อันนี้เขียนโคตรดี
[ ชนะคนบ้า ด้วยความบ้ากว่า?]
"หนุ่มแว่นหัวร้อน" ที่สื่อมวลชนเรียกกัน มีชื่อจริงว่า รชฏ (อ่านว่า ระ-ชะ-ตะ) ถึงตรงนี้เขาเละไม่เหลือซากแล้ว
ประโยคที่เขาพูดออกมาในคลิป เป็นการกระทำในสิ่งที่คนไทยไม่ชอบครบทุกอย่าง มันเป็นการสร้างความเกลียดชังได้อย่างดีที่สุด
- อวดร่ำอวดรวย
- พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
- ดูหมิ่นนายกฯ (แม้หลายคนจะไม่ชอบนายกฯ แต่อย่าลืมแฟนคลับนายกฯก็มีเยอะเช่นกันนะ)
- ด่าคนไทยด้อยพัฒนา การศึกษาต่ำ
- ด่าคนอื่นเป็นขยะสังคม
- ด่าคนไทยชอบเสือกเรื่องชาวบ้าน
- กล่าวอ้างว่ามีตำรวจคอยช่วย ไม่เกรงกลัวกฎหมาย (แต่ความจริงไม่มีนะ อ้างเฉยๆ)
ยิ่งไปไล่ดูประวัติเก่าๆแล้ว เคยมีประเด็นกับผู้คนบนท้องถนนมานับไม่ถ้วน ขับรถปาดหน้า ชูนิ้วกลางใส่รถคันอื่น คือจัดว่าเป็นตัวจี๊ดเลยทีเดียว
ดังนั้น มันก็ไม่แปลกเลยที่จะมีฟีดแบ็กความเกลียดชังถึงตัวเขาหนักขนาดนี้
แล้วในทางกฎหมายล่ะ? ในคดีเรื่องการเฉี่ยวชนกับคู่กรณีคนอัดคลิป ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ โดยไม่ได้เรียกประกัน มีการชดเชยค่าเสียหายให้กันเรียบร้อย
ขณะที่คดีในทางอาญา ก็มีเพียงหมิ่นประมาทซึ่งหน้า โทษปรับ หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ซึ่งเป็นคดีไม่ได้ใหญ่เลย ในแง่ของตัวบทกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่รุนแรงกว่าคือกระแสสังคม ต้นสังกัด บริษัท Kasa Development แน่นอน ย่อมไม่อยากติดร่างแหไปด้วย ใช้เหตุผลเรื่องที่ นายรชฏ อ้างถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการไล่ออก
เท่ากับว่าเพียงพริบตา นายรชฏ มีคดีอาญา โดนไล่ออกจากงาน และ กลายเป็น Public Enemy ศัตรูเบอร์หนึ่งของประเทศไทย
คือก็เข้าใจได้ เพราะสิ่งที่ นายรชฏพูด มันไปกระทบใจของคนส่วนใหญ่ในสังคม จึงนำมาสู่กระแสความเกลียดชังรุนแรงเพียงนี้
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
คลิปของนายรชฏ เป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว ยอดคนแชร์เกือบล้าน ซึ่งเป็นคลิปที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2019 เลย
เหตุการณ์ยิ่งบอกปากต่อปาก ยิ่งทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกกระแสก็ไปทางเดียวนั่นแหละ คือด่า หนุ่มแว่นยับเลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา ตี 1 ของเมื่อคืน เพจ Phuri's News ได้ปล่อยคลิปวีดีโอในอีกมุมหนึ่ง ที่หลายคนน่าจะรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก
คือคลิปที่สถานีตำรวจพุทธมณฑล มีชาวบ้านประมาณ 4-5 ร้อย ไปดักรอ นายรชฏ และครอบครัว ที่มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในโรงพัก
ทันทีที่คุณแม่ของ นายรชฏ เดินออกมาจากโรงพัก มีเสียงตะโกนด่า แม่ของเขา ว่า "เลี้ยงลูกแบบไหนหรอ" ตะคอกกันอย่างหนัก
ภาพที่น่าเศร้าคือสะใภ้ของบ้านนี้ แฟนสาวของนายรชฏ จับมือคุณแม่แน่น และพาไปขึ้นรถที่ตำรวจคุ้มกันอยู่
คำถามที่คนคงคิดตรงกันคือ จะไปด่าแม่กับเมียเขาทำไม?
คือด่าผู้ก่อเหตุก็ว่ากันไป คนทำผิดก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำ แต่คนอื่นที่ไม่ใช่บุคคลนั้นล่ะ เขาสมควรรับหางเลขไปด้วยหรือ?
ในคลิปแรกสุดที่รถเฉี่ยวชน เราเห็นภาพภรรยาของนายรชฏ ห้ามปรามสามีของตัวเองอยู่ตลอด และพูดจากับคู่กรณีอย่างดีมากๆ ถามว่าเธอผิดอะไรล่ะ ถึงจะต้องโดนด่าไปด้วย
ความผิดของเธอมีเพียงอย่างเดียวคือนั่งอยู่ในรถคันนั้น ณ เวลานั้นแค่นั้นเอง เธอก็พยายามจัดการแก้ปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุดแล้ว
แล้วพ่อแม่ของเขาล่ะ ควรโดนลากมาด่าด้วยไหม ในเมื่อมนุษย์เราเป็นปัจเจก ต่างคนต่างมีความคิดของตัวเอง คือมีพ่อแม่คนไหนอยากสั่งสอนให้ลูกเป็นคนไม่ดี เที่ยวด่ากราดคนอื่นแบบที่หนุ่มแว่นทำ มันไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกเป็นแบบนี้หรอก
ในอดีต กฎมณเทียรบาลสมัยอยุธยา มีโทษประหาร 7 ชั่วโคตรอยู่ คือคนทำผิด ต้องฆ่าให้ตายทั้งตระกูล นักโทษ เมีย ลูก หลาน เหลน พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ทวด ต้องฆ่าให้หมดทั้งวงศ์ตระกูล
แล้วทำไมโทษประหาร 7 ชั่วโคตรถึงถูกยกเลิกไป ไม่มีในปัจจุบันล่ะ?
นั่นเพราะสังคมเรารู้ดีว่า เรื่องความผิด มันเป็นเรื่องของตัวบุคคลนั้น และมันไม่ยุติธรรมแม้แต่นิด ที่จะลากคนรอบตัวของผู้กระทำผิด มาลงโทษด้วย
ในแง่กฎหมาย พ่อแม่ และแฟนสาว ของนายรชฏ ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เช่นเดียวกับในแง่ของสังคม พวกเขาก็ไม่ควรจับแขวนมาด่าแบบนี้ด้วย
ถ้าเห็นว่าใครทำผิดอะไร ใช้กฎหมายเป็นตัวตัดสิน ถ้ายังไม่พอใจกับบทลงโทษทางกฎหมาย จะด่าคนทำผิดก็ด่าเจ้าตัวไป แต่คนไม่เกี่ยวข้องนี่ ไม่แฟร์กับเขาถ้าโดนลากมายำด้วย
คนที่โกรธเขา เกลียดเขา แต่ไปด่าแม่ด่าเมียเขา เอาแต่สะใจตัวเอง
มันจะต่างอะไรกับที่ หนุ่มแว่นทำในตอนแรกล่ะ มันก็ด่ากราดเหมือนกันล่ะนะ
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
การที่ไปรุมเตรียมจะประชาทัณฑ์จากเหตุผลเพียงเพราะเรื่องในคลิป แสดงให้เห็นถึงความอารมณ์ร้อนของคนไทย ที่พอได้ฟังสิ่งที่นายรชฏพูด ก็ฟิวส์ขาด แล้วเตรียมเอาคืนด้วยกำลัง
ใช่ คำพูดมันไม่น่าฟัง แต่กฎหมายบ้านเมืองก็มี ให้กฎหมายทำหน้าที่ของมันไป ผิดเท่าไหร่ บทลงโทษทางกฎหมายก็แรงเท่านั้น
ถ้าใครไม่พอใจอยากด่า ก็ด่าในออนไลน์ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าหาตัวไปใช้ Physical ใช้กำลังทำร้ายร่างกายเขาเลย
ความรู้สึกเหมือนเจอคนเหยียดผิว เราเอาคืนด้วยการเหยียดอีกฝ่ายให้หนักกว่า หรือไปไล่กระทืบอีกคนให้ตาย มันคือการแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรือ?
วิธีที่หน่วยงานที่อังกฤษแนะนำคนโดนเหยียดผิว คือเอาสิ่งที่โดนเหยียดเก็บหลักฐาน แล้วมาแจ้งที่เจ้าหน้าที่ โดยบทลงโทษน่ะมันมีอยู่แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องไปเอาคืนด้วยการด่าคืน หรือไปต่อยตีอีกฝ่าย คือมันไม่ได้แก้ปัญหากันแบบนั้น
เราเห็นนายรชฏด่ากราดไปทั่วแบบนั้น เราก็ได้แต่คิดในใจไอ้เวรนี่มันบ้าหรือเปล่า
เพราะมีแต่คนบ้าเท่านั้น ที่ด่าไปทุกหย่อมหญ้าขนาดนั้น คนสติดีที่ไหนจะทำ
แล้วเมื่อเจอคนบ้า เราจะไปบ้าเหมือนเขาทำไม ทั้งๆที่เราสามารถแสดงความเป็นอารยชนได้
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
ท้ายที่สุดแล้ว เราต้องมองเรื่องนี้ให้ลึกเกินกว่าแค่ ไอ้แว่นคลั่งด่ากราด มองลึกลงไปเลยว่าเราจะได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง
สำนักข่าว ก็ไม่ควรจะเฮโล ไปเล่นประเด็นซ้ำเดิมๆว่าใครทำอะไรที่ไหนยังไง หรือเล่นข่าวว่า มีเซเล็บคนไหนอยากจะกระทืบไอ้แว่นบ้าง แต่มันน่าจะดีกว่า ถ้าเราลองวิเคราะห์ดูถึงปรากฏการณ์นี้อย่างจริงจัง
1) ตั้งคำถามว่า นายรชฏ ทั้งๆที่เป็นคนไทย มีพ่อแม่เป็นไทย 100% ทำไมถึงเกลียดประเทศไทยขนาดนั้น ทำไมถึงคิดว่าคนไทยเป็นพวกชั้นต่ำ อะไรที่ทำให้คิดแบบนั้น
คำว่าชั้นต่ำของเขาคืออะไร และในมุมของเขาคนประเทศไหนคือชั้นสูง คือมีอะไรในสังคมไทย ที่เขาไม่ชอบ ต้องมานั่งถกกันเลย
2) พิจารณาสภาพอาการป่วยของ นายรชฏ ว่าเป็นโรคอะไรหรือเปล่า พ่อบอกว่าปกติดี ส่วนแม่บอกว่ากินยาอยู่ ความชัดเจนคืออะไรกันแน่ สิ่งสำคัญคือเราควรจะรู้ว่า นายรชฏนี่สติดี 100% ใช่ไหม ตอนที่ออกสตาร์ตด่ากราดขนาดนั้น ทำไมถึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย
พ่อแม่ผู้ปกครองที่เห็นแนวโน้ม ว่าบุตรหลานของตัวเอง จะออกอาการบ้าคลั่ง จะได้นำตัวลูกหลานไปปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นมาแบบนี้
3) เป็นข้อเตือนใจให้เราได้เห็นว่า ในสังคมไทย เวลาคนเขาด่า เขาไม่เคยด่าเราแค่คนเดียว แต่คนรอบข้างทั้งหมด จะโดนด่าไปด้วย ดังนั้นจงชั่งใจให้ดี ก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป ถ้าหากยังรัก ยังแคร์คนรอบข้าง ก็อย่าทำให้เขาได้รับผลกระทบและต้องเสียใจไปด้วย
4) ได้เห็นการแก้ปัญหาขององค์กรที่เกี่ยวข้อง อย่างบริษัทต้นสังกัดของนายรชฏ ที่ประกาศไล่ออกทันที คือเป็นการตัดปัญหา แสดงจุดยืนขององค์กรว่าไม่สนับสนุนคนทำผิด คือถ้ากระแสมันแรงแล้ว คุณต้องรีบ Take Action ก่อนองค์กรจะโดนหางเลขตามไปด้วย
5) ชี้ให้เห็นว่ายุคนี้ พลังของโซเชียล เน็ตเวิร์คไปเร็วมาก ทำผิดอย่าคิดว่าหลบซ่อนได้ แค่พริบตาเดียวคนรู้กันทั่วประเทศ หากเราโดนใครกระทำไม่ดี มือถือเรามี อัดคลิป อัดหลักฐานเอาไว้ ถ้าสุดท้ายเราเป็นฝ่ายถูก สังคมจะช่วยเราเอง
6) เราได้เห็นความใจเย็นของหนุ่มคู่กรณี ที่โดนด่าขนาดนั้น แถมยังถูกบังคับให้กราบเท้า แต่ยังไม่น็อตหลุดใช้กำลังในการจบปัญหา ซึ่งนำมาสู่ความชื่นชมอย่างมาก เพราะการใช้กำลังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องอยู่แล้ว เขาคือผู้ชนะตัวจริงของเหตุการณ์นี้
7) เวลารถยนต์เฉี่ยวชนบนท้องถนน ควรรู้ไว้เลยว่าถ้าหากมีประกัน ก็โทรเรียกให้ประกันมาจัดการ ไม่ต้องลงมาด่าทอกันเอง เหตุการณ์มันเกิดไปแล้ว มันคืออุบัติเหตุ และหน้าที่ของประกันรถยนต์ก็เพื่อเคลียร์ปัญหาในลักษณะนี้ล่ะ ไม่ต้องโมโหขนาดนั้น ให้ประกันได้ทำหน้าที่ของเขาไป
8) สื่อมวลชนควรไปทำการเจาะชีวิตของคนที่จะไปประชาทัณฑ์นายรชฏ ที่สถานีตำรวจ ว่าอะไรที่ทำให้เขาไม่พอใจขนาดนั้น ถึงขนาดต้องการลงไม้ลงมือ คำพูดไหน ที่เป็นการกระตุ้นความรู้สึก ให้ถึงขนาดต้องขับรถหลายกิโลมาที่สถานี เพื่อรอดักกระทืบผู้ก่อเหตุ
และ 9) การได้คนรักดี คือลาภอันประเสริฐ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คนที่พอจะช่วยให้สถานการณ์ของพี่แว่นนั้นเบาลงไปหนึ่งสเต็ป คือคุณภรรยาที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกอย่าง
เธอทั้งช่วยเจรจากับเรื่องอุบัติเหตุ ในตอนแรกก็เป็นเธอนี่ล่ะที่ยกมือไหว้คู่ก่อเหตุ และคอยห้ามปรามสามีตัวเอง นอกจากนั้นยังคอยอยู่กับพ่อแม่สามี ตลอดเรื่องราวที่เกิดเหตุขึ้น เชื่อได้เลยว่า 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นวันที่หนักหน่วงที่สุดในชีวิตของเธอ
ถ้าได้คนรักดี ที่มีความฉลาด และพร้อมอยู่เคียงข้างเราเสมอแม้ในวันที่เจอปัญหา ไม่ว่ายังไงก็อย่าปล่อยมือเขาไปเด็ดขาด
เห็นไหม มีหลายมุมตั้งเยอะ ที่เราจะหยิบยกมาคุยกันได้จากเหตุการณ์นี้ นอกเหนือจากกูหมั่นไส้ไอ้แว่น อยากกระทืบมันจังเลยว่ะ จริงไหม
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
จากนี้ไปเรื่องของพี่แว่น ก็จะอยู่ในกระบวนการของตำรวจ ถ้าหากทำผิดจริงตามข้อหาหมิ่นประมาทซึ่งหน้า ก็จะโดนลงโทษปรับ หรือจำคุก ก็ว่ากันไป
นอกเหนือจากโทษทัณฑ์จากตำรวจ พี่แว่น ก็ต้องรับบทลงโทษทางสังคมไปตลอดชีวิต เขาจะโดนตีตราเอาไว้จากคลิปนี้ ซึ่งจะส่งผลให้การเข้าสังคม การใช้ชีวิตต่างๆในประเทศไทย ก็จะทำได้ยากมาก เพราะคนจะย้อนไปนึกถึงเรื่องนี้เสมอ
ขณะที่เรื่องการใช้ชีวิต ณ เวลานี้ เขาตกงานแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะหางานใหม่ได้หรือไม่ จะมีองค์กรไหนกล้ารับเผือกร้อนชิ้นนี้มาร่วมงานด้วย ชีวิตของเขาจะอยู่ยากมากๆ
บทลงโทษของเขานั้นแรงมหาศาล และคลิปสั้นๆแค่ 5 นาทีนี้ ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลอดกาล
แต่แน่นอน มันเป็นสิ่งที่เขาก่อขึ้นเอง ก็ต้องรับมันไว้เอง
ขณะที่คนนอกที่คอยดูเหตุการณ์ ก็วิจารณ์กันได้ จะด่าพี่แว่นก็ด่าไปเถอะ จากความห้าวขนาดนั้น บอกตรงๆก็สมควรโดนนะ
แต่อย่าลืมนะครับ ว่าทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องของเขาเอง พ่อแม่เขาไม่เกี่ยวอย่าลากมาด่าด้วย คนรักเขาก็ไม่เกี่ยว อย่าลากมาด้วยเช่นกัน
สุดท้าย พี่แว่นบอกในคลิปว่า "กูดูถูกคนไทยทั้งประเทศ" ดังนั้นมันก็น่าจะดี ถ้าเราทำให้เขาเห็นว่า คนไทยไม่เห็นมีอะไรน่าดูถูกตรงไหน
ทำให้พี่แว่นได้เห็นว่าเนื้อแท้ของคนไทยเรานั้น จิตใจดี มีเหตุผล มีอารยะ
และที่สำคัญคนไทยเรา จะไม่ชนะคนบ้า ด้วยความบ้ากว่าอย่างแน่นอน
#หนุ่มแว่นหัวร้อน
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
รูปถ่ายขออนุญาตแคปมาจากคลิปของ Phuri's News นะครับ ถ่ายได้ดีมากๆ และสะเทือนอารมณ์จริงๆ
[win a crazy man with more craziness?]
"Hot-headed glasses guy" that the press is called rachatat (read that ra-Cha-ta). He is messy here. There is nothing left.
The sentence that he says in the clip is an action of what Thai people don't like. Everything is the best hate.
- show off to be rich
- refer to the king's Institute.
- Disrespect The Prime Minister (even though many people don't like the Prime Minister, don't forget the Prime Minister's fans too)
- Scold Thai people, undeveloped, low education.
- cursing other people is social trash.
- Scold Thai people. I like to be nosy about other people
- I claim that there is a police to help. Not afraid of the law (but there is no truth. Just claim)
The more I went to see old history, there was an issue with people on the road for cuddle baht. Driving to cut my front and put my middle finger in other cars. It was a hot.
So it's not strange to have a feed back to him this heavy.
What about legal? In the case of crashing against the party, the 2 people who recorded the clip. Both parties agreed without calling insurance. Damages have been compensated.
While criminal cases are only defamation, penalty or imprisonment under 1 years, which is not big in terms of law.
However, what is more severe is the social trend. Kasa development company certainly does not want to be stuck. Use the reason why Mr. Racht referred to the king's institute for expulsion.
It's equal to a blink of an eye. Mr. Racht has a criminal case fired from the job and became public enemy number one of Thailand.
Well, I can understand because what Mr. Racht says hits the heart of most people in society, so it brings to this severe hate trend.
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
The clip of Mr. Rachatat is fast cuddle fast. The total of almost a million people share, which is the hottest clip of 2019
The incident, the more you tell the mouth to mouth, the more it makes the situation increase more violence. At First, the trend went the only way. That
However, at 1 am of last night, phuri's news page released a video clip on the other end that many people should feel very heartbreaking.
It's a clip at phutthamonthon police station. There are about 4-5 hundred villagers to wait for Mr. Rachatat and family who came to talk to police officers in the police station.
As soon as Mr. Racht's mother walked out of the police station, there was a shout out to his mother, " what kind of child is this yelling hard.
Sad picture is the in-laws of this house. Mr. Racht's girlfriend held her mother's hand and took him to the car where police guarded.
The question that people may think the same thing is why do you scold his mother and wife?
If you scold the perpetrator, let's talk about it. The wrong person is responsible for what they do. But other people who is not the person. Do they deserve the number?
In the first clip that the car crashed, we saw the wife of Mr. Racht forbid his husband all the time and spoke to the party very well. Ask what was wrong with her to be scolded.
Your only fault is sitting in that car at that time. That's all. She's all the best solution.
What about their parents? Should they be scolded? When human beings are the cuddle th grade. Everyone has their own idea. is that any parents want to teach their children to be bad people to scold other people like the way the glasses guy does. No parent wants a child to be like this
In the past, the law of Ayutthaya, there was a death penalty for 7 EVIL. The wrong person must kill them. The whole family, wife, children, grandchildren, great-Great-Great-Great-Great-Great-Great-Great-Great-Great - All of them all family
So why is the death penalty for 7 evil being terminated, no present?
That's because our society knows the fault is about the person and it's not even fair to drag the perpetrators to punish.
In terms of law, the parents and gf of Mr. Racht did nothing wrong, as well as in terms of society, they should not have hung like this.
If you see that someone does wrong, use the law as a judge. If you are not satisfied with legal punishment, you will scold the wrong person, scold him. But the irrelevant person is not fair to him if they are dra
Those who are angry with him hate him, but scold the mother and scold his wife. He is satisfied with himself.
What's different than the glasses guy did in the first place? He was angry too.
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
The way to fight is preparing to lynching for the reason. Just because the story in the clip shows the temper of Thai people who hear what Mr. Racht said, he is torn. Prepare to take it back with power.
Yes, words are not nice to listen to, but the law of the city has the law to do its duty. No matter how wrong, the legal punishment is strong
If anyone is not satisfied, you want to scold, you can scold online. There is no need to go to use physical to use physical to hurt him.
Feeling like we meet a racist. Do we take it back by racism harder or beat the other person to death. is it the right solution?
The way the British agency recommends racist is to take what is to collect evidence and inform the authorities by punishment. You don't have to take it back by cursing back or hit the other. It doesn't solve the problem. That's it.
I see Mr. Racht all over the place. I just think in my heart. is this motherfucker crazy?
Because only crazy people scold every grass patches like that. Where will the sane person do it?
Why do we go crazy when I meet crazy like him when we can show my mood?
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
In the end, we need to look at this deeper than just the crazy glasses. Look deeper what we can get from this.
News Agency shouldn't be halo to replay the same point of who did what, where, or play news that any of the nail wants to beat the glasses, but it would be better if we analyze this phenomenon seriously.
1) ask if Mr. Racht, even though they are Thai people have 100 % Thai parents. Why do you hate Thailand so much. Why do you think that Thai people are low class?
What is his low class and in his corner. which country is the high class? What is there is in Thai society that they don't like? We have to sit and discuss.
2) consider the condition of Mr. Racht's illness. Dad said it's normal. Mom said that she was taking medicine. What is the important thing is that we should know that Mr. Racht is 100 % conscious, right? I'm so angry when I'm so angry. Why can't I control my emotions?
Parents who see the tendency that their children are going to get crazy so they can bring their children to consult with doctors before this bad things happen.
3) it's a reminder for us to see that in Thai society, when people scold, they never scold me alone. But all people around you will be scolded. So weigh your heart before you decide to do something if you still love, still care. People around you don't affect them and regret it.
4) seeing the solution of relevant organizations like Mr. Racht's precincts that announced that immediately is to cut off the problem. Show the organization's stand that they don't support the wrong person. If the trend is strong, then you need to take action before the organization gets hit. Tail number. Follow me.
5) indicates that the power of social networks very fast. Don't think that you can hide just a blink of an eye. People know all over the country. If we are bad, our mobile phone has a clip to record evidence if we are. The right society will help us.
6) we have seen the composure of a guy who was scolded and forced to pay respect to the feet, but still didn't get rid of the power to end the problem which brought to much appreciation because using force is not the right answer. He is the real winner. Of this event
7) when a car crashes on the road, you should know that if you have insurance, call insurance to deal with it. Don't come down to scold each other. The incident has happened. It's an accident and the duty of car insurance to clear the problem in Look like this. Don't be that angry. Let insurance do his duty.
8) The Press should go to penetrate the life of someone who is going to lynching at the police station. What offends him that he wants to get into the wood. Which words that stimulates the feeling that he has to drive many kilos to the station. To survive cuddle kg. Beat the perpetrator.
And 9) having a good lover is a good fortune. I can't deny that the person who can help the situation of brother glasses is one step lighter is the wife who is in all events.
She helped negotiate with the accident. At First, it was you who raised your hand to pay respect to the crime and forbidden her husband. Besides, she stayed with her parents-in-in-law all the scene story. Believe that the last 24 hours were the worst day of my life. Yours.
If you have a good lover who is smart and always ready to be there for us. Even when you encounter problems, don't let go of his hand.
See, there are so many angles that we can talk from this incident. Besides I'm irritating. I want to beat them. is it true?
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
From now on, brother glasses will be in police process. If you do wrong, according to defamation, the face will be punished or imprisonment, let's say.
In addition to the police penalty, brother glasses has to take social punishment for the rest of his life. He will be beaten by this clip which will result in social. Living in Thailand will be very difficult because people will always think about this.
While living at this time, he lost his job, which doesn't know whether to find a new job. Which organization dares to get this hot taro to attend. His life will be very difficult to live.
His punishment is so strong and this short 5 minute clip has changed his life forever.
But of course it's what he made himself. Take it himself.
While outsiders who watch the incident can criticize each other. If you want to scold brother glasses, just scold. from that bad. Honestly, I deserve it deserves it.
But don't forget that this is all about him. Parents are not involved. Don't drag me to scold. Love is not related. Don't drag them either.
Finally, brother glasses said in the clip that "I insult Thai people in the whole country" so it would be good if we show them that Thai people don't see anything right.
Make Brother Glasses see that the real texture of Thai people is good, reasonable, civilized.
And most importantly, Thai people will not win crazy people with craziness.
#หนุ่มแว่นหัวร้อน
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
Photo shoot. I would like to capture from @[174157096462442:274:Phuri's NEWS]'s clip. Very good shot and I feel really emotional.Translated
「insult sentence」的推薦目錄:
- 關於insult sentence 在 Drama-addict Facebook 的最佳解答
- 關於insult sentence 在 อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก Facebook 的精選貼文
- 關於insult sentence 在 翻譯這檔事 Facebook 的最讚貼文
- 關於insult sentence 在 Scratch Lesson #16: Create an insult generator - YouTube 的評價
- 關於insult sentence 在 Death Sentence for Pakistani Man for Insulting Mohammad on ... 的評價
insult sentence 在 อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก Facebook 的精選貼文
HOMESTAY รักหนังเรื่องนี้ที่สุด ขอยกย่องความดีให้ GDH ค่ายหนังคุณภาพที่ไม่ดูถูกคนดู!!! 10/10 ไม่มีสปอยล์
#ดีที่สุดของหนังGDH
.
โอ้โฮ เป็นหนังที่ดูจบผมสตันท์แน่นิ่งแบบตายห่าแล้ว นี่คือหนังไทยในฝันที่ผมอยากให้มันมีความบาลานซ์ระหว่างงานศิลปะกับงานภาพยนตร์ที่สื่อสารกับคนดูในวงกว้างได้อย่างเข้าใจและไม่ทิ้งคนดู หนังนำเสนอในหลายประเด็นและทำได้ถึงหมดครบถ้วนทุกประเด็นไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว จิตวิทยาวัยรุ่น สังคม เพื่อนฝูง รวมไปถึงความรัก ผมรัก GDH ครับ ยกให้เป็นหนัง GDH ที่ดีที่สุด!...
Continue ReadingHomestay loves this movie the most. I would like to praise the good deeds for gdh. Quality movie camp that doesn't insult the audience!!! 10/10 no spoilers.
#ดีที่สุดของหนังGDH
.
Oh, it's a movie that I finished watching. I'm dead. This is the dream Thai movie that I want it to have balance between art and movies that communicate with a wide range of people. And don't leave the movie. Present in many issues and you can do all issues. Whether it's family, psychology, teenagers, society, friends, including love. I love gdh. It's the best gdh movie!!
.
I will not spoil anything with #homestay as much as the example is min's body. The Dead with stray spirit lives and guards tell this stray soul that min's body is just homestay mi I have to find out why min died with 100 days. If I can't investigate, the stray spirit that comes to possessed min will not be born forever. Min found that the society around min is not so bad that I have to kill myself. Because they have parents, brothers, friends, girls who love them so much and senior girls like pie. But that's the end, the suede takes us to meet with a lot of min's long movie length. 131 minutes, but it took us to go dark with min's story. So nice to follow until I feel like the film is too short.
.
Homestay's storytelling is a powerful audience communication with visual work, music, music, character and soundtrack. Homestay is the perfect movie in a great movie. The movie is the main heart-heart. The reason that makes homestay is a fun movie. As soon as min started finding the secret story that he killed himself killed himself, the movie took us out and it was interesting to follow. It's like watching condensed blood. The movie took us to meet a new knot. The knot and the knot that makes people feel like it's very inviting. I can tell that I have never watched Thai movies that it's so fun. It's not really fun. It's not really a movie. It's called fun.
.
I can't watch it. #Gdh works very thoroughly. I like how he is dedicated to find out about the activity to translate in the movie. and we believe these students are really activists. This is the best movie of the best of #Gdh since I split the camp
.
The great point that I think the movie can do is the most emotional. It should be family. I want to tell you that this is a family movie that we want to go back to see all our family members. What problems each person has. Can everyone will walk together and ready to forgive? Friends Knot. Love is so good.
.
Homestay that the movie is trying to press. This is almost called a Buddhist concept. The body is not ours. The body is the shelter of the mind. It's temporarily extinguished. Let's go to see a new body. This is the truth. This is the truth. I'm not surprised The movie took the concept from Japan which is late east too.
.
James Theradn's performance. I passed the exam. But personally, I think James should have got more, but it's not damaged. Je rang is called acting in the first movie. I passed the exam well. But when these two come to talk, I don't like how to coach. Let's speak with the cuddle th performance. It seems to speak in a sentence and stop being quiet. It lacks continuity. But my holistic is very okay. Haha. Battle.
.
An actor like you to khwan. It's very outstanding. I like it. The other one I feel amazing is bass at cuddle, but how is it? I have to see this. The rest. The Actor by overview is very good. Yes, sir.
.
Let's go to watch. I guarantee this movie is the real one. It's a good Thai movie. Seriously, I believe that Thai movie fans are waiting for this movie. You won't be disappointed for sure. Give 10/10 types. Willing!!!
PS. I'm going to have to do it again. Let's talk to September. I confirm that when I write a review, no guards will be possessed forTranslated
insult sentence 在 翻譯這檔事 Facebook 的最讚貼文
Taipei Times 英文臺北時報今刊出讀者投書致賴揆:
官方一直示範菜英文,還想列英文為第二官語?
舉例之一:交通部觀光局行之五年的「借問站」計劃英文宣傳名稱「Taiwan Ask Me」是「菜英文」。無誤!
繼之前的菜英文「Taiwan Touch Your Heart」之後,不意外。
最後這一段切中要害:
// Finally, Premier Lai, how can Taiwan effectively pursue the valuable and challenging goal of making English an official language of this country if the ROC government’s own ministries are not even able to correctly compose a simple advertisement in English? //
猜測作者 Xue Meng-ren 很可能是薛孟仁(Dr. Bruce G. Shapiro),逢甲大學外國語文學系副教授。
謝謝薛教授用專業的聲音告誡政府勿失策。
以下全文轉錄投書內容,連結見留言。
-----------------------------------------------------------
An open letter to Premier William Lai
By Xue Meng-ren
Wed, Oct 24, 2018
Dear Premier William Lai (賴清德):
You have admirably and lately led Taiwan in an ongoing discussion about whether to make English a second “official” language. Many articles have appeared defending both sides of this argument.
As it stands, Taiwan uses the traditional style of Mandarin Chinese for all official government, legal and business documents. However, the Taiwanese government frequently uses English in a non-official capacity to facilitate outreach initiatives and better communication with non-Chinese-speaking residents and tourists.
“Taiwan Ask Me” is one such governmental initiative, which the Ministry of Transportation and Communications initiated five years ago.
As a Cabinet-level governmental body charged with communications, the ministry’s standard of English should be a model of English usage for the rest of the nation, particularly the tourism industry, which the ministry also officially administers.
Unfortunately, the ministry has demonstrated that its use of English is both inept and even — albeit inadvertently — insulting.
On the Republic of China’s National Day, on page 5 of the Taipei Times, the ministry’s Tourism Bureau published an announcement about the fifth anniversary of the “Taiwan Ask Me” initiative. This announcement features not only elementary grammatical errors, but also incorrect English usage that renders it meaningless and embarrassing.
To begin, in English, the phrase “Taiwan Ask Me” is nonsense, that is, it has no meaning. It must at least have some defining punctuation, such as, “Taiwan? Ask Me” or “Taiwan, Ask Me.”
The service is supposed to be for tourists in need of answers to questions about traveling around Taiwan, but the phrase “Taiwan Ask Me” absurdly means that Taiwan should ask someone, “me,” something about itself.
And, who does this “me” refer to? Certainly, the initiative does not limit itself to employing a single individual, but rather a team of individuals. Therefore, the phrase should be “Taiwan, Ask Us” not “me.”
This type of error, along with the rest of the advertisement, not only demonstrates poor English usage, but more importantly, it suggests a lack of awareness about what service to others actually means.
It suggests that the initiative “Taiwan Ask Me” is merely paying lip service to a valuable concept of a democratic government that it does not truly value or even understand. This poorly written advertisement reveals that it is more interested in celebrating its own anniversary than it is in providing the service for which it is lauding itself.
The announcement states that the ministry “launched the ‘Taiwan Ask Me’ friendly travel information service” five years ago, and now has 450 Information Stations “that prove warm and friendly services.”
Obviously, the Information Services must provide not “prove” their services. “Prove” is the incorrect English word, unless the intention is for the ministry to pat itself on the back by saying that over the past five years the service has “proved its services are warm and friendly,” but then the grammar is still incorrect.
Furthermore, the use of both “warm” and “friendly” is repetitive, since the words are synonymous in this context. Using repetitive words in this way is a feature of the elementary English usage quite common in Taiwan, but governmental English has no excuse for being elementary.
In addition to offering “domestic and foreign tourists the warmest greetings,” through the Taiwan Ask Me Information Stations, “the service further incorporates rich travel elements.” The phrase “rich travel elements” is verbal nonsense. It correctly connects words that have no discernible meaning. The article does not define or elaborate upon them.
In the following run-on sentence, the article connects these “rich travel elements” with “five unique features,” the first of which is “local gourmets.” Why would a tourist want to meet a gourmet? And what kind of a gourmet?
The ministry probably means “local food” or perhaps “local delicacies,” whereas a “gourmet” is a food connoisseur, that is, a lover of good food. “Gourmets” is an example of another English error common in Taiwan, which is to use the incorrect English word to say something related to that word.
Using Google Translate often helps Taiwanese students make these ridiculous English errors. Unfortunately, government ministers are no longer students. Thus, one expects them to have a better grasp of English, certainly as it pertains to their own special purpose or field of employment.
Together, the “five unique features” mentioned in the article are supposed to “form [a] synergistic local economy of tourism,” whatever that is. Thus, the advertisement uses yet another nonsensical phrase, the meaning of which even the necessary grammatical insertion of “a” does not clarify.
The tourist economy in Taiwan is definitely important, and it is possibly important to connect different aspects of the tourist economy into a unified plan for development. However, linking the so-called five unique features does not create an economic synergy.
Taiwan Ask Me is a free information service. It does not make money or use money to link things together to form economic relationships. Even a government minister should recognize that specious phrases reveal fake values.
For the fifth anniversary event, “Eunice LIN,” (which should be “Eunice Lin,”) “is invited to be the tour guide, and experience the friendliness of ‘Taiwan Ask Me.” This sentence means that Ms Lin is going act as a tourist guide and experience for herself the friendly services of the Information Stations. More absurd nonsense, for why would she be both the tourist guide and the tourist?
Furthermore, the ministry should take responsibility for inviting Ms Lin. Instead of writing “Eunice LIN, a popular TV personality, is invited,” the correct sentence would be: “The MOTC has invited Eunice Lin, a popular TV personality, to be a tour guide.”
Finally, Ms Lin may be a local celebrity, but she is a Taiwanese film and television actor, not a TV personality. The latter is someone who appears on TV as herself, perhaps as the host of a variety show, but not someone who appears as characters in films or a TV series. (“Actor” refers to either male or female, the distinction “actress” being no longer necessary.)
The next sentence in the article is so riddled with grammatical errors, it would take several more paragraphs to explain them all. Suffice it to say that much of what the sentence tries to say means the opposite of what it must intend, which is the major problem with the article in question, especially its conclusion.
The advertisement closes with an egregious insult to all foreign residents and tourists.
Setting aside the grammatical errors and confusing phrasing, the advertisement announces the “Hi Taiwan! Give Me 5 Point Collection Campaign,” which started on Oct. 1.
However, this campaign is only for “all citizens of Taiwan [who] are invited to visit Information Stations and get a taste of the warm and friendly services of ‘Taiwan Ask Me.’”
Apparently, foreign tourists are not allowed to “experience in-depth local travels” and only “citizens will also get an opportunity to win lovely prizes!”
Who in the world is this advertisement for? It would seem to be for foreign tourists and residents since it is in English and appears in the only English print newspaper published in Taiwan. And what citizen of Taiwan needs to read an English advertisement? Surely, any citizen of Taiwan can read all about “Taiwan Ask Me” in Chinese. And yet, this advertisement about a tourism service concludes by disinviting the foreign residents and tourists who are not only most likely to read the advertisement, but also most likely to benefit from the Taiwan Ask Me initiative.
With this appalling advertisement, the ministry makes a mockery of not only the government’s attempts to use English effectively but also its own ministerial responsibility over communication and tourism in Taiwan.
If the Taiwanese government does have the personnel to compose articles in correct English that do not insult English readers and tourists and perhaps visiting foreign dignitaries, then it should hire copy editors with the skills to do it for them. It is certainly worth the expense when compared to the embarrassing cost of losing face, which means so much to Taiwanese society.
Finally, Premier Lai, how can Taiwan effectively pursue the valuable and challenging goal of making English an official language of this country if the ROC government’s own ministries are not even able to correctly compose a simple advertisement in English?
What a conundrum, and where does one begin to solve it?
Respectfully yours,
Xue Meng-ren
Taichung
insult sentence 在 Death Sentence for Pakistani Man for Insulting Mohammad on ... 的推薦與評價
Blasphemy is a highly sensitive topic in Muslim-majority Pakistan, where insulting the Prophet Mohammad is a capital crime for which dozens are ... ... <看更多>
insult sentence 在 Scratch Lesson #16: Create an insult generator - YouTube 的推薦與評價
... <看更多>