‘สังคมไร้เงินสด’ หรือ cashless society ได้รับ เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงตลอดเวลาควบคู่ไปกับการพัฒนา การเงิน และเศรษฐกิจ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุสำคัญมาจากระบบการชำระเงินที่พัฒนาขึ้นช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้จ่าย และลดต้นทุนการทำธุรกรรมทางการเงิน ทำให้ผู้คนเริ่มพกเงินสดกันน้อยลงเรื่อย ๆ ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก
ตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2019 มีการใช้ e-Payment เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 จากระยะเดียวกันปีก่อน จึงเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่าไทยมีการพัฒนาทางด้านการชำระเงินและประชาชนเปิดรับ cashless payments อย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 มีส่วนทำให้การใช้เงินสดลดลงได้เช่นกันเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อการใช้ e-Payment ของคนไทยในช่วงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจากระดับปกติ จากธุรกรรมอินเตอร์เน็ตและโมบายแบงก์กิ้งที่ขยายตัวสูงขึ้นกว่า 72% ธุรกรรมโอนเงินและชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ‘พร้อมเพย์’ โดยมียอดการใช้งานในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา สูงสุดถึง 16.3 ล้านรายการต่อวัน และคาดว่าในระยะข้างหน้าการใช้งานยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นผลจากความคุ้นชินในการใช้ e-Payment ภายใต้บริบทใหม่
จากการสำรวจ วีซ่า (VISA) ผู้ให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก พบว่า 3 ใน 5 ของคนไทยที่ถูกสำรวจ หรือ 61% กำลังพัฒนานิสัยในการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด โดยเลือกที่จะใช้จ่ายด้วยบัตรชำระเงินหรือผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนมากกว่าการใช้เงินสดนอกจากนี้ เกือบ 7 ใน 10 ของคนไทย หรือ 69% บอกว่า หลังสถานการณ์โรคระบาดสิ้นสุดลง มีแนวโน้มที่จะผูกติดกับการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลแทนการกลับไปใช้เงินสดแบบเดิม
สำหรับผู้ประกอบการ เมื่อพฤติกรรมการใช้จ่าย และชำระเงินของผู้บริโภคเกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น SME จึงควรทำความเข้าใจ และปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ สอดคล้องกับพฤติกรรมการชำระเงิน และการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาร้านค้าและเลือกใช้บริการร้านที่สามารถใช้จ่ายเงินด้วยระบบ e-Payment และหลังจากนี้โลกการเงินอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอีกขั้น เร็วกว่าที่ทุกคนคาดคิดจากการเติบโตของเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดอันเกิดจากการพยายามแก้ไขปัญหาการใช้ชีวิตของคนที่มีพฤติกรรมใหม่ๆ ในยุคไวรัส จึงเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการทุกคนที่ต้องเตรียมพร้อมปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้า
ที่มา
https://www.salika.co/2020/05/20/covid-19-impact-consumer-behavior-payment/
https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/articles/Pages/Article_21Jul2020.aspx
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#cashlesssociety #epayment #digital #sme
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過100萬的網紅LDA World,也在其Youtube影片中提到,เงินสดจะหมดไป! “ดิจิตอลหยวน” ไม้ตายขั้วอำนาจจากจีน ?? ? . จีนออกสกุลเงินแห่งชาติเป็น Cryptocurrency ครั้งแรกของโลก (แทนที่การพิมพ์แบงค์ & ออกเหรียญ) ....
สังคมไร้เงินสด คือ 在 อ้ายจง Facebook 的最佳解答
ถอดบทเรียนธุรกิจจีน: ศึกแห่ง ผู้ให้บริการ e-wallet สังคมไร้เงินสดในจีน ผ่านพันธมิตรในธุรกิจอื่นๆ
ภายใต้กลยุทธ์ "ศัตรูของศัตรู คือมิตร"
-----
สำหรับในจีน ถ้าพูดถึงแอพกระเป๋าสตางค์ออนไลน์ ทุกคนควจะนึกถึง Alipay และ WeChat Pay อย่างแน่นอน เพราะสองเจ้านี้ถือเป็นยักษ์ใหญ่ ครองตลาดในจีนโดยสัดส่วนรวมกันเกือบ 100% เต็ม แม้จะมีเจ้าอื่นร่วมแจมบ้าง เช่น NetEase (บริษัทสื่อออนไลน์และผู้ผลิตเกมรายใหญ่) แต่ต้องยอมรับว่า ไม่มีใครจะมาแย่งสัดส่วนพื้นที่ของสองเจ้าข้างต้นได้
.
ดังนั้นตลอดช่วง 5ปีที่ผ่านมา Alipay และ WeChat Pay จึงแย่งชิงความเป็นหนึ่งในยุทธจักรอยู่ตลอด โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ "หาพันธมิตร" แบบแบ่งข้างชัดเจน
.
เริ่มต้นที่ศึกแรกๆที่เห็นภาพการแบ่งฝ่ายแบ่งข้างอย่างชัดที่สุด
ปี2016 WeChat Pay ได้จับมือกับ Starbucks เกือบทุกสาขาทั่วจีน เพื่อเป็นระบบจ่ายเงินอารยธรรม “สังคมไร้เงินสด” ที่อ้ายจงใช้คำว่า เกือบทุกสาขา เพราะในตอนนั้น มีอยู่เพียง 1สาขา ที่ไม่สามารถร่วมพันธมิตรกับ WeChat Pay ได้
รู้ไหมครับ ว่ามี 1 สาขา ที่ไม่รับ WeChat Pay และ Starbucks ก็เซย์ Yes ด้วย พอเดาได้ไหมครับว่าคือสาขาไหน?"
....
....
Starbucks สาขาที่ไม่สามารถใช้ WeChat Pay ได้ และเป็นเพียงสาขาเดียว คือ "Alibaba Campus" ที่นั่นสามารถจ่ายได้แค่ Alipay สำหรับบริการชำระเงินออนไลน์ครับ
แน่นอนว่า ถึงถิ่นเสือ ก็คงไม่ยอมให้คู่แข่งเข้ามาแน่นอน ... เพราะ Alipay เป็น Product สำคัญในเครือ Alibaba อาลีบาบา
(แต่ในภายหลัง Starbucksทุกสาขาในจีน ก็มี Alipay เข้าไปเคียงข้าง WeChat Pay )
.
วิธีการแก้เกมของ Alipay ในขณะนั้น คือ บุกไปตลาดต่างประเทศ Think Beyond และเดินเกมเหนือคู่แข่งไปเลย ด้วยการบุกยึดหัวหาดต่างแดนก่อน
โดยหลังจากที่ WeChat Pay ประกาศจับมือกับ Starbucksจีน ได้ไม่นาน Alipay เองก็ประกาศขยายตลาดไปที่ดินแดนบ้านเกิดของซานต้าครอสทางตอนเหนือสุดของฟินแลนด์ และร่วมมือกับ3สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของยุโรปเพื่อลุยตลาดยุโรป
และต่อมา Alipay ได้พื้นที่ Starbucks ทุกสาขาในประเทศมาเลเซียไปครอง แลกกันคนละหมัดแบบจังๆ
-----
ถ้าพูดถึงวงการE-commerceในจีน รู้กันดีว่า กลุ่ม Alibaba คือเบอร์หนึ่ง
และ Alibaba คือ บริษัทแม่ของ Alipay ดังนั้นในแพลตฟอร์มE-commerceของ Alibaba เช่น Taobao จึงตัดการรับชำระเงินผ่านคู่แข่งอย่าง WeChat Pay ออกไป คงไว้แต่ Alipay ของตนเอง
.
แต่มีหรือที่ WeChat Pay จะยอม ศัตรูของศัตรูย่อมคือมิตร พวกเขาจึงไปจับมือกับ JD.com เบอร์สองE-commerce คู่แข่งตัวฉกาจของ Alibaba โดยในแพลตฟอร์มของ JD.com ก็จ่ายได้แต่ WeChat Pay และแอพกระเป๋าเงินของ JD เอง
.
มาถึงธุรกิจแชร์จักรยาน ที่มาแรงอย่างมากในจีนเมื่อ2-3ปีก่อน ทั้ง Alipay และ WeChat Pay จึงมาจับมือพันธมิตรกับผู้ให้บริการเหล่านี้ โดย Alipay ได้ Ofo เบอร์สองแชร์จักรยานในจีนไปครอง ส่วน WeChat Pay ได้รายใหญ่ เบอร์1 ของตลาด อย่าง Mobike มาเชยชม
.
แต่ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน การแบ่งฝ่ายเลือกข้างใดข้างหนึ่ง เริ่มมีให้เห็นน้อยลงแล้ว
เพราะทั้ง Alipay และ WeChat Pay กลายมาเป็นแอพใช้จ่ายออนไลน์ที่คนจีนทุกคนต่างใช้
.
กล่าวคือ คนจีนทุกคนใช้ทั้งคู่ แต่จุดประสงค์อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย
-เริ่มแรกคนจีนใช้ Alipay เพราะเป็นทางเลือกที่ Taobao และแพลตฟอร์ม E-commerce ในเครือAlibaba เพิ่มเข้ามา คนจีนที่เคยชินกับการซื้อของออนไลน์แล้ว จึงมั่นใจที่จะจ่ายเงินผ่านออนไลน์ด้วย Alipay
-ส่วน WeChat Pay เริ่มต้นจาก WeChat แอปพลิเคชันสนทนาหรือแชทออนไลน์ที่คนจีนทุกคนใช้งานกันเป็นปกติ ใส่Feature แจกเงินอั่งเปา ไม่ว่าจะเงินย่อยขนาดไหน ก็โอนให้เพื่อนที่กำลังคุยกันบนWeChat ได้เลย ผ่าน WeChat Pay
ดังนั้น คนจีนจำนวนไม่น้อยจึงมีภาพจำว่า หากใช้จ่ายหรือโอนเงินจำนวนน้อยๆ อาจจะไม่เกิน 2,000หยวน (ราว 10,000บาท) จะใช้ WeChat Pay ถ้ายอดเงินกลางๆหรือมากกว่า 2,000หยวน หรือเป็นการซื้อของออนไลน์ รวมถึงต้องการผ่อนสินค้าแบบออนไลน์ ให้ใช้ Alipay
.
ในโลกของธุรกิจ ไม่มีคำว่า มิตรแท้หรือศัตรู(คู่แข่ง) ถาวร ยังคงเป็นจริงเสมอไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม
-----
ภาพประกอบจาก: https://www.flickr.com/photos/mujitra/49384366907
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #ธุรกิจจีน
สังคมไร้เงินสด คือ 在 อ้ายจง Facebook 的精選貼文
#รีวิวจีนสไตล์อ้ายจง จอดรถในที่จอดแบบชิลๆ ไม่ต้องกลัวลืมบัตร ไม่ต้องรอเงินทอนนาน เพราะทุกอย่างคือสังคมไร้เงินสด แค่ขับรถจอดแบบสวยๆหล่อๆก็พอ
กลับมาปักกิ่งอีกครั้ง หลังจากที่เคยใช้ชีวิตในฐานะนักศึกษาต่างชาติอยู่ราวๆ4ปี ที่นี่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ การเอาเทคโนโนโลยีมาผนวกกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่าง "สังคมไร้เงินสด"
ตัวอย่างที่เอามาให้ชมกันในวันนี้ คือ จอดรถในที่จอดรถสาธารณะหรือตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งตอนนี้หลายที่จอดในจีนรวมถึงกรุงปักกิ่ง เวลาจอดไม่ต้องรับบัตร ทางเข้าจะมีกล้องเพื่อถ่ายทะเบียนรถไว้ ไม้กั้นเปิด เราก็ขับเข้าไปได้เลย ระบบจะบันทึกเวลาจอด พอเราเอารถออกก็คำนวนค่าจอดโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราก็จ่ายโดยใช้ WeChat Pay หรือ Alipay บนมือถือ โดยการสแกน QRCode ก็เป็นอันเรียบร้อย
ระบบนี้แก้ปัญหา "ลืมบัตร / ทำบัตรหาย และรอเงินทอนจากพนักงานได้เป็นอย่างดี"
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
สังคมไร้เงินสด คือ 在 LDA World Youtube 的最讚貼文
เงินสดจะหมดไป! “ดิจิตอลหยวน” ไม้ตายขั้วอำนาจจากจีน ?? ?
.
จีนออกสกุลเงินแห่งชาติเป็น Cryptocurrency ครั้งแรกของโลก (แทนที่การพิมพ์แบงค์ & ออกเหรียญ)
.
อาจเป็นจุดพลิกสำคัญ ทำ “เงินสด” หายไปจากโลกไวขึ้น ?
.
การเขย่าวงการการเงินโลกครั้งนี้ อาจเป็นหมัดเด็ดที่จีนจะชิงความเป็นอันดับ 1 มหาอำนาจโลกมาจากอเมริกา
.
ลองสรุปรวบรวมประเด็นที่น่าสนใจมาให้คุยกันต่อค่ะ ????
-------------------------------------------------------------
ABOUT ME
Instagram: http://www.instagram.com/ldaworld
Facebook: http://www.facebook.com/LDAworld
Twitter: http://twitter.com/ldaworlds
Blog: http://www.ldaworld.com
PODCAST
Spotify : https://spoti.fi/2v8nNY9
Apple Podcast : https://apple.co/35NteJc
Podbean : https://ldapodcast.podbean.com
ติดต่องาน/ลงโฆษณา : contact@flourish.co.th
โทร : 086-363-6683
#DigitalYUAN #ดิจิตอลหยวน #LDAWorld
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/EmTP-4ZmLG4/hqdefault.jpg)