สรุปวิธีโกง ทุกรูปแบบ ในวงการ การเงิน / โดย ลงทุนแมน
ในปี 1821 หรือย้อนกลับไป 200 ปีก่อน
อดีตทหารและนักสำรวจดินแดนชาวสกอตแลนด์
นามว่า “Gregor MacGregor” ได้อ้างว่าตนเองได้ค้นพบประเทศ Poyais (โปเยส)
ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และได้นำสิทธิ์การเป็นเจ้าของพื้นที่ในประเทศ
ไปเสนอขายแก่นักลงทุนชาวอังกฤษและฝรั่งเศส
แต่ท้ายที่สุดแล้วประเทศ Poyais นั้น กลับไม่มีอยู่จริง..
และแม้ว่าวันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป กลโกงเหล่านี้กลับไม่ได้หายไป
แต่กลับวิวัฒนาการตามยุคตามสมัย เปลี่ยนจากประเทศเป็นสินค้า
เปลี่ยนจากสินค้าเป็นผลตอบแทนที่สวยหรูจากการลงทุน
เมื่อไม่นานมานี้ Netflix ได้ออกสารคดีเกี่ยวกับการเงิน “Money, Explained”
โดยมีตอนย่อยที่ชื่อว่า Get Rich Quick ซึ่งก็ได้เล่าถึงกลโกงทางการเงิน
ในรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
แล้วทุกวันนี้ เรากำลังเผชิญกับกลโกงอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
“เพียงแค่ฝากเงินกับเรา การันตีผลตอบแทนถึง 20% ต่อเดือน”
“นี่คือสินทรัพย์รูปแบบใหม่ ที่มีเทคโนโลยีอยู่เบื้องหลัง ผู้ที่ไม่ลงทุนคือคนล้าหลัง”
นับเป็นหลายศตวรรษแล้ว ที่คำโฆษณาเกินจริงเหล่านี้อยู่กับเรามาโดยตลอด
ตั้งแต่การบอกปากต่อปากวิวัฒนาการมาเป็นโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ตในยุคปัจจุบัน
รู้ไหมว่า โดยปกติแล้วคนเรามักจะคิดว่าตัวเองรู้ทันคำโกหกของคนอื่นเสมอ
ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว เราเองอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น
หากย้อนดูเฉพาะประเทศไทยที่ผ่านมา
จะเห็นได้ว่าเจอการฉ้อโกงมาตลอด
แม้จะมีเปลี่ยนรูปแบบที่ต่างกันออกไป
แต่ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกันก็คือ ผู้เสียหายที่ยังคงติดกับดักจำนวนมากอยู่เสมอ
ตั้งแต่เหตุการณ์ แชร์แม่ชม้อย, แชร์ชาร์เตอร์, แชร์แม่มณี, Forex 3D, ซินแสโชกุน
และล่าสุดก็น่าจะเป็น “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ที่หลอกลวงในรูปแบบของทัวร์
หากนับมูลค่าความเสียหายทั้งหมด รวมกันก็น่าจะเกินกว่าหมื่นล้านกว่าบาท
ซึ่งก็เป็นหลักฐานสำคัญว่า
สุดท้ายแล้วคนเราก็ยังไม่สามารถตามทันคำโกหกของผู้อื่น
ดังนั้นเพื่อเป็นการไม่ประมาท เราจึงควรรู้จักกับการโกงในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งแบ่งออกเป็น
วิธีที่หนึ่งคือ “Advance Fee”
กลวิธีจ่ายเงินก่อน เพื่อแลกกับเงินก้อนใหญ่ทีหลัง
เป็นวิธีหลอกลวงเอาเงินก้อนหนึ่ง และหลังจากนั้นก็จะหายไปเลย
มักพบทางสังคมออนไลน์ อย่าง Facebook หรือตามอีเมลที่ส่งมา
เราอาจเคยเจอกับประโยคว่า
“คุณได้รับรางวัลเงินล้าน เพียงแค่โอนเงินค่าธรรมเนียมมา รับทันที”
หรือ “คุณโอนเงินมาให้ก่อน แล้วเราจะส่งใบแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ให้ภายหลัง”
สิ่งเหล่านี้ก็คือ กลโกงแบบ Advance Fee นั่นเอง
รู้หรือไม่ว่าถึงกลวิธีนี้จะดูแสนเชยก็ตาม แต่ยังสามารถกอบโกยได้มหาศาลทั่วทุกมุมโลก
วิธีถัดมาก็คือ “Pump & Dump” หรือกลวิธีลากขึ้นไปเชือด
ซึ่งเป็นกลโกงยอดนิยมในปัจจุบันอย่างมาก
โดยวิธีนี้จะหลอกให้คนเข้าไปลงทุนในสิ่งที่ไม่มีค่าหรือไร้ค่า
หลังจากนั้นเหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังการโกง จะคอยปั่นราคาให้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
และทยอยขายเมื่อราคาเริ่มถึงจุดที่จะไปต่อไม่รอด
ปัจจุบันมักพบเจอกลวิธีนี้ในวงการซื้อขายหุ้นรวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยขั้นตอนคือจะมีคนส่งสัญญาณปั่นราคาเข้าไปในแอปส่งข้อความต่าง ๆ
เช่น Telegram เพื่อให้คนวงในเข้าไปซื้อสินทรัพย์ก่อน แล้วดันราคาให้พุ่งขึ้นสูง
หลังจากนั้นคนอื่นจะคิดว่าสินทรัพย์นี้กำลังเป็นที่นิยมและอยู่ในช่วงขาขึ้น
จึงตามเข้าไปซื้อด้วย และเวลาต่อมานี้เองที่เหล่าคนวงในจะขายทำกำไร วัฏจักรการโกงจึงสิ้นสุดลง
อีกวิธีซึ่งอยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน
ก็คือ Ponzi Scheme หรือธุรกิจ “แชร์ลูกโซ่” แบบพอนซี
โดยชื่อนี้ตั้งตามชาร์ลส์ พอนซี ชาวอิตาลีที่อพยพมาสหรัฐอเมริกา ในปี 1920
ซึ่งเขาอ้างกับผู้ที่มาลงทุนด้วยว่า จะได้ผลตอบแทน 50% ภายใน 45 วัน
แต่ถ้ารอถึง 6 เดือน จะได้ผลตอบแทนถึง 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงคือ เขาแค่เอาเงินของนักลงทุน
รายใหม่มาจ่ายให้รายเก่าไปเรื่อย ๆ เช่น สมมติให้ A เป็นสมาชิกก่อน B
เมื่อ B นำเงินเข้ามาลงทุน เงินส่วนนั้นก็จะถูกกระจายไปยัง A
และเมื่อ C เข้ามาเป็นสมาชิกลำดับถัดมา เงินในส่วนนี้เองก็กระจายไปยัง A และ B
ซึ่งปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อถึงจุดจุดหนึ่งที่หมุนเงินในระบบ
และสร้างผลตอบแทนให้กับคนที่เข้ามาลงทุนไม่ทัน
นั่นจึงทำให้แชร์ลูกโซ่ล้มลงไป
เป็นกรณีเดียวกับแชร์ลูกโซ่ครั้งใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา ในปี 2008
Bernie Madoff ที่รับประกันว่านักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนปีละ 10-15%
ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วกองทุนของเขาไม่สามารถทำได้
แต่ใช้เงินจากนักลงทุนรายใหม่มาจ่ายรายเก่าเท่านั้นเอง
ซึ่งการฉ้อโกงส่วนใหญ่ในประเทศไทย ก็ถูกจัดอยู่ในประเภทนี้
เช่น แชร์แม่ชม้อย หรือแชร์ชาร์เตอร์
อีกรูปแบบของแชร์ลูกโซ่
จะอยู่ในรูปแบบของ Pyramid หรือธุรกิจ “แชร์ลูกโซ่” แบบเครือข่าย
รูปแบบของกลโกงนี้จะแตกต่างจากพอนซีตรงที่ว่า
สมาชิกแต่ละคนจะเป็นคนหาลูกข่ายของตัวเอง
เมื่อเทียบกับพอนซีจะมีผู้บงการเพียงคนที่จัดระดมทุน
โดยสมาชิกในเครือจะแค่รอกำไรเข้ามา
ซึ่งทั้ง 2 วิธี จะเริ่มมีปัญหาเดียวกัน เมื่อไม่สามารถหาผู้เข้ามาร่วมในวงคนต่อไปได้
บางบริษัทที่ทำธุรกิจเครือข่ายหรือขายตรง
ก็ใช้วิธีการดึงคนเข้าแบบนี้เช่นกัน
จากตอนแรกโปรโมตขายสินค้า ต่อมาก็ชวนขายของด้วยกัน
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม MLM กลับเป็นธุรกิจถูกกฎหมาย
เพราะมันมีกติกาอยู่ว่าตราบใดที่เงินจากการขายสินค้ามากกว่าค่าธรรมเนียมการเข้า
จะยังไม่ถือเป็นแชร์ลูกโซ่นั่นเอง
กรณีในประเทศไทยคือ แชร์บลิสเชอร์
ที่ถูกจัดตั้งโดยบริษัท บลิสเชอร์ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด
ซึ่งให้บริการที่พักสำหรับผู้ที่สมัครสมาชิกในราคาพิเศษ
และหากสมาชิกรายอื่นสามารถหาคนมาสมัครสมาชิกเพิ่มได้ จะมีค่าตอบแทนด้วย
แต่เหตุการณ์ก็ต้องจบลง
เมื่อพบว่าบลิสเชอร์ไม่มีที่พักของตนเองเลย
บัตรสมาชิกไม่สามารถใช้งานได้จริง
สุดท้ายแล้วแชร์ลูกโซ่รายนี้ก็ล่มสลายหายไป ซึ่งสร้างความเสียหาย 800 ล้านบาท
นอกจากนั้นการมีเฉพาะกลโกงอย่างเดียว จะไม่เพียงพอสำหรับหลอกล่อให้ผู้คนเข้ามา
คนฉ้อโกงเหล่านี้จึงทำการตลาดควบคู่กันไปด้วย
เช่น Fantastic Promise คำสัญญาที่สวยหรู
“คุณสามารถสร้างรายได้มหาศาล โดยไม่ต้องสร้างสินค้าสักชิ้น”
ทำให้คนเริ่มสนใจ ด้วยวิธีการที่ดูเรียบง่าย แต่ได้ผลตอบแทนที่สูง
Compelling Story นำเสนอเรื่องราวจากดินสู่ดาว
“จากพนักงานออฟฟิศ เงินเดือน 15,000 บาท สู่การเป็นนายของตัวเองที่มีเงินเดือนเป็นล้าน”
เพื่อสร้างความหวัง ซึ่งทำให้หลายคนคิดว่าตัวเองก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
Social Proof มีหลักฐานยืนยันจากสมาชิก
“แค่ผมทำตามที่เขาสอน ผมก็สามารถจับเงินล้านได้ภายในปีเดียวเท่านั้น”
เพราะพฤติกรรมคนส่วนใหญ่มักเชื่อรีวิวจากลูกค้ากันเอง
Sense of Urgency สร้างความรู้สึกรีบร้อน
“รับสมาชิกเพียง 30 คนเท่านั้น รอบครั้งก่อนเต็มเร็วมาก สมัครด่วนหากไม่อยากพลาดโอกาส”
คำโปรยที่ส่งผลให้การตัดสินใจของเราเน้นการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล
Not a Scam การบอกว่าตัวเองไม่ใช่กลโกง
เพื่อเป็นการยืนยันให้เหล่าสมาชิกในเครือข่ายมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
แม้ความจริงจะรู้อยู่แล้ว ว่าตัวเองเป็น Scam
ซึ่งวิธีนี้นี่เอง OneCoin เคยใช้บอกกลุ่มผู้ถือเหรียญดิจิทัลของตน
ก่อนที่จะถูกจับได้ว่าเป็นเพียงแชร์ลูกโซ่เท่านั้น
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
งานวิจัยหนึ่งที่สำรวจกลุ่มผู้เสียหายจากการโดนฉ้อโกง
เพื่อหาลักษณะร่วมกันของกลุ่มคนเหล่านี้
ปรากฏว่า กลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีอะไรที่สัมพันธ์กันเลย
ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ความฉลาด หรืออายุ
เรื่องนี้ถูกตอกย้ำจากความจริงที่ว่า แม้แต่ Stephen Greenspan ผู้เขียนหนังสือ Annals of Gullibility หนังสือที่ว่าด้วยเรื่องการจับผิดกลโกง ก็ยังเคยตกเป็นเหยื่อของ Bernie Madoff แชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา
แล้วถ้าหากถามว่า กลโกงเหล่านี้ทำไมมันยังอยู่
แถมยังสามารถวิวัฒนาการตามรูปแบบของสังคม
ที่เปลี่ยนไปได้มายาวนานเป็นร้อยปี
จากประเทศโปเยสยุคที่หลอกขายพื้นที่บนประเทศที่ไม่มีอยู่จริง
มาจนถึงยุคของเรา ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นเครื่องมือ
คำตอบข้อเดียว ก็คือ “ความโลภ” ของมนุษย์ที่ยังคงฝังอยู่ในทุกยุคสมัย
ทำให้มนุษย์เลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่สวยหรู แม้มันเป็นเรื่องหลอกลวง
ดังนั้น ก่อนที่เราจะเข้าไปลงทุนในอะไรก็ตาม
โปรดอย่าเริ่มต้นจากการดูว่าเราจะได้รับผลตอบแทนเท่าไร
จุดเริ่มต้นที่ควรจะเป็นก็คือ การลงทุนครั้งนี้
มันจะสร้างความเสียหายให้กับเรามากสุดได้เท่าไร ถ้ามันไม่เป็นความจริง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.investor.gov/protect-your-investments/fraud/types-fraud/advance-fee-fraud
-https://www.investopedia.com/terms/p/ponzischeme.asp
-https://www.investopedia.com/insights/what-is-a-pyramid-scheme/
-https://www.investopedia.com/terms/p/pumpanddump.asp
-https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/938866
-https://www.netflix.com/title/81345769?s=i&trkid=14170286
-https://www.bbc.com/thai/thailand-39612824
「ลงทุนแมน เงินเดือน」的推薦目錄:
- 關於ลงทุนแมน เงินเดือน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ลงทุนแมน เงินเดือน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於ลงทุนแมน เงินเดือน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ลงทุนแมน เงินเดือน 在 ลงทุนแมน - ลงทุนแมน เปิดรับสมัครงานรอบใหม่แล้ว! ในตำแหน่ง... 的評價
- 關於ลงทุนแมน เงินเดือน 在 สองพี่น้องอายุ 14 และ 9 ปี ขุดคริปโทเคอร์เรนซี ได้เงินเดือนละล้าน 的評價
ลงทุนแมน เงินเดือน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
รัสเซีย กำลังกลับมาทวงบัลลังก์ โลกเทคโนโลยี /โดย ลงทุนแมน
วัคซีนสปุตนิก วี (Sputnik V) เป็นวัคซีนป้องกันโควิด 19 ที่พัฒนาขึ้นโดยสถาบัน Gamaleya
ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย และผลิตโดยใช้เทคโนโลยีเวกเตอร์ไวรัส (Viral Vector) เป็นตัวนำสารพันธุกรรมเข้าสู่เซลล์มนุษย์
โดยตัว V ในชื่อ มีที่มาจากคำว่า Vaccine
ไม่ใช่สัญลักษณ์ของเลข 5 ในแบบโรมัน อย่างที่หลายคนเข้าใจผิดในช่วงแรก
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ชื่อ “สปุตนิก” ของวัคซีนตัวนี้
เป็นชื่อเดียวกันกับดาวเทียมดวงแรกของโลก ที่ถูกส่งไปโคจรในอวกาศ เมื่อปี 1957
และทำให้ชาวโลกได้ประจักษ์ถึงศักยภาพทางเทคโนโลยีของสหภาพโซเวียต
สปุตนิก มาจากคำว่า Спутник ในภาษารัสเซีย ซึ่งมีหลายความหมาย
หนึ่งในนั้นคือ “ดาวเทียม”
การตั้งชื่อวัคซีนว่า “ดาวเทียม” ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งความสำเร็จอย่างงดงามเมื่อ 60 ปีที่แล้ว
อาจเป็นสัญญาณบางอย่างที่บอกว่า นับตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991
รัสเซียกำลังกลับมาทวงบัลลังก์โลกแห่งเทคโนโลยีอีกครั้ง..
เรื่องราวนี้ เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปช่วงทศวรรษ 1950s-1990s
สหภาพโซเวียต ถือได้ว่าเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ หรือ Superpower เคียงคู่กับสหรัฐอเมริกา
ทั้ง 2 ประเทศ แข่งขันขับเคี่ยวกันในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และอวกาศ เป็นที่มาของสิ่งที่ชาวโลกรู้จักกันในชื่อ “สงครามเย็น”
ผลงานด้านเทคโนโลยีอวกาศของสหภาพโซเวียตที่ทำให้ชาวโลกต้องตะลึง
ทั้งดาวเทียมดวงแรกของโลก “สปุตนิก 1” และการส่ง “ยูรี กาการิน” มนุษย์คนแรกออกไปโคจรรอบโลกได้เป็นผลสำเร็จ ในปี 1961
ความก้าวหน้าเหล่านี้ มีเบื้องหลังสำคัญมาจากงบประมาณด้านวิจัยและพัฒนาของสหภาพโซเวียต ที่เคยมีสัดส่วนสูงถึงเกือบ 2% ของ GDP
แต่เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายและแตกออกเป็นประเทศน้อยใหญ่ถึง 15 ประเทศ
รัสเซียซึ่งเป็นประเทศใหญ่ที่สุด และรับมรดกของสหภาพโซเวียตมามากที่สุด
กลับต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทั้งการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การว่างงาน และการปรับตัวเข้าสู่โลกทุนนิยม ทำให้ต้องตัดทอนงบประมาณวิจัยและพัฒนาลงมาเรื่อย ๆ เพื่อมาพยุงเศรษฐกิจในภาพรวม
ในปี 2018 ถึงแม้รัสเซียจะติด 1 ใน 10
ประเทศที่ใช้งบประมาณด้านวิจัยและพัฒนาสูงที่สุดในโลก
แต่เมื่อเทียบสัดส่วนต่อ GDP แล้ว
พบว่ารัสเซียใช้งบประมาณด้านวิจัยและพัฒนาเพียง 1% ของ GDP
เป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าของประเทศจีน 2 เท่า น้อยกว่าสหรัฐอเมริกา 3 เท่า
และน้อยกว่าเกาหลีใต้เกือบ 5 เท่า
การขาดแคลนงบประมาณ ทำให้งานวิจัยที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาเป็นสินค้าเทคโนโลยีมีไม่มาก
รัสเซียจึงต้องพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
สินค้าส่งออกหลัก 3 อันดับแรกของรัสเซีย ล้วนเป็นสินค้าโภคภัณฑ์
ซึ่งราคามักจะผันผวนไปตามความต้องการของตลาดโลก
อันดับ 1 คือ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นสัดส่วน 42%
อันดับ 2 คือ แร่โลหะมีค่า เช่น ทองคำ แพลทินัม คิดเป็นสัดส่วน 9%
อันดับ 3 คือ แร่เหล็กและเหล็กกล้า คิดเป็นสัดส่วน 5%
ถึงแม้จะสร้างรายได้มหาศาล แต่สินค้าเหล่านี้ก็เจอกับความผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ
ปีไหนน้ำมันราคาสูง GDP ของรัสเซียก็เพิ่มสูง เช่น ช่วงปี 2012-2013
ปีไหนน้ำมันราคาตกต่ำ GDP ของรัสเซียก็ลดลง เช่น ช่วงปี 2014-2016
เมื่อรวมกับการที่ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียหลังจากที่รัสเซียรุกรานดินแดนยูเครน ทำให้รัสเซียต้องประสบวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2014
ปัญหาทั้งหมดทำให้รัฐบาลรัสเซียต้องกำหนดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจใหม่
โดยในปี 2018 ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน ได้อนุมัติแผนวิจัยแห่งชาติที่ยาวไปจนถึงปี 2024
ซึ่งยุทธศาสตร์ที่จะทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียอยู่รอด และโดดเด่นบนเวทีโลกในระยะยาว
ก็คือ “การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”
ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ยุคจักรวรรดิรัสเซีย
รัสเซียคือดินแดนหนึ่งที่ผลิตผลงานวิทยาศาสตร์มากมายมาประดับวงการวิชาการของโลก
ทั้งรถรางไฟฟ้าและตารางธาตุ
พอมาถึงยุคสหภาพโซเวียต ก็มีเหล่านักวิทยาศาสตร์มากมายที่พัฒนาทั้งเทคโนโลยีนิวเคลียร์ อาวุธ การแพทย์ และเทคโนโลยีอวกาศ
รัสเซียมีนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลถึง 17 คน (รวมสมัยสหภาพโซเวียต)
ประกอบไปด้วยสาขาฟิสิกส์ 12 คน สาขาการแพทย์ 3 คน และสาขาเคมี 2 คน
แต่เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย วิกฤติเศรษฐกิจทำให้นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากต้องตกงาน
นับหมื่นคน และต้องอพยพออกไปทำงานยังต่างประเทศ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป
ส่วนที่ยังอยู่ก็ต้องเปลี่ยนอาชีพไปทำมาหากินอย่างอื่น
ตั้งแต่ปี 2008 รัฐบาลรัสเซีย สมัยประธานาธิบดี ดมีตรี เมดเวเดฟ
จึงเริ่มวางแผนเพื่อผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เริ่มแรกคือการจัดสร้างเมืองแห่งนวัตกรรม Skolkovo ที่ชานกรุงมอสโก
ให้เป็นศูนย์รวมของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แขนงต่าง ๆ
จัดตั้ง Skolkovo Institute of Science and Technology ในปี 2011
ให้เป็นศูนย์วิจัยชั้นนำด้านวิศวกรรม ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีการแพทย์ พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีควอนตัม
มีการจัดตั้ง The Russian Quantum Center ภายในเมือง Skolkovo และทุ่มงบประมาณกว่า 25,000 ล้านบาท เพื่อวิจัยด้านนี้โดยเฉพาะ
รวมถึงเพิ่มงบประมาณในการปรับปรุงห้องทดลองในสถาบันต่าง ๆ ให้เตรียมพร้อม
ทั้งสถานที่ อุปกรณ์ทำการวิจัย และบุคลากร ดึงนักวิทยาศาสตร์เก่ง ๆ กลับมาสู่รัสเซีย
ด้วยการเพิ่มทุนวิจัย เงินเดือน และสวัสดิการที่ดี
ลำดับต่อมา คือการเพิ่มงบสนับสนุนการทำวิจัย
มีการจัดตั้ง Russian Science Foundation (RSF) ในปี 2014
เพื่อให้เงินสนับสนุนงานวิจัยหลากหลายแขนง
ตัวอย่างเช่น ในด้านอวกาศ RSF ได้มอบทุนสนับสนุนงานวิจัยองค์ประกอบของชั้นบรรยากาศบนดาวอังคาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรม ExoMars ที่รัสเซียร่วมกับสหภาพยุโรป ในการวางแผนจะส่งยานอวกาศไปดาวอังคารภายในปี 2022
รวมถึงการดึงงบประมาณบางส่วนจาก Russian National Wealth Fund หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ มาสนับสนุนงานวิจัยที่เร่งด่วน เช่น การพัฒนาวัคซีนโควิด 19 โดยสถาบัน Gamaleya
แต่อุปสรรคของการพัฒนาเทคโนโลยีในรัสเซียก็ยังมีอยู่ไม่น้อย..
ประการแรก คือ ปัญหาคอร์รัปชันในแวดวงข้าราชการ
รัสเซียเป็นประเทศที่มีปัญหาการคอร์รัปชันค่อนข้างสูง
จากดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชัน รัสเซียถูกจัดให้อยู่ที่อันดับ 129 ของโลก จาก 179 ประเทศ
ซึ่งเป็นอันดับที่แย่กว่าประเทศไทย และเป็นอันดับท้าย ๆ ของทวีปยุโรป
และจากการสำรวจของ PwC พบว่า กว่า 71% ของเงินอุดหนุนและอภิสิทธิ์พิเศษต่าง ๆ
ที่รัฐบาลรัสเซียจัดให้แก่โครงการด้านวิทยาศาสตร์และธุรกิจในปี 2009
จะถูกเบียดบังไปโดยข้าราชการและตำรวจรัสเซียที่ทำการคอร์รัปชัน
รวมไปถึงผลการทดลองหรือผลของงานวิจัย ที่หลายครั้งถูกควบคุมจากฝ่ายรัฐบาลอย่างเด็ดขาด ทำให้ข้อมูลที่ได้ขาดความโปร่งใส และไม่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ประการที่ 2 คือ ปัญหาความร่วมมือกับประเทศตะวันตก
เนื่องจากรัสเซียโดนคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งล้วนแต่เป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้า
การนำเข้าสารเคมีต่าง ๆ ที่ใช้ในกระบวนการทดลอง
รวมไปถึงอุปกรณ์วิเคราะห์จากประเทศเหล่านี้จึงใช้ระยะเวลานานมาก
ด้วยข้อจำกัดทางการค้าและการทูต จากระยะเวลาไม่กี่วันอาจยาวนานเกือบ 3 เดือน
เช่นเดียวกับหลายโครงการที่ร่วมมือกันระหว่างรัสเซียกับสหภาพยุโรป ที่ไม่ได้รับการอนุมัติ
หรือดำเนินไปอย่างล่าช้า เนื่องด้วยข้อจำกัดในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของรัสเซียที่จะพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็ยังคงดำเนินต่อไป
รัฐบาลรัสเซียตั้งเป้าไว้ว่า งบประมาณด้านวิจัยและพัฒนาของรัสเซียจะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 1.2%
ของ GDP ให้ได้ ภายในปี 2024..
ก็เป็นที่น่าติดตามต่อไป ว่ารัสเซียจะกลับมาทวงบัลลังก์แห่งโลกเทคโนโลยีได้หรือไม่ ?
แต่รัสเซียก็แสดงให้เห็นว่าเป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ของตัวเอง
ซึ่งนับเป็นการประกาศให้โลกรับรู้ถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ของรัสเซีย
ที่ไม่น้อยหน้าใคร และสิ่งเหล่านี้อาจถูกต่อยอดจนกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของรัสเซียในอนาคต
ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษย์ มีบทพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า
ประเทศใดที่เป็นผู้ครองเทคโนโลยี ประเทศนั้นก็มีศักยภาพพอที่จะเป็นผู้ครองโลก
เวลานี้สงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน
ก็เป็นที่จับตามองของคนทั้งโลกอยู่แล้ว
และหากว่าจะมีรัสเซียเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งประเทศในสงครามนี้
โลกในศตวรรษที่ 21 ก็คงจะน่าตื่นเต้นขึ้นกว่าเดิม ไม่น้อยเลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.nature.com/articles/d41586-020-00753-7
-https://data.worldbank.org/indicator/GB.XPD.RSDV.GD.ZS?locations=RU-TH-CN-KR
-https://tass.com/society/968471
-https://www.worldstopexports.com/russias-top-10-exports/
-https://www.kaspersky.com/blog/secure-futures-magazine/russian-technology-inventions/28073/
ลงทุนแมน เงินเดือน 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
สรุปภาษี และ การลดหย่อนภาษีปี 2562 /โดย ลงทุนแมน
เมื่อสิ้นปีมาเยือน สิ่งที่เราควรศึกษา นอกจากสถานที่ฉลองปีใหม่ ก็คือ เรื่องภาษี
วันนี้ลงทุนแมนจะมาสรุปเรื่องภาษี และมีอะไรบ้างที่สามารถลดหย่อนภาษีได้มาส่งท้ายปี เป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
การคำนวณอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรมสรรพากรกำหนดให้คำนวณเป็นขั้นบันได
ตัวอย่างคือ ถ้าทั้งปีเรามีรายได้สุทธิไม่ถึง 150,000 บาท เราจะได้รับการยกเว้นภาษี หรือก็คือไม่ต้องเสียภาษีเลย แต่ก็ต้องยื่นแบบฟอร์มให้สรรพากรรับทราบ ในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม ของปีหน้า
ซึ่งถ้าเรามีรายได้สุทธิมากกว่า 150,000 บาท
ในส่วนที่เกิน 150,000 บาท เราจะเริ่มเสียภาษีในอัตรา 5%
เช่น เรามีรายได้สุทธิทั้งปี 200,000 บาท ก็เสียภาษีเฉพาะส่วนที่เกิน
ก็คือ 50,000 บาท ในอัตราที่ 5% = 2,500 บาท
และอัตราภาษีก็จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แปรผันตามฐานรายได้สุทธิของเรา
ยิ่งมีรายได้สุทธิมาก ยิ่งต้องเสียภาษีในอัตราภาษีที่มากขึ้น
ส่วนที่เกิน 300,000 บาท เราจะเสียภาษีในอัตรา 10%
ส่วนที่เกิน 500,000 บาท เราจะเสียภาษีในอัตรา 15%
ส่วนที่เกิน 750,000 บาท เราจะเสียภาษีในอัตรา 20%
ส่วนที่เกิน 1,000,000 บาท เราจะเสียภาษีในอัตรา 25%
ส่วนที่เกิน 2,000,000 บาท เราจะเสียภาษีในอัตรา 30%
และสุดท้าย ส่วนที่เกิน 5,000,000 บาทขึ้นไป เราจะเสียภาษีในอัตรา 35%
หมายความว่าถ้าเราเป็นมหาเศรษฐีของประเทศไทย มีเงินได้ปีละหลายสิบล้านบาท
ในส่วนที่เกิน 5 ล้านบาทเราจะต้องเสียภาษีมากถึง 35%
ซึ่งพอดูหลักการนี้แล้ว ก็พอจะเดาได้ว่าสรรพากรตั้งใจเก็บภาษีจากคนรวยในอัตราที่สูง
ส่วนคนที่มีรายได้ไม่มากเท่าไร ก็จะเสียภาษีในอัตราที่ต่ำกว่า
ทั้งนี้ก็อาจเป็นเพราะต้องการลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม..
แล้วรายได้หรือเงินได้สุทธิของเราคืออะไร ?
เงินได้สุทธิ คำนวณจาก เงินได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่ามีอะไรบ้างที่ถือว่าเป็นเงินได้ของเรา และหักค่าใช้จ่ายกันอย่างไร
ซึ่งเงินได้ สามารถแบ่งออกเป็น 8 ประเภท และเงินได้แต่ละประเภท ก็จะหักค่าใช้จ่ายได้ไม่เหมือนกัน ได้แก่
1) เงินเดือน และผลประโยชน์พนักงานอื่น
2) ค่าจ้างทั่วไป
โดยเงินได้ประเภทที่ 1) และ 2) หักค่าใช้จ่ายได้ 50% แต่รวมกันไม่เกิน 100,000 บาท
3) ค่าลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา หักค่าใช้จ่ายได้ 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท หรือหักตามจริง
4) ดอกเบี้ย เงินปันผล และกำไรจาก Cryptocurrency หักค่าใช้จ่ายไม่ได้
5) ค่าเช่า หักค่าใช้จ่ายได้ 10-30% หรือหักตามจริง
6) ค่าวิชาชีพอิสระ หักค่าใช้จ่ายได้ 30-60% หรือหักตามจริง
7) ค่ารับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ หักค่าใช้จ่ายได้ 60% หรือหักตามจริง
8) เงินได้อื่นๆ ที่ไม่เข้าพวก เช่น จากธุรกิจ การพาณิชย์ การเกษตร การขายอสังหาริมทรัพย์
หักค่าใช้จ่ายได้ 40-60% หรือหักตามจริง
แล้วถ้าเรามีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีในอัตราที่สูง แม้จะหักค่าใช้จ่ายไปแล้ว
เราจะทำอะไรได้บ้างที่จะเสียภาษีได้น้อยลง?
และนั่นก็เป็นที่มาในการเข้าสู่อีกเรื่องหนึ่งก็คือ “การลดหย่อนภาษี”
การลดหย่อนภาษีสามารถทำได้ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งจะสรุปได้ดังนี้
1) ปกติแล้วคนทั่วไปจะมีสิทธิลดหย่อนภาษีส่วนตัวได้สูงสุด 60,000 บาท
2) ถ้าเราแต่งงาน และคู่สมรสไม่มีเงินได้ เราสามารถ ลดหย่อนภาษีได้ 60,000 บาท
3) ถ้าเรามีลูก เราสามารถลดหย่อนภาษีได้คนละ 30,000 บาท แต่ถ้ามีลูกคนที่ 2 ขึ้นไปที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีเป็นอีกคนละ 60,000 บาท
4) ถ้าเราตั้งครรภ์ ค่าใช้จ่ายฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 60,000 บาท
5) ถ้าพ่อแม่เราอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป และพ่อแม่มีเงินได้ปีละไม่เกิน 30,000 บาท เราสามารถลดหย่อนภาษีค่าอุปการะได้ คนละ 30,000 บาท
6) ถ้าเรามีการเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ เราสามารถลดหย่อนภาษีค่าอุปการะได้คนละ 60,000 บาท
7) สำหรับคนอยู่ในระบบประกันสังคมก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 9,000 บาท
8) ถ้าเรามีทำประกันชีวิตที่มีอายุกรมธรรม์ 10 ปีขึ้นไป สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท
9) ถ้าเรามีทำประกันชีวิตแบบบำนาญ ที่มีระยะเวลาเอาประกัน 10 ปีขึ้นไป เราสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 15% ของรายได้ที่เสียภาษี และสูงสุดที่ 200,000 บาท
10) ตอนนี้เบี้ยประกันสุขภาพที่เรามีก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท แต่รวมกับเบี้ยประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท
11) ถ้าเราซื้อประกันสุขภาพให้กับพ่อแม่ของเรา ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เหมือนกัน สูงสุด 15,000 บาท
12) กองทุน LTF ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งปีนี้เป็นปีสุดท้าย ลดหย่อนได้เท่าที่จ่ายจริง โดยมีเกณฑ์ว่าเราสามารถซื้อได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ หรือ 500,000 บาท
13) กองทุน RMF, กบข., กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนสงเคราะห์โรงเรียนครูเอกชน มีเกณฑ์อยู่ว่าเราสามารถซื้อได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ หรือ 500,000 บาท
14) ถ้าเรามีจ่ายเงินให้กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 13,200 บาท
โดยข้อ 9,13,14 จะต้องรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
15) ถ้าเรามีกู้เงินเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ส่วนของดอกเบี้ยที่จ่ายจริง สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท
16) ถ้าเราบริจาคเพื่อการศึกษา, กีฬา, พัฒนาสังคม และสถานพยาบาลของรัฐ จะสามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของเงินบริจาค แต่ก็จะไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ แล้ว
17) เงินบริจาคทั่วไปก็ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่บริจาคจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นๆ แล้ว
18) ถ้าเราบริจาคเงินให้พรรคการเมือง สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่บริจาคจริงสูงสุด 10,000 บาท
19) เราสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ถ้าเรามีการลงทุนในธุรกิจ Startup ที่จดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 จนถึง 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท และรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท
หรือ ธุรกิจที่มีรายได้ 80% จากการประกอบธุรกิจที่อยู่ใน 10 อุตสาหกรรมที่เป็นเป้าหมายของ สวทช.
20) ถ้าเรามีการประกอบธุรกิจประเภทที่ 5-8 คือ ค่าเช่า วิชาชีพอิสระ รับเหมา และธุรกิจอื่นๆ ที่มีการจ่ายธรรมเนียมจากการรับชำระเงินด้วยบัตรเดบิต ในช่วง 1 พ.ย. 2559 - 31 ธ.ค. 2564 สามารถนำค่าธรรมเนียมมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของเงินที่จ่ายจริง โดยเงินได้ต้องไม่เกิน 30 ล้านบาท
21) นโยบายท่องเที่ยว โดยค่าท่องเที่ยวเมืองหลัก อย่างค่าทัวร์ ค่าที่พักโรงแรม ค่าแพ็กเกจท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2562 - 30 มิถุนายน 2562 ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท และค่าท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ลดหย่อนได้สูงสุด 20,000 บาท ซึ่งค่าลดหย่อนทั้งสองประเภทรวมกันต้องไม่เกิน 20,000 บาท
22) ถ้าเราซื้อสินค้า OTOP ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชน ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน - 30 มิถุนายน 2562 สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท
23) ซื้อสินค้าเพื่อการศึกษาและกีฬาที่เป็นไปตามเงื่อนไขกำหนด ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2562 สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท
24) ซื้อหนังสือ หรืออีบุ๊ก ตั้งแต่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2562
ซึ่งค่าลดหย่อนภาษีตัวนี้ เมื่อรวมกับรายการค่าลดหย่อนช็อปช่วยชาติ ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาท
25) ซื้อบ้านหรือคอนโดหลังแรก มูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ช่วง 30 เมษายน - 31 ธันวาคม 2562 สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท
การเสียภาษีเป็นหน้าที่ของพลเมืองชาวไทย และทั่วโลกทุกคน
เพื่อให้รัฐมีเงินและงบประมาณไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จัดสรรสวัสดิการ และประเทศชาติต่อไป
แม้เราจะไม่แน่ใจว่า รัฐบาลจะนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่าย จัดสรรได้มีประสิทธิภาพอย่างไร
แต่อย่างน้อย เราก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำตามกฎหมาย ทำหน้าที่ของพลเมือง..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-กรมสรรพากร
-iTAX
ลงทุนแมน เงินเดือน 在 สองพี่น้องอายุ 14 และ 9 ปี ขุดคริปโทเคอร์เรนซี ได้เงินเดือนละล้าน 的推薦與評價
ลงทุนแมน ลงทุนในความรู้ การลงทุนในความรู้ไม่มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรกด”Subscribe” ลงทุนแมน ไว้ในทุกช่องทาง ติดตาม ลงทุนแมน ได้ที่ Website ... ... <看更多>
ลงทุนแมน เงินเดือน 在 ลงทุนแมน - ลงทุนแมน เปิดรับสมัครงานรอบใหม่แล้ว! ในตำแหน่ง... 的推薦與評價
ถ้าสนใจลองส่ง resume ตัวอย่างผลงาน ตำแหน่งที่ต้องการสมัคร พร้อมเงินเดือนที่ต้องการ มาที่ [email protected] สำหรับ Software Engineer กรอกข้อมูลได้ที่ blockdit.com/ ... ... <看更多>