Reinventing Workers for the Post-COVID Economy
The nation’s economic recovery from the COVID-19 pandemic will hinge ( ) to some extent ( ) on how quickly show managers can become electricians ( ), whether taxi drivers can become plumbers ( ), and how many cooks can manage software for a bank.
This is likely to prove especially problematic for millions of low-paid workers in service industries like retailing ( ), hospitality ( ), building maintenance and transportation, which may be permanently impaired ( ) or fundamentally transformed. What will janitors ( ) do if fewer people work in offices? What will waiters do if the urban restaurant ecosystem never recovers its density ( )?
Their prognosis ( ) is bleak ( ). Marcela Escobari, an economist at the Brookings Institution, warns that even if the economy adds jobs as the coronavirus risk fades ( ), “the rebound won’t help the people that have been hurt the most.”
Looking back over 16 years of data, Escobari finds that workers in the occupations ( ) most heavily hit since the spring will have a difficult time reinventing themselves. Taxi drivers, dancers and front-desk clerks have poor track records moving to jobs as, say, registered nurses, pipe layers or instrumentation technicians.
COVID is abruptly ( ) taking out a swath ( ) of jobs that were thought to be comparatively ( ) resilient ( ), in services that require personal contact with customers. And the jolt ( ) has landed squarely on workers with little or no education beyond high school, toiling ( ) in the low-wage service economy.
“The damage to the economy and particularly to workers will probably be longer lasting than we think it is going to be,” said Peter Beard, senior vice president at the Greater Houston Partnership, an economic development group.
What’s more, he said, COVID will intensify underlying ( ) dynamics ( ) that were already transforming ( ) the workplace. Automation ( ), for one, will most likely accelerate ( ) as employers seek to protect their businesses from future pandemics
The challenge is not insurmountable ( ). Yet despite scattered ( ) success stories, moving millions of workers into new occupations remains an enormous ( ) challenge.
“We need a New Deal ( ) for skills,” said Amit Sevak, president of Revature, a company that hires workers, trains them to use digital tools and helps place them in jobs. “President Roosevelt deployed ( ) the massive number of workers unemployed in the Great Depression on projects that created many of the dams ( ) and roads and bridges we have. We need something like that.”
勞工轉型以因應後疫情時代經濟
美國經濟能否從新型冠狀病毒影響下復甦,將在一定程度上取決於表演經理們要多久才能變成電工,計程車司機能否化身為水管工,以及有多少廚師能替銀行管理軟體。
這對零售業、餐旅業、建築維修和運輸業等服務業數百萬低薪工人來說,問題恐怕特別大。這些行業可能受到永久性損害或發生根本性改變。若辦公室裡人變少了,工友要做什麼呢?若都市餐廳生態系統繁盛不再,服務生又該如何?
他們的前景是黯淡的。布魯金斯學會經濟學家Marcela Escobari警告說,即使就業機會隨新型冠狀病毒疫情風險消退而增加,「經濟反彈也幫不了那些受創最重的人」。
Escobari檢視16年來的數據發現,今春以來受衝擊最大的一些職業,勞工將很難自我改造。計程車司機、舞者和櫃檯人員轉行從事護理師、舖管工或儀器技工等工作者十分有限。
新型冠狀病毒突然帶走了一大批原本被認為較不容易永久消失的工作,即需與客戶面對面接觸的服務工作。這一衝擊直接打擊到那些僅受過高中教育、在低薪服務經濟區塊中掙扎的勞工。
經濟發展組織大休士頓商會資深副總裁Peter Beard表示:「經濟、尤其是勞工們受害的時間,可能比我們預期的還要更長。」
他說,更重要的是,新型冠狀病毒疫情將強化已經在改變職場的潛在動力,自動化即為一例,由於雇主力求讓自己的企業未來不受大疫情影響,自動化極可能加速。
這項挑戰並非不能克服。然而,儘管有少數成功的例子,讓數百萬勞工轉業仍是巨大的挑戰。
雇用勞工後培訓他們使用數位工具,並幫他們找到工作的Revature公司總裁Amit Sevak說:「我們需要一項針對職業技能的新政。小羅斯福總統大蕭條時期把大量失業勞工投入工程計畫,興建了我們現在使用的水壩、道路與橋樑。我們需要這樣的東西。」
#高雄人 #學習英文 請找 #多益達人林立英文
#高中英文 #成人英文
#多益家教班 #商用英文
#國立大學外國語文學系講師
同時也有188部Youtube影片,追蹤數超過46萬的網紅Hyukヒョク,也在其Youtube影片中提到,スキンケアマニアのとある日のGRWMです!購入した韓国コスメやスキンケアを使っての準備でした~!そして最近僕を知ってくださった方もたくさんいらっしゃるので改めて自己紹介もしました~! 使用したスキンケアコスメ一覧(URLも後で記載) スキンケア類 ・Torriden DIVE-IN スキンブース...
digital school 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
สรุป SiriHub Investment Token โทเคนดิจิทัลแรกที่อ้างอิงหรือมีกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์ ช่วยให้คนทั่วไปได้รับส่วนแบ่งรายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์
ลงทุนแมน X เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล
มีเงินเพียงหลักสิบบาท ก็สามารถลงทุนเพื่อได้รับส่วนแบ่งรายได้จากค่าเช่าอสังหาฯ ได้ ประโยคนี้อาจดูเป็นไปไม่ได้ในสายตาคนส่วนใหญ่ แต่วันนี้ สิ่งนี้กำลังจะเกิดขี้นแล้วในประเทศไทย
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี โลกของการลงทุนก็ได้พัฒนาตาม
ทำให้มีช่องทางการระดมทุนและลงทุนใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์นักลงทุน รวมถึงคนทั่วไปในปัจจุบันมากขึ้น
ภาพจำเดิม ๆ ที่ว่าหากเราต้องการลงทุนในอสังหาฯ สักแห่ง เพื่อที่จะได้รับค่าเช่าที่จะเป็นกระแสเงินสดเข้ากระเป๋า
เราก็ต้องมีเงินทุนหลักล้านบาทนั้น อาจไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว
เพราะสิ่งที่จะมาปูทางสร้างทางเดินใหม่ให้เกิดขึ้นในเมืองไทย
และกลายเป็นการปฏิวัติการระดมทุนและการลงทุนของวงการอสังหาฯ คือ SiriHub (สิริฮับ)
SiriHub เป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token)
ที่อ้างอิงหรือมีกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์
หรือที่เรียกว่า Real Estate-backed Token
และรู้หรือไม่ว่า SiriHub ยังถือเป็น Real Estate-backed Token ตัวแรกของประเทศไทยที่ได้รับการอนุญาตจาก ก.ล.ต. อีกด้วย
แล้วโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน คืออะไร ?
โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนคือโทเคนดิจิทัลที่สร้างขึ้นบนเทคโนโลยี Blockchain และมีกลไกการให้สิทธิแก่ผู้ถือโทเคนผ่านสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง โปร่งใส และสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้ตลอดเวลา
ซึ่งผู้ถือโทเคนดิจิทัลจะได้รับสิทธิในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการ เพื่อรับผลตอบแทนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ส่วนแบ่งรายได้จากค่าเช่า หรือสิทธิอื่นใด ตามที่กำหนดไว้ใน White Paper หรือหนังสือชี้ชวน
คล้าย ๆ กับการถือหุ้นในบริษัท ที่ทำให้ผู้ถือหุ้นมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการ มีสิทธิในส่วนแบ่งกำไรและได้รับเงินปันผลจากบริษัท
เพียงแต่การถือโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน ปกติแล้วผู้ถือโทเคนดิจิทัลจะมีเพียงสิทธิในการร่วมลงทุนเฉพาะในโครงการนั้น ๆ ที่เราสนใจ และรับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ แต่ไม่ได้มีสิทธิในการเป็นเจ้าของโครงการแต่อย่างใด
สำหรับโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน SiriHub ออกโดยบริษัท เอสพีวี 77 จำกัด
และเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกโดยบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XSpring Digital)
ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต.
โดยมีความเชี่ยวชาญในการเป็นที่ปรึกษาด้านการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคนดิจิทัล
และมีทรัสตีคือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เก็บทรัพย์สินและกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้ออกโทเคนดิจิทัลให้เป็นไปตามที่ระบุไว้ในหนังสือชื้ชวน
ซึ่งวัตถุประสงค์ของการออกโทเคนดิจิทัล SiriHub ก็เพื่อระดมทุนเป็นจำนวน 2,400 ล้านบาท ประกอบด้วย
(1) การลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินจำนวน 2,186 ล้านบาท โดย
(ก) ลงทุนในสัญญา RSTA (Revenue Sale and Transfer Agreement) เพื่อรับกระแสรายรับ เช่น ค่าเช่า รายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการ และผลตอบแทนอื่น ๆ จากกลุ่มอาคารสำนักงาน “Siri Campus (สิริ แคมปัส)” จากบริษัท สิริพัฒน์ โฟร์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในโครงการ
(ข) ลงทุนในหุ้นร้อยละ 100 ของบริษัท สิริพัฒน์ โฟร์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในกลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส และโอนเข้ามาเป็นทรัพย์สินของกองทรัสต์
(2) การชำระต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมการออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัล ชำระคืนเจ้าหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุนครั้งนี้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทผู้ออกโทเคนดิจิทัลจำนวน 214 ล้านบาท
ซึ่งผลประโยชน์หลัก ๆ ที่ผู้ถือโทเคนดิจิทัล SiriHub ได้รับก็คือกระแสรายรับสุทธิที่ได้จากกลุ่มอาคารสำนักงาน Siri Campus ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้อ้างอิงในการระดมทุนนี้
แล้ว Siri Campus น่าสนใจขนาดไหน?
Siri Campus เป็นกลุ่มอาคารสำนักงาน ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพสูงอย่าง T77 Community ในซอยสุขุมวิท 77 ที่เป็นเมืองต้นแบบแห่งอนาคตในย่านอ่อนนุช บนพื้นที่ 7 ไร่ 1 งาน 42.2 ตารางวา
ซึ่งในย่านนี้ รายล้อมไปด้วยแหล่งที่อยู่อาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
ทั้งรถไฟฟ้า BTS ไลฟ์สไตล์คอมมิวนิตีมอลล์ “HABITO Mall” โรงเรียนนานาชาติ “Bangkok Prep International School” และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดย Siri Campus มีทั้งหมด 5 อาคาร ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็นออฟฟิศยุคใหม่
ที่เน้นคำนึงถึงการทำงานของคนรุ่นใหม่ ผ่านการดีไซน์พื้นที่ทำงานและสภาพแวดล้อมให้มีความยืดหยุ่น จนเกิดการ Collaboration และสื่อสารกันได้ตลอดเวลา เพื่อกระตุ้นให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ และความคิดสร้างสรรค์
มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ห้องสมุด ฟิตเนส และสวน
เป็นสถานที่ซึ่งรวมพื้นที่ทำงานและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตไว้ในที่เดียวกันได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ Siri Campus ยังถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ด้วยการสอดแทรกธรรมชาติ ไว้ทุกพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
และติดตั้งนวัตกรรมที่แปลงแสงและลมให้เป็นพลังงานยามค่ำคืน เช่น แผง Solar Cell
ที่สำคัญ กลุ่มอาคารสำนักงาน Siri Campus ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
ที่เป็นผู้เช่าระยะยาว ด้วยสัญญาเช่า 12 ปี ยังเป็นอาคารที่ได้รับการประเมินมาตรฐาน Fitwel Certificate ระดับสูงสุด 3 ดาวจากองค์กร Center for Active Design (CfAD) ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นโครงการที่ส่งเสริมสุขภาวะที่ดีต่อผู้ใช้อาคาร ทั้งด้านส่งเสริมสุขภาพ และประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี
สรุปแล้ว ผู้ถือโทเคนดิจิทัล SiriHub ก็จะได้รับผลตอบแทนส่วนหนึ่งมาจากส่วนแบ่งค่าเช่าจากสัญญาเช่าระยะยาวของแสนสิริ นั่นเอง
ซึ่ง SiriHub มีอายุโครงการ 4 ปี (เว้นแต่มีการต่ออายุโครงการ เนื่องจากเหตุจำเป็นตามที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน) โดยในปีสุดท้ายของโครงการ ผู้ออกโทเคนดิจิทัลจะดำเนินการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการ เพื่อนำมาจัดสรรเป็นส่วนแบ่งรายได้ ให้แก่ผู้ถือโทเคนดิจิทัลตอนครบกำหนดอายุโครงการ
แล้วผู้ถือโทเคนดิจิทัล SiriHub จะได้รับผลตอบแทนอย่างไร ?
โทเคนดิจิทัลของ SiriHub จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ SiriHubA และ SiriHubB
โดยทั้งสองประเภท เสนอขายในราคา 10 บาทต่อโทเคน
1) SiriHubA จำนวน 160 ล้านโทเคน (มูลค่าเสนอขาย 1,600 ล้านบาท)
ผู้ถือจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ เป็นรายไตรมาส (ทุก ๆ 3 เดือน) ไม่เกิน 4.5% ต่อปี และได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจําหน่ายทรัพย์สินโครงการ สูงสุดไม่เกิน 1,600 ล้านบาท ก่อนผู้ถือโทเคนดิจิทัล SiriHubB
พร้อมกับมีสิทธิในการลงมติอนุมัติให้มีการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการ
หากรายได้ส่วนสุดท้ายที่ได้รับจากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท
2) SiriHubB จำนวน 80 ล้านโทเคน (มูลค่าเสนอขาย 800 ล้านบาท)
ผู้ถือจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ เป็นรายไตรมาส (ทุก ๆ 3 เดือน) ไม่เกิน 8.0% ต่อปี
และได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจําหน่ายทรัพย์สินโครงการ เฉพาะส่วนที่เกิน 1,600 ล้านบาทเป็นต้นไป ต่อจากผู้ถือโทเคนดิจิทัล SiriHubA
แต่จะไม่มีสิทธิในการลงมติอนุมัติให้มีการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการ
หากรายได้ส่วนสุดท้ายที่ได้รับจากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท
มาถึงตรงนี้สรุปได้ว่าโทเคนดิจิทัล SiriHub มีความน่าสนใจหลากหลาย เช่น
- ได้รับส่วนแบ่งรายได้เป็นรายไตรมาส ซึ่งไม่เกิน 4.5% หรือ 8.0% ต่อปี ขึ้นอยู่กับประเภทของโทเคนดิจิทัล
- ได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการเมื่อสิ้นสุดโครงการ
- อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้อ้างอิงมีผู้เช่าระยะยาว โดยผู้ถือโทเคนจะได้รับมีส่วนแบ่งรายได้มาจากค่าเช่า Siri Campus ที่มีแสนสิริ เป็นผู้เช่าระยะยาว 12 ปี ซึ่งปัจจุบันเหลือระยะเวลาการเช่าอีก 10 ปี และแสนสิริได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+ จาก Tris Rating
ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแน่นอน
- ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Blockchain และ Smart Contract ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสในเรื่องของการทำธุรกรรม การใช้สิทธิ และการจัดสรรผลตอบแทน
- เป็นโทเคนดิจิทัลที่อ้างอิงหรือมีกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก็คือ สัญญา RSTA และทรัพย์สินโครงการ Siri Campus
จึงมีความเสี่ยงต่ำกว่าโทเคนดิจิทัลที่ไม่มีอะไรมาอ้างอิง
- ถูกต้องตามกฎหมายไทย และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.
- สามารถลงทุนเริ่มต้นเพียง 10 บาท และสามารถลงทุนได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ
ทำให้เกิดการกระจายโอกาสการลงทุนไปยังนักลงทุนรายย่อยมากขึ้น
ผู้ลงทุนธรรมดาที่ไม่มีทรัพย์สินมากก็สามารถลงทุนเพื่อรับส่วนแบ่งรายได้จากค่าเช่าจากอสังหาฯ ได้
- มีสภาพคล่อง ด้วยการซื้อขาย SiriHub ในตลาดรอง
ซึ่งสามารถซื้อขายโทเคนดิจิทัล ได้ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น ERX ที่เปิดบริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ SiriHub Investment Token ทั้งสองประเภท ปัจจุบันผ่านการอนุมัติจาก ก.ล.ต. แล้ว และจะเปิดให้จองซื้อ ICO ระหว่างวันที่ 21 กันยายน 2564 เวลา 00.01 น. - 4 ตุลาคม 2564 เวลา 15.30 น. ผ่านแอปพลิเคชัน XSpring
โดยมีมูลค่าการจองซื้อขั้นต่ำเพียง 10 บาทต่อโทเคน (ชำระเป็นเงินบาทเท่านั้น)
โดยนักลงทุนรายย่อยจะสามารถลงทุนได้ไม่เกินรายละ 300,000 บาทต่อโครงการ ตามกฎของ ก.ล.ต. ในขณะที่ผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ นิติบุคคลร่วมลงทุน หรือกิจการเงินร่วมลงทุน สามารถลงทุนได้ไม่จำกัดจำนวน
อ่านมาถึงตรงนี้ บางคนอาจสงสัยว่า
แล้วการลงทุนใน SiriHub จะต่างจากการลงทุนใน REITs (ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์) อย่างไร ?
จริง ๆ แล้ว Real Estate-backed Token จะมีความคล้ายคลึงกับกอง REIT
แต่ยังมีจุดที่แตกต่างกันไปตามกฎเกณฑ์ของแต่ละประเทศ
อย่างในประเทศไทยมีจุดที่ต่างกันคือ ส่วนใหญ่ REITs จะลงทุนในอสังหาฯ หลายประเภทหรือหลายโครงการ และสามารถเพิ่ม-ลดทรัพย์สินในกองทรัสต์ได้ อีกทั้งนักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าลงทุนได้ไม่จำกัดมูลค่า
แต่ Real Estate-backed Token ส่วนใหญ่จะเข้าลงทุนในทรัพย์สินหรือโครงการใดโครงการหนึ่งเท่านั้น
และไม่มีการเพิ่ม-ลดทรัพย์สิน รวมถึงนักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนได้ไม่เกิน 300,000 บาทต่อโครงการ
และความต่างที่สำคัญก็คือเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง โดย Real Estate-backed Token จะใช้เทคโนโลยี Blockchain และ Smart Contract ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสในการทำธุรกรรม การใช้สิทธิ และการจัดสรรผลตอบแทน นั่นเอง..
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ SiriHub ได้ที่ https://xspringdigital.com/th/project/sirihub
นักลงทุนที่สนใจลงทุนในโทเคนดิจิทัลผ่าน XSpring Digital สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน XSpring ได้ที่ http://onelink.to/efumnu
และดูวิดีโอคำแนะนำการเปิดบัญชีกับ XSpring Digital ได้ที่ https://youtu.be/bPSTTUTDgxI
คำเตือน: ก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนเพื่อทำความเข้าใจลักษณะของผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
digital school 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
ทำไม สิงคโปร์ จึงเป็นประเทศแห่ง บริการทางการเงิน ? /โดย ลงทุนแมน
ประเทศเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้มีประชากรเพียงราว ๆ 5.7 ล้านคน
แต่สามารถส่งออกบริการด้านการเงินมากเป็นอันดับ 1 ของทวีปเอเชีย
คิดเป็นมูลค่าถึง 1,210,000 ล้านบาท ในปี 2019
จากการจัดอันดับเมืองศูนย์กลางการเงินโลกของ Long Finance ประจำปี 2021
สิงคโปร์คือศูนย์กลางการเงินอันดับ 5
เป็นรองเพียงนิวยอร์ก กรุงลอนดอน และเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นมหานครหลักของประเทศมหาอำนาจ
กับฮ่องกง ที่เป็นเมืองเชื่อมต่อธุรกิจระหว่างโลกกับจีนแผ่นดินใหญ่
สำหรับประเทศเกาะเล็ก ๆ ที่เพิ่งก่อตั้งในปี 1965 และแทบไม่มีทรัพยากรธรรมชาติอะไรเลย
แม้แต่น้ำจืดก็ยังขาดแคลนจนต้องนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
แต่สามารถเติบโตจนแซงหน้ามหานครในหลายประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่า
และก้าวขึ้นมาอยู่ระดับแถวหน้าของโลกได้ภายในเวลาไม่ถึง 50 ปี..
ความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ มีเส้นทางเป็นอย่างไร ?
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “Branding the Nation” ปั้นแบรนด์ แทนประเทศ
ตอน ทำไม สิงคโปร์ จึงเป็นประเทศแห่ง บริการทางการเงิน ?
ถึงแม้ประเทศจะมีขนาดเล็ก ไม่ค่อยเหมาะสมกับการเพาะปลูก และแทบไม่มีทรัพยากรอะไรเลย
แต่เกาะสิงคโปร์ยังมีความโชคดีอยู่ประการหนึ่ง คือ
“ทำเลที่ตั้งที่อยู่ปลายสุดของคาบสมุทรมลายู”
ทำเลนี้เป็นจุดสำคัญของเส้นทางเดินเรือ ที่เชื่อมต่อระหว่างเอเชียตะวันออก กับอินเดียและยุโรป
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 อังกฤษรวบรวมดินแดนแถบนี้และเรียกว่า “อาณานิคมช่องแคบ”
สิงคโปร์จึงถูกวางให้เป็นเมืองท่าสำคัญของบริษัท บริติช อีสต์ อินเดีย ซึ่งเป็นบริษัทที่เดินเรือทำการค้าขายระหว่างยุโรป กับอินเดียและโลกตะวันออก
ต่อมาเมื่อมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เกิดอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องที่ได้รับความนิยมสูงในยุโรป แร่ธาตุที่จะนำมาทำกระป๋องก็คือ ดีบุก ซึ่งพบมากแถบคาบสมุทรมลายู เมืองท่าสิงคโปร์จึงถูกพัฒนาให้เป็นตลาดค้าดีบุกที่สำคัญของโลก
นอกจากดีบุกแล้ว การนำยางพาราเข้ามาปลูกในแถบมลายูในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
ก็ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นศูนย์กลางของตลาดประมูลยางพาราอีกหนึ่งตำแหน่ง
การเป็นทั้งเมืองท่า เป็นศูนย์กลางการค้าดีบุกและยางพารา ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศในสิงคโปร์คึกคัก ดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาเปิดกิจการธนาคาร
ธนาคารต่างชาติแห่งแรกที่เข้ามาเปิดทำการในสิงคโปร์ คือ The Union Bank of Calcutta
เปิดในปี 1840 มีการจัดตั้งสกุลเงินประจำอาณานิคมช่องแคบ คือ Straits Dollar ในปี 1845
ส่วนธนาคารแห่งแรกที่ก่อตั้งในสิงคโปร์ ก่อตั้งโดยชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพมาจากกวางตุ้ง
ชื่อว่า Kwong Yik Bank ในปี 1903 และหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยธนาคารอีกหลายแห่ง
แต่ก็มีธนาคารมากมายที่ล้มหายตายจาก หรือถูกควบรวมกับธนาคารอื่น ๆ
ส่วนธนาคารที่ยังดำเนินการมาจนถึงปัจจุบันก็คือ
OCBC หรือ Oversea-Chinese Banking Corporation Limited ซึ่งเกิดจากการควบรวมธนาคารของชาวจีนฮกเกี้ยน 3 แห่ง ในปี 1932
และอีกธนาคารหนึ่งก็คือ UOB หรือ United Overseas Bank ซึ่งก่อตั้งโดยชาวมาเลย์เชื้อสายจีนในปี 1935
แต่ท่ามกลางการวางรากฐานด้านการเงินการธนาคารของสิงคโปร์
การเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองท่าแห่งนี้ต้องหยุดชะงักลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะถูกยึดครองโดยกองทัพญี่ปุ่น
เมื่อหลังจบสงคราม อาณานิคมช่องแคบได้รับเอกราชจากอังกฤษ และสิงคโปร์ก็ได้ขอรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย ในปี 1963
แต่ด้วยปัญหาความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ และอุดมการณ์ทางการเมือง
ท้ายที่สุดสิงคโปร์จึงแยกตัวออกจากมาเลเซีย และก่อตั้งประเทศในปี 1965
พร้อมกับตั้งสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ของตัวเองในอีก 2 ปีถัดมา
สิงคโปร์ถือกำเนิดประเทศด้วยการไม่มีทรัพยากรอะไรเลย
และเต็มไปด้วยแรงงานชาวจีนที่หลั่งไหลมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในช่วงหลังสงครามโลก
ลี กวน ยู (Lee Kuan Yew) นายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ จึงให้ความสำคัญกับเรื่องสวัสดิภาพความเป็นอยู่ รวมไปถึงการสร้างทักษะให้กับแรงงาน ต่อยอดจากการเป็นเมืองท่าค้าขาย
มีการจัดตั้ง Housing and Development Board เพื่อดูแลในเรื่องที่พักอาศัย
และสร้างนิคมอุตสาหกรรมในเขต Jurong ทางตะวันตกของเกาะ
เพื่อสร้างงานในภาคอุตสาหกรรม
โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ทั้ง 2 โครงการ ต้องใช้เงินลงทุนสูง รัฐบาลสิงคโปร์จึงลงทุนเองบางส่วนในโครงการเหล่านี้ และได้ตั้ง The Development Bank of Singapore Limited หรือ ธนาคาร DBS ในปี 1968 เพื่อรองรับเงินทุน กระตุ้นให้เงินทุนหมุนเวียน และโครงการพัฒนาดำเนินไปอย่างราบรื่น
เมื่อผู้คนมีที่อยู่อาศัย มีงานทำ และค่อย ๆ หลุดพ้นจากความยากจนแล้ว รัฐบาลก็ต้องวางแผนต่อเนื่องเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ประการแรก: พัฒนาการศึกษา
เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของประเทศที่ขาดแคลนทรัพยากรอย่างสิงคโปร์ ก็คือ “ทรัพยากรมนุษย์”
รัฐบาลสิงคโปร์จึงให้ความสำคัญต่อนโยบายการศึกษาอย่างสูงสุด โดยมีการปฏิรูปคุณภาพของระบบ และมาตรฐานการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง
เริ่มจากการมีบุคลากรครูคุณภาพสูง โดยครูทุกคนต้องจบการศึกษาในด้านที่เกี่ยวข้อง หลังจบการศึกษาต้องเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพครูจากสถาบันการศึกษาแห่งชาติสิงคโปร์ (National Institute of Education หรือ NIE) เป็นเวลา 1 ปี เมื่อปฏิบัติหน้าที่ครูแล้วต้องได้รับการประเมิน และพัฒนาในทุก ๆ ปี
และด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาติและภาษาของผู้คนในสิงคโปร์ ที่มีทั้งชาวจีน ชาวมาเลย์ ชาวทมิฬ ซึ่งแต่ละเชื้อชาติต่างก็มีการใช้ภาษาเป็นของตัวเองแตกต่างกันไป
สิ่งที่จะหลอมรวมให้คนทุกเชื้อชาติสามารถอยู่ร่วมกันก็คือ
“ชาวสิงคโปร์ทุกคนจะต้องสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้”
นำมาสู่ระบบการเรียนการสอนสองภาษา ที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก
ส่วนภาษาที่สองก็เป็นภาษาของแต่ละเชื้อชาติ
รัฐบาลสิงคโปร์ยังได้สร้างทางเลือกในการศึกษาระดับมัธยมให้กับประชาชน โดยแบ่งเป็น
หลักสูตรมัธยมศึกษาเชิงวิชาการ สำหรับนักเรียนที่มุ่งเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
และหลักสูตรมัธยมศึกษาโพลีเทคนิค สำหรับนักเรียนที่มุ่งเรียนต่อในสายอาชีวะ
ซึ่งรัฐบาลสิงคโปร์ก็ผลักดันมาตรฐานในการเรียนสายอาชีวะให้มีคุณภาพสูง
เพราะมองว่านักเรียนแต่ละคนมีความถนัดทางวิชาการไม่เท่ากัน และสายอาชีวะสามารถผลิตบุคลากรเพื่อป้อนตลาดแรงงานในทันที
โดยหนึ่งในสายวิชาชีพ ที่รัฐบาลผลักดันตั้งแต่การก่อตั้งวิทยาลัยอาชีวะแห่งแรก ๆ ก็คือ “นักบัญชี”
สำหรับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย มีการจัดตั้ง National University of Singapore (NUS) ที่เกิดจากการควบรวมมหาวิทยาลัย 2 แห่งในปี 1980 และเริ่มพัฒนาหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ โดยจัดตั้ง NUS Entrepreneurship Centre ในปี 1988
ซึ่งในปีการศึกษา 2022 มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ก็เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 1 ของทวีปเอเชีย
จากการจัดอันดับโดย QS
ต่อมาในปี 1981 มีการจัดตั้ง Nanyang Technological University (NTU)
ซึ่งก็กลายเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของทวีปเอเชีย
โดยมี Nanyang Business School เป็นสถาบันด้านบริหารธุรกิจอันดับ 1 ของสิงคโปร์
เมื่อสร้างแรงงานที่เป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะในภาคบริหารธุรกิจและการเงิน รวมไปถึงด้านกฎหมาย และแรงงานส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี
ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้สิงคโปร์มีความเป็นเมืองนานาชาติ และมีข้อได้เปรียบดึงดูดบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะสถาบันการเงิน บริษัทด้านบัญชี และกฎหมาย ให้เลือกมาตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในสิงคโปร์
รัฐบาลได้จัดตั้ง ธนาคารกลางแห่งสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore หรือ MAS) ในปี 1971 เพื่อควบคุมสถาบันการเงิน และบริหารจัดการนโยบายทางการเงิน
ด้วยความที่สิงคโปร์เป็นประเทศขนาดเล็กและเป็นเมืองท่าค้าขาย และพึ่งพาการค้าจากต่างประเทศสูงมาก สิงคโปร์จึงอาศัยกลไก “อัตราแลกเปลี่ยน” เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายการเงิน ภายใต้การบริหารจัดการของ MAS
ประการที่ 2: ปฏิรูประบบราชการ
เมื่อวางแผนระบบการศึกษาเพื่อสร้างแรงงานที่มีคุณภาพแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพัฒนาเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติก็คือ “ความโปร่งใส”
ในช่วงหลังการแยกตัวเป็นเอกราช
สิงคโปร์เคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการคอร์รัปชันสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
รัฐบาลภายใต้การนำของนายก ลี กวน ยู ได้ย้ายสำนักสืบสวนการทุจริตคอร์รัปชัน (Corrupt Practices Investigation Bureau หรือ CPIB)
ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1952 มาอยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี
และทำการปฏิรูปกฎหมายป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชัน ให้ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ
ทั้งการตัดสินลงโทษผู้ต้องหาโดยไม่ต้องมีหลักฐานชัดเจน แค่มีพฤติกรรมโน้มเอียงไปในทางไม่ซื่อสัตย์ก็สามารถตัดสินได้ หากผู้ต้องหาถูกตัดสินว่าผิดจริง ก็จะได้รับโทษอย่างรุนแรง
นอกจากโทษทางกฎหมายแล้ว ยังต้องชดใช้ค่าเสียหายเท่ากับจำนวนเงินที่ทำการทุจริตด้วย
หลังจากตัวบทกฎหมาย และกระบวนการลงโทษเริ่มเข้าที่เข้าทาง
ขั้นต่อมา คือการเพิ่มผลตอบแทนให้ข้าราชการ โดยเริ่มในปี 1989
เพื่อจูงใจให้คนเก่งเข้ารับราชการ และลดการรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐ
รัฐบาลสิงคโปร์ใช้เวลาต่อสู้กับการคอร์รัปชันมาเป็นเวลากว่า 50 ปี
จนสิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่มีดัชนีความโปร่งใส (Corruption Perceptions Index)
สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ในปี 2020
เมื่อประเทศมีความโปร่งใส ก็ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ในขณะที่รัฐบาลก็มีเงินมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ทั้งการคมนาคมขนส่ง ไปจนถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
รัฐบาลสิงคโปร์ยังได้ก่อตั้ง คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ (Economic Development Board หรือ EDB) เพื่อวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ชัดเจน
จากเมืองท่าปลอดภาษี ในช่วงทศวรรษ 1970s สิงคโปร์ต่อยอดมาสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรเคมี ในทศวรรษ 1980s
และในช่วงทศวรรษ 1990s ประเทศแห่งนี้ก็เปลี่ยนไปเป็นศูนย์กลางบริการทางการเงินของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประการที่ 3: พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ
รัฐบาลสิงคโปร์ได้จัดตั้ง The Smart Nation and Digital Government Group หรือ SNDGG รับผิดชอบในการเปลี่ยนแปลงบริการต่าง ๆ ของภาครัฐสู่ระบบดิจิทัล เพื่อเก็บข้อมูล และประยุกต์ใช้ในการวางแผนพัฒนาประเทศ ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์มี Big Data โดยเฉพาะข้อมูลทางการเงิน
รัฐบาลจึงสามารถตรวจสอบเส้นทางทางการเงินได้ ป้องกันการฟอกเงิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองทำให้สิงคโปร์ได้รับความน่าเชื่อถือ สามารถเป็นศูนย์กลางทางการเงิน
รัฐบาลยังต่อยอดและให้การสนับสนุนเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ FinTech โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้สิงคโปร์เป็น The FinTech Nation
ทั้งการเปิดให้บริษัท FinTech จากทั่วโลก ขอใบอนุญาต Digital Banking ได้เต็มรูปแบบ
ไม่ปิดกั้นเฉพาะองค์กรในสิงคโปร์ และให้การสนับสนุนนวัตกรรมทางการเงินหลายรูปแบบ
ทั้งระบบชำระเงิน, บล็อกเชน ไปจนถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ในขณะที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ ก็เป็นผู้ริเริ่มจัดงาน Singapore FinTech Festival ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2016 และจัดขึ้นติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นมหกรรม FinTech ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ปัจจุบัน ธนาคารสิงคโปร์ที่ใหญ่ที่สุด 3 แห่ง คือ DBS, OCBC และ UOB
ล้วนเป็น 3 ธนาคารที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน มีผลิตภัณฑ์การเงินที่หลากหลาย ทั้งประกันภัย ผลิตภัณฑ์การลงทุนต่าง ๆ ไปจนถึงสกุลเงินดิจิทัล
ภาคบริการการเงินคิดเป็นสัดส่วนราว 7.4% ของการส่งออกสินค้าและบริการของสิงคโปร์ ซึ่งบริการขั้นสูงเหล่านี้ มีส่วนสำคัญที่ผลักดัน GDP ต่อหัวของชาวสิงคโปร์ให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ
ในปี 1965 ที่ก่อตั้งประเทศ ชาวสิงคโปร์เคยมี GDP ต่อหัวน้อยกว่า เจ้าอาณานิคมอย่างสหราชอาณาจักร ประเทศแห่งนวัตกรรมอย่างเยอรมนี หรือประเทศมหาอำนาจในเอเชียอย่างญี่ปุ่น
แต่ในปี 2020 GDP ต่อหัวชาวสิงคโปร์แซงหน้าประเทศเหล่านี้ทั้งหมด และมากเป็นเกือบ 1.5 เท่า ของอดีตเจ้าอาณานิคม..
เรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากการวางแผนระยะยาว
ทั้งการเตรียมทรัพยากรมนุษย์ให้พร้อมสำหรับงานบริการ
การพัฒนาประเทศให้โปร่งใสและมีความน่าเชื่อถือในระดับสากล
รวมไปถึงการช่วยเหลือของภาครัฐในทุก ๆ ด้าน
จากเมืองท่าศูนย์กลางการค้า สิงคโปร์ก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาค และกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีทางการเงินแห่งศตวรรษที่ 21
เรื่องราวของประเทศเกาะมหัศจรรย์แห่งนี้ บอกให้เรารู้ว่า
เมื่อเริ่มเป็นศูนย์กลางอะไรสักอย่าง และสั่งสมประสบการณ์จนมากพอแล้ว
ก็จะง่ายในการดึงดูดสิ่งใหม่ ๆ และกลายเป็นศูนย์กลางด้านอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
และในวันนี้ สิงคโปร์กำลังเตรียมพร้อมทุกอย่าง
สำหรับการเป็นศูนย์กลางอีกหลายด้าน ที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกอนาคต..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-http://prp.trf.or.th/download/2538/
-https://atlas.cid.harvard.edu/explore?country=undefined&product=404&year=2019&productClass=HS&target=Product&partner=undefined&startYear=undefined
-https://remembersingapore.org/2011/10/07/money-never-sleeps-a-brief-history-of-banking-in-sg/
-https://lkyspp.nus.edu.sg/docs/default-source/case-studies/entry-1516-singapores_transformation_into_a_global_financial_hub.pdf
-https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.PCAP.CD?locations=SG-GB-JP-DE
-https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/dbs-cryptocurrency-trading-130964?fbclid=IwAR2VVHEH9_n29fpyXSQ6EgSGDm63Lhm3aQF0aj7I8LIQ_B2wgjIXSazIVxU
digital school 在 Hyukヒョク Youtube 的精選貼文
スキンケアマニアのとある日のGRWMです!購入した韓国コスメやスキンケアを使っての準備でした~!そして最近僕を知ってくださった方もたくさんいらっしゃるので改めて自己紹介もしました~!
使用したスキンケアコスメ一覧(URLも後で記載)
スキンケア類
・Torriden DIVE-IN スキンブースター ¥1,980
https://www.qoo10.jp/su/1298612106/Q137853535
・魔女工場 ガラクトミークリアスキントナー¥2,750
https://amzn.to/3hHa5k7
https://www.qoo10.jp/su/1298612157/Q137853535
・innisfree グリーンティーシードセラム
・unpa ラクトシカロッキングセラム
https://www.qoo10.jp/su/1298612201/Q137853535
・メディキューブ スーパーシカアンプル ¥3,200
https://www.qoo10.jp/su/1298612243/Q137853535
・BIOHEAL BOH パンテノールシカブレミッシュクリーム
https://www.qoo10.jp/su/1298612407/Q137853535
コスメ類
・Cell Fusion C ダーマリリーフサンスクリーン100 SPF50+/PA+++ ¥2,790
・ETUDE HOUSE フィックス&フィックス トーンアッププライマー ラベンダー ¥1,485
・SPICARE V3 エキサイティングファンデーション ¥8,800
https://amzn.to/3hHvaee
https://www.qoo10.jp/su/1298611992/Q137853535
・peripera ダブルロングウェアカバーコンシーラー 02 ナチュラルベージュ ¥600
・Too Cool For School アートクラスバイロダンシェーディング モダン ¥2,090
https://amzn.to/3Cg5Rrm
・CLIO キルブロウ オートハードブロウペンシル 3 Peanut Brow ¥2,420
・peripera ムードノートシャドーパレット 01ロージーサンシャインノート ¥2,750
・innisfree マイリップバーム #7 ドライローズティー ¥1,320
・rom&nd ジューシーラスティングティント #13 EAT DOTORI ¥1,320
https://amzn.to/3Am4Tcy
・THREE シマリンググローデュオ 01 ¥4,950
https://amzn.to/3tMjrjt
・NAMING. リフレクティングパールフィクサー ¥2,340
#ヒョク #韓国 #スキンケアマニア
ども!こんにちは韓国人YouTuberのヒョクです!
チャンネル登録と高評価よろしくお願い致します!
【ご連絡先】
全てのオファーはこちらまで
[email protected]
<お手紙、プレゼント等の送り先>
株式会社 Coogee
〒151-0051
東京都渋谷区千駄ヶ谷4-5-11 SuSLOB北参道2F
Hyuk担当者宛
※飲食物はお断りさせていただいておりますご了承ください。
イ・ミンヒョク Debut Single 'Pray' 2020/08/01
Digital 1st Single 'Pray'【MV】
https://youtu.be/XyrD3w5J8sw
---------------------------------------------------------------
★TikTok↓↓
https://vt.tiktok.com/ZSJsa8tns/
@hyuk.official_tiktok
★Twitter↓↓
https://twitter.com/L_M_H_smile
★Instagram↓↓
https://www.instagram.com/hyuk.0115/
----------------------------------------------------------------
★東海ラジオ パーソナリティ★
毎週月曜日 19:45~
[ヒョクの韓国耳旅RADIO] 番組公式Twitter
https://twitter.com/hyuk1332
-----簡単な自己紹介------
[Hyukヒョク] 韓国系YouTuber.
K-POP, K-FOOD, K-Beauty, K-Cluture
[イ・ミンヒョク] Solo Artist.
音楽活動、タレント業
音源提供:
・MODOOCOM
【ご注意】視聴者を傷つける× 過度な下ネタ× 宣伝目的× 荒らし× はモデレーターさんにより成仏対象なのでお気をつけください。
※大事!人を傷つける嘘のコメントをするやーつは、お見かけ次第、問答無用でブロックしますのでご注意下さい。
digital school 在 Hyukヒョク Youtube 的精選貼文
視聴者の方が、休日に同じように真似してくれたらきっとすんんばらしい肌になると思います!美意識も高まるので^^
てか、紹介したアイテム多すぎな!
~スキンケア類~
・makeprem セーフミー リペアモイスチャー クレンジングミルク
・ネオゼン カナディアン クレイ ポア クレンザー
・TIR TIR ガラクトミセスオリジンエッセンス
・パナソニック ナノケア スチーマーEH-SA3B \19,000
・NATURE REPUBLIC スネイルソリューション スキンブースター
・KOSE 雪肌精 薬用化粧水
・魔女工場 ガラクナイアシン2.0 エッセンス
・モーニングサプライズ 3GFリペアエッセンス ¥8,000
・バイオヒールボ パンテノールシカブレミッシュアンプル
・メディキューブ スーパーシカクリーム
・オメガライト LED光子治癒器 ¥8,700
~メイクコスメ類~
・Dr.G グリーンマイルドアップ サンエッセンス SPF50+ PA++++ ¥3,480
・ペリペラ ミルクブラー トーンアップクリーム 02ベルベット SPF50+ PA++++ ¥1,100
・エチュードハウス フィックス&フィックス プライマー ラベンダー SPF33 PA++ ¥1,485
・CLIO キルカバー シカセラム クッション 03リネン ¥4,224
・ペリペラ ダブルロングウェアカバーコンシーラー 02 ¥660
・THREE シマリング グロー デュオ 01 ¥4,950
・ペリペラ ムードノートシャドウパレット 01 ¥2,750
・Too Cool For School アートクラスバイロデン シェーディング Modern \2,090
・CLIO キルブロウ オートハードブロウペンシル 03 ¥1,700
・MERZY ザファースト スリム ジェル アイライナー GS2
#ヒョク #スキンケア #おすすめ
ども!こんにちは韓国人YouTuberのヒョクです!
チャンネル登録と高評価よろしくお願い致します!
【ご連絡先】
全てのオファーはこちらまで
[email protected]
<お手紙、プレゼント等の送り先>
株式会社 Coogee
〒151-0051
東京都渋谷区千駄ヶ谷4-5-11 SuSLOB北参道2F
Hyuk担当者宛
※飲食物はお断りさせていただいておりますご了承ください。
イ・ミンヒョク Debut Single 'Pray' 2020/08/01
Digital 1st Single 'Pray'【MV】
https://youtu.be/XyrD3w5J8sw
---------------------------------------------------------------
★TikTok↓↓
https://vt.tiktok.com/ZSJsa8tns/
@hyuk.official_tiktok
★Twitter↓↓
https://twitter.com/L_M_H_smile
★Instagram↓↓
https://www.instagram.com/hyuk.0115/
----------------------------------------------------------------
★東海ラジオ パーソナリティ★
毎週月曜日 19:45~
[ヒョクの韓国耳旅RADIO] 番組公式Twitter
https://twitter.com/hyuk1332
ホットな動画↓↓
ワセリンを使って5分で毛穴ブラックヘッドを無くす方法
https://youtu.be/qzoeIRFXTk0
1000万再生の「クレイマスクを使ったブラックヘッドの無くし方」
https://youtu.be/9mcKWniSrKk
-----簡単な自己紹介------
[Hyukヒョク] 韓国系YouTuber.
K-POP, K-FOOD, K-Beauty, K-Cluture
[イ・ミンヒョク] Solo Artist.
音楽活動、タレント業
音源提供:
・MODOOCOM
【ご注意】視聴者を傷つける× 過度な下ネタ× 宣伝目的× 荒らし× はモデレーターさんにより成仏対象なのでお気をつけください。
※大事!人を傷つける嘘のコメントをするやーつは、お見かけ次第、問答無用でブロックしますのでご注意下さい。
digital school 在 やわらか宇宙研究所 Youtube 的最佳貼文
Sega Saturn→SCART→OSSC→HDMI
アナログ映像信号をHDMIに変換する安価なフレームマイスター的なコンバーター「OSSC [Open Source Scan Converter]」を使ってみる放送です。
今回はSCARTケーブルが全部発掘されたので使ってみます。
とりあえず適当なタイトルから…解像度とかどうなってんだろう。
【サターン初級編】https://youtu.be/SpY6o4gNjhM
【OSSC関連】https://qr.paps.jp/C2ZCN7
【現在のオススメ】https://qr.paps.jp/rbpDK
【RPG千本ノック!リスト】https://goo.gl/ed628U
【ゲームまとめ動画リスト】http://goo.gl/eQDBwk
【ゲーム入門系】https://goo.gl/JwjeFP
【比較動画リスト】http://goo.gl/PgDGy8
【チャンネルTOP】http://goo.gl/2bD2N9
00:00 テックサターン 1997年9月号 [Tech Saturn 1997.SPE] Video game magazines with game disc
11:50 バーチャファイター [Virtua Fighter]
17:40 バーチャファイター2 [Virtua Fighter 2]
26:10 ダイナマイト刑事 [Die Hard Arcade]
40:00 慟哭 そして… [Doukoku Soshite… / Lamentations, and...]
52:50 下級生 [Kakyuusei / Underclassmen]
1:04:50 Piaキャロットへようこそ!!2 [Pia Carrot e Yokoso!!]
1:17:30 おまかせ!退魔業(セイバーズ)[Omakase! Saviors]
1:25:20 X-MEN VS. STREET FIGHTER
1:41:50 メタルスラッグ [Metal Slug]
1:58:10 蒼穹紅蓮隊 [Terra Diver]
2:08:25 怒首領蜂 [DoDonPachi]
2:18:15 ストリートファイターZERO3 [Street Fighter Alpha 3]
2:31:45 デイトナUSA [Daytona USA]
2:37:05 セガラリーチャンピオンシップ [SEGA Rally Championship]
2:43:15 疾風魔法大作戦 [Shippu Mahou Daisakusen]
2:53:50 デスクリムゾン [Death Crimson]
3:02:55 レイヤーセクション [Layer Section / Ray Force / Gunlock]
3:18:00 ハイパーデュエル [Hyper Duel]
3:22:25 バトルガレッガ [Battle Garegga]
3:31:10 ラストグラディエーターズ Ver.9.7 [Digital Pinball Digital Pinball: Last Gladiators]
3:36:25 プラドルDISC特別編 コギャル大百科 [High School Girls collection 1996]
大変申し訳無いんですが、自分はニワカと戦争が大変苦手です。
ニワカ特有の本質を見極めず軽口ばかりたたく人を容認できない小さい人間な為、
生放送時はスルーしても、今後の放送で同じストレスを感じたく無いので
動画公開時には右のチャット欄には既に表示されてない人もチョイチョイ居ます。
基本的には「何だコイツ」って思った人で当チャンネルを登録していない人は躊躇なく切りますのでご了承ください。
#OSSC #SegaSaturn #デスクリムゾン