Ep.54 - "กินเหล้า = ชั่ว ?"
.
เอาจริง ๆ นะ สงสัยเหมือนกัน
ทำไมถึงแบบ ตั้งคำถามกับ
เรื่องของการกินเหล้ากันนักหนา?
.
ถามจริง ๆ คนกินเหล้า หรือ คนโกหก
อะไรเยอะกว่ากัน?
คนโกหก!
.
เหล้าต้องใช้อุปกรณ์!
เหล้าต้องมีองค์ประกอบ
เหล้าต้องใช้ความพยายาม
แต่โกหก มันไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร
.
จริง ๆ อยากให้มอง เห็นภาพแบบนี้
อย่าใช้เหล้า อย่าใช้อะไร มาเป็นตัวโจมตี
ว่าคน ๆ นั้นเลวคน ๆ นั้นดี
.
พระพุทธเจ้าให้หลักไว้แล้วชัดเจน
“สุราเมรย มชฺช ปมาทฏฺฐานา”
‘กินเหล้าอันเป็นฐานของความประมาท’
นี่มึงต้องตั้งใจกิน เพื่อจะเมาหัวทิ่มหัวตำ
อันนี้ถึงว่า มันบาปแน่ ๆ
.
ต้องตั้งใจกินเพื่อที่จะแบบว่า
“เฮ้ย...วันนี้เมาให้เต็มที่”
เพราะอะไร? พระพุทธเจ้าไม่อยากให้คนขาดสติ
มงคลชีวิตข้อที่ 18, 19, 20
แถว ๆ นี้
.
ชัดเจนเลย
“อารตี วิรตี ปาปา”
อารตี คือ งด วีรตี คือ เว้น ปาปา คือ บาปทั้งหลาย
พระพุทธเจ้าบอกว่า
‘บาปทั้งหลาย’
อย่าทำ
.
บาป คืออะไร? บาป คือ การเบียดเบียน
ข้อต่อมา
“มชฺชปานา จ สญฺญโม”
คือ ‘สำรวมระวังจากการกินเหล้า’
.
ต้องบอกก่อน พระพุทธเจ้าไม่ได้สนับสนุนให้กินเหล้า
แต่ถ้ามันจำเป็นจะต้องกิน เพราะท่านรู้ว่าเหล้า
ไม่ได้เป็นโทษอย่างเดียว เหล้ามีส่วนที่เป็นประโยชน์ด้วย
.
ใช้ล้างแผลได้ ใช้ทำปฏิกิริยาบางอย่าง
ในอาหารได้ เขาถึงมีไก่แช่ไวน์ ไก่แช่เหล้า
แล้วถามว่าสิ่งเหล่านั้น
กินแล้วเมามั้ย?
.
เอ้อ!
มันต้องย้อนกลับมาไงว่า
“สุราเมรย มชฺช ปมาทฏฺฐานา”
กินของพวกนี้
‘เจตนา’
เพื่อละทิ้งสติ เอาความประมาทล้วน ๆ เลย
อย่างนี้มึงบาป 100%
.
มันอยู่ที่เจตนาอย่างเดียว
ถามว่ากินแอลกอฮอล์ 0%
บาปมั้ย?
ไม่รู้หรอกบาปไม่บาป แต่เจตนายังไงล่ะ?
กินเพื่อความสนุกสนานรึเปล่า?
.
เคยเมาดิบมั้ย
เมาดิบมันเมากันได้นะเว่ย
อยู่ดี ๆ ก็ขาดสติมันงั้น ๆ
ทั้งที่แบบว่า ไอ้เ-ี้ยกูก็ไม่ได้เมาอะไร
แต่กูก็ขาดสติได้ ไม่เคยเหรอ
กูก็เคย!
.
พระพุทธเจ้าชัดเจนว่า “สำรวม ระวัง”
คือถ้าบอกว่ากินได้
เดี๋ยวก็จะมีคนเอาตรงนี้ไปอ้างอิง
จริง ๆ ก็ไม่ควรกิน
.
แต่ถ้ามันจำเป็นจะต้องกิน
ต้องสำรวมระวัง
เอาเรื่องสติสัมปชัญญะเป็นที่ตั้ง
คือถ้ากินแล้วปุ๊บ กูเสียสติแน่นอน
.
คือกินแล้วมีโทษ ท่านให้สำรวมระวัง
ถ้าเว้นไม่กินเลย ก็ไม่ต้องระวังไง
ไอ้คำว่าระวัง มันคือยังไง
ระวัง มันต้องมีสติ แต่ถ้าเว้นเลยเนี่ย
มึงไม่ต้องใช้ความระวัง
ไม่ต้องมาใช้พลังงาน
.
กับเรื่องระวังว่า
“เอ๊ะ….”
“แค่นี้พอมั้ย?”
“แค่นี้เมามั้ย?”
“แค่นี้บาปมั้ย?”
“แค่นี้จะเป็นอะไรยังไง?”
“ถูกปะ?”
“มชฺชปานา”
มัชชะ ไม่ได้แปลว่าเหล้าอย่างเดียว
ยาเสพติดให้โทษ ทุกสิ่งทุกอย่าง
.
ปานา แปลว่า เสพเข้าไป
ถ้าให้ความหมายในปัจจุบัน
มชฺชปานา ก็คือ ยาเสพติดให้โทษ ทุกประเภท
.
พระพุทธเจ้าทรงรู้ไงว่า แอลกอฮอล์มันเป็นยาได้
แต่ว่า โบราณเขาเรียกกันว่า
เป็นยากระสายเหล้า แปลว่าผสมด้วย
เป็นกระสาย เป็นแค่ส่วนผสม
ไม่ใช่แก่นสาระสำคัญ
.
คือคนมองเข้ามาปุ๊บ เห็นเรากระดก
ยาหรือเหล้าล่ะ?
เขาเห็นเรากินสปาเก็ตตี้ ไก่ซอสไวน์
วิญญูชนพึงรู้ได้รึเปล่า?
ว่านั่นอาหาร หรือนั่นเหล้า
.
ถ้าเขาเห็นมองมาปุ๊บ
“อ้าวอาหาร”
แต่มัน ส่วนผสมมันมาจากเหล้า
กูถามหน่อย กินไก่หมักไวน์ตรงนั้นน่ะ
มึงเมามั้ย?
คนมองเข้ามาก็รู้อยู่แล้ว
“อันนี้อาหาร”
“นี่ไม่ใช่เหล้า”
.
เหมือนกัน คนมองเข้ามา เรากระดกยา
แม้ยาผสมเหล้า แต่คนมองเข้ามา
วิญญูชนพึงรู้ได้ว่า
“นี่ยา”
“ไม่ใช่เหล้า”
.
แต่ถ้ากลับกัน เนี่ยเหล้า แล้วเหล้าเนี่ย
โอ้โห..
มีตัวยา มีเป็นยาดงยาดอง
ดองงูเห่า งูเหลือม -่าอะไรไม่รู้
อันนี้เหล้ากระสายยา
ไม่ใช่ยากระสายเหล้า
ไม่เหมือนกันนะ
.
แล้วบางคนบอกว่า ถ้าเกิดว่าทำอาหารเนี่ย
แล้วทำอาหารมันต้องผสมเหล้า
เรารู้อยู่แล้ว ในเมื่ออาหารมันมีส่วนผสมของเหล้า
ทำอาหารไป เอาเหล้าแยกไว้ต่างหาก
.
แล้วพออาหารเสร็จเรียบร้อยปุ๊บ
เอาเหล้ามากินควบด้วย อย่างนี้ถือว่า
กินอาหารกระสายเหล้ามั้ย
เพราะว่า อาหารนั้นต้องมีเหล้าไง
อย่างนี้มันไม่ใช่ อย่างนี้มันกับแกล้มแล้ว
มันคือกินเหล้า กับกับแกล้มแล้ว
ไอ้-่า
.
เมามันลืมทุกข์ได้ที่ไหน
มันกลบทุกข์
กินเหล้าแล้วมันจะได้หายทุกข์
ไม่มีหายทุกข์ครับ
.
ถ้ากินเหล้าเพื่อจัดการความทุกข์
กินเหล้าเพื่อให้พ้นทุกข์นี่
บอกได้เลย เป็นคนผัดวันประกันพรุ่ง
เป็นคนไม่รับผิดชอบ
.
ทุกข์อยู่ตรงไหน มึงต้องไปแก้ตรงนั้นสิ
ไม่ใช่ทุกข์อยู่ตรงไหนปุ๊บ มึงกลบทุกข์
มึงหนีทุกข์ไปชั่วคราว
ถ้าเกิดพลั้งพลาด ตายไปตอนไม่มีสติ
มึงทำไง?
.
ถ้าเชื่อเรื่องโลกนี้โลกหน้านี่
จิตวิญญาณมึงไม่มีความสุขเลย
มึงไปสู่ทุกข์คติภูมิอย่างเดียวเลย
ต้องพูดอย่างนี้ว่า
.
เรื่องของเหล้า เรื่องของอะไรพวกนี้
คนมาถามเยอะมาก อยากจะถามย้อนกลับไปว่า
ที่มึงถามเรื่องกินเหล้าได้ กินเหล้าไม่ได้
อย่างนี้ผิดมั้ย
อย่างนี้บาปมั้ยเนี่ย
.
มึงถามเพื่อให้มึงเป็น คนที่ปฏิบัติธรรมได้ดีขึ้น
ให้เข้าใกล้ธรรมะได้มากขึ้น ดีมากขึ้น
หรือมึงถาม
เพื่อที่จะให้เลี่ยงได้มากขึ้น อย่างนี้เขาเรียกว่าเลี่ยงบาลีไง
นึกออกปะ?
เออ…
………………………………………..
เคยได้ยินมั้ยล่ะ “ไม่รู้ย่อมไม่ผิด”
นี่กูพูดบ่อยมากเลยนะคำนี้
พระพุทธเจ้าบอกว่า
“เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ”
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย”
“เราถือเจตนาเป็นตัวกรรม”
รู้มั้ยล่ะ ว่าน้ำใส ๆ นี่มันเหล้า
หรือว่ามันน้ำอะ?
ถ้ามึงยกมาปุ๊บเนี่ย ได้กลิ่นปุ๊บ
“เอ๊ะ…”
“กลิ่นคล้าย ๆ เหล้า”
“เหล้ารึเปล่าไม่รู้”
“แต่สีมันน้ำเปล่าแน่นอน”
กระดก
…
มึง…
โกหกตัวเอง!
ไอ้เ-ี้ย
มึงโกหกตัวเอง!
บ้าบอ
.
#ผู้กองเบนซ์
ปล. เมามันลืมทุกข์ได้ที่ไหน มันกลบทุกข์
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)
ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
IG : capt.benz
Line OA : @ captbenz
twitter : @ captbenz
「มัชชะ แปลว่า」的推薦目錄:
มัชชะ แปลว่า 在 Capt.Benz Facebook 的最佳貼文
Ep.54 - "กินเหล้า = ชั่ว ?"
.
เอาจริง ๆ นะ สงสัยเหมือนกัน
ทำไมถึงแบบ ตั้งคำถามกับ
เรื่องของการกินเหล้ากันนักหนา?
.
ถามจริง ๆ คนกินเหล้า หรือ คนโกหก
อะไรเยอะกว่ากัน?
คนโกหก!
.
เหล้าต้องใช้อุปกรณ์!
เหล้าต้องมีองค์ประกอบ
เหล้าต้องใช้ความพยายาม
แต่โกหก มันไม่ต้องใช้ความพยายามอะไร
.
จริง ๆ อยากให้มอง เห็นภาพแบบนี้
อย่าใช้เหล้า อย่าใช้อะไร มาเป็นตัวโจมตี
ว่าคน ๆ นั้นเลวคน ๆ นั้นดี
.
พระพุทธเจ้าให้หลักไว้แล้วชัดเจน
“สุราเมรย มชฺช ปมาทฏฺฐานา”
‘กินเหล้าอันเป็นฐานของความประมาท’
นี่มึงต้องตั้งใจกิน เพื่อจะเมาหัวทิ่มหัวตำ
อันนี้ถึงว่า มันบาปแน่ ๆ
.
ต้องตั้งใจกินเพื่อที่จะแบบว่า
“เฮ้ย...วันนี้เมาให้เต็มที่”
เพราะอะไร? พระพุทธเจ้าไม่อยากให้คนขาดสติ
มงคลชีวิตข้อที่ 18, 19, 20
แถว ๆ นี้
.
ชัดเจนเลย
“อารตี วิรตี ปาปา”
อารตี คือ งด วีรตี คือ เว้น ปาปา คือ บาปทั้งหลาย
พระพุทธเจ้าบอกว่า
‘บาปทั้งหลาย’
อย่าทำ
.
บาป คืออะไร? บาป คือ การเบียดเบียน
ข้อต่อมา
“มชฺชปานา จ สญฺญโม”
คือ ‘สำรวมระวังจากการกินเหล้า’
.
ต้องบอกก่อน พระพุทธเจ้าไม่ได้สนับสนุนให้กินเหล้า
แต่ถ้ามันจำเป็นจะต้องกิน เพราะท่านรู้ว่าเหล้า
ไม่ได้เป็นโทษอย่างเดียว เหล้ามีส่วนที่เป็นประโยชน์ด้วย
.
ใช้ล้างแผลได้ ใช้ทำปฏิกิริยาบางอย่าง
ในอาหารได้ เขาถึงมีไก่แช่ไวน์ ไก่แช่เหล้า
แล้วถามว่าสิ่งเหล่านั้น
กินแล้วเมามั้ย?
.
เอ้อ!
มันต้องย้อนกลับมาไงว่า
“สุราเมรย มชฺช ปมาทฏฺฐานา”
กินของพวกนี้
‘เจตนา’
เพื่อละทิ้งสติ เอาความประมาทล้วน ๆ เลย
อย่างนี้มึงบาป 100%
.
มันอยู่ที่เจตนาอย่างเดียว
ถามว่ากินแอลกอฮอล์ 0%
บาปมั้ย?
ไม่รู้หรอกบาปไม่บาป แต่เจตนายังไงล่ะ?
กินเพื่อความสนุกสนานรึเปล่า?
.
เคยเมาดิบมั้ย
เมาดิบมันเมากันได้นะเว่ย
อยู่ดี ๆ ก็ขาดสติมันงั้น ๆ
ทั้งที่แบบว่า ไอ้เ-ี้ยกูก็ไม่ได้เมาอะไร
แต่กูก็ขาดสติได้ ไม่เคยเหรอ
กูก็เคย!
.
พระพุทธเจ้าชัดเจนว่า “สำรวม ระวัง”
คือถ้าบอกว่ากินได้
เดี๋ยวก็จะมีคนเอาตรงนี้ไปอ้างอิง
จริง ๆ ก็ไม่ควรกิน
.
แต่ถ้ามันจำเป็นจะต้องกิน
ต้องสำรวมระวัง
เอาเรื่องสติสัมปชัญญะเป็นที่ตั้ง
คือถ้ากินแล้วปุ๊บ กูเสียสติแน่นอน
.
คือกินแล้วมีโทษ ท่านให้สำรวมระวัง
ถ้าเว้นไม่กินเลย ก็ไม่ต้องระวังไง
ไอ้คำว่าระวัง มันคือยังไง
ระวัง มันต้องมีสติ แต่ถ้าเว้นเลยเนี่ย
มึงไม่ต้องใช้ความระวัง
ไม่ต้องมาใช้พลังงาน
.
กับเรื่องระวังว่า
“เอ๊ะ….”
“แค่นี้พอมั้ย?”
“แค่นี้เมามั้ย?”
“แค่นี้บาปมั้ย?”
“แค่นี้จะเป็นอะไรยังไง?”
“ถูกปะ?”
“มชฺชปานา”
มัชชะ ไม่ได้แปลว่าเหล้าอย่างเดียว
ยาเสพติดให้โทษ ทุกสิ่งทุกอย่าง
.
ปานา แปลว่า เสพเข้าไป
ถ้าให้ความหมายในปัจจุบัน
มชฺชปานา ก็คือ ยาเสพติดให้โทษ ทุกประเภท
.
พระพุทธเจ้าทรงรู้ไงว่า แอลกอฮอล์มันเป็นยาได้
แต่ว่า โบราณเขาเรียกกันว่า
เป็นยากระสายเหล้า แปลว่าผสมด้วย
เป็นกระสาย เป็นแค่ส่วนผสม
ไม่ใช่แก่นสาระสำคัญ
.
คือคนมองเข้ามาปุ๊บ เห็นเรากระดก
ยาหรือเหล้าล่ะ?
เขาเห็นเรากินสปาเก็ตตี้ ไก่ซอสไวน์
วิญญูชนพึงรู้ได้รึเปล่า?
ว่านั่นอาหาร หรือนั่นเหล้า
.
ถ้าเขาเห็นมองมาปุ๊บ
“อ้าวอาหาร”
แต่มัน ส่วนผสมมันมาจากเหล้า
กูถามหน่อย กินไก่หมักไวน์ตรงนั้นน่ะ
มึงเมามั้ย?
คนมองเข้ามาก็รู้อยู่แล้ว
“อันนี้อาหาร”
“นี่ไม่ใช่เหล้า”
.
เหมือนกัน คนมองเข้ามา เรากระดกยา
แม้ยาผสมเหล้า แต่คนมองเข้ามา
วิญญูชนพึงรู้ได้ว่า
“นี่ยา”
“ไม่ใช่เหล้า”
.
แต่ถ้ากลับกัน เนี่ยเหล้า แล้วเหล้าเนี่ย
โอ้โห..
มีตัวยา มีเป็นยาดงยาดอง
ดองงูเห่า งูเหลือม -่าอะไรไม่รู้
อันนี้เหล้ากระสายยา
ไม่ใช่ยากระสายเหล้า
ไม่เหมือนกันนะ
.
แล้วบางคนบอกว่า ถ้าเกิดว่าทำอาหารเนี่ย
แล้วทำอาหารมันต้องผสมเหล้า
เรารู้อยู่แล้ว ในเมื่ออาหารมันมีส่วนผสมของเหล้า
ทำอาหารไป เอาเหล้าแยกไว้ต่างหาก
.
แล้วพออาหารเสร็จเรียบร้อยปุ๊บ
เอาเหล้ามากินควบด้วย อย่างนี้ถือว่า
กินอาหารกระสายเหล้ามั้ย
เพราะว่า อาหารนั้นต้องมีเหล้าไง
อย่างนี้มันไม่ใช่ อย่างนี้มันกับแกล้มแล้ว
มันคือกินเหล้า กับกับแกล้มแล้ว
ไอ้-่า
.
เมามันลืมทุกข์ได้ที่ไหน
มันกลบทุกข์
กินเหล้าแล้วมันจะได้หายทุกข์
ไม่มีหายทุกข์ครับ
.
ถ้ากินเหล้าเพื่อจัดการความทุกข์
กินเหล้าเพื่อให้พ้นทุกข์นี่
บอกได้เลย เป็นคนผัดวันประกันพรุ่ง
เป็นคนไม่รับผิดชอบ
.
ทุกข์อยู่ตรงไหน มึงต้องไปแก้ตรงนั้นสิ
ไม่ใช่ทุกข์อยู่ตรงไหนปุ๊บ มึงกลบทุกข์
มึงหนีทุกข์ไปชั่วคราว
ถ้าเกิดพลั้งพลาด ตายไปตอนไม่มีสติ
มึงทำไง?
.
ถ้าเชื่อเรื่องโลกนี้โลกหน้านี่
จิตวิญญาณมึงไม่มีความสุขเลย
มึงไปสู่ทุกข์คติภูมิอย่างเดียวเลย
ต้องพูดอย่างนี้ว่า
.
เรื่องของเหล้า เรื่องของอะไรพวกนี้
คนมาถามเยอะมาก อยากจะถามย้อนกลับไปว่า
ที่มึงถามเรื่องกินเหล้าได้ กินเหล้าไม่ได้
อย่างนี้ผิดมั้ย
อย่างนี้บาปมั้ยเนี่ย
.
มึงถามเพื่อให้มึงเป็น คนที่ปฏิบัติธรรมได้ดีขึ้น
ให้เข้าใกล้ธรรมะได้มากขึ้น ดีมากขึ้น
หรือมึงถาม
เพื่อที่จะให้เลี่ยงได้มากขึ้น อย่างนี้เขาเรียกว่าเลี่ยงบาลีไง
นึกออกปะ?
เออ…
………………………………………..
เคยได้ยินมั้ยล่ะ “ไม่รู้ย่อมไม่ผิด”
นี่กูพูดบ่อยมากเลยนะคำนี้
พระพุทธเจ้าบอกว่า
“เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ”
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย”
“เราถือเจตนาเป็นตัวกรรม”
รู้มั้ยล่ะ ว่าน้ำใส ๆ นี่มันเหล้า
หรือว่ามันน้ำอะ?
ถ้ามึงยกมาปุ๊บเนี่ย ได้กลิ่นปุ๊บ
“เอ๊ะ…”
“กลิ่นคล้าย ๆ เหล้า”
“เหล้ารึเปล่าไม่รู้”
“แต่สีมันน้ำเปล่าแน่นอน”
กระดก
…
มึง…
โกหกตัวเอง!
ไอ้เ-ี้ย
มึงโกหกตัวเอง!
บ้าบอ
.
#ผู้กองเบนซ์
ปล. เมามันลืมทุกข์ได้ที่ไหน มันกลบทุกข์
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*ติดต่องานวิทยากร,อบรมสัมมนา,สนับสนุนช่อง โทร 094-449-9464 (คุณจี้)
ช่องยูทูป : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
blockdit : ผู้กองเบนซ์ - Capt.Benz
IG : capt.benz
Line OA : @ captbenz
twitter : @ captbenz