เลิกถามได้แล้วว่าอะไรดีกว่ากัน! ระหว่าง ทองคำ, แร่เงิน กับบิตคอยน์? ที่ต้องสนใจคือ “ตอนนี้คุณมีอยู่เท่าไหร่?” โรเบิร์ต คิโยซากิ
แรงไม่หยุดจริง ๆ ครับ สำหรับ Bitcoin ที่สุดท้ายก็ทะลุ All Time High ของปี 2017 ที่ทำไว้ 19,783.21 ดอลลาร์ (สำหรับราคาเป็นบาทยังไม่ทะลุ High เดิมจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ต่างกันครับ) เรียกว่าเร็วมาก ๆ จนน่าตกใจเพราะถ้าย้อนไปประมาณ 2-3 เดือนก่อน คุณยังเรียกราคาที่จุดนี้ว่า “ยอดเขาเอเวอเรสต์” อยู่เลย
สำหรับคนที่มีบิตคอยน์อยู่ คุณอาจกำลังกังวลว่าจะขายตอนนี้ดีไหม? ส่วนคนที่เล็งจะซื้อแต่ไม่ได้ซื้อสักทีก็เกิดอาการ “รู้งี้” กันใหญ่ แต่ถ้าจะให้ซื้อตอนนี้ก็ไม่กล้า เพราะกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนตอนปี 2017 ที่ราคาบิตคอยน์ขึ้นอยู่ดี ๆ ก็ร่วงลงมาอย่างแรงราวกับตกเหวจนราคาเหลือแค่ 3,400 ดอลลาร์ในเวลาไม่กี่เดือน
แต่คุณต้องประหลาดใจเมื่อล่าสุดนักลงทุนระดับโลกเจ้าของหนังสือพ่อรวยสอนลูกอย่างโรเบิร์ต คิโยซากิได้ให้ความเห็นในช่องยูทูบของเขาว่า เขาไม่แนะนำให้ขาย แถมยังบอกด้วยว่า “ตอนนี้คุณต้องซื้อเพิ่ม! ซื้อให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้”
ฟังดูสุดโต่งใช่ไหมครับ ราวกับว่าคุณกำลังโดนปั่นยังไงอย่างงั้น วันนี้ผมเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปดูเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังนี้ว่าเขาคิดอย่างไร? ถ้าคุณอ่านจบ คุณจะตัดสินใจได้ทันทีว่าคุณควรจะทำอย่างไรต่อไปกับบิตคอยน์ ทองคำและแร่เงิน
โรเบิร์ตนั้นให้เหตุผลว่าดอลลาร์กำลังจะถึงจุดจบ หลังจากนี้สกุลเงินดอลลาร์จะไม่มีค่าอีกต่อไป ตอนนี้คุณจึงต้องเร่งสะสมทองคำ, แร่เงิน (Silver) และบิตคอยน์
ซึ่งโรเบิร์ตได้อธิบายถึงกฎของเกรแฮมส์ (Gresham 's law) ที่กล่าวว่า เมื่อเงินที่มีค่าสูงกว่าความเป็นจริงเข้ามาในระบบจะทำให้เงินที่แท้จริงนั้นออกจากถูกนำออกจากระบบไปเก็บไว้
ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนคือเหรียญกษาปณ์ที่สมัยก่อนจะทำจากโลหะมีค่าได้แก่ ทองคำ, เงินและนิกเกิล แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มมีการผสมโลหะที่ราคาถูกกว่า ได้แก่ ทองแดง, เหล็ก, อลูมิเนียม ฯลฯ เข้ามามากขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือผู้คนจะนำเหรียญเก่าที่ทำจากโลหะมีค่าไปเก็บไว้และใช้เหรียญใหม่ที่ด้อยมูลค่ากว่าแทน
อีกกรณีหนึ่งคือทองคำที่เคยถูกใช้ในการหนุนหลังสกุลเงิน นั้นมีการปรับให้มูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 1933 และ 1945 จนสุดท้ายในปี 1971 ก็ยกเลิกระบบ Gold Standard ทำให้ดอลลาร์ได้กลายเป็นเงินปลอมโดยสมบูรณ์ ซึ่งเจ้าเงินปลอมนี้มันตอบสนองต่อความโลภได้ดี เพราะพวกเขาจะผลิตมันออกมาแค่ไหนก็ได้ ซึ่งพวกเขาก็พิมพ์มันเยอะขึ้น ๆ จนในปีนี้ปีเดียว (2020) พวกเขาพิมพ์เงินออกมามากกว่ากว่าเมื่อ 200 ปีที่ผ่านรวมกันเสียอีก
ประเด็นที่น่าสนใจคือคนที่เก็บเหรียญเก่า ๆ หรือทองคำไว้กลับรวยขึ้นเรื่อย ๆ (ในปี 2000 ทองคำมีราคา 250 $/Oz. และแร่เงินมีราคาประมาณ 2-3 $/Oz. ผ่านมา 20 ปีราคาเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า) ส่วนคนที่ออมเงินกลับจนลง แต่ตลกร้ายคือผู้คนยังชอบฝากเงินกับธนาคารกันมากกว่า
ถ้าคุณยังไม่เชื่อว่าดอลลาร์กำลังมีมูลค่าลดลง คุณลองใช้วิธีคำนวณมูลค่าจากกระแสเงินสดดูก็ได้ มันคือพิจารณาจากอัตราดอกเบี้ยนั่นเอง
ในปี 1974 การฝากเงินที่ธนาคารจะให้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 15 %ต่อปี ถ้าคุณเอาเงิน 1 ล้านดอลลาร์ไปฝากธนาคารคุณก็จะได้รับกระแสเงินสด 150,000 ดอลลาร์ต่อปี ถามว่าเยอะแค่ไหน? ก็มากพอสำหรับเกษียณ
แต่ในปีนี้ถ้าคุณฝากเงิน 1 ล้านดอลลาร์กับธนาคารคุณจะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 2% หรือ 20,000 ดอลลาร์ต่อปี แถมยังโดนหักภาษีไปอีก 5,000 ดอลลาร์ สุดท้ายปีนึงคุณจะได้รับเงิน 15,000 ดอลลาร์
นั่นหมายความว่านับตั้งแต่ปี 1974 จนถึงปัจจุบันเงินดอลลาร์สูญเสียมูลค่าไปแล้ว 90% คือคุณต้องเก็บเงินเพิ่มขึ้น 10 เท่าเพื่อให้เพียงพอต่อการเกษียณ และหลังจากนี้ดอลลาร์จะด้อยค่าหนักขึ้นเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่ธนาคารกลางสหรัฐยังคงปริ้นท์เงินมากขึ้นเป็นอัตราเร่ง
โรเบิร์ตบอกว่าต่อให้การระบาดของโควิด19 จบลงปัญหาก็ยังไม่หมดไป เนื่องจากตอนนี้หนี้สาธารณะของสหรัฐพุ่งสูงกว่า 130 %ต่อGDP แล้ว โดยเขามองว่าหนี้ที่มากเกิน 90 %ต่อGDP นั้นมันมากเกินกว่าที่จะชำระไหว โดยการเลือกตั้งนั้นไม่ได้ช่วยอะไร เพราะต่อให้ใครเป็นประธานาธิบดีก็ต้องปริ้นท์เงินออกมาแจกคนที่เดือดร้อน เพื่อไม่ให้เกิดการก่อจลาจลที่ไม่อาจประเมินความเสียหายได้
หากคุณยังเชื่อมั่นในรัฐบาลสหรัฐและธนาคารกลางที่พยายามอุ้มตลาดหุ้นไว้ก็ไม่เป็นไรนะ ให้คุณฝากเงินต่อไป แต่ถ้า “ไม่” คุณต้องซื้อทองคำ, แร่เงิน และบิตคอยน์ ไม่ต้องถามแล้วว่า “อะไรมันดีกว่ากัน?” คำถามสำคัญคือ “ตอนนี้คุณมีมันมากแค่ไหน?” เขายังเสริมอีกว่าไม่ค่อยแคร์หรอกว่าตอนนี้บิตคอยน์ราคาเท่าไหร่แล้ว เขาสนใจแค่ว่าตอนนี้เขามีบิตคอยน์อยู่ทั้งหมดกี่บิตคอยน์
สำหรับการขึ้นของบิตคอยน์ในรอบนี้โรเบิร์ตให้ความเห็นว่ามันเป็นสัญญาณที่ทำให้คุณรู้ว่าคุณต้องรีบซื้อมันให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ส่วนตัวแล้วโรเบิร์ตชอบบิตคอยน์ที่สุดเพราะเขาสามารถเก็บและใช้มันได้เพียงจากรหัสที่อยู่ในหัวของเขาเท่านั้น เทียบกับทองคำและแร่เงินที่เก็บรักษาและนำมาใช้ยาก
อย่างไรก็ตามโรเบิร์ตก็ไม่ได้ขัดอะไรหากคุณจะชอบทองคำหรือแร่เงินมากกว่า โดยเฉพาะแร่เงินที่เขามองว่าราคาของมันตอนนี้ต่ำเกินไปมาก ๆ แต่สิ่งที่เขาเน้นย้ำมากที่สุดคือให้คุณ “เลิกออมเงินได้แล้ว!”
ทั้งหมดนั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของโรเบิร์ต คิโยซากินะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ เพราะสุดท้ายคนที่ตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายก็คือตัวคุณเอง
เพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไรกับราคาบิตคอยน์ตอนนี้บ้างครับ กล้าซื้อเพิ่มไหม? หรือจะขายดี? มันถึงคราวอวสานของดอลลาร์จริง ๆ หรือ? โรเบิร์ตคิดมากไปหรือเปล่า? มาแชร์กันครับ
.
แอดปุง
แจ้งข่าว สัมมนารอบต่อไป
อสังหา 3in1 (อสังหาให้เช่า+อสังหาทางด่วน) รุ่น 10
วันที่ 9-10 มกราคม 2564
ดูรายละเอียดที่ลิงค์ในคอมเมนท์ครับ
ยอดเขาเอเวอเรสต์ 在 TODAY - วันนี้ในอดีต 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1953 ยอดเขาเอเวอร์เร ... 的推薦與評價
สุดยอดปรารถนาของนักปีนเขา มักต้องการพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ (Mount Everest) ให้ได้สักครั้งในชีวิต ยอดเขาเอเวอเรสต์ (Mount Everest) เป็นหนึ่งใน ... ... <看更多>