Less is more หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำนี้กันบ้างใช่มั้ยครับ และการทำน้อยแต่ได้มากก็เป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน ( ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ) เพราะเราคงไม่อยาก ทำมากได้น้อย ทำน้อยได้น้อย หรือ ทำมากได้มาก กันแน่ๆ
แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก Less is more กันก่อน เพราะผมเชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจผิดคิดว่า การทำน้อยแต่ได้มาก คือการแสวงหาทางลัด หาทางที่สะดวกสบายที่สุด ซึ่งความหมายจริงๆแล้ว แตกต่างจากที่เราเข้าใจไปคนละโยชน์เลยทีเดียวครับ
Less is more มีต้นกำเนิดจากวงการศิลปะ เป็นการออกแบบแนวนึง เช่น minimalist design ไม่ใช่เป็นเป็นการ "ทำน้อยแต่ได้มาก" แต่เป็น "น้อยคือมาก" แปลอีกอย่างคือ #เรียบง่ายที่สุดแต่ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่ทำน้อยๆแล้วได้มากๆแบบที่เราเข้าใจครับ งานที่ Less is more จะผ่านการคิดมาเยอะมาก แล้วตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ให้เหลือแค่ใจความสำคัญจริงๆเท่านั้น
รอบตัวเรามีตัวอย่างของ Less is more มากมายครับ เช่น ผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่ออกแบบด้วยความตั้งใจของตัว สตีฟ จ็อบส์ เช่น ไอโฟน ที่ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายที่สุด โดยตัดปุ่มต่างๆทิ้ง ให้เหลือแค่ทัชสกรีนโล่งกับปุ่มแค่ไม่กี่ปุ่ม และผลจากการกำเนิดไอโฟนในครั้งนั้นก็ทำให้มือถือรุ่นปุ่มหยุบหยับแบบ Nokia BB ล้มหายตายจากกันไปหมด
อีกตัวอย่างของ Less is more คือ กลอนไฮกุ ของญี่ปุ่น
บทกลอนไฮกุ มีเพียงตัวอักษร 3 วรรค ยาว 5-7-5 รวมเป็นตัวอักษรเพียง 17 ตัว ไฮกุ มีพื้นฐานคือ เรียบง่าย และ ดั้งเดิม ไม่ยึดติดกับแบบแผน ไม่มีข้อจำกัด ไหลตามธรรมชาติ สั้นกระชับที่สุด ตรงที่สุด และเป็นไปอย่างฉับพลัน เรียบง่ายและตรงความรู้สึก ออกมาจากใจของกวี
ตัวของอย่างกลอนไฮกุ
เหตุใดน้อยแต่มาก
ได้ศึกษายากยิ่งซับซ้อน
มุ่งหวังได้เข้าใจ
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
Less is more นั้นเป็นแนวทางบอกกว้างๆ ไม่เจาะจงเฉพาะงานด้านใดด้านหนึ่ง อย่างในวงการ Start-up มีกระบวนการที่เรียกว่า Lean ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของ less is more หรือ กฏ 80/20 ของ พาเรลโต ก็คือ Less is more อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน
Less is more เป็นทั้งแนวคิด ปรัชญา ที่ให้คุณค่าของความเรียบง่าย ลดความซับซ้อน และมีความสมบูรณ์ในตัวเอง ซึ่งจะไม่ตรงกับเรื่องของการทำน้อยแต่ได้มากแบบที่เราเข้าใจ
เพราะฉะนั้น Less is more ไม่ใช่แนวทางสำหรับคนขี้เกียจที่อยากหาทางลัดให้ชีวิตแน่นอน แต่มันคือการมั่นสังเกตุและทดลองในสิ่งที่เราทำทุกวัน ตัดสิ่งไม่จำเป็นทิ้ง และเพิ่มการลงมือทำในสิ่งที่เกิดผลให้เกิดผลมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
「เรียบง่ายที่สุดแต่ได้ประโยชน์สูงสุด」的推薦目錄:
เรียบง่ายที่สุดแต่ได้ประโยชน์สูงสุด 在 สาระศาสตร์ Facebook 的最讚貼文
Less is more หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำนี้กันบ้างใช่มั้ยครับ และการทำน้อยแต่ได้มากก็เป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน ( ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ) เพราะเราคงไม่อยาก ทำมากได้น้อย ทำน้อยได้น้อย หรือ ทำมากได้มาก กันแน่ๆ
แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก Less is more กันก่อน เพราะผมเชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจผิดคิดว่า การทำน้อยแต่ได้มาก คือการแสวงหาทางลัด หาทางที่สะดวกสบายที่สุด ซึ่งความหมายจริงๆแล้ว แตกต่างจากที่เราเข้าใจไปคนละโยชน์เลยทีเดียวครับ
Less is more มีต้นกำเนิดจากวงการศิลปะ เป็นการออกแบบแนวนึง เช่น minimalist design ไม่ใช่เป็นเป็นการ "ทำน้อยแต่ได้มาก" แต่เป็น "น้อยคือมาก" แปลอีกอย่างคือ #เรียบง่ายที่สุดแต่ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่ทำน้อยๆแล้วได้มากๆแบบที่เราเข้าใจครับ งานที่ Less is more จะผ่านการคิดมาเยอะมาก แล้วตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ให้เหลือแค่ใจความสำคัญจริงๆเท่านั้น
รอบตัวเรามีตัวอย่างของ Less is more มากมายครับ เช่น ผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่ออกแบบด้วยความตั้งใจของตัว สตีฟ จ็อบส์ เช่น ไอโฟน ที่ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายที่สุด โดยตัดปุ่มต่างๆทิ้ง ให้เหลือแค่ทัชสกรีนโล่งกับปุ่มแค่ไม่กี่ปุ่ม และผลจากการกำเนิดไอโฟนในครั้งนั้นก็ทำให้มือถือรุ่นปุ่มหยุบหยับแบบ Nokia BB ล้มหายตายจากกันไปหมด
อีกตัวอย่างของ Less is more คือ กลอนไฮกุ ของญี่ปุ่น
บทกลอนไฮกุ มีเพียงตัวอักษร 3 วรรค ยาว 5-7-5 รวมเป็นตัวอักษรเพียง 17 ตัว ไฮกุ มีพื้นฐานคือ เรียบง่าย และ ดั้งเดิม ไม่ยึดติดกับแบบแผน ไม่มีข้อจำกัด ไหลตามธรรมชาติ สั้นกระชับที่สุด ตรงที่สุด และเป็นไปอย่างฉับพลัน เรียบง่ายและตรงความรู้สึก ออกมาจากใจของกวี
ตัวของอย่างกลอนไฮกุ
เหตุใดน้อยแต่มาก
ได้ศึกษายากยิ่งซับซ้อน
มุ่งหวังได้เข้าใจ
------------------------------------------------------------------------
Less is more นั้นเป็นแนวทางบอกกว้างๆ ไม่เจาะจงเฉพาะงานด้านใดด้านหนึ่ง อย่างในวงการ Start-up มีกระบวนการที่เรียกว่า Lean ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของ less is more หรือ กฏ 80/20 ของ พาเรลโต ก็คือ Less is more อีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน
Less is more เป็นทั้งแนวคิด ปรัชญา ที่ให้คุณค่าของความเรียบง่าย ลดความซับซ้อน และมีความสมบูรณ์ในตัวเอง ซึ่งจะไม่ตรงกับเรื่องของการทำน้อยแต่ได้มากแบบที่เราเข้าใจ
เพราะฉะนั้น Less is more ไม่ใช่แนวทางสำหรับคนขี้เกียจที่อยากหาทางลัดให้ชีวิตแน่นอน แต่มันคือการมั่นสังเกตุและทดลองในสิ่งที่เราทำทุกวัน ตัดสิ่งไม่จำเป็นทิ้ง และเพิ่มการลงมือทำในสิ่งที่เกิดผลให้เกิดผลมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ