#โศกนาฏกรรมจากอิตาลี
#คนไทยต้องเร่งเรียนรู้_เพื่อที่จะไม่พาคนทั้งชาติ_ไปสู่จุดเดียวกัน
ไพโรจน์ จีรบุณย์
สถาปนิก เพื่อสังคม
คนที่ผมรู้จักถ่ายทอดมาเชื่อถือได้ครับ
" ...คุณไม่รู้หรอก ว่า
COVID-19 มันน่ากลัวแค่ไหน จนกว่าจะเกิดกับตัวเอง
เมื่อเช้ามืด เพื่อนของผมที่ต่างประเทศส่งเรื่องนี้มาให้อ่าน
เป็นจดหมายบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอิตาลี
เขาแยกแยะ ออกเป็น 6 Stage ด้วยกัน ซึ่งที่มันพีคคือ
จากวันแรก ที่พบผู้ป่วยติดเชื้อคนแรก จนถึงวันที่ปิดประเทศ
ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
ผมแปลมาให้อ่านข้างล่างครับ
บันทึก เริ่มต้นว่า ...
ถ้าตอนนี้ คุณยังออกไปเที่ยวชิวๆ
ลั้ลลากับเพื่อนตามผับ ตามร้านอาหาร
ทำเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ได้เวลาลืมตาตื่นได้แล้ว
เราออกมาเตือนได้ เพราะเราเคยเป็นแบบนั้นเลย
และอย่างที่คุณก็คงรู้ ตอนนี้ที่อิตาลี อยู่ในสถานการณ์ที่วิกฤติอย่างมาก
สถานการณ์ทุกอย่างเลวร้าย
มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละหลายพันคน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นวันละหลายร้อยคน
แต่ ที่มันเลวร้ายกว่านั้นคือ…
การได้เห็นว่า คนในประเทศอื่น ทำตัวราวกับว่า สิ่งที่เรากำลังเจอ
จะไม่เกิดขึ้นกับพวกเขา
นี่ไม่ใช่เป็นการขู่หรือแช่ง
เรามาดูกันว่า เกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้าง
#Stage_1
อ๋อ… พบคนติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในประเทศหรอ
ไม่มีอะไรมั้ง มันก็คงเหมือนไข้หวัดใหญ่ทั่วไปแหละ
อีกอย่าง เราก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มอายุเกิน 75 นี่หว่า
แข็งแรง ปลอดภัย สบายหายห่วง
พวกตื่นตูมนี่มันตื่นได้โล่ห์จริงๆ ทำเป็นใส่หน้ากาก ทำเป็นตุนกระดาษทิชชู่
ฉันจะใช้ชีวิตเหมือนเดิม มันไม่มีอะไรต้องกังวล
#Stage_2
เริ่มมีรายงาน จำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น
ทางการประกาศ Red Zone
เริ่มต้นกักกันเมืองเล็กๆ ที่พบผู้ติดเชื้อรายแรก และเริ่มพบผู้ติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ( 22 กพ.)
อืม… เศร้าว่ะ เริ่มกังวลนิดหน่อย
แต่ กักกันกับปิดเมืองต้นเหตุไปแล้วนี่ คงไม่มีอะไรต้องกังวล
เฮ้ย… เริ่มมีคนเสียชีวิต แต่ส่วนใหญ่เป็นคนแก่นี่ พวกสื่อนี่ก็รีบปั่นเลย
พวกหิวยอดวิว ไร้จรรยาบรรณ พยายามทำให้คนแตกตื่น
มองไปรอบตัว ทุกคนก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติอยู่
เพราะงั้นไม่มีเหตุผลอะไร ที่ฉันจะต้องหยุดออกไปลั้ลลา เจอเพื่อน สังสรรค์ เฮฮา ปาร์ตี้
ฉันไม่เป็นไรหรอก เอาอยู่
#Stage_3
จำนวนผู้ติดเชื้อ สูงขึ้นเกือบสองเท่าในหนึ่งวัน
มีรายงานผู้เสียชีวิตมากขึ้นด้วย
ทางการประกาศ Red Zone และเขตกักกันเพิ่มอีก 4 เขต
ตอนนี้ 25% ของประเทศ ถูกประกาศเป็นเขตกักกันแล้ว ( 7 มีค)
โรงเรียน และมหาวิทยาลัยในบริเวณ Red Zone ประกาศปิดเรียน
แต่ ธุรกิจ ห้างร้าน ร้านอาหาร บาร์ต่างๆ ยังคงเปิดอยู่
#แต่_ความซวยที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้น
เมื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับ ได้ข่าวมาว่า
จะมีการประกาศ Red Zone
จึงรีบชิงป่าวประกาศ ก่อนเวลาอันควร
ผลคือ คนกว่า 10,000 คนเร่งอพยพหนีออกจาก Red Zone คืนนั้นเลย
เพื่อกระจายกลับบ้านในภูมิภาคต่างๆของประเทศ
(เหตุการณ์นี้ จะมีความสำคัญมากในภายหลัง)
ณ ตอนนี้ ประชากรอีก 75% ยังคงชิวและใช้ชีวิตเหมือนเดิมอยู่
แม้จะมีการออกมาเตือนให้ล้างมือ, อย่าพยายามออกไปข้างนอก และอย่าชุมนุมเกิน 5 คน ทุกๆ 5 นาที ทาง TV
... แต่ก็เท่านั้น
เพราะ ไม่มีใครคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญจริงจัง
#Stage_4
รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย
โรงเรียน และมหาวิทยาลัย ประกาศปิดทั่วประเทศอย่างน้อยหนึ่งเดือน
ประเทศอิตาลี กำลังเผชิญกับวิกฤติโรคระบาดร้ายแรง
โรงพยาบาลเริ่มรับคนไม่ไหว ถึงขั้นเคลียร์พื้นที่ เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ
ทรัพยากร หมอและพยาบาล มีไม่เพียงพอ
ถึงขั้นต้องเกณฑ์หมอที่เกษียณไปแล้ว และนักศึกษาแพทย์ 2 ปีสุดท้ายมาช่วย
#ไม่มีคำว่า_ทำงานเป็นกะ_อีกต่อไป
มันคือ การทำงานจนกว่าจะไม่ไหว และก็ยังต้องไหว แม้จะไม่ไหว
แน่นอนว่า หมอและพยาบาลก็ติดเชื้อไปด้วย และนำเชื้อกลับไปติดครอบครัว
เคสที่ต้องการเครื่องช่วยหายใจ, ปอดบวม และผู้ป่วย ICU เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีอุปกรณ์ และทรัพยากร ที่เพียงพอสำหรับทุกคน
ตอนนี้ เหมือนอยู่ในสภาวะสงคราม…
หมอ ต้องเลือกรักษาเฉพาะเคสที่มีโอกาสรอดสูง และปล่อยคนที่โอกาสรอดน้อย … ไป
นั่นแปลว่า ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยหนัก
... จะไม่ได้รับการรักษา
เพราะ เคสผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19
คือความสำคัญสูงสุด ณ ตอนนี้
และถึงจะเป็นแบบนั้น แต่ทรัพยากรก็ยังไม่พอ สำหรับทุกคนที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 อยู่ดี
เชื่อเถอะว่า ผมอยากให้เรื่องที่เล่า
เป็นเพียง ภาพยนตร์ ... ที่เพิ่งดูจบไป
แต่ ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นกับอิตาลี
คนเสียชีวิต เพราะโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วยไม่ไหวแล้ว
เพื่อนของผมคนหนึ่ง เป็นหมอ
โทรมาหาผมแบบสิ้นหวัง เพราะเพิ่งปล่อยให้ผู้ป่วยเสียชีวิตไป 3 ราย
... แบบทำอะไรไม่ได้
พยาบาลหลายต่อหลายคน ร้องไห้
เพราะ เห็นผู้ป่วยเสียชีวิตต่อหน้า ในขณะที่พวกเขา ทำได้เพียงให้ออกซิเจน
ญาติของเพื่อนผมคนหนึ่ง
เพิ่งเสียชีวิตเมื่อวาน เพราะรักษาไม่ทัน
สิ่งที่เกิดขึ้น มันคือหายนะ
ระบบทุกอย่าง กำลังพังทลาย…
#Stage_5
จำคน 10,000 คน ที่อพยพหนีการประกาศเขตกักกัน ได้ไหม?
เพราะ คนพวกนั้นเลย
#ทางการจึงต้องประกาศให้ทั้งประเทศเป็นเขตกักกันโรค ( 9 มีค )
#เป้าหมายคือ_ชะลอการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสให้ได้มากที่สุด
งานยังทำได้ ของออกไปซื้อได้ ร้านขายยาไปได้ ธุรกิจยังเปิดได้ตามปกติ
ไม่งั้นเศรษฐกิจพัง (ถ้า ยังไม่พังอยู่แล้ว)
ข้อแม้คือ ห้ามออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุอันควร
ความกลัวเริ่มแผ่ขยายไปทั่ว
คนเริ่มใส่หน้ากากกันเชื้อโรค ใส่ถุงมือ
แต่ก็นะ… ยังมีคนกลุ่มใหญ่ คิดว่าตัวเองเป็นอมตะ ยังคงไปเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ไปร้านอาหาร ไปดื่ม ไปสังสรรค์
#Stage_6
2 วันถัดจากนั้น… อิตาลีต้องประกาศปิดประเทศ!
ธุรกิจทุกอย่างปิดหมด ร้านอาหาร บาร์ ห้างสรรพสินค้า ปิดหมดเกลี้ยง
เหลือเปิดแค่ Supermarket และร้านขายยา
จะออกจากบ้านที ตอนนี้ต้องมีใบรับรองแพทย์จากทางการ ไม่งั้นห้ามออก
จุดตรวจของทางการ มีขึ้นเยอะมาก
หากพบว่า ออกจากบ้านโดยไม่มีใบรับรองจากทางการ
มีโทษปรับสูงถึง 10,000 บาท
หากถูกจับและตรวจพบว่าติดเชื้อ
คุณจะถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรมทันที มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1–12 ปี
ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ เท่านั้น
จดหมายฉบับนี้
ถูกเขียนขึ้น เมื่อวันที่ 12 มีนาคม
มันใช้เวลาแค่ 5 วัน
จาก Stage 3 ( 7 มีค.) ถึงตอนนี้…
คุณไม่รู้จริงๆหรอก ว่าคุณจะเจออะไร เพราะ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ผมก็ไม่รู้… และไม่คิดด้วย ว่าจะมีอะไร
ไวรัสอย่างเดียว ก็ร้ายแล้ว
แต่ที่ร้ายยิ่งกว่าคือ ผลกระทบจากไวรัส
มันเจ็บปวด ที่เห็นประเทศต่างๆ
ยังคงทำตัวเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในขณะที่ สามารถเรียนรู้จากเรา และลงมือทำบางอย่าง
เพื่อปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในชาติ
ได้โปรดเถอะ
ถ้าคุณเห็นข้อความนี้ จงได้โปรดปกป้องตัวเอง
วิกฤตินี้ จะไม่หายไป ด้วยการทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขอชื่นชมรัฐบาลของเรา
ที่ในที่สุด ก็ทำอะไรดีๆกับเขาบ้าง
จริงอยู่ ที่ประกาศปิดประเทศ มันร้ายแรง แต่ เป็นวิธีเดียวที่จะควบคุมวิกฤตินี้
มันได้ผลที่จีน และมันกำลังได้ผลที่อิตาลี (ใน Red Zone แรก)
นอกจากนั้น รัฐบาลยังช่วยสนับสนุน
ด้วยการออกนโยบาย พยุงธุรกิจที่ต้องปิดทำการในช่วงนี้ และผ่อนผันภาระค่าเช่าต่างๆ
สุดท้ายนี้ ถ้าประเทศของคุณ
มีเคสผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตแล้ว
คุณอาจกำลังตามหลังเราอยู่ 2 อาทิตย์
แสดงว่า มันกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
#ได้โปรดทำทุกวิถีทาง_เพื่อปกป้องตัวเองและเพื่อนร่วมชาติ
#อย่าทำเหมือนว่า_ทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นกับเรา_เราไม่มีทางเป็นต้นเหตุ
#อยู่บ้านเถอะครับ_ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆที่จะต้องออกมา
#หมายเหตุจากทางเพจ
สถานการณ์ล่าสุดในอิตาลี
จำนวนผู้เสียชีวิต มากขึ้นทุกวัน จนแซงประเทศจีนไปแล้ว
( ประมาณ 3,400 คน ในวันที่ 20 มีค )
ศพของผู้เสียชีวิต ถูกลำเลียงโดยทหาร เพื่อนำไปเผาทันที
โดย ญาติไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด
หวังว่า จะมีประโยชน์ ในแง่ของการสร้างจิตสำนึกและความรับผิดชอบ
สร้างความตระหนักรู้ร่วมกัน เพื่อให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะครับ
ไพโรจน์ จีรบุณย์
สถาปนิก เพื่อสังคม
20 มีค 2563
Search