FTC-COPPA กฎใหม่ที่เหมือนจะเป็นจุดจบของผม
โปรดจงอ่านให้ดี ล่ะทำความเข้าใจด้วย
.
กลายเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องจนได้กับ กฎหมายใหม่ที่ทาง คณะกรรมาธิการการค้าของสหรัฐ ซึ่งจะมาบังคังใช้ ในมกรา ปี 2020 ที่กำลังจะถึงนี้
.
กฎหมายใหม่นี้นะครับหรือ COPPA LAW แรกสุดมันมีมาเพื่อ คุ้มครองสิทธิเด็กไม่ให้เด็กที่ต่ำกว่าอายุ13 ถูกเก็บข้อมูลออนไลน์ เพื่อป้องกันการติดตามตัวเด็ก หรือ สโตกเกอร์นะครับ
.
แล้วทีนี้คำถาม มันดันมาเกี่ยวอะไรกับ YOUTUBE ???
.
ง่ายๆครับ เพราะ youtube ขายพื้นที่โฆษณาครับ
การขายโฆษณานะครับ จะทำแบบนั้นเนี้ย youtube ก็ต้องเก็บข้อมูลจากผู้คนที่เข้ามาใช้เว็บของเขา เวลาคุณดูอะไรซักอย่างหรือแม้แต่ค้นหาอะไรก็ตามจาก google พวกเขาก็จะเก็บข้อมูล ประมวลผล แล้วก็ส่งโฆษณาที่หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการคลิกของคุณ
.
แล้วมันมา โป๊ะแตกตรงที่ว่า ทางรัฐบาลของสหรัฐเนี้ย พวกเขาพึ่งมาค้นพบว่า คนส่วนใหญ่ที่ใช้เว็บ youtube เกินครึ่งเกือบ 80เปอร์เซ็นเนี้ย เป็นเด็ก
.
ซึ่งก็เอาเข้าจริงมันก็ไม่โป๊ะแตกอะไรขนาดนั้นหรอก แค่ไอ้เหี้ย youtube หลังๆแม่งโปรโมตหนักมากเรื่องเว็บตัวเองเป็น kids-friendly นะฮะ แต่ก็นั้นหละ
.
กลายเป็นว่า เรียบร้อยโรงเรียนกรมการค้าเลยครับ ทางรัฐนะครับก็เช็คบิล youtube ไปเกือบ 5,200ล้านบาท
ทีนี้ทางนั้นก็เหมือนกึ่งๆบีบทาง youtube หน่อยQว่า ให้ทำอะไรซักอย่างไม่งั้นพวกเขาจะลงดาบเรียงตัว เรียงช่องแทน
ด้วยการเช็คว่า มีคลิปวีดีโอไหนบ้างที่เป็น kids-friendly แล้วหารายได้จากการเก็บข้อมูลทำโฆษณา แล้วปรับเป็นจำนวน 42,000 ดอลล่า หรือราวๆ 1ล้านบาทนะครับ-----ต่อวีดีโอนะ
.
ซึ่ง youtube ตอนนี้ก็ได้พยายามคิดหาวิธีมาแก้ จนท้ายสุดก็ได้ทำนะครับ
.
ผมจะขอเรียกมันว่า วิธีแก้ปัญหาแบบ ตามวรรณตามกรรม ล่ะกัน
.
นั้นคือ พวกเขาออกกฏมาว่า คลิปวีดีโอใดก็ตามที่เล็งไปทาง kids-friendly ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม(เดี๋ยวมาขยายให้ฟัง) จะไม่มีสิทธิ์ สร้างรายได้ หรือใส่โฆษณาได้เลย
พูดง่ายๆ พวกช่องที่เล็งฐานแฟนๆไปทางเด็ก หรือมีเด็กมาดูช่องมึงเยอะ
.
"ช่องมึงหมดทางทำมาหากินอ่ะครับ"
.
โดยนะครับ พวกเขาจะมี 2 มาตรการมาใช้กับ youtuber คือหนึ่งพวกเขาจะถามคุณตรงๆว่า คลิปวีดีโอนี้ เล็งเป้าหมายไปทางกลุ่มเด็กรึเปล่า ถ้ามีเขาจะให้คุณ เลือกปรับว่า คลิปไหนสำหรับผู้ใหญ่ หรืออันไหนสำหรับเด็ก
กับ สอง พวกเขาจะออก บอทอัจฉริยะรุ่งห่าเหวอะไรก็ไม่รู้ออกมา จับวีดีโอที่มีเล็งไปทาง kids-friendly
.
แล้วนอกจากนั้น ทางกรมการค้า หรือ FTC ก็ได้ออกเป็นเหมือนแนวทาง ไกด์ไลน์ว่า อันนี้นควรจัดว่าเป็น kids-friendly ซึ่งจากที่อ่านๆมา แม่งครอบคุมสัสๆอ่ะครับ ถ้าช่องของคุณ หรือคลิปวีดีโอของคุณมันเข้าค่ายสิ่งที่ผมกำลังจะว่ามาเนี้ย คือว่า คอนเทนต์อันนั้นเป็น kids-friendly
.
.
อ๊ะ มาเริ่มกันเลยดีว่า
.
1-หัวข้อของวิดีโอ (เช่น เนื้อหาเพื่อการศึกษาสำหรับเด็กวัยอนุบาล)
.
2-ผู้ชมเป้าหมายและผู้ชมจริงๆ ของวิดีโอคือเด็กใช่ไหม
.
3-วิดีโอมีนักแสดงหรือนายแบบนางแบบที่เป็นเด็กไหม
.
4-วิดีโอมีตัวละคร คนดัง หรือของเล่นที่ดึงดูดเด็ก ซึ่งรวมถึงโมเดลฟิกเกอร์จากการ์ตูนหรือตัวการ์ตูนที่เคลื่อนไหวได้ไหม
(อันเนี้ยผมโดนเต็มๆในส่วนของ การ์ตูนเคลื่อนไหว)
.
5-วิดีโอใช้ภาษาที่มีเป้าหมายเพื่อทำให้เด็กเข้าใจได้ไหม
.
6-วิดีโอมีกิจกรรมที่ดึงดูดเด็ก เช่น การแสดงละคร เพลงหรือเกมง่ายๆ หรือการศึกษาปฐมวัยไหม
.
7-วิดีโอมีเพลง นิทาน หรือกลอนที่ดึงดูดเด็กไหม (ลาก่อย เจ้าม้าวิ่งกับกับ)
.
8-ข้อมูลอื่นๆ ที่คุณอาจมีเพื่อช่วยระบุผู้ชมของวิดีโอ เช่น หลักฐานเชิงประจักษ์เกี่ยวกับผู้ชมของวิดีโอ
(อันสุดท้ายผมเดาว่าน่าจะเป็นใส่ส่วนของกราฟที่ แสดงถึงอายุของผู้เข้าชม)
.
กลายเป็นว่าช่องที่ทำ พวกรีวิวของเล่น ช่องที่อนิเมชั่น หรือแม้แต่ช่องที่เล่มเกม แบบพวกเล่นที่พวกเด็กชอบเข้ามาดูกัน
คือ ...ซวยหมด
สำหรับผมอ่ะ ผมโดนข้อ 4เต็มๆเลยนะครับ ค่อนข้างกลัวอยู่ว่ามันจะไปเป็นปัญหากับช่องผมรึเปล่า เพราะผมรักทำสาวไส้การ์ตูน แล้วมันผิดหลักเหี้ยๆ ถึงแม้ผมจะมีคำหยาบ หรือภาพแบบโหดๆบ้าง แต่ท้ายสุดมันก็ลงเอยที่ว่า มันสามารถดึงดูดเหล่า ผู้ชมที่อายุน้อยกว่า 13ปีได้หมด ค่อนข้างซวยใช่ได้่ ผมยอมรับ555+ แต่ก็นั้นหละ ผมก็ทำใจได้ระดับหนึ่งหละ555+
.
แต่ว่าผมขอพูดอย่างหนึ่งหน่อยว่า กฎค่อนข้างที่จะเกาหลีเอาเรื่องเพราะว่า กฎหมายเนี้ยมันมีมานานแล้ว แล้ว youtube ก็น่าจะเป็นคนแรกที่รู้ถึงกฎนี้ดีที่สุด แต่กลายเป็นว่า พวกเขาค่อนข้างที่จะรอยแพ เรา youtuber ไปแล้ว ณ ขณะนี้
.
แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ ผมรู้สึกว่า ตัวไกด์ไลน์ที่เขาออกมาเนี้ยค่อนข้างเอาเปรียบมากๆ สำหรับกลุ่มคนบางกลุ่ม เช่นพวกเขาอาจจะชอบ ทำคลิปให้เด็กๆดูแบบ ปั้นดินน้ำมัน ประดิฐษ์สิ่งของ หรืออะไรก้แล้วแต่ ที่ไม่ใช้มาทำอะไรโง่ๆอย่างเช่น เอาไอติมไปละลายในกะทะ บางช่องอาจจะสอน วิทยาศาสตร์เบื้องต้อนสนุกๆให้เด็กดูก็ได้
.
หลักๆคือ พวกเขาเหล่าเนี้ย สามารสร้างรายได้จากสิ่งที่พวกเขาชอบตรงนั้นแล้วเอามาช่วยเรื่องอื่นๆในชีวิตประจำอย่างเช่น ใช้จ่ายการรักษาโรคประจำตัว เรื่องบ้าน รถ ครอบครัว ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายที่เงินปกติอาจจะไม่พอ
.
ไกด์ไลน์มันคลุมแทบจะหมด (ซึ่งก็ช่วยเหี้ยอะไรไม่ได้เพราะคนออกไกด์ไลน์ก็ ไดโนเสาร์ดีๆนี้หละ)
รวมถึงเหล่านักเล่นเกม LET PLAY เหล่าเคสเตอร์ต่างๆนะครับ ก็โดนหางเลขไปด้วย ถึงคุณจะไม่อยากยอมรับ หรือคุณจะบอกว่า คอนเทนต์คุณเล็งไปทางวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ มีแต่คำหยาบ แต่ถ้าเด็กดูเยอะก็ช่วยไม่ได้นะครับ
.
ที่เหลือมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วหละครับ เรื่องเนี้ยจริงๆ กฎหมายเนี้ยมันอยูที่ฝั่งเมกา ผมยังไม่รู้ว่าพอถึงวันที่ 1มกราแล้วไทยเราจะเอายังไง เพราะเกณฑ์การวัดของอายุ ว่าจะจัดว่าเป็นเด็กแต่ล่ะประเทศมันต่างกัน
.
ณ ตอนนี้ก็ทำได้แค่รอ จนกว่าจะถึงมกรา ปี2020 ก็ขอให้โชคดี
