นายกฯ ชี้แจงในสภาฯรอบ 2
ตอบหมอชลน่าน ครับ
#อภิปรายไม่ไว้วางใจ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงอีกครั้ง หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.พรรคเพื่อไทย โดยกล่าวว่า การอภิปรายที่บอกว่าแก้ปัญหาโควิดได้ไม่ดี ไม่มีระบบ ขาดการใช้องค์ความรู้ รวมทั้งการรวบอำนาจ บริหารคนเดียว ขอชี้แจงว่านายกฯ สั่งงานตามมติ ตามความเห็นชอบร่วมกัน จึงจะสั่งได้ ตนไม่เคยเรียกใครมาแอบสั่งงานเฉพาะกิจ เฉพาะเรื่อง เฉพาะกิจกรรม “อย่ากล่าวหาว่าผมสั่งการแบบเผด็จการ ติดเป็นนิสัย ผมไม่ใช่คนแบบนั้น”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การบริหารโควิด แบ่งเป็นสองส่วน คือ การจัดเตรียมแผนเผชิญเหตุ และกำหนดมาตรการควบคุมโรคที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ถึงแม้ว่าโควิดจะเป็นโรคอุบัติใหม่ รัฐบาลก็ใช้มาตรการสากลในการจัดทำแผน โดยมีการตั้ง ศบค.และประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
“มาตรฐานสาธารณสุขของเราน่าภูมิใจ เราพัฒนาให้ดีขึ้น ระหว่างนี้อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ยืนยันว่าระบบสาธารณสุขของเราไมได้ล้มเหลว เราต้องเชื่อมั่นบุคลากรทางการแพทย์ของเรา”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การล็อกดาวน์แตกต่างกันไปในแต่ละช่วง ช่วงแรกอาจล็อกมากหน่อยทำให้ตัวเลขการระบาดลดลงในจำนวนที่น่าพอใจ แต่เมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นก็ตามแก้ปัญหาไป ไม่มีใครต้องการให้เกิด ส่วนเรื่องของชุดตรวจ ATK นอกจากที่รัฐบาลนำเข้ามาแล้ว ยังเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ปกติ ได้รับอนุญาตให้เข้ามาจำหน่ายตามร้านขายยา ราคาแตกต่างกันไปสุดแล้วแต่ประชาชนจะเลือกใช้ ในที่สุดรัฐบาลก็ต้องจัดหาจำนวน 8.5 ล้านชิ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่มีมาก จนไม่สามารถทำการตรวจหาเชื้อโดยละเอียดได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ในการประชุม ศบค.ตนไม่เคยสั่งการให้ซื้อชุดตรวจ ATK ที่ต้องผ่านการรับรองขององค์การอนามัยโลก ตนไปถอดเทปการประชุมฟังแล้วก็ไม่ได้สั่งจริงๆ ก็ต้องไปพิสูจน์กัน ตนจำได้ว่าตนไม่ได้พูด และขณะนั้นองค์การอนามัยโลกก็ยังไม่ได้รับรอง ATK ตัวไหนที่ใช้สำหรับประชาชนทั่วไป มีแต่เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า การเตรียมความพร้อมทุกอย่าง ถือเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จในวิกฤติที่ผ่านมาตลอด 20 เดือน ขณะนี้มีการระบาดหลายระลอก เชื้อโรคก็พัฒนาไปตามลำดับ
ส่วนวัคซีนครั้งแรกมีประมาณ 10 บริษัท ที่มีผลสำเร็จในการทดลองใช้ในคน และมีการจำหน่ายในโลก แต่ความต้องการกับภาคการผลิตไม่ต้องกัน โดยขีดความสามารถในการผลิตของแต่ละบริษัทไม่พอ จึงต้องมีการจัดสรรปันส่วนของเขา ขณะที่เรามีบริษัทของเราซึ่งผลิตได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะรับจ้างผลิต ดังนั้นเราต้องติดต่อกับบริษัทยาเพื่อจัดหาวัคซีนตามจำนวนที่ได้มีการพูดถึงกันไว้ ตนได้รับการยืนยันจากบริษัทแม่ว่าจะจัดหาวัคซีนให้เราครบ 61 ล้านโดสในสิ้นปีนี้ ปัญหาคือ การจัตหา เป็นเรื่องที่ผู้ซื้อต่างแย่งกันซื้อ กันเอาไว้ให้ประเทศของตัวเอง เราจึงพยายามอย่างเต็มที่โดยเฉพาะวัคซีนที่ผลิตเองในประเทศ
“ผมจะไม่โทษใคร เพราะทุกคนต้องมาช่วยกัน แรกๆ ก็อาจจะมีคนตกหล่น ไม่สามารถเข้าสู่โรงพยาบาล เตียงเต็ม เราก็พัฒนาเป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งสถานการณ์เริ่มดีขึ้นหลายสัปดาห์ ผมไม่ได้ปกปิดตัวเลขอย่างที่ท่านพูดเพราะเราต้องรายงานองค์กรระหว่างประเทศด้วย ผมเสียใจที่มีการสูญเสีย บาดเจ็บ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ผมไม่ได้อยากค้าความตาย ดังนั้นอย่าใช้คำพูดที่เว่อร์หรือเกินไปเลย ใครเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมีความสุขทั้งนั้น ผมก็หัวอกของพ่อของแม่ มีพ่อมีแม่มีปู่ย่าตายาย ยิ่งผมเป็นนายกฯ ใครเสียชีวิต ผมก็เสียใจมากกว่าอยู่แล้ว ผมแบกรับชีวิตของท่านไว้ด้วย ผมไม่ทำอะไรที่ทำให้เกิดปัญหาหรอก ผมอาจพูดสู้ท่านไม่ได้เพราะท่านเป็นหมอ แต่ช่วยฟังหมออื่นด้วย วันนี้ยืนยันว่าเราจัดวัคซีนให้ครบ 50 ล้านคนในเดือน ต.ค. และสิ้นปีเราจะมีวัคซีนถึง 140 ล้านโดส ส่วนเรื่องทุจริตก็ว่าไป ให้มันเป็นไปตามกระบวนการก็แล้วกัน ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ผมทำในระดับรัฐบาลไม่มีเจตนาทุจริต ผมไม่คุ้นเคยกับเรื่องการทุจริต ส่วนที่บอกว่าผมบิดเบือนยอด ถ้าคิดหัวกลับแบบนี้ก็ไปไม่ได้หรอก”
พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า ส่วนที่บอกไม่ร่วมโคแวกซ์ คนที่เป็นสมาชิกยังไม่ได้ตามที่ต้องการเลย ไม่ได้ตามยี่ห้อและจำนวนด้วย เราก็พยายามพึ่งตัวเองให้มากที่สุด
“เราไม่ได้ร้องขอการบริจาควัคซีนจากใคร เขาเห็นประเทศไทยเป็นมิตรประเทศ เขาก็บริจาคให้เราเอง คิดว่าคนอย่างผม จะขอคนอื่นหรือ ผมมีจิตใจมีแต่ให้ ถ้าเรามีวัคซีนเพียงพอก็ต้องดูแลอาเซียน ผมไม่ใช่คนใจแคบ”
“การฉีดวัคซีนไม่อยากให้ด้อยค่าวัคซีนใดทั้งสิ้น ที่ผ่านมาเรารักษาคนหายไปเท่าไร ถ้าไม่ฉีดวัคซีนใดเลย รอแต่วัคซีนดีๆ จะตายมากกว่านี้หรือไม่ ตายคนเดียวผมก็ไม่พอใจ ไม่มีความสุขอยู่แล้ว”
“ส่วนการศึกษาที่มีการพาดพิงว่าสอนให้ประชาชนโง่ ถ้าสอนแบบนี้ จริงๆ มันสอนมานานแล้ว ผมกำลังสอนให้ฉลาดขึ้น จะได้ไม่ฟังแบบเมื่อกี้แล้วก็เชื่อ เพราะถ้าเชื่อแบบนี้เขาเรียกว่าไม่ฉลาด
“ที่หาว่าผมแบบนั้นแบบนี้ ท่านคิดอย่างไรก็คิดไปเถอะ ผมรู้แน่แก่ใจของผมเอง และสิ่งที่ผมได้รับการสั่งสอนจากพ่อ แม่ และครูบาอาจารย์ เขาให้ผมพูดจาเรียบร้อย สุภาพ ใจเย็น ไม่หยาบคาย ไม่เหยียดหยาม ดูถูก สอนด้วยคำว่าสำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ผมจะพยายามทำให้สภาฯ แห่งนี้เป็นสภาของผู้ทรงเกียรติอย่างแท้จริง ขอบคุณสมาชิกที่เสนอแนะสิ่งที่เป็นประโยชน์และใช้วาจาเหมาะสม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ 在 สรุปวันที่ 3 สรุป "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" | มุมการเมือง | 22 ก.ค. 65 的推薦與評價
ครึ่งเวลาหลังของการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ การไล่ระดับข้อกล่าวหาตามญัตติจากนั่งร้าน ไปถึงส่วนหัว คือ นายกรัฐมนตรี ... ... <看更多>