【乾淨城市.從自身做起💪】
9/22 #世界無車日(World Car Free Day)是1998年從法國發起的活動,喊出「在都市,我不開車」(In town, without my car)口號📢,呼籲民眾減少私家車的使用,鼓勵搭乘大眾交通工具🚈、騎單車🚴甚至步行🚶,不僅減低碳排量,也對抗噪音和空氣汙染‼
🌐全球已有上千個城市支持這項活動,在台灣,各地方政府也會響應這項活動,像是舉辦步行健走、騎自行車上班、公車免費搭...等等,希望喚起大家對環保的重視‼
#環保
#碳排量
#低碳交通
#節能減碳
📌加入Juiker,即時掌握央廣新聞📌
https://jkgo.in/gt/j/bGiJAm
📌歡迎加入央廣Rti官方TG帳號,每日新聞不漏接📌
https://t.me/RadioTaiwan
📌Google新聞也可追蹤央廣Rti📌
https://reurl.cc/LdGL5L
同時也有98部Youtube影片,追蹤數超過2萬的網紅吉米哥 Jimi Bro,也在其Youtube影片中提到,=================================== 支持優質影像創作者,小額贊助抖內吉米哥 https://pse.is/jimibro_donate =================================== ►吉米哥你說 Podcast 收聽平台► ▎Apple...
「google in 1998」的推薦目錄:
- 關於google in 1998 在 Rti 中央廣播電臺 Facebook 的最佳貼文
- 關於google in 1998 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於google in 1998 在 Facebook 的精選貼文
- 關於google in 1998 在 吉米哥 Jimi Bro Youtube 的最讚貼文
- 關於google in 1998 在 Herman Yeung Youtube 的精選貼文
- 關於google in 1998 在 Nonny.com Youtube 的最讚貼文
- 關於google in 1998 在 Google小彩蛋p1-讓google回到過去(1998年) 的評價
- 關於google in 1998 在 Old Google website as in 1998 (Easter Egg) - Pinterest 的評價
- 關於google in 1998 在 Google 1998 - gists · GitHub 的評價
- 關於google in 1998 在 Larry Page co-founded @google in... - Y&S Accounting Brisbane 的評價
google in 1998 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
สรุปเส้นทาง เว็บเบราว์เซอร์ จาก Netscape สู่ Google Chrome /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงการท่องโลกอินเทอร์เน็ต สิ่งที่เป็นเหมือนประตูบานแรกที่ทุกคนต้องเดินผ่าน ก็คือ “เว็บเบราว์เซอร์”
รู้ไหมว่า ความสำคัญของเว็บเบราว์เซอร์นั้น ได้นำไปสู่การต่อสู้เพื่อแย่งชิงฐานผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างดุเดือด ซึ่งเหตุการณ์ก็ยืดเยื้อมานานเกือบ 30 ปี และพลิกผันอยู่หลายครั้ง จนทำให้ผู้ชนะในศึกแรก ๆ กลับกลายเป็นผู้แพ้ในท้ายที่สุด
สงครามระหว่างผู้ให้บริการเว็บเบราว์เซอร์ มีเรื่องราวเป็นอย่างไร
แล้วตอนจบ ใครเป็นผู้ชนะ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของมหากาพย์ ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1993
เว็บเบราว์เซอร์หลายเจ้า ถูกคิดค้นขึ้นและนำมาใช้กันแพร่หลาย และถือเป็นประตูบานสำคัญ ที่ทำให้มนุษย์ได้รู้จักกับโลกออนไลน์
ในขณะนั้น เว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมมากสุด คือ “Mosaic” ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์การประยุกต์ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา
ต่อมา ก็มีหลายบริษัทขอซื้อลิขสิทธิ์ของ Mosaic ไปสร้างเป็นเว็บเบราว์เซอร์ของตัวเอง โดยหนึ่งในนั้น คือ บริษัท Netscape Communications Corporation ของคุณ Marc Andreessen ซึ่งปัจจุบันเป็นนักลงทุนชื่อดังของวงการ Venture Capital
เว็บเบราว์เซอร์ของ Netscape มีชื่อว่า “Netscape Navigator” ซึ่งได้รับความนิยมในทันที เพราะใช้งานง่าย และแสดงผลการค้นหาได้ดีกว่าเจ้าอื่น ทำให้บริษัทยึดครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 80% ในช่วงปี 1995
ความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ Netscape สามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ แม้เพิ่งก่อตั้งมาเพียงปีเดียว และยังถือเป็นการ IPO ที่มีมูลค่าสูงสุดของตลาดในเวลานั้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต ก็ดึงดูดให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง “Microsoft” เข้ามาสู่ธุรกิจเว็บเบราว์เซอร์ จนเกิดเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า “สงครามเว็บเบราว์เซอร์ครั้งที่ 1”
หลังจาก Netscape เข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ 15 วัน บริษัท Microsoft ก็เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ ชื่อว่า “Internet Explorer”
เนื่องด้วย Microsoft เป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ที่มีเงินทุนจากการขายซอฟต์แวร์ จึงทำให้สามารถทุ่มทรัพยากรเพื่อพัฒนา Internet Explorer จนมีฟีเชอร์ก้าวตาม Netscape ทัน ภายในเวลาไม่นาน
และในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสงคราม เมื่อ Microsoft ตัดสินใจผูกโปรแกรม Internet Explorer ไว้เป็นเว็บเบราว์เซอร์เริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ Windows แบบฟรี ๆ
หมายความว่า คนที่ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ไปใช้ จะกดเข้า Internet Explorer ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปดาวน์โหลดหรือหาซื้อเว็บเบราว์เซอร์ใหม่
ซึ่งขณะนั้น Windows ครองส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์กว่า 90% ส่งผลให้การใช้งาน Internet Explorer เพิ่มขึ้นรวดเร็วมาก
จนในปี 2002 Netscape Navigator ก็มีส่วนแบ่งตลาดน้อยมาก
จากข้อมูลของ TheCounter.com
Internet Explorer ส่วนแบ่งตลาด 93.9%
Netscape Navigator ส่วนแบ่งตลาด 2.3%
บทสรุปของสงครามเว็บเบราว์เซอร์ครั้งที่ 1 ผลปรากฏว่า Microsoft เป็นผู้ชนะอย่างเด็ดขาด..
ส่วนผลการดำเนินงานของ Netscape ก็ถดถอยลง และตัดสินใจขายกิจการให้กับบริษัท America Online ในปี 1998 ก่อนที่จะหยุดให้บริการเว็บเบราว์เซอร์ ในเวลาต่อมา
ถึงแม้การต่อสู้ศึกนี้จบลงแล้ว แต่สงครามในสนามรบเว็บเบราว์เซอร์ ยังไม่ปิดฉากลงง่าย ๆ
พอไร้คู่แข่ง ดูเหมือนว่า Microsoft จะตายใจ และแทบไม่ได้พัฒนา Internet Explorer ต่อสักเท่าไร หลักฐานที่ชัดเจนคือ ระหว่างปี 2001-2006 มีการอัปเดตเบราว์เซอร์แค่เวอร์ชันเดียวเท่านั้น
แต่ความประมาทและความตายใจของ Microsoft นี่เอง ที่กลายเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ ที่ทำให้เกิด “สงครามเว็บเบราว์เซอร์ ครั้งที่ 2”
เพราะหลังจาก Netscape พ่ายแพ้ พวกเขาก็ได้เปิดเผยข้อมูลโคดทิ้งไว้ ซึ่งต่อมา องค์กร Mozilla Foundation ได้นำเอาไปพัฒนาเป็นเว็บเบราว์เซอร์ตัวใหม่ ที่ชื่อว่า Mozilla Firefox หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “Firefox”
Firefox ได้มุ่งเน้นพัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ที่เริ่มเบื่อหน่ายกับประสิทธิภาพการทำงานของ Internet Explorer
จึงทำให้ Firefox สามารถแสดงผลของเว็บไซต์รุ่นใหม่ได้ดีกว่า รวมทั้งเพิ่มฟีเชอร์ลูกเล่นให้กับเบราว์เซอร์อีกมากมาย ส่งผลให้คนเริ่มสนใจลองดาวน์โหลด Firefox ไปใช้งานแทน Internet Explorer
ส่วนแบ่งตลาดเว็บเบราว์เซอร์ ในปี 2009 จากข้อมูลของ StatCounter
Internet Explorer ส่วนแบ่งตลาด 60.1%
Firefox ส่วนแบ่งตลาด 30.5%
จะเห็นได้ว่า Firefox แย่งชิงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไปจาก Internet Explorer พอสมควร ถึงขนาดที่หลายฝ่ายมองว่าอาจถึงขั้นแซงขึ้นเป็นเจ้าตลาด
แต่มันก็ไม่ทันได้เกิดขึ้น..
เพราะสงครามครั้งนี้ ยังมีตัวละครอื่นเข้าร่วมวงต่อสู้อีก
ซึ่งตัวละครใหม่ที่ว่า นั่นก็คือ “Google”
Google เป็นเจ้าตลาดเซิร์ชเอนจิน และมีผลิตภัณฑ์ออนไลน์อื่น ๆ มากมาย ซึ่งมีความต้องการจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศบริษัทเพิ่มเติม จึงได้พัฒนาและเปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์ ชื่อว่า “Google Chrome” ขึ้นมา และเริ่มเปิดให้ใช้งานในปี 2008
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต จะสามารถใช้บริการทุกอย่างของ Google ผ่านเบราว์เซอร์ Google Chrome ได้อย่างสะดวกสบายและครบวงจรในที่เดียว
รวมทั้ง Google ยังมีความพร้อมด้านทรัพยากรและเงินทุน ที่สนับสนุนให้ทีมงานมีการอัปเดตฟีเชอร์ใหม่ ๆ ของเบราว์เซอร์ อยู่ตลอดเวลา จนรายอื่นเริ่มขยับตามได้ยาก
ด้วยเหตุนี้ ฐานผู้ใช้งาน Google Chrome จึงเติบโตแบบก้าวกระโดด และแซงหน้าขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
นอกจากนั้น ในยุคสมาร์ตโฟน ผู้เล่นอีกรายหนึ่งที่มาแรง คือ “Apple”
ในช่วงหลัง พฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ต เปลี่ยนไปอยู่บนสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตมากขึ้น ซึ่ง Apple ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ส่งผลให้เว็บเบราว์เซอร์ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS ของตัวเครื่อง อย่าง “Safari” ถูกเปิดใช้งานเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง จนสามารถก้าวขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 ตั้งแต่ช่วงปี 2015
แล้วในปัจจุบัน สถานการณ์ของสงครามนี้ เป็นอย่างไร ?
ส่วนแบ่งตลาดเว็บเบราว์เซอร์ เดือนพฤษภาคม ปี 2021 จากข้อมูลของ StatCounter
- Google Chrome ส่วนแบ่งตลาด 64.8%
- Safari ส่วนแบ่งตลาด 18.4%
- Firefox ส่วนแบ่งตลาด 3.3%
- Internet Explorer ส่วนแบ่งตลาด 0.6%
เราคงพอสรุปได้ว่า Google Chrome คือผู้คว้าชัยชนะ ของสงครามเว็บเบราว์เซอร์ ในตอนนี้
ในขณะที่ ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตอย่าง Internet Explorer ได้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันไปแล้ว ซึ่งทำให้ Microsoft เตรียมยกเลิกโปรแกรมในเดือนมิถุนายน ปี 2022 และมุ่งพัฒนาเบราว์เซอร์รุ่นใหม่ ชื่อว่า “Microsoft Edge” ขึ้นมาแทน
นี่คงเป็นแง่คิดที่ดีว่า การเป็นผู้ชนะนั้นยากแล้ว แต่การรักษาตำแหน่งผู้ชนะอาจเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า
เพราะเมื่อไรที่เราหยุดพัฒนา ก็อาจพลิกมาเป็นผู้แพ้ในสักวัน จนไม่มีโอกาสแก้ตัวใหม่ ก็เป็นได้..
ปิดท้ายด้วยประเด็นที่หลายคนอาจสงสัยว่า
Google Chrome กับ Safari ที่ดูเหมือนเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกันที่สุดในตอนนี้ ความจริงแล้วเขาทั้งสอง เป็นพันธมิตรกันในบางส่วน
เพราะในทุก ๆ ปี Google ตกลงยอมจ่ายเงินมหาศาลให้กับ Apple เพื่อขอให้ Google เป็นเว็บไซต์ค้นหาเริ่มต้นบนเบราว์เซอร์ Safari
โดยในปี 2021 คาดว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 4.9 แสนล้านบาท
ถ้าถามถึงเหตุผล ก็คงเป็นเพราะ Google ให้ความสำคัญกับการครองส่วนแบ่งตลาดเซิร์ชเอนจินมากกว่า เรื่องเบราว์เซอร์ เพราะตัวสร้างรายได้ให้ Google จะอยู่ที่เซิร์ชเอนจินเป็นหลัก
Google อยากได้แทรฟฟิกการค้นหาข้อมูลเบราว์เซอร์ Safari เพื่อปิดประตูไม่ให้ผู้เล่นรายอื่น เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดเซิร์ชเอนจินไป ถึงแม้จะรู้ว่า ทำให้มีคนใช้งาน Safari เพิ่มมากขึ้นก็ตาม
ส่วนฝั่ง Apple คงเลือกรับเงินดีกว่า เพราะอย่างไร คนส่วนใหญ่ก็จะเข้า Safari แล้วไปค้นหาใน Google อยู่ดี
ซึ่งอาจพอตีความได้ว่า ตอนนี้ทั้งคู่เลือกที่จะอยู่ร่วมกันบนโลกออนไลน์ แบบเป็นพันธมิตรกัน มากกว่าทำสงคราม แล้วต้องมีใครสักคนบาดเจ็บหนัก..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://acodez.in/browser-wars/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Browser_wars
-https://en.wikipedia.org/wiki/Usage_share_of_web_browsers
-https://gs.statcounter.com/browser-market-share#monthly-201201-202105
-https://www.reuters.com/technology/microsoft-unplug-internet-explorer-it-seeks-edge-browser-war-2021-05-20/
-https://9to5mac.com/2021/08/25/analysts-google-to-pay-apple-15-billion-to-remain-default-safari-search-engine-in-2021/
google in 1998 在 Facebook 的精選貼文
CEO Larry Page, người yêu Google bằng tất cả trái tim và nhiệt huyết đã buộc phải từ bỏ vị trí lãnh đạo vì quyết định sai lầm của mình.
Cha đẻ Google từng "mất chức" vì quyết định sai lầm
Có lẽ một trong những tấm gương điển hình nhất về ý chí vươn lên sau thất bại của một lãnh đạo công ty là Larry Page - CEO và là nhà đồng sáng lập của Google. Chàng sinh viên tốt nghiệp trường Stanford đã nuôi ý định sáng tạo một "cỗ máy" tìm kiếm thông tin. Lúc bấy giờ, Altavista là công cụ tìm kiếm phổ biến nhất, sử dụng từ khóa để cho ra kết quả tìm kiếm có liên quan với thông tin người dùng cần. Page nhận thấy rằng sẽ tốt hơn nếu một công cụ tìm kiếm có thể xếp hạng các trang web dựa theo tính liên quan của các trang web đó so với nội dung mà người dùng đang cần bằng cách sử dụng các thuật toán từ khóa phức tạp hơn.
Larry Page cùng người cộng sự của mình Sergey Brin đã viết ra một phần mềm có thể phân tích, tổng hợp và sắp xếp nội dung trang web. Cả Page và Brin đều làm việc miệt mài thậm chí "quên" ngủ, tắm giặt và giao tiếp với bên ngoài.
Ngay sau khi hoàn thành, phiên bản đầu tiên của cỗ máy tìm kiếm đã thực sự thành công. Nó hoạt động tốt hơn so với những gì mà Page và Brin kỳ vọng trước đó. Ngay lập tức họ đã nhìn ra giá trị thương mại của cỗ máy tìm kiếm này. Tuy nhiên, cả hai đều muốn tập trung hoàn thành chương trình học tiến sĩ nên họ quyết định bán phần mềm này.
Page và Brin cố gắng bán phần mềm cho nhiều công ty về trang web năm 1997 nhưng không ai hứng thú về sản phẩm tìm kiếm này. May mắn là đến năm 1998 khi Larry Page và Sergey Brin nhận được 100.000 USD từ 1 nhà đầu tư để thành lập Google Inc trong một garage ở vùng ngoại ô Menlo Park, bang California và Larry Page được bổ nhiệm vị trí CEO. Họ ở trong “trụ sở” chật chội này trong vòng 6 tháng.
Ban đầu Google có tên là BackRub. Sau đó 2 nhà sáng lập Larry Page và Sergey Brin đăng ký tên miền Google.com vào tháng 9 năm 1997. Tên gọi này có nguồn gốc từ "googol" - con số toán học biểu thị cho số 1 và 100 số 0 đằng sau. Tên gọi này nhấn mạnh mục đích tạo ra vô hạn tài nguyên web.
Đến 1999, Google phát triển nhanh chóng với xuất phát điểm chỉ có 2 nhân viên thành một công ty với hàng trăm nhân viên và thu hút được số vốn đầu tư mạo hiểm đầu tiên lên tới 25 triệu USD từ nhiều công ty thung lũng Silicon trong đó có Kleiner Perkins. Khi đó, Google được định giá 100 triệu USD.
Tuy nhiên, số vốn đó đi kèm với một thỏa thuận Page phải từ chức CEO. Ban đầu Page từ chối nhưng anh hiểu rằng Google đang cần vốn và ông đã đồng ý. Tuy chỉ vài tháng sau khi Google nhận được vốn, Page lên tiếng thay đổi quyết định và vẫn muốn giữ chức vụ CEO.
Ngay cả khi Google tăng trưởng theo cấp số nhân, Page vẫn nhấn mạnh rằng mình đóng vai trò trong sự thành công của mọi dự án. Trên thực tế, một trong những nguyên tắc quản lý mà Page đặt ra là "Không ủy thác quyền cho bất kỳ ai, làm mọi điều mà bạn có thể để hoàn thành công việc nhanh hơn".
Tháng 7/2001, Page bất ngờ đưa ra quyết định sa thải toàn bộ quản lý dự án bởi ông cho rằng họ không làm tốt phần việc của mình. Hơn thế nữa, ông không tin tưởng khả năng lãnh đạo của những người không có chuyên môn máy tính có thể quản lý đội ngũ kỹ sư của công ty. Tuy nhiên, quyết định này của ông không được đón nhận. Thậm chí, trong cuộc họp, một kỹ sư đã gắt lên rằng cách lãnh đạo của ông không chuyên nghiệp và những gì ông đang làm thật "lố bịch".
Cuối cùng, thực tế đã chứng minh quyết định của Page là sai lầm. Đội ngũ kỹ sư của công ty cần những người quản lý để "chèo lái" họ mỗi khi rắc rối xảy ra đồng thời đảm bảo rằng công việc được thực hiện đúng hạn. Page đã đưa ra một quyết định liều lĩnh, dại dột mà có lẽ sẽ không một nhà lãnh đạo có kinh nghiệm dày dặn nào chấp nhận.
Một tháng sau, Larry Page miễn cưỡng trao vị trí CEO cho Eric Schmidt, một nhà quản lí kì cựu, người bắt đầu làm việc tại thung lũng Silicon từ đầu những năm 80, khi ấy Page vẫn còn đang học ở trường phổ thông.
Eric Schmidt giữ cương vị CEO trong vòng 10 năm. Dưới thời của Schmidt, Google phát triển phồn thịnh với sự kiện IPO thành công năm 2004 và thương vụ thâu tóm Android năm 2005. Số lượng nhân viên của Google tăng lên tới 24.000 người và giá trị vốn hóa thị trường đạt 180 tỷ USD.
Còn về phần Page, nhiều thông tin cho biết sau khi rời khỏi vị trí CEO ông cảm thấy "không vui" và thường xuyên không xuất hiện công khai. Thực ra, phải đặt địa vị vào hoàn cảnh của Page mới hiểu cảm giác hy sinh của một người dành trọn tâm huyết, trái tim cho Google trong nhiều năm mà Linked In đã so sánh giống như "cắt đi một chân".
Thế nhưng niềm vui trở lại với Larry Page khi một lần nữa được đảm nhiệm vị trí CEO vào năm 2011. Sự trở lại của Page lần này hoàn toàn khác. Page trở thành một lãnh đạo sáng suốt hơn, ít tranh cãi, nóng nảy và điều quan trong hơn là ông đã học được cách bổ nhiệm người khác làm việc. Có lẽ điều quan trọng nhất là Larry Page đã thực sự trưởng thành. Thay vì chấp nhận thất bại khi buộc phải dời vị trí CEO, Larry Page quay trở lại với tâm thế mạnh mẽ hơn, trưởng thành hơn và trở thành tâm gương sáng biến thất bại thành thành công.
Nguồn: Cafebiz
google in 1998 在 吉米哥 Jimi Bro Youtube 的最讚貼文
===================================
支持優質影像創作者,小額贊助抖內吉米哥
https://pse.is/jimibro_donate
===================================
►吉米哥你說 Podcast 收聽平台►
▎Apple Podcasts:https://apple.co/2ArD9d4
▎Google Podcasts:https://bit.ly/2G40XpI
▎Spotify:https://spoti.fi/2Vz2s3Y
▎SoundOn:https://sndn.link/jimibro
▎KKBOX:https://bit.ly/3lldaGS
Hi 大家好
我是吉米哥
「唱作才女」戴佩妮
應該沒有人不認識吧?
但是除了她自己的歌之外
妳知道她曾幫哪些歌手寫過歌嗎?
好奇嗎?興奮嗎?期待嗎?
聽下去就對了!😆
#戴佩妮 #金曲歌后 #歡迎按讚訂閱多留言
-----------------------------------
如果您還喜歡我的作品
歡迎多多按讚留言分享
記得訂閱頻道並"打開小鈴鐺"喔!
加入吉米哥社群一起交流互動吧!
FACEBOOK:
https://www.facebook.com/jimibrovlog
INSTAGRAM:
https://www.instagram.com/jimi.runner
-----------------------------------
👉Music:
"Epidemic Sound" copyrighted music
👉Camera:
SONY a6400
PANASONIC GF7
👉Lenses:
SONY SEL1018
SONY SEL50F18F
👉Pod:
JOBY Gorillapod SLR-Zoom & Ballhead
Feiyu - G6 Plus
👉Mic:
audio-technica AT2020USB+
RODE VideoMic Pro+
RODE Wireless GO
👉Contact me:
jimibrovlog@gmail.com
👉Music Credits:
江美琪〈如影隨形〉《悄悄話》/ 2000年
陳勢安〈非你不可〉《非你不可》/ 2013年
傅又宣〈再一步〉《愛.這件事情》/ 2014年
劉思涵〈擁抱你〉《擁抱你》/ 2013年
Fuying & Sam〈OVER〉《靠近 Close to ___》/ 2015年
郭修彧〈擋箭牌〉《盲點》/ 2019年
孔令奇〈Impossible 火不了 (feat. 戴佩妮)〉《Impossible 火不了》/ 2015年
大支〈情敵 (feat.戴佩妮)〉《不聽》/ 2014年
許茹芸〈透氣〉《你是最ㄞˋ》/ 1998年
許光漢〈別再想見我〉《別再想見我》/ 2020年
google in 1998 在 Herman Yeung Youtube 的精選貼文
HKDSE Chemistry 全彩筆記免費下載:
Google Play 圖書下載連結: https://play.google.com/store/books/details?id=LwyMDwAAQBAJ
PDF下載連結: https://hermanutube.blogspot.hk/2016/01/youtube-pdf.html
------------------------------------------------------------------------------
HKDSE Chemistry Past Paper Solution:
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8rQQSBRoUxgoDGfRSyzCbfQ
HKCEE Chemistry Past Paper Solution:
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8pUFc2ez3vIvXcfEvuHOKfq
HKALE Chemistry Past Paper Solution:
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8oi-728So4BWAkDmr9QDT2g
Past Paper (香港公共圖書館): https://mmis.hkpl.gov.hk/web/guest/hkcee-and-hkale-papers-collection
------------------------------------------------------------------------------
HKDSE Chemistry (Compulsory) 所有 videos 的 Playlist 可看:https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8pxOxvVaCYQcTgl4jOOgc5c
分類的 Playlist 可看:
Ch 0: Miscellaneous 雜項
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8o89q55V-nTAnclDqAvfhtR
Ch 1: Planet Earth 地球
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8ryAC5cWPHG8_AnpZ292xTn
Ch 2: Microscopic World I 微觀世界I
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8qob3q0MS-b3_jf36MQ3u2f
Ch 3: Metals 金屬
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8rcrSxADn1PyGg0NLqKxXSK
Ch 4: Acids and Bases 酸和鹽基
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8rgnySLfCt_vLxtmkzflXPT
Ch 5: Fossil Fuels & Carbon Compounds 化石燃料和碳化合物
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8rbW7fTMzSAMjqopEMpOw-h
Ch 6: Microscopic World II 微觀世界II
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8oKZUzgfYc9HoNAJZ4ReBNw
Ch 7: Redox, Chem Cells & Electrolysis 氧化還原、化學電池和電解
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8olE61HbZSMLvt30RFM0vz6
Ch 8: Chemical Reactions and Energy 化學反應和能量
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8qI2I1WQS7RWsvvr7vq6gmU
Ch 9: Rate of Reaction 反應速率
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8rQngMXaI4nSHXfEKrn1VzO
Ch 10: Chemical Equilibrium 化學平衡
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8o9KkZVUVX0kEqpFIzZ_ECO
Ch 11: Chemistry of Carbon Compounds 碳化合物的化學
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8qDOq-teXtrrMTREdgGyXsf
Ch 12: Patterns in the Chemical World 化學世界中的規律
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8qu4wrVWL6CLiHy_NAJ_0_m
------------------------------------------------------------------------------
HKDSE Chemistry (Elective) 分類的 Playlist 可看:
Ch 13: Industrial chemistry 工業化學
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8rSgvT-H1zl8Lg4t554_SgI
Ch 14: Material chemistry 物料化學
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8pQflamAC9u3M_Z0Dt44N3p
Ch 15: Analytical chemistry 分析化學
https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8r0Gp8cTHr1b8Ma5idOYn88
------------------------------------------------------------------------------
Note Only Playlist 只有全彩筆記影片的播放清單:https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8ppqQ_ALTmCQoZ7VtEAZVbC
(快速背誦) 重溫 DSE Chem (Compulsory Part):https://www.youtube.com/playlist?list=PLzDe9mOi1K8oM6L17yUBApSnj7ZheHFI1
------------------------------------------------------------------------------
Please subscribe 請訂閱 :
https://www.youtube.com/hermanyeung?sub_confirmation=1
------------------------------------------------------------------------------
HKDSE Mathematics 數學天書 訂購表格及方法︰
http://goo.gl/forms/NgqVAfMVB9
------------------------------------------------------------------------------
Blogger︰ https://hermanutube.blogspot.hk/2016/02/herman-yeung-main-menu.html
Facebook︰ https://www.facebook.com/hy.page
YouTube︰ https://www.youtube.com/HermanYeung
Instagram︰ https://www.instagram.com/hermanyeung_hy
------------------------------------------------------------------------------
google in 1998 在 Nonny.com Youtube 的最讚貼文
รีวิวแอปที่ใช้ในไอโฟน11 โปรของนนนี่ค่ะ มีความลับท้ายคลิปจะโดนดุมั๊ยเนี่ย เป็นแอปที่เด็กมัธยมต้องมีเลย ตอนนี้
รายชื่อแอปแยกตามหมวดในเครื่อง นนนี่นะคะ
Social : YouTube, Line, Google, Chorome, Facebook Messenger Pinterest, YT Studio, Twitter,IG
Movie : V Live, LINE TV, Netflix, Major Cineplex, TikTok, iMovie, JOOK
Money : 7-Eleven, NEXT, TrueMoney, Sheet, Grab, GET, KPlus
Camera : PicsArt, Phonto, inShot, LINE Camera Snapseed, Foodie, Meitu, VSCO, SNOW
Game : Love Balls, SpeedDrift, Joylada, Calc24, BlockPuzle
Education : Photomath, ไดรฟ์, แปลภาษา, Keynote, Nestle School
Film : HUJI, 1967, Kamon, KD Pro, HUJIFILM 1998 Cam, FIMO
ถ่ายด้วยกล้องวีดีโอ : Panasonic G85
ไมค์โครโฟนติดหัวกล้อง : Saramonic SR-M3
เลนส์ : Panasonic 25/1.7
โปรแกรมตัดต่อ : Filmora9
เอฟเฟค : Filmora Effect
สถานที่ : โต๊ะเครื่องเขียน
โทรศัพท์ : iphone11pro สีทอง 64GB
ติดต่อรีวิวสินค้าหรือลงโฆษณา
Email : nonny@chonwilai.com
Line : nometcom (ติดต่องานเท่านั้น!!)
-------------------------------
พูดคุยกันได้ที่แฟนเพจ ??
https://www.facebook.com/nonnycom/
? IG : nonny.com_youtuber
https://www.instagram.com/nonny.com_youtuber
-------------------------------
ใครดูคลิปแล้วชอบอย่าลืมกดติดตามช่องนี้และ กดติดตามให้ด้วยนะคะ
❤️??❤️??
google in 1998 在 Old Google website as in 1998 (Easter Egg) - Pinterest 的推薦與評價
May 28, 2015 - http://www.tothepc.com/archives/google-search-fun-tricks-easter-eggs/Checkout old and classic user interface design of Google.com website as ... ... <看更多>
google in 1998 在 Google 1998 - gists · GitHub 的推薦與評價
DOCTYPE html>. <html>. <head>. <link rel="icon" type="image/x-icon" href="favicon.ico" />. <title>Google in 1998</title>. ... <看更多>
google in 1998 在 Google小彩蛋p1-讓google回到過去(1998年) 的推薦與評價
... <看更多>