พรหมลิขิตรัก พลัดพรากจากครึ่งศตวรรษ...
ไม่แคล้วครองคู่ อยู่เคียง
.
ความรักอมตะ ซึ่งประทับใจในโลกสื่อจีนเมื่อ 10 ปีก่อน (พ.ศ. 2553) โดยไชน่า เดลี่ ได้เสนอเรื่องราวความรักในอดีตของคู่รักที่ต้องฝ่ามรสุมการเมืองและวัฒนธรรมประเพณี เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ กระทั่งได้มากลับพานพบครองรักอีกครั้ง สมปรารถนาในยามไม้ใกล้ฝั่ง วัยล่วง 80 ปี
.
สาวลูกครึ่งฝรั่งเศสจีน "แดนนี่ หลี่" กับ "นายหยวน ตี้เปา" พบกันที่เมืองหางโจว ในปี พ.ศ. 2496 ตอนนั้นทั้งคู่อยู่ในวัย 24-25 ปี ความรักกำลังผลิบานเหมือนฤดูใบไม้ผลิ แต่โชคชะตาทำให้เขาทั้งสองพรากจากกันไปไกลถึงคนละซีกโลก นานถึง 54 ปี !!
.
ปาฏิหาริย์แห่งรักก็เกิดขึ้น นำพาพวกเขามาพบกันอีกครั้ง ทั้งสองได้กลับมาครองรักแต่งงานกันในที่สุด ในวัยกว่า 80 ปี!
.
เรื่องราวตำนานรักของทั้งสอง ได้กลายเป็นข่าวยอดนิยมในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์จีนในตอนนั้น นอกจากนี้ บรรดาชาวเน็ตจีน ต่างยกย่องความรักของคู่รักคู่นี้ว่าเป็น “ความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก”
.
"แดนนี่ หลี่" ในวัย 83 ปี กล่าวว่า “ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้พบเขาอีกครั้ง มันเหมือนความฝัน”
.
หลี่ เกิดในปี พ.ศ. 2469 ณ กรุงปักกิ่ง มีแม่เป็นชาวฝรั่งเศส และพ่อเป็นชาวจีน เมื่อเธออายุ 24 ปี ก็ได้เป็นอาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งในวิทยาลัยแพทยศาสตร์เจ้อเจียง ในเมืองหางโจว และด้วยความเชี่ยวชาญถึง 4 ภาษา คือ ภาษาจีน อังกฤษ รัสเซีย และภาษาฝรั่งเศส จึงทำให้เธอมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก
.
- อาจารย์กับศิษย์ -
ในเวลานั้น "หยวน ตี้เปา" นักศึกษาปีหนึ่ง วัย 25 ปี ผู้เป็นหัวหน้าชั้นเรียน และเป็นนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชั้นเรียนภาษารัสเซียของหลี่ด้วย
.
หยวนทั้งฉลาดและขยัน ซึ่งเขาพิสูจน์ด้วยการได้คะแนนสอบมากที่สุดในชั้นเรียน
.
“เขาเป็นคนดี ทั้งยังดีกับคนอื่น ๆ ด้วย บรรดานักศึกษาและครูอาจารย์ล้วนชอบเขามาก” หลี่ รำลึกหยวนในช่วงวัยเรียน
.
ขณะที่ หลี่ เริ่มศึกษาถึงตัวตนของหยวน เธอก็พบว่า ต่างมีสิ่งที่คล้ายกันอยู่มาก และความรู้สึกอันแสนอบอุ่นก็พัฒนาไปสู่ความรักอันแสนบริสุทธิ์ในที่สุด
.
ถึงแม้สังคมจะมองความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์เป็นเรื่องไม่ดีนัก แม้ทั้งสองจะอายุเท่าๆ กัน อย่างไรก็ตามทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกัน โดยมีเพียงครอบครัวของหลี่เท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
.
เมืองหางโจว ที่แห่งความรักอันแสนหวานนั้น หยวนมักเดินไปส่งหลี่ที่บ้าน และแวะบ้านของหลี่ครู่หนึ่งเสมอ ครอบครัวของหลี่ก็มิได้ขัดขวางแต่ประการใด กลับต้อนรับชายหนุ่มผู้สุภาพอ่อนโยนนี้อย่างดี
.
เมื่อทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน หลี่มีความสุขหวานชื่น ขณะที่หยวน กลับสับสนว้าวุ่นอยู่ระหว่างความสุขและความรู้สึกผิด ซึ่ง หลี่ ก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เขาเก็บงำไว้
.
ในตอนนั้น สิ่งที่หลี่ไม่รู้ ก็คือ หยวนได้แต่งงานมีภรรยาอยู่ก่อนแล้ว !
เป็นการสมรสที่ครอบครัวของหยวนเป็นผู้จัดการให้เขาต้องเข้าห้องหอกับน้องสาวของเพื่อนที่บ้านเกิด ในเกาะกู่ลั่งอี่ว์ เมืองเซี่ยะเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ภูมิลำเนาเดิมก่อนที่หยวนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ หางโจว ในปี 2496
.
หยวนไม่ได้บอกหลี่ เรื่องที่เขาแต่งงานแล้ว จนกระทั่งปีต่อมา ก่อนที่หยวนจะย้ายไปศึกษาต่อยังเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) ในปี 2497 เขาจึงได้รวบรวมความกล้า บอกกับหลี่
“ผมมีภรรยาแล้ว และจะต้องดูแลเธอไปจนกว่าจะตายจากกัน”
.
แม้ว่าจะรักหยวนมากเพียงใด แต่จำต้องกล้ำกลืน จำต้องแยกจากกัน
“ฉันไม่มีทางเลือก เราไม่ควรมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้หญิงที่เป็นผู้บริสุทธิ์อีกคน” หลี่ เล่าถึงความหลังการตัดสินใจครั้งนั้น
หลังจากนั้น หลี่และหยวนก็ไม่ได้พบกันอีก
.
- แยกจากกัน -
ก่อนจะออกจากประเทศจีนกลับฝรั่งเศส ในปี 2499 หลี่ได้เขียนจดหมายบอกลาหยวน ว่าเธอกับแม่ได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส
.
ที่ประเทศฝรั่งเศส หลี่ ต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ในสังคมที่เธอไม่คุ้นเคย ประกอบกับใบรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาของเธอก็ยังถูกปฏิเสธงานสอนในมหาวิทยาลัย จนท้ายที่สุดก็ได้งานในตำแหน่งเลขานุการของบริษัทการค้าระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ขณะที่ หยวน สำเร็จการศึกษาและเริ่มกลับไปทำงานในเซี่ยะเหมิน ภูมิลำเนาของตน
.
ทั้งคู่ ยังคงติดต่อกันผ่านทางจดหมายเท่านั้น โดยหลี่ส่งไปที่บ้านญาติของหยวน แต่เนื้อความในจดหมาย แทบจะไม่มีการระบายถึงความทุกข์ยากของแต่ละฝ่าย หยวนเล่าถึงความสุขที่ได้เป็นพ่อคน ขณะที่ หลี่ ก็ส่งนมผงสำหรับทารกและเสื้อผ้าเด็กมาให้ ซึ่งในขณะนั้นในประเทศจีนยังค่อนข้างขาดแคลนสินค้าดังกล่าว
.
เมื่อถึงช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (2509-2519) จดหมายจากฝรั่งเศสของหลี่ก็เริ่มถูกตีกลับ และเธอได้หยุดเขียนจดหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับหยวน แต่เธอก็ไม่สามารถลืมหยวนได้
.
“ฉันไม่สามารถเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ได้ แม้ว่าจะมีหลายคนผ่านเข้ามาในชีวิตฉันก็ตาม ฉันพบว่าความรักของหยวน เป็นรักแท้ และรู้สึกถึงความพิเศษที่ไม่มีใครสามารถทัดเทียมได้” หลี่ เผยความในใจ
.
ในปี 2519 ทันทีที่หลี่มั่นใจว่าความวุ่นวายจากการปฏิวัตวัฒนธรรมในประเทศจีนได้สงบลง เธอก็เขียนจดหมายส่งไปยังที่ทำงานของหยวนเช่นเคย แต่จดหมายดังกล่าวถูกตีกลับ....
.
หยวนได้เปลี่ยนที่ทำงานแล้ว โดยหยวนได้เคยเขียนจดหมายบอกหลี่ แต่จดหมายนั้นไม่เคยไปถึงเธอ....
.
ทั้งสองพรากจากกัน นานถึง 45 ปี หลังจากได้ติดต่อกันครั้งสุดท้าย ทั้งคู่จึงติดต่อกันได้อีกครั้ง เมื่อเดือนพ.ค. 2553
.
ช่วงระหว่างเทศกาลตรุษจีน โอวหยัง ลู่อิง ลูกสะใภ้คนที่สามของหยวน ได้ล่วงรู้จากญาติที่เป็นผู้เคยรับฝากจดหมายของหลี่ ว่า พ่อสามีของเธอ ได้เคยมีความรักกับครูต่างชาติ
.
“ได้ฟังเรื่องของพ่อสามีฉัน ก็สัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งในความรัก ท่านได้ดูแลภรรยาซึ่งเป็นแม่ของสามีฉัน จนกระทั่งคุณแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2537 จากนั้น คุณพ่อก็อยู่ลำพังมานานเกือบ 20 ปีแล้ว ฉันจึงขอให้ท่านเขียนจดหมายลองตามหา หลี่อีกครั้ง”
.
แม้ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ หยวนมักจะหาโอกาสกลับไปที่เมืองหางโจว ไปยังสถานที่ที่เขากับหลี่เคยมาด้วยกันเป็นประจำ หยวนก็ไม่เคยคิดว่าจะได้พบกับหลี่อีก
.
จนเมื่อลูกสะใภ้โอวหยังได้ปลุกความทรงจำทั้งหมดในใจของหยวน เขาจึงมีความหวังที่จะพบกับหลี่อีกครั้ง เขาใช้เวลาหลายวันในการเขียนจดหมายทั้งสิ้น 5 ฉบับ ส่งไปตามที่อยู่เดิม นอกจากจะเขียนเป็นภาษาจีนอวยพรให้หลี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว หยวนยังเขียนถึงญาติของหลี่เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยเกรงว่าหลี่อาจเสียชีวิตแล้ว โดยเขียนว่า
.
"ผมเป็นนักเรียนและเพื่อนของหลี่ และต้องการทราบถึงที่อยู่ของหลี่"
ทุกๆ วันเว้นวัน หยวนได้ส่งจดหมาย 1 ฉบับ และหากไม่ได้รับจดหมายตอบกลับเลยสักฉบับ เรื่องราวต่างๆ ก็อาจต้องยุติลงเพียงเท่านี้
.
- ขอบคุณสวรรค์ เธอยังมีชีวิตอยู่ -
ในที่สุดก็มีจดหมายส่งตรงจากฝรั่งเศส หยวน ซึ่งบัดนี้อายุ 80 ปี ได้เปิดจดหมายฉบับนั้นด้วยมือที่สั่นเทา เห็นลายมือที่คุ้นเคยอีกครั้ง
.
“ขอบคุณสวรรค์ เธอยังมีชีวิตอยู่” ในซองจดหมาย ยังมีรูปของหลี่แนบมาพร้อมกับเนื้อความ 3 หน้ากระดาษ หลี่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอที่ผ่านมา
.
เธอยังคงโสดและอยู่เพียงลำพังหลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิต
.
ทั้งสองได้เริ่มส่งจดหมายหากันเหมือนแต่ก่อน แม้ว่าทั้งสองจะแก่ชรา มีความเสื่อมตามวัย ในบางครั้ง หลี่ และหยวน ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ ด้วยความช่วยเหลือของโอวหยัง ลูกสะใภ้ แต่ไม่นานก็กลับไปใช้การเขียนจดหมายเช่นเดิม เพราะหยวน แก่ชรามีปัญหาด้านการฟัง
.
หยวนได้เอ่ยปากชวนให้หลี่มาที่เซี่ยะเหมิน “คุณมาอยู่กับผม หรือแค่เพียงแวะมาก็ได้ ตามแต่คุณ”
.
เมื่อหลี่ มาถึงเซี่ยะเหมิน หยวนและครอบครัวก็ได้รอรับเธอที่สนามบิน และ ณ เวลานั้น หยวนได้ถือช่อกุหลาบอันสวยสด 55 ดอก แทนจำนวนปีที่ห่างกัน เพื่อขอเธอแต่งงาน
.
หลี่ได้ตอบรับ และทั้งคู่ จดทะเบียนสมรสกันในปีนั้น โดยในวันที่ 26 ก.ย. 2553 บุตรชายของหยวน ได้จัดงานแต่งงานให้กับทั้งสอง จากนั้น ทั้งหลี่และหยวนก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านของบุตรชาย
.
ในทุก ๆ เช้า หยวนกับหลี่ ก็จะจูงมือกันเดินริมชายหาด ดูพระอาทิตย์วันใหม่อันแสนอบอุ่น
.
หลี่ พูดถึงความรัก ความพรากจากของเธอกับหยวน ว่า “สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป ชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ก็ขอเคียงข้างกันตลอดไป"
"ฉันมีปัญหาด้านการมอง และเขามีปัญหาด้านการฟัง ฉันเป็นหูให้กับเขา และเขาก็เป็นดวงตาให้กับฉัน”
.
(เผยแพร่ครั้งแรก ในมุมจีน ผู้จัดการ MGR Online, 2553)
ตั่วตั่วเปา
รายการลายกนก ยกสยาม
TOP News
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過24萬的網紅โบโบ กวนจีน 波波真幸福,也在其Youtube影片中提到,หม่าล่าหม้อไฟพร้อมกิน ส่งตรงถึงบ้านจ้าาา แนะนำให้ลองเลยจ้าร้านนี้ Le Hot ? สั่ง GrabFood ได้ที่นี่ https://bit.ly/33LBWay (3 กม.แรกค่าส่ง 10 บาทนะจ๊ะ...
ภาษา เสฉวน 在 โบโบ กวนจีน 波波真幸福 Youtube 的最佳解答
หม่าล่าหม้อไฟพร้อมกิน ส่งตรงถึงบ้านจ้าาา
แนะนำให้ลองเลยจ้าร้านนี้ Le Hot
? สั่ง GrabFood ได้ที่นี่ https://bit.ly/33LBWay
(3 กม.แรกค่าส่ง 10 บาทนะจ๊ะ)
ร้านเปิดทุกวัน 11:30 - 20:30
1.หม้อไฟหมาล่าหมู + ข้าว 266฿
2.หม้อไฟหมาล่าวัว + ข้าว 277฿
3.หม้อไฟหมาล่าเนื้อแกะ + ข้าว 320฿
4.ก๋วยเตี๋ยวแฮมหมาล่า 107฿
5.วุ้นเสฉวน 107฿
6.ข้าวผัดกุ้ง 96฿
7.ข้าวผัดไข่ 75฿
8.หม้อไฟหมาล่าไส้เป็ด 161฿
9.ยำแตงกวา 107฿
10.ยำไข่เยี่ยวม้า 193฿
ฝากติดตามด้วยจ้าาา
BoBo's Instagram: www.instagram.com/boboishappy_wow
Facebook: www.facebook.com/kuanjeen
YouTube: www.youtube.com/kuanjeen
ภาษา เสฉวน 在 รีวิว เฉิงตู เมืองเอกของเสฉวน อากาศหนาวมั๊ย? พูดภาษาจีน ... 的推薦與評價
พูด ภาษา จีน? ค่าครองชีพ? เดินทางง่ายแค่ไหน? มาฟังกันจ้า #เฉิงตู #เรียนจีน #ประสบการณ์จีน ติดตามกันที่นี่น้า • FB : Being together ... ... <看更多>