#ย้อนรอยเรื่องเล่า THE GHOST RADIO
#เรื่องเหี้ยมซ่อนเหี้ยม #คุณเก่ง สายดาร์ค
#เล่าเรื่องหลอน #ฟังเรื่องผี #อ่านเรื่องย้อนรอย
________________________________________
•
เรื่องเหี้ยมซ่อนเหี้ยม
เล่าโดย : คุณเก่ง สายดาร์ค
https://youtu.be/Or-OCvZBO94
________________________________________
เรื่องเหี้ยมซ่อนเหี้ยม เป็นเรื่องเล่า
ที่เกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรม
สุดสะเทือนขวัญอันโหดเหี้ยม
ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2540 กับคดี
“ ยิ้มสะท้าน…ฆ่ายกครัว ”
สามารถติดตามรับชมรับฟังได้ที่
👉🏻 https://youtu.be/Or-OCvZBO94
________________________________________
ช่วงสายของวันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2540
นางกิ้มอิ้น อายุ 71 ปี เดินช้าๆ
ตามประสาผู้สูงอายุ ออกจากบ้านพักของตน
ซึ่งอยู่ห่างไปราว 150 เมตร เพื่อมาหาลูกชาย
นายประภาส อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
สถานีอนามัยแห่งหนึ่ง จ.สงขลา
แต่ที่จริงแล้วนางกิ้มอิ้น
จะมาหาหลานย่าทั้ง 3 คนมากกว่า
เพราะปกติทุกวันหยุด หลานๆ
ซึ่งเป็นชายล้วนทั้ง 3 คน จะไปหาแต่เช้า
ผู้เป็นย่าทำอาหารและขนม
รอท่าไว้ตามปกติ
แต่วันนี้…หลานๆก็ไม่ไปหา
ผิดวิสัย!! จึงเดินมาตามที่บ้าน
เมื่อถึงหน้าบ้าน…
ตะโกนร้องเรียกอยู่หลายรอบ
…ไม่มีเสียงตอบกลับ
จึงได้ผลักประตูเปิดออก
เสียงสรรพสิ่งรอบข้างเงียบสนิท
แม่เฒ่ายืนตัวแข็งทื่อ ตาลุกโพลง
พลางตะโกนร้องด้วยความตกใจ
เมื่อเห็นภาพสยองเบื้องหน้า
________________________________________
เจ้าหน้าท่ีตำรวจนำกำลัง
เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ
โดยสภาพภายในบ้าน
แม้แต่ตำรวจก็ยังอดตกตะลึงมิได้
เมื่อพบศพ 4 ศพ ห้อยเรียงกันอยู่
ที่ราวบันไดทางขึ้นชั้น 2
ศพแรกคือ นายประภาส เจ้าของบ้าน
ส่วนอีก 3 ศพ เป็นลูกชาย
ด.ช.กัมปนาท อายุ 13 ปี, ด.ช.ปราบ อายุ 12 ปี
และ ด.ช.ชัชวาลย์ อายุ 10 ปี
ทุกศพอยู่ในสภาพใกล้เคียงกัน
คือมีเชือกและผ้ารัดคอ มือ-เท้าถูกมัด
และมีผ้ารัดปิดปาก ผูกเรียงกันที่ราวบันได
นอกจากนี้ ภายในห้องนอนใหญ่ชั้น 2
ยังพบศพ นางเจียมจิต เจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ภรรยาของนายประภาส และแม่ของเด็กทั้ง 3
สภาพศพถูกรัดคอด้วยเนกไท
มีเชือกมัดมือมัดเท้า และปิดปาก
เจ้าหน้าที่นำศพส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจพิสูจน์
โดยผลชันสูตรศพของบุคคลทั้ง 5 รายนั้น
แพทย์ระบุว่าผู้ตายทั้งหมดถูกทำร้ายร่างกาย
ก่อนจะถูกจับแขวนคอจนขาดใจตาย
และไม่พบเศษอาหารหรือยาพิษ และยานอนหลับ
ในกระเพาะอาหารของทั้ง 5 ราย
ภายในห้องนอนชั้นบน ซึ่งมีทั้งสิ้น 3 ห้อง
มีร่องรอยรื้อค้นกระจัดกระจาย
ผ้าปูที่นอนถูกฉีกเป็นเส้น บางส่วนถูกนำมาใช้
เป็นทูตมรณะ และทรัพย์สินหายไปหลายรายการ
ในครัวมีอาหารที่ตั้งโต๊ะไว้
พร้อมรับประทาน 1 ชุด
ไม่พบร่องรอยการต่อสู้
ศพทั้ง 5 นั้น แพทย์สันนิษฐานว่า
เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10-15 ชั่วโมง
จากหลักฐานที่พบประกอบกับเวลาตาย
คาดว่า เป็นช่วงหัวค่ำวันที่ 25 เม.ย.
ซึ่งครอบครัวกำลังจะทานข้าวเย็น
แต่กลับถูกคนร้าย ซึ่งคาดว่ารู้จักกัน
เป็นอย่างดี บุกเข้ามาสังหาร
ตำรวจสอบปากคำญาติๆ ทราบว่า
นายประภาส นอกจากจะทำงานที่
สาธารณสุขจังหวัดแล้ว
ยังเป็นนายหน้าค้าที่ดินที่มีฐานะร่ำรวย
มีที่ดินส่วนตัว และที่ดินมรดกจำนวนมาก
________________________________________
จากวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2540
กินระยะเวลามาจนถึง 18 พฤษภาคม
หรือรวมระยะเวลากว่า 23 วัน
ตำรวจพบผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง
มีพระเครื่องของนายประภาสที่หายไป
ในวันเกิดเหตุอยู่ในครอบครอง
ผู้ต้องสงสัยให้การว่า
ได้พระเครื่องหลวงพ่อคงมาจากนายเรืองศักดิ์
จากนั้นตำรวจได้ออกติดตามตัวนายเรืองศักดิ์ทันที
พบว่าผู้ชายคนนี้มีชื่อเต็มๆ คือ เรืองศักดิ์ ทองกุล
หรือศักดิ์ ปากรอ อายุ 22 ปี เป็นคนจังหวัดสงขลา
21 พฤษภาคม พ.ศ.2540
ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายศักดิ์ ปากรอ
ได้ในขณะที่หลบหนีไปอยู่ที่บ้านของน้าชาย
ใน จ.กาญจนบุรี
ตอนแรกเจ้าหน้าที่ไม่พบตัวนายศักดิ์ ทราบว่า
ออกไปทำธุระข้างนอก จึงกระจายกำลังปิดล้อมรออยู่
จนกระทั่งนายศักดิ์นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างกลับมา
โดยในมือได้ถือหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง
ตำรวจจึงเข้าจับกุมพร้อมของกลาง
พลอยแดง 9 เม็ด นิล 5 เม็ด
และเข็มกลัดตราสัญลักษณ์ของเจ้าหน้าที่
สาธารณสุข จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายศักดิ์ ปากรอ ให้การว่า
ตัวเองมากบดานที่บ้านหลังนี้
ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. และได้รับสารภาพว่า
เป็นคนลงมือสังหาร
นายประภาส กับภรรยาและลูกจริง
โดยมีเพื่อนอีกคนหนึ่งชื่อ สงกรานต์ ร่วมมือด้วย
ส่วนสาเหตุที่ต้องฆ่า นายศักดิ์อ้างว่า จำเป็นต้องฆ่า
เพราะนายประภาสติดหนี้การพนันวัวกับตน
จำนวนเงิน 1.3 ล้านบาท
________________________________________
การทำแผนเริ่มจากนายศักดิ์ และนายสงกรานต์
ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในบ้านของนายประภาส
และเข้าไปนั่งคอยอยู่ที่หน้าบ้าน เพราะคุ้นเคย
กับเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี เนื่องจากก่อนหน้านี้
เคยติดต่อซื้อขายที่ดินและเล่นพนันวัวลานด้วยกัน
จากนั้น ด.ช.ชัชวาลย์ และ ด.ช.ปรนนท์
ลูกของนายประภาส ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา
นายศักดิ์ได้แกล้งขอน้ำดื่ม
ด.ช.ปรนนท์จึงไปตักน้ำมาให้
ขณะที่ ด.ช.ปรนนท์กำลังจะส่งขันน้ำให้
นายเรืองศักดิ์ชักปืนขนาด .38 จี้ที่ศีรษะแล้วล็อกตัว
ด.ช.ปรนนท์ มัดมือมัดเท้าและมัดปากไปขังในห้อง
ชั้นสอง และนายสงกรานต์ลากตัว ด.ช.ชัชวาลย์
ขึ้นไปรวมไว้ในห้องเดียวกัน พร้อมกับมัดมือมัดเท้า
และมัดปาก โดยนายสงกรานต์เป็นคนคุมเด็กไว้
จากนั้นนายศักดิ์ ลงมาคอยนายประภาสที่หน้าบ้าน
พอนายประภาสกลับเข้ามาบ้าน นายศักดิ์จึงเดิน
เข้าไปยกมือไหว้ทักทาย โดยอ้างว่าจะมาขอปรึกษา
เรื่องรถหาย นายประภาสจึงชวนเข้าไปนั่งในบ้าน
นายศักดิ์ชักปืนออกมาจ่อที่ศีรษะ และตะโกนเรียก
นายสงกรานต์มาใช้เชือกมัดมือไพล่หลังแล้วนำตัวไป
ขังไว้รวมกับลูกชาย และในเวลาไล่เลี่ยกัน
ด.ช.กัมปนาท ขี่รถจักรยานยนต์กลับมาบ้าน
นายศักดิ์จึงจับตัว ด.ช.กัมปนาท มัดมือมัดเท้า
และปากไปไว้ในห้องเดียวกัน
สักครู่นางเจียมจิตรกลับมาบ้าน
นายศักดิ์ใช้ปืนจี้จับนางเจียมจิตรมัดมือมัดเท้า
ไปขังไว้ในห้องนอนชั้นสอง และข่มขู่
ให้บอกที่ซ่อนเงิน แต่นางเจียมจิตรไม่ยอมบอก
นายศักดิ์พยายามจะข่มขืนนางเจียมจิตร
แต่นางเจียมจิตรขัดขืน จึงใช้เนกไทของ
นายประภาสรัดคอ จับหัวกระแทกกับพื้น
จนเลือดออก และบีบคอ จนนางเจียมจิตรนิ่งไป
จากนั้นก็ลงมือค้นทรัพย์สิน
จากตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และกระเป๋า
นำมารวมใส่ถุงพลาสติก เสร็จแล้ว
นำมีดและกรรไกรมาปอกสายไฟ
เพื่อนำมาช็อตนายประภาสและลูก
ถึง 2 ครั้ง … แต่ไม่สำเร็จ
เพราะบ้านนายประภาสติดระบบเซฟทีคัท
จึงเปลี่ยนวิธี นำ 4 พ่อลูก
มานั่งเรียงกันที่หน้าห้องนอน
แล้วตัดเชือกผูกรองเท้ามาแขวนคอ
นายประภาสก่อนเป็นคนแรก
ด้วยการผลักลงมาจากชั้น 2
แต่เชือกขาด นายประภาสพยายามวิ่งหนี
จึงถูกนายเรืองศักดิ์ตามจับตัวได้
แล้วนำมาแขวนคอกับราวบันได
แล้วถีบนายประภาสร่วงลงบันได
โดยให้ลูกของนายประภาสนั่งหันหน้าเข้าข้างฝา
จากนั้นนำเด็กทั้ง 3 คนมาผูกคอแขวนกับราวบันได
โดยใช้วิธีเดียวกัน และรีบหลบหนีไป
•
ในวันเกิดเหตุ
มีประจักษ์พยานอยู่รายหนึ่งด้วย
และพยานรายนี้ได้ให้การว่า …
ได้เดินทางจาก จ.นครศรีธรรมราช
มาที่บ้านของนายประภาส
เพื่อนำเอกสารการโอนหน่วยกิตมาให้
โดยยืนเรียกที่หน้าบ้าน แต่ไม่มีใครออกมาพบ
จึงวางเอกสารไว้ และเห็นรถจักรยานยนต์จอดอยู่
คิดว่ามีคนอยู่ในบ้านจึงเดินอ้อมไปด้านหลัง
พบนายศักดิ์และนายสงกรานต์กำลังเดินออกมา
นายศักดิ์อ้างว่าเป็นหลานชายของนายประภาส
และบอกว่านายประภาสยังไม่กลับ
และชวนให้ขึ้นไปบนบ้าน
แต่ตนขอแค่เข้าห้องนำ้
แล้วเขียนเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้ให้
จากนั้นเดินทางมาทำธุระที่ จ.ยะลา
และวันรุ่งขึ้นจึงได้ทราบข่าวว่า
นายประภาสและครอบครัวถูกฆ่าแขวนคอ
คำถามคือ ..
หากพยานคนนี้เดินตามเข้าไปในบ้าน
จะเกิดอะไรขึ้น.!!
________________________________________
จากการสอบสวนเพื่อนของนายศักดิ์
ได้รับสารภาพว่า ตนได้ร่วมมือกับนายเรืองศักดิ์
ฆ่าครอบครัวนายประภาส
โดยตนกับนายศักดิ์ไปดูลาดเลาก่อนลงมือ
เพียงวันเดียว และนายศักดิ์บอกว่าบ้านนี้รวยมีเงิน
จากการขายที่ดิน และได้ยินคนในบ่อนพนันวัว
พูดว่า นายประภาสขายที่ดินได้เงินล้านกว่าบาท
ส่วนสาเหตุที่ต้องฆ่าภรรยาและลูกผู้ตาย
เนื่องจากว่าทั้งหมดจำหน้าพวกตนได้
ไม่ใช่ว่านายประภาสติดหนี้นายศักดิ์
ในวันที่ศาลอ่านคำพิพากษา เพื่อนของนายศักดิ์
ถึงกับสีหน้าถอดสี เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกจำคุกตลอดชีวิต
ส่วนศักดิ์ ถูกศาลตัดสินประหารชีวิต
แต่ตัวศักดิ์นั้น แสดงท่าทีไม่สะทกสะท้าน
ต่อคำตัดสินประหารชีวิต และใบหน้า
ยังมีรอยยิ้มบางๆ ให้เห็นอีกด้วย
ภายหลังจากที่ ศักดิ์ ปากรอ
ถูกศาลตัดสินประหารชีวิต
แต่ต่อมา ได้มีการลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
และติดคุกอยู่ประมาณ 15 ปี ก็ออกมาสู่อิสรภาพ
ตามกระบวนการกฎหมาย
เมื่อออกมาสู่โลกภายนอก
นายศักดิ์ ได้สร้างครอบครัวอยู่ใน อ.สะเดา
มีลูกชาย 1 คน อายุ 1 ขวบเศษ
เส้นทางชีวิตไม่ธรรมดา ชื่อเสียงกว้างไกล
ทำธุรกิจตามความชำนาญหลายอย่าง
แต่แล้วกระทั่งปี 2558
นายศักดิ์ ถูกมือปืนยิงเสียชีวิตในที่สุด
•
________________________________________
ขอขอบคุณเนื้อข่าวและภาพจาก #ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1729980
________________________________________
ทีมงาน THE GHOST RADIO 👻
ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม
#ย้อนรอยเรื่องเล่า #Theghostradio
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ข้อมูลที่นำเสนอ มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อ
ซึ่งแต่ละบุคคล อาจมีความเชื่อที่แตกต่างกัน
ขอให้ท่านผู้อ่าน ใช้ดุลยพินิจและวิจารณญาณ
ในการรับสารข้อมูล และหากมีมุมมองที่แตกต่าง
โปรดแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ความรู้อีกแง่มุม
โดยที่ไม่ก้าวล่วง ความเชื่อความศรัทธาของผู้ใด
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
อ่านเรื่องย้อนรอย 在 The Ghost Radio Facebook 的最讚貼文
#ย้อนรอยเรื่องเล่า THE GHOST RADIO
#เรื่องทำดีได้เจอดี #คุณเบนซ์
#เล่าเรื่องหลอน #ฟังเรื่องผี #อ่านเรื่องย้อนรอย
________________________________________
•
เรื่องทำดี ได้เจอดี
เล่าโดย : คุณเบนซ์
https://youtu.be/P63P6sSjkhc
•
เรื่องราวของชายหนุ่ม รปภ.
ที่พบเจอคุณลุงแปลกหน้ามาขอความช่วยเหลือ
หนุ่ม รปภ. ได้รับฟังเรื่องราวของคุณลุง
เกิดความสงสาร จึงช่วยเหลือคุณลุง
คุณลุงได้ตอบแทนความมีน้ำใจของชายหนุ่ม
ด้วยของขลังของดี ที่พกติดตัวมา
และของขลังหน้าตาประหลาดๆนี่เอง
คือต้นเหตุของเรื่อง #ทำดีได้เจอดี
สามารถติดตามรับชมรับฟังได้ที่
👉🏻 https://youtu.be/P63P6sSjkhc
________________________________________
ถ้าพูดกันถึงเรื่องความเฮี้ยน
“ กุมารทองพรายดำ “
ก็มีแรงเฮี้ยนที่ไม่ได้น้อยหน้า
ไปกว่าดวงวิญญาณผีตายโหงอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นการปรากฏตัว ในรูปแบบของ
เงา รูปร่าง กลิ่น เสียง หรือการเข้าฝัน
แต่ก็ใช่ว่า...
ทุกคนจะได้สัมผัสถึงดวงวิญญาณ
จะต้องเป็นผู้ที่มีสัมพันธ์
หรือไม่ก็มีวาระที่บรรจบกัน
หรืออีกนัยหนึ่ง...
ต้องเป็นผู้ที่มีสัมผัสที่หก..นั่นเอง
•
การจัดสร้างปลุกเสกกุมารทองพรายดำ
จะต้องใช้มวลสาร วัตถุอาถรรพ์ต่างๆ
เช่น ดิน 7 ป่าช้า , ผงเถ้ากระดูกเด็กเสียชีวิต
ตะปูโลงศพ , ไม้ฝาโลง และวัตถุอื่นๆ
ที่สื่อถึงวิญญาณได้ง่าย เพื่อนำมา
ขึ้นรูปเป็นกุมารทอง ในรูปแบบต่างๆ
โดยเรียกอัญเชิญจิตวิญญาณของเด็ก
ที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เช่น จมน้ำ ป่วย
รถชน พลัดตกจากที่สูง หรืออื่นๆ
ที่วิญญาณยังต้องวนเวียนอยู่บนโลกมนุษย์
ยังไปเกิดใหม่ไม่ได้ เนื่องจากยังไม่หมดอายุไข
พระอาจารย์ผู้มีวิชาอาคม
จะเรียกอัญเชิญวิญญาณเหล่านี้
ให้เข้ามารักษา ดูแล ในรูปของกุมารทอง
คอยช่วยทำให้ผู้เลี้ยงบูชาสมปรารถนา
เพื่อแลกกับบุญกุศลที่จะได้รับ
เป็นการแลกเปลื่ยน จากผู้เลี้ยงบูชา
•
กุมารทองพรายดำ ถือว่าเป็นจิตวิญญาณ
ที่ยังมีความ รัก โลภ โกรธ หลง
ผู้เลี้ยงบูชาจะต้องหมั่นดูแล เอาใจใส่
ควรตั้งชื่อให้ เพื่อจะให้กุมารทองพรายดำ
รับรู้ว่าตนเองชื่ออะไร และจะถูกเรียกใช้
ตามคำบนบานของผู้เลี้ยงบูชา
ผู้เลี้ยงควรหมั่นดูแลเอาใจใส่
ให้อาหารของกิน และทำบุญให้
เพื่อให้กุมารทองพรายดำเกิดความพอใจ
และช่วยเหลือเราได้ดีขึ้น มีฤทธิ์มากขึ้น
แต่จะเก่งไม่เก่ง มีฤทธิ์มากหรือน้อยนั้น
ก็ขึ้นอยู่กับบุญกุศลและกรรมของเขาเอง
หากผู้เลี้ยงบูชา หมั่นเอาใจใส่ดูแล
ไม่ใช้ให้ไปในทางผิดศิลธรรม
กุมารพรายจะทำให้ท่านสมปรารถนา
มีความสุขความเจริญ ทำการงานอะไร
ก็จะพบแต่เรื่องดีๆ
แต่ในทางกลับกัน..
หากรับเค้าไปเลี้ยงบูชาแล้ว
แต่ไม่เอาใจใส่ ไม่ทำบุญกุศลให้
หรือไม่ทำตามสัญญา
กุมารทองจะให้ความเดือดร้อน
หลอกคนในบ้าน ทำให้เกิดเรื่องไม่ดีต่างๆ
และเมื่อไม่อยากเลี้ยงบูชาแล้ว
ไม่ควรทิ้ง หรือปล่อยปละละเลย
ควรนำไปให้คนที่ต้องการเลี้ยงบูชาต่อ
จะเป็นผลดีที่สุด ทั้งกับผู้เลี้ยงเอง
และกุมารทองพรายดำ
________________________________________
•
ทีมงาน THE GHOST RADIO 👻
ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม
#ย้อนรอยเรื่องเล่า #Theghostradio
•
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ข้อมูลที่นำเสนอ มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อ
ซึ่งแต่ละบุคคล อาจมีความเชื่อที่แตกต่างกัน
ขอให้ท่านผู้อ่าน ใช้ดุลยพินิจและวิจารณญาณ
ในการรับสารข้อมูล และหากมีมุมมองที่แตกต่าง
โปรดแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ความรู้อีกแง่มุม
โดยที่ไม่ก้าวล่วง ความเชื่อความศรัทธาของผู้ใด
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
•
ขอบคุณแหล่งอ้างอิงและภาพประกอบจาก
https://www.sanook.com/horoscope/174131/
https://sites.google.com/site/kumarphray/
อ่านเรื่องย้อนรอย 在 The Ghost Radio Facebook 的最佳貼文
#ย้อนรอยเรื่องเล่า THE GHOST RADIO
#เรื่องเล่าจากพระอาจารย์ #ครูตรี
#เล่าเรื่องหลอน #ฟังเรื่องผี #อ่านเรื่องย้อนรอย
________________________________________
•
เรื่องเล่าจากพระอาจารย์
เล่าโดย : ครูตรี
https://youtu.be/LzFrmjhi15M
•
ชายหนุ่ม ดวงถึงฆาต..ต้องชะตาขาด
มีวิญญาณปองร้าย หมายเอาชีวิต
แต่แล้ว..เขาได้รับความเมตตา
จากพระอาจารย์ และของขลัง
จากชายผ้าถุงของแม่ผู้ให้กำเนิด
มาปกปักษ์ รักษา คุ้มครอง
ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย
พบกับพุทธคุณเครื่องรางของคลัง
ที่ปลุกเสกจากความรักความปรารถนาดี
.....ของบุพการีผู้ให้กำเนิด
#เรื่องเล่าจากพระอาจารย์
👉🏻 https://youtu.be/LzFrmjhi15M
________________________________________
“ ไม่มีพรใดวิเศษเท่า..พรบิดา-มารดา “
และไม่มีเครื่องรางของคลังใด
ที่จะคุ้มครอง เราได้ดีเท่า..
ความรักความปรารถนาดี
ของบุพการีผู้ให้กำเนิด
“ ตะกรุดชายผ้าถุงแม่ “
________________________________________
ชายไทยสมัยโบราณมีความเชื่อว่า
ยามที่ไปออกรบ หากขอเศษผ้าถุงแม่
หรือขอชานหมากของพ่อ นำติดตัวไปด้วย
สองสิ่งนี้เป็นสิ่งคุ้มครองภัย
และเป็นเครื่องรางชั้นดี
เพราะถือเป็นตัวแทนความรัก
อันบริสุทธิ์ของพ่อแม่ เพื่อให้ลูกนั้น...
สามารถคิดถึงความดีงาม ความรัก
ความปรารถนาดี ความกตัญญู
เมื่อคุณธรรมและความกตัญญูมาบรรจบกัน
สิ่งเหล่านี้จึงเป็นพุทธคุณของศักดิ์สิทธิ์
โดยที่ไม่ต้องปลุกเสก และสามารถ
สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นได้เสมอมา
ด้วยอานิสงส์ความรัก ความปรารถนาดี
จากบิดา มารดา และความมีจิตสำนึกกตัญญู
รู้คุณพ่อแม่ คุณงามความดีเหล่านี้
จะก่อเกิดผลมากมายมหาศาล
เจริญก้าวหน้าตลอดชีวิต ไม่มีตกอับ
และจะนำพาให้แคล้วคลาด
ปลอดภัย จากภยันตรายทั้งปวง
•
ดั่งเรื่องของ....หลวงปู่ม่น แห่งวัดเนินตามาก
พระเกจิดังเมืองชล ที่ได้มีลูกศิษย์ลูกหา
มาพูดคุยสนทนาธรรมด้วย
ซึ่งจู่ๆ หลวงปู่ม่นก็เกิดถามลูกศิษย์ว่า
"แกอยากได้วัตถุมงคลที่เหนือกว่าของฉันไหม ?"
ลูกศิษย์คนนั้นก็ตอบว่า “อยากได้ครับ”
ในใจก็นึกว่า ท่านจะให้เหล็กไหล ไพลดำ
คดมะพร้าว ตับเหล็ก อะไรประมาณนี้
แต่ท่านยิ้มอย่างใจดี แล้วบอกว่า...
" แกกลับไปบ้านนะ แล้วหาแผ่นโลหะ
จะเป็นอะไรก็ได้นะ แล้วเอาเส้นผมของแม่
กับชายผ้าซิ่นของแม่ วางลงบนแผ่นโลหะนั้น
แล้วม้วนเข้าด้วยกันเป็นตะกรุด
แล้วแกก็เอาไปให้แม่อธิษฐานให้
ถ้าแม่แกยังแข็งแรง ...
จะให้วางของให้ม้วนให้เลยก็ได้
ตอนแม่อธิษฐานให้พรแก
แกลองฟังดูซิว่า
เขาจะว่าให้แกตาย แกเสื่อมไหม
ถ้าทุกคำพูดมีแต่เรื่องดี ไม่มีแช่งล่ะก็ ..
ตะกรุดนั้นไม่มีเสื่อมหรอก
ดียิ่งกว่าใครๆ ทำให้นะ
ตะกรุดของฉันก็ไม่สู้ตะกรุดของแม่แกหรอก
....เพราะฉันรักแกไม่เท่าแม่แก "
________________________________________
•
ทีมงาน THE GHOST RADIO 👻
ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม
#ย้อนรอยเรื่องเล่า #Theghostradio
•
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ข้อมูลที่นำเสนอ มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อ
ซึ่งแต่ละบุคคล อาจมีความเชื่อที่แตกต่างกัน
ขอให้ท่านผู้อ่าน ใช้ดุลยพินิจและวิจารณญาณ
ในการรับสารข้อมูล และหากมีมุมมองที่แตกต่าง
โปรดแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ความรู้อีกแง่มุม
โดยที่ไม่ก้าวล่วง ความเชื่อความศรัทธาของผู้ใด
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
•
ขอบคุณแหล่งอ้างอิงและภาพประกอบจาก
http://www.thepjuti.com/article/494/หลวงปู่ม่น-ยืนยัน-ตะกรุดที่ดีที่สุด-คือตะกรุดจาก-ผ้าถุงของแม่
https://www.postsod.com/story-sarong
https://moomkao.blogspot.com/2019/08/blog-post_984.html?m=1
http://www.tdaily.us/34424-20190618.html