5G จะนำพาโลกธุรกิจเป็นไปในทิศทางไหน ผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง?
.
ด้วยอานุภาพที่เหนือกว่า 4G หลายเท่า ทั้งความเร็วที่เพิ่มขึ้น 20 เท่า, ความหน่วงที่ต่ำ ตอบสนองได้ไวถึง 1 ส่วนพันวินาที, มีความถี่ให้เลือกใช้จนถึง 30GHz และรองรับจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 10 เท่า ส่งผลให้เทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย “5G” กลายเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ระดับโลกที่น่าจับตามอง เปรียบเสมือนคลื่นพลังสึนามิลูกใหญ่ที่พร้อมทำลายสิ่งเดิมๆ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงในด้านของ Digital Disruption หลายประเทศต่างเร่งผลักดันการนำ 5G มาใช้งานในธุรกิจด้านต่างๆ เช่นเดียวกับประเทศไทย ประเทศแรกในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ให้บริการ 5G เป็นครั้งแรก
.
แม้ในปี 2020 ที่ผ่านมา อาจยังไม่ค่อยเห็นการใช้งาน 5G อย่างเข้มข้นจากภาคธุรกิจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ไม่เอื้อต่อการลงทุนหรือใช้จ่าย แต่ Krungthai COMPASS ประเมินว่า ในระยะ 1-3 ปีข้างหน้าการใช้งาน 5G จะคึกคักขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC หรือโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และจังหวัดต้นแบบของ Smart City
.
นอกจากนี้ ในด้านของลักษณะการใช้งาน คาดว่า 5G จะเข้ามาช่วยปลดล็อคข้อจำกัด ทำให้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในปัจจุบัน เกิดการพัฒนาให้ทรงพลังและถูกใช้งานมากขึ้น โดยเฉพาะส่วนสำคัญอย่าง AR/VR และ IoT (Internet of Things เทคโนโลยีที่จะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับ Smart Living อย่าง Smart Home, Smart Car ในขณะที่ภาคธุรกิจก็จะก้าวสู่การเป็น Smart Business มากขึ้น
.
หากถามถึงประโยชน์ที่ผู้ประกอบการจะได้รับจากการนำ 5G มาปรับใช้ในธุรกิจ
ไม่เพียงแค่เป็นสัญญาณโทรคมนาคมที่ช่วยทำให้การสื่อสาร หรือเจรจาธุรกิจผ่านโทรศัพท์รวดเร็วและง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การดำเนินงานของธุรกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การนำ 5G มาช่วยในการนำ Big Data จาก IoT สามารถคำนวณและประมวลผลได้เร็ว เนื่องจากอินเทอร์เน็ตมีความเร็วแรงกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมในการปรับปรุงองค์กรให้ดีขึ้น ตั้งแต่ด้านการผลิต โลจิสติกส์ รวมถึงยกระดับสินค้าและบริการของตนเองขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง
.
ซึ่งในหลาย ๆ ธุรกิจ ต่างก็นำเทคโนโลยีนี้ มาพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ จนทำให้เกิดเป็น New Business Model ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ , VDO Streaming, รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติไร้คนขับ, แทรกเตอร์ไร้คนขับ, และตู้ทำอาหารอัตโนมัติ เป็นต้น
.
โดยธุรกิจที่น่าจะได้รับผลประโยชน์จากการเข้ามาของ 5G มากที่สุดได้แก่
.
#ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ยานพาหนะ หรือแม้กระทั่งแอปพลิเคชันที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคในด้านต่างๆ ได้มากขึ้น การมี 5G จะทำให้ระบบต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นนั้น มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
.
#ธุรกิจเกษตร จากเดิมที่เกษตรกรต้องเป็นคนดูแลจัดการทั้งหมดตั้งแต่การรดน้ำ พรวนดิน หว่านเมล็ด ใส่ปุ๋ย ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่พัฒนามาเพื่อแบ่งเบา เป็นเครื่องทุ่นแรง ช่วยลดเวลาการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น แทรกเตอร์ไร้คนขับ, การใช้โดรนรดน้ำ ใส่ปุ๋ย, ใช้แอปพลิเคชันควบคุมระบบการทำงานต่างๆ เช่น ระบบน้ำ ความชื้น วิเคราะห์สภาพน้ำและดิน เป็นต้น นอกจากจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพแล้ว ยังส่งผลให้เกษตรกรมีเวลาไปจัดการส่วนอื่นๆ และมีสุขภาพที่ดีขึ้น
.
#ธุรกิจผู้ผลิต ที่ 5G จะเข้ามาผลักดันระบบโรงงานอัจฉริยะ และระบบการผลิตอัตโนมัติ เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตของแต่ละธุรกิจให้รวดเร็วและมีคุณภาพยิ่งขึ้น ในขณะที่ต้นทุนการผลิตนั้นลดลง
.
#ธุรกิจการแพทย์ ช่วยยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ที่ดียิ่งขึ้น เช่น ผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ โดยการควบคุมหุ่นยนต์ผ่านทางไกลเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ในบางพื้นที่, การตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยผ่านกล้อง, การส่งข้อมูล X-ray ด้วยเครื่อง CT Scan เป็นต้น
.
#ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ กับระบบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติไร้คนขับที่กำลังถูกพูดถึงในตอนนี้ เมื่อนำระบบไร้คนขับ มาพัฒนารวมกับระบบการขนส่งโดยรถบรรทุกสินค้า จะทำให้ธุรกิจสามารถคำนวณระยะเวลาในการขนส่งได้อย่างแม่นยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดต้นทุนค่าแรงได้อีกด้วย
.
#ธุรกิจค้าปลีก สิ่งที่ธุรกิจค้าปลีกจะได้รับประโยชน์จากการมาของ 5G คือ ระบบ AR/VR จะช่วยให้ธุรกิจและผู้บริโภคสามารถสื่อสารกันได้ง่ายและรวดเร็ว ผู้บริโภคเห็นและเข้าใจในตัวสินค้าหรือบริการของธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ผู้บริโภคนิยมการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งธุรกิจเองก็จะเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นเช่นกัน
.
อย่างไรก็ตาม การมาของ 5G นั้น ล้วนแล้วแต่มาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตประจำวันของผู้คน รวมถึงการทำธุรกิจของผู้ประกอบการทั่วโลกที่จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ดังนั้น ภาคธุรกิจจึงควรเตรียมความพร้อมและปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น สร้างบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยี ร่วมลงทุนกับพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและสนใจในเทคโนโลยีเดียวกัน รวมถึงวางระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย ซึ่งสำหรับธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทันก็อาจมีผลกระทบในเชิงลบได้มากกว่าธุรกิจที่สามารถปรับตัวได้เร็ว และลงมือทำก่อน
.
ที่มา : https://krungthai.com/Download/economyresources/EconomyResourcesDownload_4455G_26_03_63.pdf
https://www.uih.co.th/th/knowledge/5g
http://www.nbtc.go.th/getattachment/Services/quarter2560/%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2561/33173/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%9A.pdf.aspx
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#5G #เทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย #AR #VR #AI #IOT #MachineLearning
#Technology #Economy #Business #SmartBusiness #SmartCity #SmartHome #SmartCar
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「smartbusiness」的推薦目錄:
- 關於smartbusiness 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最讚貼文
- 關於smartbusiness 在 People Persona Facebook 的精選貼文
- 關於smartbusiness 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
- 關於smartbusiness 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
- 關於smartbusiness 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
- 關於smartbusiness 在 Smart Business | Facebook 的評價
- 關於smartbusiness 在 Payments and Transfer with SmartBUSINESS - YouTube 的評價
- 關於smartbusiness 在 windsage/SmartBusiness - GitHub 的評價
smartbusiness 在 People Persona Facebook 的精選貼文
“วางแผนล่วงหน้า 10 ปี ทำให้สำเร็จใน 1 ปี”
นักวางกลยุทธ์ -Ming Zeng-
“ A journey of a thousand miles must begin with a single step.”
"การเดินทางไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นที่ก้าวแรก”
บางคนอาจแปลต่างจากนี้ แต่ความหมายก็คงไม่ต่างกัน ว่ากันว่า ปรมาจารย์ เล่าจื๊อ เป็นผู้กล่าวไว้ จนกลายเป็นสุภาษิตจีน สอนผู้คนชนรุ่นหลังให้ฮึกเหิม รู้สึกถึงความสำคัญของความขยัน และการลงมือทำ...... คลาสสิค และอาจจะยังใช้ได้อยู่เสมอแม้ในโลกยุคปัจจุบัน แต่...บางที แค่เริ่มต้นลงมือทำอะไรบางอย่าง อาจไม่พอ
.
- ผมตั้งใจจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับคนคนหนึง
.
- เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อราวๆ 2 เดือนก่อน ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ CEO หนุ่มท่านหนึ่ง ที่อายุน้อยกว่าผมเกือบ 10 ปี แต่พออนุมานได้ว่า เริ่มต้นประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจขนส่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์ หรือ อี-โลจิสติกส์ ตั้งแต่ยังหนุ่ม บริษัทของเค้ามีพนักงานราวๆ 80 คน ซึ่งตอนนี้ทุกคน WFH ทำงานกันที่บ้าน ทั้งๆที่ออฟฟิศสวยมาก อยู่ชั้นสูง บนตึกหรู ที่ True Digital Park
.
- ผมไม่มีโอกาสได้ใช้เวลามากนักในการสัมภาษณ์ เพราะวันนั้นเป็นวันหยุด และสถานการณ์โควิด-19 ก็ยังน่าเป็นห่วง ตึกก็กว่าจะเปิดแอร์เล่นเอาเหงื่อแตก แต่ท่ามกลางบทสนทนาสั้นๆ ที่สะดุดหู และสะกิดหัว (สมอง) ของผมก็คือ ปรัชญาในการทำธุรกิจของผู้ชายคนนี้ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า เค้าโชคดีที่ได้มีโอกาสไปดูงาน และอบรมการทำธุรกิจกับ Alibaba group เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งผู้ชายคนหนึ่งที่เค้าประทับใจ และจดจำคำสอนได้มากกว่า แจ๊ค หม่า ซะอีกก็คือ......... เค้า จำชื่อ ไม่ได้ รู้แต่เป็น CSO (Chief Strategy Officer)
.
- เอาเป็นว่า เขาคนนี้บอกว่า ใครคนนั้น
บอกเอาไว้ว่า
ถ้าจะทำธุรกิจให้แข่งขันได้ประสบความสำเร็จในยุคนี้ ต้อง “วางแผนล่วงหน้า 10 ปี แล้วทำให้สำเร็จใน 1 ปี”
....................ล้ำลึกมาก (แต่ปฏิบัติจริง คงยากกว่ามาก) วันนั้นกลับมา ผมบอกให้เพื่อนซึ่งเก่งภาษาจีน และเคยอาศัยอยู่ที่จีนช่วยหาว่าท่าน CFO ผู้นั้นคือใคร คำตอบที่ได้ภายใน 2-3 ชั่วโมงก็คือ เขาคนนั้นชื่อว่า “หมิง เจิ้ง” (Ming Zeng) เป็นผู้ที่ “คุณต้อง กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร” เจ้าของคอลัมน์ ธุรกิจพอดีคำ และเพจ 8 บรรทัดครึ่ง เคยนิยามไว้ว่าเป็นมือขวาระดับ ขงเบ้ง/สุมาอี้ ของท่านประธาน แจ๊ค หม่า!
.
“หมิง เจิ้ง”
.
- คนคนนี้ น่าสนใจ น่าค้นลึกลงไป ในประวัติชีวิตการทำงาน เค้ามีหลายๆอย่าง คล้ายๆ แจ๊ค หม่า คือเป็นคนสายอคาเดมิค ที่เปลี่ยนมาเป็น นักธุรกิจระดับท็อป ที่ถูกสัมภาษณ์ลงนิตยสาร Forbes เอเชีย
“เจิ้ง”เป็นสกุลเก่าแก่ ของ กวางตุ้ง (Cantonese) เค้าเกิดและเติบโต รวมถึงเรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์ที่เมืองจีน ก่อนจะเดินทางไปสำเร็จปริญญาเอก ด้าน International Business Strategy ที่ อิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เค้ารู้จักกับ แจ๊ค หม่าตั้งแต่ปี 2000 แต่กว่าจะได้มาทำงานร่วมกันจริงๆจังๆก็ปี 2006 (ว่ากันว่า แจ๊ค หม่า ต้องรอ พี่หมิง เจิ้ง ของเราอยู่หลายปี เพราะเค้ากำลังเขียนหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ เลยเป็นให้ได้แค่ที่ปรึกษา คล้ายๆเล่าปี้ ต้องรอ ขงเบ้ง)
.
ซึ่งคำถามก็คือ เจิ้ง มีอะไรดีที่ หม่า ต้องการ?
.
- ว่ากันว่า หนังสือ เล่มที่ เจิ้ง เขียน ตอนที่ยังเป็นอาจารย์สอนปริญญาโทด้านธุรกิจ อยู่ที่มหาวิทยาลัย เฉิง กง (เขียนร่วมกับ Peter J. Williamson อาจารย์อีกท่าน) มีชื่อว่า “Dragon at your Doors: How Chinese Cost Innovation is Disrupting Global Competition” แปลเป็นไทยโดยสรุปของหนังสือเล่มนี้ (อ่านจาก รีวิวสรุป) ประมาณว่า “มังกรมาเยือนหน้าธรณีประตูบ้านแล้ว ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่าง ก็เตรียมตัวกันได้เลยพวกเรา”
เนื้อหาใจความ อธิบายถึงจุดดี จุดด้อย จุดเด่น จุดได้เปรียบเสียเปรียบของบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีน ที่กำลังทำให้บริษัททั่วโลกโดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรปต้องปรับตัว
.
- ในตอนที่หนังสือออกมาใหม่ๆ นอกจากจีนแล้ว ในต่างประเทศอาจดูไม่ว้าวเท่าไหร่ (แต่ตอนนี้ถ้าลองไปอ่านดูดีๆอีกที อาจเข้าใจการกระทำของ โดนัล ทรัมป์ มากขึ้นเลยทีเดียว) แต่สำหรับ แจ๊ค หม่า... เค้าคิดว่า เจิ้ง คือคนที่คิดเหมือนกัน หรืออย่างน้อยก็คล้ายกับเค้าที่สุด
เจิ้ง ขยับเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้บริหารสายกลยุทย์ของ อาลีบาบา ในยุคที่ แจ๊ค หม่า ยังกุมบังเหียนหัวเรือใหญ่ (ไม่ใช่ จาง อย่างในปัจจุบัน) และเป็นผู้วางรากฐาน Ecosystem ของระบบการค้าออนไลน์ ให้ความสำคัญกับลูกค้า ผู้ค้า และพนักงานมากกว่าหัวหน้า ทำให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วม มีบทบาท รู้สึกสนุก และอยากจะทำบางสิ่งบางอย่างใหม่ๆ ที่เครือข่าย โครงสร้างพื้นฐานออนไลน์ที่ อาลีบาบา สร้างให้ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ อาลีบาบา แตกต่างจากธุรกิจประเภทเดียวกันเจ้าอื่นๆ ในระบบ
พันธมิตรของ อาลีบาบา มีทุกชนชั้น ตั้งแต่ คนเล็ก คนใหญ่ คนซื้อ คนขาย คนผลิต คนส่งของ คนเป็นนายหน้า คนมีหัวสมองแต่ยังไม่มีของมาขาย คนรับจ้างทำโฆษณา และคนอื่นๆ
หรือพูดง่ายๆว่าทุกคน ทุกคนอยากไปมีบ้านหรือห้องเช่าเล็กๆ ใน ที่ดิน ที่มีที่ว่างไร้ขีดจำกัด ที่ชื่อว่า “อาลีบาบา”
.
- เจิ้ง บอกว่า “สูตรของการทำธุรกิจที่ชาญฉลาด (Smart Business) นั้นเป็นสมการที่เรียบง่าย.......มันคือ ระบบเครือข่ายการทำงานที่สอดประสานกัน (Network Coordination) บวกกับ การเลือกใช้ข้อมูลที่ชาญฉลาด ระดับอัจฉริยะ (Data Intelligence) (ซึ่งทั้งหมดทำด้วย AI) ”
พูดฟังดูดี แต่ทำยากอีกและ แต่นี่คือสิ่งที่ เจิ้ง และ หม่า ทำได้สำเร็จก่อนคนอื่นๆ
และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมปัจจุบัน จึงไม่มีใครเรียก อาลีบาบา ว่า อเมซอนของจีน มานานแล้ว
คุณต้อง กวีวุฒิ บอกว่าขนาด สตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Ant Financial) ซึ่งมีมูลค่า แสนห้าหมื่นล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (เดคคาคอน สามเขา) ยังเป็นแค่บริษัทลูกของอาลีบาบา คิดเอาเองละกัน!*******
.
- หลังจากอ่านเรื่องราวทั้งหมดเพื่อนำมาเขียนอะไรนี้แล้ว ก็ทำให้ผมตระหนักได้ว่า “ที่ผ่านมา กูทำอะไรอยู่วะ ห*าเอ้ยยย...” มีคนสร้างอีโคซิสเต็มไว้ให้นานแล้ว แบรนด์บุคคลก็พอมี เสือกทำตัวอินดี้ เป็นพวก แอนตี้โซเชียลเท่ๆ ขวางโลกอยู่ได้.....
....แต่เอาเถอะ เพื่อออกจากการฝากชีวิตไว้กับคนอื่น การดูแลแบบทิ้งๆขว้างๆ ตามมีตามเกิด ตามชะตากรรมลูกจ้าง มันคงถึงเวลาแล้วจริงๆ หมื่นพันลี้ของผม ได้เริ่มด้วยก้าวแรกแล้วในวันนี้ เพียงแต่....วางแผน 10 ปี ทำให้สำเร็จใน 1 ปี .... แต่ตอนนี้ 1 เดือน เพิ่งมี 2,000 Likes ทำยังไงต่อดีว้า……. 555
.
*Noted* ปัจจุบัน หมิง เจิ้ง ไม่ได้เป็น CSO ให้กับ อาลีบาบา แล้วแต่เป็น “แมกกี้ วู” หญิงเก่งที่ควบตำแหน่งนี้ พร้อมๆกับ CFO แทน และผู้ชายคนแรกที่ผมพูดถึง (ซีฮีโอหนุ่ม ) ผู้เป็นเจ้าของบริษัท GIZTIX ชื่อคุณ โหน่ง สิทธิศักดิ์ วงศ์สมนึก
#peoplepersona
#เขย่งก้าวกระโดด
#หมิงเจิ้ง #MingZeng
#Alibaba #ต้องกวีวุฒิ
#SmartBusiness
Sources: https://www.alibabagroup.com/en/ir/governance_8 https://www.thegeniusworks.com/2019/03/smart-business-ming-zeng-on-what-alibabas-success-says-about-the-future-of-strategy/
https://hbr.org/2018/09/alibaba-and-the-future-of-business
https://en.everybodywiki.com/Zeng_Ming
https://thinkers50.com/radar-2019/ming-zeng/
https://www.matichonweekly.com/column/article_176578
smartbusiness 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
smartbusiness 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
smartbusiness 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
smartbusiness 在 Payments and Transfer with SmartBUSINESS - YouTube 的推薦與評價
Payments and transfers are now easier with SmartBUSINESS platform. ... <看更多>
smartbusiness 在 windsage/SmartBusiness - GitHub 的推薦與評價
智者优选商户端. 2017.6.24 改用cordova插件; 2017.6.26 github first commit; 2017.9.20 增加点击推送角标的功能、增加点击推送事件功能,根据layout_name这个key值 ... ... <看更多>
smartbusiness 在 Smart Business | Facebook 的推薦與評價
Smart Business, Westlake, Ohio. 3269 likes · 1 talking about this. Insight, Advice and Strategy for Middle-Market CEOs and senior managers. ... <看更多>