'สีมรกต' ในปี 2020 การเดินทางกว่า 70 ปี ที่ยังเก็บรสหมูกรอบตำรับแท้ ✨😍
.
“เท่าที่ผมจำความได้ ก็กินมาห้าสิบปีแล้ว เขาให้หมูเยอะ เดี๋ยวนี้สี่สิบบาทหากินเยอะขนาดนี้ไม่มีนะ มีทั้งหมูกรอบ มีทั้งกุนเชียง มีทั้งหมูแดง หมูกรอบมันทั้งกรอบทั้งนิ่ม” 😋
.
คุณลุงขาประจำของร้านข้าวหมูแดงสีมรกตเล่าอย่างออกรสออกชาติ 💥 ใครจะคิดว่าซอยเล็ก ๆ อย่างซอยสุกร 1 จะมีร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบในตำนานที่เปิดมากว่า 70 ปีแล้ว 🤩หากได้ลองมากินสักครั้ง ก็อดไม่ได้ที่จะกลับมาอีก 🤤 ด้วยรสชาติต้นตำรับแท้ส่งต่อจากรุ่น...
Continue Reading'Emerald color' in 2020, the journey over 70 years that still collect crispy pork flavor. Authentic recipe. ✨😍
.
′′ As far as I can remember, I have eaten for fifty years. They give me a lot of pork. Now forty baht. I don't have this much food. There are crispy pork and goon. There are red pork, crispy pork, crispy pork, crispy, soft
.
The regular uncle of the Emerald red pork rice restaurant. It's so delicious. 💥 Who would think that a small alley like Soi Sukorn 1 would have a legendary crispy pork rice restaurant that has been opened for over 70 years? If you try it once, you can't help to come back 🤤 with original taste. Forwarded from father's generation, especially crispy pork and water. Special recipe that makes this small shop become a famous restaurant in the middle of the city where people stop by. Keep eating ✨
.
Mr. Wanlaphakaewsiromark or Piak, the owner of the Emerald red pork rice restaurant inherited this shop from father Piak. He told the beginning of this shop, ′′ I was born. Father is selling it. He is Chinese. But Jiw when he uses the stove. The battery is gone. Both red pork and crispy pork and goon ′′ 🤩
.
The highlight that makes this crispy pork rice restaurant still take care of customers. Brother Piak said that ′′ the shop will keep the same standard. The taste is the same since the father sold it. 👍 and everything is grilled with the charcoal stove as usual. No change. The water is used by using it. All the same formula. It makes customers like it. It's mouth to mouth ′′ 😍
.
The great menu that all customers speak with the same voice. No matter where they turn, order to eat cuddle at every table. It's ′′ crispy pork ′′ 🐷 for only 40 baht ✨ One of the special things that make. Crispy pork from Emerald's shop is different from other restaurants. Crispy pork here will use grill to make charcoal grill smell better than frying and soft inside. It's not dry as we used to eat. The water is not normal because it's braised with Chinese medicine. It's sweet. Yeah 🤤
.
The shop's boiled menu is not allergic. Stewed duck, lemon, pickled lemon, boiled papaya, pork bone and stomach. It's only Wednesday and Sunday. 🤤 All bowls are the same price at 35 Baht. Other days, there will be a duck, minced lemon, hatch and papaya soup with pork bone. Let's keep it fluent. 😋
.
Even though I have sold for more than 70 years, the Emerald shop still cares about both raw materials and the process of doing the same. It doesn't change. 😍 Plus, selling for less than one hundred baht. 🤩 Brother Piak sincerely said, ′′ Live with small profit. Sell it. A lot of them. Pigs are expensive now. But it hasn't risen the price
.
Even the Covid situation has made the shop less customers in the past, but now the Emerald Red pork rice restaurant starts to come back to be jolly because they can eat at the shop. ✨ alcohol hall gel for customers. All employees wear hygienic mask. Protected and it tastes good. Same price! 👍 If you want to go to eat, miss or want to try to know how special this restaurant is. You can stop by. Brother Piak also said that there is a new open branch at Soi St. Louis. The owner is the 3th generation heir. Which is the son of Brother Piak.
.
If you pass by, whether it's Sukorn 1 or St. Louis Soi. Let's visit to try it once and you will know how satisfying the legendary crispy pork is. Even the Emerald color shop looks like a small shop. It gives special taste. I can't wait to see what I eat. From crispy pork to soup! 😋
.
🍴: Emerald red pork rice
📍: 80-82 cm Sukorn 1rd. Thai-Chinese friendship, Bangkok. (Before the temple, turn left around 50 meters. The shop is on the right hand side)
📞: Call 0815679006, 0818169774
⏰: Open everyday 10.00-17.30
🛵: Order LINE MAN here! 👉🏻
⭐️: See more coordinates and reviews 👉🏻 https://www.wongnai.com/restaurants/simorakot-ssk
_________________________
#Wongnai #WongnaiBacktoLife
Start living in New Normal cuddle together with Wongnai. Find restaurant information across the country and share cuddle reviews at Wongnai app. ▶️ Free download here >> http://bit.ly/2U0bdnsTranslated
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過3萬的網紅The Thirsty Sisters,也在其Youtube影片中提到,So we heard Nina is back in the dating game? How does Mandy look at Sylvia? This week, The Thirsty Sisters aka self-proclaimed (but pretty legit) love...
friendship cares 在 美國在台協會 AIT Facebook 的最佳解答
「台灣透過創新和投資人力資本加速推動了自身的經濟增長。台灣藉由像《太平洋島國青年領袖培訓計畫》的論壇,幫助合作夥伴跟隨這種可持續性和包容性增長的模式。此外,台灣不僅關心如何培養應對共同挑戰所必需的人力,並關注加強與太平洋島國的友誼關係。我們可以說,再沒有比台灣更好的區域合作夥伴和朋友了。台灣是可靠的伙伴、民主的成功故事和世界的良善力量。”」AIT處長酈英傑本週稍早在《太平洋島國青年領袖培訓計畫》的結訓典禮上說。
Taiwan fueled its own economic growth with innovation and investment in human capital. Through forums like the Pacific Islands Leadership Program, Taiwan is helping its partners follow this model of sustainable and inclusive growth. Furthermore, Taiwan cares deeply not only about building the human capacity necessary to tackle common challenges, but also about strengthening the bonds of friendship with Pacific island countries. You can have no better regional partner — and friend — than Taiwan. Taiwan is a reliable partner, a democratic success story, and a force for good in the world,” AIT Director Brent Christensen, speaking earlier this week at the Pacific Island Leadership Program.
friendship cares 在 Patchai Pakdeesusuk Facebook 的最讚貼文
1
ผมไม่เชื่อว่ามนุษย์จะทำได้ทุกอย่าง
แม้เชื่อว่าถ้ามีวินัยและความพยายาม มนุษย์สามารถทำในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้กระทั่งสำเร็จ แต่ก็ไม่คิดว่าคนคนหนึ่งจะทำทุกอย่างได้ดีในเวลาเดียวกัน
หนึ่งเรื่องที่ทุ่มเท เรากำลังแลกกับหนึ่งเรื่องที่ปล่อยมือไป
งานจึงช่วงชิงเวลาจากความสัมพันธ์ การหาความรู้จึงยื้อยุดเวลากับการออกกำลังกาย เฮฮากับเพื่อนฝูงจึงแย่งเวลากับห้วงสงบเมื่ออยู่ตามลำพัง
เรามัก 'เห็น' คนที่ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ดี เพราะเมื่อทำได้ดีแสงสปอร์ตไลท์จะจับจ้องไปที่ตัวเขา ผู้คนในสื่อจำนวนมากคือคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ที่จริงมีวงเล็บต่อท้ายว่า (ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง) สำหรับบางคนอาจสำเร็จหลายเรื่อง กระนั้นก็มีวงเล็บอยู่ดีว่า (แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องในชีวิตหรอก)
เพราะหนึ่งความสำเร็จนั้นแลกมาด้วยการยอมเสียอะไรไปบางอย่าง สิ่งที่เขาเสียไปเราอาจไม่เห็นและไม่รู้
ขณะที่คนที่จัดสมดุลชีวิตได้ดีอาจไม่ใช่คนโดดเด่น เพราะเขาอาจไม่เก่งเป็นที่หนึ่ง แต่เก่งพอประมาณ มีความสุขกับชีวิต และมีเวลากับเรื่องที่ตัวเองอยากทำ รักษาสัมพันธ์ได้กลมกล่อม คนแบบนี้ถ้าให้คะแนนในด้านต่างๆ อาจประมาณ 7 คะแนน แต่ทุกช่องไม่มีต่ำกว่า 7 จึงไม่ค่อยมีใครสนใจเขา
ท่ามกลางการรับรู้ผ่านสื่อ เรามักให้ความสนใจกับคนที่ได้คะแนนเต็ม 10 หรือทะลุไปถึง 15 ในด้านใดด้านหนึ่ง แต่เราไม่มีวันรู้เลยว่าถ้าต้องกรอกคะแนนให้ตัวเองในช่องอื่น เขาจะกรอกคะแนนเท่าไร เป็นไปได้ว่าบางช่องอาจได้แค่ 2 คะแนนจากเต็มสิบ
...
2
เป็นไปได้ไหมว่าการรับรู้เช่นนี้ทำให้เราอาจเป็นคนที่มีคะแนนเต็มสิบอยู่ตลอดเวลา และถ้าเป็นไปได้เราก็อยากเต็มสิบในทุกช่องของชีวิต
งานดี กีฬาเด่น ครอบครัวสุขสันต์ จิตใจสดใส เที่ยวก็ได้ไป หนังก็ได้ดู ดนตรีได้เล่น ดำน้ำลึก ฝึกปีนผา เป็นอาสาเพื่อชุมชน อ่านหนังสือร้อยเล่มต่อปี พูดบาลีคล่อง อ่านสเปนออก จัดดอกไม้เป็น คิดเห็นเป็นนวัตกรรม ก้าวทันเทคโนโลยี มีสตาร์ทอัพยูนิคอร์น สอนลูกให้เก่งกว่าลูกข้างบ้าน เบิกบานเป็นอิสระทางการเงิน ฯลฯ อีกมากมาย
เรานำเอาคุณสมบัติ 'เต็มสิบ' ของทุกคนทุกเรื่องราวที่เสพมาวางไว้บนบ่าตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แรงปรารถนานั้นบอกว่าฉันอยากเป็นให้ได้
ความคาดหวังมากมายกับตัวเองอาจนำพาความคาดคั้นเพื่อดึงศักยภาพสูงสุดของเราออกมาในทุกมิติโดยเชื่อว่ายังมีอีก 'หลายก๊อก' ซุกซ่อนอยู่ในตัวเรา ราวน้ำพุไม่มีวันเหือด
...
3
กระนั้น, ความจริงมีอยู่ว่า พลังและเวลาของมนุษย์มีจำกัด
เมื่อทุ่มให้กับอะไรสักอย่างย่อมมีบางอย่างถูกปล่อยปละไป-\-\นี่คือสัจธรรมอันมิอาจเลี่ยง
การพยายามประคับประคองทุกอย่างเอาไว้ด้วยสองมือกับยี่สิบสี่ชั่วโมงที่มีเท่าเดิมมีโอกาสที่จะสร้างบาดแผลในใจให้เกิดขึ้น ยิ่งนานก็ยิ่งบอบช้ำและลงลึก
ผมค่อยๆ เข้าใจผ่านประสบการณ์ปรารถนาฉวยคว้าทุกอย่างไว้และทำให้เต็มที่ที่สุดด้วยคำตอบง่ายๆ กับตัวเองว่า-\-\มึงทำไม่ได้หรอก
ประหลาดแท้! ทันทีที่ยอมรับว่าเราทำทุกอย่างให้เต็มสิบไม่ได้หรอก ทันใดนั้นภูเขายักษ์นาม 'ความคาดหวัง' ก็ไหลหล่นลงจากบ่าหายวับไปกลายเป็น 'ที่ว่าง' ให้ผมเลือกสิ่งที่อยากนำมาวางไว้บนบ่าของตัวเองใหม่
ไม่ใช่ 'ทุกอย่าง' อีกต่อไป แต่เป็นเพียง 'บางอย่าง' ที่สำคัญในช่วงเวลานี้
บางอย่างที่ยังไม่ต้องทำให้สำเร็จตอนนี้ ผมเลื่อนเวลาออกไปก่อน หากต้องกรอกคะแนนมันอาจจะเป็น 0 ในตอนนี้ เช่น หนังสือบางเล่มที่ตั้งใจเขียนให้เสร็จภายในปลายปีนี้ ผมลองพักวางไว้และจะใช้สมาธิตั้งใจเขียนให้จบภายในปีหน้าแทน เมื่อคิดได้ก็เบาใจไปเยอะ
...
4
"ค่อยๆ สำเร็จทีละเรื่อง" คือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ เพราะสำเร็จพร้อมกันทุกเรื่องนั้นกดดันตัวเองเกินไป เรามีชีวิตยืนยาวพอที่จะให้เรา "ค่อยๆ ทำ" ระหว่างน้ันจะได้ใช้เวลาไปกับมิติอื่นในชีวิตไปพร้อมกันด้วย
เมื่อเลือกน้อยสิ่งเราจะใส่ใจและใส่พลังลงไปกับมันได้มากขึ้น สำคัญกว่านั้น, เราจะมองเห็นตัวเองตามความเป็นจริงมากขึ้นว่า "มึงไม่ใช่ซูเปอร์แมน" และที่สำคัญที่สุดคือ-\-\เราไม่ต้องเป็นซูเปอร์แมน
เป็นมนุษย์ธรรมดาๆ ที่เกลี่ยคะแนนชีวิตในช่องต่างๆ ให้มีค่าเฉลี่ยที่น่าพอใจ จากเคยมีช่องที่ได้ 15 เต็มสิบ ก็เกลี่ยมาให้กลายเป็น 7 คะแนน แล้วแบ่งคะแนนไปใส่ช่องที่เคยเป็น 0 หรือ 2 ให้กลายเป็น 7 แทน
คนอาจไม่ปรบมือให้เราหรอก เพราะช่องที่คะแนนเพิ่มขึ้นนั้นอาจไม่มีใครเห็นหรือรับรู้ แต่ตัวเรารับรู้อยู่ด้วยหัวใจที่เป็นสุขขึ้น เสียงหัวเราะของคนรอบตัวที่เรามีเวลาได้ฟังบ่อยขึ้น มิตรภาพที่แน่นแฟ้นกว่าเดิม
ที่สำคัญ, เราไม่รู้สึกกดดันตลอดเวลา ซึ่งจะว่าไปอาจไม่มีใครกดดันเราเลย แต่เป็นตัวเรานั่นเองที่กดดันให้ตัวเองต้องเก่งทุกด้าน ทำทุกสิ่ง และสำเร็จทุกอย่างมากเกินไป
...
5
กระนั้นก็ใช่ว่าการทำเช่นนี้จะไม่ต้องแลกกับอะไรเลย แลกสิครับ แลกเหมือนกัน มันแลกกับการที่กลายเป็นคนที่ไม่สำเร็จมากมาย ไม่โดดเด่นนัก ไม่เป็นซูเปอร์แมน
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องช่วงเวลาของชีวิต บางช่วงของชีวิตเราอาจไม่พร้อมแลก แต่บางช่วงเราก็อาจอยากแลก และไม่อยากเป็นซูเปอร์แมนอีกต่อไปแล้ว
สำหรับผม, ซึ่งผ่านช่วงวัยหนุ่มอันร้อนแรงลุกโชนมาแล้ว, ข้อดีที่สุดของวัยสี่สิบปีคือการยอมให้ตัวเอง 'ไม่ทำ' หรือ 'ไม่สำเร็จ' หรือ 'ไม่เก่ง' บ้างในบางเรื่อง เพื่อใช้เวลาไปกับสิ่งอื่นที่สำคัญไม่น้อยกว่ากัน เช่น ความสงบในใจ การใช้เวลากับพ่อแม่ที่แก่ชราลง และเสียงหัวเราะของเพื่อนเก่าที่เข้าใจกัน
ในวัยหนุ่มกว่านี้ผมชอบตัวเลข 10 และอยากดันตัวเองให้ทะลุไปถึง 11 หรือมากกว่านั้น แต่ในวัยนี้ผมชอบตัวเลข 7 ซึ่งถ้าเป็นคะแนนสอบก็คือ ผ่านมาได้แบบกำลังดี และเมื่อทุกวิชาได้ 7 แล้ว เราก็ไปเน้นในบางวิชาในบางเทอมให้ได้ 10 สักครั้ง ทีละเรื่องก็พอ เท่านี้ก็เป็นชีวิตที่น่าพอใจ
ผมทบทวนเรื่องนี้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ว่า สิ่งที่เรากำลังทุ่มพลังและเวลาให้นั้น เราแลกมันกับอะไร
และมันคุ้มหรือไม่ที่เราจะแลก
1
I don't believe humans can do anything.
Even though I believe that if discipline and effort, human beings can do what seems impossible, even succeed, but they don't think one person will do everything well at the same
One dedicated story. We are in exchange for one that let go.
So the job takes time from the relationship. Finding knowledge, so I hold on time with exercise. Fun with friends. So I steal time with peace when they are alone.
We always 'see' people who do something well because when we do well, spotlight will stare at him. Many people in the media are successful people, but in fact, there is a parence (in something) for Some people may accomplish many things. There is a bracket (but not everything in life)
Because one success comes by losing something. What he lost, we may not see and not know.
While a person who balances life well may not be outstanding because he may not be good at first, but moderately, happy with life and have time with what he wants to do. Keep relationship. This kind of person. If you rate in different aspects, it may be approx. 7 POINTS BUT EVERY CHANNEL IS NOT LESS THAN 7 so nobody cares about him.
In the midst of media awareness, we often pay attention to people who score 10 or through 15 on one side. But we never know how much points to fill in other fields, they will fill in other points. It's possible. The channel may only get 2 points out of ten.
...
2
Is it possible that perception like this makes us to be the one with a full ten score all the time? and if possible, we want to be full ten in every channel of
Good work, Sports, happy family, bright mind, you can travel, go to movies, watch music, play scuba diving, practice climbing, volunteer for the community, read a hundred books a year, speak bali fluently, read Spain, arrange flowers as an innovation, move in time for technology Cuddle unicorns teach kids to be better than the kids next door. Cheerful, financially independent, etc.
We bring the 'full ten' qualities of everyone. Every story that I use on my shoulder unintentionally, but the desire says I want to be.
Many expectation with ourselves may bring out our highest potential in every dimension, believing that there are 'many taps' hidden in us. The Fountain will never be seen.
...
3
However, the truth is that human power and time are limited.
When you give to something, something will be released -\-\ this is the cuddle truth that cannot avoid.
Trying to hold everything with two hands and twenty-four hours with the same. There is a chance to create wounds in your heart. The longer it takes, the more traumatized and deep.
I slowly understand through experience, desire, seize everything and do my best with a simple answer to myself -\-\ you can't do it.
So weird! As soon as I admit that we can't do everything to the full ten, suddenly a giant mountain named ' expectation ' fell from my shoulder. Cuddle baht to become ' space '. Let me choose what I want to put on my shoulder.
NOT ' everything ' anymore, but just ' something ' that matters in the moment.
Something that hasn't had to be accomplished. Now I have to postpone the time. If I have to fill out the score, it may be 0 now. Such as some books that I intended to finish writing by the end of this year. I tried cuddle put it and I End of next year instead. When I think about it, it's too light.
...
4
" gradually successful one by one " is what I learned because everything is done together. It's too pressure on ourselves. We live long enough to " slowly do " between cuddle am so that we can spend time with other dimensions in life together.
When we choose less, we will pay more power and put more energy. More important, we will see ourselves in fact that "you are not superman" and the most important thing is -\-\ we don't have to be superman.
I am a normal human being who spreads life in various channels to have a satisfying average. There was a channel that got 15 full of ten, it into 7 points and then divided the points to the channel that used to be 0 OR 2 Let's become 7 instead
People may not applaud us because the channel where the score may not see or know, but we know with a happier heart. The laughter of those around us have more often. Stronger friendship.
Most importantly, we don't feel pressure all the time. No one may pressure us, but it's me who pressure ourselves to be good at all aspects. Do everything and accomplish everything too much.
...
5
It's not that doing this doesn't have to exchange for anything. It's the same. It's in exchange for becoming a lot of unsuccessful. Not outstanding, not superman.
This is a moment of life. Some of our lives may not be ready to exchange, but sometimes we may want to trade and don't want to be superman anymore.
For me, who has passed the hot young age, the best thing of forty years old is to allow myself to ' not do ' or ' unsuccessful ' or ' not good ' in some things to spend time with other things that matter. Less, such as peace in mind, spending time with older parents and laughter of old friends who understand each other.
At a younger age, I like the number 10 and I want to push myself through 11 or more. But at this age, I like the number 7 which if it's a test score, it's good and when all subjects are fine. 7 and we go to focus on some subjects in some semester. 10 once at a time. This is enough. This is a satisfying life.
I review this more and more often what we are giving power and time we trade it for.
And is it worth us to tradeTranslated
friendship cares 在 The Thirsty Sisters Youtube 的最讚貼文
So we heard Nina is back in the dating game? How does Mandy look at Sylvia?
This week, The Thirsty Sisters aka self-proclaimed (but pretty legit) love gurus are here to solve your relationship problems and woolly thing called feelings. Tune in to find out!
P.S. Shoutout to @Gee Lian Ng for inspiring us to make this episode! ?
Get the Shure MV7 at:
SeeHearLive - https://seehear.live/catalogsearch/result/?q=mv7
SHURE LazMall - https://www.lazada.sg/shop/shure/
Quote TTS10OFF to get $10 off STOREWIDE. Promo code is valid until 31 Dec 2020.
01:26 Q&A segment: Would You Confess or Stay Friends Forever!
05:50 Topic of the day
06:50 He reaches out and initiates plans
09:35 He always seem happy around you and is persistent
11:01 His body language and you feel comfortable around him
12:18 He listens to what you say and makes future plans
14:33 He integrates you into his life and tells you how much he likes you
18:11 He opens up to you and cares about your “needs”
21:48 Interpret with your sixth sense
23:31 Georgina (Nina’s friend) list: How to tell if a guy is into a girl
General resources:
13 Signs He’s Into You - https://www.anewmode.com/dating-relationships/signs-hes-into-you/3/
+ 1 by Georgina ??
*Disclaimers*
The legal age for sex in Singapore is 18. While being comfortable with your bodies is a must, please protect yourselves by using protection ?
https://singaporelegaladvice.com/law-articles/legal-age-for-sex-in-singapore/
Our views in this podcast include only our own experiences as heterosexual women in Singapore, we respect everyone’s views regardless of genders, gender identities and sexual orientations.
Follow The Thirsty Sisters on Spotify and Instagram!
https://www.instagram.com/thethirstysisterstts
https://open.spotify.com/show/5yx8txjfb7dMkosumEv6lQ?si=5Ew1dv6wRlCayZ0TQfo-Ug
Featuring:
Sylvia - https://www.instagram.com/sylsylnoc
Nina - https://www.instagram.com/ninatsf
Brand collaborations/features:
thirstysisters@noc.com.sg.
The Thirsty Sisters TEAM
Co-Founders: Sylvia Chan | Nina Tan
Head of Production: Virus Tan
Crew/Editors: Jeraidine Kwong | Isaac Lim | Wan Qi
Motion Graphics Designers: Kher Chyn | Vanessa Riadi
Sound Engineers: Nah Yu En | Mabel Leong
Digital Strategist: Freda Peh