanuman / คา นู แมน 2เท้าชาวท่องโลก Facebook 的最佳解答
- 關於ฝรั่งเศส ศาสนา 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的精選貼文
- 關於ฝรั่งเศส ศาสนา 在 The Topics Youtube 的最佳貼文
- 關於ฝรั่งเศส ศาสนา 在 Ja is so fly Youtube 的精選貼文
- 關於ฝรั่งเศส ศาสนา 在 ชาญชัย กินให้อ้วนรวย Youtube 的最佳解答
- 關於ฝรั่งเศส ศาสนา 在 ฝรั่งเศสห้ามสัญลักษณ์ทางศาสนา(02/09/66) #worldtalk #วารินทร์ ... 的評價
- 關於ฝรั่งเศส ศาสนา 在 ไทม์ไลน์: เหตุโจมตีต่อเนื่องป่วนฝรั่งเศส ปมแตกแยกทางศาสนา 的評價
- 關於ฝรั่งเศส ศาสนา 在 TODAY - มาครงยืนยันว่าฝรั่งเศสยังมีเสรีภาพในเรื่องศาสนา ... 的評價
ฝรั่งเศส ศาสนา 在 TravelKanuman / คา นู แมน 2เท้าชาวท่องโลก Facebook 的最佳解答
เที่ยวซาฟารีของแท้ ๆ ฟรีวีซ่า ไม่แพงอย่างที่คิด
CAPETOWN /SOUTH AFRICA
เที่ยวแดนลึกลับ ออกท่องซาฟารี ว่ายน้ำกับฉลาม ดูฝูงเพนกวินกับแมวน้ำนับพัน ในราคาแค่วันละพันกว่าบาท !!!
ค่าเงิน RAND
ค่าวีซ่า ฟรี
ค่าตั๋วเครื่องบิน ~20,000
แนะนำให้ไป 2-4 คน
ค่าโรงแรม2-3 ดาว ต่อคนต่อคืน 600 -800 บาท
ที่พักแนะนำ Designer Studio Camps Bay ที่พักแบบโฮมสเตย์สุดหรู แบบหรูมาก ๆ มีครัวใหญ่โต ห้องกว้างเกือบ 100 ตรม ตกแต่งสวยงามทันสมัยสุด ๆ แนะนำมาก ๆ เลย ป้าเจ้าของน่ารักมาก และถ้าใครอยากเช่ารถ ให้เมล์บอกคุณป้า ป้าจะติดต่อหาเพื่อนป้าให้ เป็นลุงลูกครึ่งยุโรป ใจดีมาก ราคาค่ารถพร้อมคนขับตกราววันละ 1500 บาทเท่านั้นเอง ถ้าไป 4 คนก็ตกคนละ 400 บาทเอง แนะนำสุดใจทั้งที่พักและคนขับ
อาหาร ราคาไม่แพง มื้อทั่วไปตก 100-200 บาท สเต๊กดี ๆ ชิ้นโต ๆ แค่จานละ 500 บาท คุ้มค่าสุด ๆ
สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ เมื่อถูกถามว่าทวีปไหนที่ดูลึกลับมากที่สุด ส่วนใหญ่คำตอบมักจะไม่พ้นทวีปแอฟริกา
อาจจะเพราะด้วยภาพลักษณ์ที่สื่อนำเสนอ หรือรูปร่างหน้าตาและการดำเนินชีวิตที่ดูแตกต่างจากชาวเอเชียค่อนข้างมาก ทำให้เราไม่ค่อยคุ้นชินกับอะไร ๆ ที่เป็นแอฟริกาเท่าไรนัก เรื่องที่คิดจะเดินทางไปท่องเที่ยวนั้นยิ่งเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความคิดของนักเดินทางชาวไทยอย่างมากเลยทีเดียว
หลาย ๆ คนมักจะถามว่าไปแอฟริกาแล้วจะมีอะไรให้เที่ยวนอกจากไปดูสิงสาราสัตว์? ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วแอฟริกาเป็นทวีปที่มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวมากทีเดียว ตั้งแต่ภูเขาหิมะ ไปจนถึงทะเลทราย ที่ดินรกร้างไปจนถึงเมืองใหญ่
และถ้าจะพูดว่าแอฟริกาใต้เป็นหัวใจทางด้านเศรษฐกิจของทวีปแอฟริกาก็คงจะไม่ผิดนัก ในอดีตยุคที่การเดินเรือมั่งคั่งและรุ่งเรือง การจะเดินทางจากยุโรปไปเอเชียนั้น อย่างไรเสียก็ต้องผ่านดินแดนนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้แผ่นดินทางตอนใต้สุดของประเทศคึกคักและเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีตกาล โดยการพัฒนาร่วมกันของชาวยุโรปและชนพื้นถิ่น ทำให้ประเทศนี้มีกลิ่นอายของความเป็นตะวันตกอยู่
โดยเฉพาะ CAPETOWN ซึ่งเป็นเมืองเอกทางตอนใต้ของแอฟริกาใต้นั้นมีความเป็นยุโรปค่อนข้างมาก ทั้งสิ่งก่อสร้าง ภาษา ศาสนา และผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ โดยมีชาวยุโรป ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และดัชท์ อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น
ฝรั่งเศส ศาสนา 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的精選貼文
คณิตศาสตร์ของ "หวย"
"หวย" น่าจะเรียกได้ว่าเป็น "กิจกรรมประจำชาติ" ของไทยอย่างหนึ่งที่เรามาร่วมกันโอดครวญกันเป็นประจำกับการถูกหวยแ-ก หวยไม่เพียงแต่เป็น national pastime ประจำชาติเพียงเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อวัฒนธรรม ศาสนา และความเชื่อของเรา และเนื่องจากนี่เป็นเพจวิทยาศาสตร์จึงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าหวยนั้นมีส่วนที่เหนี่ยวรั้งความพัฒนาสู่ scientific literacy ในประเทศเราไม่มากก็น้อย ดั่งที่เราทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันดีกับลูกหมูพิการ ต้นกล้วยงอกกลางต้น รวมไปถึงท่อน้ำทิ้งจากส้วมที่แตกและผุดขึ้นมาบนดิน ที่แทบทุกเหตุการณ์ ทุกอุบัติเหตุ ทุกข่าว ทุกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้จะถูกตีความไปเป็น "ตัวเลข" เสียทั้งหมด
ในวันนี้เราจะมาลองดู "หวย" จากในแง่มุมของคณิตศาสตร์กันดูบ้าง โดยเฉพาะในเรื่องของรางวัล "เลขท้ายสองตัว"
รางวัลเลขท้ายสองตัวนั้นมีความเป็นไปได้ทั้งหมดอยู่ด้วยกัน 100 แบบ โอกาสที่จะถูก จึงมีเพียงแค่หนึ่งในร้อย (ในขณะที่โอกาสที่จะถูกแดกกลับมีถึง 99%) ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่มาจากสมมติฐานว่าหวยทุกเลขนั้นมีโอกาสออกเท่ากันหมด ว่าแต่ว่าสมมติฐานนี้เป็นจริงหรือไม่?
จากกราฟบนในภาพ แสดงถึงการกระจายตัวของหวยเลขท้ายสองตัวตลอด 20 ปีที่ผ่านมา[1] ทั้ง "ตัวบน" และ "ตัวล่าง" รวมกันทั้งสิ้น 477 งวด จากการดูคร่าวๆ เราจะพบว่ารางวัลนั้นมีการกระจายตัวที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ ไม่มีตัวเลขใดที่เด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัดอาจจะมีบางตัวเลขที่ออกเยอะกว่าเลขอื่นบ้างเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้มากจนเกินไป
ในทางสถิตินั้น หากเราต้องการจะทราบว่าข้อมูลชุดหนึ่งมีการกระจายตัวที่สอดคล้องกับการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ (uniform distribution) หรือไม่ เราสามารถทำได้โดยการคำนวณค่า Pearson's chi-squared test ซึ่งหากเรานำข้อมูลรางวัลเลขท้ายสองตัวตลอด 20 ปีนี้มาคำนวณดู เราจะพบว่า ข้อมูลที่ได้นั้น มีค่า chi-squared อยู่ต่ำกว่า Upper-tail critical values of chi-square distribution ทั้งที่ 95% และ 99% confidence interval สำหรับทั้งตัวบนและตัวล่าง นี่หมายความว่า เราไม่สามารถ reject null hypothesis ได้ และไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะยืนยันว่าข้อมูลชุดนี้มีการกระจายตัวที่ต่างออกไปจาก uniform distribution ด้วยความมั่นใจกว่า 99%
ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่ไม่ได้เป็นการยืนยันหรือปฏิเสธว่าหวยมีการล๊อคหรือไม่ เราบอกได้เพียงแค่ว่า เลขที่ออกนั้นมีการกระจายตัวที่ค่อนข้าง uniform และมีโอกาสลงทุกเลขอย่างใกล้เคียงกัน อยู่ที่ว่าเราจะเลือกเลขที่ถูกหรือเปล่า
วิธีหนึ่งที่เราอาจจะเลือกเลขที่จะแทง "หวย" ก็คือการ "สุ่ม" ด้วยตัวเราเองโดยการนึกเลขมั่วๆ ขึ้นมาหนึ่งตัวเลข อย่างไรก็ตาม วิธีนี้นั้นมีปัญหาเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการศึกษามายืนยันเป็นอย่างมาก ว่าสมองของมนุษย์นั้นทำการสุ่มตัวเลขได้ค่อนข้างแย่ และตัวเลขที่เรา "สุ่ม" ขึ้นมาจากหัวนั้น ไม่สามารถเป็นเลขที่เกิดจากการ "สุ่ม" ได้อย่างแท้จริง
กราฟล่างซ้ายของภาพ เป็นกราฟที่ได้มาจาก reddit ที่เก็บข้อมูลที่ผู้เข้าร่วมมา "สุ่ม" ตัวเลขลงบนโซเชียลมีเดียกว่า 6750 ครั้ง จากกราฟเราจะพบว่ากราฟนี้ไม่ได้มีการกระจายตัวที่สม่ำเสมอทุกตัวเลขเท่ากัน ตัวเลขที่ได้รับการ "สุ่ม" มากที่สุดนั้นได้แก่เลข "69" (ด้วยเหตุผลบางประการ) "77" และ "7" ตามลำดับ ซึ่งมากกว่าตัวเลขอื่นอย่างเห็นได้ชัด นอกไปจากนี้ ตัวเลขระหว่าง 1-10 ถูกเลือกมากกว่าตัวเลขอื่นอย่างมีนัยะสำคัญ ซึ่งนี่สอดคล้องกับการศึกษาทางจิตวิทยา และอีกการเก็บข้อมูลหนึ่งที่พบว่าเลข 7 จะถูกเลือกบ่อยที่สุดถึงกว่า 28% เมื่อเราให้คน "สุ่ม" เลขระหว่าง 1-10 ขึ้นมากว่า 8500 ครั้ง[5] เนื่องจากสมองของเรานั้นมีความรู้สึกว่าเลข "7" นั้นควรจะเป็นเลขที่ "สุ่ม" ที่สุด เราจึงเลือกกันแต่เลข 7 จนกลายเป็นเลขที่ไม่สุ่มอีกต่อไป
ซึ่งหากเรานำ Pearson chi-square test มาทดสอบกับข้อมูลชุดนี้ เราจะพบว่าค่า chi-square ที่ได้นั้นเกิน Upper-tail critical values of chi-square distribution ที่ระดับความเชื่อมั่น 90% ไปอย่างไม่เห็นฝุ่น ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าเลขท้ายสองตัวที่ได้จากสมองมนุษย์นั้น ไม่ได้มีการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอเหมือนอย่างที่หวยออกมาจริงๆ
แล้วการที่สมองมนุษย์ไม่สามารถ random เลขออกมาได้อย่างสม่ำเสมอนั้นมันสำคัญตรงไหน? เมื่อสมองมนุษย์ไม่สามารถ generate distribution แบบเดียวกันกับหวยได้ ก็ย่อมหมายความว่าต่อให้คนที่เชื่อว่ามี "สัญชาติญาณ" ดีที่สุดในการ "เดา" หวย ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกหวยอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าเราไม่มีทางที่จะเดาหวยได้ถูกอย่างต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ ในเมื่อหวยนั้นออกทุกเลขอย่างสม่ำเสมอ แต่สมองของเรานั้นไม่สามารถสม่ำเสมอได้
ซึ่งนี่นำไปสู่กลวิธีทุดท้ายที่เรามักจะนำมาเป็น "แรงบรรดาลใจ" ในการแทงหวย นั่นก็คือ การมองหาตัวเลขรอบๆ ข้างที่ไม่เกี่ยวกับตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้เสียชีวิต ลำดับประธานาธิปดี เวลาท้องถิ่นขณะที่นายกทุ่มโพเดี้ยม ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ก็มีปัญหาอีกเช่นกัน.... โดยเจ้าปัญหาที่ว่านี้ รู้จักกันในนามของ Benford's Law[6]
Benford's Law นั้นถูกค้นพบโดยบังเอิญโดย Simon Newcomb ในปี 1881 และอีกครั้งโดย Frank Benford ในปี 1938 โดยในยุคก่อนที่จะมีเครื่องคิดเลขของพวกเขานั้น การหาค่า Logarithm ทำได้โดยการเปิดสมุดเล่มหนาๆ เพื่อหาค่าจากในตาราง โดยนายทั้งสองคนนี้พบว่าหน้าแรกๆ ของสมุด logarithm table ของพวกเขานั้นเปื่อยเร็วกว่าหน้าหลังๆ เป็นอย่างมาก นาย Benford จึงตั้งสมมติฐานว่า ตัวเลขหลักหน้าของค่าที่พบในธรรมชาตินั้นอาจจะมีการกระจายตัวที่ไม่สม่ำเสมอกัน โดยที่ตัวเลขน้อยๆ ควรจะมีการพบได้บ่อยกว่า ตามกราฟแท่งสีน้ำเงินที่ด้านล่างขวาของภาพ และเขาได้ทดสอบกับตัวเลขในธรรมชาติที่ไม่ควรจะมีความเกี่ยวข้องกัน ตั้งแต่ พื้นที่ผิวของแม่น้ำ 335 สาย, ประชากรของเมืองในสหรัฐ 3259 เมือง, ค่าคงที่สากลทางฟิสิกส์กว่า 104 ค่า มวลโมเลกุลกว่า 1800 โมเลกุล, ตัวเลขที่ได้จากคู่มือคณิตศาสตร์กว่า 5000 ตัวเลข, ตัวเลขที่พบในนิตยสาร Reader's Digest กว่า 308 เลข, บ้านเลขที่ของคนกว่า 342 คนที่พบใน American Men of Science และอัตราการเสียชีวิตกว่า 418 อัตรา รวมทั้งหมดนาย Benford ได้นำตัวเลขที่ได้มาแบบสุ่มกว่า 20,229 เลข และพบว่าเลขเหล่านั้นมีตัวเลขหลักหน้ากระจายตัวตาม Benford's Law
กราฟด้านล่างขวา แสดงถึง Benford's Law เทียบกับการกระจายตัวของตัวเลขหลักหน้าของค่าคงที่ทางฟิสิกส์ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการกระจายตัวสอดคล้องกับ Benford's Law เป็นอย่างมาก นอกไปจากนี้ Benford's Law ยังใช้ได้อยู่ ไม่ว่าเราจะแปลงค่าต่างๆ ที่พบไปเป็นเลขฐานใดๆ หรือหน่วยใดๆ ก็ตาม ตัวอย่างเช่น Benford's Law ทำนายเอาไว้ว่า ตัวเลขกว่า 30.1% จะขึ้นต้นด้วยเลข 1 ซึ่งหากเรานำความสูงของตึกที่สูงที่สุดในโลก 58 ตึก เราจะพบว่าตึกกว่า 41% นั้นมีความสูงในหน่วยเมตรขึ้นต้นด้วยเลข 1 และแม้ว่าเราจะเปลี่ยนหน่วยเป็นหน่วยฟุต เราก็ยังจะพบว่าตึกกว่า 28% นั้นมีความสูงในหน่วยฟุตขึ้นต้นด้วยเลข 1 ซึ่งมากกว่าเลขอื่นใดๆ
แล้วเพราะเหตุใดเราจึงไม่พบเลขในธรรมชาติในจำนวนที่เท่าๆ กันทุกเลข? คำอธิบายที่ง่ายที่สุดก็คงจะเป็นเพราะว่า สิ่งต่างๆ หลายสิ่งในธรรมชาตินั้นมีความสัมพันธ์เชิง logarithm ซึ่งหากเราแปลงเลขในฐานสิบให้อยู่ในสเกลของ logarithm เราจะได้เส้นจำนวนดังภาพล่างขวาในภาพ จากเส้นจำนวนนี้ เราจะพบว่าหากเราจิ้มตำแหน่งโดยสุ่มบนเส้นจำนวนนี้ โอกาสส่วนมากที่สุดนั้นจะตกอยู่ในเลขที่มีหลักนำหน้าเป็น 1 ตามด้วย 2,3,4 ลดหลั่นลงไป ตาม Benford's Law
Benford's Law นี้มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ในการตรวจจับการโกง เนื่องจากสมองของมนุษย์นั้นมีความคาดหวังที่จะให้ทุกตัวเลขตกลงเท่าๆ กัน ตัวเลขที่ได้จากการเมคข้อมูลของคนจึงไม่เป็นไปตาม Benford's Law ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานบ่งบอกว่ามีอะไรบางอย่างตุกติกเกิดขึ้นในข้อมูล
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดตัวอย่างหนึ่งก็คือ ข้อมูลของจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 เนื่องจากการติดเชื้อนั้นมีการแพร่กระจายตัวแบบ exponential ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อนั้นจึงควรจะเป็นไปตาม Benford's Law ทีมนักวิจัยจึงได้มีการนำตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อที่รายงานในแต่ละประเทศมาเปรียบเทียบกับ Benford's Law[7] และพบว่าข้อมูลจากประเทศรัสเซียและอิหร่านนั้นไม่เป็นไปตาม Benford's Law ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อจาก สหรัฐ บราซิล อินเดีย เปรู อาฟริกาใต้ โคลอมเบีย เม็กซิโก สเปน อาร์เจนตินา ชิลี อังกฤษ ฝรั่งเศส ซาอุ จีน ฟิลิปปินส์ เบลเยี่ยม ปากีสถาน และอิตาลี เป็นไปตาม Benford's Law ไม่ผิดเพี้ยน
ทั้งหมดนี้ก็วกกลับมาที่ปัญหาหลักของการนำค่าที่พบในธรรมชาติมาทำนายหวย: ค่าที่พบในธรรมชาตินั้นไม่ได้มีการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ แต่หวยนั้นกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ (ซึ่งยังไม่นับกรณีเช่นเอาวันที่ซึ่งไม่มีทางเกิน 31 มาแทง) ตัวเลขที่เราพบในธรรมชาตินั้นจึงเปรียบได้กับลูกเต๋าที่ถูกถ่วงน้ำหนักเอาไว้ให้ได้ค่าต่ำๆ คำถามก็คือ ลูกเต๋าที่ถ่วงน้ำหนักเอาไว้นั้น จะเป็นตัวแทนที่จะทำนายผลของลูกเต๋าที่มาตรฐานได้แม่นจำจริงหรือ?
ทั้งนี้ทั้งนั้น การเล่นหวยหรือไม่เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล และถึงแม้ว่าส่วนตัวในฐานะนักวิทยาศาสตร์นั้นจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องงมงาย แต่การลงทุนหวยเพียงไม่กี่ร้อย และกับเสี้ยวเวลาเล็กๆ ที่จะได้ลุ้นถึงอนาคตที่ดีขึ้น บางทีก็อาจจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับคนหลายๆ คนก็ได้
หมายเหตุ: บทความนี้เราไม่ได้พูดถึง "โต๊ด" และ Benford's Law นั้นมีผลกับเลขหลักหน้าๆ มากกว่าหลักท้ายๆ แต่คำเตือนนี้ไม่ใช่การใบ้หวย...
อ้างอิง/อ่านเพิ่มเติม:
[1] https://horoscope.thaiorc.com/lottery/stats/lotto-years20.php
[2] https://en.wikipedia.org/wiki/Pearson%27s_chi-squared_test
[3] https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3632045/
[4] https://www.reddit.com/r/dataisbeautiful/comments/88m2mj/pick_a_number_from_1100_results_from_6750/
[5] https://www.reddit.com/r/dataisbeautiful/comments/acow6y/asking_over_8500_students_to_pick_a_random_number/
[6] https://en.wikipedia.org/wiki/Benford%27s_law
[7] https://www.researchgate.net/publication/344164702_Is_COVID-19_data_reliable_A_statistical_analysis_with_Benford's_Law
ฝรั่งเศส ศาสนา 在 The Topics Youtube 的最佳貼文
ช่วยเป็นผู้สนับสนุนพวกเรา
ผ่านบัญชีกสิกรไทย
0698975539
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
เพื่อให้เรามีกำลังในการผลิตเนื้อหาสาระแบบนี้ต่อไป
ขอบพระคุณมากครับ
มาคุยกับผู้กำกับและนักแสดง ภาพยนตร์เรื่อง Papicha เรื่องสิทธิสตรี ศาสนา และการอยู่ในสังคมที่กดขี่กันด้วยความกลัว จะมีความคล้ายสังคมที่เรารู้จักแค่ไหน มาฟังกันดู
#หาเรื่อง #Findtrouble #Papicha
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/XhAFf5QNu_k/hqdefault.jpg)
ฝรั่งเศส ศาสนา 在 Ja is so fly Youtube 的精選貼文
พาเที่ยวเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส
ลิปสติกใช้ในคลิป (So Fly)
Facebook: http://www.facebook.com/soflymakeup
instagram: http://www.instagram.com/sofly_makeup
LINE: ja_is_so_fly (เฉพาะลูกค้าลิปเท่านั้น)
Follow me on
Facebook: http://www.facebook.com/jaissoflyblog
instagram: http://www.instagram.com/ja_is_so_fly
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/v4fy3ITvsrU/hqdefault.jpg)
ฝรั่งเศส ศาสนา 在 ชาญชัย กินให้อ้วนรวย Youtube 的最佳解答
ที่ตั้ง กัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันออกของไทย ที่มีพรมแดนติดกันประมาณ 890 กม.
ประชากร 11 ล้านคน (1.1 ล้านในกรุงพนมเปญ)
ภาษา เขมร ฝรั่งเศส อังกฤษ
ศาสนา พุทธ
รัฐบาล ประชาธิปไตย ในระบบพระมหากษัตริย์
สกุลเงิน 100 เรียล (Riel) = 1 บาท
เงินเหรียญสหรัฐใช้กันอย่างแพร่หลาย
สภาพอากาศ เช่นเดียวกับประเทศไทย
สภาพความเป็นอยู่
ประชาชนกัมพูชานับถือศาสนาพุทธ จึงมีวัดวาอารามตั้งอยู่ทั่วประเทศ เช่นเดียวกับประเทศไทย แต่ยังอยู่ในช่วงการทำนุบำรุง หลังจากถูกทำลายไปในช่วงที่เขมรแดงปกครอง ในแง่ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กัมพูชาได้รับความช่วยเหลือจากสหประชาชาติ ประเทศตะวันตก และประเทศอื่น ๆ หลังจากมีการเลือกตั้งทั่วไปแล้ว 2 ครั้ง
กัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านติดกับไทย มีประวัติศาสตร์ อารยธรรมยาวนาน นครวัด และนครธม นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่อัศจรรย์ชิ้นหนึ่งในเอเชีย ศิลปวัฒนธรรมที่งดงามของกัมพูชา มีความคล้ายคลึงกันมากกับศิลปวัฒนธรรมไทย ภาษาเขมรมาจากรากศัพท์สันสกฤต จึงมีคำหลายคำในภาษาเขมรที่คุ้นหูคนไทย นอกจากนี้อิทธิพลทางวัฒนธรรมของฝรั่งเศสยังคงมีให้เห็นในเมืองหลวงและต่างจังหวัด
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/bR_CK9tzXV0/hqdefault.jpg)
ฝรั่งเศส ศาสนา 在 ไทม์ไลน์: เหตุโจมตีต่อเนื่องป่วนฝรั่งเศส ปมแตกแยกทางศาสนา 的推薦與評價
![影片讀取中](/images/youtube.png)
ความร้าวฉานระหว่างโลกมุสลิมกับ ฝรั่งเศส กำลังเข้าจุดเดือด จากการเผยแพร่การ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัด สู่การฆ่าตัดศีรษะคุณครูชาว ฝรั่งเศส ก่อนบานปลายสู่เหตุก่อการร้าย ... ... <看更多>
ฝรั่งเศส ศาสนา 在 TODAY - มาครงยืนยันว่าฝรั่งเศสยังมีเสรีภาพในเรื่องศาสนา ... 的推薦與評價
และยืนยันว่าคนในประเทศมีสิทธิ์เลือกนับถือศาสนาได้อย่างอิ สระ สามารถเลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ แต่วันนี้คนฝรั่งเศสขอยืนเคียงข้างเพื่อนร่วมชาติชาวคาทอลิก และได้กล่าว ... ... <看更多>
ฝรั่งเศส ศาสนา 在 ฝรั่งเศสห้ามสัญลักษณ์ทางศาสนา(02/09/66) #worldtalk #วารินทร์ ... 的推薦與評價
ฝรั่งเศส ห้ามสัญลักษณ์ทาง ศาสนา (02/09/66) #worldtalk #วารินทร์# ฝรั่งเศส #ประชาธิปไตย # ศาสนา อิสลาม. 1.5K views · 7 hours ago ...more. News1. 1.85M. ... <看更多>