Mount Kinabalu climb through Little Potchara's eyes.
AmazingThailand.ch Thailand
เหนื่อยที่สุดในชีวิต ครั้งหนึ่งของผม...
Mt. Kinabalu
“ภูเขาแห่งความตาย” ชื่อที่บ่งบอกถึงความน่ากลัวของภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของชาว Saba แห่งนี้ ชื่อที่ได้ยินแล้วคงไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้
แต่ในความเป็นจริง กลับมีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกแวะเวียนกันมาปีนตลอด ด้วยความสวยงามที่ติดอันดับโลกและการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ล่ะวันไว้ไม่มากนัก ทำให้การเดินทางมายังภูเขาลูกนี้ต้องจองคิวกันยาวเหยียดนับ3-4 เดือน
ภูเขาแห่งนี้ชื่อว่า “KINABALU”
Mount Kinabalu ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว ที่รัฐซาบาห์ (รัฐนี้มีเมืองหลวง คือ โกตา คินาบาลู) เป็นมรดกโลกแห่งแรกของประเทศมาเลเซียจากยูเนสโก มีความสูง 4,095.2 เมตร
กริ๊งๆๆ เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น เมื่อเดือนที่แล้ว มีพี่ที่รู้จักกันบอกผมว่า เติ้ลๆ ทาง Sabah Tourism Board เขาอยากให้เติ้ลไปช่วยโปรโมทเมือง โกตาคินาบาลู หน่อย แต่ต้องปืนขึ้นยอดเขาด้วยนะ เราสนใจไหม...
ผมรีบตอบกลับไปอย่างทันที.. "สนใจครับพี่"
ตอนนั้นผมยังไม่รู้หรอก ว่ายอดเขานี้มันเป็นอย่างไร ต้องเดินขึ้นไปไกลขนาดไหน อันตรายไหม๊ต้องเตรียมตัวอย่างไร...
จนมาถึงก่อนไปสองสัปดาห์ ผมพึ่งมาดูข้อมูลการเดินทาง ...
ตายละลิตเติ้ลลล นี่มันไม่ใช่เล่นๆเลย
จะเดินขึ้นไปบนยอดเขาไหวไหม๊...
ถ้าย้อนกลับไปสัก สองปีก่อนหน้านี้ผมคงไม่กังวลเท่าไหร่...
แต่ตอนนี้น่ะหรอ ผมไม่ได้ออกกำลังกาย มาเลยเป็นปี... น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นๆ จาก 83 กิโลจนถึง 103 กิโล ในเวลา สองปี ที่ผ่านมา ....
ผมคิดในใจ ซวยแหล่ะเมิง T_T
ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้ว ลองกันดูสักครั้งในชีวิต..
ผมตัดสินใจไม่พาเจนไปด้วย เพราะดูแล้วคงขึ้นไม่ไหวแน่นอน ผมเลยชวนเพื่อนผม คือ "เบิ้ล" ไปแทนเจน เพราะอย่างน้อย เบิ้ลยังพอช่วยผมแบกอุปกรณ์ การถ่ายภาพและยังช่วยเก็บภาพถ่ายและ วีดีโอได้ด้วย...
ปกติการเตรียมตัวมาขึ้นเขา คิตาบาลู
คุณต้องออกกำลังกายมาล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนเต็มๆ พร้อมทั้งลุกนั่งวันละ 150 ครั้ง+ เพื่อเพิ่มกำลังขา แต่สำหรับผมนั้น งานส่วนใหญ่คือถ่ายภาพตามรีสอร์ท กินและ นอน อย่างสบายอยู่ทุกวัน .. ก่อนวันเดินทางผมยังทำงานอยู่ที่ภูเก็ตอยู่เลย... >_<
การเดินทางไป Mt.Kinabalu นั้น ต้องนั่งเครื่องบิน สะดวกสุดคือ สายการบิน Royal Brunei ไปลงที่บรูไน จาก กทมใช้เวลา 3-4 ชม.และต่อเครื่อง ไปลงที่โคตา คินาบาลูอีกแค่ 20 นาทีเท่านั้น แต่เดี๋ยว ทริปของเรายังไม่ทันถึงเราก็เจอเครื่องดีเลย์ ติดอยู่ที่สนามบินบรูไน 6 ชม. !!! นอนเล่นกันไปสิเบิ้ลลล
หรืออีกทางนึงเพื่อนๆสามารถเดินทางจาก กทมไปลง สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) ก่อน จากนั้นจึงต่อเครื่องไปยังเกาะบอร์เนียว เมืองโคตา คินาบาลู ก็ได้เหมือนกัน
จากเมืองโคตาคินาบาลู มีรถโดยสาร มาที่อุทยานแห่งชาติ คินาบาลูอยู่ หรือจะเหมา Taxi มาก็ได้เหมือนกันครับ การเดินทางของเรา เริ่มต้นตอน 8.30 น. เรามาลงทะเบียนตรงที่ทำการอุทยานและมาพบกับไกค์นำทางของเราก่อนที่จะขึ้นไป...ที่ Sutera Sanctuary Lodges (SSL)
ไกคที่จะพาผมกับเบิ้ลขึ้นบนยอดเขาครั้งนี้ เขาชื่อ Jahinin หรือชื่อเล่นเขาคือ "อาตง"
แห่งยอดเขาคินาบาลูผู้ที่ปืนมาแล้วมากกว่า1,000ครั้ง!!!! ในเวลา11 ปี นอกจากจะเป็นไกค์แล้ว อาตงยังเป็นลูกหาบให้กับผมอีกด้วย แข็งแรงมากๆเลย
+++++++++++++++++++++++
Day 1
+++++++++++++++++++++++
จากที่ทำการเรานั่งรถของอุทยานมาประมาณ 4 Km จะมาถึงcheck in แรก ที่เราจะเริ่มเดินกัน จุดนี้อยู่ที่ความสูงประมาณ 1,500 m แล้ว
ปกติผมเดินขึ้นเขาจะชอบใส่รองเท้ากีฬา เบาๆ ใส่สบายๆขึ้น แต่ครั้งนี้ผมมีโอกาสได้ใช้ trekking shoe ขึ้นเขาเป็นครั้งแรก เอามาใส่เปิดซิงที่นี่เลย บอกเลยครั้งแรกที่ลองใส่กังวลมาก รู้สึกใส่แล้วมันอึดอัด แล้วเราจะเดินสบายไหม แต่หลังจากกลับลงมาจากทริปนี้ มันทำให้ความคิดผมเปลื่ยนไปเลยครับ มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการเดินทางพิชิตยอดเขาคิตาบาลูของผมในครั้งนี้ ทางเดินที่เต็มไปด้วยหิน ดิน ที่ลื่นมากๆ ผมเดินผ่านอย่างสบายโดยที่ไม่ลื่นเลยซักครั้ง !! ต้องขอขอบคุณทาง Columbia Thailand ที่ช่วยสนับสนุนอุปกรณ์การเดินทางของผมในทริปนี้ด้วยครับ
เส้นทางเดิน 1 กิโลแรกยังมีทางเดินเรียบๆ และไม่ชันมากให้เดินชิลๆอยู่บ้างครับ พวกเราก็เดินไป ถ่ายรูปเล่นไป แต่หลังจากนั้นก็มีเพียงทางขึ้น ขึ้น และขึ้นเท่านั้นที่รออยู่ เส้นทางเกือบทั้งหมดถูกทำเป็นขั้นบันไดไว้แล้ว แต่นักเดินป่าส่วนใหญ่มักจะบอกว่าการเดินตามขั้นบรรไดนั้นยากและทรมานกว่าเส้นทางชันๆทั่วไปอีก
แค่ 2 กิโลแรกเท่านั้น ใจผมเต้นสั่นแรงมากๆ หายใจเกือบไม่ทัน รู้สึกตัวเย็นเหมือนจะเป็นลม ตอนนั้นคิดในใจว่า นี่กุมาทำอะไรอยู่ที่นี่เนี่ย จะเดินกลับลงไปก็ไม่ได้ มีเพื่อนๆรอเหยียบซ้ำอยู่นะ ถ้าเมิงเดินไม่ถึง โชคดีติดยาดม จากไทยแลนด์มาด้วย ผมค่อยๆควบคุมการหายใจ เข้าออก ให้เท่าๆกัน แล้วเดินไปเรื่อยๆ ช้าๆ ก็พอทำให้ลุยได้ต่อ
ตลอดเส้นทางนั้นเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด วิวเบื้องหลังที่สวยบาดจิตบาดใจ กับสภาพป่าที่สลับเปลี่ยนไปมา จนทำให้บางครั้งฉันนึกย้อนถามตัวเองว่ากำลังเดินอยู่ที่ใดบนโลกกันแน่ บางช่วงป่าก็เป็นสีส้ม บ้างก็เขียว บ้างก็น้ำตาล บ้างก็แห้งแล้ง บ้างก็เขียวชะอุ่ม สลับสับเปลี่ยนไปมาตลอดทาง รวมทั้งอากาศที่ร้อนบ้าง หนาวบ้าง และหนาวมากบางช่วง ที่ทำเอาร่างกายปรับตัวไปมาแทบจะไม่ทัน ต้นไม้ และ ดอกไม้แปลกๆ ก็มีให้เห็นตลอดเส้นทาง
เราเดินมาจนถึง กิโลเมตรที่ 4 ครับ เป็นจุดแวะทานข้าวของเรา เสบียงก็ง่ายๆ แซนวิช หนึ่งอัน ไข่ต้ม น่องไก่และก็แอปเบิ้ล 1 ลูก จากจุดนี้ เราต้องเดินไปที่ Laban Rata อีก สองกิโล
จุดพักคืนแรกก่อนขึ้นยอดคินาบาลูในวันรุ่งขึ้น ที่ Laban Rata ถือว่าเป็นจุดรวมตัวของนักเดินทางทุกคนที่ต้องมาลงทะเทียนยืนยันตัวว่าถึงที่หมายแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่รับกุญแจที่พัก เป็นที่ทานอาหาร และ เป็นที่นัดหมายสำหรับเช้าวันขึ้นยอดเขาด้วยครับ เราใช้เวลาทั้งสิ้น ประมาณ 6 ชม. ครับ
บอกเลยว่าเหนื่อยที่สุดในชีวิตผมแล้ว
ห้องพักของผมคืนนี้เป็นห้องแบบ Dorm นอนกับเพื่อนชาว มาเลเซียอีกสองคนครับ วันนี้เรารีบทานอาหาร อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนกันครับ เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นต้องตื่นตอนตี1 เพื่อที่จะเดินขึ้นสู่ยอดเขากัน ก่อนนอนก็ทานยา คลายกล้ามเนื้อเผื่อไว้ด้วย
+++++++++++++++++++++++
Day 2
+++++++++++++++++++++++
1.00 นาฬิกาปลุกของผมกับเพื่อนชาวมาเลเซียดังพร้อมกัน เรารีบตื่นแล้วไปจัดแจงทำธุระให้พร้อม ลงไปทานอาหาร แล้วเตรียมตัวออกเดินทางครับ
2.00 ผมเดินตามแสงเล็กๆ จากไฟฉายคาดหัวที่พกมาจากเมืองไทย ความมืดและอากาศที่หนาวสุดๆ ทำให้การเดินเป็นไปอย่างเชื่องช้าในช่วงแรก และยิ่งช้ากว่าเดิมเมื่อทางเดินเริ่มเปลี่ยนจากบรรไดเป็นพื้นหินภูเขา ยิ่งเดินยิ่งรู้สึกว่า เฮ้ยมันชันยิ่งกว่า เมื่อวานอีก สายตาผมตอนนี้มีเพียงแค่เชือกเส้นขาวๆที่คอยนำทางให้เราเดินตามเท่านั้น
“ ค่อยๆ เดินไปตามเชือก มองแค่เชือก เดินช้าๆ ไม่ต้องรีบ สูบหายใจลึกๆ ” เบิ้ลคอยบอกผมไว้ตลอด
ทุกก้าวที่ผมก้าวขา ผมจะคอยเดินตาม อาตง ตลอดเวลา เพราะอาตงจะรู้ทางที่ช่วยให้เดินเหนื่อยน้อยที่สุด
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินบนเส้นทางนี้ ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่เดินยากที่สุด ทรมานที่สุด หนาวที่สุด เหนื่อยที่สุด ระยะทางแค่ 2 km. แต่ใช้เวลาเดินขึ้นมาถึง 4-5 ชั่วโมง ผมพูดกับเบิ้ลว่า เฮ้ย กุไม่ไหวแล้ววะ กุเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว
เบิ้ลหยุดบอกกับผมว่า เติ้ล นั่งพักก่อนๆ มาถึงขนาดนี้แล้ว เมิงต้องไหวสิ......
ผมเดินได้ครั้งล่ะ 3-4 ก้าวก็ต้องหยุดเพราะลมแรงที่หนาวบาดใจ โชคดีที่ได้เสื้อกันหนาว บวกกับ hardshell ของ Columbia ช่วยให้ความอบอุ่นตลอดการเดิน
ยิ่งเดินสูงขึ้นออกซิเจนในอากาศก็ยิ่งบางเบา ความมืด ความหนาว เริ่มสงสัยว่านี่กุมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ทำไมมันช่างทรมานอย่างนี้
ทำไมกุไม่ออกกำลังกาย ทำไมไม่เตรียมตัวมาเลย....
เดินไปได้ยินแต่เสียงลมหายใจตัวเองเท่านั้น
200 เมตรสุดท้าย เป็นจุดที่ต้องปืนไปบนยอดเขา จุดนี้ต้องปืนจริงๆ ใช้ทั้ง สองแขน สองขา ผมแทบจะคลานเป็นหมาเลย ...
ด้วยความล้าของกล้ามเนื้อ ระหว่างกำลังปืนอยู่นั้น ขาของผมก็เกิดเป็นตะคริวขึ้นมา..
ผมร้องเสียงดัง เรียก เบิ้ลๆๆ หยิบยาให้กุหน่อย..
จะหวะนั้น เพื่อนปืนเขาชาวจีนเดินผ่านผมมา ก็รีบเขามาช่วยยืดขาให้ แต่กลับทำให้ผมเจ็บยิ่งกว่าเดิน... ส่วนเบิ้ลน่ะหรอ มันเอาแต่ถ่ายรูปผมอยู่นี่ไง T_T อ้ายเพื่อนชั่ววววว
ในที่สุดผมก็มาถึงยอดเขาที่ระดับความสูง 4,095.2 เมตร ณ. วินาทีนั้น ความเหนื่อยผมหายไปหมดสิ้น พร้อมกับแสงแรกยามเช้าค่อยๆทอแสงลับเหลี่ยมเขาออกมา ... ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี มันตื้นตันแบบบอกไม่ถูก... ผมกอด เบิ้ล กับอาตง ด้วยความดีใจ พร้อมทั้งขอบคุณ บุคคลทั้งสอง ที่ช่วยทำให้ผมขึ้นมา ถึงจุดนี้ได้...
30 AUG 2016 : 6.10 am Kitabalu Summit
Special Thank :
- Sabah Tourism Board
- Royal Brunei Airway
- Sutera Sanctuary Lodges (SSL)
- Columbia Thailand
- Ble ,Jahinin Waimi, Grace , DIANA , TRACELYNN ,DAN , Murielle ,Simon , Audy
ค่าใช้จ่าย :
ค่าทริป 2 วัน 1 คืน รวมอาหาร ที่พัก สองคืน รวมไกค์ (ไม่รวมค่าลูกหาบ) ปกติ ราคาอยู่ที่ 12,000 - 15,000 บาท ต่อคนครับ
ของจำเป็น :
- trekking pole
- trekking shoes
- ไฟฉายคาดหัว
- ถุงมือ
- เสื้อกันฝน
- hard shell กันลม
- กะใจสู้ๆ
รอพบกับรีวิวเต็มๆได้เร็วๆนี้นะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม
สวัสดีครับ
Little Potchara / แบกกล้องเที่ยว
#แบกกล้องเที่ยว
#KINABALU #SABAH #MALAYSIA
#AIR #RoyalBrunei
#ColumbiaThailand
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過4萬的網紅Hold On tight Travel,也在其Youtube影片中提到,Review เสื้อกันฝน Pole Racing Raincoat Teacher biker ฝากติดตามการเดินทางของพวกเราได้ที่ Facebook.com/teacherbiker youtube/teacherbiker by ครูซัน และ ...
เสื้อกันฝน pole 在 Hold On tight Travel Youtube 的最佳貼文
Review เสื้อกันฝน Pole Racing Raincoat
Teacher biker
ฝากติดตามการเดินทางของพวกเราได้ที่
Facebook.com/teacherbiker
youtube/teacherbiker
by ครูซัน และ ครูโชค +++
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/gYC5pH-owfg/hqdefault.jpg)
เสื้อกันฝน pole 在 ร้านอุปกรณ์และชุดขี่มอเตอร์ไซค์ Lovebigbike, profile picture 的推薦與評價
เสื้อกันฝน POLE RACING ราคา 1200 บาท เท่ คลุมเต็มตัว หมดกังวลเรื่องฝน ขอบคุณคุณวิชาญนะครับที่ส่งรีวิวเข้ามาครับ... ... <看更多>