กรณีศึกษา เบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้ ธนาคาร CIMB THAI เป็นธนาคารที่ชนะใจนักลงทุน
CIMB THAI X ลงทุนแมน
การที่จะตัดสินใจใช้บริการหรือเป็นลูกค้าธนาคารใดธนาคารหนึ่ง
หลายคนมักเลือกธนาคารที่มีชื่อเสียง ตัดสินใจเลือกเพราะความคุ้นเคย หรือความสะดวกในการเข้าถึงสาขา ตรงนี้เองที่เป็นหนึ่งในเหตุผลทำให้ธนาคารขนาดใหญ่มีลูกค้าในมือจำนวนมหาศาล
แต่ในยุค Digital ทำให้การบริการทางการเงินเข้าถึงได้สะดวกสบาย ข้อจำกัดลดลง
ธนาคารยักษ์ใหญ่จึงไม่ได้เป็นผู้นำทางการเงินในทุกด้านอีกต่อไป
การแข่งขันนั้นกลับไปขึ้นกับความสามารถเฉพาะทาง ความคล่องตัวในการนำเสนอบริการทางการเงิน รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันมีธนาคารขนาดเล็กแห่งหนึ่ง เป็นผู้นำตลาดด้านการลงทุนหลากหลายประเภท ธนาคารนั้นมีชื่อว่า CIMB THAI
ที่น่าสนใจก็คือ ธนาคาร CIMB THAI จะเป็นผู้นำตลาดการลงทุนประเภทไหนบ้าง
แล้วมีวิธีการอย่างไร ที่ทำให้ธนาคารตัวเองโดดเด่นในสายตานักลงทุน
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง
ข้อมูล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า
ในปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา กลุ่ม ธนาคาร CIMB THAI มีส่วนแบ่งตลาดหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงอยู่ที่ 36.33% หรือคิดเป็นมูลค่า 17,707 ล้านบาท เป็นอันดับหนึ่งแซงหน้าทุกสถาบันการเงิน
และในปีเดียวกันข้อมูลจาก Thai BMA ระบุว่า ธนาคาร CIMB THAI มีส่วนแบ่ง 11.52% ครองอันดับหนึ่งในตลาดค้าตราสารหนี้ทุกประเภท ด้วยมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท
ที่น่าตื่นใจก็คือในผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่น ๆ CIMB THAI ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน
เช่น เป็นธนาคารที่จำหน่ายหุ้นกู้เอกชนตลาดแรกที่มีส่วนแบ่ง 12.28%
ครองตำแหน่งอันดับ 3 ในตลาดที่แข่งขันสูงนี้ ด้วยการนำ Digital มาผสานกับทีมงานผู้แนะนำการลงทุนที่แข็งแกร่ง ในการจัดจำหน่ายโดยไม่ต้องพึ่งจำนวนสาขาอีกต่อไป
หลายคนคงถามว่า CIMB THAI มีวิธีหรือกลยุทธ์เด็ดอะไร ที่ชนะใจนักลงทุน
สิ่งแรกที่เห็นชัดสุดก็น่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์การลงทุน ที่ครอบคลุม และตอบโจทย์
ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน โลกการเงินหมุนไปอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับมีผลิตภัณฑ์การเงินให้เลือกลงทุนหลากหลาย
การจะรับผลตอบแทนที่อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์หรือฝากประจำที่ 0.2-1.2% ต่อปี
ดูเป็นทางเลือกที่หลายคนมองว่า ไม่คุ้มค่าเท่าไร เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่น ๆ ที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากขึ้น ซึ่งผลตอบแทนจะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละผลิตภัณฑ์นั้น ๆ
นอกจากการลงทุนในกองทุนรวมที่ดูเหมือนจะคล้าย ๆ กันไปทุก ๆ ที่ ธนาคาร CIMB THAI ก็ได้สร้างสรรค์การลงทุนรูปแบบอื่น ๆ ให้นักลงทุนได้เลือกอีกหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น
หุ้นกู้อนุพันธ์ตระกูล Maxi ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ธนาคาร CIMB THAI ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดนี้ สิบกว่าปีมาแล้ว หรือ ผลิตภัณฑ์ KIKO ที่อ้างอิงกับราคาหุ้นใน SET50 ที่หลาย ๆ คนเริ่มจะคุ้นหู ธนาคาร CIMB THAI นี่เองที่นำมาเสนอให้นักลงทุนรู้จักเป็นที่แรก การลงทุนประเภทนี้ มีระยะเวลาการลงทุนตั้งแต่ 15 วันจนถึง 3 ปีโดยมีโอกาสสร้างผลตอบแทนตั้งแต่ 1.6-30% ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนจะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์อ้างอิงและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ธนาคาร CIMB THAI ก็กำลังพัฒนาหุ้นกู้อนุพันธ์ต่างประเทศ ร่วมกับทาง CIMB Group เพื่อ ต่อยอดการกระจายความเสี่ยง และ ผลตอบแทนที่สูงขึ้นให้แก่นักลงทุนเร็ว ๆ นี้
และใครที่ไม่พร้อมรับความเสี่ยงสูง ก็จะมี ตราสารหนี้ ซึ่งผู้ออกก็คือรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน โดยทาง ธนาคาร CIMB THAI จะเป็นตัวแทนขายให้
โดยมีระยะเวลาลงทุนตั้งแต่ 1 เดือนจนถึง 15 ปี โอกาสได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 0.5-5% ต่อปีขึ้นกับอายุและเรตติงหุ้นกู้ของแต่ละบริษัท
แน่นอนว่า ความสำเร็จเหล่านี้ไม่ได้มาง่าย ๆ ต้องใช้เวลา และความตั้งใจในการรวบรวมทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถมารวมกันไว้ในที่ที่เราเคยได้ยินกันว่า ห้องค้า
แล้วคนเหล่านี้เค้าทำอะไรกัน ห้องค้า ก็เหมือนหัวใจของธนาคาร ที่คอยสูบฉีดกระแสเงินไปในที่ที่สำคัญของระบบการเงินไทย ให้เกิดสภาพคล่องที่มีเสถียรภาพ เรื่องที่ใกล้ ๆ ตัวเราก็คือ เงินฝาก เงินกู้ รวมไปถึง หลักทรัพย์ ตราสารทางการเงิน ที่เราพูดถึงกันอยู่อีกด้วย ธนาคาร CIMB THAI นี้เอง ก็เป็นผู้เล่นหลักในการสร้างสภาพคล่องให้กับตราสารการลงทุนประเภทต่าง ๆ
แต่ถึงอย่างไร ก็ไม่อาจหลีกหนีความจริงได้ว่า การลงทุนทุกรูปแบบมี ความเสี่ยง ซ่อนอยู่ พอเป็นแบบนี้ก็เลยทำให้ทาง ธนาคาร CIMB THAI ให้ความสำคัญกับ คนห้องค้า ซึ่งเปรียบเสมือน กุนซือ ที่ทำงานใกล้ชิดกับตลาดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
นั่นแปลว่า เค้าจะมีข้อมูลอยู่ในมือมหาศาลและอัปเดตตลอดเวลา
ซึ่งก็จะนำข้อมูลต่าง ๆ มาวิเคราะห์และนำเสนอแก่นักลงทุนเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
ข้อดีก็คือจะทำให้นักลงทุนรู้จังหวะการเข้าลงทุนและขายทำกำไร
ในแต่ละครั้งให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
พอเป็นแบบนี้ ก็เลยทำให้ ธนาคาร CIMB THAI ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการที่สามารถเพิ่มสภาพคล่องการลงทุนให้แก่ลูกค้า
เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่ามีหลายต่อหลายครั้ง เมื่อนักลงทุนมองเห็นโอกาสใหม่ ๆ
พร้อมกับเชื่อว่านี่คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
สิ่งที่ตามมาก็คือ อยากขายทำกำไรทรัพย์สินเดิมที่มีอยู่
ก็เลยทำให้ทาง ธนาคาร CIMB THAI มีบริการซื้อขายพันธบัตรและหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดอายุ เพื่อให้ลูกค้าที่เป็นนักลงทุนมีกระแสเงินสดอยู่ในมือ เพื่อนำไปลงทุนครั้งใหม่ที่ตัวเองมองว่าน่าสนใจกว่านั่นเอง เข้ากับสโลแกนที่ว่า หุ้นกู้ดีดี มีได้ทุกวัน
นอกจากนี้ ก็ยังให้บริการ สินเชื่อ Wealth Credit Line เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุน โดยไม่ต้องเพิ่มเงินลงทุน สำหรับลูกค้าที่อาจจะยังไม่อยากขายหลักทรัพย์นั้น ๆ และสามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงินเพื่อต่อยอดการลงทุนได้อีกด้วย
จะเห็นได้ว่าวิธีคิดของธนาคาร CIMB THAI ในตลาดการลงทุน
หรือที่เรียกว่าธุรกิจ Wealth Management คือใช้วิธีดูแลนักลงทุนอย่างครบครัน
เช่น ผลิตภัณฑ์การเงินที่หลากหลาย, พนักงานให้คำปรึกษาด้านการลงทุนใกล้ชิด
จนถึงบริการทางเลือกให้ลูกค้าสลับปรับเปลี่ยนการลงทุนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา
เพราะแนวคิดหลักของ ธนาคาร CIMB THAI คือ Value Your Uniquess คุณค่าเหนือระดับในแบบฉบับการลงทุนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยการวางเป้าหมายให้ลูกค้าได้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงสุดในกรอบความเสี่ยงที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละท่าน เพื่อต่อยอดความมั่งคั่งของตัวเองไปเรื่อย ๆ ผลลัพธ์ก็คือ นักลงทุนก็จะเป็นลูกค้ากับทางธนาคารในระยะยาว
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าโลกการลงทุนและการเงินจะหมุนเร็วขึ้นกว่าในอดีตมากแค่ไหน
สถาบันการเงินกับลูกค้าที่เป็นนักลงทุน จะต้องเติบโตไปพร้อม ๆ กัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของ ธนาคาร CIMB THAI ได้ที่ 02-638-8277
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Youtube影片中提到,รู้จัก TAL Education บริษัทติวเตอร์ที่ใหญ่เท่าบริษัทน้ำมัน ลงทุนแมน ลงทุนในความรู้ การลงทุนในความรู้ไม่มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรกด Subscribe ที่ http...
「ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง」的推薦目錄:
- 關於ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุนแมน Youtube 的最佳解答
- 關於ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุน แมน - YouTube 的評價
- 關於ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 #ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง - YouTube 的評價
- 關於ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุนแมน - Home | Facebook 的評價
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
COWAY X ลงทุนแมน
สรุปโมเดล Subscription ธุรกิจเครื่องกรองน้ำ แบบเข้าใจง่าย ๆ
ใครจะคิดว่าวันหนึ่งเราอาจต้องใช้บริการเครื่องกรองน้ำแบบ Subscription
แต่...เรื่องนี้มันเกิดขึ้นจริงแล้ว
เมื่อมีบริษัทหนึ่งทำธุรกิจนี้อย่างจริงจังในประเทศไทย
บริษัทนั้นมีชื่อว่า COWAY ซึ่งทำธุรกิจเครื่องกรองน้ำมานานถึง 32 ปี
มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ พร้อมกับขยายธุรกิจไปยัง 60 ประเทศทั่วโลก
โดยเป็นองค์กรที่ได้รับรางวัลหนึ่งใน K-BPI (Korea Brand Power Index)
สำหรับเครื่องกรองน้ำถึง 23 ปีติดต่อกัน เครื่องฟอกอากาศและโถสุขภัณฑ์ 19 ปีติดต่อกัน
อีกทั้งยังได้รับ First Brand Awards 2021 สำหรับเครื่องกรองน้ำและเครื่องฟอกอากาศให้เช่า
ไม่พอเพียงเท่านั้นที่น่าสนใจอีกอย่าง COWAY เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำ
ที่มีนักวิจัยกว่า 270 คน ทำงานอยู่ในศูนย์วิจัยของบริษัทเพื่อพัฒนาสินค้า
ศูนย์วิจัยแห่งนี้ ได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย อีกทั้งยังได้การรับรองจากรัฐบาลเกาหลีใต้
ให้เป็นศูนย์ทดสอบคุณภาพน้ำและอากาศของประเทศ เลยทีเดียว
ก็ไม่แปลกที่ COWAY จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจเครื่องกรองน้ำ
เพียงแต่ ความน่าสนใจของเรื่องนี้มันอยู่ที่ว่าโมเดลธุรกิจเครื่องกรองน้ำแบบ Subscription เป็นอย่างไร
จะมาแก้ Pain Point ในการดื่มน้ำของเราได้อย่างไร
และ COWAY แตกต่างกับเครื่องกรองน้ำในตลาดทั่วไปอย่างไรบ้าง
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ว่า เครื่องกรองน้ำระดับพรีเมี่ยมที่ขายในท้องตลาดส่วนใหญ่คือระบบ Reverse Osmosis
หรือเรียกย่อ ๆ ว่า R.O. ซึ่งเป็นระบบกรองที่ละเอียดได้น้ำที่บริสุทธิ์
แต่...เรื่องมันไม่ได้จบแค่ตรงนี้ เพราะเชื่อว่าก็มีหลายต่อหลายครั้ง
ที่เรามักจะตั้งคำถามว่าน้ำที่เราดื่มไปนั้นสะอาดบริสุทธิ์ 100% แล้วหรือยัง
แม้จะเป็นน้ำที่ผ่านจากเครื่องกรองน้ำเกรด A ราคาแพงในตลาด แล้วก็ตาม
เหตุผล ก็น่าจะเป็นเพราะหลายคนไม่รู้วิธีการทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำอย่างถูกวิธี
ไส้กรองควรจะเปลี่ยนเมื่อไร แล้วไส้กรองแบบไหนที่คุณภาพดี
จนถึงเหตุผลคลาสสิกก็คือ ความขี้เกียจ นั่นเอง
ทีนี้ผู้บริโภคหลายคนก็น่าจะแอบคิดในใจ จะเป็นไปได้ไหม หากมีคนมาดูแลเรื่องจุกจิกเหล่านี้
เพื่อให้เรามั่นใจว่าน้ำทุกหยดที่ดื่มสะอาดบริสุทธิ์ 100%
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ก็เลยทำให้ COWAY คิดทำธุรกิจบริการเครื่องกรองน้ำแบบ Subscription
หรือบริการที่เมื่อซื้อเครื่องกรองน้ำจะมาพร้อมกับบริการดูแลทุกอย่างแบบครบวงจร
โดยเราต้องจ่ายค่าบริการเครื่องกรองน้ำรายเดือนเริ่มต้นที่ 590 บาท / เดือน
ลงทุนแมนขอแนะนำ
เครื่องกรองน้ำรุ่น NEO PLUS ดีไซน์เรียบหรู
เหมือนเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ ประดับห้อง
โดยเจ้า NEO PLUS เป็นเครื่องกรองระบบ R.O. ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชั้นสูง
ทำให้น้ำดื่มสะอาด 100% ไม่มีรสชาติเค็ม ๆ หรือรสอื่น ๆ เจือปน
ซึ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 นี้ ถือว่า
ตอบโจทย์จริงๆ ที่ชาวออฟฟิศอย่างเราต้อง Work From Home
ไม่ต้องลำบาก ไปแบกหรือยก เพื่อกักตุนกันให้เหนื่อย
ส่วนจุดขายจริง ๆ ที่จะมากำจัด Pain Point การใช้เครื่องกรองน้ำ มันอยู่ตรงนี้ต่างหาก
เพราะรู้หรือไม่ว่าหากเราใช้บริการ Subscription นอกจากเราไม่ต้องเสียเงินก้อนเพื่อซื้อเครื่องกรองน้ำ
ยังมีเจ้าหน้าที่ Cody ที่จะเข้ามาทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำเราทุก ๆ 2 เดือน
โดยจะใช้อุปกรณ์ล้างเครื่องกรองน้ำที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูงจากเกาหลีในการฆ่าเชื้อโรค
พร้อมกับเปลี่ยนไส้กรองคุณภาพเกรด A ในทุก ๆ 4 เดือน
พอเป็นแบบนี้ก็ทำให้เรามั่นใจว่าน้ำทุกหยดที่ดื่มสะอาดบริสุทธิ์
อีกทั้งหากเครื่องกรองน้ำมีปัญหา ก็จะมีช่างมาซ่อมและเปลี่ยนอะไหล่ฟรีทันที
พูดง่าย ๆ ก็คือเราเสียเงินแค่ค่าบริการรายเดือนอย่างเดียว ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกเลย
ทีนี้หลายคนคงตั้งคำถามว่ามันคุ้มค่าหรือเปล่า ?
สมมติหากเราเลือกใช้บริการเครื่องกรองน้ำรุ่น NeoPlus ในราคา 790 บาท / เดือน
ใน 1 เดือนมี 31 วัน เราจะเสียค่าบริการเฉลี่ยวันละประมาณ 25 บาท
และหากครอบครัวหนึ่งมีอยู่ 3 คน เฉลี่ยแล้วก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณคนละ 8.5 บาท/วัน
ที่น่าสนใจก็คือหากเราใช้บริการครบ 5 ปี เครื่องกรองน้ำก็จะเป็นกรรมสิทธิ์ของเราทันที
จึงไม่ต้องแปลกใจ หากเราดูจำนวนลูกค้าในประเทศเกาหลีใต้ที่ซื้อเครื่องกรองน้ำ COWAY
ที่มีมากกว่า 6.3 ล้านเครื่อง 80% นั้นจะเป็นการใช้บริการแบบ Subscription
ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างจากในบ้านเราที่เป็นการซื้อขาด
ที่น่าสนใจอีกเรื่องก็คือในโมเดล Subscription ของ COWAY นั้นไม่ได้มีแค่เครื่องกรองน้ำ
แต่ยังมีเครื่องฟอกอากาศอีกด้วย
ก็ต้องบอกว่าโมเดลเครื่องกรองน้ำ Subscription นับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจไม่น้อย
เพราะหากมองในภาพรวมก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่สร้างประโยชน์ให้กับทั้งสองฝ่าย
เจ้าของแบรนด์อย่าง COWAY ก็เพิ่มยอดขายได้มากขึ้นกว่าเดิม
เพราะไม่ได้พึ่งพาแค่รูปแบบขายเครื่องกรองน้ำขาดอย่างเดียวเหมือนอย่างแบรนด์อื่น ๆ
ส่วนในมุมลูกค้าก็ไม่ต้องวุ่นวายในการทำความสะอาดเครื่องกรองน้ำ
แถมยังมั่นใจได้ว่าน้ำที่เราดื่มทุกแก้ว ทุกช่วงเวลา สะอาดบริสุทธิ์ 100%
เรียกได้ว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่ Win กันทั้งสองฝ่าย…
COWAY มีโปรโมชั่น Trade-In นำเครื่องเก่ามาแลกเครื่องกรองน้ำ NeoPlus
ราคาพิเศษทันที 690/เดือน แถมฟรีค่าบริการ 6 เดือนสุดท้ายไปอีก
นอกจากจะได้ดื่มน้ำที่สะอาดไม่ขาดตอนแล้ว
ลูกค้าจะได้รับบริการที่สุดแสนประทับใจจากการ Subscription อย่างแน่นอน
#CowayThailand
#ดูแลสะอาดไม่ขาดตอน
#เครื่องกรองน้ำแบบSubscribe
#NeoPlus
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ X ลงทุนแมน
เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ กำลังขายคอนโด 4 โครงการ บนทำเลติดรถไฟฟ้าสายหลัก
เวลาที่เราจะเลือกซื้อคอนโด 1 ห้อง
คำถามแรกที่จะเกิดขึ้น “ใกล้รถไฟฟ้าไหม อยู่ห่างจากสถานีแค่ไหน”
เพียงแต่ปัจจุบันรถไฟฟ้า ก็ขยายเส้นทางวิ่งไปไกลกว่าเดิมถึงชานเมือง และปริมณฑล
และทำเลชานเมืองเหล่านี้ ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรจากเดิมมากนัก
หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ นอกจากรถไฟฟ้า ก็ไม่ได้มีอะไรดึงดูดให้คนอยากจะมาอยู่อาศัย
กลับกัน ทำเลใจกลางเมือง หรือเขยิบออกมานิดหน่อย แม้จะมีโครงการใหม่ ๆ เกิดขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ในหลาย ๆ โครงการก็ขายหมดมาโดยตลอด
จะมีแค่ช่วงระบาดของโควิด 19 ที่ประสบปัญหากับยอดขายจากเศรษฐกิจถดถอย
จนถึงนักลงทุนจากต่างชาติที่ไม่สามารถเข้ามาในประเทศได้
แล้วทำไม คอนโดใจกลางเมืองยังได้รับความนิยมแม้จะมีราคาขายที่สูงกว่า ?
นั่นเพราะทำเลใจกลางเมืองนอกจากติดรถไฟฟ้าแล้วนั้น
สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ข้างทุกอย่างมันตอบโจทย์ชีวิตเราได้หมด
ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การค้า, ร้านอาหารอร่อย, สถานบันเทิง, ร้านค้าและโรงเรียนชื่อดัง
ที่น่าสนใจก็คือเวลานี้ กำลังมีหนึ่งบริษัทอสังหาฯ ที่มีคอนโดใน 4 ทำเลทองติดรถไฟฟ้า
พร้อมกับมีราคาขายเริ่มต้นให้เลือกตั้งแต่ระดับ 2 ล้าน จนถึง 66 ล้านบาท
นั่นก็คือ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) หรือ MJD
พอได้ยินแบบนี้ ก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นมามากมาย
MJD คือใคร?
แล้ว 4 โครงการที่เปิดขายนั้น มีความคุ้มค่าแค่ไหน?
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่น เรามารู้จัก บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) หรือเรียกสั้นๆ ว่า MJD
พอได้ยินชื่อบริษัทนี้ หลายคนก็น่าจะพอรู้ว่าบริษัทแห่งนี้เป็นของตระกูล พูลวรลักษณ์
เจ้าของโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ นั่นเอง
โดย MJD ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2542 พร้อมกับสร้างชื่อเสียง ด้วยการพัฒนาโครงการคอนโดระดับ High-end ติดทำเลรถไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน
ที่น่าสนใจคือ ในหลาย ๆ โครงการที่ผ่านมา ก็สร้างกระแส Sold Out อย่างรวดเร็ว
เป็นการตอกย้ำว่า MJD เป็นผู้เชี่ยวชาญคอนโดมิเนียมระดับ High-end
แล้ว 4 โครงการใหม่ที่เปิดขายอยู่ในทำเลไหนบ้าง
Muniq Sukhumvit 23 (มิวนิค สุขุมวิท 23) เป็นคอนโดหรูสูง 36 ชั้น 1 อาคารมี 201 ยูนิต
โดยใช้แนวคิด ‘LIVE AS ART’ สื่อถึงการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ มีรสนิยม
อีกทั้งส่วนกลางก็ยังครบครันและถูกตกแต่งรายล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียว
โดยตอนนี้สร้างเสร็จ 100% และพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที
โดยมีราคาขายเริ่มต้นที่ 6.9 ล้านบาท 1 ห้องนอน 34.7 ตารางเมตร
ไปจนถึงห้อง The Collection หรือมินิเพนท์เฮ้าส์ ราคา 66 ล้านบาท
ที่น่าสนใจก็คือ Muniq Sukhumvit 23 ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่อยู่ในทำเลที่ดีที่สุดของกรุงเทพ
เพราะรู้หรือไม่ โครงการนี้อยู่ห่างรถไฟฟ้า BTS อโศกเพียงแค่ 250 เมตรเท่านั้น
ซึ่งเป็นสถานี Interchange เป็นจุดศูนย์กลางที่มีทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT วิ่งผ่าน
ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้เราสามารถเดินทางไปไหนได้สะดวกรวดเร็วกว่า
หากเทียบกับคอนโดที่อยู่ในทำเลสถานีรถไฟฟ้าอื่น ๆ นั่นเอง
อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ โครงการยังร่ายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ทั้งศูนย์การค้า Emquartier, Terminal 21, ร้านอาหารชื่อดัง, โรงแรมหรู, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน
เรียกว่าไม่ว่าจะไปทางไหน เวลาใด ก็มีแต่สถานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
โครงการที่สองมีชื่อว่า Maru Ladprao 15 (มารุ ลาดพร้าว 15) โดยมีราคาเริ่มต้น 1 ห้องนอนอยู่ที่ 3.8 ล้านบาท
เป็นอาคารสูง 30 ชั้นและมี 332 ยูนิต โดยอยู่ห่างจาก MRT ลาดพร้าว แค่ 50 เมตรเท่านั้น
ที่น่าสนใจก็คือ โครงการนี้กำลังเอาใจคนรักน้องหมาน้องแมว
เมื่ออนุญาตให้เจ้าของห้องสามารถเลี้ยงได้ ซึ่งต้องบอกว่ามีไม่กี่โครงการที่ทำเช่นนี้
แล้วรู้หรือไม่ว่า ทำเลของโครงการนี้ก็โดดเด่นไม่แพ้ทำเลอื่น ๆ
เราสามารถเดินไป กูร์เมต์ มาร์เก็ต และ MRT ลาดพร้าว ที่อยู่ใกล้ ๆ 50 เมตร รวมถึง BigC Extra แค่ 350 เมตร
หรือนั่งรถไฟฟ้า MRT ไปแป๊บเดียว แค่ 1 สถานี ก็ถึง เซ็นทรัล ลาดพร้าว
แล้วไม่ใช่แค่นั้น เพราะคอนโดแห่งนี้ก็ใกล้สถานศึกษา และโรงพยาบาลหลายแห่ง
จนถึงยังมีร้านอาหารสตรีตฟูดชื่อดังมากมาย
ส่วนโครงการที่ 3 ก็ใช้ชื่อว่า Maru แต่เปลี่ยนทำเลมาสู่ย่านเอกมัย โดย Maru Ekkamai 2 (มารุ เอกมัย 2) มีราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท
ตรงนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะการจะหาคอนโดราคาระดับนี้แถมใกล้ BTS เอกมัยเพียง 450 เมตร
และใกล้กับ เกทเวย์ เอกมัย, เมเจอร์ สุขุมวิท และ ดองกิ มอลล์ รวมถึงสถานที่อื่น ๆ อีกมากมาย
ทำเลนี้ถือว่าเป็นอะไรที่หายากเรียกว่าเป็น Rare Item เลยก็ว่าได้
ที่น่าสนใจ ที่ Maru Ekkamai 2 (มารุ เอกมัย 2) นอกจากเจ้าของห้องจะสามารถเลี้ยงสัตว์ได้เหมือนโครงการ Maru Ladprao 15 (มารุ ลาดพร้าว 15) แล้ว ในตัวโครงการก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้า ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
สำหรับโครงการสุดท้ายคือ Miles Ratchada-Ladprao (ไมลส์ รัชดา - ลาดพร้าว) ตั้งอยู่ลาดพร้าวซอย 26
โดยคาดว่าน่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2567
ความน่าสนใจโครงการนี้คือ เราแทบจะไม่เคยเห็นบริษัท MJD สร้างคอนโดในราคา 2 ล้านบาท
เพราะโดยปกติแล้วบริษัทแห่งนี้ ภาพจำที่เราคุ้นเคยก็คือเป็นบริษัทที่พัฒนาแต่คอนโดระดับ Hi-End
นั่นแปลว่าโครงการ Miles รัชดา-ลาดพร้าวซอย 26 จะทำให้ผู้ซื้อได้คอนโดในราคาที่ถูกลง
แต่มาตรฐานและคุณภาพงานก่อสร้างแทบจะใกล้เคียงกับคอนโดระดับ Hi-End
ที่สำคัญที่สุดโครงการนี้ เราแค่เดินไปเพียง 550 เมตรก็จะถึงรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว
อีกทั้งทำเลแห่งนี้ ความสะดวกสบายในการเดินทางก็ไม่ต่างจากโครงการ MARU ลาดพร้าว 15
ไม่ว่าเราจะไป เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์, ตลาดนัดจตุจักร ก็เดินทางได้สะดวก
จะเห็นว่าทั้ง 4 โครงการเราสามารถเดินทางไปไหนได้สะดวกสบายและครบครัน
อีกทั้งราคาขายแต่ละโครงการก็รู้สึกถึงความ คุ้มค่า ตามสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังซื้ออ่อนแอ
ซึ่งถ้าไม่ซื้อในตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าโอกาสดี ๆ อย่างนี้จะกลับมาอีกเมื่อไร
เพราะทั้ง 4 โครงการไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือแม้แต่ซื้อเพื่อปล่อยให้เช่า
จนถึงอาจซื้อไว้เพื่อเป็นทรัพย์สินให้ลูกหลานในอนาคต
ไม่ว่าจะลงทุนในรูปแบบไหน ก็ดูคุ้มค่า
เพราะในอนาคตหากสถานการณ์ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ
การจะหาคอนโดทำเลติดรถไฟฟ้าสายหลักในราคาที่จับต้องได้ ก็คงหายากเช่นกัน..
สำหรับคนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่
Muniq Sukhumvit 23 : https://bit.ly/3a9XBOn
Maru Ladprao 15 : https://bit.ly/3cWFe0P
Maru Ekkamai 2 : https://bit.ly/3uxW782
Miles : https://bit.ly/31W4deI
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุนแมน Youtube 的最佳解答
รู้จัก TAL Education บริษัทติวเตอร์ที่ใหญ่เท่าบริษัทน้ำมัน
ลงทุนแมน ลงทุนในความรู้
การลงทุนในความรู้ไม่มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรกด Subscribe ที่ https://www.youtube.com/longtunman
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website -https://www.longtunman.com/
Blockdit - https://www.blockdit.com/longtunman
Facebook - http://facebook.com/longtunman
Twitter - http://twitter.com/longtunman
Instagram - http://instagram.com/longtunman
Line - http://page.line.me/longtunman
YouTube - https://www.youtube.com/longtunman
Spotify - http://open.spotify.com/show/4jz0qVn1...
Soundcloud - http://soundcloud.com/longtunman
Apple Podcasts - http://podcasts.apple.com/th/podcast/...
Clubhouse - @longtunman
#ลงทุนแมน #ห้องประชุมลงทุนแมน #ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง #BREAKTHROUGH #THEBRIEFCASE #longtunman #ลงทุนแมนORIGINALS #ลงทุนเกิร์ลTALK #ลงทุนเกิร์ล
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 #ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง - YouTube 的推薦與評價
#ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง. 728 videos • 3 channels. ... <看更多>
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุนแมน - Home | Facebook 的推薦與評價
… More ทำไมนักลงทุนทั่วโลกต่างก็สนใจลงทุนในหุ้นนอกตลาดเหล่านี้ ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง Live วันนี้ชวน ดร.ตรีพล ภูมิ ... ... <看更多>
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง 在 ลงทุน แมน - YouTube 的推薦與評價
... <看更多>