關於 แมน ซิตี้ ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

พูดไม่คิด !! 'ตัวแทนแฟนเรือ' ตำหนิ 'เป๊ป' เรียกร้องคนดูเข้าสนามเข้าทางกองแช่ง

- ตัวแทนกลุ่มแฟนบอลทางการของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาวิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับการที่กุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ออกมาเรียกร้องให้แฟนบอลเข้าชมในสนามมากขึ้น

- ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา "เรือใบสีฟ้า" เปิดบ้านถล่มชนะแอร์เบ ไลป์ซิก 6-3

- หลังเกม กวาร์ดิโอล่า ออกมาสัมภาษณ์เรียกร้องให้แฟนบอลเข้าชมสนามมากขึ้นกว่านี้ในเกมลีกวันเสาร์นี้ที่จะเปิดบ้านเจอเซาธ์แฮมป์ตัน

- เควิน ปาร์คเกอร์ เลขาธิการของกลุ่มแฟนบอลทางการของแมน ซิตี้ พูดถึงคอมเมนต์ของกุนซือชาวสเปนว่า "น่าผิดหวัง" และเป็นการให้สัมภาษณ์เรื่องนี้โดย "ไม่จำเป็น"

พร้อมกับบอกว่า :

"มันไม่เป็นความจริงเลย ผู้ชมในสนามของเรานั้นโดยปกติแล้วยอดเยี่ยมมาก"

"เขา(กวาร์ดิโอล่า) ไม่เข้าใจถึงความยากลำบากของบางคนที่ต้องเดินทางเข้าชมเกมในเวลา 2 ทุ่มคืนวันพุธ"

- แมน ซิตี้ มักจะมีปัญหาเรื่องแฟนบอลเข้าชมเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกน้อยกว่าปกติ โดยในเกมกับไลป์ซิกนั้นมีรายงานออกมาว่ากองเชียร์เข้าสนาม 38,062 ที่นั่ง จากความจุสนามราว 55,000 ที่นั่ง

- อย่างไรก็ตามในศึกพรีเมียร์ลีกนั้นไม่ค่อยมีปัญหานี้ ยกตัวอย่างฤดูกาล 2019/20 ที่มีแฟนบอลเข้าชมเกมลีกในสนามเอติฮัดเฉลี่ย 54,219 ที่นั่ง ขณะที่ฤดูกาลพวกเขาลงเล่นในบ้ายไปสองนัด แฟนบอลดเฉลี่ย 51,000 ที่นั่ง

- ปาร์คเกอร์ กล่าวด้วยว่าคอมเมนต์ของ กวาร์ดิโอล่า ยิ่งทำให้ไปเข้าทางแฟนบอลทีมคู่แข่งที่มักจะล้อเลียนเรื่องนี้

"มันยังไปเข้าทางแฟนบอลของทีมอื่นที่ต้องการใช้ทุกโอกาสในการโจมตีซิตี้ กับความคิดของพวกเขาเรื่องการเข้าชมในสนามที่ย่ำแย่"

"คนเรียกเอติฮัดว่า -Emptyhad- มันเป็นเรื่องสนุกสนานของแฟนบอลคู่แข่ง แต่มันไม่มีเหตุผลรองรับเลย"

"เขา(กวาร์ดิโอล่า)เป็นโค้ชที่เก่งที่สุดในโลกอย่างแน่นอน แต่ด้วยความเคารพอย่างสูง ผมคิดว่าบางทีเขาควรจะโฟกัสกับแค่เรื่องนั้น"

#เกมละกู #พรีเมียร์ลีก #PremierLeague #แมนซิตี้ #ManCity #mancityth #แมนเชสเตอร์ซิตี้ #เรือใบสีฟ้า #UCL #ChampionsLeague #UEFA

ก็เพื่อนรักป่ะ เพื่อนเจ็บฉันก็เจ็บไง555555
My friend is my friend. My friend is hurt. I'm hurt. Haha.Translated
พ่ายยับ ทั้งคู่​
(ครั้งสุดท้ายของ ลิเวอร์พูล คือปี​ 1963 ครั้งล่าสุดของ แมนยู คือปี 2011)

ผลฟุตบอลพรีเมียรลีก เมื่อคืนนี้​ หงส์แดง ลิเวอร์พูล และ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สองทีมฟุตบอลอังกฤษ ขวัญใจแฟนฟุตบอลชาวไทย จำนวนมาก แพ้ด้วยสกอร์ขาดลอยทั้งคู่

โดย ลิเวอร์พูล บุกไปพ่าย แอสตัน​ วิลล่า ถึงถิ่นด้วย สกอร์ 2 ประตูต่อ 7

ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล เคยถูกคู่แข่งทำประตูถึง 7 ประตู ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 15 เมษายน 1963 โดยแพ้ให้กับ ท็อตแน่ม​ ฮ็อตสเปอร์ 2-7 ที่ ไวต์ ฮาร์ตเลน สนามของสเปอร์ส

ส่วน แมน ยูไนเต็ด เปิดบ้านแพ้ สเปอร์ส คาถิ่น 1 ประตูต่อ 6 โดยที่​ แมนยู​ เหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ตั้งแต่นาทีที่ 28

แมน ยูไนเต็ด เคยถูกคู่แข่งทำประตูถึง 6 ประตู ที่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ครั้งสุดท้าย คือวันที่ 23 ตุลาคม 2011 โดน แมน ซิตี้ บุกมาถล่ม 6 ประตู ต่อ 1

แมน ซิตี้ ยิงเท่าไหร่ก็ไม่เข้า แต่........

สนใจมาเป็นครอบครัว COSMO หรือซื้อสินค้าคลิกลิงค์ได้เลย : https://lin.ee/f9aza37 IG : https://instagram.com/cosmo_healthy

1. จุดบอด 4-3-1-2 ของ ปีศาจแดง : ป็อกบา
โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัดทัพด้วยรูปแบบการเล่นเดียวกับที่เขาใช้ในเกมถล่มเอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาโดย ปอล ป็อกบา ทำหน้าที่ในกราบซ้ายของแผงมิดฟิลด์ไดมอนด์
ทว่า อาร์เซนอล ไม่ใช่ ไลป์ซิก และการทำหน้าที่ในเกมรับของ ป็อกบา อยู่ในเครื่องหมายคำถามอีกครั้งในนัดนี้เมื่อการยืนตำแหน่งเพื่อป้องกันของเจ้าตัวมีปัญหาอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงการไม่กระตือรือล้นอย่างควรจะเป็นเมื่อตกเป็นฝ่ายไล่บอลจากคู่แข่ง กระทั่งสมาธิในเกมรับที่ไม่มากพอจนเป็นเหตุให้ เอคตอร์ เบเยริน โฉบถึงบอลก่อนในกรอบเขตโทษจนกลายเป็นเขาไปเตะแบ็คขวาทีมชาติ สเปน ของ เดอะกันเนอร์ส เป็นเหตุให้เสียลูกจุดโทษในที่สุด
2. จุดบอด 4-3-1-2 ของ ปีศาจแดง : ฟูลแบ็คกับการเติมเกมรุก
หลังจากที่ โซลชา ทำให้เราตื่นตาตื่นใจกับ อเล็กซ์ เตลเลส ในบทบาทวิงแบ็คฝั่งซ้ายได้อยู่พักใหญ่ จุดอ่อนเดิมๆ ของพวกเขาก็กลับมาให้เห็นอีกครั้งเมื่อต้องใช้งาน อารอน วาน-บิสซาก้า และ ลุค ชอว์ ที่ฟูลแบ็คทั้ง 2 ฝั่ง
แม้ทั้ง 2 คนจะทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่งกับเกมรับวันนี้แต่เมื่อทีมตกอยู่ในสถานการณ์ต้องการประตูแล้วทั้งคู่ไม่สามารถงัดการครอสบอลที่สามารถหวังผลได้ให้เห็น มีเพียงการเปิดบอลลูกฟรีคิกของ ชอว์ ให้ แม็คไกวร์ ในครึ่งหลังเพียงจังหวะเดียวเท่านั้นที่พอจะทำให้ เร้ดเดวิลส์ มีลุ้นอยู่บ้าง
3. ปาร์เตย์ ยกระดับ ปืนใหญ่ อีกขั้น
ดาวเตะทีมชาติ กานา วัย 27 ปีเจ้าของค่าตัว 45 ล้านปอนด์ที่ อาร์เซนอล จ่ายเป็นค่าฉีกสัญญาให้กับ แอตเลติโก มาดริด ทำผลงานในระดับที่สร้างความแตกต่างให้กับทีมได้อีกครั้งแม้จะเป็นการลงสนามนัดที่ 4 ของเจ้าตัวกับต้นสังกัดใหม่เท่านั้น
ไม่เพียงแต่ ปาร์เตย์ จะเป็นมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องทั้งรับและรุก เจ้าตัวยังทำทุกอย่างได้เนียนตาไล่เรียงตั้งแต่การยืนตำแหน่ง การตัดสินใจเข้าสกัด การเบียดปะทะ ไปจนถึงการพลิกบอลเปลี่ยนจากรับเป็นรุก วิสัยทัศน์ในการผ่านบอล และการยิงไกลที่หนักหน่วง
4. สัญญาณที่ดีของ ปืนโต
ชัยชนะของ อาร์เซนอล เหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเกมนี้ทำให้พวกเขาลบสถิติไร้ชัยในเกมเยือนทีมบิ๊กซิกซ์บนเวที พรีเมียร์ลีก 29 นัดติดต่อกันได้สำเร็จ (เสมอ 10 แพ้ 19) นับตั้งแต่ที่ เดอะกันเนอร์ส บุกไปเข่น แมนฯ ซิตี้ 2-0 ในเดือนมกราคม 2015
5. วิกฤต ปีศาจแดง ของ โซลชา
แม้รูปเกมของ ผีแดง จะแสดงให้เห็นสัญญาณที่ดีอยู่บ้างโดยเฉพาะความกระตือรือล้นที่ลูกทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา แสดงให้เห็นในช่วงต้นครึ่งหลังแต่การไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสให้กลายเป็นประตูจนจบด้วยความพ่ายแพ้ทำให้พวกเขาจมอยู่ในอันดับที่ 15 บนตารางคะแนนหลังผ่าน 6 เกมแรกของฤดูกาล
---------------------------
สนใจมาเป็นครอบครัว COSMO หรือซื้อสินค้าคลิกลิงค์ได้เลย : https://lin.ee/f9aza37 IG : https://instagram.com/cosmo_healthy

สัปดาห์นี้พรีเมียร์ลีกจะกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง มีหลายทีมคงอยากจะแก้ตัวจากผลงานที่ยังไม่ดีนัก แค่ 4 นัดแรกก็เชื่อว่ากุนซือหลายคนคงหนาวๆร้อนๆกับเก้าอี้ของตัวเองบ้างแล้ว ยิ่ง วัตฟอร์ด ประเดิมปลด ฆาบี กราเซีย โค้ชชาวสแปนิชเป็นรายแรกเนื่องจากทีมจมบ๊วยอยู่ท้ายตาราง ยิ่งแสดงให้เห็นว่าลีกนี้มันหินแค่ไหน หากกุนซือที่กล่าวต่ไปนี้ยังทำผลงานไม่เข้าตาเชื่อว่าจะมีรายที่สองตามมาในเร็วๆนี้ มีใครกันบ้างไปดูกันเลย

ร่วมบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนช่องได้ทาง
https://www.paypal.me/SPR789



กดติดตามเป็นกำลังใจให้ทีมงานกันเยอะๆ นะครับ

ติดต่อเรื่อง Sponsor หรือโฆษณารายการได้ที่

[email protected]

ขอบคุณครับ