สำหรับสาวกเบอร์เกอร์ที่ตามล่าร้านเบอร์เกอร์เจ้าเด็ดที่แอบอยู่ตามซอกซอยทั่วไทย เชื่อว่ามีร้านดี ๆ แอบซ่อนตัวอยู่มาก และในฐานะคนคลั่งเบอร์เกอร์ ทีมงานกินเป็นเรื่องจะพาเพื่อน ๆ มาเปิดประสบการณ์กันที่ Homeburg อีกหนึ่งร้านที่ทำให้ตาโตได้นับครั้งไม่ถ้วน ทั้งจากเรื่องราวที่คุณไทกิ รัตนพงศ์ ซูโบต้า เจ้าของร้าน Homeburg และ Bun Meat & Cheese กำลังถ่ายทอดให้ได้ฟัง รวมไปถึงวิธีการนำเสนอ และรสชาติของเบอร์เกอร์ที่กำลังครอบคลุมไปทั่วทั้งลิ้น ไม่ว่าจะอะไรก็น่าสนใจทั้งนั้น! ตอนนี้เขากำลัง Renovate ร้านใหม่ด้วย ถ้าอยากรู้เรื่องราวของ Homeburg มากกว่านี้ เลื่อนลงไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
.
อ่านบทความเต็ม ๆ ได้ที่ 👉🏻 https://www.wongnai.com/articles/homeburgbkk
.
คอนเซปต์ของร้าน Homeburg ที่กำลังจะเปิดใหม่
คอนเซปต์ของร้านใหม่ก็หลัก ๆ จะเป็น Lab ของอีกแบรนด์หนึ่งที่ชื่อว่า Bun Meat & Cheese นะครับ แล้วก็ช่วงที่เราทำทดลองปกติก็จะมีคอร์สเรื่อง R&D เรื่องวัตถุดิบก็ทำแล้วก็ยังไม่สำเร็จเป็นค่าใช้จ่าย แต่ว่าในขณะเดียวกันสูตรที่พร้อมใช้ได้แล้ว แต่ยังไม่พร้อมไปขายที่ Bun Meat & Cheese อาจจะติดเรื่องกระบวนการทำให้มันเร็วขึ้นไม่ได้ ระหว่างนั้นเราสามารถขายเปิดรับลูกค้าที่ Homeburg ให้ลูกค้าได้มากินได้ก่อนนะครับ แต่ก่อน Homeburg ในปี 2018 ทำแต่เบอร์เกอร์อย่างเดียว พัฒนาสูตรเบอร์เกอร์อย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันก็ขยายมีอาหารหลากหลายมากขึ้น แต่ว่าในตอนนี้ที่เปิด Homeburg ก็จะมีความเป็นร้านแฮมเบอร์เกอร์อยู่แต่ว่ายังไม่ได้หลุดโลกมากเท่าไร ในอนาคตอาจจะไม่แน่
.
นิยามของ Homeburg
.
มีสามคำ อันแรก Creativity ความคิดสร้างสรรค์ อันที่สอง Techniques เทคนิค อันที่สาม Experimental การทดลอง เราค่อนข้างจะให้ค่ากับสามสิ่งเหล่านี้
.
จุดเริ่มต้นในการ Renovate ร้านในครั้งนี้
.
จริง ๆ มันเริ่มจากการที่เรารู้สึกว่าตัวเองตันก่อน ตอนแรกมันตันมากทำแต่เบอร์เกอร์ ไอเดียมันไม่ออก มันไม่ไปไหนเลย จนวันหนึ่งเราก็เริ่มสนใจไปทางเชฟเพราะว่าส่วนตัวยังไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเชฟ แต่ว่าพอเริ่มดูรายการต่าง ๆ ทาง Netflix เขาจะมีโชว์ที่มีเชฟเก่ง ๆ ระดับโลกมาเล่าเรื่องต่าง ๆ จนไปเจอคนหนึ่งชื่อว่า Chef Albert Adria เป็นเชฟชาวสเปนทำอาหารแนว Molecular Gastronomy เช่นการใช้ Powder โฟม เจลในการเสิร์ฟอะไรแบบนี้ รู้สึกได้แรงบันดาลใจมาก ๆ ก็เริ่มศึกษามากขึ้นสนใจดูเกี่ยวกับอาหารสไตล์นี้มากขึ้น มันทำให้เรารู้สึกว่าเราอยากขยายขอบเขตอาหารของเรามากขึ้น มากไปกว่าเบอร์เกอร์ เราก็เอา Techniques ไอเดียเหล่านี้มาประยุกต์ใส่กับอาหารที่เป็นสไตล์ร้านเบอร์เกอร์ครับ
.
จุดเด่นของ Homeburg
อาหารที่เสิร์ฟก็คือตัวตนของคนที่ทำนั่นเอง เพราะว่าผมเป็นคนชอบถามว่า อย่างนี้ได้ไหม อย่างนี้ได้ไหม เช่น ลูกค้าสามารถกินจานได้ไหม คำถามบ้า ๆ บอ ๆ แล้วก็ลองมาคุยกัน ลูกค้ามองเราในฐานะชอบทดลอง หรือว่าความเป๊ะ เพราะเราชั่งน้ำหนักเราวัดอุณหภูมิเราจับเวลาต่าง ๆ ตลอดเวลา
.
เอกลักษณ์รสชาติของ Homeburg
.
คิดว่าอาหารมันสะท้อนตัวบุคคลผู้ทำแหละ เราเป็นคนชอบอะไรไม่เหมือนชาวบ้านเขา อาจจะออกมาโดยหน้าตาอาหารหรือรสชาติ บางทีมันก็พูดยากนะแล้วแต่จานถ้าสมมติเบอร์เกอร์นะ มันคือรสชาติที่สมดุล มีหลากหลายไปหมด รสกลม ๆ กลาง ๆ Well-Balanced เอาเป็นว่ารสชาติแบบไทกิ
.
เมนูเด่นของคอร์สในวันนี้ที่ชอบ
.
ส่วนตัวชอบตัว “Watermelon & Feta Cheese Salad” เป็นพิเศษ เราเอาตัวถ้วยทั้งถ้วย เข้า Blast Freezer -42c เป็นเวลา 5 นาที ตัวแตงโมจะแข็งประมาณ 90% จะหวานฉ่ำมาก ให้ความรู้สึกที่สดชื่นมาก ๆ รสชาติโดยรวมค่อนข้างซับซ้อนและน่าสนใจ แต่ในขณะเดียวกันถึงซับซ้อนก็เข้าใจง่ายนะ
.
“Crystal Beef Taco” ตัวนี้จะเป็น Base เมนูหลักของ Homeburg ใน Season ต่อ ๆ ไป ตัวไอเดียของ Crystal Beef Taco เนี่ยมาจากเชฟที่เราได้แรงบันดาลใจ Chef Albert Adria ตัว Crystal bread มีต้นตำรับจากสเปน ที่สเปนจะมีเมนูชื่อ Crystal Bread นี้จริง ๆ สีเหมือนขนมปังปกติ เราก็เลยเปลี่ยนจาการที่ใช้แป้งพวกสาลีกลายเป็นพวกแป้งท้าวยายม่อมผมกับแป้งมันฝรั่งมันก็เลยออกมาใสครับ
.
“Steak Plate” Texture ส่วนตัวจะชอบมาก ไม่ได้นุ่มจนละลายขนาดนั้น มีอะไรให้เคี้ยว ในขณะเดียวกับ Flavor ดี เพราะว่ามันมาจากส่วนที่ใช้งานหนักคือช่วงสันคอ ที่เสิร์ฟพร้อมกับ Pumpkin Puree ซึ่งตัวนี้น่าสนใจ เนื่องจากอยากได้ตัวเพียวเรสักตัวหนึ่งเพราะว่าตัวเหลว ๆ แบบนี้หลาย ๆ เจ้า จะเสิร์ฟเป็น Mash Potato เราก็เลยอยากลองเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นบ้าง ซึ่งรสชาติออกมาลงตัว
.
“Ultrasonic Fries” เมนูนี้อยากทำขายมานานแล้ว แต่ติดที่อุปกรณ์ เพราะราคาสูง ต้นไอเดียคนคิดเชฟชาวอังกฤษ เราเรียกว่าวิธีการนี้ว่า Triple Cook ต้ม ทอด ทอด และมีการแช่อ่าง Ultrasonic แค่เห็นกรรมวิธีและไอเดียเราก็รู้สึกว่ามันพิเศษมาก ๆ พอเปิดร้านคราวนี้ เราก็อยากให้ลูกค้าได้ลอง สุดท้ายก็ Happy แต่ยากนะ ตั้งแต่หามันฝรั่งที่ใช่ เพราะรสชาติมันนอกและมันไทยมันไม่เหมือนกัน สุดท้ายเราจบที่มันฝรั่งเชียงใหม่ เพราะมันเข้มข้น เป็นเทกซ์เจอร์ที่สุดยอด
.
ของหวานที่ไม่มีชื่อ
.
คือผมเป็นคนไม่ค่อยกินของหวานนาน ๆ ปีนึงจะอยากกินเค้กสักชิ้น แต่เราต้องเสิร์ฟของหวานให้ลูกค้า ซึ่งเมนูนี้เกิดจากการกินนี่แหละ เป็นคนชอบกินเก๊กฮวยอยู่แล้ว แอปเปิลก็เป็นอะไรที่ดี เมนูนี้เหมือนเกิดจากการ Random มากกว่าแล้วเอามารวมกัน ผมไปกินน้ำเต้าหู้ตรงซอยข้าง ๆ ตอนตี 5 มีลุงแก่ ๆ ตักเต้าฮวยใส่น้ำขิง ก็เห็นว่า Texture เต้าหู้มันดีน่ากินกับอะไรสักอย่าง เราศึกษาเทคนิคเพิ่มแล้วก็กลายเป็น เก๊กฮวย เต้าหู้ และผงชาเขียว 3 อย่างนี้มารวมกัน
.
คอร์สในตอนนี้ทางร้าน Homeburg จะเสิร์ฟถึงเมื่อไร
.
จริง ๆ วางแผนไว้ว่าจะเสิร์ฟไม่เกิน 6 เดือนต่อชุดเมนูทั้งหมดนะครับ เพราะว่า Homeburg ไม่ได้เป็นร้านที่รับลูกค้าได้เยอะต่อรอบ นั่นหมายความว่ามีลูกค้าจำนวนไม่มากที่สามารถได้กินอาหารของเราช่วงหนึ่งที่เราปล่อยขาย ก็เลยรู้สึกว่าอยากให้หลาย ๆ คนได้ลองเพราะว่าใช้เวลาคิดมาค่อนข้างนานก่อนที่จะเปลี่ยน แต่ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็อาจจะเพิ่มรอบ
.
วิธีการจอง Homeburg
.
การจองตอนนี้สามารถจองได้ที่ Facebook : Homeburg ครับ สามารถพิมพ์มาในช่อง Messenger ได้เลยครับ ก็จะมีทีมแอดมินตอบ
.
อยากให้ลูกค้ามองว่า Homeburg เป็นร้านทางเลือกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าที่สนใจอาหารแนวสนุก ๆ ใช้ความคิดเยอะ ๆ สนใจเรื่อง Techniques วิทยาศาสตร์อาหารอะไรแบบนี้เราก็อยากเป็นตัวเลือกหนึ่งให้ลูกค้าลองมากินดู ฝากติดตาม Bun Meat & Cheese ปัจจุบันร้านอยู่ในช่วง Set up Brand อยู่ มีแค่สองสาขา ร้านก็ยังเล็ก แต่วันหนึ่งเราอยากทำให้มันใหญ่กว่านี้ฝันให้ไกลไปต่างประเทศเลย ซึ่งตอนนี้ Homeburg มีราคาแล้ว แต่ก่อนไม่มีราคาจ่ายเท่าไรก็ได้ ตอนนี้ท่านละ 2,568 บาทถ้วนครับ
.
🍔 : Homeburg อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/restaurants/352406Wi-homeburg?ref=ct
📍 : 3, 1 ซ. สุขุมวิท 51 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร (สุขุมวิท 51)
⭐️ : ดูพิกัด และ รีวิวเพิ่มเติม 👉🏻 https://www.wongnai.com/restaurants/352406Wi
.
#Saveร้านอาหาร
--------------------------
🍽 ตัวจริงเรื่องร้านอาหาร ค้นหา รีวิว ซื้อดีล ผ่าน Wongnai
▶ ดาวน์โหลดฟรีที่นี่ https://wongn.ai/293qa
同時也有11部Youtube影片,追蹤數超過5萬的網紅69ERS,也在其Youtube影片中提到,RECAP 10FIGHT10 SEASON 2 |กำปั้น บาซู VS หนุ่ม คงกระพัน GaoTong Facebook : https://www.facebook.com/gaotongruntings/ Instagram : https://www.instagra...
「ไป ต่อ ไป」的推薦目錄:
- 關於ไป ต่อ ไป 在 wongnai.com Facebook 的最讚貼文
- 關於ไป ต่อ ไป 在 หมอๆ ตะลุยโลก Facebook 的最佳貼文
- 關於ไป ต่อ ไป 在 Facebook 的精選貼文
- 關於ไป ต่อ ไป 在 69ERS Youtube 的精選貼文
- 關於ไป ต่อ ไป 在 TRADERIDER Youtube 的最佳貼文
- 關於ไป ต่อ ไป 在 ZoLKoRn Youtube 的最佳解答
- 關於ไป ต่อ ไป 在 ไปต่อไป อั้ม นรินทร - YouTube 的評價
- 關於ไป ต่อ ไป 在 Facebook Connect จะไม่มีให้ใช้งานอีกต่อไป - Microsoft Support 的評價
- 關於ไป ต่อ ไป 在 The Star ค้นฟ้าคว้าดาว - ผู้ที่ไม่ได้ไปต่อในการแข่งขัน ... - Facebook 的評價
ไป ต่อ ไป 在 หมอๆ ตะลุยโลก Facebook 的最佳貼文
เรื่องน่ารู้ ที่หลายคนอาจไม่รู้ กับ วิธีการอ่านฉลากอาหาร
ผมเป็นคนหนึ่งที่ก่อนจะเอาอะไรผ่านเข้าปากไปลงกระเพาะอาหาร ถ้าอาหารนั้นมีฉลากโภชนาการอยู่ อย่างน้อยต้องชายตามองสักเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจซื้อมันมาครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการอ่านฉลากอาหารแบบเข้าใจง่ายๆกันว่ามันมีประโยชน์ขนาดไหนครับ ยกตัวอย่างจากฉลากอาหารในภาพคือตัวอย่างอาหารชนิดหนึ่งที่ผมคิดว่าเห็นภาพเลย
ส่วนแรก คือ จำนวนหน่วยบริโภคต่อครั้ง และ ขนาดหนึ่งหน่วยบริโภคคือเท่าใด
อย่างในภาพคือ 1 หน่วยบริโภคเท่ากับ 310 ซีซี และ จำนวนหน่วยบริโภคต่อขวด = 1
นั่นแปลว่าฉลากอาหารที่เราจะเห็นในส่วนที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนั้น สามารถใช้อ้างอิงในการกิน 1 ครั้งจนหมดได้เลย
แต่ถ้าสมมติตัวเลขใหม่ จำนวนหน่วยบริโภคต่อขวด = 2 นั่นแปลว่า ฉลากโภชนาการในส่วนถัดไป ทุกอย่างต้องเอาไป "คูณสอง"ทั้งหมด อันนี้ระวัง tricky นิดนึง เพราะของกินหลายๆอย่างทำเป็นเหมือนจำนวนหน่วยบริโภคนั้นเยอะๆ เพื่อที่จะทำให้ตัวโภชนาการในส่วนต่อไปดูเหมือนเป็นขนมที่ healthy ไป (ทั้งๆที่อาจจะไม่ใช่)
ส่วนที่ 2 คือ พลังงานทั้งหมด ต่อ 1 หน่วยบริโภค
อันนี้ตรงไปตรงมาครับ คือ คำนวณจากสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และ ไขมัน เอามารวมกันว่ากี่แคลอรี่ โดยจะแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ พลังงานรวม และ พลังงานจากไขมัน
พลังงานรวม = คาร์โบไฮเดรต + โปรตีน + ไขมัน
ตัวอย่างในภาพ พลังงานรวม = 240 kcal แต่มีพลังงานจากไขมัน 120 kcal เท่ากับว่า เราจะได้พลังงานจากโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตอีก 120 kcal โดยมีที่มาจากคำนวณ ดังนี้
โดยคาร์โบไฮเดรต 1 กรัมจะให้พลังงาน 4 kcal
โปรตีน 1 กรัมจะให้พลังงาน 4 kcal
ไขมัน 1 กรัมจะให้พลังงาน 9 kcal
แล้วเราก็เอาตัวเลขของสารอาหารต่างๆไป คูณตามจำนวนกรัมที่มีนั่นเอง
ต่อมา ถามว่าทำไมต้องแยกพลังงานจากไขมันออกมาต่างหาก คำตอบก็คือ ค่าตัวเลขในส่วนนี้จะมีความจำเป็นมากสำหรับคนที่ทานอาหารเช่นกลุ่มคีโตจีนิค (ketogenic diet) ที่เน้นพลังงานจากไขมันมากกว่า 80% ของแหล่งอาหารทั้งที่ทานเข้าไป ถ้าเราไม่ได้สายคีโตก็ดูไว้ผ่านๆได้ครับ
ส่วนที่ 3 คือ คุณค่าทางโภชนาการ ส่วนนี้สำคัญที่สุด
จะมีตัวเลขแยก 2 ฝั่ง คือ ฝั่งที่อยู่ติดกับชื่อ สารอาหาร (ฝั่งซ้าย) และ ตัวเลข % ทางฝั่งขวา
ตัวเลขฝั่งซ้าย หน่วยจะเป็น กรัม ที่ได้ ถ้าเราทานสิ่งนั้นเข้าไป 1 หน่วยบริโภค
ตัวเลขฝั่งขวา หน่วยจะเป็น % เพราะเขาจะเอาไปอิงกับสารอาหารนั้นๆที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน โดยเทียบกับมาตรฐาน Thai RDI ที่คำนวณว่าคนไทยควรได้รับพลังงาน 2000 kcal ต่อวัน (โดยมาจาก คาร์โบไฮเดรต ทั้งหมด 300 กรัม / โปรตีน 50 กรัม /ไขมัน 65 กรัม)
แล้วคนไทยแต่ละคนต้องการพลังงาน 2000 kcal เท่ากันหรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ใช่แน่ๆครับ ดังนั้นการดู % ในส่วนนี้ก็พอดูเป็นแนวทางได้ แต่ไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ครับ คิดให้เห็นภาพง่ายๆ ผู้หญิงตัวเล็กๆ หนัก 45 กก. กับ ผู้ชายหนัก 90 กก. สัดส่วน % ไม่มีทางเท่ากันแน่นอน เพราะความต้องการพลังงานของสองคนนี้อาจจะอยู่ที่ 1800 กับ 2200 kcal ต่อวัน ตามลำดับ ประมาณนี้)
ดังนั้นแล้ว ให้สังเกตที่ตัวเลขทางฝั่งซ้ายนี้เป็นหลักครับ แต่ถ้าอยากรู้ว่าร่างกายเราต้องการพลังงานกี่ kcal ต่อวัน สามารถคำนวณได้จากสูตรที่ผมจะให้ไว้อีกทีครับ (สูตรนี้บอกก่อนว่ามีความไม่นิ่งพอสมควร แต่พอใช้เป็นแนวทางได้)
ต่อเนื่องกับส่วนที่ 3 คราวนี้เราต้องมาไล่ดูกันไปทีละตัวเลยครับ
ตัวแรก : ไขมัน
ไขมัน จะแสดงผลรวม ไขมันทั้งหมด และจะแยกย่อยอีกออกเป็น ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat) ไขมันทรานส์ (Trans fat) และ คอเรสเตอรอล (Cholesterol) ผมมีทริคง่ายๆเลยเวลาดูฉลากไขมัน
• ไขมันทรานส์ (Trans fat) ไขมันทรานส์คือพวกของกลุ่มไขมันกลายร่างที่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่ากินแล้วจะทำให้ตายด้วยโรคหัวใจเร็วขึ้น อันนี้ควรต้องเป็น 0 g ศูนย์กรัม เท่านั้น ห้ามมีหลงมาอย่างเด็ดขาด
• คอเรสเตอรอล (Cholesterol) อันนี้ทุกคนคงรู้จักกันดีแล้ว ไม่มีไว้ก่อนดีที่สุดครับ คือ ศูนย์
• ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) คือ ไขมันที่แข็งตัวในอุณหภูมิห้อง จะพบได้เยอะในเช่น น้ำมันจากสัตว์ หนังสัตว์ น้ำมันหมู และไขมันอิ่มตัวมักจะมากับอาหารที่คอเลสเตอรอลสูง ดูเผินๆเหมือนจะไม่ดี แต่จริงๆก็ต้องมีข้อยกเว้นไว้บางเช่น ในคนที่ทานน้ำมันมะพร้าวที่มีกรดไขมันอิ่มตัวบางชนิด เช่น กลุ่มของ MCT oil กลุ่มนี้จะเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีมากๆสำหรับสายคีโตจีนิก เพราะสมองจะนำไขมันอิ่มตัวชนิดนี้ไปใช้พลังงานได้อย่างรวดเร็ว
แต่ขอย้ำอีกครั้ง ถ้าอาหารนั้นไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะไปด้านคีโต ไขมันอิ่มตัวเยอะๆในฉลาก เราควรต้องให้ความระมัดระวังครับว่าอาหารนั้นมันคืออะไร แล้วก็สุดท้าย ไขมันอิ่มตัวจะบอกว่าแย่อีกก็ไม่ได้ เนื่องจากการที่มันทนความร้อนได้สูงมากพวกน้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำมันปาล์มจึงเป็นน้ำมันทีเหมาะกับมาทำอาหารผัดๆทอดๆแบบร้อนๆน้ำมันท่วมแบบอาหารไทยแบบนี้ครับ ดังนั้นเวลาดูต้องแยกกันว่า อาหารชนิดนั้นคืออะไร
• ไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat) คือ ไขมันที่ไม่แข็งตัวในอุณหภูมิห้อง ตรงกันข้ามกับอันเมื่อกี้ เรื่องของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นเรื่องใหญ่มาก ขอเล่าสั้นไว้ตรงนี้ก่อนครับ อันนี้ดูเผินๆ ก็เหมือนว่าถ้ามีเยอะก็จะดี เช่น การทานมะกอกจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ เพราะมะกอกมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงมาก แต่ในขณะเดียวอาหารบางอย่างมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงมาก เช่น กลุ่มของ industrial seed oil กลับอาจจะไม่ดีมากเท่ากับในกรณีแรก เพราะว่ามีความแตกต่างของมันอยู่นั่นเอง เราน่าจะเคยได้ยินคำว่า omega-3 หรือ omega-6 มานานแล้ว นั่นละครับ มันคืออันเดียวกันและมันก็อยู่ในกลุ่มของกรดไขมันไม่อิ่มตัว และในฉลากอาหารส่วนมากจะไม่ได้บอกว่า ไขมันไม่อิ่มตัวในนั้นเป็นชนิดไหน วิธีการที่จะรู้ได้อย่างเดียวคือ ต้องดูว่าอาหารนั้นเป็นอาหารอะไรประกอบด้วยครับ เรื่องนี้ผมขออธิบายละเอียดในคราวหน้า
• ถามว่าสัดส่วนไขมันควรทานวันละกี่กรัม ถ้ายึดตาม Thai RDI คือ ไขมันทั้งหมดต่อวันไม่เกิน 65 กรัม โดยต้องเป็นไขมันไม่อิ่มตัวอย่างน้อย 45 กรัม และ สัดส่วนนี้จะเปลี่ยนไปในกลุ่มของคนที่ทานคีโตครับ แต่คนทั่วไปอาจจะยึดตามแนวทางของ Thai RDI ไว้ก่อน บวกลบ เล็กน้อยตามพลังงานขั้นต่ำของร่างกายครับ ถ้าจะเอาให้เป๊ะขึ้น พลังงานจากไขมันควรเป็น 20 - 35% ของพลังงานรวมทั้งหมด และมีสัดส่วนของ กรดไขมันไม่อิ่มตัว : กรดไขมันอิ่มตัวคือ เท่ากับ 2.2 : 1 โดยคร่าวๆ (เริ่มเครียดเลย ทำไมยากจัง 55)
• ในฉลากส่วนใหญ่จะระบุเฉพาะปริมาณไขมันอิ่มตัว เราก็ต้องเอา ไขมันทั้งหมด - ไขมันอิ่มตัว จะได้เท่ากับปริมาณไขมันไม่อิ่มตัวนั่นเองครับ (อย่าพึ่งงงนะครับ)
ตัวที่สอง : คาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรต สารอาหารหลักที่พวกเราชอบกัน ไม่ว่าจะเป็น แป้ง น้ำตาล เส้นพาสต้า ล้วนมีพลังงานหลักมาจากส่วนนี้ ในฉลากมักจะแยกออกไว้ 2 อย่าง
• ใยอาหาร หรือ Fiber ขั้นต่ำประมาณ 25 กรัมต่อวัน อาหารที่ไฟเบอร์สูง จะช่วยเรื่องระบบการย่อยอาหารขับถ่าย และ ยังช่วยทำให้เราอิ่มได้นาน
• น้ำตาล (sugar) ต้องดูว่าน้ำตาลอันนั้นคือน้ำตาลตามธรรมชาติที่อยู่ในอาหาร (natural sugar) เช่น น้ำตาลฟลุกโตสในผลไม้ หรือเป็น น้ำตาลที่ใส่เพิ่มเข้าไป (added sugar) เช่น น้ำอัดลม โดยเราจะสนใจหลักๆคือ น้ำตาล added sugar ไม่ควรมีหรือมีให้น้อยที่สุดจะเยี่ยมครับ คนเราไม่ควรได้น้ำตาลเกิน 24 กรัมต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ อาหารในธรรมชาติที่มี natural sugar อยู่ ถ้าไม่นับผลไม้แล้วก็น่าจะหาได้ยากมาก
• ส่วนที่เหลือก็คือ แป้งที่เราเข้าใจกันนั่นเอง แต่เขาจะไม่ได้บอกตรงๆก็ต้องเอามาบวกลบกันออกมา
• พลังงานจากคารโบไฮเดรตต่อวัน ค่าเฉลี่ยโดยประมาณคือ 300 กรัมต่อวัน แล้วก็บวกลบเอาตามขนาดตัวครับ ถ้าไม่เคร่งก็ให้เน้นที่พลังงานมาจากแป้ง ที่ไม่ใช่น้ำตาล โดยมีไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้จริงๆแล้ว แป้งยังแยกเป็น คารโบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวหอมมะลิที่สีมาแล้วอย่างสวยงาม กับ ข้าวกล้องที่ยังไม่ผ่านการขัดสี (Complex carbohydrate) สองอย่างนี้ แคลอรีต่อกรัมเท่ากัน แต่ผลต่อร่างกายไม่เหมือนกัน ดังนั้นต้องดูชนิดของคาร์โบไฮเดรตที่ทานด้วยครับ
ตัวที่สาม : โปรตีน
• ถ้าไม่ได้กินนมชนิดต่างๆแล้ว หรือกลุ่มของเวย์โปรตีน ผมว่าส่วนนี้เราน่าจะไม่เคยสังเกตมันบนฉลากแน่ๆครับ
• คนทั่วไปๆก็ทานโปรตีนประมาณ 0.8 – 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว ถ้าหัก 60 กก. ก็ทาน 60 กรัมโปรตีนนั่นเอง
• ไขขาว 1 ฟอง มีโปรตีนประมาณ 5 กรัม ลองกะดูครับ
• ถ้าคนเล่นกล้ามก็ต้องการมากกว่านี้อีกมาก เช่น 2-3 กรัมต่อน้ำหนักตัว
จากจุดนี้ก็น่าจะพอเข้าใจภาพได้เลยว่า ตัวเลข % อาจจะไม่มีผลอะไรกับการวางแผนอาหารในกลุ่มคนเฉพาะที่ต้องการผลลัพธ์ที่พิเศษ แต่สำหรับคนทั่วไปก็ใช้ตาม % อ้างอิงก็ไม่เสียหายครับ
ส่วนที่ 4 : โซเดียม
ไม่ควรเกิน 2300 มิลลิกรัมต่อวัน เรามักจะเจออาหารที่โซเดียมสูงๆในบรรดาจำพวกซอสและขนมขบเคี้ยวทั้งหมด
เป็นอย่างไรกันบ้างครับเอาแค่ 4 ส่วนนี้ก็ลายตามากแล้วครับ 555+ อันนี้ยังไม่นับถึงพวก วิตามิน เกลือแร่ หรือ ส่วนประกอบของอาหารที่เราต้องมาเพ่งพิจารณากันจริงๆเลยครับ
เอาตรงๆ มันดูเหมือนจะยากมากครับในครั้งแรก ทำไมต้องซีเรียสขนาดนี้ แต่เชื่อผม มันยากแค่ครั้งแรกตอนที่เราหยิบมันขึ้นมา เพราะส่วนใหญ่เราก็กินอะไรไม่ได้ต่างจากเดิมมาหรอกครับในแต่ละวัน อ่านสักครั้งสองครั้งพอจำได้แล้ว เราก็จะหยิบมากินโดยที่ไม่ต้องดู เพราะว่าเราจำคุณค่าทางโภชนาการได้หมดแล้วนั่นเอง และการดูสัดส่วนโภชนาการผมคิดว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญมากชนิดหนึ่งในการดูแลสุขภาพร่างกายของเราเอง
ถ้ามีคำถามใดๆก็ฝากไว้ได้นะครับ ผมจะพยายามมาตอบให้ถ้าสามารถทำได้ครับ ขอบคุณอีกครั้งที่อ่านมาจนจบครับ 😊
ไป ต่อ ไป 在 Facebook 的精選貼文
ก็หงส์ไม่ต้องการ !! 'ดุม' เผยอยากอยู่ต่อ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด ต้องเดินหน้าต่อไป
- จอร์จินิโอ ไวจ์นาลดุม เปิดเผยว่าเขาต้องการจะอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อแต่สโมสรไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าอยากจะรั้งตัวเขาไว้ ให้หลังหมดสัญญาอำลาทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์
- กองกลางชาวดัตช์มีช่วงเวลา 5 ปีที่ประสบความสำเร็จในถิ่น แอนฟิลด์ โดยมีบทบาทสำคัญช่วยทีมคว้าแชมเปี้ยนส์ลีกและแชมป์พรีเมียร์ลีก
- อย่างไรก็ตามการเจรจาสัญญาใหม่ไม่ลุล่วง ทำให้เขาออกจากทีมและย้ายซบ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในแบบไร้ค่าตัวและเขาก็อธิบายถึงสาเหตุที่ตัดสินใจโบกมือลาจากถิ่น แอนฟิลด์
ไวจ์นาลดุม บอกกับ เลอ กิป :
"คุณทำตามความรู้สึกของตัวเอง"
"หลายเดือนก่อน ผมแสดงเจตจำนงในการอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อ กระนั้น, ไม่ขอลงรายละเอียดนะ, ลิเวอร์พูล เองไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่าพวกเขาอยากเก็บผมไว้ ในกรณีอย่างนี้เราต้องเดินหน้าต่อ"
- ไวจ์นาลดุม ตกเป็นข่าวย้ายสู่ บาร์เซโลน่า รวมถึงการร่วมงานกับ โรนัลด์ คูมัน อีกครั้งอย่างหนาหู แต่สุดท้ายแล้วก็ลงเอยด้วยการย้ายซบ เปแอสเช แทน
"บาร์ซ่า ก้าวเข้ามา ผมแฮปปี้มากเพระาเพราะเป็นสโมสรในฝันของผมตั้งแต่เด็กๆ, เหมือนนักเตะดัตช์ส่วนใหญ่, ถึงแม้จะต้องยอมรับว่าผมมี ซีเนอดีน ซีดาน เป็นไอดอล"
"ผมคิดไว้ว่าจะได้ไปเล่นให้กับ บาร์ซ่า แต่การเจรจายืดยาวและ ปารีส ก้าวเข้ามา"
"สโมสรแสดงให้ผมเห็นถึงความปรารถนาในการดึงตัวผมต่างจากเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ถึงเวลาที่ผมต้องลองสิ่งอื่นแล้วน่ะ"
- แข้งวัย 30 ปีผ่านการลงสนามให้กับทีมของ เมาริซิโอ ปอเชตติโน่ ไป 5 เกมแล้วในฤดูกาลนี้และเตรียมจะได้มีส่วนร่วมในเกมแชมเปี้ยนส์ลีพบกับ คลับ บรูช คืนวันพุธ
#เกมละกู #ปารีส #ปารีสแซงต์แชร์กแมง #เปแอสเช #ลีกเอิง #PSG #ลิเวอร์พูล #liverpool #หงส์แดง #พรีเมียร์ลีก #LFC #premierleague
ไป ต่อ ไป 在 69ERS Youtube 的精選貼文
RECAP 10FIGHT10 SEASON 2 |กำปั้น บาซู VS หนุ่ม คงกระพัน
GaoTong
Facebook : https://www.facebook.com/gaotongruntings/
Instagram : https://www.instagram.com/gaotong_runtings/
69ERS
Page : https://www.facebook.com/real69ers/
Instagram : https://www.instagram.com/real69ers/
Youtube : https://www.youtube.com/c/69ERS69
Merchandise Line : @69ers
for work : 247camo@gmail.com
#GAOTONG #10Fight10Season2 #Workpoint23
คู่ที่ 10 "กำปั้น บาซู" #TeamBlack ปะทะเดือด "หนุ่ม คงกระพัน" #TeamWhite
"อย่าแพ้เค้านะ เค้านะ เค้านะ เพราะชั้นเชียร์อยู่ ๆ ๆ" ผู้เขียนอมยิ้มไปกับบทเพลงคุ้นหูวัยรุ่น 90's ในการแสดงเปิด 10Fight10 คู่ที่ 10 ระหว่างทีมแบล็ค "กำปั้น บาซู" ปะทะ ทีมไวท์ "หนุ่ม คงกระพัน" และเปลี่ยนอมยิ้มนั้นเป็นยิ้มกว้างเมื่อกล้องจับภาพ โจอี้ บาซู หนึ่งในสมาชิกวง "บาซู" วงดังยุค 90's ที่มีข่าวล้มป่วยด้วยอาการหลอดเลือดสมองตีบถึงขั้นเดินและพูดไม่ได้ในตอนแรก ตอนนี้อาการดีขึ้นจนมานั่งเชียร์มวยได้แล้ว ยินดีด้วยจริง ๆ
มาถึงโค้งสุดท้ายกับศึก 10Fight10 ss.2 คู่รองสุดท้ายสายลุง กำปั้น บาซู นักร้องวงดังยุค 90's วัย 42 ปี เจ้าของส่วนสูง 175 cm. น้ำหนัก 70.85 kg. ส่วน หนุ่ม คงกระพัน นักแสดงหนุ่มใหญ่วัย 47 ปี ส่วนสูง 177 cm. น้ำหนัก 69.65 kg. หนุ่มได้ยาวกว่ากำปั้นเล็กน้อย แต่บอกได้เลยว่าทั้งคู่เป็นตัวอย่างของการดูแลสุขภาพหลังวัยหลัก 4 จริง ๆ หุ่นดี เฟิร์ม แข็งแกร่งกันทั้งคู่ คู่นี้ชกกันในรุ่น Middleweight พิกัดน้ำหนักไม่เกิน 72.6 kg.
รุ่นใหญ่ก็ใส่เลย! เปิดฉากมาไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง นักมวยทั้งคู่ต่างปรี่เข้าแลกหมัดกันเห็นแววแห่งความสนุก หนุ่มโดนหมัดกำปั้นเข้าไปก็พยักหน้าให้ เอานวมตบเฮดการ์ดตัวเองท้าทายให้กำปั้นชกมาอีก ชกกันไปยิ้มกันไปเป็นระยะ แต่เบื้องหลังรอยยิ้มพร้อมใส่กันสุดไหล่ แม้ยังไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำโดนเข้าไปจัง ๆ แต่ถือว่าแลกกันสนุกทีเดียว
พักยกที่มุมดำ โค้ชอองตวนเชื่อมั่นว่ายกที่เหลือกำปั้นจะดีขึ้นแต่หนุ่มจะแย่ลง คงคาดการณ์จากอายุ บอกหนุ่มอันตรายแค่หมัดขวา ให้ชิงออกหมัดก่อนหมัดขวานั้นจะมาถึง ส่วนมุมขาวโค้ชแมทธิวและพี่เลี้ยงบอกให้หนุ่มเดินขู่ อย่าปล่อยให้กำปั้นออกหมัดก่อน ให้หนุ่มออกทีละหมัดอย่าเพิ่งรีบรัว การ์ดซ้ายอย่าตกกำปั้นรอป้อนกำปั้นอยู่
ยกที่ 2 บวกแหลกแหกกฏลุง! เปิดฉากยก 2 ทั้งคู่ปรี่เข้าใส่กันไม่ยั้งอย่างลืมอายุ โดนมั่งไม่โดนมั่งมีทุบมั่งแต่แลกกันแหลกแหกสะบัด เอ้าขอมือขวาหน่อย! ศึกใหญ่วัยรุ่น 90's พาให้นึกถึงวลีเด็ด หนุ่ย อำพล เพราะทั้งคู่จ้องกันแต่จะยัดหมัดขวาสุดไหล่ใส่ฝั่งตรงข้าม เกิดเป็นศึกแห่งหมัดขวาเรียกได้ว่าต่างคนต่างโดน
พักยกที่มุมขาว พี่เลี้ยงบอกหนุ่มว่าไม่ใช่เรื่องของเบสิคแล้วแต่อยู่ที่ใจเพชรฆาตว่าหนุ่มจะทำกำปั้นลงหรือเปล่า อย่าไปสงสารเขา หนุ่มตอบว่าไม่ได้สงสารแต่กำปั้นก็แข็งเหมือนกัน ตรงนี้ขอแวะอธิบายหน่อยว่าทีมไวท์ต้องการชนะน็อคเพื่อให้ผลคะแนนรวมไม่ขาดและได้ลุ้นแชมป์ในคู่สุดท้าย ส่วนทางมุมดำโค้ชแมทธิวบอกกำปั้นอย่าเร่งเยอะ ให้ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ไม่ต้องรีบ
ยกที่ 3 มวยชกกันอย่างมันส์ แต่คนตีระฆังหลับซะงั้น! ทั้งคู่ยังคงสาดกำปั้นเข้าใส่กันไม่หยุด แต่เป็นทางด้านของกำปั้นที่ดูหมดเรี่ยวแรงแข้งขาอ่อนในครึ่งยกหลัง ทำให้เป็นทีของหนุ่มได้เดินบดขยี้กำปั้นด้วยกำปั้น หวังน็อคกำปั้นให้ได้ กำปั้นดูอ่อนระโหยจนกรรมการต้องจ้องอาการเป็นพิเศษในยกที่ยาวนานเป็นพิเศษ เกิดเป็นดราม่าประดับประดา 10Fight10 อีกแล้วเมื่อยกนี้หมด 3 นาทีก็ยังไม่มีเสียงระฆังดังหมดยก ผู้เขียนลองจับเวลาดูยกนี้ยาวนานเกินเลยมาถึง 39 วินาที คนตีระฆังไม่ไปฉี่ก็คงหลับไม่งั้นก็เล่นมือถือ ทำให้เกิดดราม่าในประเด็นที่ว่าแกล้งปล่อยเวลาเพื่อให้กรรมการจับกำปั้นแพ้ TKO เอาผลคะแนนหรือเปล่า ตรงนี้ผู้เขียนไม่ขอออกความเห็นแต่อย่างใดเพราะมิอาจก้าวล่วงไปทราบได้จริง ๆ
แต่พาให้นึกถึงศึกมวยชิงแชมป์โลกยุค 90's ระหว่าง นภา เกียรติวันชัย กับ ฮิโรกิ อิโอกะ ที่โอซาก้าประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 ปลายยก 12 นภาถล่มอิโอกะแทบจะวายปรานได้แต่โงนเงนเป็นสนต้องลม เวลาผ่านไปเพียง 2.23 นาที ก็มีมือดีมาตีระฆังหมดยกพาอิโอกะให้รอดตาย เกิดเป็นศึกระฆังปริศนาให้แฟนมวยตราตรึงจนถึงทุกวันนี้
หมดยกสุดท้ายไปอย่างเดือดดาลและยาวนาน ทีมแพทย์กระโดดผล็อยขึ้นเวทีไปดูแลกำปั้นเป็นพิเศษเพราะดูหมดเรี่ยวแรงจริงจัง ส่วนหนุ่มดูคงกระพันสมชื่อ เหนื่อยแต่ไม่มีหมดแข็งแกร่งจริง ๆ
ผลการตัดสินออกมาอย่างเป็นเอกฉันท์ ผู้ชนะชนะไปทั้ง 3 เสียงด้วยคะแนน 29-28, 29-28, 29-28 โดยผู้ชนะคือ "หนุ่ม คงกระพัน" ทำให้ทีมไวท์เก็บไปได้อีก 1 คะแนน บนตารางยังตามทีมแบล็คอยู่ 10 ต่อ 7 คะแนน ทำให้คู่สุดท้ายทีมไวท์ต้องน็อคทีมแบล็คให้ได้สถานเดียวเท่านั้น ถึงทำให้คะแนนเท่ากันได้ครองแชมป์ร่วม
ไป ต่อ ไป 在 TRADERIDER Youtube 的最佳貼文
Forex Grade 3 # Support-Resistance Forex แนวรับ-แนวต้าน Forex เทรดอย่างไร
ก่อนที่เราจะใช้เทคนิคใดๆ ในการเทรด Forex หรือมองดูกราฟ เพื่อวิเคราะห์กราฟ ใด สิ่ง ที่ควรรู้ ก่อนที่จะใส่ อินดิเคเตอร์ลงไป และคุณจำเป็นต้องมองให้ออกก่อนด้วยตาเปล่าของคุณเองก็คือเทคนิคการมองแนวรับและแนวต้าน ด้วยสายตา ซึ่ง แนวรับ-แนวต้านมีความหมายดังนี้
เทคนิคการเทรด forex อีกแบบหนึ่งที่นักเทรด forex ควรรู้ก่อนที่จะทำกำไรจาก forex อีกแบบหนึ่งก็ คือการหา แนวรับ-แนวต้าน
การหาแนวรับ แนวต้าน ของ กราฟ forex หรือหุ้นใดๆ นั้น ก็มีหลักการที่เหมือนกันทีนี้มาเรียนรู้ นิยามของแนวรับแนวต้านกันก่อน ดีกว่า ครับ
แนวรับ ---- Support คือ แนวรับ คือ ราคา ใด ๆ ที่อยู่ ต่ำกว่าราคาปัจจุบัน เช่น ปัจจุบัน ราคา อยู่ที่ 20 แต่ แนว รับก็ คือราคาใดๆ ที่ต่ำกว่า 20 ลงมา ตั้งแต่ 19 ลงมา นิยามของแนวรับคือ ราคาใดๆ ที่ สามารถหยุด ไม่ให้ราคาของ หุ้น หรืออัตราแลกเปลี่ยน forex ไม่ให้มีราคาลดลง เกินกว่าแนวรับ นั้น คือ อย่างเช่น แนวรับที่ 19 หมายถึงเมื่อราคาปัจจุบัน มาถึง 19 ในกรณีที่เป็นแนวรับราคาก็จะไม่สามารถที่จะทะลุลงไปที่ ราคา 18 ได้โดยง่ายอาจมีการ รีบาวด์หรือ กลับ ตัวขึ้นไป ที่ 20 อีกครั้ง ในกรณีที่ สามารถทะลุ แนวรับลงมาได้ที่ 18 ราคาที่ 19 จะไม่ใช่ แนวรับ อีก ต่อ ไป และ จะกลายเป็นแนวต้าน แทน
แนวต้าน ----Resistance คือ แนวต้าน คือราคาใดๆ ที่อยู่สูงกว่าราคาปัจจุบัน เช่น ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 20 ดังนั้น แนวต้านควรจะอยู่ที่ 21 ขึ้นไป นิยามของแนวต้านคือราคาใดๆ ที่สามารถหยุดไม่ให้ราคาของหุ้นหรือ อัตราแลกเปลี่ยน forex ไม่ให้ขึ้นไปสูงกว่าแนวต้าน เช่น ราคาปัจจุบัน 20 แนวต้าน 21 เมื่อ ราคาไปถึง 21 แล้วราคาอาจกลับตัวลงมาที่ 20 อีกครั้งเนื่องจากไม่สามารถผ่าน แนวต้านนี้ไปได้ เรียก 21 ว่าแนวต้าน แต่ถ้าในกรณีที่ ราคาสามารถ ผ่านแนวต้าน 21 ไป ที่ 22 ได้แล้ว แนวรับ ที่ 21 จะไม่ใช่แนวต้านอีกต่อไป และจะกลายเป็นแนวรับแทน
อ่านเพิมเติม : https://traderider.com/index.php/topic,134.0.html
การเปิดบัญชีเพิ่ม Forex กับ XM.COM สำหรับผู้ที่มีบัญชีอยู่แล้ว สามารถเปิดได้สูงสุด 8 บัญชี ต่อคน แถมได้ Rebate เงินคืน 3$/ 1 Lot ทุกการเทรด Link การเปิดบัญชี XM.com : http://www.xm.com/gw.php?gid=10185 กับ www.traderider.com
การเพิ่มบัญชีเทรด forex XM.com จากบัญชีเดิมที่มี : http://traderider.com/index.php/topic,3242.msg92820.html#msg92820
แจ้งตรวจสอบบัญชีเทรด : http://traderider.com/index.php/topic,1433.0.html
facebook Fanpage : https://www.facebook.com/traderidergroup
ไป ต่อ ไป 在 ZoLKoRn Youtube 的最佳解答
สิ้นสุดการรอคอยเสียที สำหรับความแรงของ AMD RYZEN 3000 Series ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม ZEN 2 และใช้กระบวนการผลิตในระดับ 7nm ซึ่งวันนี้ เป็นวันที่ทาง AMD อนุญาตให้มีการเปิดเผยผลการทดสอบอย่างเป็นทางการได้ และแน่นอนว่าผมเองก็มีมาให้ได้รับชมด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงนี้ขอนำเสนอในแบบ Vlog แบบสั้น ๆ ในแบบรวบรัด โดยเทปนี้จะเป็นในส่วนของความแรงในแบบ Gerneral Performance หรือความแรงในแบบทั่ว ๆ ไป แบบเดิม ๆ เปรียบเทียบกับซีพียูในโมเดลต่าง ๆ ว่าผลของความแรงที่ออกมานั้นมันทำได้ดีจริงตามที่ทาง AMD โม้เอาไว้หรือเปล่า
สำหรับโมเดล CPU ที่ผมได้รับมานั้นเป็น AMD RYZEN 7 3700X มีราคาประมาณ 12,900 บาท โดยทาง AMD วางตำแหน่งเอาไว้ชนกัย Core i7-9700K ซึ่งก็เป็นการชนกันในช่วงของราคาค่าตัว แต่ทว่า RYZEN 7 3700X จะมีความเหนือกว่าอย่างชัดเจนในส่วนของจำนวนคอร์เทรด เพราะจะมีมากกว่าถึงเท่าตัว แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าจำนวนคอร์เทรดก็เห็นจะเป็นเรื่องของพลัง IPC หรืองานในแบบ Single Thread นั่นเอง ตรงนี้แหละที่คาดว่าหลาย ๆ คนรอชมกันอยู่ และผลที่ออกมาของ R7 3700X ตัวนี้มันจะทำได้ดีขนาดไหน ? จะแรง จะร้อนไม่ร้อน จะกินไฟมากน้อยเพียงไร ? ลองรับชมกันดูนะครับ
AMD RYZEN 3000 Series กับเกม : https://youtu.be/6h8DXMAIenk
AMD RYZEN 3700X บน X470
AMD RADEON RX 5700 : https://youtu.be/AmDttm-ixa4
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง....
ภาพรวม AMD RYZEN 3000 Series จากงาน AMD Media Briefing : https://youtu.be/RleONpHBPrw
10 คำถามยอดนิยมเกี่ยวกับ AMD RYZEN 3000 Series : https://youtu.be/HFH_gfUU4kQ
คุยไปเทสไป ! "เบื้องหลัง กว่าจะมาเป็นรีวิว : Just a talk : https://youtu.be/mYJoEPMphG8
RYZEN 3000 Series กับการเล่นเกม แรงมั๊ย ? สู้ Intel ได้มั๊ย ? : https://youtu.be/6h8DXMAIenk
ลองพลัง AMD RYZEN 3700X พลัง IPC แรงขึ้นจริงหรือ สู่ Intel ได้หรือยัง ? : https://youtu.be/deUliXM5xEg
RYZEN 7 3700X ปะทะ i9-9900K - MHz ต่อ MHz, คอร์ต่อคอร์ วัดกันเน้น ๆ : https://youtu.be/nwp5HlouoRE
จับ RYZEN 7 3700X เปรี้ยวบน ASRock B450M Steel Legend : https://youtu.be/CCFqx9LBqvg
RYZEN 7 3700X+B450+RX 5700 เล่นไปด้วย สตรีมไปด้วย ไปได้สุดมั๊ย ? : https://youtu.be/v_Da7_tuPyY
เปิดกล่อง ลองเล่น AMD RYZEN 9 3900X : https://youtu.be/lCDg63roszA
ลองพลัง AMD RYZEN 9 3900X จะแรงขนาดไหน ? เหนือกว่า Core i9-9900K จริงมั๊ย ? : https://youtu.be/I506RPgJRcQ
ติดตามผ่าน Facebook ได้ที่ : https://www.facebook.com/ZoLKoRn
ติดตามผ่าน Twitch : https://www.twitch.tv/ZoLKoRn
ติดตามผ่าน Twitter ได้ที่ : https://twitter.com/ZoLKoRn
ติดตามเว็บไซต์ : http://www.zolkorn.com
ติดต่อเรา : http://www.zolkorn.com/contact/
Credit :
___________________________
Countdown music :
Titre : Cyanide Circus
Powered by : No Copyright Music -
ไป ต่อ ไป 在 Facebook Connect จะไม่มีให้ใช้งานอีกต่อไป - Microsoft Support 的推薦與評價
ถ้าคุณเคยเชื่อมต่อบัญชีผู้ใช้ Facebook ของคุณไปยัง Outlook.com แล้วที่ติดต่อ Facebook ... แอป บุคคล บน Windows 8.1 จะไม่สนับสนุนฟีเจอร์ต่อไปนี้อีกต่อไป:. ... <看更多>
ไป ต่อ ไป 在 The Star ค้นฟ้าคว้าดาว - ผู้ที่ไม่ได้ไปต่อในการแข่งขัน ... - Facebook 的推薦與評價
ผู้ที่ไม่ได้ไปต่อในการแข่งขัน The Star ค้นฟ้าคว้าดาวปี 12 ขอแสดงความเสียใจกับกับ "น้ำผึ้ง ธนัญญา" #thestar12 #เดอะสตาร์12 #ช่องวัน31. ... <看更多>
ไป ต่อ ไป 在 ไปต่อไป อั้ม นรินทร - YouTube 的推薦與評價
เพลง ไปต่อไป ศิลปิน นรินทร สุนทรเกตุ (อั้ม)ต้นฉบับ อิทธิ พลางกูรอัลบั้ม เก็บตะวัน A Tribute To อิทธิ พลางกูรพ.ศ.2547สังกัด RS Promotion. ... <看更多>