Bumble แอปคู่แข่ง Tinder ที่ให้ผู้หญิง เป็นฝ่ายเลือกก่อน /โดย ลงทุนแมน
“ฉันอยากมีเบอร์โทรฯ ของผู้ชายไว้ แต่ไม่อยากให้พวกเขามีเบอร์โทรฯ ของฉันเลย”
“ถ้าผู้หญิงเป็นฝ่ายเลือกได้ว่า จะติดต่อไปเพื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์หรือไม่ มันก็คงจะดี”
นี่คือสิ่งที่อยู่ในหัวของคุณ Whitney Wolfe Herd
ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชันหาคู่ ชื่อว่า “Bumble”
ซึ่งกำลังก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญของ Tinder
ไอเดียดังกล่าว ถูกนำมาพัฒนาให้เป็นแอปหาคู่ที่น่าสนใจอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
คุณ Whitney Wolfe Herd เป็นนักธุรกิจหญิง สัญชาติอเมริกัน
เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1989 และปัจจุบันมีอายุ 31 ปี
จริงๆ แล้ว เธอเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ “Tinder” แพลตฟอร์มหาคู่ชื่อดังแห่งยุค
แต่คุณ Wolfe Herd กลับต้องเผชิญปัญหาการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน ทำให้เธอตัดสินใจลาออกและฟ้องร้องบริษัท ซึ่งสุดท้าย Tinder ตกลงจ่ายค่ายอมคดีความเป็นเงิน 30 ล้านบาท ให้กับเธอ
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คุณ Wolfe Herd สร้างแพลตฟอร์มสำหรับหาคู่ ที่ให้ความสำคัญกับผู้หญิงเป็นหลัก
โดยเธอลองนึกถึงมุมมองของตัวเอง ที่ไม่ได้อยากให้ผู้ชายมีเบอร์โทรฯ ติดต่อหรือโทรหาเธอเวลาไหนก็ได้ แต่ถ้าเธออยากคุยเมื่อไร ก็จะเป็นฝ่ายโทรไปหาผู้ชายเอง
ซึ่งต่อมา เธอมีโอกาสนำเสนอไอเดียนี้ให้กับคุณ Andrey Andreev นักธุรกิจชาวรัสเซีย เจ้าของแอปหาคู่ ที่ชื่อว่า Badoo ที่ค่อนข้างโด่งดังในยุโรป โดยทั้งคู่รู้จักกัน สมัยคุณ Wolfe Herd ทำงานอยู่ที่ Tinder
ปรากฏว่าคุณ Andreev ชอบแนวคิดธุรกิจหาคู่ที่ให้สิทธิ์ผู้หญิงได้เลือกตัดสินใจก่อนเป็นอย่างมาก เขาจึงให้เงินทุน 300 ล้านบาท เพื่อให้คุณ Wolfe Herd นำไปก่อตั้งบริษัทเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชัน โดยเขาจะถือหุ้น 79% ขณะที่คุณ Wolfe Herd เป็นซีอีโอ และถือหุ้นอีก 20%
แล้วแอปพลิเคชันหาคู่ “Bumble” ก็ถือกำเนิดขึ้น จากเงินทุนก้อนนั้น..
แอป Bumble เปิดให้บริการครั้งแรก เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2014
หลังจากคุณ Wolfe Herd ลาออกจาก Tinder ไม่ถึง 1 ปี
แล้วแอปหาคู่ Bumble มีรูปแบบการใช้งานอย่างไร?
บริการทั่วไปของ Bumble จะมีลักษณะคล้ายกับ Tinder หรือแอปหาคู่อื่นๆ
เมื่อเราสไลด์หน้าจอไปเจอคนที่ถูกใจ ก็ให้ปัดขวาเก็บไว้ แต่ถ้าไม่ถูกใจ ก็ปัดซ้ายทิ้งไป
ซึ่งถ้าฝั่งตรงข้ามสนใจเราเช่นกัน ก็จะถือว่าจับคู่สำเร็จ หรือเรียกว่า Match
แต่ข้อแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นคือ
เมื่อเกิดการ Match แล้ว จะมีเพียงฝ่ายหญิงเท่านั้นที่สามารถเริ่มต้นส่งข้อความติดต่อไปก่อนได้
ส่วนฝ่ายชายทำได้แค่ “รอ” เท่านั้น
และถ้าภายใน 24 ชั่วโมง ไม่มีการพูดคุยเกิดขึ้น การ Match ก็จะถูกยกเลิกทันที ราวกับซินเดอเรลล่าที่พวกเขาเพิ่งตกหลุมรัก ได้หายตัวไปแล้ว
ฟีเจอร์นี้ ทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่า Bumble ค่อนข้างปลอดภัยกว่าแอปอื่นๆ รวมทั้งผู้ชายเองก็ผ่อนคลายความกดดันลง เมื่อรู้ว่าผู้หญิงเปิดโอกาส ส่งผลให้ทั้งคู่พูดคุยกันได้อย่างสบายใจมากขึ้น
นอกจากนั้น Bumble ยังมีบริการรองรับความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ
เช่น หากคู่ที่ Match เป็นเพศเดียวกัน ใครจะทักไปก่อนก็ได้
หรือโหมด BFF ไว้สำหรับหาเพื่อนที่มีความสนใจเหมือนกัน
มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า Bumble มีคนใช้งานเยอะแค่ไหน?
บริษัทใช้โมเดลธุรกิจแบบ Freemium
คือ เปิดให้บริการพื้นฐานฟรี แต่ถ้าสมัครสมาชิก ราคาประมาณ 300 บาทต่อเดือน ก็จะมีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติม เช่น ขยายเวลา Match ได้นานกว่า 24 ชั่วโมง
ปัจจุบัน Bumble มียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไปแล้วมากกว่า 100 ล้านครั้ง
โดยมีผู้ใช้งานประจำ 12.3 ล้านบัญชีต่อเดือน ซึ่งเป็นสมาชิกแบบจ่ายเงิน 1.2 ล้านบัญชี
ถ้านับแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกา Bumble จะเป็นแอปหาคู่ที่ได้รับความนิยมอันดับ 2 ของตลาด
โดยมีชาวอเมริกันใช้งานแอป 5 ล้านบัญชีต่อเดือน เป็นรองแค่ Tinder ที่มีผู้ใช้งาน 7.8 ล้านบัญชีต่อเดือน
ด้วยการเติบโตที่น่าสนใจนี้ จึงทำให้ The Blackstone Group บริษัทการเงินสัญชาติอเมริกัน เข้ามาซื้อหุ้นจากคุณ Andreev ผู้ที่ถือหุ้นอยู่กว่า 79% ของบริษัทเจ้าของแอป Bumble
โดยที่ คุณ Andreev ตกลงขาย เพราะมีข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการเหยียดเพศในที่ทำงาน ซึ่งตรงข้ามกับภาพลักษณ์ที่บริษัทสร้างมาตั้งแต่ต้น
จากนั้น ก็ได้มีการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่เป็น Bumble Group ที่ดูแลทั้งแพลตฟอร์ม Bumble และ Badoo รวมถึงให้คุณ Wolfe Herd ดำรงตำแหน่งซีอีโอ ที่ดูแลภาพรวมทั้งหมด
ผลประกอบการของบริษัท Bumble Group
ปี 2018 รายได้ 10,788 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 14,646 ล้านบาท
และ 9 เดือนของปี 2020 รายได้ 12,480 ล้านบาท
โดยล่าสุด Blackstone บริษัทจัดการการลงทุนในสหรัฐอเมริกา ได้ประเมินมูลค่าธุรกิจของ Bumble Group ไว้อยู่ที่ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 90,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสตาร์ตอัปในระดับยูนิคอร์น
และล่าสุด Bumble Group ก็กำลังเตรียมจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ แล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์ก็คาดการณ์ว่า มูลค่าบริษัทอาจเพิ่มขึ้นสูงถึง 180,000-240,000 ล้านบาท
หากเปรียบเทียบกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Bumble Group จะมีขนาดใหญ่พอๆ กับ ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
หรือ บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เลยทีเดียว
เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นว่า
ในอุตสาหกรรมที่ผลิตภัณฑ์มีลักษณะคล้ายกัน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทอยู่รอด หรือยึดครองส่วนแบ่งตลาดได้
คือ การสร้างจุดขาย ให้ตอบโจทย์ความต้องการ หรือ “Pain point” ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
เหมือนในกรณีของธุรกิจแพลตฟอร์มหาคู่
ที่มาตอบโจทย์ความต้องการความปลอดภัยของผู้หญิงในการเล่นแอปหาคู่
จนได้รับความนิยมมากขึ้นในที่สุด
เมื่อก่อน คนส่วนใหญ่ อาจจะรู้จักแต่ Tinder และนึกชื่อแอปอื่นไม่ออก
แต่ต่อไป ถ้าถามผู้หญิงว่า เล่นแอปหาคู่อะไรกัน
เราอาจเริ่มได้ยินพวกเธอตอบว่า “ฉันเล่นแอป Bumble อยู่” ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.forbes.com/sites/angelauyeung/2021/01/15/bumble-the-online-dating-app-where-women-make-the-first-move-files-to-go-public/?sh=420919e84b13
-https://www.forbes.com/sites/clareoconnor/2017/11/14/billion-dollar-bumble-how-whitney-wolfe-herd-built-americas-fastest-growing-dating-app/?sh=d7fc3b7248b3
-https://en.wikipedia.org/wiki/Bumble_(app)
-https://www.datingsitesreviews.com/staticpages/index.php?page=Tinder-Statistics-Facts-History
-https://www.statista.com/statistics/826778/most-popular-dating-apps-by-audience-size-usa/
bbl wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
อิเล็กทรอนิกส์ไทย ธุรกิจที่ได้ประโยชน์ ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาด /โดย ลงทุนแมน
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทำให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบในแง่ลบ
เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว, ธุรกิจขนส่งสาธารณะ หรือห้างสรรพสินค้า
แต่ในทางกลับกัน ก็มีผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านบวกจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์มออนไลน์ หรือธุรกิจดิลิเวอรี
และอีกหนึ่งธุรกิจที่นักลงทุนมองว่าได้ประโยชน์จากโควิด 19 ก็คือ
“อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์”
เราได้เห็นมูลค่าของบริษัทกลุ่มนี้ในตลาดหุ้นไทย เพิ่มสูงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับจุดต่ำสุดในช่วงเดือนมีนาคม
DELTA มีมูลค่า 4.27 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 เท่า
KCE มีมูลค่า 4.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า
HANA มีมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า
SVI มีมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8 เท่า
เรื่องนี้มีสาเหตุมาจากอะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยมาก
ในปี 2019 มูลค่าการส่งออกสินค้าของประเทศไทย เท่ากับ 7.5 ล้านล้านบาท
โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่า 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 15% ของการส่งออกทั้งหมด
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ไทยถือเป็นหนึ่งในฐานการผลิตและผู้ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก
ไม่ว่าจะเป็น ชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์, ฮาร์ดดิสก์, แผงวงจร และส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้า
ทั้งนี้การระบาดของโควิด 19 ทำให้เศรษฐกิจและการค้าขายระหว่างประเทศ ต้องหยุดชะงักลง ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกได้รับผลกระทบอย่างหนัก
แต่ดูเหมือนว่า วิกฤติครั้งนี้กลับทำให้ตลาดมีความต้องการใช้สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น
แทบทุกประเทศทั่วโลกมีการใช้นโยบายปิดเมือง และสนับสนุนให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในวงกว้าง
ทำให้กิจกรรมส่วนใหญ่ในชีวิตมนุษย์ ถูกย้ายไปอยู่บนแพลตฟอร์มโลกออนไลน์แทน
เช่น การติดต่อสื่อสาร, ชอปปิง, สั่งอาหารดิลิเวอรี หรือแม้แต่การทำงาน ที่ต้องเปลี่ยนไปเป็นแบบ Work From Home มากขึ้น
ซึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์เหล่านั้น ล้วนต้องใช้งานผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง สมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์
นอกจากนั้นยังต้องมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รวมทั้งฐานข้อมูลบน Cloud และทำให้การใช้งานศูนย์กลางเก็บข้อมูล หรือ Data Center มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามา ล้วนมีความเกี่ยวข้อง กับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่บริษัทในไทยเป็นผู้ผลิต
นอกจากนั้น การขยายตัวของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ที่ทำให้เกิดธุรกิจประเภท Internet of Things ก็เป็นปัจจัยส่งเสริมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคตด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ไทย จึงฟื้นตัวจากวิกฤติอย่างรวดเร็ว และกำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด
บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “DELTA”
ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพาเวอร์ซัปพลาย และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ผลิตภัณฑ์อัตโนมัติ และผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสื่อสารข้อมูล
ผลประกอบการปี 2020 ของ DELTA
ไตรมาสที่ 1 รายได้ 12,680 ล้านบาท กำไร 857 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 2 รายได้ 14,491 ล้านบาท กำไร 2,020 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 3 รายได้ 17,826 ล้านบาท กำไร 2,642 ล้านบาท
บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “KCE”
ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนในเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องมือสื่อสาร อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
ผลประกอบการปี 2020 ของ KCE
ไตรมาสที่ 1 รายได้ 3,259 ล้านบาท กำไร 424 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 2 รายได้ 2,127 ล้านบาท กำไร 71 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 3 รายได้ 2,721 ล้านบาท กำไร 250 ล้านบาท
บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ “HANA”
ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ วงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์โทรคมนาคม
ผลประกอบการปี 2020 ของ HANA
ไตรมาสที่ 1 รายได้ 4,609 ล้านบาท กำไร 483 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 2 รายได้ 4,592 ล้านบาท กำไร 476 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 3 รายได้ 4,813 ล้านบาท กำไร 367 ล้านบาท
บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ “SVI”
ผู้ผลิตและให้บริการประกอบผลิตภัณฑ์วงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์แบบสำเร็จรูป
ผลประกอบการปี 2020 ของ SVI
ไตรมาสที่ 1 รายได้ 3,212 ล้านบาท กำไร 227 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 2 รายได้ 4,174 ล้านบาท กำไร 109 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 3 รายได้ 4,198 ล้านบาท กำไร 249 ล้านบาท
ดูจากผลประกอบการ ทุกบริษัทยังทำกำไรได้ดีในทุกไตรมาส ไม่เหมือนบริษัทในอุตสาหกรรมอื่นที่อาจมีการขาดทุนในช่วงปีนี้ ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจึงมีความสนใจต่อบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ และคาดหวังถึงผลตอบแทนที่ดี จนราคาหุ้นของหลายบริษัทพุ่งสูงขึ้นมาก นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด 19
โดยเฉพาะหุ้น DELTA ที่ตอนนี้มีมูลค่าบริษัทสูงเป็นอันดับ 6 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
แซงหน้าธนาคาร KBANK, SCB, BBL
ธุรกิจเครือโรงพยาบาลใหญ่สุดในไทยอย่าง BDMS
และธุรกิจพลังงานยักษ์ใหญ่อย่าง GULF, PTTEP
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงเรื่องหนึ่งที่ต้องจับตาดูสำหรับอุตสาหกรรมนี้ คือ “การแข็งค่าของเงินบาท”
ในปัจจุบัน เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 30 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลให้สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ส่งออกของไทย มีราคาแพงขึ้นในสายตาชาวต่างชาติ
รวมทั้งประเทศผู้ผลิตรายอื่นที่มีค่าแรงถูกกว่าไทย เช่น เวียดนาม ก็อาจดึงดูดเม็ดเงินลงทุนและพัฒนาฐานการผลิต จนเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดไปจากบริษัทไทยได้
อ่านถึงตรงนี้ เราคงพอสรุปได้ว่า
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทย ได้ประโยชน์จากโควิด 19 ที่เร่งให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น
แต่ต้องติดตามต่อไปว่า บริษัทไทยจะเติบโตได้ตามความคาดหวังของนักลงทุน และรักษาความสามารถในการแข่งขันให้เหนือกว่าประเทศคู่แข่งในระยะยาว ได้หรือไม่
ซึ่งคงต้องบอกว่า เรื่องนี้เป็นโอกาสที่ประเทศไทยควรรีบคว้า และรักษาเอาไว้ในมือให้ดี
เพราะถ้าโลกเปลี่ยนแปลงไปตามแนวโน้มเมกะเทรนด์ดังกล่าวจริงๆ
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ก็น่าจะช่วยให้เกิดการจ้างงาน, สร้างรายได้ให้คนภายในประเทศ และขยายผลเป็นธุรกิจต่อเนื่องที่มีมูลค่าสูงได้อีกมาก
ซึ่งนี่ก็อาจเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญ
ที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง อีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นได้..
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้น การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.bot.or.th/App/BTWS_STAT/statistics/ReportPage.aspx?reportID=747&language=th
-https://en.wikipedia.org/wiki/Economy_of_Thailand#Electrical_and_electronics
-https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/879900
-https://www.deltathailand.com/imgadmins/investor/press_pdf/DELTA_press_en2020-11-03_11-47-43.pdf
-http://kce.listedcompany.com/misc/mdna/20201110-kce-mdna-3q2020-th.pdf
-https://www.hanagroup.com/uploads/files/financial/453/mdaq3-20-th_(2).pdf
-https://investor.svi-hq.com/misc/MDNA/20201112-svi-mdna-3q2020-th.pdf