รู้จัก TAL Education บริษัทติวเตอร์ ที่ใหญ่เท่าบริษัทน้ำมัน /โดย ลงทุนแมน
10 ปีที่แล้ว ถ้าเราลงทุน 1 ล้านบาท ในหุ้นของ TAL Education
วันนี้เงินลงทุนของเราจะเพิ่มขึ้นเป็น 27 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นมากถึง 27 เท่า
โดย TAL Education คือธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษา
ที่มีสินค้าและบริการ คือ “การติวหนังสือ” ให้กับเด็กๆ ในประเทศจีน
และรู้ไหมว่า บริษัทติวเตอร์แห่งนี้ มีมูลค่ามากถึงหลัก “ล้านล้านบาท”
ซึ่งใหญ่พอๆ กับ มูลค่าของ ปตท. บริษัทพลังงานอันดับ 1 ของประเทศไทย
แล้วบริษัทแห่งนี้มีความน่าสนใจอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
TAL Education มาจากชื่อเต็มๆ ว่า “Tomorrow Advancing Life Education”
บริษัทแห่งนี้ เป็นบริษัทติวเตอร์สัญชาติจีน
ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นโดย คุณ Zhang Bangxin ในปี 2003
ในตอนนั้นคุณ Zhang Bangxin กำลังศึกษา MBA
และได้ทำงานพาร์ตไทม์หลายงานเพื่อเป็นทุนในการเล่าเรียนของเขา
ซึ่งงานหนึ่งที่เขาทำก็คือ การติวหนังสือให้แก่เด็กนักเรียน
ผลปรากฏว่า เด็กๆ หลายคนที่เรียนกับคุณ Zhang ทำคะแนนสอบคณิตศาสตร์ได้ในระดับท็อป
จึงทำให้พ่อแม่ของเด็กๆ หลายคน สนใจส่งให้ลูกมาเรียนพิเศษกับเขามากขึ้นเรื่อยๆ
และอย่างที่หลายคนอาจเคยได้ยินกันมาว่า เด็กๆ ในจีนแข่งขันกันเรื่องการศึกษาสูงมาก
เพราะคนจีนจำนวนไม่น้อยมีความเชื่อว่า การศึกษาเป็นหนึ่งในหนทางที่จะช่วยยกระดับและฐานะความเป็นอยู่ของตนเองและครอบครัวให้ดีขึ้นในอนาคต
เมื่อคุณ Zhang มองเห็นแล้วว่า ธุรกิจติวเตอร์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี
คุณ Zhang และเพื่อนอีกคน จึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัทติวเตอร์
โดยใช้ชื่อในตอนแรกว่า “Xueersi”
Xueersi เปิดสาขาแรกที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน
โดยเขาเชื่อว่า การที่จะทำให้ธุรกิจติวเตอร์สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การรักษาคุณภาพการเรียนการสอน
คุณ Zhang จึงได้ออกแบบ แบบประเมินการสอนของครูที่สอนในสถาบันของเขา เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงการสอนในโรงเรียนสอนพิเศษอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น เขาก็ยังให้ความสำคัญกับการคัดเลือกครูผู้สอน
โดยคุณครูที่จะมาเป็นติวเตอร์ในสถาบันของเขา
ต้องจบมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน และมีจิตวิญญาณในการสอนจริงๆ
อีกทั้งได้เริ่มนำเอาเทคโนโลยีมาใช้พัฒนารูปแบบการสอนออนไลน์
จนทำให้ธุรกิจติวเตอร์ของเขา สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
จนในปี 2010 คุณ Zhang ก็สามารถนำสถาบัน Xueersi เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้สำเร็จ
โดยมีมูลค่าบริษัท ณ ขณะนั้นเท่ากับ 45,000 ล้านบาท
ก่อนที่ในปี 2013 บริษัทจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า “TAL Education”
หลังจากนั้นมา TAL Education ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด
จากการลงทุนขยายสาขา พัฒนารูปแบบการสอน
และลงทุนซื้อกิจการสตาร์ตอัปเทคโนโลยี เพื่อนำเอาองค์ความรู้มาพัฒนาระบบการสอนให้มีประสิทธิภาพขึ้น
ปัจจุบัน TAL Education ให้บริการรับสอนตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษา ไปจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษา
ซึ่งมีวิชาที่เปิดสอน ได้แก่ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา
โดยให้บริการการเรียนการสอนทั้งในแบบออฟไลน์ และออนไลน์
ซึ่งถ้านับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท จำนวนสาขาที่เปิดสอนได้เติบโตขึ้นมาแล้วกว่า 6 เท่า
ปี 2003 จำนวนสาขาที่เปิดสอน 153 แห่ง
ปี 2020 จำนวนสาขาที่เปิดสอน 936 แห่ง
ปัจจุบัน TAL Education มีสาขากระจายอยู่ใน 90 เมืองในประเทศจีน
แต่สาขาส่วนมากของ TAL Education จะอยู่ใน 5 เมืองหลักของจีน นั่นคือ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เชินเจิ้น และหนานจิง
ผลประกอบการของ TAL Education
ปี 2017 รายได้ 31,300 ล้านบาท กำไร 3,480 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 51,500 ล้านบาท กำไร 5,940 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 76,800 ล้านบาท กำไร 11,000 ล้านบาท
ซึ่งรายได้ของ TAL Education มาจาก
- รายได้จากการสอนในห้องเรียน 75%
- รายได้จากการสอนออนไลน์ 17%
- รายได้จากการสอนตัวต่อตัว 8%
โดยถ้านับตั้งแต่ที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
มูลค่ากิจการของ TAL Education เพิ่มขึ้นมาแล้วกว่า 27 เท่า
หมายความว่า ถ้าเราลงทุนในหุ้นของ TAL Education ด้วยเงิน 1 ล้านบาท
มูลค่าหุ้น TAL Education ในพอร์ตการลงทุนของเราในวันนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 27 ล้านบาท
โดยปัจจุบัน มูลค่าบริษัทของ TAL Education เท่ากับ 1.2 ล้านล้านบาท
ซึ่งใหญ่พอๆ กับ มูลค่าของ ปตท. บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย
ความยิ่งใหญ่ของ TAL Education
ทำให้วันนี้ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอย่างคุณ Zhang Bangxin
กลายเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งในประเทศจีน
ด้วยมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด กว่า 357,000 ล้านบาท
เรื่องนี้ก็ทำให้เห็นว่า
ถ้ามองออกว่าอะไร คือเรื่องที่คนให้ความสำคัญกันเป็นวงกว้าง
แล้วเราสามารถสร้างธุรกิจให้ตอบโจทย์ความสำคัญตรงนั้น
ธุรกิจที่เราทำมันก็มีโอกาสเติบโตได้มาก
อย่างที่คุณ Zhang Bangxin มองเห็นว่า
คนจำนวนมากให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษา
และเขาก็สร้าง TAL Education ขึ้นมา
จนวันนี้ บริษัทติวเตอร์ของเขา กลายเป็นบริษัทมูลค่าล้านล้านบาท ไปแล้ว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.macrotrends.net/stocks/charts/TAL/tal-education-group/market-cap
-https://finance.yahoo.com/quote/TAL/
-http://taleducationgroup.gcs-web.com/static-files/511e2bb5-fa9e-4285-9df4-857878f44196
-https://www.crunchbase.com/organization/tal/company_financials
-https://www.forbes.com/profile/zhang-bangxin/?sh=1530c22b224f
「มูลค่าหุ้น คือ」的推薦目錄:
มูลค่าหุ้น คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
Brandon Smith คนธรรมดาที่กลายเป็นเศรษฐี จากการลงทุนใน Tesla /โดย ลงทุนแมน
ในวันนี้ Tesla เป็นบริษัทรถยนต์ ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
ที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 23 ล้านล้านบาท
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของมูลค่าบริษัท Tesla ในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากจะส่งผลให้ Elon Musk กลายเป็นคนรวยที่สุดในโลก แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง เจฟฟ์ เบโซส ได้แล้ว
ยังทำให้นักลงทุนอีกหลายคน ร่ำรวยมากขึ้นตามไปด้วย
ในวันนี้ เราลองมาดูตัวอย่าง
ของคนที่เอาเงินไปลงทุนในหุ้น Tesla
จนทำให้จากคนธรรมดา กลายเป็น เศรษฐีใน 3 ปี
เขาคนนั้นชื่อว่า “Brandon Smith”
เรื่องนี้เป็นอย่างไร? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Brandon Smith เป็นชายที่อาศัยอยู่ที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน ในสหรัฐอเมริกา
โดยเขามีอาชีพเป็นวิดีโอโปรดิวเซอร์
ที่มีหน้าที่หลัก คือ ดูแลและจัดการทุกกระบวนการการผลิตวิดีโอ
โดยจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่มให้ความสนใจในบริษัท Tesla เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้ชมวิดีโอบนช่อง YouTube ที่มีชื่อช่องว่า HyperChange
ซึ่งในวิดีโอนั้น มีการอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท Tesla ทั้งการผลิต การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาการของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา
วิดีโอนั้นเอง ที่ถือว่าเป็นก้าวแรกทำให้ Brandon Smith เกิดความสนใจ และอยากทำความรู้จักบริษัท Tesla ให้มากขึ้น
เขาเริ่มมองหากลุ่มคนที่มีความสนใจในบริษัท Tesla
เพื่อมาแลกเปลี่ยนพูดคุยเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ซึ่งหลังจากที่เขาได้นั่งพูดคุยกับกลุ่มเหล่านั้น
ก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่า Tesla จะเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
และเขาก็มั่นใจอย่างมากด้วยว่า
“พวกเราเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโตของ Tesla เท่านั้น”
ในปี 2017 เขาเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นครั้งแรก
ซึ่งหุ้น Tesla ก็คือเป้าหมายหลักของเขา
โดยเริ่มแรก เขานำเงินที่เก็บสะสมจากการทำงานจำนวน 300,000 บาท มาซื้อหุ้น Tesla
จากนั้นมา เมื่อเขาได้รับเงินจากการทำงาน
ก็จะแบ่งส่วนหนึ่ง ไปลงทุนในหุ้น Tesla ทุกเดือน
ซึ่งเขาทำแบบนี้มาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่หุ้น Tesla ก็ค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน..
เราลองมาดูข้อมูลธุรกิจของ Tesla กันคร่าวๆ
ปัจจุบัน Tesla คือ ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
รวมทั้งยังมีรายได้อื่นจากการขายแบตเตอรี่ แผงโซลาร์เซลล์
โดยสัดส่วนรายได้ของ Tesla ในปี 2019 นั้นมาจาก
- รายได้การจำหน่ายรถพลังงานไฟฟ้า 81%
- รายได้อื่น 19%
และในปัจจุบัน Tesla มีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกอยู่ที่ 16.2%
มากเป็นอันดับที่ 1 ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
ผลประกอบการของ Tesla ในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2017 รายได้ 353,000 ล้านบาท ขาดทุน 58,800 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 644,000 ล้านบาท ขาดทุน 29,200 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 737,000 ล้านบาท ขาดทุน 25,800 ล้านบาท
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2019 เป็นต้นมา
Tesla รายงานผลกำไรที่เป็นบวกติดต่อกันมาแล้ว 5 ไตรมาส
ซึ่งก็จะทำให้ ปี 2020 Tesla มีกำไรสุทธิทั้งปี เป็นปีแรก..
นอกจากนั้น ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ก็เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
ปี 2018 ยอดส่งมอบ 245,240 คัน
ปี 2019 ยอดส่งมอบ 367,500 คัน
ปี 2020 ยอดส่งมอบ 499,550 คัน
เมื่อตลาดมองเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของ Tesla
บวกกับกระแสการเปลี่ยนผ่านของยานยนต์สู่การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
ก็เลยทำให้ในตอนนี้ มูลค่าบริษัทของ Tesla
พุ่งทะยานไปสูงกว่า 23 ล้านล้านบาท
ซึ่งเป็นการซื้อขายกันที่ P/E สูงกว่า 1,600 เท่าเลยทีเดียว
กลับมาที่เรื่องของ คุณ Brandon Smith..
เขาได้เปิดเผยกับ Bloomberg Wealth ว่า
เงินที่เขาแบ่งไปลงทุนกับ Tesla ตั้งแต่ปี 2017
รวมคร่าวๆ แล้วประมาณ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ
หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.7 ล้านบาท
และเขาไม่เคยขายหุ้นที่เขาซื้อออกไปเลย
จนมาวันนี้ มูลค่าหุ้น Tesla ที่เขาถืออยู่นั้น
มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงกว่า 30 ล้านบาทไปแล้ว
และทำให้เขาได้ฉายาว่า “Teslanaires”
หรือก็คือ คำที่ใช้เรียกนักลงทุน ที่ร่ำรวยจากการลงทุนในหุ้น Tesla นั่นเอง
และนี่ก็คือเรื่องราวของ Brandon Smith
คนธรรมดา ที่กลายเป็นเศรษฐี จากการถือหุ้น Tesla
ซึ่งตัวเขาเองก็ได้บอกในการให้สัมภาษณ์ว่า
“ไม่ได้คิดฝันเหมือนกันว่า จะเกิดเรื่องราวนี้ขึ้นกับตัวเอง”..
หมายเหตุ: บทความนี้ ไม่มีเจตนาชี้นำให้ซื้อ หรือขาย หุ้นของบริษัทนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://finance.yahoo.com/quote/TSLA/financials?p=TSLA
-https://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=1703
-https://www.reddit.com/r/wallstreetbets/comments/kfnfpz/this_32yearold_put_everything_he_had_in_tesla_and/
-https://twitter.com/business/status/1340382426783166470?lang=en
-https://companiesmarketcap.com/automakers/largest-automakers-by-market-cap/
-https://ir.tesla.com/
-https://www.mckinsey.com/industries/automotive-and-assembly/our-insights/mckinsey-electric-vehicle-index-europe-cushions-a-global-plunge-in-ev-sales
-https://www.annualreports.com/HostedData/AnnualReports/PDF/NASDAQ_TSLA_2019.pdf
-https://businessquant.com/tesla-inc-revenue-by-region