關於 ฯลฯ เป็นต้น ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

#หลังจากนี้ไม่มีอีกแล้ว 😌

.

.

ตั้งแต่เริ่มมีโควิดเมื่อปีก่อน
ผมทำคอร์สออนไลน์ “จ่ายเท่าไหร่ก็ได้” มาทั้งหมด 20 ครั้ง

.

แต่ละครั้ง
จะเอาเรื่องต่างๆ ที่ผมทำสำเร็จมาถ่ายทอด

ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจ เช่น
-การตลาดออนไลน์
-การเปิดการขาย ปิดการขาย
-การตอบ inbox ลูกค้า
-Sale Process
-การตั้งราคา
-ฯลฯ

เรื่องที่เป็นทักษะออนไลน์ เช่น
-การทำคลิป
-การตัดต่อแบบง่าย แบบเทพ
-การสร้างเพจ สร้างช่อง สร้างสื่อ
-การ live
-การพูดหน้ากล้อง
-ฯลฯ

เรื่องที่เป็นอาชีพ สร้างรายได้ เช่น
-การเอาความรู้ที่มีมาทำ knowledge product รูปแบบต่างๆ
-การทำเงินจากคลิปวิดิโอ
-การสร้าง Digital Product
-ฯลฯ

และเรื่องที่เป็น soft skill เช่น
-การตั้งเป้าหมาย
-ความสำเร็จ
-แรงบันดาลใจ
ฯลฯ

มีนักเรียนเข้าร่วมรวมๆ กันแล้วไม่ต่ำกว่า 20,000 คน

.

ที่ผ่านมา

ผมกับทีมงานสนุกและมีความสุขมาก
ที่ได้เห็นพี่ๆ น้องๆ นักเรียนหลายคนลืมตาอ้าปากและสร้างชีวิตได้

หลายคน มีรายได้เพิ่มขึ้นหลายแสนหลานล้าน
กลายเป็นคนสำเร็จ
ที่ออกไปส่งต่อความสำเร็จให้คนอื่นๆ อีกมากมาย

เช่น พี่อ้อ Happy slen เป็นต้น

.

แต่ผมเป็นคนติดกระดาก
ไม่ค่อยชอบเคลมว่าผมทำให้คนนั้นสำเร็จ
คนนี้สำเร็จ

เพราะผมเชื่อว่า
คนที่เป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จของแต่ละคนนั้น
จริงๆ แล้วก็คือ “เจ้าตัว” เองนั่นแหละ
ไม่ใช่ใครอื่นเลย

ผมเป็นเพียงแค่คนที่แนะนำ
มองเห็นความสามารถ และความน่าจะเป็น
ในตัวของนักเรียนแต่ละคนเท่านั้น

แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้
ก็ต่อเมื่อเจ้าตัวเป็นผู้ตัดสินในลงมือทำเอาเองล้วนๆ

.

.

การเดินทางอันยาวนานของ “คอร์สเท่าไหร่ก็ได้”
ของผมกำลังมาถึงจุดสุดท้ายแล้วครับ 😌

ตลอดเวลาที่ผ่านมา
ผมได้เรียนรู้ข้อแตกต่างระหว่างคนสำเร็จกับคนอีกแบบนึงว่า
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาแตกต่างกันนั้น
ก็คือ “คำถาม” ที่พวกเขาตั้งกับผู้รู้ตรงหน้า

คนสำเร็จมักตั้งคำถามที่ดี
ก่อให้เกิดแนวทาง
ก่อให้เกิดการพัฒนา
ก่อให้เกิดแรงขับเคลื่อนในการลงมือทำ
ทั้งกับตัวเอง และคนที่ได้ยินได้ฟัง

ในขณะที่คำถามของคนล้มเหลว ไม่เป็นแบบนั้น
พวกเขาทำตรงกันข้ามกันไปหมด

.

อ่านโพสต์นี้จบ
ลองตั้งคำถามกับตัวเอง ด้วยคำถามเดียวกันกับที่กูรูด้านการพัฒนาตนเองอันดับหนึ่งของโลก (John C. Maxwell) ถูกถามตอนช่วงเริ่มต้นสร้างชีวิต

V
V
V

“คุณมีแผนในการพัฒนาตัวเอง
อย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ จังๆ แล้วหรือยัง?

.

หรือแค่ทำสิ่งที่ทำอยู่ไปวันๆ เพราะมันมีรายได้?

.

————————————————

คำถามมีพลังครับ

การตั้งคำถามที่ดี
จะเป็นอาวุธสำคัญในการพัฒนาความเป็นอยู่ของคนที่ใช้มันเป็น

ฉะนั้นในคอร์สเท่าไหร่ก็ได้ครั้งสุดท้ายนี้
ผมจะไม่ทำอะไรไปมากกว่า
ทำให้ทุกคนที่เข้าร่วม
“รู้จักตั้งคำถามที่ทรงพลัง และสร้างแรงขับเคลื่อนให้กับตัวเองให้เป็น”

.

คอร์สเท่าไหร่ก็ได้ครั้งสุดท้าย “ไร้หัวข้อ”

เรียนรู้วิธีการตั้งคำถามให้ฉลาด
และตั้งคำถามกันให้หนำใจตลอด 3 วันเต็ม

.

ถามได้ทุกเรื่อง
เท่าที่คิดว่าผมจะรู้และตอบได้

วันแรก
ผมจะแนะนำวิธีตั้งคำถามแบบที่คนสำเร็จใช้
โดยอ้างอิงจากปรมาจารย์ด้านการพัฒนาตัวเองระดับโลก
และสุดยอดครู ผู้สร้างคนสำเร็จมากมายให้โลกใบนี้

และวันต่อๆ ไป
ผมจะตอบทุกคำถาม
ที่นักเรียนในคลาสถาม
และที่ผมรู้
(ถ้าไม่รู้ หรือตอบไม่ได้ วันรุ่งขึ้นจะเชิญผู้รู้มาตอบให้)

ถ้าเวลาไม่พอ
ขยายให้อีก เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

.

รับได้แค่ 1,000 คน
(เพราะเรียนผ่าน zoom เห็นหน้ากันสดๆ เปิดไมค์ถามตอบกันสดๆ)

คอร์สเท่าไหร่ก็ได้รุ่นนี้
จะเริ่มวันที่ 1 - 3 ตุลาคม 2564 เวลา 19.00 น. เหมือนเดิม

ราคาเต็ม 6,959.-
ราคาพิเศษ จ่ายเท่าไหร่ก็ได้ (ขั้นต่ำ 325.-)

**ราคาขั้นต่ำจะปรับขึ้นหลังเที่ยงคืนวันนี้ (27 ก.ย.64)

.

สมัคร >>> พิมพ์ “ลุย” ส่งไปที่ไลน์ @ captbenz

#ผู้กองเบนซ์

ปล. ท่านที่สมัครมา 1,000 บาท ขึ้นไป
มีของขวัญพิเศษมอบให้หลังจบคลาส (ส่งให้ถึงบ้าน) เหมือนเดิมครับ 😊

วางแผนใช้เงินเดือน 45 วัน
.
ครั้งหนึ่งผมเปิดสายหน้าไมค์พูดคุยกับน้องผู้หญิงคนหนึ่ง เธอโทรเข้ามาแชร์เรื่องการบริหารเงินของตัวเอง ผมฟังแล้วเข้าท่าดี เลยอยากหยิบมาเล่ามาแชร์ เผื่อเป็นไอเดียให้คุณผู้อ่านลองไปปรับใช้กัน
.
น้องคนนี้ทำงานเป็นวิศวกร เธอบริหารเงินรายได้ของเธอกับแฟน โดยทำงบประมาณแบบง่ายๆ เริ่มจากเอาเงินรายได้มาวางแผน หักค่าใช้จ่ายสำคัญ อาทิ ค่าผ่อนคอนโดฯ ค่าน้ำ ค่าไฟ ซื้อของใช้ในบ้าน และค่าใช้จ่ายคงตัวอื่นๆ รวมถึงการออมที่ตั้งไว้อัตโนมัติเป็นประจำทุกเดือน (เช่น การลงทุนแบบ DCAในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF))
.
ส่วนเงินที่เหลือสำหรับกินใช้ส่วนตัว (เหลือจากหักรายจ่ายคงตัว) อาทิ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ฯลฯ เธอนำมาหารด้วย 45 เพื่อกำหนดเป็นเงินใช้จ่ายในแต่ละวัน

ตัวอย่างเช่น เงินเดือน 27,000 หักผ่อนคอนโดฯ น้ำ ไฟ และค่าใช้จ่ายคงตัวอื่นๆ แล้วเหลือ 12,000 ก็เอาตัวเลข 12,000 ไปหารด้วย 45 ก็จะเหลือกินใช้ได้ 267 บาทต่อวัน เป็นต้น
.
อ้าว! แต่เดือนหนึ่งมันมีแค่ 30 วัน ไม่ใช่เหรอครับพี่โค้ช!!
.
ใช่ครับ เดือนหนึ่งมีแค่ 30 วัน แต่เธอตั้งใจแบ่งเงินไว้ใช้ 45 วัน
.
หลักการคือ พยายามรักษาวินัยกินใช้ในแต่ละวันให้ไม่เกิน 267 บาท ถ้าทำได้ ในวันสิ้นเดือนเธอก็จะมีเงินเหลืออีก 15 วันที่ยังไม่ได้ใช้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนไปเป็นเงินออมได้ทั้งหมด รวมทั้งสิ้น 267 x 15 หรือประมาณ 4,000 บาท
.
ฟังแล้วหลายคนอาจตั้งคำถามว่า “วิธีนี้บีบรัดชีวิตมากเกินไปหรือเปล่า” เพราะเงินที่เหลือไว้สำหรับใช้จ่าย 30 วัน ต้องนำมาแบ่งใช้ 45 วันเสียอย่างนั้น
.
พอได้พูดคุยรายละเอียดกับเจ้าของวิธีการ ก็ได้ความว่า อันที่จริงเธอเองกับแฟนก็ไม่ได้จำกัดการกินใช้ ว่าต้องเป๊ะทุกวันหรอก ตัวเลขเฉลี่ย 45 วัน เป็นเพียงการตั้งงบประมาณกันไว้ เพื่อคอยเตือนตัวเองไม่ให้ใช้เงินเยอะ และสร้างโอกาสออมให้ตัวเอง
.
ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะใช้เกินตัวเลขที่ตั้งไว้หรือฟุ่มเฟือยบ้างเลยไม่ได้ เพราะถ้าเราควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละวันได้ดี ก็จะทำให้เหลือเงินในแต่ละวัน
.
ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะฟุ่มเฟือย หรือกินใช้เกินตัวเลขที่ตั้งไว้ไม่ได้ เพราะการที่เราควบคุมการใช้จ่ายในวันอื่นๆ มาดี มันก็ทำให้เรากินเกินที่กันไว้ได้บ้างในบางวัน หรือพูดให้ง่ายคือ ถ้ากินเกินก็จะทำให้เงินเก็บส่วนเผื่อตรงนี้ลดลงไป บางเดือนเราอาจเหลือเงินแค่ 10 วัน 7 วัน หรือ 3 วันก็เป็นได้แต่สุดท้ายก็หมายความว่า เรามีเงินเหลือออมเพิ่มขึ้นอยู่ดี
.
สุดท้ายไม่ได้บอกว่าวิธีการนี้ดีสำหรับทุกคนเพราะแต่ละคนก็มีรูปแบบรายได้และรายจ่ายต่างกันไปซึ่งที่ดีก็ควรจะเลือกวิธีที่ตรงกับลักษณะเงินเข้า-ออกในกระเป๋าเรา รวมถึงนิสัยส่วนตัวด้วย
.
ไม่ว่าคุณจะเลือก :
.
* หักอัตโนมัติจากบัญชีเงินเดือนก่อนใช้จ่าย
* เก็บแบงก์ 50 ที่ได้รับจากการทอนโดยไม่กินใช้
* จ่ายภาษีให้ตัวเองออม 10% ทุกครั้งที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
* เก็บเศษเหรียญ 5 และ 10 บาท ไว้ลงทุน
* เก็บเศษเหรียญ 2 บาท 1 บาท และเหรียญสลึง ไว้ทำบุญ
* ฯลฯ
.
ไม่ว่าจะวิธีไหน ถ้าคุณถนัด และเก็บได้ต่อเนื่องมันก็ดีต่อใจทั้งสิ้น
.
ส่วนเรื่องที่หยิบมาเล่า ก็แค่อยากจะบอกว่ามีคนช่างคิด ช่างประดิษฐ์วิธีที่จะทำให้ตัวเองเก็บออมได้เพิ่ม อีก 1 วิธี ก็เท่านั้นเอง
.
เริ่มเหลือ ก็เริ่มรวย ...
.
วิธีไหนที่ทำให้คุณเก็บออมได้
ก็จัดว่าคูลลลลลลลทั้งนั้นครับผม
.
#โค้ชหนุ่ม #TheMoneyCoachTH

สิ่งนี้มีประโยชน์ ตอนน้ำท่วม
1. ของมีค่า เงิน ทอง สมุดบัญชี ฉโนดที่ดิน ฯลฯ พยายามเก็บรวมไว้ในกระเป๋า 1 ใบ หาซองกันน้ำ(ถ้ามี) เพื่อง่ายต่อการอพยพเร่งด่วน
2. เครื่องใช้ไฟฟ้า ปลั๊กไฟ ของที่เสียหายง่าย พยายามยกขึ้นที่สูง
3. อย่าเข้าใกล้แหล่งจ่ายไฟ เสาไฟฟ้า เสี่ยงโดนไฟดูด
4. ควรมีไฟฉายติดตัวไว้ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินตอนกลางคืน
5. คอยติดตามข่าวสาร และ จดเบอร์โทรต่างๆ ที่จำเป็นยามฉุกเฉิน เช่น 1669 เป็นต้น
6. ถ้ามีห่วงยาง แกลอนน้ำมัน โฟม ที่ช่วยลอยน้ำได้ ควรเอาไว้ใกล้ตัว เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
7. ยารักษาโรค น้ำดื่ม ด้วยนะคะ

สติสำคัญมาก ไม่ต้องสวดมนต์

อันนี้คิดเอาเองนะคะ ตามประสบการณ์ ใครมีอะไรเพิ่มเติมแจ้งได้ค่ะ

#น้ำท่วม

มีสินค้าดี ยังไงก็ไร้ค่า
ถ้าทำให้ลูกค้าสนใจไม่ได้
คลิปนี้เจ้าของกิจการต้องฟัง
เพราะเพียงแค่สินค้าดี มันอาจไม่เพียงพอ ที่จะทำให้เค้าตัดสินใจซื้อ
.
คู่แข่งมีสินค้าแบบเดียวกัน
คุณสมบัติแบบเดียวกัน โปรโมชั่นเหมือนกัน
ขายในออนไลน์เหมือนกัน
.
แต่!! ทำไมเค้าถึงสามารถขายได้มากกว่า
และยังขายในราคาที่สูงกว่าได้
.
ในวันที่โลกหมุนเร็ว มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย
ทั้งในระดับโลก และระดับประเทศ
ทำให้หลายๆธุรกิจ ต้องปรับตัว
การแข่งขัน ในโลกออนไลน์สูงขึ้น
.
ในวิกฤต มีโอกาส
ในปัญหา มีทางออก
.
ศิลปะการเล่าเรื่อง
ศิลปะการนำเสนอ
ศิลปะการโน้มน้าวใจ
รวมถึงการสร้างความมีส่วนร่วมกับลูกค้าจึงสำคัญ
.
คอร์ส Presentation & Storytelling Professional
จะช่วยตอบคำถามเหล่านั้นให้คุณ
เปลี่ยนคุณให้กลายเป็น นักเล่าเรื่อง อย่างมืออาชีพ
เปลี่ยนการนำเสนอที่ไม่มั่นใจ กลายเป็นการเล่าเรื่องอย่างมีพลัง ฟังแล้วประทับใจ จนอยากเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง
.
สอนโดย ครูซอ ดร. สทาศัย พงศ์หิรัญ
ดุษฎีบัณฑิต(ปริญญาเอก)จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อาจาร์ยพิเศษ และวิทยากรให้มหาลัยเกษตรศาสตร์
และองค์กรชื่อดังต่างๆ อาทิเช่น เมืองไทยประกันชีวิต , สถาบัน ETDA, ธนาคารทหารไทย เป็นต้น
.
และ สอนดารา พิธีกร ศิลปินมากมาย
ทั้ง ใหม่ ดาวิกา, BNK48, ทีมผู้เข้าประกวด The Face Thailand, The Face MEN Thailand, Miss Universe Thailand ฯลฯ
เรียนทั้งหมด 6 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 3 ชม.
เริ่มเรียนวันที่ 5 มีนาคม 2564
.
สนใจสอบถาม
Line@:@kru-ngor
? โทร. 080-265-6266 099-797-9615

บ้านเข็กน้อย อ.เขาค้อ ... ชุมชนวัฒนธรรมชนเผ่าม้ง ใหญ่สุดในสยาม ....
ชุมชนม้ง บ้านเข็กน้อย เขาค้อ .. เป็นชุมชนชาวชนเผ่าม้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะมีสมาชิกในชุมชนเดียวกันนี้ถึง 10000 กว่าคน เกือบ 2000 หลังคาเรือน ... จนสามารถจัดตั้งเป็น ตำบลและ อบต. ของตนเองโดยเฉพาะ และมี ส.อบจ. ของตนเองด้วย
ชุมชนม้งในจังหวัดเพชรบูรณ์ นอกจากที่บ้านเข็กน้อยแล้ว ยังมีที่บ้านห้วยน้ำขาว บ้านเล่าลือ บ้านเล่าเน้ง บ้านดอยน้ำเพียงดิน และบ้านทับเบิก เป็นต้น
ชนเผ่าม้ง มีวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ที่มีอัตลักษณ์อันโดดเด่น และมีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่น่าชื่นชม และน่าภาคภูมิใจมายาวนาน มีภาษาพูดและภาษาเขียนเป็นของตนเอง แต่ภาษาเขียนได้สูญหายไปแล้ว และเป็นชนเผ่าที่ให้ความสำคัญกับเครื่องประดับที่เป็นเงิน ..
ม้ง เป็นชนเผ่าที่สู้รบเก่งมาก เฉลียวฉลาด กล้าหาญ ขยัน อดทน ดินแดนของชาวม้งที่เคยครอบครองเป็นอาณาจักรนั้น กว้างใหญ่ไพศาลมาก โดยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีนเชื่อมต่อดินแดนสุวรรณภูมิ
ชนเชื้อชาติอื่น ๆ หรือชนเผ่าอื่น ๆ ต่างก็เกรงกลัวนักรบของเผ่าม้งเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคนจีน (ชาวฮั่น) ซึ่งได้เคยมีการร่วมกันสู้รบครั้งใหญ่กับชาวม้งจนชนะ และขับไล่ลงมาทางใต้ และด้วยความเกรงกลัวในการเป็นนักรบของชาวม้งนี่เอง จึงได้ไล่ตีให้แยกย้ายกระจัดกระจายกันออกไป ไม่ให้รวมตัวกันจัดเป็นอาณาจักรที่เข้มแข็งและกลับมาต่อกรกับชาวฮั่นได้อีก
ปัจจุบันนี้ ชาวม้งจึงกลายเป็นชนกลุ่มน้อย กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ ทั้ง จีน เวียดนาม ลาว พม่า และไทย ...
นอกจากนั้น ยังมีชาวม้งบางส่วน ได้อพยพไปอยู่ประเทศตะวันตก เช่น อเมริกา แคนานดา ยุโรป ฯลฯ ซึ่งก็ได้มีบทบาทในสังคมใหม่เหล่านั้นโดยแสดงออกถึงพื้นฐานชาติพันธุ์ที่มีความเฉลียวฉลาด ขยัน อดทน อีกทั้งก็ไม่ได้ลืมเลือนพี่น้องชาวม้งที่ยังคงอยู่ที่เอเชียอาคเนย์เลย ยังคงติดต่อช่วยเหลือกลับมาตลอด ... นับเป็นตัวอย่างที่ดีของความผูกพันกัน ไม่ทอดทิ้งกันของชนเผ่า ..
.... มนุษย์ ไม่ว่าชาติพันธุ์ใด ล้วนแต่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน .. วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ วิถีชีวิต ของแต่ละกลุ่ม ถึงจะแตกต่างกัน แต่ก็มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน .....
เราต้องภาคภูมิใจในรากเหง้า ตนตัวที่แท้จริงของเรา .. หากเราสามารถที่จะหลงลืมหรือหมิ่นแคลนรากเหง้าตัวเองได้แล้ว .. เราจะเหลืออะไรอีกเล่า .. ที่จะทำให้คนอื่นเขาเคารพหรือยอมรับในตัวตนของเราเองได้ ... ????
ชนชาติม้ง .. ชนชาติที่ยิ่งใหญ่
โชคดีเหลือเกิน ที่ได้มีชนเผ่าม้งมาอยู่อาศัยร่วมแผ่นดินเดียวกันอย่างมีความสุขใน “เพชรบูรณ์ : ดินแดนแห่งความสุขของคนอยู่และผู้มาเยือน” แห่งนี้

กดติดตาม ติดต่อกินให้อ้วนตาย ได้ทางเฟสบุ๊ค
http://www.facebook.com/charnchai57




#ปีใหม่ม้งเข็กน้อย2562

iOS 12 เปิดให้อัปเดตเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีชม 12 ฟีเจอร์เด็ดที่คัดมาให้ชมและมาดูสิ่งใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงใน iOS 12 กันครับ

สรุปการทำงานภาพรวมตอบสนองเร็วขึ้นทุกรุ่นทั้ง iPhone, iPad โดยคะแนนการประมวลกราฟฟิกเร็วขึ้นเห็นได้ชัด เปิดแอปกล้องเร็วขึ้น, ระบบตอบสนองดีลื่น, แอปไม่เด้ง, บัคน้อย ฯลฯ ในคลิปนี้ขอดึง 12 ฟีเจอร์เด็ดๆ ที่เราว่า "ดี" มาให้ชมกันครับ ทั้งนี้ iOS 12 ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกเยอะมากมายให้ได้ใช้งานกัน

#12ฟีเจอร์เด็ดบนiOS12

1. Screen Time
สำหรับตั้งเวลาจำกัดในการใช้งานแอปแต่ละแอป สามารถตรวจสอบได้ว่าเราใช้เวลากับแอปไหนมากที่สุด เพื่อให้เราสามารถจัดการหรือ Balance เวลาได้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้ปกครองสามารถควบคุมการใช้งานแอปของเด็กๆ หรือลูกๆ ได้ โดยควบคุมและจัดการจากอุปกรณ์ของผู้ปกครองเอง
ข้อมูลเพิ่มเติมอ่านได้ที่ http://bit.ly/2QCtunk

2. Swipe Up เพื่อปิดแอปพลิเคชันที่หน้า App Swicther ได้แล้ว จากเดิมใน iPhone X การปิดแอปจะต้องกดค้างที่แอปก่อนจึงจะปิดออกจากหน้า App Switcher ได้แต่ใน iOS 12 นี้สามารถตวัดขึ้นเพื่นอปิดแอปเหล่านั้นได้เลยและทำได้ทีละหลายๆ แอปด้วย

3. Group Notification
หน้าจอการแจ้งเตือนมีการจัดกลุ่มการแจ้งเตือนตามแอป ที่ดูเป็นระเบียบมากขึ้น สำหรับใครที่มีการแจ้งเตือนเข้ามาเยอะๆ ก็สามารถเลือกจัดการหรือเลือกดูการแจ้งเตือนได้ง่ายและเป็นระเบียบมากขึ้น

อีกทั้งยังมีการจัดการการแจ้งเตือนของแอปต่างๆ ทำได้ผ่านหน้า Notification center ทำได้ง่ายขึ้น จะเลือกปิดไปเลยหรือจะเลือก Delivery quitely ก็ได้ตามสะดวก ถ้าเลือก ๆQuiet notification การแจ้งเดือนนั้นจะยังคงแสดงใน Notification center แต่ทว่าจะไม่แสดงที่หน้า lock screen

4. FaceID เพิ่มได้ 2 ใบหน้าสำหรับ iPhone X เหมาะสมหรับการใช้งาน 2 คน เช่น สามีกับภรรยา เป็นต้น http://bit.ly/2MC0hp7

5. Memoji + 30 วินาที Animoji
Memoji สามารถตัวละครเคลื่อนไหวแทนตัวผู้ใช้ ตรวจจับใบหน้าได้แบบ Real-Time ที่สามารถเลือกปรับแต่งคาแร็กเตอร์ได้เอง ไม่ว่าจะเป็น ทรงผม สีผม การปรับเงาแว่น สามารถปรับแต่งได้ละเอียดมากสามารถสร้างเป็นตัวแทนของเราได้เลย อีกทั้งการส่ง Animoji ผ่าน iMessage นั้นบันทึกได้สูงสุด 30 วินาที จากเดิมทำได้เพียง 10 วินาที

6. Face Time แบบกลุ่ม (Group FaceTime ) และลูกเล่นใน FaceTime

7. Live listen
Live Listen เป็นฟีเจอร์ที่ใช้ iPhone iPad เป็นไมโครโฟนรับเสียง จากนั้นเสียงจะไปดังที่ AirPods ทำให้สามารถได้ยินเสียงที่ชัดมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ http://bit.ly/2MySxEs


8. AirDrop ที่ส่งไวมากกว่าขึ้นกว่าเดิม

9. Voice Memos ปรับ UI ใหม่, ใช้งานร่วมกับ iPad, Mac ได้ จะอัดเสียงจากอุปกรณ์ไหนๆ ก็แชร์หากันได้สบายๆ ลิงก์ผ่าน iCloud สะดวกกว่าที่เคยเป็น แถม UI ของหน้าบันทึกนั้นก็ปรับปรุงใหม่เท่กว่าเดิมอีกด้วย

10. Apple CarPlay จะรองรับ 3rd Party Apps อย่าง Google Maps, Waze ทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการใช้งานแอปแผนที่อื่นๆ นอกจาก Apple Maps ตัวอย่าง http://bit.ly/2QE40Gb

11. แอป Measure (วัด) Measure มาพร้อมกับการเปิดตัว iOS 12 ที่ให้คุณสามารถใช้ iPhone ทำการวัดสถานที่หรือวัตถุได้ในรูป AR โดยใช้กล้องส่องไปยังสิ่งที่ต้องการวัด และสามารถกำหนดจุด เพื่อวัดสิ่งของได้ในรูปแบบ 3 มิติ แอป Measure มีประโยชน์มาก ในเวลาที่เราต้องการจะวัดสิ่งต่างๆ โดยไม่ต้องใช้ตลับเมตรหรือสายวัด และยังไม่ต้องจดลงในกระดาษอีกด้วย เพราะเราสามารถวัดสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา โดยใช้กล้องของ iPhone ในการกำหนดจุดการวัดได้เลย เมื่อวัดเสร็จ ก็สามารถถ่ายภาพ เพื่อบันทึกเป็นรูปภาพ เพื่อเก็บผลลัพธ์ในเครื่องได้ง่ายๆ https://www.iphonemod.net/measure-app-ion-ios-12.html

12. รองรับ Keyboard Trackpad ใน iPhone รุ่นเก่าที่จอไม่รองรับ 3D Touch โดยกดค้างที่ Spacebar เพื่อเลื่อน Cursor

ยังมีฟีเจอร์อีกมากมายให้ค้นหาใน iOS 12 อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.iphonemod.net/ios-12