Q: your definition of a good relationship.
Me: A quality relationship is more in building codependent bonds and trust , following common values, mindset, habits, and goals , knowing that you count on others and that they can count on you. However, a quality relationship doesn’t mean a perfect relationship with absence of fights and disagreements . Actually a perfect relationship doesn’t exist, you have to put effort into it to make things work.
But before all else, we need to have a good quality relationship with ourselves first ❤️
Me x LinLi Wedding Boutique
Thank you !
好的關係是需要建立在互相的幫助依賴及信任上, 同時有著共同的價值觀,興趣, 心態,等等。 我們都想要一個完美的關係, 但不管是友情,感情, 家庭關係, 沒有一種關係會是完美的, 是我們要努力,願意付出,用愛去維繫。
但在這之前,我們與自己的那份關係是最重要的😊
#weddingdress #weddingbotique #linlin #inspiration
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「codependent relationship」的推薦目錄:
- 關於codependent relationship 在 譚以欣Olivia Facebook 的精選貼文
- 關於codependent relationship 在 horrorclub.net Facebook 的最讚貼文
- 關於codependent relationship 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
- 關於codependent relationship 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於codependent relationship 在 大象中醫 Youtube 的最佳解答
- 關於codependent relationship 在 8 Signs You May Be Codependent - YouTube 的評價
codependent relationship 在 horrorclub.net Facebook 的最讚貼文
วันนี้มีรอบสื่อ Midsommar แอดเลยขอแชร์รีวิวที่ตัวเองไปดูมาอีกที เผื่อมีใครเพิ่งดูสด ๆ ร้อน ๆ มาแล้ว อยากแบ่งปันความคิดเห็นกัน
ป.ล. ส่วนที่แอดไปดู เป็นรอบก่อนรอบสื่ออีกที คือรอบ influencer ที่ตึกของบริษัทสหมงคลจ้า
ป.ล. แอดกำลังจะทำคลิป (หรือ Podcast อธิบาย วิเคราะห์หนัง ร่วมกับแขกรับเชิญสาย Pagan คนนึง) ถ้าใครดูแล้ว อยากฝากคำถามอะไรให้แอดไปถาม สามารถทิ้งไว้ที่ช่องคอมเมนท์ได้เลยนะ
ADMIN REVIEW: Midsommar (ไม่สปอยตรง ๆ แต่ถ้าอ่านจับใจความดี ๆ ก็อาจเข้าใจบางอย่าง)
🌺🌹🍄🌷💐🥀โควต้าอ่าน 7 บรรทัด🌺🌸🌼🌻🌞
โหดไหม – โหดมาก เห็นจะจะ
โป๊ไหม – โป๊มาก เต็มตา มาทั้งดุ้น
ดูง่ายไหม - ถ้าเทียบกับ หี๋รีดีทารี้ เรื่องนี้ดูยากกว่านิดนึง
สนุกไหม – ถ้าความสนุกหมายถึงความสยองตุ้งแช่ เรื่องนี้ไม่สนุก
การเล่าเรื่อง - ช้า เอื่อย ไปเรื่อย ๆ และเมายา
หดหู่ไหม – สำหรับเรา ไม่ ดูจบแล้วก็จบ เฉย ๆ ไม่ทุกข์ร้อน ไม่รู้สึกรู้สา หน้าชา ประสาทแดกแบบหี๋รีดีทารี้
🌺🌹🍄🌷💐🥀รีวิวเต็ม ๆ (แต่ไม่วิเคราะห์สมบูรณ์)🌺🌸🌼🌻🌞
.
"นี่คือพ่อมดแห่งออซสำหรับคนวิตถาร"
"หนังที่ว่าด้วยภาวะหลังการเลิกราความสัมพันธ์ขั้นโลกาวินาศ"
"เทพนิยายสไตล์ไซคลีเดลิค"
"หนังแห่งการเลิกราที่แต่งองค์ทรงเครื่องในคราบหนังสยองพื้นบ้าน"
.
เหล่านี้คือคำตอบที่ Ari Aster ให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่าง ๆ เมื่อถูกถามถึงคำจำกัดความของหนังเรื่อง Midsommar ซึ่งอนุมานได้ถึงภาวะแห่งความเพ้อ เมา มึน หยาบโลน ภายใต้เส้นเรื่องที่ว่าด้วยการเลิกราความสัมพันธ์
.
Midsommar มีเส้นเรื่องที่คล้ายกับ หี๋รีดีทารี้ นั้นคือเริ่มต้นด้วยโศกนาฏกรรมในครอบครัวที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจตัวละคร ก่อนที่พวกเขาจะต้องเผชิญวิบากกรรมเพื่อค้นพบการปลดปล่อยตัวเองในภายหลัง (ซึ่งเป็นการปลดปล่อยโดยเงื้อมมือของอำนาจที่อยู่เหนือการรับรู้ของปุถุชน)
.
ทว่าด้วยเส้นเรื่องแบบเดียวกัน แต่หนังเรื่องนี้ห่างไกลจากความบันเทิงแบบผลงานเก่าเก่งของเขามากนัก ในขณะที่หี๋รีดีทารี้ เล่าเรื่องใน genre สยองขวัญลึกลับ ที่พาคนดูล้วงลึกในห้วงปริศนา ก่อนจะค้นพบคำตอบคลี่คลายออกมาในแบบหนังตลาด (ที่เล่าช้า ๆ จังหวะอินดี้) Midsommar กลับโยนกราฟวิธีเล่าเรื่องตามสูตรออก แล้วปล่อยให้ตัวละครซัดเซเรรวนเมาม้วนไปเรื่อย ๆ การเดินทางในหนังเรื่องนี้จึงปราศจากลำดับขั้นในการสร้างจุด check in ความพีคแบบเก่า แต่เล่าไหลเอื่อย ไปเรื่อย ๆ เสมือนว่าตัวละครแทนสายตาคนดูที่ลัดเลาะไปสำรวจพื้นที่ลับแลจากโลกภายนอก เดินแวะพักตรงนั้นทีตรงนี้ที ไม่เร่งเร้าที่จะเข้าถาโถมความบ้าแต่อย่างใด
.
ซึ่งในจุดนี้ทำให้ผู้เขียนรู้สึกเอือมระอาไม่น้อย เพราะหนังก็มาสูตรเดิมกับหี้รีดีทารี้ ที่พอใกล้จะจบก็ต้องประโคมสารพัดฉากประสาทแดกเข้ามา เสียฟอร์มนิ่งตั้งแต่ต้นไปจนหมด เพียงแต่ในเรื่องก่อนหน้า จังหวะความคลั่งมันถูกปูทางมาเรื่อย ๆ จนระเบิดออกมาหมดจด ในขณะที่ Midsommar เหมือนการพยายามยัดเยียดฉากโหดอุจาดเข้ามาในตอนท้ายแบบไร้สมดุล นอกจากหวังผลแค่ "ฟินนาเล่" แฟนเซอร์วิสแบบไร้ชั้นเชิง
.
(ซึ่งในตรงนี้ หนุ่ม Ari ก็ให้สัมภาษณ์ในเว็บไซต์ Bloody-Disgusting ว่าตัวเองทำหนังโดยอิงรูปแบบโอเปร่าต่างหากล่ะ ยิ่งใกล้จบมันก็จะยิ่งพีคขึ้นเรื่อย ๆ (เจ้าตัวใช้คำว่า crescendo)--ซึ่งสำหรับเรา มันไม่เวิร์คกับเรื่องนี้
.
การเล่าเรื่องในช่วงต้น เมื่อมันไม่พยายามโหมโรงความคลั่ง อารมณ์ที่ได้เลยเหมือนดูพวกรายการท่องเที่ยว เปิดโลกแดนไกล เที่ยวต่างถิ่น แต่เป็นในฉบับที่เมายาพอสมควร ในฉากโหดสุดขีดของเรื่อง (ฉากริมผา) หนังไม่พยายามเร่งเร้าอารมณ์คนดูด้วยเทคนิคแบบหนังสยองขวัญทั่วไป เช่นการใช้ดนตรีระทึก จังหวะตัดหลอก แต่หนังเลือกที่จะถ่ายให้คนดูเห็นทุกอย่างแบบจะจะ ตรงไปตรงมา ซึ่งความสยดสยองที่บังเกิด ณ ตอนนั้น ไม่เหมือนกับความสยองจากการดูหนังสยอง แต่เป็นความสยองแบบเดียวกับเวลาเราดูสารคดีเปิดโลกต่างแดน (หรือถ้าอ้างอิงโคตรพ่อโคตรแม่ก็ต้องตระกูลแอบดูเป็น แอบดูตาย Faces of Death อะไรเทือกนั้นแหละ ที่พาคนดูไปส่องพิธีกรรมจากโลกที่สาม โลกลับแล) ซึ่งเราชอบนะที่เขาเลือกวิธีแบบนี้มาถ่ายทอดฉากสยอง.....
.
อันที่จริงแล้ว Ari ให้สัมภาษณ์ว่าโปรเจคนี้แต่เดิมค่าย A24 เสนอให้เขาทำหนังไล่ฆ่าในสวีเดน แต่เจ้าตัวไม่ชอบไอเดียนี้ ประกอบกับเขาได้รับผลกระทบทางจิตใจหลังเลิกรากับแฟนไป ทำให้หนังถูกถ่ายถอดออกมาในฐานะหนังความสัมพันธ์ร้าวฉานอย่างที่เห็น และกลายเป็นว่าไอ้บรรดาองค์ประกอบใหญ่โตมโหฬารเกี่ยวกับเทศกาล กลายเป็นเพียงสิ่งประกอบย่อยยิบเพื่อเอามาเล่าเรื่อง คนอกหัก เท่านั้นเอง
---มหกรรมขี่ช้างจับตั๊กแตน หรือตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ได้รับการอนุมัติได้ง่ายดาย ส่วนนึงน่าจะมาจากความสำเร็จของหี๋รีดีทารี้ ที่ทำให้เจ้าตัวสามารถทำหนังอาร์ทงบสูง ร่วมทุนต่างประเทศ ใช้กองทัพนักแสดงจำนวนมาก และโปรดักชั่นใหญ่ขึ้น รวมถึง CG ที่มากขึ้น ทั้งหมดเพื่อบอกเล่าความสัมพันธ์ขมขื่น ซึ่งในสายตาผู้เขียนมองว่า มันเป็นการเถลิงถวัลย์ตัวเองที่เพ้อเจ้อมากเกินไป ความเยอะไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไปในการเล่าหนังอาร์ท เพราะยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกเหมือนลิเก มากกว่าโอเปร่า----
.
อย่างที่บอกว่าหนังเปิดเรื่องแบบเดียวกับหี้รีดีทารี้--Midsommar ว่าด้วยเรื่องราวของแดนี่ สาวที่เติบโตมาในครอบครัวที่อนุมานได้ว่าไม่สนิท และอบอุ่น เพราะคนในครอบครัวมีอาการทางจิต ก่อนที่สมาชิกจะตัดสินใจฆาตกรรมหมู่ โศกนาฏกรรมที่สาดกระเซ็น ส่งผลให้แกนี่จมดิ่งในห้วงแห่งความทุกข์อย่างหาที่สุดไม่ได้ หญิงสาวที่ดูเหมือนคนไม่เสถียรทางอารมณ์ ก็ยิ่งกลายเป็นเหมือนคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งพิงแฟนหนุ่มตลอดเวลา แล้วแฟนหนุ่มของเธอก็ดันชื่อ Christian ราวกับผู้กำกับตั้งใจจะแปะป้ายสัญลักษณ์ให้เห็นกันโต้ง ๆ ว่า นางเอกผู้อับเฉามีชีวิตอยู่ได้ด้วยการพึ่งพิงศาสนา ซึ่งท้ายที่สุดมันได้กลายเป็น toxic relationship เมื่ออีกฝ่ายเรียกร้องมากไป ในขณะที่อีกฝ่ายไม่สามารถหาหนทางดับทุกข์ให้เลย---และนั้นคือการนำไปสู่การตีความที่น่าสนใจ เมื่อนางเอกได้ไปเที่ยวสวีเดน และรู้จักกับลัทธิประหลาดที่เชื่อในธรรมชาติก่อนที่ศาสนาจะ claim ทุกอย่าง มันเลยเป็นการจับคู่ตรงข้ามที่น่าสนใจ ระหว่าง Christian กับ Pagan ว่าสิ่งใดเล่าคือหนทางแห่งการพ้นทุกข์ที่แท้ทรู
.
อีกสิ่งนึงที่ผู้เขียนชอบในหนัง คือการกำกับนักแสดงหมู่มวล บรรดาชาวบ้านทั้งหลายที่ต้องห้อมล้อมไปกับนักแสดงนำ หนังเรื่องนี้มีการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ที่เป็นพิษในแบบ Codependent (การพึ่งพิงอีกฝ่ายมากไป) อย่างที่นางเอกพึ่งพิงแฟนเกินพอดี // ซึ่งหนังก็ให้คู่ตรงข้ามของแฟนนางเอก (Christian) คือกลุ่ม Pagan มีความสายสัมพันธ์กับนางเอกในแบบที่หักล้างความ Codependent แบบสุดขีด เพราะสิ่งที่กลุ่ม Pagan มีให้ต่อกัน คือความสัมพันธ์แบบเกาะกลุ่ม การสร้าง compassion มี companion ระหว่างกันที่สุดโต่งในอีกรูปแบบ (คันปากอยากเม้าธ์มาก ๆ) ชนิดที่ว่า นายเจ็บ ฉันเจ็บ นายเศร้า เราจะร้องไห้ไปด้วยกัน เธอเสียว เราเสียวเป็นหมู่คณะ เราจะไม่ทอดทิ้งกัน เราเชื่อมโยงถึงกันเหมือนธรรมชาติที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน
.
สรุป Midsommar ไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน ไม่ใช่หนังแบบที่จะชวนอีแจง อีหวาน ไปดูหลังเลิกเรียน เป็นหนังแบบที่ต้องถามตัวเองเลยว่าอยากดูจริงไหม ไม่ใช่ของสาธารณะที่ใครไปดูก็ได้ ควรเตรียมใจระดับนึง อยากลองดูหนังอาร์ทรึเปล่า เปิดใจให้มันไหม // สำหรับคอหนังที่มีภูมิต้านทานระดับนึง ควรไปลองเปิดประสบการณ์ หนังโหดเข้าโรงน่ะมีเยอะแล้ว แต่หนังโหดในคราบหนังอาร์ทเข้าโรงน่ะมีน้อย คอหนังที่ชอบงานผู้กำกับอย่าง Ingmar Bergman, Stanley Kubrick ก็ควรไปชม มี reference อ้างอิงดีทีเดียว
.
ไว้ถ้ามีเวลาว่างกว่านี้ ตอนหนังเข้าฉายทั่วประเทศ อาจมาเขียนวิเคราะห์ฉากดูจ้า
Midsommar มีกำหนดฉาย 15 สิงหาคมนี้ MONGKOL MAJOR
codependent relationship 在 8 Signs You May Be Codependent - YouTube 的推薦與評價
... <看更多>