"ข่าวใหญ่ด้านอวกาศ : นาซาพบหลักฐานว่ามี "น้ำ" อยู่บนดวงจันทร์"
หลังจากลุ้นกันว่า นาซ่าจะประกาศข่าวอะไรเมื่อคืน เกี่ยวกับการค้นพบครั้งใหม่ที่ "ดวงจันทร์" คำตอบที่เกินคาดก็คือ มีหลักฐานยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า บนดวงจันทร์ก็มี "น้ำ" อยู่เช่นกัน และจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการไปตั้งถิ่นฐานบนดวงจันทร์ในอนาคต
ระบบ โซเฟีย หรือ Stratospheric Observatory for Infrared Astronomy (หอดูดาวที่ชั้นบรรยากาศระดับสตราโตสเฟียร์ เพื่อดาราศาสตร์แสงอินฟราเรด SOFIA โซเฟีย) ได้ยืนยันเป็นครั้งแรกว่า เจอน้ำ จากพื้นผิวดวงจันทร์ด้านที่ถูกแสงแดดส่องกระทบ การค้นพบนี้แสดงว่าอาจจะมีน้ำกระจายอยู่ทั่วไป ไม่ใช่มีแต่เฉพาะตรงบริเวณที่เป็นเงามืดหนาวเย็น-ไม่ถูกแดดส่อง เท่านั้น
ระบบ SOFIA ซึ่งเป็นโครงการร่วมกันระหว่างนาซ่ากับศูนย์การบินอวกาศประเทศเยอรมนี ได้ตรวจพบโมเลกุลของน้ำที่เครเตอร์ (หลุมอุกกาบาต) เคลวิอุส Clavius Crater ซึ่งเป็นหนึ่งในเครเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดบนดวงจันทร์ที่มองเห็นจากโลก โดยอยู่ทางซีกล่างของดวงจันทร์
ก่อนหน้านี้ เคยมีการค้นพบโมเลกุลของธาตุไฮโดรเจนบ้างแล้ว แต่ไม่อาจจะแยกแยะได้ว่าเป็นน้ำ (H2O) หรือเป็นโมเลกุลของไฮดรอกซิล (hydroxyl, OH) กันแน่
แต่ข้อมูลจากการค้นพบนี้ระบุว่า ที่สมดังกล่าวมีน้ำอยู่ในความเข้มข้น 100 - 412 ส่วนในล้านส่วน เทียบเท่ากับมีน้ำขวด ประมาณ 355 มิลลิลิตร ฝังอยู่ในดินขนาด 1 ลูกบาศก์เมตร กระจายอยู่บนพื้นผิวของดวงจันทร์ ซึ่งผลการค้นพบเหล่านี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Astronomy
หรือถ้าจะเปรียบเทียบกันง่ายๆ ทะเลทรายซาฮาร่านั้นมีน้ำอยู่มากกว่าที่ SOFIA ตรวจพบจากดินของดวงจันทร์ประมาณ 100 เท่า แต่ถึงแม้จะมีน้อย การค้นพบครั้งนี้ได้นำไปสู่คำถามใหญ่ว่า มีน้ำเกิดขึ้นบนดวงจันทร์ได้อย่างไร และทำไมมันถึงยังคงอยู่บนพื้นผิวที่ไม่มีอากาศเช่นนั้น
น้ำ เป็นทรัพยากรอันมีค่ายิ่งยวดในอากาศ แล้วเป็นองค์ประกอบสำคัญของสิ่งมีชีวิต (ในรูปแบบที่เรารู้จัก) ถึงแม้ว่าเรายังไม่รู้ว่าจะสามารถนำน้ำที่ SOFIA ค้นพบนี้มาใช้ได้โดยง่ายหรือไม่ แต่ก็หวังว่ามันจะมีส่วนช่วยเหลือโครงการ Artemis อาร์ทีมิส ของนาซ่า ที่จะส่งนักบินอวกาศหญิงคนแรก และนักบินอวกาศชายคนต่อไป ไปลงยังดวงจันทร์อีกครั้งในปี ค.ศ. 2024 นี้ เพื่อเตรียมการในการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์บนดวงจันทร์อย่างยั่งยืนในช่วงปลายของทศวรรษนี้
ผลที่ได้จาก SOFIA นี้ เป็นการต่อยอดผลการศึกษาในอดีตถึงการค้นหาน้ำบนดวงจันทร์ เช่น เมื่อนักบินอวกาศของยานอพอลโล Apollo ได้กลับมาจากดวงจันทร์เมื่อปี 1969 นั้นเป็นที่เชื่อกันว่าดวงจันทร์แห้งสนิท ไม่มีน้ำอยู่เลย
แต่โครงการอื่นๆ ที่ไปโคจรหรือลงกระแทกบนดวงจันทร์ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เช่นโครงการ Lunar Crater Observation and Sensing Satellite ได้ยืนยันว่าพบน้ำแข็งที่อยู่อย่างถาวร ในหลุมเครเตอร์ซึ่งไม่ถูกแสงแดดส่อง แถวๆ ขั้วโลกของดวงจันทร์
หลังจากนั้น ยานอวกาศอื่นๆ เช่น โครงการแคสซินี่ Cassini และโครงการ Deep Impact ของนาซ่า รวมไปถึงโครงการ จันทรายาน-1 Chandrayaan-1 ขององค์การอวกาศประเทศอินเดีย ตลอดจนระบบกล้องโทรทัศน์แสงอินฟราเรด (Infrared Telescope Facility) บนภาคพื้นดินของนาซ่า ได้ศึกษาพื้นผิวบนดวงจันทร์และพบหลักฐานของโมเลกุลที่มีไฮโดรเจนในบริเวณที่มีแสงส่องกระทบมากกว่าที่ขั้วของดวงจันทร์ แต่โครงการเหล่านั้นยังไม่สามารถจะแยกแยะได้อย่างชัดเจนว่า มันอยู่ในรูปของ H2O หรือ OH กันแน่
ระบบ SOFIA ทำให้เรามีวิธีการใหม่ที่จะใช้ศึกษาดวงจันทร์ ด้วยการนำเอาเครื่องบินโบอิ้ง 747SP ที่ติดกล้องโทรทรรศน์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 106 นิ้ว (2.7 เมตร) ขึ้นบินที่ความสูง 45,000 ฟุต (13.716 กิโลเมตร) เพื่อให้สูงเกินกว่าไอน้ำถึง 99% ของชั้นบรรยากาศโลก เราจะได้เห็นภาพของอวกาศในช่วงแสงอินฟราเรดได้ดีขึ้น ซึ่งจากกล้องโทรทัศน์พิเศษ ที่ชื่อว่า Faint Object infraRed CAmera for the SOFIA Telescope (FORCAST ฟอร์แคสต์) ระบบ SOFIA สามารถตรวจจับความยาวคลื่นที่จำเพาะต่อโมเลกุลของน้ำ คือ 6.1 ไมครอนได้ แล้วจึงทำให้สามารถค้นพบน้ำจากเครเตอร์เครเวียสได้ในที่สุด
คำถามที่ตามมาก็คือ ปกติแล้ว เมื่อไม่มีชั้นบรรยากาศที่หนาแน่น น้ำที่อยู่บนพื้นผิวของดวงจันทร์สาดส่องก็ควรจะสลายหายไปเมื่อถูกแสงอาทิตย์สาดส่อง แล้วอะไรล่ะที่ทำให้มีน้ำเกิดขึ้นและถูกเก็บเอาไว้บนดวงจันทร์ได้
อาจเป็นไปได้ว่า พวกอุกกาบาตขนาดจิ๋ว (micrometeorite) จำนวนมากที่ตกลงสู่ผิวดวงจันทร์เหมือนห่าฝน ได้นำเอาน้ำปริมาณเล็กน้อยมาด้วย ทำให้เกิดการสะสมของน้ำบนพื้นผิวของดวงจันทร์หลังจากตกกระทบ
หรืออาจจะเกิดจาก 2 ขั้นตอน ที่กระแสลมสุริยะ (solar wind) จากดวงอาทิตย์ได้นำเอาไฮโดรเจนมาสู่พื้นผิวดวงจันทร์ แล้วเกิดปฏิกิริยาเคมีกับแร่ธาตุในดิน ที่มีออกซิเจนอยู่ เกิดเป็นโมเลกุลของไฮดรอดซิลเกิดขึ้น จากนั้นรังสีที่เกิดขึ้นจากห่าฝนของอุกกาบาตจิ๋วที่มาปะทะดวงจันทร์ อาจจะสามารถเปลี่ยนไฮดรอกซิลให้กลายเป็นน้ำได้
แล้วน้ำถูกกับเก็บอยู่บนนั้นได้อย่างไร ? น้ำอาจจะถูกกักเก็บอยู่ในโครงสร้างขนาดจิ๋วคล้ายเม็ดลูกปัดที่อยู่ในดิน ซึ่งเกิดขึ้นจากความร้อนสูงเมื่ออุกกาบาตจิ๋วตกกระทบดวงจันทร์ หรืออาจเป็นไปได้ว่าน้ำนั้นแทรกตัวอยู่ระหว่างเม็ดดินทรายบนดวงจันทร์ และถูกปกป้องเอาไว้จากแสงอาทิตย์ (ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ จะทำให้เอาน้ำออกมาใช้ได้ง่ายกว่ากรณีที่น้ำถูกจับอยู่ในโครงสร้างคล้ายลูกปัด)
จริงๆ แล้ว SOFIA ถูกออกแบบมาให้ใช้ในการศึกษาเทหวัตถุที่อยู่ไกลโพ้นและมีแสงน้อยมาก ดังเช่น หลุมดำ กระจุกดาว และกาแล็คซี่ โดยอาศัยดวงดาวต่างๆ เป็นเครื่องนำทาง ระบุตำแหน่งในการทำให้กล้องอยู่นิ่ง
แต่การนำมาศึกษาดวงจันทร์นั้น เป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะมันอยู่ใกล้โลกและมีแสงสว่างมาก ทำให้ใช้ดวงดาวต่างๆ เป็นเครื่องบอกตำแหน่งไม่ได้ง่ายๆ จึงนำไปสู่การทดลองหาวิธีบินศึกษาดวงจันทร์เป็นครั้งแรก ในเดือนสิงหาคม ปี 2018 แต่ผลที่ได้ออกมานี้ (ที่ค้นพบน้ำ) เกินกว่าที่คาดไปมหาศาลมากนัก
ในเที่ยวบินรอบต่อๆ ไปของ SOFIA จะพยายามค้นหาน้ำบนผิวดวงจันทร์บริเวณอื่นๆ และในช่วงเวลาข้างขึ้นข้างแรมอื่นๆ เพื่อศึกษาเพิ่มว่า น้ำถูกสร้างขึ้น เก็บไว้ และเคลื่อนที่ไปบนดวงจันทร์ได้อย่างไร ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปรวมกับโครงการศึกษาดวงจันทร์อื่นๆ ในอนาคต เช่น ยานโรเวอร์ Volatiles Investigating Polar Exploration Rover (VIPER ไวเปอร์) เพื่อสร้างแผนภูมิทรัพยากรน้ำบนดวงจันทร์ ขึ้นเป็นครั้งแรก สำหรับการสำรวจอวกาศของมนุษย์ในอนาคต
ในวารสาร Nature Astronomy ฉบับเดียวกันนี้ ยังมีการตีพิมพ์บทความวิจัยที่ใช้แบบจำลองต่างๆ ทางทฤษฎี และข้อมูลจากยาน Lunar Reconnaissance Orbiter ของนาซ่า มาระบุว่ามีน้ำถูกกักเก็บเอาไว้ภายในเงามืดเล็กๆ ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำระดับเยือกแข็ง กระจายอยู่ทั่วดวงจันทร์ มากกว่าที่เคยคาดกันไว้
การค้นพบน้ำบนดวงจันทร์นี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นที่ทราบดีว่า น้ำเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามาก ถ้าเราสามารถนำน้ำบนดวงจันทร์มาใช้ได้ ก็แปลว่าในการไปสำรวจดวงจันทร์ครั้งต่อๆ ไป เราก็จะจำเป็นต้องขนน้ำไปจากโลกด้วย ในปริมาณที่น้อยลง แล้วทำให้เราสามารถขนอุปกรณ์ไปศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ได้มากขึ้น
ดูคลิปวีดีโอประกอบการค้นพบ ได้ที่ https://go.nasa.gov/2TnDWSd
ภาพและข้อมูลจาก https://www.nasa.gov/press-release/nasa-s-sofia-discovers-water-on-sunlit-surface-of-moon/
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過121萬的網紅RUBSARB production,也在其Youtube影片中提到,สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นที่แท้จริง "ไม่มีอะไรเลยยยยยยยย" ครั้งนี้เราจะพามาเดินทางข้ามรัฐกัน โดยมีเพื่อนร่วมเดินทางคือ พี่จุ๊ย ที่กำลังจะย้ายบ้านพอดี...
「หลุมอุกกาบาต」的推薦目錄:
- 關於หลุมอุกกาบาต 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
- 關於หลุมอุกกาบาต 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的最佳貼文
- 關於หลุมอุกกาบาต 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的精選貼文
- 關於หลุมอุกกาบาต 在 RUBSARB production Youtube 的最佳解答
- 關於หลุมอุกกาบาต 在 POMSTER Freestyle Youtube 的最佳貼文
- 關於หลุมอุกกาบาต 在 9 หลุมอุกกาบาตน่าทึ่งจากทั่วโลก - YouTube 的評價
- 關於หลุมอุกกาบาต 在 10 อันดับ หลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดในโลก - YouTube 的評價
- 關於หลุมอุกกาบาต 在 Astronomy From Home : EP.9 การเกิดหลุมอุกกาบาต 的評價
หลุมอุกกาบาต 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的最佳貼文
นาซ่าค้นพบโมเลกุลของสารประกอบอินทรีย์บนดาวอังคาร
วันที่ 8 มิถุนายน 2018 เวลา 1:00 น. ตามเวลาประเทศไทย องค์การอวกาศนาซ่าได้เปิดการแถลงข่าวรายงานว่ายานสำรวจ Curiossity Rover บนดาวอังคาร ได้ยืนยันการค้นพบโมเลกุลของสารประกอบอินทรีย์จำพวก Benzene, Propane, และ Thiophene บนดาวอังคาร เปิดหน้าต่างสู่การสำรวจพื้นผิวและใต้พื้นผิวของดาวอังคารในอนาคต
ยานสำรวจ Curiosity Rover เป็นยานสำรวจที่องค์การอวกาศนาซ่าส่งไปยังดาวอังคารตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2012 ณ หลุมอุกกาบาต Gale Crater โดยที่ยานสำ...
Continue Reading
หลุมอุกกาบาต 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的精選貼文
คำถาม - สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุด ที่ยาน New Horizons พบ คืออะไร?
ตอบ - สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุด ไม่ได้อยู่ที่พบอะไร แต่อยู่ที่ไม่พบอะไรมากกว่า และสิ่งที่เราไม่ค่อยพบก็คือ หลุมอุกกาบาต
ในทางธรณีวิทยาดาวเคราะห์ เรามักจะใช้จำนวนหลุมอุกกาบาตในการบ่งบอกอายุของพื้นผิวอยู่เสมอ เนื่องจากวัตถุเกือบทั้งหมดของระบบสุริยะถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกัน พื้นผิวที่มีหลุมอุกกาบาตมากกว่า ย่อมหมายถึงมีอายุพื้นผิวที่เก่าแก่กว่าครั้งสุดท้ายที่พื้นผิวมีการเปลี่ยนแปลง
...Continue Reading
หลุมอุกกาบาต 在 RUBSARB production Youtube 的最佳解答
สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นที่แท้จริง "ไม่มีอะไรเลยยยยยยยย" ครั้งนี้เราจะพามาเดินทางข้ามรัฐกัน โดยมีเพื่อนร่วมเดินทางคือ พี่จุ๊ย ที่กำลังจะย้ายบ้านพอดี ตอนนี้เราจะพาไปดูหลุมอุกกาบาต และจะพาทุกคนไปชมเมืองร้างกัน เอาละ ตามไปดูกันเลยจ้าาาา
0:00 ซามูไรพเนจร ตอนที่ 6
0:28 Los Angeles
0:48 Philippe The Original
2:52 เจอจุ๋ยจุ้ยแล้ววว
4:36 DAY#18 เริ่มออกเดินทาง Road Trip
8:04 Salvation Mountain
12:25 Cahuilla Ranger Station
14:43 SanTan Brewing
16:21 DAY#19
17:37 Tonto Natural Bridge State Park
24:32 Meteor Crater Natural
28:01 Apache Death Cave
39:09 Albuquerque, New Mexico
39:28 DAY#20
40:09 Old Town Albuquerque
รับชมก่อนใครได้ที่ : https://www.twitch.tv/videos/929292277
ติดต่องานรับทราบได้ที่
EMAIL : rubsarbproduction@gmail.com
LINE : rubsarb.production, TEL : 093-546-4497
ติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจของเรา
www.facebook.com/Rubsarb
www.facebook.com/gg.kasemsarn
#ซามูไรพเนจร #หลุมอุกกาบาต
หลุมอุกกาบาต 在 POMSTER Freestyle Youtube 的最佳貼文
▶ 10 อันดับ หลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดในโลก | Pomster Freestyle
More video : https://goo.gl/90CLv4
10. หลุมอุกกาบาตแบร์ริงเจอร์ (Barringer Crater)
หลุมอุกกาบาตแบร์ริงเจอร์ ตั้งอยู่ที่รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา อุกกาบาตหนัก 1,000 ตัน โหม่งโลกด้วยความเร็วกว่า 40,000 ไมล์ต่อชั่วโมง ก่อให้เกิดหลุมลึกประมาณ 174 เมตร หลุมนี้มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด เพราะยังไม่ถูกสภาพแวดล้อมโดยรอบกัดกร่อน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.25 กิโลเมตร
9. หลุมทะเลสาบโบซัมทวี (Lake Bosumtwi Crater)
ทะเลสาบโบซัมทวี อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศกานา นี่อาจจะดูคล้ายกับทะเลสาป แต่ความจริงแล้วนักดาราศาสตร์คาดกันว่าเป็นหลุมที่เกิดจากการพุ่งชนของดาวหางหรือดาวเคราะห์น้อย ประมาณ 1.3 ล้านปีก่อน แต่ปัจจุบันหลุมอุกกาบาตได้กลายเป็นแอ่งน้ำทะเลสาบ และทะเลสาบนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10.5 กิโลเมตร
8. หลุมอุกกาบาตออร์รองกา (Aorounga Impact Crater, Chad)
หลุมอุกกาบาตออร์รองกา อยู่บริเวณทะเลทรายซาฮาราทางตอนเหนือของสาธารณรัฐแชดในทวีปแอฟริกา มีลักษณะเป็นแอ่งวงแหวน ตรงกลางเป็นหลุมและเป็นแนวสันของหินและทราย หลุมนี้คาดว่าอายุไม่เกิน 350 ล้านปี และเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 17 กิโลเมตร
7. หลุมอุกกาบาตโกชิส บลัฟฟ์ (Gosses Bluff Crater)
หลุมอุกกาบาตโกชิส บลัฟฟ์ ตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย ถ้าดูจากรูปภาพแล้วทุกคนจะเห็นได้ว่าเป็นหลุมอุกกาบาตที่มีโครงสร้างซับซ้อน ซึ่งอุกกาบาตลูกนี้พุ่งชนโลกเมื่อ 142 ล้านปีก่อน แรงระเบิดของมันมีอาณุภาพทัดเทียมระเบิด TNT 22,000 เมกกะตันเลยทีเดียว ซึ่งส่งผลทำให้หลุมนี้ลึก 5 กิโลเมตร และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 24 กิโลเมตร
6. หลุมทะเลสาบเมสแทสทีน (Mistastin Lake)
หลุมทะเลสาบเมสแทสทีนนี้ ตั้งอยู่ที่ลาบราดอร์ ประเทศแคนาดา นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของหลุมอุกาบาตที่กลายเป็นทะเลสาป คาดกันว่าหลุมนี้เกิดจากการพุ่งเข้าชนโลกเมื่อ 38 ล้านปีด้วยลูกอุกกาบาตที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 28 กิโลเมตร ซึ่งหลุมนี้ในปัจจุบันนั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ประมาณ 27 กิโลเมตร
5. หลุมทะเลสาบเคลียร์วอเทอร์ (Clearwater Lakes)
หลุมทะเลสาบเคลียร์วอเทอร์แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขตควีเบก ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาประมาณ 290 ล้านปีมาแล้ว จากภาพจะเห็นว่าทะเลสาบมีลักษณะเป็นวงกลมสองวงคู่กัน ซึ่งเกิดจากอุกกาบาตที่พุ่งชนพร้อมกันสองลูก จากผลกระทบของคู่ดาวหางที่ตกลงมา ผลก็คือ ดาวหางลูกใหญ่ทำให้เกิดหลุมกว้าง 32 กิโลเมตร และลูกเล็กเกิดหลุมขนาด 22 กิโลเมตร ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เนื่องจากความงดงามของท้องทะเลโดยรอบนั่นเอง
4. หลุมอุกาบาตคารากูล (Kara-Kul)
หลุมอุกกาบาตคารากูล ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศทาจิกิสถาน ในเทือกเขาเพเมอร์ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,900 เมตร ซึ่งเกิดจากการพุ่งชนของอุกกาบาตเมื่อ 25 ล้านปีก่อน จากการพุ่งชนดังกล่าว ทำให้หลุมอุกกาบาตนี้ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 52 กิโลเมตร เลยทีเดียว
3. หลุมอุกกาบาตแมนิคูอาแกน (Manicouagan Crater, Canada)
หลุมอุกกาบาตแมนิคูอาแกน เป็นหลุมเก่าแก่ประมาณ 212 ล้านปีก่อน ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลรัฐควีเบก ประเทศแคนาดา เกิดจากการพุ่งชนของดาวหางขนาดประมาณ 5 กิโลเมตร โดยคาดว่าเป็นดาวหางที่มีความหนาแน่นสูงมาก และผลจากการพุ่งชนนี้ทำให้เกิดหลุมที่กว้างมากถึง 100 กิโลเมตรเลยทีเดียว จากความใหญ่ที่ว่านี้ หลุมอุกกาบาตแมนิคูอาแกน จึงนับเป็น 1 ใน 5 หลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีสภาพสมบูรณ์มากอีกด้วย
2. หลุมอุกกาบาตซิกซูลัป (chicxulub crater)
หลุมอุกกาบาตซิกซูลัป ตั้งอยู่ที่อ่าวแม็กซิโก เป็นหลุมที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกมาก เพราะอุกกาบาตที่พุ่งชนโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน นี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างถึง 170-180 กิโลเมตร และการพุ่งชนอย่างรุนแรงนี้ ส่งผลกระทบทำให้เกิดสึนามิ แผ่นดินไหว เกิดการระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งโลกทั้งใบถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันมหาศาลจนสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้จนนำไปสู่การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ในที่สุด ปัจจุบันหลุมอุกกาบาตซิกซูลัปมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 200 กิโลเมตร
1. หลุมอุกกาบาต วเรเดฟอร์ทโดม (Vredefort Dome)
หลุมอุกกาบาต วเรเดฟอร์ทโดมนับเป็นอุกกาบาตโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของหลุมประมาณ 250-300 กิโลเมตร!! ตั้งอยู่ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เมืองวเรเดฟอร์ต และชื่อเมืองนั้นคือที่มาของชื่อหลุมอุกกาบาตแห่งนี้นั่นเอง และปัจจุบันหลุมอุกกาบาต วเรเดฟอร์ทได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์การยูเนสโกแล้ว
▶ Inspiration BY Casey neistat
▶ ข้อมูลจาก https://www.dek-d.com
http://travel.trueid.net
============================
ข้อมูลสำหรับการติดตามผม
BLOGGER : https://goo.gl/NAexP1
YOUTUBE : https://goo.gl/90CLv4
FACEBOOK : https://goo.gl/XqffdR
INSTAGRAM : https://goo.gl/WVZo7t
Support subtitles : https://goo.gl/bt0pRS
==============================
จะพยายามทำคลิปออกมาเยอะๆ
ฝากกดติดตามด้วยนะครับบบ
หลุมอุกกาบาต 在 10 อันดับ หลุมอุกกาบาตที่ใหญ่ที่สุดในโลก - YouTube 的推薦與評價
10 อันดับ หลุมอุกกาบาต ที่ใหญ่ที่สุดในโลก | Pomster FreestyleMore video : https://goo.gl/90CLv410. หลุมอุกกาบาต แบร์ริงเจอร์ (Barringer ... ... <看更多>
หลุมอุกกาบาต 在 Astronomy From Home : EP.9 การเกิดหลุมอุกกาบาต 的推薦與評價
Astronomy From Home : EP.9 การเกิด หลุมอุกกาบาต มาเรียนรู้ดาราศาสตร์จากสิ่งรอบตัวที่อยู่ในบ้านของทุกคน ในตอนที่ 9 มาจำลองการเกิดหลุมอุกกาบาติ... ... <看更多>
หลุมอุกกาบาต 在 9 หลุมอุกกาบาตน่าทึ่งจากทั่วโลก - YouTube 的推薦與評價
อุกกาบาต คือ หินหรือสะเก็ดดาวในอวกาศที่หลุดเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก แล้วเกิดการเสียดสีเผาไหม้ ดาวหาง อุกกาบาต ขนาดเล็ก ก็จะถูกเผาไหม้จนหมด ... ... <看更多>