ได้โอกาสกลับไทยแปปนึงเลยขอแว่บไปสอบ New Toeic 2021 สักหน่อย เดี๋ยวจะหาว่าไปสายเยอรมันแล้วจะลืมสายอังกฤษรึป่าว ไม่ลืมจ้ะ มันอยู่ในสายเลือดแล้ว 55 แต่ก่อนที่จะเข้าสู่รีวิว ขอขายของก่อนละกันนะทุกคน (เอาน่ะ) ใครที่กำลังจะไปสอบ หรือกำลังมืดแปดด้าน อ่านเองแล้วก็งงเพราะไม่มีใครอธิบาย มาค่ะ มาเรียนกับยู่ยี่ คือไม่รู้จริงไม่กล้ามาเปิดสอน คือบอกเลยว่าเรียนคอร์สข้อสอบยังไงให้ได้ผล คือต้องได้ทำมันจริงๆ มาตะลุยโจทย์กับยู่ยี่ 600 ข้อบอกเลย เจอข้อสอบจริงนี่ชิวๆไปเลย (และกำลังจะอัพเดทใหม่แถมให้อีก 100 ข้อเต็มๆ! ราคาเดิ้มมมมม 1500 บาทเท่านั้น คุ้มค่าเงินสุดๆ)
รายละเอียดคลิกเลยจ้ะ
https://www.facebook.com/YooYeesChannel/photos/a.322054167918832/1347197515404487/
อะมาถึงพาร์ทรีวิว อันที่จริงก็เอามาจากรีวิวอันเก่าที่เคยสอบไปเมื่อ 2 ปีก่อน 55
ต้องออกตัวก่อนเลยว่าเค้าอาจจะเป็นคนรีวิวการสอบโทอิคที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์การรีวิว แต่เค้าอยากให้คนที่เรียนหรือฝึกภาษาอังกฤษอยู่ได้อ่านนะ
อย่างที่เค้าพูดในเพจ ในแชแนล กับนักเรียนของเค้าเสมอว่า จุดประสงค์ของการเรียนภาษาคือการนำไปใช้สื่อสารได้ ซึ่งถ้าเราใช้มัน "ถูกต้อง" และบ่อยๆ ไม่ว่าจะสอบอะไรก็ได้หมด การสอบเป็นแค่ผลพลอยได้เท่านั้น
ปล. ข้อสอบ New Toeic ต่างกับ Old Toeic ยังไง ถ้าถามดิฉันคงจะบอกว่าไม่แตกต่างอะไรเลย 55 ก็คงจะยังย้ำจุดเดิมว่า ภาษาถ้าเราเรียนแล้วใช้มันอย่างถูกต้องและบ่อยๆ รูปแบบข้อสอบจะเป็นยังไง ก็ไม่มีผลอะไร มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนแน่ๆ คือค่าสอบแม่งเพิ่มขึ้นจาก 1500 เป็น 1800 จ้าาา ชอคไปอีกกกกกก
ซึ่งบ่อยมากกกกๆ ที่คนจะมาขอให้เค้าสอนทริคแบบไฟลนก้นเพราะจะรีบเอาไปใช้สอบ โดยที่ไม่สนที่จะเรียนพื้นฐานอะไรของภาษาเลย เค้าก็แอบเสียใจเล็กๆ ว่าจุดประสงค์ของการเรียนภาษามันเปลี่ยนไป แทนที่จะเป็นการใช้ได้ พูดได้ ซึ่งนำมาซึ่งประสบการณ์ดีๆในชีวิตมากมาย ได้ท่องเที่ยว ได้พูดคุยกับผู้คนและเข้าใจเขาจริงๆ กลายเป็นจำทริคอะไรไม่รู้ไปสอบ แต่ไม่ได้รู้ความหมายหรือวิธีการใช้ประโยคนั้นจริงๆ พอสอบเสร็จแล้วก็ลืมหมด ซึ่งเค้ารู้สึกว่าถ้าการทำแบบนั้นทำให้ได้มาซึ่งคะแนนที่เยอะ แต่ถ้าเราไม่ได้รู้จริงๆ ไม่ได้มีความสามารถในการใช้ภาษาจริงๆ ก็เป็นอะไรที่น่าเศร้า
หลังจากสอบข้อสอบโทอิคมาแล้ว เค้ารู้สึกว่าการจะเตรียมตัวสอบนั้น ควรจะเตรียมตัวเป็นระยะยาว และอาศัยการสะสมประสบการณ์ในการใช้ภาษาและได้เจอภาษาเยอะๆ ข้อสอบที่เค้าสอบมีข้อที่เป็นคำศัพท์เยอะมากๆๆ จนเค้าแอบเซอร์ไพส์ และศัพท์ที่ออกนั้นแอบเป็นคำศัพท์ที่ยากพอควร-ยากมาก และยิ่งกว่านั้นคำศัพท์บางข้อนั้นถามความหมายที่ไม่ได้แปลตรงตัวเป๊ะๆ แต่เป็นความหมายแฝงความนัย (โอ้ยคำหรรรู) ที่ถ้าคนที่ท่องแต่ศัพท์อย่างเดียวไป แต่ประสบการณ์การใช้ การฟังภาษาอังกฤษน้อยยากที่จะตอบได้ (บางคนท่องแต่ศัพท์ แต่ไม่ยอมหาประโยคตัวอย่างการใช้ รู้ศัพท์ไปก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี)
ในข้อสอบชุดที่เค้าสอบเจอเยอะมากกับคำถามจากบทความที่่แบบ ให้คำในบทความมาแล้วถาม The word .......... in line ...... is closest in meaning to? คำว่า ... จาก ... มีความหมายใกล้เคียงกับคำใดมากที่สุด
ข้อสอบเค้ามีคำเช่น All staff should "exercise" caution. แล้วถามว่า exercise ในข้อนี้แปลว่าอะไร ตัวเลือกก็มีมาหลอก a.use 2.work out (ที่เหลือจำไม่ได้ TT) ถ้าข้อนี้คนที่ท่องมาไม่อ่านบริบทจากบทความ ก็อาจจะตอบ work out ที่แปลว่าออกกำลังกายซึ่งเป็น synonym ของ exercise แต่ถ้าเราใช้ภาษาอังกฤษได้จะรู้ว่ามันไม่ make sense เลย ออกกำลังการความระมัดระวังคืออะไรชะ 55 ข้อนี้ต้องตอบ use.
หรือ I would like to "extend" an invitation. >> extend ใกล้เคียงกับคำไหน a.offer 2.prolong ซึ่งข้อนี้อีกเหมือนกันที่เอา synonym ของ extend คือ prolong (ต่อ ยืด) มาหลอก แต่ถ้าดูจากบริบทจะเห็นว่ามันไม่เมกเซ้นสักนิด ที่ถูกต้องคือ offer ที่แปลว่ายื่นเสนอการเชิญ แปลไทยเป็นไทยก็คือ เชิญ น่ะแหละ 55 ซึ่งเซ้นเล็กๆน้อยๆแบบนี้ล้วนมาจากประสบการณ์การใช้ การได้เจอภาษาทั้งนั้น
อีกหนึ่งคำถามที่โดนถามบ่อยมากสำหรับข้อสอบโทอิคคือ "ทำไม่ทัน ข้อสอบเยอะมาก ทำไงดี" คำถามที่ต้องโดนถามกลับไปคือ
"ในชีวิตประจำวัน ได้อ่านภาษาอังกฤษเยอะแค่ไหน? หรือเคยหาหรือหยิบภาษาอังกฤษมาอ่านบ้างรึป่าว?" ถ้าคำตอบคือ น้อย แทบจะไม่ ยู่ยี่คิดว่าน่าจะได้คำตอบแล้ว
คนที่ชอบอ่านนิยาย หรืออ่านการ์ตูนจะรู้ว่า พอเราอ่านเยอะๆ นิยายเรื่องนึงหรือการ์ตูนหน้านึงเรานี่กวาดสายตาอ่านภายในชั่วพริบตา ศัพท์ที่เคยอ่านแล้วงงๆ เจอไปเจอมา เปิดศัพท์มา พอเจออีกก็สบายๆ เดาทั้งความหมายทางตรงทางนัยทางอ้อมทางโค้งได้หมด เพราะฉะนั้นคนที่บอกว่าอ่านไม่ค่อยทัน แปลศัพท์ไม่ค่อยออก ลองหานิยายที่ชอบ การ์ตูนที่ชอบ หรือนิตยสารเจือกเรื่องดารามาเริ่มอ่านตั้งแต่วันนี้ และหาศัพท์มาท่อง วันละนิดละหน่อยดู ยู่ยี่รับประกันเลยว่าคะแนนสอบและการใช้ภาษาอังกฤษจะดีขึ้นแน่นอน
มาถึงการฟัง ยู่ยี่ว่าการฟังมีการซับซ้อน หลอกล่อและซ่อนเงื่อนพอควร ถ้าใครที่ไม่เคยดูหนังซาวแทร็คเลย ไม่ฟังเพลงอังกฤษเลย ถึงจะไปเรียนทริคเทริคอะไรมาก็น่าจะช่วยอะไรไม่ได้มาก
วิธีที่พัฒนาการฟังให้ดีมากๆ คือการฟังทุกวัน พยายามเอาตัวเอาไปโดนภาษานั้นๆ ให้ได้มากที่สุด เพลงเป็นวิธีที่ดีที่่สุด แต่ยู่ยี่บอกเสมอว่าอย่าฟังไปแบบนกกาให้มันผ่านไปโดยที่ไม่รู้ความหมายใดๆ ฟังเพื่อออออ? เรียนรู้จากเพลง เปิดความหมายมันแปล แล้วเรียนรู้จากมันซะ ได้ยินวนไปวนมา นอกจากการฟังจะพัฒนาและ ยังอยู่ๆจะพูดได้ไฟแล่บได้โดยไม่รู้ตัว เพราะมันมีทำนองไง ร้องไปร้องมา ปากมันก็ฝึกไป สมองก็จำไป คือยังไงก็ได้อ่ะ จริงๆ (ซึ่งถ้าใครชอบวิธีนี้ เค้าเพิ่งเปิดคอร์ส YooYee Daily life https://www.facebook.com/YooYeesChannel/photos/a.322054167918832/456251534499094/?type=3&theater
เอ้าขายของงงงงงงงง)
สิ่งที่สำคัญที่สุดของโทอิคคือเวลา เอาตามตรง ตามความคิดยู่ยี่ ยู่ยี่ว่ามันไม่ได้ยากขนาดนั้นเลย แต่เยอะ และเวลาจำกัด เพราะฉะนั้นการเจอบ่อยๆๆๆทำบ่อยๆๆ เนี่ยแหละทำให้ทำเร็วมาก 60 ข้อแรกที่เป็นพาร์ทคำศัพท์ + แกรมม่า ยู่ยี่จะใช้เวลาทำไม่เกิน 15 นาที เพราะถ้าเกินนี้จะทำข้างหลังแบบตุ่มๆต่อมๆละ แต่ด้วยความที่ยู่ยี่สอนภาษาอังกฤษมานาน ทำแบบฝึกหัดมาก็เป็นหมื่นๆข้อแล้วอะเนอะ เพราะฉะนั้นทุกคนก็พยายามทำแบบฝึกหัดเยอะๆๆๆๆๆ!!!
อย่างที่บอกว่านี่คงเป็นรีวิวที่แย่ที่สุดในการรีวิว เป็นการแนะนำมากกว่า เพราะยู่ยี่ไม่มีทริคใดๆจะบอก นอกจากถ้าเราใช้ภาษาได้ เราก็จะทำได้ ยู่ยี่เลยอยากให้ทุกคนเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เด็กมหาลัยก็อย่ารอให้มันซะปีสี่แล้วถึงจะเริ่มเคลื่อนไหวตัว เริ่มมันตั้งแต่ตอนนี้แหละ ท่องศัพท์ไป เรียนแกรมม่าไปวันละนิดละหน่อย ทำไมต้องรอให้มันเก่งตอนจะสอบใช่มั้ย? มันไม่เก่งขึ้นมาข้ามคืนหรอกนะคะคุณเทอออ คุณเทอเชื่อดิฉัน เริ่มและสะสมมันตั้งแต่วันนี้แหละ!
ก่อนจะจากกันไป ขอย้ำว่าอยากเก่งภาษาพื้นฐานต้องแน่น พยายามเรียนรู้วิธีใช้ วิธีพูดที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มเรียน ไม่ใช่ถูไถๆมั่วๆไป แล้วคิดว่าเดี๋ยวมันก็ถูกเอง เพราะมันจะไม่มีวันนั้นนะคะ ไหนๆเรียนแล้ว ก็เรียนให้มันถูกไปเลยไม่ดีกว่าหรอ ใช่ป่ะ? ถ้าคิดว่ามีแรงจะเรียนเองก็ซื้อหนังสือมาอ่าน แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง มืดจริงจังก็หาครูซะ อยากเก่งก็ต้องเข้าหาคนที่เขารู้จริงมั้ย? ถ้าหาครูไม่ได้ก็มาเรียนกับเค้าก็ได้ 555555555
รัก
ยู่ยี่ ❤️
#Toeic2021 #โทอิค2021 #สอบโทอิค #คอร์สโทอิค
「work out synonym」的推薦目錄:
- 關於work out synonym 在 YooYeesChannel Facebook 的最讚貼文
- 關於work out synonym 在 YooYeesChannel Facebook 的精選貼文
- 關於work out synonym 在 謙預 Qianyu.sg Facebook 的精選貼文
- 關於work out synonym 在 One Word Synonym for "Tired" as in Exercising/Running 的評價
- 關於work out synonym 在 candidly synonym. Share on Facebook Share on Twitter Email ... 的評價
- 關於work out synonym 在 or urban dictionary. • Share on Facebook, Twitter, txt and ... 的評價
work out synonym 在 YooYeesChannel Facebook 的精選貼文
บทสนทนาระหว่างยู่ยี่ และเพื่อน
ยู่ยี่ : มิงงง. ไปสอบการไฟฟ้าปะ
(การไฟฟ้าใช้คะแนนโทอิค 550 คะแนน)
เพื่อน : ไม่อะ. ไม่ได้สมัคร คะแนนโทอิคไม่ถึง
ยู่ยี่ : ก็แล้วทำไมมิงไม่สอบให้ถึงงงง
เพื่อน : กุเรียนวิดวะ. กุโง่อิ้งไงมิง
ยู่ยี่ : ได้ข่าวว่ากุก็นั่งเรียนข้างมิง จบพร้อมมิง อิหอยหลอดดดด
จะเรียนคณะอะไรก็เก่งภาษาได้. ฮ่วย! พอยึดติดว่าเรียนคณะคำนวณแล้วไม่สนใจเรียนภาษาอังกฤษ. แล้วพอจะต้องใช้จริง แล้วไม่ได้ มันเสียโอกาสมั้ยยยย
ปัดโถ่!
รัก
ยู่ยี่. ❤️
ปล.ขออภัยในภาษาหยาบคาย. แต่ยกประโยคจากเหตุการณ์จริงมาเล่า 😂😂
สวัสดีค่าทุกคนนนนน ❤️❤️❤️❤️
"ใครว่าไม่ได้เรียนด้านภาษา ต้องโง่ภาษา เอาหัวโหม่งโต๊ะค่ะ!"
เมื่อวันก่อนเค้าไปสอบโทอิคมา ผลเพิ่งมาส่งที่บ้านสดๆร้อนๆ วันนี้ เค้าเลยอยากจะมาบอกเล่าประสบการณ์การสอบของเค้า เผื่ออาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย (หรืออาจจะไม่เลย ฮ่าๆ)
ต้องออกตัวก่อนเลยว่าเค้าอาจจะเป็นคนรีวิวการสอบโทอิคที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์การรีวิว 55 แต่เค้าอยากให้คนที่เรียนหรือฝึกภาษาอังกฤษอยู่ได้อ่านนะ
อย่างที่เค้าพูดในเพจ ในแชแนล กับนักเรียนของเค้าเสมอว่า จุดประสงค์ของการเรียนภาษาคือการนำไปใช้สื่อสารได้ ซึ่งถ้าเราใช้มัน "ถูกต้อง" และบ่อยๆ ไม่ว่าจะสอบอะไรก็ได้หมด การสอบเป็นแค่ผลพลอยได้เท่านั้น
ซึ่งบ่อยมากกกกๆ ที่คนจะมาขอให้เค้าสอนทริคเพราะจะรีบเอาไปใช้สอบ เค้าก็บอกตามตรงเสมอว่าทริคเทริคอะไรเค้าไม่มี เวลาเค้าทำข้อสอบเค้าก็ทำไปตามความรู้ที่เค้ามี ตามประสบการณ์การใช้ภาษาของเค้า และเค้าก็แอบเสียใจเล็กๆ (ตามภาษาคนรักการเรียนภาษาอะเนอะ) ว่าจุดประสงค์ของการเรียนภาษามันเปลี่ยนไป แทนที่จะเป็นการใช้ได้ พูดได้ ซึ่งนำมาซึ่งประสบการณ์ดีๆในชีวิตมากมาย ได้ท่องเที่ยว ได้พูดคุยกับผู้คนและเข้าใจเขาจริงๆ กลายเป็นจำทริคอะไรไม่รู้ไปสอบ แต่ไม่ได้รู้ความหมายหรือวิธีการใช้ประโยคนั้นจริงๆ พอสอบเสร็จแล้วก็ลืมหมด (ทำตัวเป็นเด็กวิศวะไปได้ ปัดโถ่! 55) ซึ่งเค้ารู้สึกว่าถ้าการทำแบบนั้นทำให้ได้มาซึ่งคะแนนที่เยอะ แต่ถ้าเราไม่ได้รู้จริงๆ ไม่ได้มีความสามารถในการใช้ภาษาจริงๆ ก็เป็นอะไรที่น่าเศร้า
หลังจากสอบข้อสอบโทอิคมาแล้ว เค้ารู้สึกว่าการจะเตรียมตัวสอบนั้น ควรจะเตรียมตัวเป็นระยะยาว และอาศัยการสะสมประสบการณ์ในการใช้ภาษาและได้เจอภาษาเยอะๆ ข้อสอบที่เค้าสอบมีข้อที่เป็นคำศัพท์เยอะมากๆๆๆ จนเค้าแอบเซอร์ไพส์ และศัพท์ที่ออกนั้นแอบเป็นคำศัพท์ที่ยากพอควร-ยากมาก และยิ่งกว่านั้นคำศัพท์บางข้อนั้นถามความหมายที่ไม่ได้แปลตรงตัวเป๊ะๆ แต่เป็นความหมายแฝงความนัย (โอ้ยคำหรรรู) ที่ถ้าคนที่ท่องแต่ศัพท์อย่างเดียวไป แต่ประสบการณ์การใช้ การฟังภาษาอังกฤษน้อยยากที่จะตอบได้ (บางคนท่องแต่ศัพท์ แต่ไม่ยอมหาประโยคตัวอย่างการใช้ รู้ศัพท์ไปก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี)
ในข้อสอบชุดที่เค้าสอบเจอเยอะมากกับคำถามจากบทความที่่แบบ ให้คำในบทความมาแล้วถาม The word .......... in line ...... is closest in meaning to? คำว่า ... จาก ... มีความหมายใกล้เคียงกับคำใดมากที่สุด
ข้อสอบเค้ามีคำเช่น All staff should "exercise" caution. แล้วถามว่า exercise ในข้อนี้แปลว่าอะไร ตัวเลือกก็มีมาหลอก a.use 2.work out (ที่เหลือจำไม่ได้ TT) ถ้าข้อนี้คนที่ท่องมาไม่อ่านบริบทจากบทความ ก็อาจจะตอบ work out ที่แปลว่าออกกำลังกายซึ่งเป็น synonym ของ exercise แต่ถ้าเราใช้ภาษาอังกฤษได้จะรู้ว่ามันไม่ make sense เลย ออกกำลังการความระมัดระวังคืออะไรชะ 55 ข้อนี้ต้องตอบ use.
หรือ I would like to "extend" an invitation. >> extend ใกล้เคียงกับคำไหน a.offer 2.prolong ซึ่งข้อนี้อีกเหมือนกันที่เอา synonym ของ extend คือ prolong (ต่อ ยืด) มาหลอก แต่ถ้าดูจากบริบทจะเห็นว่ามันไม่เมกเซ้นสักนิด ที่ถูกต้องคือ offer ที่แปลว่ายื่นเสนอการเชิญ แปลไทยเป็นไทยก็คือ เชิญ น่ะแหละ 55 ซึ่งเซ้นเล็กๆน้อยๆแบบนี้ล้วนมาจากประสบการณ์การใช้ การได้เจอภาษาทั้งนั้น
อีกหนึ่งคำถามที่โดนถามบ่อยมากสำหรับข้อสอบโทอิคคือ "ทำไม่ทัน ข้อสอบเยอะมาก ทำไงดี" คำถามที่ต้องโดนถามกลับไปคือ
"ในชีวิตประจำวัน ได้อ่านภาษาอังกฤษเยอะแค่ไหน? หรือเคยหาหรือหยิบภาษาอังกฤษมาอ่านบ้างรึป่าว?" ถ้าคำตอบคือ น้อย แทบจะไม่ ยู่ยี่คิดว่าน่าจะได้คำตอบแล้ว
คนที่ชอบอ่านนิยาย หรืออ่านการ์ตูนจะรู้ว่า พอเราอ่านเยอะๆ นิยายเรื่องนึงหรือการ์ตูนหน้านึงเรานี่กวาดสายตาอ่านภายในชั่วพริบตา ศัพท์ที่เคยอ่านแล้วงงๆ เจอไปเจอมา เปิดศัพท์มา พอเจออีกก็สบายๆ เดาทั้งความหมายทางตรงทางนัยทางอ้อมทางโค้งได้หมด เพราะฉะนั้นคนที่บอกว่าอ่านไม่ค่อยทัน แปลศัพท์ไม่ค่อยออก ลองหานิยายที่ชอบ การ์ตูนที่ชอบ หรือนิตยสารเจือกเรื่องดารามาเริ่มอ่านตั้งแต่วันนี้ และหาศัพท์มาท่อง วันละนิดละหน่อยดู ยู่ยี่รับประกันเลยว่าคะแนนสอบและการใช้ภาษาอังกฤษจะดีขึ้นแน่นอน
**แต่!! ถ้ามันยังไม่ทัน ยู่ยี่แนะนำให้อ่านโจทย์ก่อน แล้วค่อยไปหาคำตอบดู อย่าเสร่ออ่านบทความก่อน แล้วค่อยไปอ่านโจทย์ แล้วต้องกลับมาอ่านใหม่อย่างยู่ยี่ เสียเวลามาก 55**
มาถึงการฟัง ยู่ยี่ว่าการฟังมีการซับซ้อน หลอกล่อและซ่อนเงื่อนพอควร ถ้าใครที่ไม่เคยดูหนังซาวแทร็คเลย ไม่ฟังเพลงอังกฤษเลย ถึงจะไปเรียนทริคเทริคอะไรมาก็น่าจะช่วยอะไรไม่ได้มาก
วิธีที่พัฒนาการฟังให้ดีมากๆ คือการฟังทุกวัน พยายามเอาตัวเอาไปโดนภาษานั้นๆ ให้ได้มากที่สุด เพลงเป็นวิธีที่ดีที่่สุด แต่ยู่ยี่บอกเสมอว่าอย่าฟังไปแบบนกกาให้มันผ่านไปโดยที่ไม่รู้ความหมายใดๆ ฟังเพื่อออออ? เรียนรู้จากเพลง เปิดความหมายมันแปล แล้วเรียนรู้จากมันซะ ได้ยินวนไปวนมา นอกจากการฟังจะพัฒนาและ ยังอยู่ๆจะพูดได้ไฟแล่บได้โดยไม่รู้ตัว เพราะมันมีทำนองไง ร้องไปร้องมา ปากมันก็ฝึกไป สมองก็จำไป คือยังไงก็ได้อ่ะ จริงๆ (ซึ่งถ้าใครชอบวิธีนี้ เค้าเพิ่งเปิดคอร์ส YooYee Daily life https://www.facebook.com/…/a.322054167918…/620521274738785/… เอาน่ะๆ ให้เค้าโฆษณานิดนึงนะตัวเอง)
สิ่งที่สำคัญที่สุดของโทอิคคือเวลา เอาตามตรง ตามความคิดยู่ยี่ ยู่ยี่ว่ามันไม่ได้ยากขนาดนั้นเลย แต่เยอะ และเวลาจำกัด เพราะฉะนั้นการเจอบ่อยๆๆๆทำบ่อยๆๆ เนี่ยแหละทำให้ทำเร็วมาก 60 ข้อแรกที่เป็นพาร์ทคำศัพท์ + แกรมม่า ยู่ยี่จะใช้เวลาทำไม่เกิน 20 นาที เพราะถ้าเกินนี้จะทำข้างหลังแบบตุ่มๆต่อมๆละ แต่ด้วยความที่ยู่ยี่สอนมา ทำแบบฝึกหัดมาก็เป็นหมื่นๆข้อแล้วอะเนอะ 55 เพราะฉะนั้นทุกคนก็พยายามทำแบบฝึกหัดเยอะๆๆๆๆๆ!!!
อย่างที่บอกว่านี่คงเป็นรีวิวที่แย่ที่สุดในการรีวิว เป็นการแนะนำมากกว่า เพราะยู่ยี่ไม่มีทริคใดๆจะบอก นอกจากถ้าเราใช้ภาษาได้ เราก็จะทำได้ 55 ยู่ยี่เลยอยากให้ทุกคนเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เด็กมหาลัยก็อย่ารอให้มันซะปีสี่แล้วถึงจะเริ่มเคลื่อนไหวตัว (หล่อนเป็นคนนะไม่ใช่สล๊อต!) เริ่มมันตั้งแต่ตอนนี้แหละ ท่องศัพท์ไป เรียนแกรมม่าไปวันละนิดละหน่อย ทำไมต้องรอให้มันเก่งตอนจะสอบใช่มั้ย? มันไม่เก่งขึ้นมาข้ามคืนหรอกนะคะคุณเทอออ คุณเทอเชื่อดิฉัน เริ่มและสะสมมันตั้งแต่วันนี้แหละ!
ยู่ยี่โคดหมกหมุ่นภาษาอังกฤษมากตอนสมัยมอปลาย แล้วก็ใช้+ฝึกภาษาอังกฤษมาตลอดกับตัวเอง (ดิฉันเรียนโรงเรียนเตรียมวิศวะตอนมอปลาย และวิศวะไฟฟ้าตอนมหาลัย ไม่ได้เรียนอะไรเกี่ยวกับภาษาเลย ไม่เคยเรียนอินเตอร์เลยยังทำได้!) เข้าสอบโทอิคครั้งแรกตอนปีสอง เพราะจะเอาคะแนนโทอิคไปยื่นทุนฝึกงาน ไม่เคยรู้มาก่อนว่าข้อสอบเป็นยังไง อะไร เปิดคำข้อสอบผ่านๆในบารอน แล้วก็ไปเข้าไปครั้งแรกในชีวิต ได้ 955 คะแนน ใช้ประสบการณ์สอบทั้งนั้น และมาสอบอีกทีก็ครั้งนี้ (สามปีต่อมา)
ก่อนจะจากกันไป ขอย้ำและขอโฆษณานิดนึง (เอาน่ะๆ) ว่าอยากเก่งภาษาพื้นฐานต้องแน่น พยายามเรียนรู้วิธีใช้ วิธีพูดที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มเรียน ไม่ใช่ถูไถๆมั่วๆไป แล้วคิดว่าเดี๋ยวมันก็ถูกเอง เพราะมันจะไม่มีวันนั้นนะคะ ไหนๆเรียนแล้ว ก็เรียนให้มันถูกไปเลยไม่ดีกว่าหรอ ใช่ป่ะ? ถ้าคิดว่ามีแรงจะเรียนเองก็ซื้อหนังสือมาอ่าน แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง มืดจริงจังก็หาครูซะ อยากเก่งก็ต้องเข้าหาคนที่เขารู้จริงมั้ย? ถ้าหาครูไม่ได้ก็มาเรียนกับเค้าก็ได้ 555555555 เค้าไม่ได้สอนให้เอาไปทำข้อสอบ แต่สอนให้เอาไปใช้ได้ (และใส่แบบฝึกหัดอีกเป็นพันข้อ ทำทุกข้อแล้วจะทำข้อสอบได้ไปเอง 55) เค้าไม่ได้สอนแค่ในตำรา แต่จากประสบการณ์ดำดึกดำดึ๊ยของเค้าจากการไปอยู่ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน และฝึกงานกระเตงอยู่หลายทวีป ถ้าคิดว่าตัวเองจะสู้กับการเรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง เค้าก็พร้อมจะสอนและช่วยอย่างสุดความสามารถ เค้าเข้าใจว่ามันยากและท้อ เพราะเค้าก็เคยเป็น แต่ถ้าเค้าทำได้ ทุกคนก็ทำได้
รายละเอียดคลิก
https://www.facebook.com/…/a.322054167918…/456251534499094/…
คอร์สเค้าจุดประสงค์ตอนเขียนหนังสือและเปิดมาไม่ได้ที่จะทำมาเพื่อการสอบโทอิคแต่เพื่อให้คนเรียนเรียนภาษาอังกฤษแล้วเอาไปใช้จริงได้ รู้จริง และไม่ลืม แต่มีนักเรียนมาถามเยอะมาก และเนื้อหาเค้าครอบคลุมเนื้อหาโทอิคทั้งหมด และเพื่อนักเรียนที่อยากฝึกทำข้อสอบ เค้าเลยใส่เฉลยข้อสอบโทอิคอย่างละเอียดทุกข้อเพิ่มเข้าไปในคอร์สด้วย (win win เนอะ) และเค้าก็ปสอบโทอิคสนามจริง เพื่อไปดูว่าข้อสอบมันไปถึงไหนแล้ว จะได้เอามาจ้อ มาเม้าถูก
📌📌📌โปรโมชั่น!📌📌📌
📌📌📌 เดือนกุมภาเป็นเดือนที่เค้าเปิดคอร์สครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว เค้าเลยจัดโปรสักหน่อย สมัครคอร์ส Basic1 + คอร์ส Daily life พร้อมกัน จาก 6500 บาท เค้าลดให้เหลือ 6000 บาท พร้อมกับแถมสมุดคำศัพท์ให้ฟรี 3 เล่ม และเพิ่มเวลาเรียนจาก 10 เดือนเป็น 1 ปี นะคะ (ดูจนเกลียดหน้าเค้าเลยทีเดียวอะ 55)
สมัครแยกคอร์สเดียวก็ได้นะ เค้าก็แถมสมุดคำศัพท์ให้ฟรี 1 เล่มน้า
👉 Basic1 เหมาะกับคนพื้นฐานไม่ดี ปูพื้นฐานให้ใหม่หมด และคนที่จะไปสอบ TOEIC ราคา 3500 บาท 50 ชม.
👉 YooYee Daily life เหมาะสำหรับคนพื้นฐานโอเคแล้ว แต่อยากเอาไปใช้ อยากดูหนังฟังเพลงรู้เรื่อง และอยากเพิ่มคลังศัพท์ ราคา 3000 บาท 40 ชม.)
ถึง 28 กุมภาพันธ์ นี้เท่านั้นนะตัว
inbox มาสอบถาม + สมัครได้เลยน้า
รัก
ยู่ยี่ (YooYeeschannel)
work out synonym 在 謙預 Qianyu.sg Facebook 的精選貼文
It has been a good 5 months since I last did a Wealth Manifestation Home Feng Shui Workshop.
You may think it's the norm to have a Wealth-themed workshop pre-CNY.
But nah, that wasn't the first thought on my mind.
Remember my husband and I used to be $180K in debt?
You know when was the worst time I felt really miserable and remorseful for all that I have done wrong financially?
Yes, Chinese New Year.
When I should be buying new clothes, giving extra money to my parents and in-laws, decorating our home with CNY decor and just buying more of our favourite CNY goodies, setting aside angpow money for the children and elder relatives...
I was just crying and crying inside at a bank account that only had $0.60 and I would shake every time I had to open a letter that remotely resembled a bill.
I didn't dare to tell my parents and relatives what was happening to me.
3 Lunar New Years, my friend.
For THREE Lunar New Years, I dreaded waking up. I wished I could just sleep the whole 15 days away, without having to see anyone, in my old and worn clothing.
During one Lunar New Year, my sister-in-law loaned my husband $2000. Actually, more like give. She didn't set a timeline for him to return. So that we would have enough to tide over the CNY period and beyond.
Both the Husband and I are the eldest in the family. To borrow money from our younger siblings, parents or relatives is like a huge slap across our faces.
How irony right? It's like pretending to that we are doing good, yet everything was falling down like dominoes in reality. Still have to laugh and talk to relatives at CNY gatherings.
I swear I almost went crazy from having to hear 恭喜發財 one more time then.
From that day on, I vowed that NEVER again I would reach that low in my life.
For every synonym you have for the word "painful", I probably have experienced it during that three years to pull myself up, with Feng Shui and Buddhist practices.
Perhaps you are lucky enough not to have went through what I did TWICE in my life, to be as poor as a pauper.
But my friend, if money had been a struggle for you, or you know your finances can certainly do better with a shakeup in your Home Feng Shui, come hear what I have to say next Sunday.
2017 is the Year of the Fire Rooster. Trust me, when I say it wouldn't be an easy year for the global economy, and definitely it would affect our tiny nation, Singapore.
However, if your Home Feng Shui is in tip top condition, you don't have to fall when everyone else is. Remember this, there's always money to be made in times of downturn and conflicts. So why can't that person be you?
I am still doing a FREE Room Feng Shui audit at my workshop for the the early birds. It is my signature offering every workshop and my participants can vouch that how amazing it is to learn the thought process of a Feng Shui practitioner LIVE!
PLUS for this workshop, I am offering you an option to ask me the ONE burning question in your mind about your career/wealth luck for the Year of the Fire Rooster.
Say, should you change job? Is it time to further your studies? Or can you finally start that business of yours? etc etc...
After 12 workshops, I have gotten a better understanding of my participants, so let's set the record straight here.
If you prefer fantasizing to taking action, don't buy my ticket.
If you like to whine about things and send me PMs in the middle of the night, yet NEVER acting on my advice, don't buy my ticket.
If you think my ticket is soooo expensive, don't buy my ticket.
I'm not here for the bargain hunters, whiners or the skeptics.
In the past 4 weeks alone, I have seen two ends of the spectrum.
My participants who had taken action, and those who after 6 months, still never acted.
The results speak for themselves.
And one last thing, out of respect, I don't serve my Shifu's clients too, unless he asks me to. Please don't buy my ticket or seek my services. I think it's dumb that you approach me when you have someone that level of divinity serving you.
Don't be fooled by my supposedly friendlier demeanour. I'm known to be strict and serious, when dealing with the destinies and home Feng Shui of clients. I don't toy with people's futures because any miscalculated advice can ruin a family's happiness.
So pardon me if I had to refund your ticket before the workshop. Nothing personal here, just my work value preferences.
I hope none of you had to struggle financially. But if you are or worry that you might in the upcoming times of uncertainy, I welcome you to come seek my customized solutions for you this Sunday. :)
.....................
春節講座:迎接2018財到我家!
2018 CNY Wealth Manifestation Feng Shui Workshop
14 January 2018, Sunday
3pm-530pm
http://qianyu.sg/wealth-2018
work out synonym 在 candidly synonym. Share on Facebook Share on Twitter Email ... 的推薦與評價
Definitions of candidly, synonyms, antonyms, derivatives of candidly, ... I decided to create my own workout to provide a little variety. ... <看更多>
work out synonym 在 or urban dictionary. • Share on Facebook, Twitter, txt and ... 的推薦與評價
Associated with the trend is the anti-work movement (created in 2013) and the ... from a … urban dictionary Urban Dictionary stands out from the herd. ... <看更多>
work out synonym 在 One Word Synonym for "Tired" as in Exercising/Running 的推薦與評價
While this could apply to work or other non-exercise pursuits, I've generally seen it used only for working out or playing (well, one other use, ... ... <看更多>
相關內容