[190871] 2271. Rachika Nayar - The Trembling of Glass (2021)★★★
[190872] 2272. Rachika Nayar - Behold (2018)★★★__Rachika Nayar
[190873] 2273. AJAE - Allnite (2021)★★
[190874] 2274. Matt Sweeney & Bonnie "Prince" Billy - Worry For Me (2020)★★__Jonah Freeman, Justin Lowe
[190875] 2275. Bonnie "Prince" Billy This Is Far From Over (2020)★★
[190876] 2276. Donato Dozzy - Mai (2020)★★
[190877] 2277. Julie Byrne & Jefre Cantu-Ledesma - Love's Refrain (2020)★★★__Thea Kegler
[190878] 2278. Julee Cruise - Floating (Demo) (2018)★★★
[190879] 2279. Mary Lou Lord: Got No Shadow (1998)★★★
[190880] 2280. The Lemonheads - Mallo Cup (1988)★★★
[190881] 2281. Lucky Looch - Whoopty (Remix) (2021)★★
[190882] 2282. May The Muse - Awake (2021)★★
[190883] 2283. Moodrich & Sketchy - Taste That Kiss / Fuck the Police (2021)★★
[190884] 2284. Moodrich - Grew Up Out the Mud (2020)★★∿
[190885] 2285. Kooley High - Hold Up (2021)★★
[190886] 2286. Kota the Friend - Clinton Hill (2021)★★
[190887] 2287. Kota the Friend - KALIEF (2020)★★🆁
[190888] 2288. Arp - Pulsars e Quasars (2014)★★__Paul Clipson
[190889] 2289. La Hell Gang - Inside My Fall (2014)★★__Ignacio Rodriguez
[190890] 2290. Connan Mockasin - Caramel (2013)★★★
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
pulsars 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的最讚貼文
พบหลักฐานของคลื่นความโน้มถ่วงในหอสังเกตการณ์ขนาดกาแล็กซี
- คลื่นความโน้มถ่วง
พื้นที่บริเวณรอบๆ ที่คุณกำลังอาศัยอยู่ตอนนี้นั้น เต็มไปด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณกำลังอ่านข้อความนี้อยู่บนโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ที่ต่อผ่าน wifi เครื่องมือสื่อสารของคุณกำลังอ่านถึงสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่กำลังเปลี่ยนแปลง และจากสัญญาณเหล่านี้ ทำให้เราสามารถบอกได้ถึงการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนที่เป็นแหล่งกำเนิดคลื่นในเสาส่งสัญญาณที่ห่างออกไป ทำให้เราสามารถแปลงเป็นสัญญาณที่ถูกส่งออกมาเป็นข้อความที่คุณกำลังอ่านอยู่ได้
ในลักษณะเดียวกัน รอบๆ ตัวเราก็เต็มไปด้วยสนามความโน้มถ่วงที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากวัตถุมวลมหาศาลที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายล้านหรือพันล้านปีแสง ในลักษณะเดียวกับที่เราเรียกสัญญาณคลื่นวิทยุที่ทำให้เราสื่อสารได้ว่า “คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า” เราก็เรียกสัญญาณที่ส่งผ่านมาทางความโน้มถ่วงนี้ว่า “คลื่นความโน้มถ่วง”
เรามีการค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงโดยตรงเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2016[3] โดยสถานีตรวจวัดคลื่นความโน้มถ่วง LIGO ที่ Hanford, Washington และ Livingston, Louisiana โดยภายในสถานีนี้นั้นสามารถตรวจพบการยืดหดของกาลอวกาศภายในท่อขนาดยาว 4 กม. ในขนาดที่เล็กกว่าขนาดของโปรตอน จึงสามารถบอกได้ว่าคลื่นความโน้มถ่วงนี้นั้นมาจากการรวมตัวของหลุมดำที่อยู่ห่างออกไปในห้วงอวกาศลึก
แต่เมื่อเทียบกับขนาดของคลื่นความโน้มถ่วงแล้วนั้น ขนาด 4 กม. ของ LIGO นั้นเปรียบได้เพียงวิทยุเด็กเล่นเครื่องจิ๋ว ที่สามารถดักฟังได้แต่เพียงคลื่นความถี่สูงที่สัญญาณชัดเพียงพอเท่านั้น ในการจะฟังสัญญาณคลื่นความโน้มถ่วง “พื้นหลัง” ที่เกิดขึ้นจากสัญญาณที่อ่อน และความยาวคลื่นต่ำกว่ามาก เราจะต้องใช้จานรับสัญญาณขนาดใหญ่กว่านี้อีกมาก - ใหญ่ขนาดใกล้เคียงกับกาแล็กซีของเราเลยทีเดียว
- พัลซ่าร์
มีการคาดการณ์กันมานานแล้วว่าเราอาจจะสามารถใช้พัลซ่าร์เป็นหอสังเกตการณ์คลื่นความโน้มถ่วงได้ (ดังบทความที่เคยเขียนเอาไว้แล้ว[4]) พัลซ่าร์คือจุดจบของดาวมวลมากหลายๆ ดวง ซึ่งกลายเป็นดาวนิวตรอนที่หมุนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสาดสัญญาณวิทยุออกไปตามการหมุนของมัน คล้ายกับประภาคารแห่งห้วงอวกาศ เราสามารถพบพัลซ่าร์กระจัดกระจายไปได้ทั่วทั้งกาแล็กซี
ด้วยขนาดที่เล็กและมวลที่อัดแน่น พัลซ่าร์จึงเป็นวัตถุธรรมชาติที่มีคาบการหมุนที่แม่นยำที่สุดในเอกภพ (แพ้ให้กับนาฬิกาอะตอมไปนิดเดียว) จึงมีการเสนอว่าเราอาจจะสามารถใช้สัญญาณจากพัลซ่าร์ในการตรวจวัดคลื่นความโน้มถ่วงได้ หากมีคลื่นความโน้มถ่วงขนาดความยาวคลื่นหลายร้อยหรือพันปีแสงเคลื่อนที่ผ่านห้วงอวกาศบริเวณละแวกของกาแล็กซีที่เราอยู่ การโค้งงอของกาลอวกาศรอบๆ นั้นควรจะทำให้สัญญาณที่มาจากพัลซ่าร์นั้นผิดเพี้ยนไป เราจึงควรที่จะสามารถใช้การจับเวลาของพัลซ่าร์เป็นหอสังเกตการณ์ตรวจวัดคลื่นความโน้มถ่วงขนาดยักษ์ได้
แม้กระนั้นก็ตาม การตรวจพบสัญญาณดังกล่าวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ลำพังโดยสัญญาณจากพัลซ่าร์เพียงดวงเดียวนั้นอาจจะไม่สามารถบอกอะไรได้ จึงต้องมีการศึกษาพัลซ่าร์พร้อมกันหลายๆ ดวงเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ด้วยเหตุเหล่านี้จึงทำให้ยังไม่เคยมีการยืนยันหรือตรวจพบคลื่นความโน้มถ่วงจากพัลซ่าร์มาก่อน
- NANOGrav
ตลอดระยะเวลากว่า 13 ปีที่ผ่านมา North American Nanohertz Observatory for Gravitational Waves (NANOGrav)[1] ได้ทำการติดตาม “millisecond pulsars” หรือพัลซ่าร์ที่มีการหมุนรอบตัวเองหลายร้อยครั้งต่อหนึ่งวินาที กว่า 47 ดวง ในลักษณะของ Pulsar Timing Array[4] เพื่อพยายามยืนยันว่าจะสามารถพบสัญญาณที่เกิดขึ้นจากคลื่นความโน้มถ่วงพื้นหลัง (Gravitational Wave Background) ได้หรือไม่
แม้กระนั้นก็ตาม ในความเป็นจริงนั้นค่อนข้างซับซ้อนกว่านั้นมาก เนื่องจากเวลาของพัลซ่าร์นั้นมีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที อิทธิพลอย่างอื่นอีกเป็นจำนวนมากจึงสามารถส่งผลต่อเวลาเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการโคจรของโลกไปรอบๆ ดวงอาทิตย์ การเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ ฯลฯ แม้กระทั่งวงโคจรของดาวพฤหัสก็สามารถส่งผลต่อการเคลื่อนที่ศูนย์กลางมวลของระบบสุริยะ ซึ่งส่งผลต่อสัญญาณที่โลกได้รับจากพัลซ่าร์ได้อีกด้วย
แต่เมื่อทางทีมงานได้ชดเชยความคลาดเคลื่อนทั้งหมดไปแล้ว สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็คือสัญญาณที่มาจากพื้นหลังที่ไม่สามารถชดเชยได้ เท่ากับเป็นการยืนยันว่าภายในสัญญาณจากพัลซ่าร์ที่ส่งมาหาเรานี้ มีข้อมูลจากคลื่นความโน้มถ่วงที่แพร่ไปทั่วกาแล็กซีเราแทรกอยู่ด้วย ซึ่งได้ตีพิมพ์การค้นพบลงในวารสาร Astrophysical Journal Letters[2] และได้เปิดเผยการค้นพบในวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา[1]
หากเปรียบเทียบกันแล้วในขณะที่สัญญาณที่ LIGO ตรวจวัดได้อาจจะเป็นคลื่นความโน้มถ่วงความถี่สูงของการชนกันของหลุมดำ เปรียบได้กับเสียงระเบิดดังปะทุที่ไม่สามารถทำนายได้ล่วงหน้า แต่สัญญาณที่ NANOGrav ค้นพบนั้นเปรียบได้กับเสียง “ฮัม” ที่ค่อย และมีความถี่ต่ำที่แทรกไปทั่วทั้งเอกภพมาตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ทำการสำรวจ
อย่างไรก็ตาม การค้นพบนี้ยังเป็นเพียงการยืนยันเบื้องต้นว่ามีสัญญาณพื้นหลังอยู่ แต่การศึกษายังไม่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าสัญญาณพื้นหลังนี้เป็นสัญญาณจากคลื่นความโน้มถ่วงจริงหรือไม่ และสัญญาณที่ยืนยันได้นั้นยังอ่อนเกินกว่าที่จะสามารถศึกษาหรือหาแบบแผนที่อยู่เบื้องหลังได้ แต่การค้นพบเบื้องต้นนี้นั้นแน่นอนว่าเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งการค้นคว้าวิจัยในคลื่นความโน้มถ่วงพื้นหลัง ในอนาคตอันใกล้ NANOGrav กำลังจะมีความร่วมมือกับโครงการ Pulsar Timing Array โครงการอื่นเพื่อรวมข้อมูลเพื่อที่จะศึกษาต่อไป ทดลองทำ simulation เพื่อยืนยันและตัดปัจจัยอื่นที่อาจจะส่งผลให้เกิดสัญญาณเช่นที่ตรวจพบได้ และแน่นอนว่าการศึกษาพัลซ่าร์ในจำนวนที่มาก และเป็นระยะเวลานานขึ้นจะช่วยให้เราตรวจพบและยืนยันคลื่นความโน้มถ่วงเหล่านี้ได้ดีขึ้นไปอีก
เป็นที่น่าเสียดายว่าข้อมูลส่วนหนึ่งที่อยู่ในงานวิจัยนี้นั้นได้มาจากกล้องโทรทรรศน์วิทยุ Arecibo ที่เพิ่งจะพังลงไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2020 ที่ผ่านมา[5] ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์วิทยุ Arecibo นี้มีส่วนเป็นอย่างมากต่อการค้นพบนี้ และยังมีข้อมูลอีกมากที่ยังรอคอยการวิเคราะห์ แต่การสูญเสียกล้องโทรทรรศน์วิทยุที่เป็นกำลังสำคัญในการค้นคว้านี้ย่อมส่งผลเสียต่อการค้นคว้าในอนาคต ซึ่งทางทีมงาน NANOGrav จะต้องทำการค้นหากล้องอื่นเพื่อทำการศึกษาเพื่อทดแทนกล้อง Arecibo ที่เสียไปต่อไป
การศึกษาคลื่นความโน้มถ่วงพื้นหลังที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนี้ จะเป็นกุญแจสำคัญอีกกุญแจหนึ่งที่จะช่วยทำให้นักดาราศาสตร์สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับกำเนิดของเอกภพได้ เช่นเดียวกับที่รังสีไมโครเวฟพื้นหลังสามารถบอกเราได้ว่าเอกภพมีอายุ 13.8 พันล้านปี มีรูปพรรณสัณฐานค่อนข้างแบน องค์ประกอบของเอกภพ และเอกภพในช่วง 13,000 ล้านปีที่แล้วเป็นเช่นไร หากเราสามารถศึกษาสัญญาณของคลื่นความโน้มถ่วงพื้นหลังได้ในอนาคต เราจะสามารถอธิบายได้อีกมากเกี่ยวกับเอกภพในช่วงยุค inflation ที่เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และอาจจะนำไปสู่การค้นพบฟิสิกส์แขนงใหม่อีกมากที่ทุกวันนี้เรายังไม่รู้จัก
อ้างอิง/อ่านเพิ่มเติม:
[1] http://nanograv.org/press/2021/01/11/12-Year-GW-Background.html
[2] https://iopscience.iop.org/article/10.3847/2041-8213/abd401/meta
[3] https://www.facebook.com/matiponblog/photos/427749910768554
[4] https://www.facebook.com/matiponblog/photos/431512697058942
[5] https://www.facebook.com/matiponblog/photos/1475887542621447
pulsars 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的最讚貼文
วีดีโอแสดงพื้นผิวของพัลซาร์ J0030+0451 และคำอธิบายถึงที่มา โดย NASA Goddard Space Flight Center
สามารถอ่านบทความคำอธิบายเกี่ยวกับพัลซาร์อย่างละเอียด ได้ที่ https://www.facebook.com/matiponblog/photos/a.255101608033386/1162419333968271/
pulsars 在 Pulsars - Home | Facebook 的推薦與評價
Somewhere closer to the latter of those two distinctions is one of my favorite artists of that era: Pulsars… a band that got one album on Almo sounds, ... ... <看更多>