เด็กสมัยนี้ไม่อดทนจริงหรือ? ปีนี้จะมีเด็กจบใหม่ตกงาน 500,000 คน !!!
(คลิปนี้ดีมาก)
ผมมีโอกาสได้ดูคลิปของ BBC เค้าบอกว่าปีนี้ประเทศไทยเราอาจจะมีโอกาสมีเด็กจบใหม่ที่เข้าสู่ตลาดแรงงาน แล้วอาจจะหางานทำไม่ได้ ต้องตกอยู่ในสภาพผู้ว่างงานถึง 500,000 คน และได้มีการไปสัมภาษณ์เด็กจบใหม่ทั้งจากธรรมศาสตร์ และจุฬา มันทำให้ผมได้เปิดโลกมาก ดูได้จากคลิปนี้นะครับ ชื่นชมน้องๆสมัยนี้ที่ทำให้ผมได้เข้าใจน้องๆมากขึ้น
http://bit.ly/2QYn8Rc
คือเอาจริงๆ ตอนแรกผมก็เคยคิดนะครับว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่สู้งาน เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แต่เอาเข้าจริงๆ ผมก็คิดนะครับว่าบ้านเมืองเราสมัยนี้ เด็กรุ่นใหม่เองก็มีโอกาสได้รู้จักตัวตนและเริ่มเรียนรู้ถึงความต้องการของตัวเองมากขึ้น แต่การศึกษาไทยเองก็ยังไปเน้นสายอุดมศึกษามากกว่าสายอาชีพ และมหาวิทยาลัยเองก็พยายามออกนอกระบบมากขึ้น ต้องหาเงินมากขึ้น ก็เลยเปิดสาขาวิชามากขึ้น เท่านั้นยังไม่พอยังไปรับนักศึกษาต่างประเทศมาเรียนในเมืองไทยมากขึ้น โดยเฉพาะนักศึกษาจีน ที่มีคนบอกว่าเรียนจบปุ๊บก็ทำงานในประเทศไทยนี่แหละ ภาษาจีนก็ได้ ไทยก็ได้ นี่ยังไม่นับพวกต่างชาติอีกหลายๆชาติอย่าง ฟิลิปปินส์ ที่ได้ภาษาและภาษาดีกว่าเรา แถมเรียนจบแล้วเงินเดือนยังถูกกว่าคนไทยที่ได้ภาษาและรีเควสเงินเดือนสูงๆอีก
.
ส่วนเด็กไทยเอง เท่าที่ได้คุยกับเพื่อนทีทำ HR เค้าเล่าว่า รับสมัครงานไปก็มีคนส่งใบสมัครมาเยอะมาก แต่ส่วนมากอ่านแค่ใบสมัครหรือจดหมายแนะนำตัวก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ การรีเควสเงินเดือนที่สูงมาก หรือความคาดหวังในการทำงานที่บางครั้งไม่ตรงกับผู้ว่าจ้าง บางคนรับเข้างานแล้ว มาทำงานเช้า บ่ายหาย ดีหน่อยก็โทรมาบอกว่าไม่มาทำแล้ว และเอาเข้าจริงๆ งานรอเด็กก็เยอะ แต่เด็กก็เลือกงานเยอะด้วย แต่มองในมุมของเด็ก เด็กสมัยนี้อาจจะไปยึดติดกับความสำเร็จของคนในเนตมากเกินไป บางคนเห็นเพื่อนหรือรุ่นพี่โพสในเนตว่า เรียนจบทำงานดี ชีวิตดี เงินเดือนหลายหมื่น เงินเดือนเป็นแสน ก็ไม่รู้จริงไหม แต่ที่แน่ๆ หลายๆคนมองช่องทางการทำธุรกิจส่วนตัว การขายของออนไลน์ หรือแม้แต่การพยายามผันตัวเองให้เป็น Influencer , Youtuber เพราะคิดว่ามันสามารถหาเงินได้เยอะในเวลารวดเร็ว แต่เอาเข้าจริงๆ มันก็น้อยคนมากที่จะประสบความสำเร็จหาเงินได้มากมายขนาดนั้น
.
#งานไม่ใช่แล้วทำไมเราต้องอยู่ต่อ
#เราจะไม่ทนกับงานที่มันไม่ดีกับตัวเรา
เด็กสมัยนี้คิดไวตัดสินใจไว ไม่ทนที่จะทำงานในสิ่งที่มันไม่ใช่ ผมเห็นด้วยส่วนนึง เราจะไปทนกับงานที่มันไม่ใช่เราไปทำไม เอาจริงๆ อย่างชีวิตผมเนี่ย ผมชอบดูหนังมาก อยากเขียนหนังสือ แต่ผมก็ไม่เคยได้ทำงานอะไรแบบนั้นเลย ชีวิตก็ต้องไปทำงานบริษัท ทำการตลาด ทำงานขาย เหตุผลเดียวที่จำเป็นต้องทำก็เพราะต้องการรายได้ กว่าจะมาได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักก็ใช้เวลาเป็นสิบปี เอาจริงๆ บางครั้งเราต้องดูด้วยว่าเราอยู่ในสถานะที่เราสามารถอยู่ว่างๆ ไม่ทำอะไร นอกจากรอและเดินตามความฝันได้ไหม สมัยนี้ผมแนะนำให้ฝึกงานตั้งแต่สมัยเรียนก่อน อย่างน้อยจะมี 1 บริษัทที่เราไปฝึกงานนั่นแหละที่เค้าจะรู้ว่าเราเก่งด้านไหนบ้าง ส่วนงานสมัยนี้ อย่างที่บอก บางคนสมัยเรียนพ่อแม่ให่้เงินใช้เดือนละสองสามหมื่น เรียนจบมาทำงานรับเงินเดือน 15,000 ผมเป็นพ่อแม่ ผมจ้างให้อยู่บ้านดีกว่า แต่การที่เราว่างงานไปนานๆปีสองปีสามปี เด็กรุ่นใหม่ก็จะเข้าสู่ตลาดงานมากขึ้น ทักษะในการทำงานของเราก็ลดลงๆ เราจะทำยังไงต่อไป ถ้าเรายังหากิจการ หรือหาอะไรที่เป็นของตัวเราเองไม่ได้
.
นายจ้างเองก็เช่นกัน เด็กรุ่นใหม่บอกว่า เราคุณสมบัติได้ แต่เข้าไปทำงานแล้วต้องทำหน้าที่สารพัด 5-6 อย่าง แบบนี้จะไหวเหรอ ผมก็ยังคิดแบบคนรุ่นเก่านะครับ ก็ไปทำก่อน ลองดู เก่งหลายๆด้านมันจะมี job description ชัดเจน เพื่อให้เราใช้เป็น Ref ในการหางานต่อไป เพื่อให้เรามีเงินเดือนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตัวถ้าไม่ชอบ ก็แนะนำให้เปลี่ยนงานบ่อยๆครับ เพื่มเงินเดือนไปเรื่อยๆ ดีกว่ารอไม่ทำอะไรเลย
.
ไม่อย่างนั้นถ้ามุ่งมั่นอยากทำงานอิสระก็ต้องหาให้เจอว่าชอบอะไร และทำด้วย passion และตั้งใจดู มันอาจจะพาเราไปพบกับความสำเร็จก็ได้ครับ
เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ 在 เลี้ยงลูกตามใจหมอ - #เลี้ยงลูกอย่างไรให้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ คุณเคยเห็น ... 的推薦與評價
เลี้ยงลูกอย่างไรให้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ คุณเคยเห็นคนที่ “เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ” บ้างไหม คนที่ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง คนที่ทำอะไรได้แป๊บ ๆ ... ... <看更多>