關於 ไม่มีฉากหลังเครดิต ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

"วีรกรรมของผู้กล้า พลิกโฉมหน้าสงครามโลก!! "

MIDWAY ภาพยนตร์สงครามฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปีจาก Roland Emmerich ผู้กำกับ ID4: Independence Day ที่จะบอกเล่าถึงเรื่องราวของ “BATTLE of MIDWAY ยุทธนาวีมิดเวย์” การปะทะกันแบบ 360 องศาของกองทัพสหรัฐอเมริกา กับกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนเกมรบของสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปตลอดกาล

หนังความยาว 138 นาที (2 ชั่วโมง 18 นาที)
ฉากสงครามจัดเต็ม #ไม่มีฉากหลังเครดิต

รู้ไว้ก่อนดู: https://youtu.be/ht2CtQn_a_0

#MIDWAY #อเมริกาถล่มญี่ปุ่น
7 พฤศจิกายน ในโรงภาพยนตร์

"ยินดีต้อนรับ สู่ วันหลังวันพิพากษา"

การกลับมาของ "ภาคต่อ" ภาพยนตร์แอ็กชันฟอร์มยักษ์แห่งปีที่คนทั่วโลกรอคอย ผู้อำนวยการสร้าง James Cameron จาก Avatar และ Tim Miller ผู้กำกับ Deadpool การันตีความมันส์บทใหม่ของตำนานฅนเหล็ก !

หนังความยาว 128 นาที (2 ชั่วโมง 8 นาที)
#ไม่มีฉากหลังเครดิต แต่ฉากแรกของเรื่อง สำคัญมาก!!
ดังนั้น #ห้ามเข้าโรงช้าเป็นอันขาด เพราะอาจพลาดฉากเด็ด!!

รู้ไว้ก่อนดู: https://zcu.io/hmw9
ย้อนรอย: https://zcu.io/Gs92

TERMINATOR: DARK FATE ฅนเหล็ก: วิกฤตชะตาโลก
พุธ 23 ตุลาคม ในโรงภาพยนตร์

#TerminatorTH #คนเหล็กคัมแบ็ค #จดอ #JUSTดูIT

#รีบรีวิว X-MEN: Dark Phoenix

บทสรุปส่งท้ายของแฟรนไชส์หนัง X-MEN กว่า 19 ปี ก่อนที่จะย้ายไปสู่บ้านใหม่ Dark Phoenix คือเรื่องราวระหว่างที่ทีม X-Men ออกไปปฏิบัติภารกิจในอวกาศ จีนเกือบจะตายเพราะถูกพลังคอสมิคบางอย่างพุ่งชน แต่เธอก็รอดกลับมาได้ พร้อมกับพลังที่มากขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด เพียงแต่ว่าเธอกลับไม่สามารถควบคุมมันได้และหวาดกลัวในสิ่งที่อยู่ข้างใน ทีม X-Men จึงต้องร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือจีนจากวายร้ายที่ต้องการใช้พลังของเธอเพื่อทำการใหญ่บางอย่าง..

ต้องบอกก่อนเลยว่า เอาเข้าจริง ๆ หลังจากดูจบก็รู้สึกว่า ตัวหนังไม่ได้พังหรือเละอย่างที่คาดคิดเอาไว้เลย (หากเทียบกับ The Last Stand) เพราะตอนแรกยอมรับว่าตั้งแง่กับหนังประมาณนึง มานับตั้งแต่การเลื่อนกำหนดหลายหน แถมด้วยการถ่ายซ่อมเพิ่มเติม (ฉากรถไฟช่วงท้ายถ่ายทำเพิ่มมาภายหลัง) ยังไม่นับว่าหนังเรื่องนี้แท้จริงแล้วเป็นตอนแรกของไตรภาคใหม่ แต่กลับถูกเปลี่ยนกลางทางให้กลายเป็นภาคสุดท้ายอีก

แต่พอได้ดูแล้วตัวหนังก็มีการดำเนินเรื่องที่พอจะดูเพลิน ๆ ได้อยู่ ส่วนหนึ่งมาจากการที่หนังมีตัวละครมากสีสัน (ที่รับบทโดยเหล่าดาราเกรด A) มาประชันกันบนจอ ขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้า และเส้นทางที่มุ่งไปนั้นก็ดูมีจุดหมายที่ชัดเจน แม้จะขาดมิติไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ไร้ทิศทางจนทำให้หนังพังอย่างที่เป็นปัญหากับหลาย ๆ ภาคก่อนหน้า

แต่หากมองโดยรวมแล้ว ก็เป็นอะไรที่ยอมรับได้หากเราจะชอบ หรือไม่ชอบภาคนี้ เพราะแม้ว่ามันจะสนุกตามมาตรฐาน หรือ ดูเพลินขนาดไหนก็ตาม แต่ในแง่ของรายละเอียด และ การที่หนังแอบเพลย์เซฟมากจนเกินไป ทำให้ความเป็นบทสรุปของหนังมันดูธรรมดาไปหน่อย

สิ่งที่พอจะชมได้คือฉากแอ็กชันในช่วง ต้นเรื่องและท้ายเรื่อง ที่อาจสเกลไม่มหึมาอย่างหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้อื่น แต่ทีมงานของัดลูกเล่นต่าง ๆ ของเหล่ามนุษย์พลังเหนือโลกมาใช้ได้อย่างตื่นตาและจัดเต็มเอาเรื่อง เสียอย่างเดียวคือ มาช้าไปหน่อย เพราะเกือบทั้งเรื่องเป็นการต่อสู้ทางความคิดและคารมมากกว่าการกระทำ

แฟน ๆ X-MEN ที่ดูมาแล้วคิดเห็นยังไง คอมเมนต์บอกพวกเราได้

X-MEN: DARK PHOENIX
วันนี้ในโรงภาพยนตร์ และระบบ IMAX

รู้ไว้ก่อนดู https://youtu.be/L3j_1NszYRQ

หมายเหตุ: หนัง #ไม่มีฉากหลังเครดิต ครับ

#จดอ #JUSTดูIT