QGEN - HR Practice Provider
People คือหนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้คนเก่งหรือ Talent ขององค์กรเลือกที่จะไม่ไปต่อ ซึ่ง Employee Engagement Model ของ QGEN ได้แบ่งรูปแบบความสัมพันธ์กับคนในองค์กรออกเป็น 4 รูปแบบ ที่มีอิทธิพลต่อเหตุผลและความรู้สึกที่ต่างกันไปตามการให้คุณให้โทษ และการสร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน
หัวหน้า ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และลูกค้า คือรูปแบบของคน 4 ประเภทที่ QGEN พูดถึง ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่นำไปโยงกับการรักษาคนเก่งหรือ Talent ขององค์กรไว้ หัวหน้าจะเป็นเป้านิ่งลำดับแรกที่หลายคนนึกถึง และอาจจะตัดสินไปแล้วด้วยว่า นี่แหละคือสาเหตุหลักที่ทำให้องค์กรเสียคนเก่งไป
การตัดสินใจลาออกของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นคนในค่าเฉลี่ยขององค์กร หรือ Talent ขององค์กร มีเหตุผลอยู่มากมาย ปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรไม่ได้ องค์กรอื่นให้ตำแหน่ง เงินเดือน สวัสดิการ ที่ดีกว่า Work Life Balance ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดหวัง หรือแม้แต่งานไม่สนุก รู้สึกไม่มีคุณค่า และผังองค์กรที่มีลำดับขั้นเยอะจนทำให้งานไม่เดินหรือล่าช้าไปกว่าที่ควรจะเป็น
หรือถ้าปัญหาของการลาออกเป็นเรื่องของคน ก็มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งการมีปัญหากับลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้า แต่ก็นั่นล่ะครับ ถึงจะมีเคสให้เห็นอยู่บ้างอย่างนักเตะเล่นไล่โค้ช แต่ก็เป็นส่วนน้อยจริง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเทียบกับการที่ใครซักคนจะลาออกเพราะหัวหน้า
เหรียญมีสองด้านเสมอ อย่าเพิ่งเร่งตัดสินว่าเป็นเพราะหัวหน้า ภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดที่หลายคนอาจจะไม่รู้ สิ่งที่หัวหน้าได้ทำไปก็อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ณ เวลานั้นก็ได้ และเช่นกันครับหัวหน้าบางคนอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานอยากจะที่เปิด Job Board ในทุกวัน แต่ก็มีไม่น้อยเหมือนกันที่หัวหน้าคือคนสำคัญที่กระตุ้นและเป็นแรงผลักให้หลายคนทำงานอย่างมีความสุข
ความกังวลของหัวหน้าหน้าใหม่หลายคนคือ ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะบริหารทีมอย่างไร กลัวการตำหนิผู้อื่น กลัวการถูกนินทา นี่คือเรื่องที่ผมมองว่าผู้บริหารและ HR จะต้องให้ความใส่ใจกับหัวหน้าหน้าใหม่ที่แต่ละคนอาจจะมี People Management Skill ที่ไม่เท่ากัน อย่ารอให้เค้ากังวลจนทำตัวไม่ถูก เร่งพัฒนาเค้าด้วยในวันที่เรา Promote เค้าขึ้นไปเป็น Leader
Leadership ตามนิยามของ Jims Collin คือ ศิลปะของการกระตุ้นให้คนในทีมอยากจะทำ ในสิ่งที่เค้าจะต้องทำให้สำเร็จ นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้ Leader ในทุกระดับลองไปตีความดู และในงานพื้นฐานของ Leader ในทุกระดับต้องลองไปพิจารณากันอีกทีว่า เราทำเรื่องพื้นฐานเหล่านี้ได้ดีแค่ไหน และถ้าเราทำได้ไม่ดี นี่คือหนึ่งในการส่งสัญญาณว่าคนเก่ง ๆ จะไม่อยู่กับเราหรือเปล่า
1.Target Setting การตั้งเป้าหมายให้กับคนในทีม 2. Assignment การมอบหมายงานให้กับคนในทีมโดยเน้นที่ Strength เป็นที่ตั้ง 3. Monitoring & Tracking การติดตามงานอย่างเหมาะสม และไม่ Micro Management จนขาด Creativity 4 Evaluation and Feedback แยกคนเก่งและไม่เก่งออกจากกันได้ และสามารถให้ข้อมูลเพื่อไปพัฒนาตนเองของทีมแต่ละคนด้วย และ 5 Reward & Recognition ซึ่งเชื่อมโยงกับการตั้งเป้าและการประเมินผล
ขอไม่ลงรายละเอียดใน Content นี้นะครับ แต่ลองไปเช็คดูว่าเราทำครบมั้ย ให้คะแนนตัวเองกันหน่อยว่าเราได้ดีแค่ไหน
ทีนี้กลับมาที่เหตุและผลของการที่คนเก่งลาออก แล้วบอกว่า หัวหน้านี่แหละคือสาเหตุสำคัญ จากประสบการณ์ของผมเอง ผมวิเคราะห์ออกมา 4 หัวข้อใหญ่ ๆ ที่เป็นพฤติกรรมของหัวหน้าซึ่งส่งผลต่อเหตุผล อารมณ์และความรู้สึกของคนทำงาน โดยเฉพาะกับคนเก่ง ๆ
ขอตัดเรื่องหัวหน้าที่ EQ น้อย ๆ ออกไปก่อน เพราะประเด็นนั้นคงไม่จำเป็นต้องคุย ส่วนอีก 4 ข้อ อยากจะให้หัวหน้าไปลองรีวิวตัวของเราเองดู เผื่อว่าเราจะเจอต้นตอของปัญหา และหาวิธีในการแก้ไขได้ ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อรักษาคนเก่งไว้ให้อยู่กับเราต่อไปได้
ข้อแรกคือ Communication หัวหน้าที่สื่อสารไม่เป็น ซึ่งการพูดเก่งไม่ได้หมายความว่าสื่อสารเป็น และถ้าเราย้อนกลับไปดู 5 งานพื้นฐานของหัวหน้า Communication คือองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้กระบวนการเหล่านั้นประสบความสำเร็จ
ข้อสอง หัวหน้าที่ไม่วางแผน Career Path ให้กับ Talent อย่างเหมาะสม เราต้องไม่ลืมว่า Career Growth คือเหตุผลอันดับต้น ๆ ของ Talent โดยเฉพาะ New Generation หัวหน้าคนไหนที่ลืมเรื่องนี้ไป รีบกลับมาวางแผนซะก่อนที่ Talent ของเราจะไปวางแผนกับองค์กรอื่น
ข้อที่สาม หัวหน้าที่เป็น Center ในทุกเรื่อง ไม่ Empower ให้กับ Talent ในการทำงานทั้งที่ตอนเลือกคนเข้ามา พยายามเลือกคนที่เก่งที่สุด แต่ไม่ให้อำนาจในการทำงานที่เหมาะสม
และข้อสุดท้าย คือหัวหน้าที่ไม่ตัดสินใจ
ทั้ง 4 ข้อนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากให้หัวหน้าไปลองพิจารณาดู และถ้าให้ดีลองทำ Feedback โดยให้ทุกคนในทีมบอกเราว่า อะไรคือสิ่งที่เราควรพัฒนา เปิดใจให้มากเพื่อรับฟังเรื่องเหล่านั้น ถ้าเห็นว่านั่นคือ Fact และเราควรจะเร่งพัฒนาปรับปรุงตัวเราเองก็ควรรีบทำซะ
คนเก่งหาไม่ได้ง่าย ๆ รักษาเค้าไว้ให้ดีนะครับ
ใน Content หน้าจะมาเล่าเรื่อง Leader for Employee Experience ซึ่งเป็นอีกแนวทางนึงในการ Retain และ Engage คนเก่งไว้ให้กับองค์กร ฝากติดตามนะครับ
#Leadership #EmployeeEngagement #EmployeeExperience
#QGEN
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
career path คือ 在 HR - The Next Gen Facebook 的最佳貼文
มีคำถามที่แอบสวนกระแสและอาจจะชวนหมั่นไส้อยู่หน่อย ๆ คือ ถ้าวันนี้เลือกมีสิทธิที่จะเลือกทำงานกับองค์กรไหนก็ได้ เราจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ
อย่าเพิ่งรีบตอบ เพราะก่อนจะตอบว่าใช้อะไรตัดสินใจ อย่าลืมว่าเราต้องเริ่มจากการที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนก่อนเพราะคงไม่ง่ายที่เราจะเลือกได้องค์กรที่ทุกอย่างติ๊กถูกได้หมดทุกข้อ อยากได้เงินเดือนสูง ๆ เลยเลือกบริษัทที่จ่ายเยอะ แต่ต้องแลกกับหัวหน้าที่อาจจะไม่เข้ากันกับเราเลย สังคมการทำงานที่ไม่คุ้นเคย กับงานที่ทั้งหนักทั้งเครียด ไม่มีโอกาสได้แสดงศักยภาพกับงานอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นคิดให้ดี ๆ
แต่ถ้าเป็นผมในวันนี้ที่มีโจทย์ในชีวิตชัดเจนแล้วว่าอยากจะเติบโตอย่างมั่นคง สิ่งที่ผมจะใช้วัดว่าผมจะไปทำงานที่ไหนก็คือ วิสัยทัศน์ของผู้นำและวัฒนธรรมองค์กร
วิสัยทัศน์ของผู้นำ ต้องเห็นโอกาสอยู่เสมอ พร้อมจะพาธุรกิจให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โดยไม่เอารัดเอาเปรียบสังคม และเห็นคุณค่าของทุกคนที่อยู่รอบตัวผู้นำไม่ว่าจะอยู่ในระดับใดก็ตาม
ส่วนวัฒนธรรมองค์กร ต้องเปิดกว้างและส่งเสริมให้เกิดการเติบโตอย่างจริงใจ
เป็นเงื่อนไขที่เหมือนง่าย แต่องค์กรที่มีคุณสมบัติอย่างที่ผมบอกไป ก็ไม่ใช่ว่าจะหาง่าย และถ้าหาได้ก็อาจจะไม่ง่ายที่จะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร เพราะองค์กรแบบนี้ใคร ๆ ก็อยากร่วมงานด้วย
ผมขอยกตัวอย่างองค์กรนึงที่หลายคนน่าจะรู้จักดี และน่าจะเคยใช้บริการ แต่อาจจะไม่รู้เลยว่าองค์กรของเค้าอยู่กันอย่างไร บริหารกันยังไงถึงได้ทำให้องค์กรมั่นคงและเติบโตต่อเนื่องมาตลอด
ผมกำลังพูดถึง Kerry Express ครับ
รู้กันมั้ยว่า Kerry Express เปิดดำเนินการมาแล้วถึง 14 ปีและมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศไทยกว่า 15,000 จุด ที่เป็นอย่างนี้ได้ เพราะวิสัยทัศน์ผู้นำที่มองเห็นว่า ประเทศไทยขาดโอกาสที่จะการขนส่งที่ดีไปยังทุก ๆ กลุ่ม จึงได้มุ่งพัฒนาคุณภาพและวิธีการจัดส่งให้ครอบคลุม ทั่วถึง ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นลูกค้ารายใหญ่หรือรายย่อย
วิสัยทัศน์ตรงนี้แหละครับที่เป็นจุดตั้งต้นให้องค์กรต้องพัฒนารูปแบบและวิธีการทำงานเพื่อให้ตอบสนองต่อตลาดอยู่เสมอ และวิสัยทัศน์ของผู้นำอีกเหมือนกันที่ทั้งสร้างทั้งผลักดันให้วัฒนธรรมองค์กรสนับสนุนให้คนเติบโตอย่างมั่นคง มีคุณค่าและมีความสุขในการทำงาน
มีความสุขยังไง ลองคิดตามผมนะ
Kerry Express เป็นองค์กรที่ปรับตัวเองอยู่เสมอ ไม่ได้ปรับตามสถานการณ์แต่เป็นการปรับนำสถานการณ์ สิ่งที่ Kerry Express ทำอยู่คือการสร้างมาตรฐานใหม่และเพิ่มนวัตกรรมในอุตสาหกรรม Logistics ถ้าใครพอจะตามข่าว Kerry Express คือผู้ที่เริ่มพัฒนารูปแบบการจัดส่งพัสดุให้ถึงในวันถัดไปครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด
เล่นใหญ่ขนาดนี้ จะไปรอดได้ผู้บริหารต้องเอาด้วย และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์จากพนักงานทุกคน จะเด็กกว่าหรืออยู่มาก่อน ทุกความเห็นที่เป็นประโยชน์ต้องได้รับการรับฟังแน่ ๆ ถ้าไม่ฟังเลยนี่ ผมมั่นใจว่าเป้าหมายเล่นใหญ่ขนาดนั้น ไม่มีทางทำสำเร็จได้แน่ ๆ
และพนักงานเองก็ต้องเปิดใจ รับฟัง รวมทั้งมั่นใจในแนวทาง วิธีการ และการนำทีมของผู้บริหารเช่นกัน แฟร์ แฟร์ นะ
Kerry Express ทำได้ และไม่ได้หยุดไว้เท่านั้น การไม่หยุดพัฒนา และเป็น First Mover อยู่เสมอ ว่ากันตามตรงธุรกิจในลักษณะนี้ถ้าเอาแต่เดินตามคงจะอยู่ได้ไม่นาน เมื่ออยากจะอยู่ต่ออย่างมั่นคงก็ต้องเดินให้นำหน้าคนอื่น ซึ่งผมก็เชื่อนะว่า Kerry Express จะยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงแน่ เพราะการพัฒนาตนเองอยู่เสมอคือตัวตนของ Kerry Express
เนี่ย Kerry Express เป็นแบบเนี้ย ใครที่สนุกกับงานที่ท้าทาย พร้อมจะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอผู้บริหารก็เล่นใหญ่ไม่หยุดในเรื่องเป้าหมายและความมั่นคงขององค์กร จะทำงานแบบไม่มีความสุขเหรอ ผมนี้เนื้อเต้นแล้วนะ
พูดถึงเรื่องความท้าทายในการทำงาน ผมไปแอบรู้มาแบบนี้ เผื่อจะทำให้เราตื่นเต้นเพิ่มขึ้นได้อีกหน่อย
ข้อแรก อย่างที่บอกไปความเห็นของทุกคนในองค์กรสำคัญทั้งหมด Kerry Express ก็เลยจัดผังองค์กรแบบ Flat Organization เพราะเชื่อมั่นในคุณค่าของทุกคน ไม่ว่าจะมาก่อนหรือมาทีหลัง แล้วก็เชื่อว่าผู้นำที่ดีจะต้องเก่งทั้งงาน และเก่งทั้งคน
ข้อสอง มีระบบการทำงานแบบ Project Base ให้ทุกคนได้ทดลองรูปแบบการทำงานใหม่ๆ เสมอ เพราะฉะนั้นทุกคนจะได้มีวิธีการทำงานของตนเอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องซ้ำแบบใครถ้าหากว่าผลลัพธ์ที่ได้มันดีกว่าเดิม
ข้อสาม Experiment & Learn การทำผิดไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป Kerry Express รับได้กับการลองผิดลองถูกเพื่อให้เกิดการพัฒนา
ข้อสี่ Active Work Culture มีความยืดหยุ่นในการทำงานเพื่อให้ทุกคนในองค์กรแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ สภาวะ
ข้อห้า Fast Career Path ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถเติบโตได้จากคุณภาพของงาน และใครที่เก่งจริง ๆ ก็มีระบบ Fast Track ไว้รองรับการเติบโตที่ไปได้ไวกว่าคนอื่น ๆ เช่นกัน ซึ่งอายุเฉลี่ยของพนักงานในองค์กรอยู่ที่ 28 ปีเท่านั้น และมีพนักงานระดับ Manager ที่อายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นองค์กรที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่จริงๆ
ทั้ง 5 ข้อนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเท่ ๆ หรือแค่ให้ดูทันสมัย แต่มาจากจุดเริ่มต้นคือวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่เชื่อมั่นในคุณค่าของคน และมั่นใจว่า Kerry Express จะเติบโตอย่างมั่นคงได้ คนของ Kerry Express ก็ต้องมีความสุขกับความท้าทายในการทำงาน และอยู่ด้วยกันได้กับวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการเติบโตอย่างมั่นคง
จะเลือกเติบโตไปกับองค์กรแบบไหน อย่าลืมดูวิสัยทัศน์และวัฒนธรรมองค์กรนะครับ
#KerryExpressThailand
#HRTheNextGen
career path คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
กว่าจะมีวันนี้ของร้าน หัวปลาช่องนนทรี /โดย ลงทุนแมน
จากร้านข้าวต้มปลาเล็กๆ เมื่อ 37 ปีก่อน
คงมีน้อยคนที่จะคิดว่าร้านเล็กๆ ในวันนั้น
จะกลายมาเป็นเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีรายได้หลักร้อยล้านบาท ในวันนี้
เส้นทางความสำเร็จของร้านหัวปลาช่องนนทรี
ผ่านอะไรมาบ้าง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ผู้ก่อตั้งร้านอาหารหัวปลาช่องนนทรี คือ คุณแป๋ว ลิมป์รัตนกาญจน์ ซึ่งชีวิตในวัยเด็กของเธอค่อนข้างยากลำบาก พ่อมีอาชีพขับรถ 3 ล้อ ส่วนแม่นั้นเป็นแม่ค้าหาบของขายในตลาด
แน่นอนว่า นอกจากเวลาเรียนแล้วคุณแป๋วก็ต้องไปช่วยแม่หาบของขายในตลาดเช่นกัน ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ซึ่งคุณแป๋วเล่าว่า ปกติแล้วขายได้เงินวันละประมาณ 10 บาท
คุณแป๋ว เรียนจนถึงแค่ชั้น ป.2 ก็ต้องออกจากโรงเรียนมาขายของแทนคุณแม่ เนื่องจากคุณแม่ป่วย ซึ่งเงินที่ค้าขายนั้น รวมกับรายได้จากการถีบรถ 3 ล้อของคุณพ่อ ก็เอามาใช้ในการรักษาคุณแม่ของเธอ จนคุณแม่ค่อยๆ หายและกลับมาค้าขายได้อีกครั้ง
เมื่อคุณแป๋วอายุ 16 ปี เธอขอคุณแม่กลับไปเรียนภาคค่ำ เนื่องจากอยากอ่านหนังสือออก และหลังเลิกเรียนก็ยังมาช่วยทำงานหาเงินต่อ
แต่แล้วแม่ของเธอล้มป่วยอีกครั้ง คุณแป๋วต้องหยุดเรียน และทำงานหนักมากขึ้นเพื่อหาเงินมารักษาคุณแม่
จนเมื่อคุณแม่ของเธอเสีย ตอนนั้นครอบครัวยังมีหนี้สินมาก คุณพ่อก็เอารถ 3 ล้อไปจำนอง
ส่วนคุณแป๋วก็ทำงานต่อไปหาเงินมาใช้หนี้ อีกประมาณ 3 ปี เธอจึงสามารถสะสางหนี้สินของครอบครัวหมด
ต่อมาคุณแป๋วได้แต่งงานกับคุณกฤช ซึ่งเปิดร้านทำหน้าต่างและประตูเหล็ก คุณแป๋วจึงออกมาเป็นแม่บ้าน และไม่ได้ค้าขายที่ตลาด
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของคุณกฤชนั้นมีรายได้ไม่แน่นอน แถมต้องให้เครดิตแก่ลูกค้า ทำให้หลายครั้งธุรกิจจึงขาดสภาพคล่อง
ทั้งคู่เลยตัดสินใจมาขายของกิน เนื่องจากจะมีเงินสดมาหมุนเวียนมากกว่า โดยเริ่มจากเปิดร้านข้าวต้มปลาเล็กๆ เป็นเพิงในตอนเย็นเพื่อหารายได้อีกทาง ช่วงแรกร้านของทั้งคู่มีโต๊ะนั่งเพียง 3 โต๊ะเท่านั้น
เวลาผ่านไปร้านข้าวต้มเริ่มขายดี เจ้าของที่ที่ทั้งคู่เช่าอยู่ เลยอยากให้ทั้งคู่ขยายร้านเพิ่ม การขยายร้านนอกจากจะทำให้มีจำนวนลูกค้ามากขึ้น ยังทำให้เมนูอาหารเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
หลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปกิจการก็ค่อยๆ ขยายสาขา จนกลายเป็น อาณาจักรหัวปลาช่องนนทรี ในปัจจุบัน
ตอนนี้ ร้านหัวปลาช่องนนทรี มีทั้งแบบสแตนด์อโลนจำนวน 6 สาขา โดยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 สาขาและต่างจังหวัด 1 สาขา รวมทั้งยังมีสาขาในห้าง 3 สาขา ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เมกาบางนา และเทอร์มินอล 21 (โคราช)
รายได้ บริษัท หัวปลาช่องนนทรี จำกัด
ปี 2559 รายได้ 122 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 190 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 271 ล้านบาท
ในส่วนของชื่อร้านนั้นคุณแป๋วและคุณกฤชเล่าว่า จริงๆ แล้วชื่อร้านมาจากลูกค้า ซึ่งเกิดจากเวลาที่ลูกค้านัดเจอกัน มักจะพูดว่า “ไปเจอกันที่ร้านหัวปลาแถวช่องนนทรี”
พอเรื่องเป็นแบบนี้
ทางคุณแป๋วและคุณกฤช จึงนำมาใช้ตั้งชื่อร้านจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
ขณะที่ปัจจุบัน ร้านอาหารหัวปลาช่องนนทรีบริหารงานโดยผู้บริหารรุ่นที่ 2 คือ คุณวิทยา ลิมป์รัตนกาญจน์ ซึ่งเป็นทายาทของคุณแป๋วและคุณกฤช
จากอดีตที่มีเพียงร้านข้าวต้มปลา ปัจจุบัน ร้านอาหารหัวปลาช่องนนทรีวางตำแหน่งร้านให้มีทั้งอาหารไทย อาหารจีน และอาหารทะเล
นอกจากนี้ ถ้าเราสังเกตร้านหัวปลาช่องนนทรีจะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ที่คนสัญจรไปมาเยอะ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การเลือกที่ตั้งร้านที่ผู้บริหารให้ความสำคัญมาตลอด ทั้งนี้ ก็เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านและยังเป็นการประชาสัมพันธ์แบรนด์ของธุรกิจให้คนจดจำไปด้วย
เรื่องนี้ให้แง่คิดกับเราอย่างหนึ่งว่า
คนที่จะประสบความสำเร็จได้ บางทีก็ไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนชีวิตที่ดีเสมอไป
กรณีของคุณแป๋วก็เช่นกันที่ต้องช่วยแม่ค้าขายตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เพื่อช่วยหารายได้ให้ครอบครัว รวมทั้งออกจากโรงเรียนช่วงที่คุณแม่ป่วยเพื่อมาค้าขายแทนคุณแม่
จนสุดท้ายเมื่อมีโอกาสมาเปิดร้านอาหาร แม้ว่าจะเริ่มจากร้านเล็กๆ เป็นเพิง ไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา เหมือนร้านอาหารอื่น แต่ด้วยความตั้งใจของคุณแป๋วที่ตั้งใจทำมันออกมาให้ดีที่สุด ร้านหัวปลาช่องนนทรี จึงประสบความสำเร็จได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้
ถ้าวันนี้เราอยากเริ่มกิจการอะไรสักอย่าง แล้วไม่มั่นใจว่าจะเริ่มจากศูนย์ได้หรือไม่
ลองดูตัวอย่างนี้ที่ค่อยๆ เริ่มทำในที่สุดก็สำเร็จ
แต่ถ้าเราคิดว่าทำไม่ได้ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำ
ก็จำไว้ว่า มันจะไม่มีวันนั้นเกิดขึ้น..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์
เจาะลึกแบบ deep content
ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.youtube.com/watch?v=uCgEhOwW-uo
-http://www.huaplachongnonsea.com/about-us/
-https://datawarehouse.dbd.go.th/…/profitloss/5/0115553009706
-https://www.youtube.com/watch?v=FcGOOVUmYcc
Until I have today of Hua Pla Chong Nonsi shop / by Investing Man.
From a small fish boiled rice restaurant 37 years ago.
Not many people would think that small shop that day.
Become a big restaurant chain with hundreds of millions of baht today.
Successful path of Hua Pla, Chanonsi shop.
Been through some things
Invest man will tell you about it.
╔═══════════╗
Blockdit. Analytical article source.
Deep in deep content
The latest podcast feature is available.
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
The founder of Hua Pla Chong Nonsi restaurant is Khun Pew Limpratkanchanaburi. Her childhood was quite difficult. Dad had a 3 wheel drive career. The mother was a seller finding items to sell in. The marketplace.
Of course, in addition to studying time, Khun Paew also has to help mom find stuff to sell in the market since she was 6 years old. Which Khun Pew said that she usually sells around 10 Baht per day.
Khun Paew has studied until just grade class. 2 I have to go out of school to sell stuff for mother because mother is sick. The money that she sells with the income of the 3 wheeler kicks. Dad uses it to treat her mother until she is slowly recovering and comes back to sell again.
When Khun Pam is 16 years old, she asks her mother to go back to school in the evening because she wants to read books and after school, she helps work and earn money.
But then her mother fell sick again. Khun Paew needs to stop studying and work harder to earn money to heal her mother.
Until when her mother died, the family still has a lot of debt. Dad took the 3 wheeler mortgage.
As for Khun Paew, keep working. Earning money to pay back debt for about 3 years. So she can clean the family's debt.
Later, Khun Paew married Mr. Krit who opened a window and metal door shop. Khun Paew came out to be a housewife and didn't sell at the market.
However, Mr. Krit's business has uncertain income. It has to give credit to customers. Many times, businesses lack liquidity.
Both of them decided to sell things because there would be more cash circulation. Starting from opening a small fish shop to shed in the evening for income. In the first time, both of them have only 3 tables.
Time has passed. Boiled rice restaurant is selling well. The owner of which both are renting. We want both of them to expand the store. In addition to making more customers, we also make the food menu add more.
After that, over time, the business gradually expanded the branch to become the kingdom of Hua Pla Chong Nonsi.
Now Hua Pla Chong Nonsi shop has 6 standalone branches in Bangkok and perimeter. 5 branches and 1 provinces. There are 3 branches in CentralWorld. Led Mega Bangna and Terminal 21 (Korat)
Income of Hua Pla Chong Nonsi company limited.
Year 2559 Income 122 million baht.
Year 2560 Income 190 million baht.
Year 2561 Income 271 million baht.
In the section of the shop name, Khun Paew and Khun Krit said that the shop name is from customers who are born from the time customers meet each other. They often say ′′ Let's meet at Hua Pla restaurant near Chong Nonsi ′′
When things are like this
Khun Paew and Khun Krit have been using the shop name until now.
While at present, Hua Pla Chong Nonsi restaurant is administered by the 2th generation executives. Mr. Witthaya Limpratan Kanchanaburi who is the descendant of Khun Paew and Khun Krit.
From the past, there are only fish boiled rice. Now, Hua Pla Chong Nonsi restaurant has positioned both Thai food, Chinese food and seafood.
In addition, if you notice, Hua Pla Chong Nonsi will be located on the main road where many people walk. It is a strategy to select the store where the executives have been focused. It's to attract customers to the shop and publicize the brand of businesses to remember.
This story gives us one thought.
People who can succeed sometimes don't always have to cost a good life.
In case of Khun Paew, we have to help the seller sell from 6 years old to help earn income for the family and leave school when mother is sick to sell for mother.
Finally, when you have a chance to open a restaurant, even if you start from a small shop to be a shed. It's not as big as other restaurants. But with your intention, Khun Paew, you will make it the best. Hua Pla Chong Nonsi can be successful. I see these days.
If today we want to start something and not sure if we can start from zero.
Check out this trailer that gradually started to finally succeed.
But if we think we can't do it since we haven't started.
Well remember it will never happen..
╔═══════════╗
Blockdit. Analytical article source.
Deep in deep content
The latest podcast feature is available.
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Follow to invest manly at
Website - longtunman.com
Blockdit-blockdit.com/longtunman
Facebook-@[113397052526245:274: lngthun mæn]
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram-instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.youtube.com/watch?v=uCgEhOwW-uo
-http://www.huaplachongnonsea.com/about-us/
-https://datawarehouse.dbd.go.th/fin/profitloss/5/0115553009706
-https://www.youtube.com/watch?v=FcGOOVUmYccTranslated