1
เมื่อวานนี้ผมรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการสนทนาในวงสนทนาสองวงในงานที่ a day Bulletin จัดขึ้น วงแรกคุยกับสามบรรณาธิการรุ่นใหญ่ อีกวงคุยกับคอลัมนิสต์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาตั้งแต่เศรษฐศาสตร์ การเงิน แฟชั่น วิทยาศาสตร์ และนักเขียน
2
ระหว่างนั่งอยู่ตรงนั้นผมนึกถึงเรื่องที่เคยได้ยินมาว่า ความเปลี่ยนแปลงมากมายในโลกใบนี้เริ่มต้นที่ร้านกาแฟ จำได้ว่าเมื่อครั้งเดินทางไปทำสารคดีเกี่ยวกับอัลแบร์ กามู ไกด์ทัวร์ก็ชี้ร้านกาแฟที่นักคิดนักเขียนชอบมานั่งคุยกันเป็นประจำให้ดู ปัญญาและความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นจากการ "สนทนา" กันอย่างไม่ต้องสงสัย
3
ผู้ร่วมสนทนาทั้งหมดมิได้มีความคิดไปในแนวทางเดียวกัน รวมถึงความสนใจและวิธีมองปัญหา หรือกระทั่งวิธีค้นหา "ความจริง" ของชีวิตก็แตกต่างกันไป ผมนั่งฟังด้วยความเพลิดเพลินแล้วคิดในใจว่า มนุษย์นี่ช่างแตกต่างกันดีแท้ แต่ละคนเหมือนมาจากคนละดาว พูดคนละภาษา กระนั้นก็สามารถเข้าใจในสิ่งที่คนอื่นพูดได้ผ่านการอธิบายของเขา
4
เช่นคุณเติ้ล ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน แห่ง Spaceth.co ที่ใส่เสื้อเป็นสมการวิทยาศาสตร์มา ลำพังแค่ให้อธิบายสมการบนเสื้อให้ฟังก็น่าทึ่งแล้ว หลายประโยคของเขาฟังแล้วมึน จึงได้รู้ว่าความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของเราคงมีน้อยเกินจะเข้าใจ แต่ถามว่าน่าสนใจไหม เออ อยากรู้เรื่องที่เขาเล่าให้มากขึ้นแฮะ
5
นักเศรษฐศาสตร์อย่างคุณณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ก็มองปัญหาของเมืองในมุมบิ๊กดาต้าซึ่งก็น่าสนใจมาก คุณอุ้ง กมลนาถ องค์วรรณดี มองปัญหาสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำ และการเมืองในมุมของแฟชั่นตามที่เธอทำงานอยู่ คุณเจษฎา สุขทิศก็ชวนมองในมุมการเงิน แต่ละคนบนเวทีล้วนเปิดโลกและหยิบยื่นแว่นใหม่ในการมองปัญหาให้กับผู้ที่นั่งฟังอย่างผม
6
สำหรับพี่ชมพู อุรุดา โควินท์ และพี่แขก คำ ผกานั้นผมอาจคุ้นชินกับภาษาและแว่นของพี่ทั้งสอง เพราะได้อ่านสเตตัสของทั้งคู่อยู่ทุกวัน กระนั้นเมื่อทั้งสองคนอยู่บนเวทีร่วมกับคอลัมนิสต์อีกสี่ท่านก็ทำให้บนเวทีมีส่วนผสมที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีก
7
ตอนจบงานบนยังแซวพี่หนุ่ม โตมร ศุขปรีชาไปว่า a day Bulletin น่าจะจัดวงเสวนาแบบนี้บ่อยๆ เพราะฟังแล้วประเทืองปัญญาดี แต่อันที่จริงก็มีเวทีที่น่าสนใจแบบนี้อยู่ไม่น้อยในบ้านเมืองเรา
8
สิ่งที่ผมชอบที่สุดในบรรยากาศของงานเสวนาคือการได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของคนแบบอื่น คนที่อยู่คนละดาวกับเรา ซึ่งอาจมีบางอย่างที่เหมือนกับเรา และอีกหลายอย่างที่ต่างไปสิ้นเชิง การรับรู้ถึงความหลากหลายแบบนี้นั้นสำคัญ มันทำให้เราไม่เผลอคิดไปว่ามีแต่คนคิดคล้ายๆ เรา (เพื่อนร่วมดาว) หรือมีแต่คนคิดตรงข้ามกับเรา (ศัตรูต่าวดาว) แต่โลกมันมี "และอื่นๆ" อีกเต็มไปหมด และบ่อยครั้งที่เราได้เห็นคนที่เคยเป็น "ศัตรูต่างดาว" กันพูดออกมาว่า "จุดนี้เราคิดตรงกัน" ในวงสนทนาแบบนี้
9
คนเราเรียนรู้สิ่งใหม่จากความต่าง ความคิดใหม่ๆ ของเราเกิดขึ้นจากการได้ฟัง ถก เถียง ถามจากคนที่มองโลกด้วยแว่นอื่น
10
ผมคิดถึงสิ่งที่ Wael Ghonim ผู้มีส่วนสำคัญในการเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดียกระทั่งนำไปสู่การปฎิวัติประชาธิปไตยในอียิปต์ ผู้เขียนหนังสือ Revolution 2.0 ขึ้นพูดบนเวที TED Talk ว่าโซเชียลมีเดียทำให้เราแตกแยกกันด้วยวิกฤต 5 ประการ
11
หนึ่ง, ข่าวลือแพร่กระจายไปทั่ว และมันตอบสนองคนที่พร้อมจะเชื่อแบบนั้นอยู่แล้ว สอง, เราสื่อสารพูดคุยแต่กับคนที่เห็นด้วยกับเราตลอดเวลา เราบล็อก hide unfollow คนที่คิดไม่เหมือนเรา สาม, การถกเถียงในโซเชียลมีเดียมักนำไปสู่อารมณ์รุนแรงเกรี้ยวกราด การมองไม่เห็นหน้ากันทำให้เราลืมไปว่าอีกฝ่ายที่เราเถียงหรือด่าอยู่ก็เป็นมนุษย์ที่มีเลือดมีเนื้อ แต่ที่ผมสนใจคือข้อสี่และห้า
12
สี่, ดูเหมือนมันยากมากที่เราจะเปลี่ยนความคิด เพราะตัวตนของเราถูกจดจำผ่านสิ่งที่เราเขียน ภาพที่เราโพสต์ลงไปในโซเชียลมีเดีย เราเองก็ติดอยู่กับอดีต ขณะที่คนอื่นก็พร้อมที่จะขุดเอาสิ่งที่เราเคยพูดในอดีตกลับมาตอกย้ำ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเราจะบอกว่า "ฉันคิดแตกต่างไปจากเดิมแล้ว" เราก็ทำได้ การโพสต์หรือทวีตลงไปในโลกออนไลน์จึงเป็นการประทับตัวตนลงไปตลอดเวลาโดยมีเพื่อนพ้องได้อ่านสิ่งเหล่านั้นอยู่เรื่อยๆ หากเกิดเปลี่ยนคิดขึ้นมาก็จะเขินๆ กันหน่อย (หรือไม่หน่อย)
13
ห้า, ซึ่งวิกฤตสุดคือ โซเชียลมีเดียถูกออกแบบมาให้ "ป่าวประกาศ" มากกว่า "สนทนากัน" มันเหมาะกับการเร้าอารมณ์ด้วยถ้อยคำสั้นๆ มากกว่าการเชื่อมโยงเหตุผลลึกๆ ยาวๆ และซับซ้อน ในโลกออนไลน์เรา "พูดใส่กัน" มากกว่า "พูดคุยกัน" Wael Ghonim บอกว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้การแบ่งขั้วกันในสังคมเกิดขึ้นทั่วโลก
14
เราเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น เราสื่อสารกันง่ายขึ้น บ่อยขึ้น แต่เราอาจจะสนทนากันน้อยลง รับรู้การมีอยู่ของคนจากดาวอื่นน้อยลง ไม่เพียงคนที่คิดตรงกันข้ามกับเรา แต่ยังมีคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องที่เราสนใจ มีวิธีแก้ปัญหาของสังคมอีกแบบที่ต่างไปสิ้นเชิง หรือเลือกวิถีชีวิตที่แตกต่างไปอีกแบบหนึ่งเลย การรับรู้ถึงการมีอยู่ของคนจากดาวอื่นสำคัญยังไง สำหรับผมแล้วมันให้รู้ว่าเราไม่ใช่คำตอบเดียวของโลกใบนี้ หรือสังคมนี้ เรายังผลักดันสิ่งที่เราเชื่อต่อไปได้ ขณะเดียวกันเราก็จะลดเสียงของเรา ลดความโกรธ ลดอารมณ์รุนแรงลงได้ หรือกระทั่งอาจได้รับแง่มุมใหม่ๆ จากคนดาวอื่นมาลองปรับใช้กับตัวเองได้ด้วย
15
ท่ามกลางปัญหามากมายรุมเร้า เมื่อวานนี้คุณอุ้ง กมลนาถเล่าถึงคนสามกลุ่มที่ตอบสนองปัญหาในสังคมแตกต่างกัน กลุ่มแรกจะผลักดันเรียกร้องให้เกิดการแก้ปัญหาในทันที ซึ่งก็เหมาะกับประเด็นเร่งด่วน เช่นการใช้อำนาจไม่ชอบธรรมหรือปัญหาสิ่งแวดล้อม กลุ่มสองคือรู้สึกหมดหวังกับสังคม บอกกับตัวเองว่าอยู่ๆ ไปเถอะ มันคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว และกลุ่มที่สามคือกลุ่มที่อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงลึกซึ่งต้องใช้เวลา กลุ่มนี้เลือกที่จะค่อยๆ เปลี่ยนวิธีคิดหรือโลกทัศน์ของผู้คนเพื่อคาดหวังความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ปัญหาคือกลุ่มแรกจะบอกว่ากลุ่มที่สามใจเย็นเกินไป ไม่ร่วมขับเคลื่อนปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนกลุ่มที่สามก็อาจจะบอกว่ากลุ่มแรกเอาแต่เย้วๆ ไปวันๆ ไม่คิดถึงการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งยั่งยืน คุณอุ้งบอกว่า ปัญหาของทุกวันนี้คือทั้งสามกลุ่มไม่มีพื้นที่ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
16
จากการนั่งฟังและร่วมซักถามในวงสนทนาที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีความชำนาญและความคิดที่น่าสนใจ ผมพบบรรยากาศที่แตกต่างไปจากการคุยกันผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย นั่นคือพื้นที่ที่ทำให้เราเห็นและฟังคนจากดาวดวงอื่น มีทั้งที่ต่างจากเรามากและคล้ายกับเรามาก แต่ไม่มีใครที่เหมือนเราไปเสียทั้งหมด ฟัง ถาม เถียง ต่อยอด เรียนรู้ ก่อเกิดเป็นสติปัญญาใหม่ๆ
17
ผมเห็นด้วยกับคุณอุ้งว่า เราต้องการพื้นที่ในการ "คุยกัน" มากขึ้น เพราะเรา "ป่าวประกาศ" ว่าฉันคิดยังไงกันมามากแล้ว
18
ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ โรคระบาด ปัญหาสภาพแวดล้อมและอากาศเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงการเมืองที่รอวันปะทุตลอดเวลา ปีนี้เรากำลังเผชิญความท้าทายที่เป็น "โจทย์ยาก" สำหรับทุกคน เมื่อบวกรวมเข้ากับความเหลื่อมล้ำในประเทศที่รุนแรงขึ้นทุกวัน โอกาสที่ความคิดสองขั้วที่แตกต่างกันมากในทุกเรื่องจะปะทะกันรุนแรงมีมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากทุกเรื่องที่เป็นข่าวในแต่ละวัน ช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ คล้ายอุปกรณ์ในการเร่งความร้อนของความแตกแยกทางความคิดให้ระอุมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ของปัญหาทั้งหลายอาจถูกสะท้อนผ่านการฆ่าตัวตาย จบชีวิตผู้คนในครอบครัว หรือกระทำรุนแรงกับคนอื่น รวมถึงปัญหาสุขภาพจิตต่างๆ เช่น อาการซึมเศร้า
19
เรากำลังอยู่ในยุคสมัยที่ความเครียดแผ่ลามปกคลุมบรรยากาศไปทั่ว เราใช้ชีวิตอยู่กับมัน เป็นส่วนหนึ่งของมัน และอาจเป็นผู้สร้างมันขึ้นมาเองด้วย
20
ทำอย่างไรเราจึงจะสร้าง "พื้นที่สนทนา" รวมถึง "วัฒนธรรมพูดคุย" ให้ไม่น้อยไปกว่า "พื้นที่ป่าวประกาศ" หรือ "โพสต์และคอมเมนต์" เพราะการปิดตัวเองอยู่กับดาวของตัวเองและเพื่อนร่วมดาวนั้นยิ่งทำให้เราเห็นคนอื่นเป็น "มนุษย์ต่างดาว" ได้ง่ายขึ้น แทนที่อยากทำความเข้าใจ เรากลับหวาดกลัวและเกลียดชังกันอย่างรวดเร็ว
21
ท่ามกลางความแตกแยกกันได้ในแทบทุกเรื่อง นี่คือโจทย์ท้าทายในยุคสมัยที่ปัญหาทุกอย่างถูกกระตุ้นให้ใหญ่และเร็วขึ้นด้วยไวรัส COVID-19 เศรษฐกิจชะงัก ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับคนในวงกว้าง เราต้องการการแก้ปัญหาจากหลายหัวคิดหลายวิธีการ ในทางตรงกันข้าม, ถ้าไม่มีวัฒนธรรมของการพูดคุยกันเพื่อต่อยอด โอกาสที่ปัญหาเศรษฐกิจจะกลายไปเป็นปัญหาสังคมก็มีไม่ใช่น้อย
22
บนโซเชียลมีเดีย เวลาเจอคนด่า รุนแรง หยาบคายใส่ เรายังบล็อกได้ แต่ถ้าสิ่งนี้แผ่ลามไปถึงในชีวิตจริงย่อมไม่ใช่เรื่องที่เราจะยักไหล่ไม่แยแสได้ ในสังคมที่แตกแยกด้วยความขัดแย้งในทุกมิติ ความรุนแรงอาจเกิดขึ้นกับเราในวันใดวันหนึ่ง และข่าวร้ายก็คือ,
ในชีวิตจริงไม่มีปุ่มบล็อก
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過74萬的網紅Online Station,也在其Youtube影片中提到,Joker ภาคนี้ เรียกว่าเป็นกระแสอย่างมาก มีทั้งรีวิวที่เสียงแตกออกเป็น 2 ฝั่งอย่างสุดขั้ว คนชอบก็ชอบ คนด่าก็ยับเยิน มาฟังความคิดเห็นของพวกเรากันครับ รี...
「อาการซึมเศร้า」的推薦目錄:
- 關於อาการซึมเศร้า 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
- 關於อาการซึมเศร้า 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文
- 關於อาการซึมเศร้า 在 ครูแอ้ กสิณา สอนวิชาความรัก ความสุข เนรมิตชีวิต Facebook 的最讚貼文
- 關於อาการซึมเศร้า 在 Online Station Youtube 的精選貼文
- 關於อาการซึมเศร้า 在 Breast milk.โค๊ชนมแม่ Youtube 的最佳解答
- 關於อาการซึมเศร้า 在 Kate Studio Youtube 的最讚貼文
- 關於อาการซึมเศร้า 在 โรคซึมเศร้า หายขาดรักษาได้ - YouTube 的評價
- 關於อาการซึมเศร้า 在 "อาการของภาวะซึมเศร้า"... - กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข 的評價
อาการซึมเศร้า 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文
1
เมื่อวานนี้ผมรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการสนทนาในวงสนทนาสองวงในงานที่ a day Bulletin จัดขึ้น วงแรกคุยกับสามบรรณาธิการรุ่นใหญ่ อีกวงคุยกับคอลัมนิสต์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาตั้งแต่เศรษฐศาสตร์ การเงิน แฟชั่น วิทยาศาสตร์ และนักเขียน
2
ระหว่างนั่งอยู่ตรงนั้นผมนึกถึงเรื่องที่เคยได้ยินมาว่า ความเปลี่ยนแปลงมากมายในโลกใบนี้เริ่มต้นที่ร้านกาแฟ จำได้ว่าเมื่อครั้งเดินทางไปทำสารคดีเกี่ยวกับอัลแบร์ กามู ไกด์ทัวร์ก็ชี้ร้านกาแฟที่นักคิดนักเขียนชอบมานั่งคุยกันเป็นประจำให้ดู ปัญญาและความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นจากการ "สนทนา" กันอย่างไม่ต้องสงสัย
3
ผู้ร่วมสนทนาทั้งหมดมิได้มีความคิดไปในแนวทางเดียวกัน รวมถึงความสนใจและวิธีมองปัญหา หรือกระทั่งวิธีค้นหา "ความจริง" ของชีวิตก็แตกต่างกันไป ผมนั่งฟังด้วยความเพลิดเพลินแล้วคิดในใจว่า มนุษย์นี่ช่างแตกต่างกันดีแท้ แต่ละคนเหมือนมาจากคนละดาว พูดคนละภาษา กระนั้นก็สามารถเข้าใจในสิ่งที่คนอื่นพูดได้ผ่านการอธิบายของเขา
4
เช่นคุณเติ้ล ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน แห่ง Spaceth.co ที่ใส่เสื้อเป็นสมการวิทยาศาสตร์มา ลำพังแค่ให้อธิบายสมการบนเสื้อให้ฟังก็น่าทึ่งแล้ว หลายประโยคของเขาฟังแล้วมึน จึงได้รู้ว่าความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของเราคงมีน้อยเกินจะเข้าใจ แต่ถามว่าน่าสนใจไหม เออ อยากรู้เรื่องที่เขาเล่าให้มากขึ้นแฮะ
5
นักเศรษฐศาสตร์อย่างคุณณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ก็มองปัญหาของเมืองในมุมบิ๊กดาต้าซึ่งก็น่าสนใจมาก คุณอุ้ง กมลนาถ องค์วรรณดี มองปัญหาสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำ และการเมืองในมุมของแฟชั่นตามที่เธอทำงานอยู่ คุณเจษฎา สุขทิศก็ชวนมองในมุมการเงิน แต่ละคนบนเวทีล้วนเปิดโลกและหยิบยื่นแว่นใหม่ในการมองปัญหาให้กับผู้ที่นั่งฟังอย่างผม
6
สำหรับพี่ชมพู อุรุดา โควินท์ และพี่แขก คำ ผกานั้นผมอาจคุ้นชินกับภาษาและแว่นของพี่ทั้งสอง เพราะได้อ่านสเตตัสของทั้งคู่อยู่ทุกวัน กระนั้นเมื่อทั้งสองคนอยู่บนเวทีร่วมกับคอลัมนิสต์อีกสี่ท่านก็ทำให้บนเวทีมีส่วนผสมที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีก
7
ตอนจบงานบนยังแซวพี่หนุ่ม โตมร ศุขปรีชาไปว่า a day Bulletin น่าจะจัดวงเสวนาแบบนี้บ่อยๆ เพราะฟังแล้วประเทืองปัญญาดี แต่อันที่จริงก็มีเวทีที่น่าสนใจแบบนี้อยู่ไม่น้อยในบ้านเมืองเรา
8
สิ่งที่ผมชอบที่สุดในบรรยากาศของงานเสวนาคือการได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของคนแบบอื่น คนที่อยู่คนละดาวกับเรา ซึ่งอาจมีบางอย่างที่เหมือนกับเรา และอีกหลายอย่างที่ต่างไปสิ้นเชิง การรับรู้ถึงความหลากหลายแบบนี้นั้นสำคัญ มันทำให้เราไม่เผลอคิดไปว่ามีแต่คนคิดคล้ายๆ เรา (เพื่อนร่วมดาว) หรือมีแต่คนคิดตรงข้ามกับเรา (ศัตรูต่าวดาว) แต่โลกมันมี "และอื่นๆ" อีกเต็มไปหมด และบ่อยครั้งที่เราได้เห็นคนที่เคยเป็น "ศัตรูต่างดาว" กันพูดออกมาว่า "จุดนี้เราคิดตรงกัน" ในวงสนทนาแบบนี้
9
คนเราเรียนรู้สิ่งใหม่จากความต่าง ความคิดใหม่ๆ ของเราเกิดขึ้นจากการได้ฟัง ถก เถียง ถามจากคนที่มองโลกด้วยแว่นอื่น
10
ผมคิดถึงสิ่งที่ Wael Ghonim ผู้มีส่วนสำคัญในการเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลมีเดียกระทั่งนำไปสู่การปฎิวัติประชาธิปไตยในอียิปต์ ผู้เขียนหนังสือ Revolution 2.0 ขึ้นพูดบนเวที TED Talk ว่าโซเชียลมีเดียทำให้เราแตกแยกกันด้วยวิกฤต 5 ประการ
11
หนึ่ง, ข่าวลือแพร่กระจายไปทั่ว และมันตอบสนองคนที่พร้อมจะเชื่อแบบนั้นอยู่แล้ว สอง, เราสื่อสารพูดคุยแต่กับคนที่เห็นด้วยกับเราตลอดเวลา เราบล็อก hide unfollow คนที่คิดไม่เหมือนเรา สาม, การถกเถียงในโซเชียลมีเดียมักนำไปสู่อารมณ์รุนแรงเกรี้ยวกราด การมองไม่เห็นหน้ากันทำให้เราลืมไปว่าอีกฝ่ายที่เราเถียงหรือด่าอยู่ก็เป็นมนุษย์ที่มีเลือดมีเนื้อ แต่ที่ผมสนใจคือข้อสี่และห้า
12
สี่, ดูเหมือนมันยากมากที่เราจะเปลี่ยนความคิด เพราะตัวตนของเราถูกจดจำผ่านสิ่งที่เราเขียน ภาพที่เราโพสต์ลงไปในโซเชียลมีเดีย เราเองก็ติดอยู่กับอดีต ขณะที่คนอื่นก็พร้อมที่จะขุดเอาสิ่งที่เราเคยพูดในอดีตกลับมาตอกย้ำ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเราจะบอกว่า "ฉันคิดแตกต่างไปจากเดิมแล้ว" เราก็ทำได้ การโพสต์หรือทวีตลงไปในโลกออนไลน์จึงเป็นการประทับตัวตนลงไปตลอดเวลาโดยมีเพื่อนพ้องได้อ่านสิ่งเหล่านั้นอยู่เรื่อยๆ หากเกิดเปลี่ยนคิดขึ้นมาก็จะเขินๆ กันหน่อย (หรือไม่หน่อย)
13
ห้า, ซึ่งวิกฤตสุดคือ โซเชียลมีเดียถูกออกแบบมาให้ "ป่าวประกาศ" มากกว่า "สนทนากัน" มันเหมาะกับการเร้าอารมณ์ด้วยถ้อยคำสั้นๆ มากกว่าการเชื่อมโยงเหตุผลลึกๆ ยาวๆ และซับซ้อน ในโลกออนไลน์เรา "พูดใส่กัน" มากกว่า "พูดคุยกัน" Wael Ghonim บอกว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้การแบ่งขั้วกันในสังคมเกิดขึ้นทั่วโลก
14
เราเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น เราสื่อสารกันง่ายขึ้น บ่อยขึ้น แต่เราอาจจะสนทนากันน้อยลง รับรู้การมีอยู่ของคนจากดาวอื่นน้อยลง ไม่เพียงคนที่คิดตรงกันข้ามกับเรา แต่ยังมีคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องที่เราสนใจ มีวิธีแก้ปัญหาของสังคมอีกแบบที่ต่างไปสิ้นเชิง หรือเลือกวิถีชีวิตที่แตกต่างไปอีกแบบหนึ่งเลย การรับรู้ถึงการมีอยู่ของคนจากดาวอื่นสำคัญยังไง สำหรับผมแล้วมันให้รู้ว่าเราไม่ใช่คำตอบเดียวของโลกใบนี้ หรือสังคมนี้ เรายังผลักดันสิ่งที่เราเชื่อต่อไปได้ ขณะเดียวกันเราก็จะลดเสียงของเรา ลดความโกรธ ลดอารมณ์รุนแรงลงได้ หรือกระทั่งอาจได้รับแง่มุมใหม่ๆ จากคนดาวอื่นมาลองปรับใช้กับตัวเองได้ด้วย
15
ท่ามกลางปัญหามากมายรุมเร้า เมื่อวานนี้คุณอุ้ง กมลนาถเล่าถึงคนสามกลุ่มที่ตอบสนองปัญหาในสังคมแตกต่างกัน กลุ่มแรกจะผลักดันเรียกร้องให้เกิดการแก้ปัญหาในทันที ซึ่งก็เหมาะกับประเด็นเร่งด่วน เช่นการใช้อำนาจไม่ชอบธรรมหรือปัญหาสิ่งแวดล้อม กลุ่มสองคือรู้สึกหมดหวังกับสังคม บอกกับตัวเองว่าอยู่ๆ ไปเถอะ มันคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว และกลุ่มที่สามคือกลุ่มที่อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงลึกซึ่งต้องใช้เวลา กลุ่มนี้เลือกที่จะค่อยๆ เปลี่ยนวิธีคิดหรือโลกทัศน์ของผู้คนเพื่อคาดหวังความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ปัญหาคือกลุ่มแรกจะบอกว่ากลุ่มที่สามใจเย็นเกินไป ไม่ร่วมขับเคลื่อนปัญหาเฉพาะหน้า ส่วนกลุ่มที่สามก็อาจจะบอกว่ากลุ่มแรกเอาแต่เย้วๆ ไปวันๆ ไม่คิดถึงการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งยั่งยืน คุณอุ้งบอกว่า ปัญหาของทุกวันนี้คือทั้งสามกลุ่มไม่มีพื้นที่ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
16
จากการนั่งฟังและร่วมซักถามในวงสนทนาที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีความชำนาญและความคิดที่น่าสนใจ ผมพบบรรยากาศที่แตกต่างไปจากการคุยกันผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย นั่นคือพื้นที่ที่ทำให้เราเห็นและฟังคนจากดาวดวงอื่น มีทั้งที่ต่างจากเรามากและคล้ายกับเรามาก แต่ไม่มีใครที่เหมือนเราไปเสียทั้งหมด ฟัง ถาม เถียง ต่อยอด เรียนรู้ ก่อเกิดเป็นสติปัญญาใหม่ๆ
17
ผมเห็นด้วยกับคุณอุ้งว่า เราต้องการพื้นที่ในการ "คุยกัน" มากขึ้น เพราะเรา "ป่าวประกาศ" ว่าฉันคิดยังไงกันมามากแล้ว
18
ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ โรคระบาด ปัญหาสภาพแวดล้อมและอากาศเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงการเมืองที่รอวันปะทุตลอดเวลา ปีนี้เรากำลังเผชิญความท้าทายที่เป็น "โจทย์ยาก" สำหรับทุกคน เมื่อบวกรวมเข้ากับความเหลื่อมล้ำในประเทศที่รุนแรงขึ้นทุกวัน โอกาสที่ความคิดสองขั้วที่แตกต่างกันมากในทุกเรื่องจะปะทะกันรุนแรงมีมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากทุกเรื่องที่เป็นข่าวในแต่ละวัน ช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ คล้ายอุปกรณ์ในการเร่งความร้อนของความแตกแยกทางความคิดให้ระอุมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ของปัญหาทั้งหลายอาจถูกสะท้อนผ่านการฆ่าตัวตาย จบชีวิตผู้คนในครอบครัว หรือกระทำรุนแรงกับคนอื่น รวมถึงปัญหาสุขภาพจิตต่างๆ เช่น อาการซึมเศร้า
19
เรากำลังอยู่ในยุคสมัยที่ความเครียดแผ่ลามปกคลุมบรรยากาศไปทั่ว เราใช้ชีวิตอยู่กับมัน เป็นส่วนหนึ่งของมัน และอาจเป็นผู้สร้างมันขึ้นมาเองด้วย
20
ทำอย่างไรเราจึงจะสร้าง "พื้นที่สนทนา" รวมถึง "วัฒนธรรมพูดคุย" ให้ไม่น้อยไปกว่า "พื้นที่ป่าวประกาศ" หรือ "โพสต์และคอมเมนต์" เพราะการปิดตัวเองอยู่กับดาวของตัวเองและเพื่อนร่วมดาวนั้นยิ่งทำให้เราเห็นคนอื่นเป็น "มนุษย์ต่างดาว" ได้ง่ายขึ้น แทนที่อยากทำความเข้าใจ เรากลับหวาดกลัวและเกลียดชังกันอย่างรวดเร็ว
21
ท่ามกลางความแตกแยกกันได้ในแทบทุกเรื่อง นี่คือโจทย์ท้าทายในยุคสมัยที่ปัญหาทุกอย่างถูกกระตุ้นให้ใหญ่และเร็วขึ้นด้วยไวรัส COVID-19 เศรษฐกิจชะงัก ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับคนในวงกว้าง เราต้องการการแก้ปัญหาจากหลายหัวคิดหลายวิธีการ ในทางตรงกันข้าม, ถ้าไม่มีวัฒนธรรมของการพูดคุยกันเพื่อต่อยอด โอกาสที่ปัญหาเศรษฐกิจจะกลายไปเป็นปัญหาสังคมก็มีไม่ใช่น้อย
22
บนโซเชียลมีเดีย เวลาเจอคนด่า รุนแรง หยาบคายใส่ เรายังบล็อกได้ แต่ถ้าสิ่งนี้แผ่ลามไปถึงในชีวิตจริงย่อมไม่ใช่เรื่องที่เราจะยักไหล่ไม่แยแสได้ ในสังคมที่แตกแยกด้วยความขัดแย้งในทุกมิติ ความรุนแรงอาจเกิดขึ้นกับเราในวันใดวันหนึ่ง และข่าวร้ายก็คือ,
ในชีวิตจริงไม่มีปุ่มบล็อก
อาการซึมเศร้า 在 ครูแอ้ กสิณา สอนวิชาความรัก ความสุข เนรมิตชีวิต Facebook 的最讚貼文
3 เทคนิค รักษาโรคซึมเศร้าที่ไม่มีใครเคยบอกคุณ
#นอนไม่หลับ #ซึมเศร้า จิตตก สิ้นหวัง อารมณ์แปรปรวน เก็บตัว คิดลบ มองโลกแง่ร้าย โทษตัวเอง หดหู่ คิดว่าตัวเองไร้ค่า เคมีในสมองผิดปกติ.....
.
อาการเหล่านี้ หากเกิดกับคุณ ยุคนี้ ก็ตีความหรือ แพทย์อาจวินิจฉัยว่าคุณมีภาวะซึมเศร้า สิ่งที่แก้ไขโดยทั่วไปก็คือ การรับยา เพื่อปรับอารมณ์ ต้านความเศร้า ปรึกษาจิตแพทย์ พูดคุย
.
แต่บางคนก็อาจรู้สึกไม่อยากพบจิตแพทย์ และลองมาปรึกษาครูแอ้ ซึ่งหากเป็นมาก ครูก็จะแนะนำให้กินยา ควบคู่ไปด้วย แต่ก็มีบางคนไม่อยากกินยา และลองมาโค้ชกับครู ซึ่งหายจากซึมเศร้าด้วยวิธีบำบัดตัวเอง
.
วันนี้ครูจึงเอาเทคนิคที่ครูใช้ในการโค้ชนักเรียนที่มีอาการซึมเศร้า ให้หายได้มาแชร์กันค่ะ
.
1. คุณอย่าติดแทค(ป้าย)ตัวเอง ว่า คุณคือคนเป็น #โรคซึมเศร้า
....เพราะอะไร ก็เพราะเมื่อคุณบอกกับตัวเองว่าคุณเป็นอะไร สิ่งนั้นจะเป็นจริง ยิ่งคุณตอกย้ำ สิ่งนั้นยิ่งรุกลามขยายขึ้น ดังนั้น จงบอกตัวเองว่า ฉันเป็นคนร่าเริงสดใส มีความหวัง ความสุขในชีวิต
.
2. ทำสมาธิ
....ซึมเศร้า อาจเป็นผลจากเคมีในสมองผิดปกติ แน่นอน ในการทำสมาธิสามารถช่วยให้เคมีในสมองของคุณปกติได้แน่นอน
.
3. กล่าวชื่นชม และบอกรักตัวเอง
....อาการซึมเศร้า จะทำให้คุณกล่าวโทษ และไม่เห็นค่าในตัวเอง แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณฝืน ชื่นชม บอกรักตัวเอง อาจพูด หรือเขียน ทำบ่อยๆ ทำทั้งๆ ที่ไม่อิน แต่นั่นมันคือ การสั่งจิต สั่งสมอง และสั่งให้คุณเชื่อแบบนั้น แล้วคุณจะรักและชื่นชมตัวเองได้จริง
.
ลองทำ หรือแนะนำคนที่คุณรักดูค่ะ และอย่าลืมขอบคุณนักเรียน svip โค้ชชิงของครูแอ้ หลายๆ คน ที่ไว้ใจ เชื่อใจ ให้ครูแอ้ ฝึกจิตให้ เพื่อรักษาตัวเองจนหาย ทำให้ได้มาแชร์เป็นบุญกุศลกับคนอื่นๆ ด้วย
.
ทำ 3 เทคนิคนี้ รับรองว่าคุณจะเปลี่ยนชีวิต สดใส สดชื่นแน่นอน
ด้วยรัก
#ครูแอ้ #โค้ชความรัก #โค้ชชีวิต
อาการซึมเศร้า 在 Online Station Youtube 的精選貼文
Joker ภาคนี้ เรียกว่าเป็นกระแสอย่างมาก มีทั้งรีวิวที่เสียงแตกออกเป็น 2 ฝั่งอย่างสุดขั้ว คนชอบก็ชอบ คนด่าก็ยับเยิน มาฟังความคิดเห็นของพวกเรากันครับ
รีวิวจาก Online Station https://www.online-station.net/movie/view/146567
#OnlineStation #ฟายDay #Joker2019 #JoaquinPhoenix
-----------------------------------------------------------------
ติดตามข่าวสารเกมจากพวกเราได้ที่
Website : http://www.online-station.net
FB : https://www.facebook.com/OnlineStationNetwork
Youtube : http://www.youtube.com/user/OnlineStationShow
ใครที่ทำช่อง Youtube แล้วสนใจสมัครเข้าร่วมสังกัด Online Station คลิกที่นี่
http://caster.os.co.th
จำหน่ายบัตรเติมเกมออนไลน์ทุกเกมซื้อได้ตลอด 24 ชั่่วโมง http://shop.os.co.th
สนใจติดต่อโฆษณา&สปอนเซอร์
คุณ พารินทร์ วิไลจิตร
โทร : 081-615-6965
อีเมล์ : parin_wil@truecorp.co.th
เว็บเกมส์ออนไลน์อันดับ 1 ของประเทศไทย รวมทุกข้อมูลข่าว Game Online จากทั่วโลก
อาการซึมเศร้า 在 Breast milk.โค๊ชนมแม่ Youtube 的最佳解答
เป็นการแชร์ประสบการณ์ที่เจอกับตัวเอง ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดบุตรที่ต้องการความเข้าใจ กำลังใจ เนื่องจากตัวคุณแม่ยังเจอสภาวะอาการเจ็บแผล การพักผ่อนที่น้อย อารมณ์ที่แปรปวนตลอด คลิปนนี้เจอกับแม่เบ็นซ์เองจึงผลิตเพื่อเป็นแนวทางให้คุณแม่ๆคะ
พูดคุยและติดตามได้ที่
https://www.facebook.com/milkmom2/?ref=settings
อาการซึมเศร้า 在 Kate Studio Youtube 的最讚貼文
SHOP MY STORE:
+ USA: https://www.ebay.com/str/adorablebrands
+ USA: https://www.limelifebyalcone.com/katestudio
+ Thailand: http://www.coachbykate.com
FOLLOW ME:
+ IG: http://instagram.com/coachbykate
+ FACEBOOK: https://www.facebook.com/coachbykate
CONTACT ME:
+ LINE ID PERSONAL: coachbymdk
+ LINE ID พรีออเดอร์ COACH: @coachbykate
+ LINE ID ส่งของกลับไทย: @shopplearnusa
+ Email: coachbykate@hotmail.com
SUPPORT ME:
+ PayPal: service@lunlunla.com
อาการซึมเศร้า 在 "อาการของภาวะซึมเศร้า"... - กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข 的推薦與評價
"อาการของภาวะซึมเศร้า" 🌤️เช้าไม่อยากตื่น กลางคืนนอนไม่หลับ ☀️กลางวันไม่อยากทำอะไร หากใครมีอาการทั้ง 3 อย่างนี้ และอาการอื่นๆร่วมด้วยเช่น... ... <看更多>
อาการซึมเศร้า 在 โรคซึมเศร้า หายขาดรักษาได้ - YouTube 的推薦與評價
ปัจจุบันคนไทยมีความรู้และตื่นตัวกับโรค ซึมเศร้า กันมากขึ้น เช่นเดียวกับการแพทย์ในปัจจุบัน ... ... <看更多>