From today Tuesday 8 June, Galleria Borghese will open the exhibition #ArchaeologyNow by #DamienHirst, sponsored by #Prada and conceived by Anna Coliva and Mario Codognato to conclude the museum’s programmed series of exhibitions.
Hirst’s works will be displayed throughout Galleria Borghese, a museum with a superb collection of masterpieces of classical Roman sculpture, Italian paintings of the Renaissance and the 17th century, and the most important works of Bernini, Caravaggio and Canova.
The works by Hirst will complement the range of inventions and techniques seen in the museum’s collection, showcasing the artist’s incredible ability to combine concepts and narratives with the exceptional skills needed to create these complex works, which has been a constant of this institution.
Discover more: https://tinyurl.com/4murydkm
#GalleriaBorghese #Prada
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過9萬的網紅Hak Me,也在其Youtube影片中提到,Hope you enjoy this #hakmeweeklyvlog so far and be sure to stayed tuned for more! I do two videos a week on Tuesday and Thursday at 9.30am (Hong Kong ...
「italian renaissance」的推薦目錄:
- 關於italian renaissance 在 Prada Facebook 的精選貼文
- 關於italian renaissance 在 TravelKanuman / คา นู แมน 2เท้าชาวท่องโลก Facebook 的最讚貼文
- 關於italian renaissance 在 STYLE-TIPS.COM Facebook 的精選貼文
- 關於italian renaissance 在 Hak Me Youtube 的最佳解答
- 關於italian renaissance 在 VOGUE Taiwan Youtube 的精選貼文
- 關於italian renaissance 在 Laowu老吳 Youtube 的最佳解答
italian renaissance 在 TravelKanuman / คา นู แมน 2เท้าชาวท่องโลก Facebook 的最讚貼文
Florence เมืองหลวงแห่งศิลปะของโลก
--------------------------
แจกข้อมูลเมืองฟลอเร้นซ์แบบละเอียดสุด ๆ หาข้อมูลรอวันกลับไปเที่ยวได้เลย
--------------------------
หนึ่งในเมืองที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยทางศิลปะมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เมืองที่อบอวลไปด้วยกิ่นอายของศิลปิน เมืองที่ทุกซอกทุกมุมล้วนแล้วแต่มี design
--------------------------
Florence หรือที่ชาวอิตาเลี่ยนเรียกกันว่า Firenze นั้นเป็นเมืองหลวงของแคว้นชื่อดังที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีอย่าง Tuscany แคว้นที่ว่ากันว่าสวยที่สุดทางตอนกลางของประเทศ Italy ด้วยภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์ใจ เนินเล็ก ๆ ท่ามกลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ยามตกกระทบกับแสงสาดส่องจากดวงะวัน ประกอบกับฉากหลังเป็นสถาปัตยกรรมที่ล้ำค่า ทำให้ที่แคว้นนี้มีเมืองเล็ก ๆ ที่น่าท่องเที่ยวตั้งอยู่อย่างมากมาย และแน่นอนว่าเป้นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากจะมาสัมผัสซักครั้งหนึ่งในชีวิต
--------------------------
และในแคว้นที่สวยงามนี้ Florence ถือเป็นเมืองที่ใหญ่และมีสถาปัตยกรรมที่งดงามมากที่สุด เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของแคว้น จะไปไหนมาไหนก็ักจะต้องมาเริ่มต้นกันที่นี่ จะหาที่พักก็ง่าย เหมาะจะใช้เป็นที่มั่นในการออกเที่ยวเมืองเล็ก ๆ ต่าง ๆ ในประเทศ
--------------------------
เมืองที่สวยงามแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เริ่มตั้งแต่ราว 100 ปีก่อนคริสตกาล ที่เริ่มก่อตั้งชุมชนเล็ก ๆ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Flume Arno ก่อนที่จะโดนปกครองโดยชาวโรมันเป็นเวลายาวนาน กว่าพันปี เหมือนกันเมืองส่วนใหญ่ของอิตาลี Florence ถือเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญของภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะการขายผ้าและการธนาคาร ที่ถือเป็นธุรกิจหลักของสมัยนั้น และในช่วยศตวรรษที่ 15 Florence มีความเจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด เป็นเมืองศูนย์กลางของการฟื้นฟูศิลปะแบบ Renaissance มีศิลปินมากมายกำเนิด หรือทำงานที่นี่ มีระบบอุปถัมภ์ศิลปินที่ดีเยี่ยม ศิลปินได้รับการยกย่องอย่างสูงและถือเป็นชนชั้นที่มีบทบาทอย่างมากกับการพัฒนาเมือง ทั้งทางด้านศิลปะ วิทยาการ การเมืองและสังคม โดยศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็ได้แก่ กาลิเลโอ และมิเคลันเจโล ที่โด่งดังไปทั่วโลก เรียกได้ว่าใคร ๆ ก็ต้องรู้จักทั้งสองคนนี้แม้จะไม่ได้ชื่นชอบงานศิลปะหรือประวัติศาสตร์เป็นพิเศษก็ตาม
หลังจาก คริสตศตวรรษ ที่ 16 จักรวรรดิ์ฮังการีและออสเตรียก็ได้เข้ายึดครอง Florence ก่อนที่จะรวมตัวกับแคว้นอื่น ๆ ประกาศตัวเป็นประเทศ Italy ในปี 1860 และดำรงบทบาทเป็นเมืองสำคัญของประเทศเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
--------------------------
การเดินทางมา Florence
--------------------------
เนื่องจากเป็นเมืองหลสงของแคว้น รวมทั้งยังเป็นเมืองหลักที่ตั้งอยู่กลางประเทศด้วย ทำให้การเดินทางมาที่นี่สะดวกสบายอย่างมาก จะขึ้นเหนือหรือลงใต้ก็อยู่บริเวณศูนย์กลางพอดิบพอดี
--------------------------
โดยรถไฟ
--------------------------
มีรถไฟวิ่งมาจากเมืองใหญ่หลาย ๆ เมืองทั้ง Milan Venice Rome รวมถึงรถไฟระหว่างประเทศสำหรับเดินทางไป Swiss อีกด้วย โดยสถานีหลักของเมืองคือสถานี Firenze S.M.N ( Santa Maria Novella ) โดยเส้นทางสายหลักที่ผ่านก็คือเส้นทางสาย Rome - Milan โดยค่าโดยสารไปยังเมืองต่าง ๆ เป้นดังนี้
Rome 17.25 ยูโร ใช้เวลา 2-4 ชั่วโมง
Milan 29.59 ยูโร ใช้เวลา 2-3.5 ชั่วโมง
Venice 24 ยูโร ใช้เวลา 4.5 ชั่วโมง
Bologna 10.50 ยูโร ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง
Pisa 5.80 ยูโร ใช้เวลา 45 นาที
Lucca 5.10 ยูโร ใช้เวลา 1.5 ชั่วโมง
เราสามารถฝากกระเป๋าเดินทางเอาไว้ที่สถานีได้โดยจุดฝากอยู่ที Platform 16 ราคา 5 ชั่วโมง 5 ยูโร ชั่วโมงต่อ ๆ ไป คิดชั่วโมงละ 0.7 ยูโร
--------------------------
การเดินทางใน Florence
--------------------------
เนื่องจากขนาดเมืองที่ไม่ใหญ่โตนัก ทำให้เราสามารถเดินเที่ยวได้เกือบรอบตัวเมืองเก่า โดยไม่จำเป็นต้องใช้รถแต่อย่างใด ยกเว้นเพียงบางสถานีที่อยู่นอกเมืองเท่านั้นที่จำเป็นต้องใช้รถบัส เช่นจุดชมวิวนอกเมือง โดยมีรถบัสให้บริการ ป้ายที่ขึ้นสะดวกที่สุดจะอยู่หน้าสถานีรถไฟหลักเลย ค่าโดยสารเที่ยวละ 1.20 ยูโรหาซื้อตั๋วได้ตามร้านค้าปลีกทั่วไป หากจ่ายบนรถจะคิดค่าตั๋ว 2 ยูโร หรือซื้อตั๋วเหมาจ่าย 1/3/7 วัน ราคา 5/12/18 ยูโร
--------------------------
ที่ท่องเที่ยว
--------------------------
--------------------------
บริเวณ PIAZZA DEL DUOMO
--------------------------
ย่านนี้จะเป็นเหมือนศูนย์กลางของเมือง มีผู้คนพลุกพล่าน ร้านค้าร้านอาหารก็เยอะแยะมากมาย เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในเมืองอย่าง Duomo ตั้งอยู่ ถ้าหากอยากจะหาที่พักล่ะก็ ย่านนี้น่าสนใจเป็นที่สุดเพราะจะไปไหนมาไหน หรือหาของกินก็ง่ายแสนง่าย
--------------------------
DUOMO ( Santa Maria del Fiore )
--------------------------
เวลาทำการ
โบสถ์ จันทร์ พุธ ศุกร์ 10.00 - 17.00 พฤหัสเปิดถึง 16.00 เสาร์เปิดถึง16.45 อาทิตย์ 13.30 -16.45
ขึ้นโดม จันทร์ ถึง ศุกร์ 8.30 - 18.00 เสาร์ 8.30 - 17.00
ขึ้น Campanile 8.30 - 18.50
ค่าเข้าชม รวมทุกสถานที่ 10 ยูโร โดยต้องไปซื้อตั๋ว ณ จุดขายก่อนที่จะมาต่อคิวแสดงตั๋วเพื่อเข้าชม ส่วน Duomo เข้าชมฟรี
หนึ่งในโบสถ์ที่ใหญ่และสวยมากที่สุดในโลกก็คือ Duomo ประจำ Florenc ที่ตั้งอยู่ที่ PIAZZA DEL DUOMO นั่นเอง มหาวิหารแห่งนี้มีชื่อเต็มว่า Santa Maria del Fiore ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1296 ก่อนจะตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อความสวยงามเมื่อราว 200 ปีก่อน จุดเด่นที่สุดของมหาวิหารแห่งนี้คงไม่พ้น ยอดโดมที่มีขนาดใหญ่มาก สร้างขึ้นในปี 1420 ถึง 1436 ออกแบบโดย Fillippo di Ser Brunelleschi ผู้ที่ถือว่าเป็นบิดาของสถาปัตยกรรมแนว Renaissance และเป็นผู้คิดค้นพบทฤษฎี Perspective อีกด้วย ซึ่งการค้นพบนี้เองทำให้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในศิลปะทุกแขนง เรียกได้ว่าเป็นผู้ให้กำเนิดศิลปะยุคใหม่เลยก็ว่าได้
แต่เดิมโดมแห่งนี้มีการหยุดสร้างอยู่พักหนึ่งเนื่องจากไม่สามารถหาช่างที่จะมาออกแบบการรับน้ำหนักของโดมขนาดใหญ่แบบนี้ได้ จน Brunelleschi อาสาเข้ามาแก้ปัญหา จึงได้เกิดสถาปัตยกรรมที่ล้ำเลิศทั้งความงดงามและทรงคุณค่าในด้านเทคนิคนี้ขึ้นมาได้
Brunelleschi ออกแบบโดมเป็นลักษณะครึ่งวงกลมคล้ายกับของโรมัน แต่เปลี่ยนจากวงกลมมนเป็นรูปทรงหกเหลี่ยม และใช้คานรองรับน้ำหนักของโดมโดยตัวค่นวิ่งไปบรรจบที่ยอดโดม สามารถมองเห็นจากภายนอกโดมได้ด้วย
เมื่อสร้างเสร็จ โดมแห่งนี้ก็มีชื่อเสียงอย่างมากในฐานะสถาปัตยกรรมที่ก้าวล้ำนำสมัย และเป็นความภาคภูมิในของชาวเมืองเป็นอย่างมาก จึงได้มีการออกกฎไม่ให้มีการสร้างสิ่งก่อสร้างอื่นใดที่สูงกว่ายอดโดมนี้อย่างเด็ดขาด และได้มีการฝังศพของ Brunelleschi อยู่ที่โดมแห่งนี้ด้วย ปัจจุบัน โดมนี้เปิดให้เข้าชม และสามารถขึ้นบันได 436 ขั้นขึ้นไปชมความงดงามของเมืองได้อีกด้วย
ในส่วนอื่น ๆ ของโบสถ์นั้นก่อสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสามสี ซึ่งนำมาจากสามเมือง มีหอระฆัง Campanile ที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวได้ เช่นเดียวกับตัวโดม โดยมีบันได 414 ขั้น
ส่วนภายในมหาวิหารนั้นประดับประดาด้วยภาพเขียนจากศิลปินชื่อดังหลายชิ้น ที่เด่นถือภายในส่วนของโดมเป็นภาพเขียน "Last Judgment" ผลงานของ Vasari และ Zucarri การเข้าชมไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องแต่งตัวสุภาพ ทางที่ดีงดใส่เสื้อแขนกุดหรือกางเกงที่สั้นมาก ๆ จะดีกว่า
ในบริเวณนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์ Museo dell’ Opera del Duomo ที่เก็บรวบรวมงานศิลปะหลายอย่างให้ได้ชมกัน โดยเฉพาะผลงานของ มิเคลลันเจโล
--------------------------
บริเวณ PIAZZA DELLA SIGNORIA
--------------------------
อีกจัตุรัสหนึ่งที่เชื่อมต่อมาจาก PIAZZA DEL DUOMO ไม่ไกลนัก ที่นี่ก็มีความคึกคักไม่แพ้กันเลย ที่น่าสนใจที่สุดก็คือบริเวณลานกว้างจะมีปฎิมากรรมสวย ๆ ตั้งอยู่หลายชิ้นด้วยกัน เราสามารถชมความงามและถ่ายรูปได้โดยไม่เสียเงินซักยูโรเดียว และไฮไลท์ก็คือ รุปสลักเดวิด ที่จำลองมาแทนของจริงที่เก็บเข้าพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว และบริเวณ Loggia del Lanzi ที่อดีตเคยเป็นเวทีพิธีการทางราชการต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้ก็ได้ดัดแปลงให้เป็นที่จัดแสดงงานปฎิมากรรมเอกหลายชิ้น และที่สำคัญคือ ชมฟรีเช่นกัน
--------------------------
Galleria degli Uffizi
--------------------------
เวลาทำการ อังคาร - อาทิตย์ 8.15 -18.05
ค่าเข้าชม 6.5 ยูโร
หรือเรียกกันว่าหอศิลป์ Uffizi เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก พิพิธภัณฑ์นั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของ Palazzo delgi Uffizi
โดยพิพิธภัณฑ์มีประวัติเริ่มก่อสร้างในปี 1560 เพื่อเป็นสำนักงานของผู้พิพากษาในเมือง Florence และใช้ชื่อว่า Uffizi ( ความหมายเดียวกับ Office ในภาษาอังกฤษ ) การก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 1581 โดยภายในตัวอาคารมีการวางผังให้มีทางเดินแคบ ๆ ทอดยาวไปที่แม่น้ำ Arno เพื่อเปิดภูมิทัศน์ไปสู่แม่น้ำ การประดับตกแต่งจะเน้นความมีมิติของตัวสถาปัตยกรรม โดยการใช้บัวเป็นตัวเชื่อมความต่อเนื่องและเล่นกับมิติของสายตา
หลังจากใช้เป็นสำนักงานของผู้พิพากษาและใช้เป้นที่เก็บเอกสารมาเป็นเวลานาน จึงได้เปลี่ยนมาเป็นหอศิลป์ที่ใช้จัดแสดงศิลปะของตระกูลเมดิซี เก็บรวบรวมผลงานศิลปะของตระกูลไว้กว่า 3,000 ชิ้น จนภายหลังตระกูลเมดิซี ได้ยกสมบัติทั้งหมดให้กับผู้ครองเมือง โดยมีข้อแม้ว่าจะไม่โยกย้ายงานทั้งหมดออกนอกเมือง Florence อย่างเด็ดขาด
นั่นเป็นต้นกำเนิดของพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ โดยเปิดให้เข้าชมเป็นกลุ่ม โดยต้องยื่นคำร้องมาก่อนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 ก่อนจะเปิดให้เข้าชมทั่วไปในปี 1765 และมีงานศิลปะเข้ามาจัดแสดงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่มีที่จัดแสดงเพียงพอ ทางเมืองจึงได้ตัดสินใจขยายพื้นที่พิพิธภัณฑ์จาก 6,000 ตารางเมจรเป็น 13,000 ตารางเมตรในปัจจุบัน ทำให้สามาถจัดแสดงผลงานที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้หลายร้อยปีโดยไม่เคยนำออกมาแสดงได้เพิ่มขึ้นโดยผลงานชิ้นสำคัญที่เป้นที่รู้จักก็ได้แก่ The birth of Venus ผลงานของ Sandro Botticelli ภาพวาดที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักดี
และแน่นอนว่าดังขนาดนี้ต้องมีคนเข้าคิวมากมาย ฉะนั้นขอแนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าจาก internet ที่ http://www.uffizi.com
--------------------------
Palazzo Vecchio
--------------------------
เวลาทำการ วันศุกร์ -พุธ 9:00–23:00 วันพฤหัสบดี 9:00–14:00
ค่าเข้าชม 10 ยูโร
แปลเป็นภาษาไทยแบบตรงตัวก็คือวังเก่านั่นเอง ปัจจุบันเป็นที่ว่าการเมือง Florence ตั้งอยู่ในบริเวณ PIAZZA DELLA SIGNORIA ใกล้ ๆ กับรูปจำลองเดวิด
แต่เดิมที่นี่เรียกว่า Palazzo della Signoria แต่มีการเปลี่ยนในภายหลังไปอีกหลายชื่อ ทั้ง Palazzo del Popolo , Palazzo del Priori เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในช่วงนั้น ๆ จนมาใช้ชื่อในปัจจุบันในที่สุด
อาคารนี้ถูกสร้างขึ้นโดย Arnolfo di Cambio ในระหว่างปี 1298 ถึง 1314 โดยจุดสำคัญที่ทำให้มีชื่อเสียงคือวิวจากหอคอยที่สูง 94 เมตร Torre d’Arnolfo สามารถมองเห็นวิวโดยรอบเมืองได้สุดสายตา และนอกจากนี้ยังมีการประดับตกแต่งภายในที่สวยงามอีกด้วย
--------------------------
Piazza San Marco
--------------------------
จัตุรัสที่อยู่บริเวณตอนเหนือของเมือง บริเวณมหาวิทยาลัยของเมือง ถึงแม้จะดูไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ไปบ้าง แต่ก็มีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่าง Galleria dell’ Accademia ที่เป็นที่เก็บรูปปั้นเดวิดอยู่
--------------------------
Galleria dell’ Accademia
--------------------------
เวลาทำการ อังคาร - อาทิตย์ 8.15 -18.50
ค่าเข้าชม 10 ยูโร
พิพิธภัณฑ์ชื่อดังของเมือง Florence ตั้งอยู่บริเวณทางใต้ของ Piazza San Marco แต่เดิมเป็นโรงเรียนสอนศิลปะที่มีอายุยาวนานมาก จนมาเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
ถ้าเห็นคนต่อแถวด้วยคิวมหาศาลแล้วล่ะก็เดาเอาไว้ได้เลยว่าเป็นคิวเพื่อเข้าชม Galleria dell’ Accademia นั่นเอง ความสำคัญที่สุดของพิพิธภัณฑ์นี้ก็คือเป็นที่เก็บรักษางานปั้นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติอย่าง รูปปั้นเดวิด ( Michelangelo’s David ) ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของ มิเคลลันเจโลนั่นเอง
เดวิดเป็นรูปปั้นของชายหนุ่มเปลือยกายรูปร่างกำยำ มีกล้ามเนื้อที่ดูสมสัดส่วนน่าเกรงขาม มีขนาดสูงราว 160 นิ้ว หรือสองเท่ากว่า ๆ ของขนาดคนปกติ ที่แกะสลักจากหินอ่อน โดยมิเคลลันเจโลในวัย 29 ปี แต่กว่าจะแกะแล้วเสร็จเขาก็อายุ 33 เสียแล้ว เพราะใช้เวลาในการแกันานถึง 4ปีทีเดียว
รูปปั้นเดวิดนี้แต่ก่อนเคยตั้งอยู่กลางแจ้งที่ Piazza della Signoria แต่เนื่องจากต้องตากแดดตากฝน จึงกลัวว่าจะได้รับความเสียหาย จึงได้นำมาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในปี 1873 และทำรุปปั้นจำลองเอาไว้ที่จัตุรัสแทน
ส่วนงานอื่น ๆ ในพิพิธภัณฑ์นั้นก็เป็นงานปฎิมากรรมที่มีความสวยงามมากเช่นกัน ทั้งงานของมิเคลลันเจโลเองและงานของศิลปินคนอื่น ๆ
หากจะเข้าชมแนะนำให้จองตั๋วล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงคิว เพราะบางครั้งอาจต้องรอคิวถึงกว่า 2 ชั่วโมง โดยสามารถซื้อออนไลน์ได้หลายเวป ข้อเสียคือจะเสียค่าบริการจองค่อนข้างแพง
--------------------------
Museo di San Marco
--------------------------
เวลาทำการ อังคาร - อาทิตย์ 8.15 - 13.20
ค่าเข้าชม 4 ยูโร
ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่บริเวณมหาวิทยาลัย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีไฮไลท์บริเวณชั้นที่ 1 บริเวณด้านบนของบันไดเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Fra Angelico ที่ชื่อ Annunciation ประดับตกแต่งอยู่ ท่ามกลางภาพเขียนในแนว Frescoes อีกจำนวนมาก
--------------------------
SANTA CROCE
--------------------------
ย่านนี้เป็นที่ตั้งของโบสถ์สำคัญอีกแห่งในเมือง อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Duomo
Basillica di Santa Croce
เวลาทำการ จันทร์ - เสาร์ 9.30 - 17.00 อาทิตย์ 14.00 - 17.00
ค่าเข้าชม 6 ยูโร
วัดในนิกายโรมันคาธอลิค ความสำคัญของที่นี่คือเป็นที่เก็บศพของคนดังหลาย ๆ คน ทั้ง มิเคลเอนเจโล กาลิเอโอ และคนดังอื่น ๆ อีกมากมาย จนได้รับฉายาว่า “Pantheon of the Italian Glories”
ในอดีตวัดถูกสร้างขึ้นราวปี 1294 โดยเศรษฐีผู้มั่งคั่งในเมือง Florence โดยสร้างเป็นวัดในลัทธิ franciscan และถือเป็นวัด franciscan ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ก่อนจะมีการดัดแปลงปรับปรุงหลายต่อหลายครั้ง ทั้งจากความเสียหาย และจากสถานการณ์การเมืองและศาสนาในยุคนั้น ๆ จนในครั้งหลัง ๆ ได้มีการดัดแปลงใส่ิลปะแบบ Gothic และ Neo Gothic เข้าไป และได้ยกให้เป็นสมบัติของสาธารณะในปี 1866
ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่วไปเข้าชม ส่วนหอพักของนักบวชเดิมก็เปิดเป็นโรงเรียนสอนช่างหนังและเปิดให้เข้าชมกรรมวิธีผลิตเครื่องหนังด้วย
--------------------------
THE OLTRARNO
--------------------------
ย่านริมน้ำซึ่งบรรยากาศจะแตกต่างกับย่านอื่น เพราะจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ไม่ได้มีอาคารบ้านเรือนหนาแน่นเหมือนที่อื่น ๆ แต่ก็เป็นย่านที่พลาดไม่ได้เพราะมีสิ่งก่อสร้างและวิวที่สวยงามอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว
--------------------------
Ponte Vecchio
--------------------------
สะพานที่ไม่ใช่สะพานธรรมดา แต่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองเลยทีเดียว สะพานทีทอดผ่านแม่น้ำ Arno แห่งนี้ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ คศ 1345 และยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ในปัจจุบัน ถือเป็นสะพานเก่าแก่แห่งเดียวที่เหลือรอดมาได้
แต่เดิมถูกสร้างเป็นสะพานไม้ 2 ชั้นและมีหลังคาคลุม บนชั้นสองจะเป็นทางเดินเชื่อมต่อกับ Palazzo Pitti เพื่อให้เหล่าเจ้านายได้เดินข้ามแม่น้ำโดยไม่โดนแดดโดนฝน และใช้ชั้นล่างเป็นแหล่งค้าขายของสด แต่แล้วก็มีการเปลี่ยนให้มาขายเพชรพลอยแทนในภายหลัง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ของเนื้อสัตว์ และถึงปัจจุบันก็ยังคงเป็นแหล่งขายเครื่องประดับที่ขึ้นชื่อของประเทศอยู่
สะพานถูกโจมตีอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ในรูปแบบที่เห็นปัจจุบัน ร้านค้าต่าง ๆ ก็ยังคงมีครบเช่นเดิม จากที่สะพานสามาถมองเห็นวิวแม่น้ำและเมืองได้อย่างสวยงาม หรือจะมองตัวสะพานเองจากยอดเขาใกล้เคียงก็สวยงามไม่แพ้ใครเลย
--------------------------
Plazzale Michelangelo
--------------------------
จุดชมวิวหลักของเมือง เพราะจะสามารถเห็นตัวเมืองทั้งหมดจากภายนอกได้แบบ Panorama โดยมี Duomo เด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมือง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของรูปจำลองเดวิดอีกแห่งด้วย ( รวมแล้วรูปสลักเดวิดมีทั้งหมด 3 ชิ้นด้วยกัน ในเมือง Florence )
ที่นี่นิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยวในช่วงยามเย็น เนื่องจากจะเห็นพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าจากที่นี่ และถ้าอยู่ต่ออีกซักนิดก็จะเห็นภาพเมืองที่สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ สวยงามราวอัญมณีเลยทีเดียว
สามารถเดินทางมาได้ทั้งการเดิน โดยเดินขึ้นเขามาประมาณ 10 นาที หรือจะนั่งรถบัสมาจากสถานีรถไฟก็ได้
Palazzo Pitti
เวลาทำการ อังคาร - อาทิตย์ 8.30 - 18.50
ค่าเข้าชม 7-25 ยูโร
ที่พำนักเก่าของตระกูลเมดิซี ตระกูลที่มีชื่อเสียงและบทบาทสำคัญอย่างมากต่อเมือง Florence โดยแต่เดิมเป็นของพ่อค้าในตระกูล Pitti ก่อนจะถูกเปลี่ยนมือในปี 1550 เพราะการล้มละลายของตระกูล Pitti ในสมัยก่อน ขุนนางหรือคนระดับสูงที่อาศัยที่นี่จะใช้สะพาน Vecchio ในการเดินข้ามไปทำงานหรือว่าราชการที่บริเวณ PIAZZA DELLA SIGNORIA
ในปัจจุบันเปิดในประชาชนทั่วไปเข้าชมภายใน โดยจะเก็บรักษางานศิลปะต่าง ๆ ของตระกูล รวมไปถึงห้องและเครื่องใช้ต่าง ๆ ทั้งเครื่องครัว ชุดอาหาร เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับไว้ครบถ้วน โดยห้องที่น่าชมที่สุดก็ได้แก่ Galleria Palatina & Appartamenti Reali นั่นเอง
--------------------------
ที่พักใน Florence
--------------------------
ที่นี่มีที่พักให้เลือกมากมาย เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ มีตั้งแต่แบบแพงมาก ๆ จนไปถึงห้องพักแบบ Dorm นอนรวม
--------------------------
B&B Dell'Olio
--------------------------
Piazza Dell' Olio 3, Duomo, 50123 ฟลอเรนซ์, อิตาลี
ราคาเริ่มต้น 4,000 บาท / ห้อง
โรงแรมที่อยู่ใกล้ Duomo มาก สะดวกสำหรับการท่องเที่ยว อยู่ใจกลางเมือง ห้องสะอาดและดูสมราคา สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
--------------------------
Hostel Gallo D'oro
--------------------------
Via Cavour 104, San Marco - Santissima Annunziata, 50129 ฟลอเรนซ์, อิตาลี
ราคาเริ่มต้น 750 บาท / คนสำหรับห้องนอนรวม
Hostel ที่มีราคาถูกมาก แม้จะเป็นห้องนอนรวมแบบ Dorm แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ราคานี้รวมอาหารเช้าแบบง่าย ๆ ไปด้วย เหมาะสำหรับนักเดินทางราคาประหยัดที่ต้องการที่พักราคาดี แต่ปลอดภัย ข้อเสียคืออยู่ไกลแหล่งท่องเที่ยวหลักไปบ้าง ใช้เวลาเดินประมาณ 10-15 นาที
italian renaissance 在 STYLE-TIPS.COM Facebook 的精選貼文
【#廣告狂想曲】時裝與音樂的完美結合!Fendi 聯手管弦樂團為大家帶來最澎湃的視聽享受!
音樂和藝術的力量不容忽視。疫情過後,大家都尋求心靈的滿足,希望透過不同方面的藝術療癒身心。身為重災區之一的意大利人民,經此一疫,無論身心都仍然有待恢復。
貴為意大利歷史品牌,Fendi 渴望重拾對生活的熱情和希望,因此借助時裝、音樂與藝術的力量,將之結合為世界帶來一場特別表演,為世界打氣!品牌聯手國家級的聖切契利亞管弦樂團及星級小提琴家 #AnnaTifu,於網上串流播放特備節目「Fendi Renaissance – Anima Mundi」,演奏韋華第 (#AntonioVivaldi) 名作《四季》中的《夏》。
小提琴家 Anna Tifu 更穿上三款不同的 #FENDI高訂時裝,在FENDI 羅馬總部 #意大利文化宮 (Palazzo della Civiltà Italiana) 表演,氣勢磅礡,隔著電腦都能感受那一份澎湃的情緒!
希望疫情過後,大家都能迎來更好的日子💛
A memorable and utterly compelling concert impressively performed by the Italian solo violinist Anna Tifu, wearing a #FendiCouture total look, and fourteen select Accademia Nazionale di Santa Cecilia artist - #FendiAnimaMundi redefines the timeless wonder of classical music in a new and unique way. #FendiRenaissance
Creatve idea: #Fendi
italian renaissance 在 Hak Me Youtube 的最佳解答
Hope you enjoy this #hakmeweeklyvlog so far and be sure to stayed tuned for more! I do two videos a week on Tuesday and Thursday at 9.30am (Hong Kong Time). Do subscribe as I'd love to see you again! Xoxo.
Instagram: @iamhakme
Blog: www.hakmebeauty.com
Products Featured:-
+ Jo Malone Star Magnolia Cologne HK$630/30ml
+ Jo Malone Star Magnolia Hair Mask HK$540/50ml
+ THREE Angelic Complexion Primer in 03 HK$375
+ THREE Balancing UV Protector SPF40 PA+++ HK$350
+ THREE Angelic Symbiosis Foundation in 03 HK$490
+ THREE Radiant Wand Invisible in 03 HK$340
+ Shu Uemura Petal Skin Fluid Foundation in 754 HK$380
+ Shu Uemura Petal 55 Foundation Brush HK$450
+ Shu Uemura Makeup Refresher Mist HK$175
+ SKII Atmosphere Airy Light UV Emulsion SPF30/PA+++
Products Used on May 3rd:
+ Makeup Revolution Skin Kiss in Peach Kiss HK$90
+ Makeup Revolution Renaissance Lipstick in Lifelong HK$75
Shop: http://www.hakmebeauty.com/shop/brands/makeup-revolution
Restaurant on May 3rd:
No. 5 Italian
Open Rice Details: http://tinyurl.com/k4okfhr
Products Featured:-
+ Sisley Hydra-Flash Formule Intensive HK$1250/60ml
+ Sisley Deeply Purifying Mask HK$780/60ml
+ Sisley All Day All Year HK$2380/50ml
+ Dior Eyeshadow Palette in 867 HK$550
+ Dior Diorskin Nude Air Luminizer in 001 HK$500
+ Dior Dior Addict Lip Tattoo in 761 HK$245
+ Dior Dior Addict Care&Dare Lipstick in 978 HK$280
+ Dior Diorskin Nude Air Care & Dare in 002 HK$530
+ NARS Charlotte Gainsbourg Brush Set HK$1500
+ NARS Charlotte Gainsbourg Hydrating Glow Tint in Medium HK$340
+ NARS Charlotte Gainsbourg Lip Tint in 5950 HK$250
YSL Lip Vinyl Video: https://www.youtube.com/watch?v=zXMc_sFI-PE
Music: www.epidemicsound.com | Angels in Snow Stems Instrument
♡黑咪店地址: http://www.hakmebeauty.com/store-locations
♡黑咪店Online: http://www.hakmebeauty.com/shop
♡黑咪店Instagram: @hakmebeauty
*************************************************************
Where To Find Me:-
♥ Blog: www.hakmebeauty.com
♥ Facebook: www.facebook.com/hakmebeauty
♥ Instagram: @iamhakme
♥ Snapchat: iamhakme
♥ Shop My Collection at Depop: @iamhakme
♥ Twitter: twitter.com/iamhakme
♥ Weibo: www.weibo.com/iamhakme
Disclaimer: This video is created and edited by me. All the content are my own thoughts. As always, all opinions are based on my experience and honest. Products are either purchased by me or for those which are sent by PR are marked with an “*”. For any collaboration with brands which involves monetary payment, “#Ad” will be in the title of the video so that you are aware of the collaboration. Some of the links used above might be affiliate links and please be aware that I will earn a % of commission if you decide to buy through the affiliate links.
italian renaissance 在 VOGUE Taiwan Youtube 的精選貼文
BVLGARI寶格麗Giardini Italiani義式花園珠寶系列,擷取了15世紀末期逐見成熟、並對後世英式及法式花園藝術的出現具有承先啟後關係的義式文藝復興花園(Italian Renaissance garden)。仿生自然地以不對稱的構圖編排植物、噴泉、溪流、造景,務矢讓主體建築與所在的周圍環境產生循環關係,講究的不單是視覺的怡人,更要從花草帶來的嗅覺與噴泉溪流所夾帶的聽覺來愉悅感官。
√ 快來訂閱 Vogue 頻道:http://bit.ly/2eoVk7R
-------------------------------------------------------------
⊙ VOGUE Facebook 粉絲專頁:http://smarturl.it/qo9tkf
⊙ VOGUE 官網影音專區:http://www.vogue.com.tw/live/
⊙ The Scene Facebook 粉絲專頁:http://smarturl.it/pdjxq0
⊙ GQ 官網:http://www.gq.com.tw/
⊙ GQ Facebook 粉絲專頁:http://smarturl.it/r9gauv
italian renaissance 在 Laowu老吳 Youtube 的最佳解答
Assassin Creed Identity Part 1
刺客信条:身份 Part 1
刺客教條:身份 Part 1
關注我的Youtube : http://goo.gl/3TVkJT
關注老吳FB: http://goo.gl/c0a2DW
試玩影片清單playlist : http://goo.gl/hyM9Zg
Ubisoft 旗下知名遊戲系列《刺客教條(Assassin’s Creed)》近日又推出了全新作品了!這次登場的是 iOS平台的手機動作RPG遊戲《Assassin’s Creed - Identity》,目前僅在澳洲與紐西蘭等國家的 App Store 上架測試,採免費下載制營運,預計 2015 年初登陸全球Android/IOS市場。
本作採用隨機產生的任務制關卡設定,玩家可以從 3 種不同職業的刺客中擇一,透過虛擬搖桿操控角色。官方指出,遊戲共有高達 16 種不同種類的任務,每一項都不會花費太多的時間,讓玩家可以在零碎時間遊玩遊戲。Ubisoft 補充說本作的最低需求是 iOS 7 系統、iPad 3 或 iPhone 5。
Assassin's Creed Identity is the first Assassin's Creed action RPG game for iPad and iPhone that lets you create, develop and customise your own Assassins and play as them in one of the greatest classic Assassin's Creed eras: the Italian Renaissance.
This game now is soft-launched in Australia and New Zealand and coming to the rest of the globe in 2015
italian renaissance 在 Italian Renaissance - Da Vinci, Galileo & Humanism - HISTORY 的相關結果
2010年10月18日 — For centuries, scholars have agreed that the Italian Renaissance (another word for “rebirth”) happened just that way: that between the 14th ... ... <看更多>
italian renaissance 在 Italy - The early Italian Renaissance | Britannica 的相關結果
Against this political and economic background stands the cultural development of Italy in the 14th and 15th centuries. The term Italian Renaissance has not ... ... <看更多>
italian renaissance 在 Italian Renaissance - Wikipedia 的相關結果
The Italian Renaissance was a period in Italian history covering the 15th and 16th centuries. The period is known for the development of a culture that ... ... <看更多>