เศรษฐีรวยสุดในเอเชีย มีน้องชาย เป็นบุคคลล้มละลาย ได้อย่างไร ? /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Mukesh Ambani เจ้าของ Reliance Industries กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่สุดในอินเดียและเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเอเชีย มีน้องชายชื่อ Anil Ambani
สำหรับน้องชายของมหาเศรษฐีคนนี้ ก็เป็นเจ้าของธุรกิจที่แยกตัวออกมาจาก Reliance Industries ของพี่ชาย มีชื่อบริษัทว่า Reliance ADA Group
ในปี 2008 Mukesh Ambani มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก
ในขณะที่ Anil Ambani ตามมาติด ๆ ด้วยทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท และรวยเป็นอันดับ 6 ของโลก
โดยในปีนั้น เศรษฐี 4 อันดับแรกของโลก ได้แก่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (อเมริกัน), คาร์ลอส สลิม (เม็กซิโก),
บิลล์ เกตส์ (อเมริกัน) และลักษมี นิวาส มิตตัล (อินเดีย)
หลังจากผ่านไป 13 ปี Mukesh Ambani มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านล้านบาท
กลายมาเป็นมหาเศรษฐีรวยสุดในอินเดียและเอเชีย และรวยเป็นอันดับ 10 ของโลก
แต่ในปี 2019 Ambani คนน้องกลับมีทรัพย์สิน เพียง 5.6 หมื่นล้านบาท
จนล่าสุด มีหลายคนกล่าวว่าความมั่งคั่งตอนนี้ของ Ambani คนน้อง ลดลงจนเกือบเป็นศูนย์
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับน้องชาย ของคนที่รวยสุดในเอเชีย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปในปี 1948 หรือเมื่อ 73 ปีก่อน ชายชาวอินเดียวัย 16 ปี
ที่ชื่อ Dhirubhai Ambani ได้ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านเกิดไปทำงานที่ประเทศเยเมน
ผ่านไป 10 ปี Dhirubhai กลับมาที่อินเดียพร้อมกับเงินเก็บ เพื่อมาเริ่มสร้างธุรกิจเอง
Dhirubhai เริ่มจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์และส่งออกเครื่องเทศ ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งก็เติบโตอย่างรวดเร็ว จน Dhirubhai ได้ขยายกิจการไปในอุตสาหกรรมอื่น และเปลี่ยนมาใช้ชื่อบริษัทว่า “Reliance Industries” ในปี 1973
Reliance Industries สามารถ IPO ได้ในปี 1977 ซึ่งหุ้นของบริษัทก็มีชาวอินเดียสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดเคยจัดประชุมผู้ถือหุ้นที่สเตเดียม
ตั้งแต่ที่กิจการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว Dhirubhai ก็เริ่มให้ลูกชายทั้ง 2 คนของเขา เข้ามาช่วยบริหารงานที่บริษัท
Mukesh Ambani ลูกชายคนโต เป็นประธาน
Anil Ambani ลูกชายคนรอง เป็นกรรมการผู้จัดการ
แต่แล้วในปี 2002 Dhirubhai ได้เสียชีวิตลงและได้ทิ้งกิจการ Reliance Industries ไว้กับลูกชายทั้ง 2 คน
Dhirubhai ที่จากโลกนี้ไปไม่ได้ทำพินัยกรรมและข้อตกลงแบ่งกิจการให้กับลูกแต่ละคนไว้ ซึ่งเขาก็คงไม่คิดว่า จะเกิดปัญหาตามมา
โดยปัญหาที่ว่านั้นเริ่มเกิดขึ้นเพราะลูกชายทั้ง 2 คน ที่เริ่มเข้าทำงานและมีบทบาทในบริษัทมาพร้อม ๆ กัน
กลับตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นเจ้าของและใครจะดูแลและรับผิดชอบบริษัทไหนบ้าง
สุดท้ายแล้ว ในช่วงปี 2004 ถึง 2005 ผู้เป็นแม่ต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
โดยการจ้างบุคคลที่ 3 ให้เข้ามาจัดการเรื่องการแยกบริษัทออกจากกันไปเลย
Mukesh Ambani คนพี่ได้ธุรกิจหลักคือปิโตรเลียม ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการขยายกิจการในส่วนนี้มาตั้งแต่แรก และยังได้ธุรกิจอื่น ๆ อย่างเช่นปิโตรเคมี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจยุคเก่า โดยกลุ่มบริษัทของ Mukesh ใช้ชื่อว่า Reliance Industries
Anil Ambani คนน้องได้ธุรกิจหลักคือ Reliance Communications ธุรกิจโทรคมนาคมที่เพิ่งเริ่มกิจการได้ไม่นาน แต่ก็กลายเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอินเดีย ซึ่งแม้ว่า Mukesh จะมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ต้น แต่ Anil ก็อยากได้ธุรกิจนี้เช่นกัน
นอกจากธุรกิจเทเลคอมแล้ว กิจการอื่นที่ Anil Ambani ได้รับไปดูแลอีกก็อย่างเช่น ธุรกิจพลังงาน และบริการทางการเงิน ซึ่งส่วนมากจะเป็นธุรกิจยุคใหม่ โดยกลุ่มธุรกิจของ Anil Ambani ใช้ชื่อว่า “Reliance ADA Group”
หลังจากจบเรื่องการแบ่งธุรกิจแล้ว แต่ละคนก็เริ่มต่อยอดธุรกิจตามเส้นทางของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น
Mukesh Ambani เริ่มทำธุรกิจค้าปลีกในปี 2006 จน Reliance Retail กลายมาเป็นธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่สุดในอินเดีย
ในขณะที่ Anil Ambani ก็ได้ต่อยอดทำธุรกิจบันเทิง อย่างเช่นในปี 2005 ได้ซื้อบริษัท Adlabs Films ที่เป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ซึ่งกลายมาเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีสาขามากสุดในอินเดียในอีก 3 ปีถัดมา
ในปี 2008 Reliance Entertainment ของ Anil Ambani ก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทผลิตภาพยนตร์ DreamWorks ของผู้กำกับ Steven Spielberg ซึ่งได้ร่วมผลิตภาพยนตร์ที่ได้รางวัลมากมาย อย่างเช่น The Help และ Lincoln
และปีเดียวกันนี้ Anil Ambani ก็ได้นำบริษัทพลังงานอย่าง Reliance Power จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมูลค่าการระดมทุนที่สูงเป็นประวัติการณ์ในขณะนั้น
ผ่านไป 6 ปีหลังจากการเสียชีวิตของ Dhirubhai
ดูเหมือนว่าลูกชายของเขาทั้งคู่ก็ต่อยอดกิจการไปได้อย่างสวยงาม
จนทำให้ในปี 2008 Mukesh มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก และ Anil มีทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 6 ของโลก
แต่หลังจากนั้น เส้นทางความมั่งคั่งของพี่น้องคู่นี้ กลับเริ่มมีทิศทางที่สวนทางกัน
คนพี่รวยขึ้น ส่วนคนน้องความมั่งคั่งหายไปเกือบหมด
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ?
เรื่องทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากเงินที่บริษัท Reliance Power ของ Anil Ambani ได้มาจากการ IPO มีแผนจะใช้สร้างโรงไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่จะผลิตจากก๊าซ
โดยก๊าซที่ Reliance Power ใช้ ก็มาจากบริษัทก๊าซธรรมชาติในเครือ Reliance Industries ของ Mukesh นั่นเอง
ซึ่งในตอนที่แยกบริษัทกัน สองพี่น้องก็ได้เซ็นสัญญาว่าบริษัทก๊าซของ Mukesh Ambani จะขายก๊าซให้โรงไฟฟ้าของน้องชายที่ราคาหนึ่ง
แต่ในวันที่โรงไฟฟ้าสร้างใกล้จะเสร็จและถึงเวลาที่พี่ชายจะขายก๊าซให้กับน้อง ราคาก๊าซในตลาดโลกกลับเพิ่มสูงขึ้นไปเกือบเท่าตัว
Anil Ambani จึงต้องการซื้อก๊าซในราคาที่ตกลงกัน เพื่อที่จะไม่ต้องเผชิญต้นทุนก๊าซที่สูงขึ้น
แต่ทาง Mukesh Ambani ไม่สามารถขายก๊าซตามราคาที่ตกลงกันไว้ได้เพราะบริษัทของเขาจะขาดทุน
แต่แทนที่จะเจรจาตกลงกัน Anil Ambani กลับเลือกที่จะยื่นฟ้องบริษัทพี่ชายในปี 2010 เพื่อให้ซื้อก๊าซได้ในราคาเดิมที่เคยตกลงกัน
แต่ศาลก็ได้มีคำสั่งให้ Anil Ambani ซื้อก๊าซในราคาใกล้เคียงกับราคาตลาดโลก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายราคาก๊าซของประเทศ
สุดท้ายแล้ว Anil Ambani ที่ต้องแบกรับต้นทุนก๊าซเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จึงไม่สามารถจัดหาก๊าซเพื่อไปใช้ผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าที่สร้างรอไว้แล้วได้
Reliance Power จึงกลายเป็นบริษัทที่มีหนี้มหาศาล จนต้องขายทรัพย์สินและกิจการบางส่วนออกไป เพื่อเอามาใช้หนี้ ซึ่งรวมถึงกิจการโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ที่ซื้อมาเมื่อปี 2008 ด้วย
แต่ความผิดพลาดทางธุรกิจของ Anil Ambani ยังไม่ได้จบลงแค่นี้ เพราะเรื่องราวที่ร้ายแรงกว่านั้น เกิดขึ้นกับธุรกิจโทรคมนาคมอย่าง Reliance Communications (RCom)
ในปี 2002 ซึ่งเป็นช่วงที่ RCom เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ RCom เลือกใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่เรียกว่า CDMA ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ขณะที่บริษัทคู่แข่งอย่างเช่น Airtel เลือกใช้เทคโนโลยีที่ชื่อ GSM
แม้เทคโนโลยีทั้ง 2 แบบจะใช้ได้ดีกับ 2G และ 3G เหมือนกัน แต่ปัญหาก็คือ CDMA ที่ RCom เลือกใช้ ไม่สามารถรองรับ 4G และ 5G ได้แบบ GSM ที่เหล่าคู่แข่งเลือกใช้
นั่นจึงทำให้ช่วงเวลาที่ทั่วโลกเปลี่ยนผ่านจาก 3G มาเป็น 4G อย่างรวดเร็ว RCom เลยตามคนอื่นไม่ทัน จน RCom กลายเป็นบริษัทที่เริ่มมีหนี้มากขึ้น
และจุดพลิกผันครั้งใหญ่ของ RCom รวมไปถึงทั้งอุตสาหกรรมเทเลคอมของอินเดีย ก็เกิดขึ้นในปี 2016
เมื่อ Mukesh Ambani ได้ก่อตั้งบริษัทย่อยของ Reliance Industries ในชื่อ “Jio” ซึ่งเป็นบริษัท
ที่เน้นบริการด้านเทคโนโลยี รวมถึงการให้บริการโทรคมนาคมแบบเดียวกับ RCom ด้วย
ด้วยชื่อเสียงของ Reliance Industries ก็ทำให้ Jio มีจำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กำไรของบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่าง Airtel ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้อีก 2 บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดรองลงมาอย่าง Vodafone และ Idea ต้องควบรวมกิจการกัน
ในเวลาต่อมาบริษัท Jio ของ Mukesh Ambani ก็กลายมาเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่สุดในอินเดีย ส่วน RCom ของ Anil ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ก็หายไปจากการแข่งขันในตลาดเทเลคอม จนทำให้บริษัทขาดทุนและกลายเป็นหนี้มหาศาล
RCom ต้องยอมขายสินทรัพย์ของกิจการบางส่วนให้กับ Jio เพื่อลดหนี้
แต่นั่นก็ยังไม่ช่วยให้สถานการณ์ของ RCom ดีขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 RCom ได้ทำข้อตกลงกับ Ericsson โดยจ้างให้ Ericsson มาเป็นผู้บริหารเครือข่ายในบริเวณทางเหนือและตะวันตกของอินเดีย แต่ผลจากการขาดทุนต่อเนื่องก็ทำให้ RCom ไม่มีเงินจ่ายให้ Ericsson ตั้งแต่ปี 2016
RCom ติดหนี้ Ericsson 2.46 พันล้านบาท ซึ่ง RCom ก็ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามกำหนด และขอเลื่อนเวลาการจ่ายหนี้ออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้ว RCom จ่ายหนี้ได้เพียง 528 ล้านบาท นำไปสู่การถูกฟ้องร้องในเวลาต่อมา
ศาลสูงสุดจึงมีคำตัดสินว่า ถ้าภายใน 1 เดือน RCom ยังจ่ายหนี้ให้ Ericsson ไม่ได้ Anil จะต้องถูกจำคุก 3 เดือน
สุดท้ายแล้วพี่ชายของ Anil Ambani อย่าง Mukesh ก็เข้ามาช่วย
โดยการจ่ายหนี้ที่เหลือ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาทให้
ในขณะที่ บริษัท RCom ก็ต้องยื่นล้มละลาย
แต่เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เพราะ RCom ยังมีหนี้ก้อนใหญ่อีกก้อน ที่กู้ยืมมาจาก 3 ธนาคารขนาดใหญ่ของจีน ทั้ง ICBC, China Development Bank และ EXIM Bank of China เป็นมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท
ทั้ง 3 ธนาคารจึงยื่นฟ้อง RCom และ Anil Ambani..
ช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่ง Anil ได้พูดระหว่างพิจารณาคดีออนไลน์กับศาลของประเทศอังกฤษว่า เขาไม่มีเงินใช้หนี้ เพราะความมั่งคั่งของเขาตอนนี้ใกล้จะเป็นศูนย์แล้ว.. ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเขาจะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้
จากความขัดแย้งเพื่อแย่งกิจการกันเองในครอบครัว บวกกับการบริหารธุรกิจที่ผิดพลาด การทุ่มเงินลงทุนขนาดใหญ่แต่ได้ผลลัพธ์แย่กว่าที่คาด ทำให้บริษัทก่อหนี้ก้อนโต
ทั้งหมดนี้ก็ได้ส่งผลไปยังทรัพย์สินของผู้ที่เคยรวยติดอันดับ 6 ของโลกอย่าง Anil Ambani ได้หายไปเกือบหมด ในขณะที่พี่ชายที่เติบโตมาพร้อมกัน กลับเดินสวนทางกัน เพราะประสบความสำเร็จในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเศรษฐี ที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย นั่นเอง
ถ้าใครเชื่อว่าชีวิตของเราถูกกำหนดมาแล้วตั้งแต่เกิด
เกิดมาในครอบครัวที่รวย ก็ย่อมมีแรงส่งให้พวกเขารวยขึ้น
ซึ่งมันก็เป็นจริงในหลายกรณี
แต่ในบางกรณี มันก็อาจเป็นตรงกันข้าม
ซึ่งอย่างน้อย มันก็เกิดขึ้นแล้วกับ Anil Ambani น้องชายของ มหาเศรษฐี ที่รวยสุดในเอเชีย นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.in/thelife/personalities/news/anil-ambanis-journey-from-42-billion-net-worth-to-claiming-poverty/articleshow/74028627.cms
-https://www.scmp.com/magazines/style/celebrity/article/3093874/mukesh-vs-anil-why-did-one-ambani-brother-go-bankrupt
-https://economictimes.indiatimes.com/industry/telecom/telecom-news/from-glory-to-dust-an-ambani-brands-journey-to-bankruptcy/articleshow/67837769.cms?from=mdr
-https://www.businesstoday.in/latest/economy-politics/story/anil-ambani-road-to-bankruptcy-how-the-brother-of-indias-richest-man-lost-his-way-271119-2020-08-25
-https://www.moneycontrol.com/news/business/a-timeline-of-reliance-communications-versus-ericsson-case-3661261.html
-https://youtu.be/dBH0E20kc30
-https://www.forbes.com/forbes/2008/0324/080.html?sh=3e185f910f2e
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Industries
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Group
同時也有13部Youtube影片,追蹤數超過373萬的網紅Xiaomanyc 小马在纽约,也在其Youtube影片中提到,Start speaking a new language in 3 weeks with Babbel (thanks for the sponsorship! ) ? Get 6 months FREE when you sign up for 6 months ➡️ https://go.ba...
「reliance」的推薦目錄:
- 關於reliance 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於reliance 在 龔成 Facebook 的最佳貼文
- 關於reliance 在 Facebook 的最佳解答
- 關於reliance 在 Xiaomanyc 小马在纽约 Youtube 的最佳解答
- 關於reliance 在 賓狗單字Bingo Bilingual Youtube 的最讚貼文
- 關於reliance 在 解鎖地球 Unlock the Earth / 旅行、歷史、文化 Podcast Youtube 的最讚貼文
- 關於reliance 在 Reliance Industries Limited - Home | Facebook 的評價
reliance 在 龔成 Facebook 的最佳貼文
【長建是理想收息及平穩增長股】
長江基建集團有限公司
CHEUNG KONG INFRASTRUCTURE HOLDINGS LTD.
股票代號:1038
市盈率:16倍
股息率:5%
每股盈利:$2.91
市值:$1200億
業務類別:基建
集團主席:李澤鉅
主要股東:長江和記實業有限公司 (0001) (71.9%)
5年業績
年度:2016/2017/2018/2019/2020
收益(億):53.2/60.2/71.5/67.3/71.8
攤佔合資企業之營業額(億):220/256/308/294/312
盈利(億):96.4/103/104/105/73.2
每股盈利:3.82/4.07/4.14/4.17/2.91
每股股息:2.26/2.38/2.43/2.46/2.47
ROE:9.68/10.3/9.95/9.60/6.56
--企業簡介--
長江基建(長建)是香港具規模及多元化的上市基建公司,並在國際基建業穩據重要地位。核心業務包括:能源基建、交通基建、水處理基建、廢物管理、轉廢為能、屋宇服務基建及基建有關業務。
長建的營運範圍遍及香港、中國內地、英國、歐洲大陸、澳洲、新西蘭及加拿大。
--企業發展--
【圖1】--長建業務簡介
長建持有近四成的電能實業(0006)權益,而電能於2014年1月分拆港燈(2638)獨立上市,為長江基建帶來約190億元的一次性特殊收益,因此2014年的盈利會被拉高,同時亦令長建持有大量現金。此舉變相令長建減持香港的業務,定位更國際化。
長建最初成立時只為一家專注大中華業務的公司,在香港及內地從事水泥生產、電廠及收費道路業務。
其後業務不斷擴張至其他範疇及地區,現時可說是具領導地位的環球基建企業之一,擁有多元化的投資組合,包括電力、燃氣、原油輸送、水務、交通、基建材料、廢物管理及屋宇服務基建業務;項目遍布香港、中國內地、英國、歐洲大陸、澳洲、新西蘭及加拿大。
當中不少項目均透過收購去發展,現時的海外業務表現理想,當中以英國業務的溢利貢獻佔比最大,約佔總溢利逾半。
近年長建進行三項重大收購,包括當時澳洲最大多元化公用事業上市公司DUET、加拿大最大熱水爐及相關設備租賃公司Reliance Home Comfort,以及德國的輔助計量、水與暖氣能源發單服務供應商ista。收購完成後,長建業務開始拓展至屋宇服務基建範疇。
收購模式可說是長建的發展方向,長建由 2010年起計,已花費合共三、 四百億於多個收購項目,其中近二百億是透過股權及發行永續債券融資。 而長建的現金在分拆港燈後十分充裕,這對於企業發展是甚為有利的。
而2017年亦標誌長江基建收購新里程,這年進行三項重大收購,涉資約港幣560億元。有關收購不但令長江基建的業務更多元化,並進一步擴大集團業務版圖與收入基礎。
--以收購合營擴展--
【圖2】--長建的收購歷程
從過往的收益及聯營公司計入的營業額中,可見長建能保持快速增長,表現理想,這是攤佔多間合資企業之營業額壯大的成果,相信當中利用了合作與收購,令企業快速發展。
可見長建利用合營企業帶來主要的增長動力,雖然會計數字沒有反映股權較少的聯營公司,但合作、入股已成為其增長模式,而當中除以不同形式的合作外,就是用了各種收購的方法以壯大長建,令其快速增長。
雖然長建業務涉及多個範疇,但由於不少都與公共事業有關,故往往在收購後都能產生持續穩定的現金流,而對於甚有經驗的長建來說,要推算將來的現金流、當中的風險,以及估算當中的價值,並不是困難事,故往往收購後都有不錯回報。
而長建的盈利亦能保持快速上升,2014年因分拆港燈而有特殊收益,令該年的盈利數字較大。從整體看,盈利數字反映長建的發展情況理想。
--擴張中風險平衡--
憑過往長建二十多年來的平穩發展,以及擴至不同範疇,足見此企業及當中的團隊有一定質素,在風險與發展間取得平衡,就算在金融海嘯期間,盈利亦保持穩定,沒有大幅下跌。
在將來的發展中,雖然收購不是分析公司的全部,但收購業務仍會是發展方向,故對長期發展總有影響。但投資者難以得知將來收購的項目,因此只能對管理層信賴。
管理層表示長建將採用三個重點策略:(1)持續發掘收購機遇;(2)促進現有業務及新收購業務的內部增長;(3) 鞏固雄厚資本實力,以投放資源予內部增長及對外收購。
股本回報率(ROE)方面,大致處於10%水平,以公共及基建類別來說是合理的回報率,而再投資的回報率更不差,企業有一定的價值。股息方面,二十多年來保持上升,股息的回報相當理想,反映企業的價值保持上升,以及不斷創造增長的現金流。
但大家要留意,長建一直以收購已發展國家(如歐洲、澳洲、加拿大)之民生相關企業為主,而近年西方國家都不太希望將一些民生和較敏感事業交給中資公司營運,故收購將會變得困難,有機會令增長力打折扣。
【圖3】--長建多年股息圖
--投資策略--
綜合而言,長建是不錯的企業,有一定規模,資產亦有一定質素,並擁有相當充足的現金,而過往的發展亦很理想,能平穩發展及再投資的回報亦不算差,而開拓新業務亦能平衡當中的風險回報,整體有相當的質素。不過,規模大,國家保護資產,都令這企業增長力有所減弱。
雖然長建有英國業務,脫歐因素難免對其造成影響,但由於長建本身仍有其他國家的資產,故影響算是中等,未算全面影響。
由於長建有不少歐洲資產,因此歐洲經濟較一般,加上疫情因素,都會令這股業務表現未必好強,但相信最壞時期已過。
因此,往後將會慢慢好轉,有平穩增長能力,以及不差股息。
另外,由於企業已有一定規模,加上作風穩健,故發展的速度不會太快,但平穩增長則無問題,手持的現金相信會逐漸收購其他海外業務,前景仍在,現價在合理區的中間。
若然是追求較平穩回報的投資者,相信此股是適合的選擇,過往無論在股價與股息增值方面都是不錯,股息不差,投資者宜著眼於較長線的股價及往後股息。
(本人為證券業持牌人士,未持有上述股票)
reliance 在 Facebook 的最佳解答
譚新強:疫情過後 印度的黃金年代來臨了!
文章日期:2021年9月17日
【明報專訊】早陣子跟一位極有智慧的大企業家吃飯聊天,他有一個觀察,兩千年前,政治和經濟上最重要的海域為地中海,一百年前為大西洋,過去五十年,最重要海域已變為太平洋,而他預測在未來五十年,重心將再往西移至印度洋。
從2018年5月起,美國在亞洲的駐軍United States Pacific Command,也正式改名為United States Indo-Pacific Command,以此突顯南亞,尤其印度的重要性。從2007年起,當時日本首相安倍晉三牽頭成立了The Quadrilateral Security Dialogue(the Quad),其他成員為美國、澳洲和印度,後來沉寂了十年,到了2017年,再由特朗普重新推動。前天拜登更宣布成立一個新的三方國防協議,跟澳洲和英國加強在AI、網路安全、量子計算等方面合作,以及協助澳洲建造核能推動潛艇。
美中關係倘續惡化 擦搶走火風險升
從中國角度來看,這些發展都當然是衝着中國而來的,這亦是事實。近年中國的國防支出也當然不斷增加,海軍軍艦數量已超越美國,中程導彈技術更非常先進,希望有足夠阻嚇作用。但我仍然擔心如美中兩方關係繼續惡化,且不斷在印太地區進行軍備競賽,擦槍走火的風險亦將上升。
擔心此可能性的不止我一人,原來早在去年10月,美國大選前和今年1月,美國參謀長聯席會議主席米利(Mark Milley)將軍,曾兩度在沒有知會特朗普總統情况下,私自跟中國軍方領導通話,保證美國不會突然對中國發動戰爭!這個驚人披露又是由著名記者Bob Woodward和Robert Costa,在新書《Peril》中爆料的!特朗普當然勃然大怒,直斥此舉為叛國行為,暫時拜登仍說對Milley將軍保持信心,但要求Milley辭職的聲音已愈來愈大。本來我很想今個月去華盛頓參加從前我經常去的峰會,但因隔離時間太長,所以決定不去,後來主辦者亦因Delta Wave仍頗嚴重而再次從實體改回zoom模式。Bob Woodward固然是這個峰會常客,而今次的特別嘉賓正是Milley將軍,雖然只是經zoom,但我仍非常期待今次峰會,聽聽他們對現今全球局勢有何看法。
不認同索羅斯指投資中國不符西方國安利益
印太地區的地位提升,不止在軍事和外交方面,經濟和投資上的重要性,也正在上升。無可否認,部分原因是在不少國際投資者眼中,據非正式統計,比例可能高達30%,中國已變成uninvestable,不止是政策不穩定而賺不到錢的問題,而是因為投不投資中國,已成為一個意識形態問題。索羅斯早前毫不客氣地點名直指Blackrock和Blackstone等,投資中國並不符合美國和其他所謂西方民主國家的National Security Interest!
我當然完全不認同此觀點,我認為增加雙向貿易、投資,以及其他各方面的人民、文化、資訊、學術和科技交流,才是確保世界安全的最好方法。但事實上,明顯不少資金已開始撤離中國,部分回流到美國,但不少仍留在印太地區,但選擇轉投到中國以外的其他市場。
今年美股有多強勁已不用多說,標普500指數已穩步升近20%。日本選擇硬推奧運,結果不止賠上數十萬人的健康和上千人性命,首相菅義偉亦要賠上政治前途;但市場反而以此為炒上的藉口,日經指數升上30,000點的31年新高,今年升超過10%。感應器製造商Keyence,股價在一年半內翻倍,創始人Takemitsu Takizaki更已成為新的日本首富。澳洲受惠於大宗商品的強勢,今年ASX 200指數也升了約13%。
印度股市過去20年表現領先全球
中國人最瞧不起的印度,今年表現更突出,Nifty指數升了超過25%。其實這也不是甚麼新奇的事,印度股市過去5年、10年,甚至20年的表現,都是幾乎領先全球的。非常慶幸,我們在過去十多年,一直在積極投資印度。
早前印度確經歷過一波極嚴重的Delta Wave疫情,真正死亡人數可能高達400萬,甚至600萬,非常恐怖,但這一浪已基本上過去。已接種一針疫苗人數已超過5億,加上已被感染的,身體有抗體的人口比例或已高達80%以上!我再說一次,印度的衛生、健康和整體生活環境,當然都偏向差,在過去30年,出生和生活在中國,當然比在印度幸運得多,但若以投資者角度來看,結論是恰恰相反。
原因很簡單,印度有不少真的純粹想賺錢的企業,過去政府雖然不算很好,但亦未有嚴重影響營商環境。現任總理Modi,雖然也有強人政治傾向,但最近針對刺激經濟政策,似乎總算走向正確方向,包括企圖提升企業盈利對GDP比例,推動數字化經濟、反貪腐、對抗氣候變化,以及廣納人才入政府,例如上任不久的通訊和鐵路部長Ashwini Vaishnaw,擁有豐富私人企業管理經驗,在3個月內已落實頗完滿通訊業重組方案,對Reliance、Bharti和最弱的Idea都有幫助。
愈來愈多印裔人各領域取極大成就
印度人非常聰明,但不少中國人誤會印度人只懂說話,但實踐能力沒有中國人強。這只是沒根據的種族歧視,我見到的是愈來愈多的印裔(和南亞)人士,在全球各地尤其西方,在各領域取得極大成就,包括科學、醫科、文學、科技、商界,甚至政界,數目肯定遠多於中國人。表表者包括微軟總裁Satya Nadella、Alphabet總裁Sundar Pichai、Novartis總裁Vasant Narasimhan、英國Chancellor of the Exchequer的Rishi Sunak是下屆首相的熱門人物,亦是Infosys老闆的女婿。美國下屆總統選舉為時尚早,但兩黨的其中兩位熱門候選人極可能包括半個印裔的副總統Kamala Harris,以及共和黨的前聯合國大使,百分百印裔的Nikki Haley等!厲害嗎?
從前印度的科技公司如TCS和Infosys等,都是以顧問和outsourcing商業模式為主,缺乏自我互聯網品牌,但現在時機已到。早前的送外賣企業Zomato,帶起了IPO熱潮,短期內上市的包括數碼支付公司Paytm、網上保險的Policy Bazaar、網上化妝品電商Nykaa、SaaS服務科技的Freshworks等,今年集資額或將達100億美元,超過之前3年的總和。有間網上教育公司Byju正在進行pre IPO融資,估值210億美元,全球最高,且50%收入來自美國,20%世界各地,印度只佔30%;Freshworks也同樣高度全球化。據悉Byju的很多商業模式,都是模仿中國的教育公司的,但如今看到這些中國企業的下場,不止唏噓,更嘆息完全錯過全球發展,教育大量學生,甚至影響他們思想的絕好機會!
(中環資產擁有Infosys、TCS、Bharti、Reliance、Zomato、Microsoft和Alphabet的財務權益)
中環資產投資行政總裁
[譚新強 中環新譚]
reliance 在 Xiaomanyc 小马在纽约 Youtube 的最佳解答
Start speaking a new language in 3 weeks with Babbel (thanks for the sponsorship! ) ? Get 6 months FREE when you sign up for 6 months ➡️ https://go.babbel.com/6plus6-youtube-xiaomanyc3-may-2021/default I’ve been studying Navajo recently, and I managed to get in touch with a Navajo Native American family who lives in the Arizona desert totally off the grid, over a hundred miles, often on dirt roads, from the nearest small shopping town, with no address, no running water, no cell service, and until just a few years ago no electricity either. They actually had to legally fight to be able to get drivers licenses with just a general area rather than a specific address.
It’s extremely rare for outsiders to get to experience this very traditional and very hardcore lifestyle, and I’m so grateful to them for opening up their home to me and my friends @Dave Disci Vlogs and @Seabolt Speaks. Both we and the family were fully vaccinated for COVID before this trip, and thanks also to Babbel for sponsoring this video and I’ll be donating 100% of the sponsorship proceeds to the Rock Point Community School, which educates local kids.
Want to learn fluent Chinese like me? Sign up for my free newsletter and discover how you can pick up Chinese or other languages quickly using my weird but effective method: http://bit.ly/37gTpLc
Check out my Chinese course: http://bit.ly/3tgq4d8
Want to know what I'm working on behind the scenes?
Sign up for my newsletter and I'll send you free updates on my latest language projects:
https://languages.xiaomanyc.com
Subscribe to my channel: https://www.youtube.com/channel/UCLNoXf8gq6vhwsrYp-l0J-Q?sub_confirmation=1
Follow me on Instagram: https://www.instagram.com/xiaomanyc/
Follow me on Facebook: https://www.facebook.com/xiaomanyc/
If you guys like the music in my videos, you can check out all the AMAZING music Epidemic Sound has at my affiliate link here: http://share.epidemicsound.com/xiaomanyc
reliance 在 賓狗單字Bingo Bilingual Youtube 的最讚貼文
賓狗的更多英文學習資源:https://www.zeczec.com/projects/bingobilingual
· 全英文 podcast
· 視訊家教
· 不定時線上課程
1 【reliance 依賴】— 名詞
A trade deal with the US will allow Taiwan to move away from its heavy reliance on China.
更正:唸例句的時候,把 reliance 唸成 alliance 了囧
2【unlike 不像】— 介系詞
Unlike the first lockdown, schools will stay open.
dislike 比較
3 【recreational 娛樂的】— 形容詞
It’s likely that New Zealanders would not legalize recreational marijuana use.
4【sentiment 情緒;意見】— 名詞
French President says he understands the “sentiments” being expressed by the Muslim world.
5 【robbery and theft 竊盜】— 名詞
Cases of robbery and theft decreased by 60 percent in the Philippines during the quarantine period.
簡單複習:
1)reliance 依賴
2)unlike 不像
3)recreational 娛樂的
4)sentiment 情緒;意見
5)robbery and theft 竊盜
reliance 在 解鎖地球 Unlock the Earth / 旅行、歷史、文化 Podcast Youtube 的最讚貼文
→ 喜歡解鎖地球嗎? 一鍵支持,請我們喝杯咖啡吧:
https://pay.firstory.me/user/unlocktheearth
大家久等,Yun 又回來啦!
Ep. 21 帶我們坐上露營車環遊歐洲、Ep. 27 深入法國在地觀察,這次大家來跟著 Yun 走訪地表最大的年度嬉皮盛會 Burning Man。Burning Man 火人節每年夏天在美國內華達州的黑石沙漠舉辦,大家集思廣益、各顯奇才,人人都可以是行動藝術家!Burning Man 裡面沒有事情按照劇本走,只有十大原則需要遵守:
無條件包容 Radical Inclusion
無條件給予 Gifting
去商品化 Decommodification
自力更生 Radical Self-Reliance
自我表現 Radical Self-Experession
社區精神 Communal Effort
公民責任 Civic Responsibility
不留痕跡 Leaving no trace
積極參與 Participation
活在當下 Immediacy
在這片沙漠裡,跟超過 7 萬個陌生人一起共度這段可能是你人生中最狂的日子,這到底是什麼感覺?點擊收聽,讓 Yun 帶我們重返 2015 年的火人節!
-
1. 在 Instagram 上追蹤 Yun:https://instagram.com/yuniverseetheworld?igshid=1ft8f04s97gnh
2. 流籠到基隆音樂會:https://www.facebook.com/klccab/posts/2665993873729869
reliance 在 Reliance Industries Limited - Home | Facebook 的推薦與評價
Reliance Industries Limited, Mumbai, Maharashtra, India. 2328339 likes · 1299 talking about this. Welcome to the Official page of Reliance Industries... ... <看更多>