📱 เปรียบเทียบสเปค iPhone 13 Series ทั้ง 4 รุ่น มีอะไรดีขึ้นบ้าง
.
รอมานานแรมปี แถมต้องถ่างตาดูงานเปิดตัว ในที่สุด Apple ได้เปิดตัว iPhone 13 Series เสียที ซึ่งต้องบอกเลยว่าดีไซน์อะไรต่างๆ แทบจะไม่ต่างกันตัว iPhone 12 Series รุ่นเดิมเท่าไรนัก แถมไลน์อัปมาเหมือนเดิมอีกด้วยคือจะมี เพิ่มเติมคือทุกรุ่นความจุเริ่มต้น 128GB และสูงสุด 1TB
.
- iPhone 13 mini (128GB/256GB/512GB)
- iPhone 13 (128GB/256GB/512GB)
- iPhone 13 Pro (128GB/256GB/512GB/1TB)
- iPhone 13 Pro Max (128GB/256GB/512GB/1TB)
.
⭐ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลักๆ ทั้ง 4 รุ่นเลย คือ
.
- ทุกรุ่นใช้ชิปเซ็ตตัวใหม่เป็น Apple A15 Bionic แรงขึ้นกว่า 50% โดยซีพียูจะเป็นแบบ Hybrid มี 2 Core ประสิทธิภาพสูง และ 4 Core ประหยัดพลังงาน
- ความจุตัวเครื่องเริ่มต้นเป็น 128GB เท่ากันหมด
- แบตเตอรี่ตัวเครื่องทุกรุ่นอึดขึ้น 1.5-2.5 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับไลน์เดิม
- ทุกรุ่นกล้องหลังเลนส์หลักจะมีกันสั่น Sensor-Shift เหมือนกัน
.
🎉 สิ่งที่รุ่น Pro เหนือกว่ารุ่นธรรมดา หลักๆ คือ
.
- มีเลนส์ Tele เพิ่มเข้ามามีระยะ Optical Zoom X3
- หน้าจอ OLED ProMotion 120Hz (รุ่นธรรมดา 60Hz ปกติ)
- รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ ProRes
- ชิป A15 มี GPU 5-core (รุ่นธรรมดามี 4-core)
.
🛒 สำหรับราคา iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่นสามารถจองพรีออร์เดอร์ที่เว็บ Apple Store ประเทศได้เลยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2021 และวางจำหน่ายพร้อมกัน 8 ต.ค. 2021 ซึ่งแต่ละรุ่นมีราคาดังนี้คือ
.
- iPhone 13 min ราคา 25,900 บาท
- iPhone 13 ราคา 29,900 บาท
- iPhone 13 Pro ราคา 38,900 บาท
- iPhone 13 Pro Max ราคา 42,900 บาท
.
ใครที่สนใจก็ตอนนี้ก็ยังพอมีเวลาเก็บเงินอยู่จนถึงสิ้นเดือนนะครับ ซึ่งเอาจริงครั้งนี้ถือว่าประเทศไทยได้สิทธิ์จับจองเป็นเจ้าของไวกว่าทุกปี ปกติคือกว่าจะเข้าศูนย์ไทยจริงๆ คงต้องรอปลายเดือนตุลาคมหรือไม่ก็ต้นเดือนพฤศจิกายนโน้นครับ
.
ที่มา : https://www.apple.com/th/iphone/
https://droidsans.com/tag/iphone-13/
.
ป.ล. หลังจากบ่นไปตั้งแต่สมัย iPhone 12 ว่าทำไมไม่ให้จอ 120Hz มาสักทีในสุดก็มาบน iPhone 13 แต่พอร์ตชาร์จยังเป็น Lighning นะไม่ใช่ USB-C แบบนี้ Apple รักษ์โลกไม่จริงนี่หน่า... ถ้ารักจริงต้องใช้ร่วมกับคนอื่นได้สิ !
--------------------------------------------------
ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
YouTube : https://www.youtube.com/c/comcraftds
กรุ๊ป FB : https://www.facebook.com/groups/2594751244112180
同時也有21部Youtube影片,追蹤數超過0的網紅CarDebuts,也在其Youtube影片中提到,เปิดตัว ราคา พร้อมการ รีวิวเจาะลึก The new MG ZS 2020 Thailand ( เอ็มขี แซตเอส ) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับโแมใหม่ล่าสุด “NEW MG ZS” อีกขั้นของยนตกรรม SUV...
「ราคา 1.5 คือ」的推薦目錄:
- 關於ราคา 1.5 คือ 在 คอมคร้าบ Facebook 的最佳解答
- 關於ราคา 1.5 คือ 在 ZOZO by EMMY JAPAN Facebook 的最佳解答
- 關於ราคา 1.5 คือ 在 2how Facebook 的最佳貼文
- 關於ราคา 1.5 คือ 在 CarDebuts Youtube 的最佳貼文
- 關於ราคา 1.5 คือ 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
- 關於ราคา 1.5 คือ 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
- 關於ราคา 1.5 คือ 在 เปิดราคาที่ดิน “แยกอโศก” แพงอันดับ 5 ในกรุงเทพ ตารางวาละ 3 ล้าน ... 的評價
ราคา 1.5 คือ 在 ZOZO by EMMY JAPAN Facebook 的最佳解答
เสื้อแขนยาว เสื้อตาข่าย เสื้อไหมพรมถัก เท่ห์ๆ
ชิ้นน่ารักใส่แบบหลวม ๆ เซ็ตไอเทมสุดคุ้มกับเสื้อยืดด้านใน
😘 ราคา 450 บาท
● NiCORON ●
(นิโคลอน)
แบรนด์ลำลองขนาดพอดีตัว "NiCORON" ที่ผสมผสานเทรนด์ในแบบของคุณเองเพิ่ม
ภาพลักษณ์ที่ป๊อปและมีความสุขตามสไตล์สตรีทและสปอร์ต
เราสนับสนุนสาว ๆ ทุกวันด้วยสไตล์ที่หลากหลายที่เหมาะกับวันนั้น ๆ
มีสินค้าให้เลือก 3 สี คือ สีขาว, สีน้ำตาล , ม่วง
ขนาด วัดตามหน้าผ้า
Freesize
อก 44" ยาว 29"
วิธีดูแลรักษา
ซักมือ หรือซักเครื่อง น้ำเย็นหรือน้ำอุ่น ตั้งโปรแกรมได้ตามต้องการ
* ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในร้านรับประกันคุณภาพโปรดมั่นใจในการซื้อ
* เนื่องจากวิธีการวัดของแต่ละท่านแตกต่างกัน ทางร้านจึงวัดสินค้าตามขนาดของหน้าผ้า รบกวนลูกค้า + - เผื่อไว้ 1-1.5 นิ้ว หรือ
คำนวณ ไซส์ของลูกค้า เนื่องจากใส่หลวมพอดีตัวไม่เหมือนกันนะคะ
* สีของผลิตภัณฑ์ที่แสดงบนเว็บไซต์อาจมีความแตกต่างกันจากการตั้งค่าการแสดงผลสีของแต่ละหน้าจอ
ราคา 1.5 คือ 在 2how Facebook 的最佳貼文
Voigtlander กำลังจะประกาศเลนส์ใหม่ 2 ตัวสำหรับ Leica M-mount:
- Voigtlander NOKTON Vintage Line 50mm f/1.5 Aspherical II SC
- Voigtlander NOKTON Vintage Line 50mm f/1.5 Aspherical II MC
จะมีทั้งหมด 3 สี คือ สีดำ, สีเงิน (ราคา ¥98,000), และสี nickel black (ราคา ¥118,000) โดยคาดว่าจะออกมาช่วงเดือนตุลาคม 2020 นี้
//ม่วนใจ๋
ราคา 1.5 คือ 在 CarDebuts Youtube 的最佳貼文
เปิดตัว ราคา พร้อมการ รีวิวเจาะลึก The new MG ZS 2020 Thailand ( เอ็มขี แซตเอส ) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับโแมใหม่ล่าสุด
“NEW MG ZS” อีกขั้นของยนตกรรม SUV ที่มาพร้อมนิยาม “SMART UP สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ให้ความสปอร์ต หรูหรา ตามแบบฉบับยนตรกรรมอังกฤษที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นอีกขั้นทั้งในด้านสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) ความสะดวกสบาย (COMFORT) และความปลอดภัย (SAFETY) ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมาร์ทของทุกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
NEW MG ZS โดดเด่นด้วยสไตล์ความเป็นสปอร์ตและรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และการออกแบบเส้นสายด้านข้างแบบ British Shoulder Line ด้วยความโค้งมนที่เป็นเอกลักษณ์ของเอ็มจี เพิ่มความสมาร์ทด้วยไฟหน้าแบบ LED Projector ที่ควบคุมการเปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (DAYTIME RUNNING LIGHT) และไฟท้ายแบบ LED พร้อมเสริมความดุดันด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว
NEW MG ZS ได้รับการออกแบบภายในอย่างพิถีพิถันด้วยห้องโดยสารแบบสปอร์ตสีทูโทน และการใช้วัสดุ SOFT TOUCH ในการตกแต่ง โดดเด่นขึ้นอีกขั้นด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นและหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะขนาด 7 นิ้วดีไซน์ใหม่ (Digital Multi-Function Display) และหน้าจอ touch screen ขนาดใหญ่ 10 นิ้ว ซึ่งรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay และระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดียกับสมาร์ทโฟนระบบ Android พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลที่มีระบบกรองอากาศเพื่อกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมที่พักแขนด้านหน้า รวมไปถึงระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปุ่ม Push Start และยังคงสุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่แบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
NEW MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ 8 สปีด และสามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด คือ โหมด City สำหรับการขับขี่ในเมือง โหมด Standard สำหรับการขับขี่ทั่วไป และโหมด Sport สำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตที่จะให้ความเร้าใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น NEW MG ZS มาพร้อมช่วงล่างตามแบบ EURO TUNING SUSPENSION ที่ให้การทรงตัวอย่างดีเยี่ยม ผสานกับระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลงและช่วงล่างหลังแบบ Torsion Beam ที่จะทำให้การควบคุมในการขับขี่มีความลงตัวมากขึ้น
NEW MG ZS ยังคงมาพร้อมระบบปฎิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เอกสิทธิ์เฉพาะของเอ็มจี เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่สมาร์ทยิ่งขึ้น
• Smart Command ที่สามารถสั่งการระบบผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทยหรือควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมยกระดับความสมาร์ทเพื่อความปลอดภัย ด้วยระบบ Emergency Call ซึ่งจะมีการโทรและส่งข้อความระบุพิกัดรถไปยังเบอร์โทรที่ได้มีการตั้งค่าไว้เมื่อถุงลมนิรภัยในรถทำงานทำให้การเข้าช่วยเหลือทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• Smart Connect เชื่อมต่อโลกออนไลน์อย่างชาญฉลาดสามารถเลือกฟังเพลงได้ทั้งรูปแบบออนไลน์และสตรีมมิ่ง ระบบค้นหาร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว พร้อมนำทางและรายงานการจราจรแบบ Real Time รวมทั้งการอ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างทันเหตุการณ์
• Smart Check ที่จะทำให้การตรวจสอบรถของคุณง่ายดายยิ่งขึ้น โดยสามารถ ตรวจสอบสถานะรถยนต์และเตือนเมื่อมีสถานะผิดปกติ สั่งการล็อคหรือปลดล็อคประตูรถ ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car ช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงการบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะ ผ่าน MG Mobile Application
NEW MG ZS เป็นยนตรกรรมที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอย่างเต็มขั้น ใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ที่จะทำงานผสานกันเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ประกอบด้วย
• ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Brake System)
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control System)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ระบบจำกัดความเร็ว ASL (Active Speed Limit)
นอกจากนี้ NEW MG ZS ยังมาพร้อมระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) และ ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างรวม 6 จุด และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
NEW MG ZS มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น C+ D+ และรุ่นสูงสุดคือ X+ พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี คือ สีขาว Arctic White สีแดง Scarlet Red สีเงิน Silver Metallic และ สีดำ Black Knight โดยมีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แบ่งตามรุ่นย่อย ดังนี้
NEW MG ZS 2020 รุ่น C+ ราคา 689,000 บาท
NEW MG ZS 2020 รุ่น D+ ราคา 739,000 บาท
NEW MG ZS 2020 รุ่น X+ ราคา 799,000 บาท
ราคา 1.5 คือ 在 CarDebuts Youtube 的最佳解答
เปิดตัวในไทย ราคา The new Suzuki Ertiga Thailand 2020 ซูซูกิ เออร์ติก้า ใหม่ล่าสุด รุ่นไมเนอร์เชนจ์ อัพเกรดเพิ่ม พร้อมสีใหม่ สีแดง Burgundy Red
‘ซูซูกิ’ แนะนำ NEW SUZUKI ERTIGA รถครอบครัวอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง ใหม่ล่าสุด อัพเกรดความสะดวกสบาย เพิ่มสีใหม่ สีแดง Burgundy Red ในราคาเริ่มต้น 659,000 บาท
ในปีที่ผ่านมา SUZUKI ERTIGA สามารถทำยอดขาย ได้ทะลุเป้าหมายที่วางไว้ จำนวนกว่า 3,500 คัน ล่าสุด จึงเดินหน้าตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้ง ผ่านปรัชญาของแบรนด์ Suzuki…Way of Life! ด้วยการพัฒนายานยนต์ ให้มีคุณภาพเหนือกว่าไปอีกขั้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการแนะนำ New Suzuki ERTIGA รถครอบครัวอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง ที่ได้รับการปรับปรุง ให้รองรับ และตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ได้มากยิ่งขึ้น
New Suzuki ERTIGA ถูกนำเสนอภายใต้แนวคิด “SPARK IT UP จุดประกายอีกขั้นของชีวิต” ที่ยังคงเน้นการออกแบบตัวรถ ตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) พร้อมด้วยเส้นสาย ดีไซน์โฉบเฉี่ยวโดดเด่น ด้านข้างตัวรถ ให้ความรู้สึกเร้าใจ ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ ไฟตัดหมอกทรงกลม เสริมความสปอร์ตด้วยไฟท้าย LED และล้ออลูมิเนียมอัลลอยทูโทนลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว เติมเต็มอารมณ์ความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
ภายในยังคงเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง มอบความรู้สึกหรูหรา และเหนือกว่า ด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่กว้างขวาง โปร่งสบาย ใช้งานได้จริงทุกพื้นที่ มอบความคุ้มค่าสูงสุดแก่ผู้ใช้งาน โดยยังมีจุดอำนวยความสะดวกต่างๆในรถมากมาย เช่น ช่องเก็บอุปกรณ์ และพื้นที่สำหรับวางแก้วน้ำหลายตำแหน่ง พวงมาลัย D-shape ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพิ่มพื้นที่วางขามากขึ้น
เติมเต็มสู่ความสะดวกสบายมากยิ่งกว่าเดิม ด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ดีไซน์เรียบหรู พร้อมระบบไล่ฝ้า บริเวณกระจกบังลมด้านหลัง ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยมากขึ้น มาพร้อมด้วยจอระบบสัมผัสแบบใหม่ ขนาดใหญ่ 10 นิ้ว สะดวกในการใช้งาน และง่ายต่อการควบคุมมากขึ้น พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับระบบ Apple Carplay และ Android Auto พร้อมการสั่งงานด้วยเสียงจาก Siri หรือ Google Assistant และยังรองรับการดึงภาพจากโทรศัพท์มือถือขึ้นจอภาพ ผ่านช่องเชื่อมต่อ HDMI พร้อมด้วยกล้องมองภาพ ขณะถอยหลัง
ทั้งยังอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย อาทิ ช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ถึง 2 ตำแหน่ง สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start สัมผัสกับความเย็นสบายตลอดการเดินทาง ด้วยระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง พร้อมช่องวางเครื่องดื่ม ที่สามารถรักษาอุณหภูมิความเย็นของเครื่องดื่ม ได้นานยิ่งขึ้น
New Suzuki ERTIGA ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่อันเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์ K15B ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า PS ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4400 รอบ/นาที มาพร้อมแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะ และความปลอดภัย ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile เชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อความแข็งแกร่งและปลอดภัย อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทนทานด้วยโครงสร้างตัวถัง TECT ออกแบบจากเหล็กกล้า ทำให้ทนทานต่อการสึกหรอ พร้อมระบบ NVH ให้การขับขี่นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน พร้อมลดเสียงรบกวนตลอดเส้นทาง
มั่นใจในความปลอดภัย ด้วยระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันไม่ให้ล้อล็อก ขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล ระบบ ESP ที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งระบบช่วยออกตัว ขณะอยู่บนทางลาดชัน และมีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ISOFIX และ Top tether สำหรับเด็กอีกด้วย
New Suzuki ERTIGA ที่มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ด้วยการแนะนำสีใหม่ล่าสุด Burgundy Red พร้อมด้วยสีแดง Radiant Red, สีเทา Magma Gray, สีขาว Snow White และสีดำ Cool Black โดยมี 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น GL (AT) ในราคา 659,000 บาท และรุ่น GX (AT) ในราคา 725,000 บาท (สีขาว เพิ่ม 5,000 บาท) พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิ ทั่วประเทศ
ราคา 1.5 คือ 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
เปิดตัว ราคา All-New 2020 Toyota GR Yaris (โตโยต้า จีอาร์ ยาริส) ในงาน Tokyo Auto Salon 2020 ประเทศญี่ปุ่น
Toyota เปิดตัว GR Yaris รุ่นปี 2020 รถแฮทช์แบ็ค 3 ประตู 4 ที่นั่ง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบ ที่สื่อยานยนต์บางสือ ถือว่าทรงพลังที่สุดในโลก ในงาน Tokyo Auto Salon 2020 ที่เปิดฉากขึ้นในวันนี้ ด้วยการเปิดตัว 2 รุ่นย่อย คือ RZ "First Edition" และ RZ "High-performance First Edition โดย Toyota เริ่มเปิดรับจอง ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ไปจนถึง 30 มิถุนายน ศกนี้
Toyota GR Yaris เป็นผลงานการพัฒนาของสำนักแต่งในสังกัดของ Toyota อย่าง Gazoo Racing ร่วมกับ Tommi Mäkinen Racing ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4WD 'GR-Four' ซึ่งใช้พื้นฐานมาจากสถาปัตยกรรม TNGA ด้วยสมรรถนะ ถึง 272 แรงม้า PS แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร จากเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ รหัส G16E-GTS 3 สูบเรียง DOHC direct injection ความจุ 1,618 ซีซี ทรงพลังกว่าเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 3 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ของซูเปอร์คาร์ไฮบริด อย่าง BMW i8 ที่มีราคาสูงกว่า 10 ล้านบาทด้วยซ้ำ
และด้วยการที่ GR Yaris มีน้ำหนักเพียง 1280 กิโลกรัม ทำให้มีอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก ดีกว่ารถแฮทช์แบ็คอย่าง Volkswagen Goft GTI, Golf R, Hyundai i30N, Renault Megane RS, Subaru WRX รวมถึง WRX STI โดยมีเพียง Honda Civic TYPE R เท่านั้น ที่มีตัวเลขแรงม้าต่อน้ำหนักดีกว่า ซึ่งเกิดจากการใช้แผงตัวถังที่มีน้ำหนักเบา ในส่วนต่างๆ ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้า ประตูข้าง และประตูท้าย ที่ทำจากอลูมิเนียม ในขณะที่หลังคา ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มาพร้อมตัวถังในสไตล์ widebody และไม่มีชิ้นส่วนตัวถังใด ที่ใช้ร่วมกับ Yaris รุ่นมาตรฐาน 5 ประตู
Toyota ได้ออกแบบ GR Yaris เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนารถแข่ง FIA World Rally Championship โดยคาดหวังว่ารถรุ่นนี้ จะได้รับความนิยมในหมู่นักแข่ง ทั้งมืออาชีพและสมัครเล่น
ราคา 1.5 คือ 在 เปิดราคาที่ดิน “แยกอโศก” แพงอันดับ 5 ในกรุงเทพ ตารางวาละ 3 ล้าน ... 的推薦與評價
คือ ที่ดินแยกอโศก ตารางวาละ 2.9 ล้านบาท หรือ ไร่ละ 1160 ล้าน ... #แอชตันอโศก # ราคา ที่ดิน #แยกอโศก #ช่อง36 #ครบทุกข่าวเข้าใจคอกีฬา ... ... <看更多>