關於 ลงทุน 5 บาท ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

เร่งการเติบโตให้เงินออม ด้วยพลังดอกเบี้ยทบต้น 💰
.
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ดอกเบี้ยทบต้น” แต่อาจยังมีบางคนไม่เข้าใจว่า “ดอกเบี้ยทบต้น” ที่จริงแล้วคืออะไรกันแน่?
.
ดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) คือ ดอกเบี้ยที่ได้จากการนำดอกเบี้ยเงินฝาก (หรือผลตอบแทน) มาลงทุนต่อเนื่องหรือทบกลับไปที่เงินต้นอีกรอบ เพื่อคิดคำนวณดอกเบี้ยอีกครั้ง ตามรอบระยะเวลาฝากหรือลงทุนเงินไว้
.
เช่น เราฝากเงิน 100 บาท เป็นเวลา 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี (ธนาคารไหนเนี่ย?) ฝากครบ 1 ปีก็จะได้ดอกเบี้ย 5 บาท ถ้าถอน 5 บาทที่ได้ไปกินขนมหมด ก็จะอดได้พลังทวีจากดอกเบี้ยทบต้น
.
แต่หากฝากเงินดอกเบี้ย 5 บาทที่ได้รับ กลับไปรวมกับเงินต้น 100 บาท เมื่อครบปีถัดไป ก็จะได้ดอกเบี้ยเท่ากับ 105 บาท x 5% เท่ากับ 5.25 บาท (5 บาทจากเงินต้น 100 และ 0.25 บาท จากดอกเบี้ยที่ทบต้นเข้าไป 5 บาท) ถ้าฝากและทบเข้าไปเรื่อยๆ แบบไม่ถอนออกมา ดอกเบี้ยก็จะถูกนำไปคิดดอกเบี้ยอยู่เรื่อยๆ แบบนี้เป็นต้น
.
ในช่วงสะสมแรกๆ เงินต้นไม่เยอะ พลังของดอกเบี้ยทบต้นก็อาจจะยังเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ถ้ายิ่งเพิ่มรอบของการทบมากขึ้นเท่าไหร่ รวมถึงหากมีการเติมเงินต้นเข้าไปอย่างสม่ำเสมอด้วย ก็จะทำให้เงินโตเร็วขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว
.
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิผลของดอกเบี้ยทบต้นก็คือ
.
เวลาในการสะสมเงิน และ
อัตราดอกเบี้ย หรือผลตอบแทนที่ได้รับ
.
ด้วยอัตราผลตอบแทนที่พอเหมาะ บวกกับสะสมลงทุนต่อเนื่อง มีระยะเวลามากพอ ก็สามารถช่วยทำให้ใครหลายคนบรรลุเป้าหมายหรือความฝันของตัวเองได้ง่ายขึ้น
.
ตัวอย่างเช่น นายเอเริ่มเก็บเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน อายุ 23 ปี นำเงินไปออม/ลงทุน เดือนละ 3,000 บาท ในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคาดหวัง 7% ต่อปี สะสมไปเรื่อยๆ จนถึงอายุ 60 ปี นายเอจะมีเงินทั้งสิ้น 6 ล้านบาท
.

ตรงกันข้ามหากเอเลือกเก็บเงินไว้ในบัญชีเงินฝากประจำ ผลตอบแทน 1% ต่อปี เมื่อถึงอายุ 60 ปี เขาจะมีเงินเก็บเพียงแค่ 1.6 ล้านเท่านั้น
.
จะเห็นว่าเราอาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในตอนเริ่มลงทุน ขอเพียงแค่ทยอยสะสมอย่างมีวินัย ลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ต้องการ (ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับไหว) ก็สามารถไปถึงเป้าหมายง่ายขึ้นได้ ด้วยพลังทวีของดอกเบี้ยทบต้น
.
ถ้าใครตั้งโจทย์เก็บสะสมเงินหลักล้าน อย่าลืม! หยิบแนวคิดของดอกเบี้ยทบต้นไปเป็นตัวช่วยในการสะสมเงินกันดูนะครับ

#TheMoneyCoachTH

ทำไม การลงทุนหุ้นต่างประเทศ จึงเป็นเรื่องง่าย ๆ เมื่อใช้ EASY INVEST
SCBS x ลงทุนแมน
เรื่องไกลตัว ค่าธรรมเนียมแพง หรือต้องใช้เงินทุนสูง
มักจะเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของใครหลายคน เมื่อถูกถามถึงการลงทุนหุ้นต่างประเทศ
ผลที่ตามมาก็คือ การพลาดโอกาสการลงทุนดี ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย

แต่ก็ยังโชคดีที่เรากำลังอยู่ในยุคเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า
ซึ่งก็มีสิ่งหนึ่งกำลังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้การลงทุนหุ้นต่างประเทศเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
นั่นก็คือ EASY INVEST แอปพลิเคชันครบจบ ตอบโจทย์ทุกการลงทุน

ว่าแต่แอป EASY INVEST จะทำให้การลงทุนหุ้นต่างประเทศง่ายขึ้นได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันรองรับการลงทุนอยู่ไม่น้อย
ซึ่งหากเป็นการลงทุนหุ้นต่างประเทศ ก็มักจะตามมาด้วยเงื่อนไขยุ่งยาก
เช่น เงินลงทุนขั้นต่ำ, วิธีการแลกเงินสกุลต่างประเทศ, ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
จึงกลายมาเป็นกำแพงขวางกั้นโอกาสการลงทุนของนักลงทุนมือใหม่

จุดนี้เอง ทำให้ SCBS พยายามพัฒนาบริการใหม่ ๆ ในแอป EASY INVEST
ที่จะช่วยให้การลงทุนต่างประเทศ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และสามารถทำได้ด้วยสมาร์ตโฟนเพียงเครื่องเดียว

ปัจจุบัน แอป EASY INVEST รองรับการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาและฮ่องกง
เพราะคงไม่มีใครปฏิเสธว่า 2 ตลาดหุ้นนี้ กำลังน่าจับตาและมีโอกาสน่าสนใจไม่น้อยในช่วงเวลานี้
ซึ่งในอนาคตก็ยังจะขยายการลงทุนในตลาดประเทศอื่น ๆ เพิ่มอีกด้วย

แล้วแอป EASY INVEST ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาและหุ้นฮ่องกงได้อย่างไร

1. ไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำ ทั้งในการเปิดบัญชีลงทุน และในการลงทุน
จึงทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น

2. ค่าคอมมิชชันขั้นต่ำ ถูกกว่าเจ้าอื่น ๆ
จึงทำให้นักลงทุนเทรดหุ้นได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายคอมมิชชัน เช่น

- ตลาดสหรัฐอเมริกา มีค่าธรรมเนียม 0.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น และค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 4.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อรายการ
- ตลาดฮ่องกง มีค่าธรรมเนียม 0.20% และค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 100 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อรายการ

3. ไม่มีค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน และการแลกเงิน
ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ จะเป็นการเรียกเก็บจากตลาดหลักทรัพย์ประเทศนั้น ๆ

พูดง่าย ๆ ว่า เราสามารถลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกา และหุ้นฮ่องกงได้
โดยไม่ต้องกังวลเรื่องวงเงินขั้นต่ำ, ค่าคอมมิชชันขั้นต่ำ และค่าธรรมเนียมการโอน การแลกเงิน นั่นเอง

ทีนี้ลองมาดูตัวอย่างง่าย ๆ
สมมติว่า เราลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกา ตามจำนวนหุ้นที่ต้องเสียค่าคอมมิชชันขั้นต่ำ
คือ 63 หุ้น เมื่อคิดค่าธรรมเนียม 0.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น จะทำให้เสียค่าคอมมิชชันทั้งหมด 5.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อรายการ (รวม VAT)

- หุ้นราคา 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น เท่ากับเงินลงทุน 630 ดอลลาร์สหรัฐ
จะเสียค่าคอมมิชชัน 0.85% ของเงินลงทุน (5.34/630)

- แต่หากหุ้นราคา 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น เท่ากับเงินลงทุน 6,300 ดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งจะเสียค่าคอมมิชชันเพียง 0.08% ของเงินลงทุน (5.34/6,300)

จะเห็นได้ว่าค่าคอมมิชชันจะถูกกว่าการซื้อหุ้นไทยในบางกรณีเสียอีก

ที่น่าสนใจคือ แอป EASY INVEST ยังรองรับธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน
เช่น การโอนเงิน, การแลกเงิน, การซื้อขาย, บริการใหม่ ๆ ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
และยังไม่มีขั้นตอนยุ่งยากเหมือนกับการลงทุนกับโบรกเกอร์ต่างชาติ
เช่น ขั้นตอนการยื่นเอกสารการลงทุนให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย

นอกจากการลงทุน “หุ้นสหรัฐอเมริกา” และ “หุ้นฮ่องกง” จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นแล้ว
รู้หรือไม่ว่า แอป EASY INVEST ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการลงทุนกองทุนรวม อีกด้วย

โดยแอป EASY INVEST รองรับทั้ง ETF, กองทุนไทย และกองทุนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ หรือ
กองทุนที่ลงทุนในกองทุนหลัก หรือที่เรียกว่า Master Fund ทำให้นักลงทุนไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจัดการและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซ้ำซ้อน

ทีนี้ถ้าเราชอบกองทุนต่างประเทศกองไหน ก็สามารถซื้อที่ต้นทางโดยตรง
พูดง่าย ๆ ว่าแอป EASY INVEST กำลังพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้กลายเป็นแอปที่จะช่วยเหลือนักลงทุนได้ในทุกการลงทุน นั่นเอง

แล้วฟีเชอร์ใหม่ ๆ ของแอป EASY INVEST น่าสนใจอย่างไร ?

หากใครเคยใช้บริการแอป EASY INVEST จะรู้สึกได้ถึงการออกแบบ UX/UI ที่ดี
ช่วยให้เราใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย และครอบคลุมหลายธุรกรรมการเงินในแอปเดียว

ทีนี้เราลองมาดูฟีเชอร์ใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า “บัญชีบริหารเงินสด”
ซึ่งให้อัตราดอกเบี้ย 0.4% สามารถแลกเงินสกุลต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
และยังบริการครอบคลุมทั้ง การเติมเงิน แลกเงิน ลงทุน ครบ จบในแอปเดียว เช่น

1. เติมเงินบาทเข้าบัญชีบริหารเงินสด สะดวกสบายได้มากกว่าเดิม
ทั้งผ่านทางบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ และทาง QR Code ผ่าน Mobile Banking ธนาคารใดก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าของธนาคารอื่น ๆ สามารถเติมเงินลงทุนได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น

2. แลกเงินบาทเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง

ซึ่งหากเป็นการแลกเงินสกุล USD ครั้งแรก จะต้องสมัครยื่นแบบภาษี W-8BEN
เพื่อยืนยันว่าเราไม่ใช่ชาวอเมริกัน และจะไม่ถูกคิดภาษี Capital Gain ในประเทศสหรัฐอเมริกา รวมทั้งเพื่อสิทธิประโยชน์ในการลดภาษีเงินปันผลที่หัก ณ ที่จ่าย เหลือ 15% จากปกติ 30%

3. ลงทุน “หุ้นสหรัฐอเมริกา” และ “หุ้นฮ่องกง”

หากว่าพอร์ตของเรามีเงินสกุลต่างประเทศไม่พอ ระบบจะขึ้นเตือน เพื่อให้แลกเงินเพิ่มอัตโนมัติ
และในกรณีขายหุ้น เงินจะเข้าบัญชีบริหารเงินสดของเราภายใน 2 วันทำการ

มาถึงตรงนี้ สรุปได้ว่าการลงทุนหุ้นต่างประเทศในแอป EASY INVEST
นอกจากจะง่าย สะดวก ค่าคอมมิชชันถูก และมีบริการที่ครอบคลุมแล้ว
ยังช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนในบริษัทชั้นนำระดับโลก ผ่านหุ้นสหรัฐอเมริกาและหุ้นฮ่องกง
รวมถึงกระจายการลงทุนได้หลายบริษัทผ่าน ETF ที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหลายต่อ อีกด้วย

นับจากก้าวแรกมาจนถึงปัจจุบัน (วันที่ 9 เดือน 9)
รู้หรือไม่ว่าแอป EASY INVEST ครบรอบ 3 ปี ของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและจะไม่หยุดนิ่ง
และช่วงเวลานี้เองกำลังจะเป็นโอกาสดี ๆ ที่เรียกได้ว่า “นักลงทุนมีแต่ได้กับได้”

เพราะเพียงเปิดบัญชีลงทุนผ่านแอป EASY INVEST วันนี้
จะได้รับกองทุนทองคำ SCBGOLDH มูลค่า 100 บาท
เมื่อกรอก Easy Code คำว่า “LTMNEW” ในขั้นตอนการเปิดบัญชีผ่านแอป
จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 เท่านั้น

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3tfkc4g

พร้อมกับยังมีโปรโมชัน 9.9 ฉลองครบรอบ 3 ปี ของแอป EASY INVEST
นักลงทุนที่ต้องการเริ่มลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกา สมัครบริการยื่นแบบภาษี W-8BEN ผ่านแอป EASY INVEST เพียง 99 บาท ตั้งแต่ 9-30 กันยายน 2564 เท่านั้น (ปกติค่าบริการ 2,000 บาทต่อ 3 ปีปฏิทิน)
เฉพาะการสมัครบริการครั้งแรกผ่านแอปเท่านั้น ไม่รวมรายการผ่านช่องทางอื่น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3yBJx9x

Reference
-เอกสารประชาสัมพันธ์ EASY INVEST

พฤติกรรมการซื้อรถยนต์ในโลกนี้ กำลังเปลี่ยนไป /โดย ลงทุนแมน
หากเรามาดูบริษัทที่มูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรกในกลุ่มธุรกิจ “เคลื่อนย้ายผู้คน” ในโลกนี้
Tesla 18.6 ล้านล้านบาท
Toyota 7.2 ล้านล้านบาท
Volkswagen 4.9 ล้านล้านบาท
Daimler 3.2 ล้านล้านบาท
Uber 3.0 ล้านล้านบาท

จากตรงนี้ จะเห็นได้ว่านอกจาก Tesla ที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นผู้นำนวัตกรรมแห่งอนาคต และตลาดให้มูลค่ามากที่สุด

อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ Uber ที่แม้จะไม่ได้เป็นผู้ผลิตรถยนต์
แต่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายผู้คนเหมือนกัน
ได้ก้าวขึ้นมาติด 1 ใน 5 แล้ว

DiDi ที่ทำธุรกิจคล้ายกัน แต่อยู่ในประเทศจีน
ก็ถูกประเมินมูลค่าอยู่ในระดับเดียวกันกับ Uber

แล้ว Uber กับ DiDi จะกลายเป็นความท้าทาย
ของเหล่าผู้ผลิตรถยนต์อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อุตสาหกรรมยานยนต์ ถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
ซึ่งคาดการณ์ว่ามีมูลค่าตลาดกว่า 160 ล้านล้านบาท

ปัจจุบันเรามีวิธีการเดินทางมากมาย ตั้งแต่ขี่จักรยาน ขี่จักรยานยนต์ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ นั่งแท็กซี่
รถเมล์ รถตู้ เครื่องบิน รถไฟ และอื่น ๆ นับไม่ถ้วน

แต่จากการสำรวจก็พบว่า การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุด

หากเราวัดการใช้พาหนะด้วยระยะทาง
สำหรับการเดินทางทุก ๆ 10 กิโลเมตร

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวของชาวอเมริกันคิดเป็น 8 กิโลเมตร
ชาวยุโรปอยู่ที่ 7 กิโลเมตร ในขณะที่ชาวจีน 6 กิโลเมตร

แต่หากดูสถิตินี้อย่างละเอียด จะพบว่าการเดินทางส่วนใหญ่
เกิดจากการเดินทางไปยังที่ชานเมืองหรือพื้นที่ชนบท
ซึ่งรถยนต์ส่วนตัวส่วนใหญ่จะเป็นคำตอบของเรื่องนี้

ประเด็นที่น่าคิดคือ หากระบบการขนส่งชานเมือง
และชนบทพัฒนาได้เท่ากับในเมืองแล้ว
แนวโน้มการใช้รถยนต์ส่วนตัวจะเปลี่ยนไปขนาดไหน ?

จากรายงานของ The Economist ระบุว่า ถ้าหากมาดูในหัวเมืองขนาดใหญ่
จะพบว่าการซื้อรถยนต์มาเป็นของตัวเองกำลังถดถอยลง และกำลังถูกแทนที่
ด้วยวิธีการขนส่งในรูปแบบใหม่ ๆ

โดยการขนส่งรูปแบบใหม่ในที่นี้ก็เช่น Uber, DiDi, Lyft และ Grab
แพลตฟอร์มบริการเรียกรถที่เรารู้จักกันดี
นอกจากนี้ ก็ยังมีบริการอื่น ๆ อีก เช่น

Zipcar ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถเช่ารถได้เป็นรายชั่วโมงหรือแม้แต่เช่าเป็นรายนาที
ซึ่งปัจจุบันมีผู้สมัครสมาชิกเกิน 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Turo เป็นแพลตฟอร์มให้บริการแบ่งปันรถยนต์แบบเพียร์ทูเพียร์
ที่มีรถยนต์ 450,000 คันลงทะเบียนอยู่ในแพลตฟอร์ม

BlaBlaCar เชื่อมโยงคนขับกับผู้คนที่ต้องการเดินทางไปเส้นทางเดียวกัน
มีผู้สมัครสมาชิกประมาณ 87 ล้านคน และให้บริการครอบคลุมถึง 22 ประเทศ
ซึ่งในประเทศไทยก็มีแพลตฟอร์มที่คล้าย ๆ กัน ชื่อว่า Liluna

นอกจากรูปแบบรถยนต์แล้ว ยังมีบริการเช่าจักรยานและสกูตเตอร์ไฟฟ้า
โดยรูปแบบการเดินทางทั้งหมดนี้ กำลังมาส่งเสริมซึ่งกันและกันมากขึ้น

นึกภาพว่าเรากดใช้ Grab ในการเรียกวินมอเตอร์ไซค์ เพื่อมาขึ้นขนส่งสาธารณะ
หลังจากนั้นเราก็อาจใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าในการเดินทางระยะสั้น ๆ
ซึ่งเห็นได้ว่าสร้างความรวดเร็วและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะยังเห็นไม่ได้ชัดในประเทศไทย
แต่หลาย ๆ ประเทศเริ่มมีแนวโน้มที่เป็นเช่นนี้

อย่างประเทศเยอรมนี Deutsche Bahn บริษัทรถไฟของรัฐ
มีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้ผู้โดยสารใช้ตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลาย

หรืออย่างประเทศฟินแลนด์เองก็มีแอปพลิเคชันที่รวบรวมการขนส่งทั้งหมด
ตั้งแต่ขนส่งสาธารณะ แท็กซี่ จักรยาน และรถยนต์ไว้ในแอปพลิเคชันเดียว

ถึงแม้ว่าประเทศไทยเอง อาจจะยังไม่ได้เป็นเหมือนประเทศที่กล่าวมา
แต่ก็เห็นได้ว่า พฤติกรรมของผู้คนในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน
สังเกตได้จากข้อมูลของ LINE MAN TAXI ที่มียอดใช้บริการถึง 3 ล้านครั้งต่อปี

ซึ่ง IHS Markit หรือบริษัทผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก
คาดการณ์ว่า ตลาดการขนส่งในรูปแบบใหม่พวกนี้
จะมีมูลค่าถึง 12 ล้านล้านบาท ภายในปี 2030
และ KPMG คาดว่าอาจกินส่วนแบ่งการตลาดถึง 40%
ของธุรกิจที่เกี่ยวกับการขนย้ายคนในปี 2050

จากเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ทำให้เห็นว่าผู้บริโภคกำลังมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น
และอีกนัยหนึ่งก็มีโอกาสทางธุรกิจอีกมหาศาลด้วย

ซึ่งหากผู้ผลิตรถยนต์ไม่เริ่มทำอะไร
ก็อาจจะส่งผลเสียในอนาคตได้เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ก็ไม่ได้นิ่งเฉย

และเรื่องดังกล่าวอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้
ผู้ผลิตรถยนต์บางรายเริ่มมีการปรับตัวเป็นให้บริการเช่ารถรายเดือนมากขึ้น
โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง ซึ่งอยู่ในวัย Millennial
อย่างเช่น Volvo มีค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นที่ 19,000 บาท
Audi และ Lexus มีค่าบริการรายเดือนที่ 31,000 บาท

ซึ่งเป็นการเช่ารถยนต์สำหรับนำมาใช้โดยเฉพาะ รวมค่าใช้จ่ายครบทุกอย่าง ยกเว้นน้ำมัน

หรือผู้ผลิตรถยนต์บางรายก็เลือกที่จะเข้าไปลงทุน
ในเหล่าสตาร์ตอัปที่เกี่ยวกับการขนส่งแทน
ไม่ว่าจะเป็น General Motors ลงทุน 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน Lyft ผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่
Volkswagen ลงทุน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน Gett ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ของยุโรป
รวมถึง Toyota ก็ได้ลงทุนทั้งใน Uber, DiDi และ Grab

นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายเริ่มสร้างช่องทางออนไลน์ขายตรงถึงลูกค้า
แทนที่จะพึ่งพิงกับตัวแทนจำหน่าย เหมือนอย่างที่ Tesla กำลังทำ

เพราะอนาคตการขายรถยนต์หนึ่งคัน
จะไม่ใช่แค่การขายเพียงครั้งเดียวแล้วจบเหมือนอย่างในอดีต
เพราะมีแนวโน้มว่าผู้ประกอบการ จะมีการสร้าง Ecosystem
ผ่านการให้บริการในหลายรูปแบบ เพื่อดึงให้ลูกค้าอยู่กับบริษัทนานขึ้น

แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์กำลังปรับตัวอย่างมากมาย แต่ใช่ว่าทุกโครงการจะสำเร็จ
Ford ยกเลิกโครงการ Chariot บริการรถมินิบัสร่วมกัน ในปี 2019
ในปีถัดมา Maven บริการแชร์รถและการเช่าแบบเพียร์ทูเพียร์ของ General Motors ก็ถูกปิดตัวลงไป

ถึงตรงนี้ เราก็คงสรุปได้ว่าธุรกิจที่ให้บริการเคลื่อนย้ายผู้คน
กำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน ทั้งในเชิงพลังงาน
ที่เปลี่ยนจากพลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานไฟฟ้า
รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค
ที่ในอนาคตอาจจะไม่ได้ถามกันว่าจะซื้อรถยี่ห้ออะไร
แต่กลายเป็นว่าเราจะใช้บริการอะไรดี ให้ไปถึงจุดหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

หากพฤติกรรมของผู้บริโภคหันไปใช้บริการกลุ่มธุรกิจขนส่งรูปแบบใหม่มากยิ่งขึ้น
อุตสาหกรรมผู้ผลิตยานยนต์ก็จะแย่ลง

และบังเอิญเหมือนกันว่าเศรษฐกิจภาคการส่งออกของไทยเอง
ก็มีสัดส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์มูลค่ามหาศาล
หากโลกเรากำลังหันเข้าหาโลกการเคลื่อนย้ายผู้คนแบบใหม่
แล้วธุรกิจเหล่านี้ จะเป็นอย่างไร ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าติดตาม..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman

References
-https://www.economist.com/business/2021/04/15/new-means-of-getting-from-a-to-b-are-disrupting-carmaking
-https://www.zipcar.com/impact
-https://turo.com/us/en/about
-https://siamrath.co.th/n/220264
-https://www.longtunman.com/25674
-https://www.statista.com/statistics/574151/global-automotive-industry-revenue/

ลิ้งค์ดาวน์โหลดBlaze https://link.noxinfluencer.com/1Ql-ne

สอบถามสั่งซื้อแว่น OPHTUS ได้ที่ https://www.facebook.com/ophtus/
รับทันทีส่วนลด 100 บาท เมื่อแจ้งโค้ด “FIFAWATAFAK” ในการสั่งซื้อครับ

สอบถามสั่งซื้อไอดีFIFA Online 4 ได้ที่
https://www.facebook.com/jehnungaming

แฟนเพจ
https://www.facebook.com/FifaWatafakFanpage/

ลงทุน8หมื่นล้าน ตีบวก5ไอค่อนแบบไร้สติสัมปชัญญะ!!! [FIFA Online 4]
ลงทุน8หมื่นล้าน ตีบวก5ไอค่อนแบบไร้สติสัมปชัญญะ!!! [FIFA Online 4]
ลงทุน8หมื่นล้าน ตีบวก5ไอค่อนแบบไร้สติสัมปชัญญะ!!! [FIFA Online 4]

FIFA Online 4

จารไว

สอบถามสั่งซื้อแว่น OPHTUS ได้ที่ https://www.facebook.com/ophtus/
รับทันทีส่วนลด 100 บาท เมื่อแจ้งโค้ด “FIFAWATAFAK” ในการสั่งซื้อครับ

สอบถามสั่งซื้อไอดีFIFA Online 4 ได้ที่
https://www.facebook.com/jehnungaming

สอบถามสั่งซื้อเสื้อ ได้ที่
https://www.facebook.com/FifaWatafakFanpage/

ลงทุน5พันบาท เพื่อหวังฟันกำไรกว่า5หมื่นบาทแบบรวยข้ามคืน!! [FIFA Online 4]
ลงทุน5พันบาท เพื่อหวังฟันกำไรกว่า5หมื่นบาทแบบรวยข้ามคืน!! [FIFA Online 4]
ลงทุน5พันบาท เพื่อหวังฟันกำไรกว่า5หมื่นบาทแบบรวยข้ามคืน!! [FIFA Online 4]

FIFA Online 4

จารไว