รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด ที่มากถึง 83%
นวัตกรรมดังกล่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft อย่าง “Bill Gates” กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่รวยที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินมากถึง 4.4 ล้านล้านบาท
โดยจุดเริ่มต้นของ Microsoft Windows เกิดจากการที่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลกขณะนั้นอย่าง IBM เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC และกำลังตามหาบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ ซึ่ง IBM ก็ได้เลือกทำสัญญากับบริษัท Microsoft ที่ในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้ 5 ปี
แต่รู้หรือไม่ว่านอกจาก Bill Gates แล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะอีกคน ที่เกือบได้เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้กับ IBM และอาจจะกลายมาเป็นแบบ Bill Gates ในทุกวันนี้
แล้วเขาคนนั้น คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อัจฉริยะที่เกือบได้เป็น Bill Gates คนนั้น มีชื่อว่า “Gary Kildall”
Kildall เกิดในปี 1942 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่เดิม Kildall ตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบมาจะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ แต่ระหว่างเรียนระดับปริญญาตรีเขาเริ่มสนใจเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Kildall จึงเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ในปี 1971 ช่วงที่ Kildall กำลังเรียนปริญญาเอก เขาได้ยินมาว่า Intel จะเปิดตัว ไมโครโพรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ชื่อว่า “Intel 4004”
ไมโครโพรเซสเซอร์ ก็คือชิปขนาดเล็กที่มีแผงวงจรรวมจำนวนมหาศาล
ซึ่งนวัตกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่เดิมมีขนาดใหญ่ นิยมใช้กันแต่ในองค์กร มีขนาดเล็กลง จนเป็นไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในเวลาต่อมา
ด้วยความที่ Kildall สนใจเรื่องราวของไมโครโพรเซสเซอร์เป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานพาร์ตไทม์เป็นที่ปรึกษาให้กับ Intel ซึ่งหลัก ๆ แล้ว Kildall จะพัฒนาและเขียนโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับไมโครโพรเซสเซอร์ของ Intel ได้
จากจุดเริ่มต้นนี้ Kildall ก็ได้ต่อยอดจนสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์
ที่ชื่อว่า “CP/M” ที่นับว่าเป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แรกของโลก
โดยก่อนหน้าที่จะมี CP/M คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องบนโลกจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาของใครของมัน แต่ Kildall ได้พัฒนา CP/M ให้เป็นระบบปฏิบัติการกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
แรงผลักดันในการพัฒนา CP/M และผลงานอื่น ๆ ของ Kildall เกิดขึ้นจากความหลงใหลในคอมพิวเตอร์
เพราะจริง ๆ แล้ว Kildall ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจเลย แต่ภรรยาของเขาก็ได้โน้มน้าวให้จัดตั้งบริษัทเพื่อจดสิทธิบัตรระบบปฏิบัติการและทำธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ทั้งคู่เลยร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Digital Research”
ลูกค้าที่เลือกใช้ CP/M ของ Digital Research ก็เช่น IMSAI 8080 ไมโครคอมพิวเตอร์ชื่อดัง ที่เปิดตัวในปี 1975 ซึ่งทำออกมาแข่งกับไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นตำนานอย่าง Altair 8800 ของบริษัท MITS
โดย Altair 8800 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านั้น 1 ปี ยังใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาใช้เฉพาะรุ่น ชื่อว่า BASIC ซึ่งซอฟต์แวร์นี้เองก็เป็นผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของบริษัทซอฟต์แวร์น้องใหม่ที่ก่อตั้งโดยชายวัย 20 ปี ที่ชื่อว่า “Bill Gates” ซึ่งเขาได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วชวนเพื่อนมาตั้งบริษัท “Microsoft”
มาถึงในปี 1976 บริษัท Apple ก็ได้ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลกที่ชื่อว่า Apple I ก่อนที่ในปีถัดมาจะประสบความสำเร็จจาก Apple II ซึ่งบริษัท Apple เรียกว่าเป็น Home Computer ที่คนทั่วไปใช้งานได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์
นั่นเลยทำให้ Apple II ได้รับความนิยมสูงมากและสามารถลบคำสบประมาทที่คนมักเถียงกันว่าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับคนที่คลั่งไคล้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น คนทั่วไปคงไม่สนใจซื้อมาใช้งาน
ความสำเร็จของ Apple ก็ทำให้บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกในขณะนั้นอย่าง IBM อยากเข้ามาร่วมในตลาดคอมพิวเตอร์สำหรับคนทั่วไปบ้าง
ในปี 1980 IBM จึงได้เริ่มออกแบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเรียกว่า Personal Computer หรือ PC แทน Home Computer แบบ Apple เพราะ IBM ไม่ได้มองว่าคอมพิวเตอร์จะต้องใช้แค่ที่บ้าน แต่จะถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านั้น อย่างเช่นการนำไปใช้งานตามออฟฟิศ
IBM ต้องการทำให้ PC เริ่มวางขายได้เร็วที่สุด IBM จึงโฟกัสที่การออกแบบฮาร์ดแวร์โดยใช้ชิปของ Intel ส่วนซอฟต์แวร์อย่างระบบปฏิบัติการ ทางบริษัทจะจ้างบริษัทขนาดเล็กพัฒนาแทน โดยหนึ่งในบริษัทที่ IBM ติดต่อไปก็คือ Microsoft ซึ่งในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 5 ปี
IBM เดินทางไปที่ออฟฟิศของ Microsoft ซึ่งเมื่อไปถึง IBM ได้ให้ Gates เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เพราะ IBM ต้องการเก็บเรื่องที่กำลังพัฒนา PC ไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น IBM ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ Gates ฟัง
แต่โชคร้ายที่ตอนนั้น Microsoft ยังไม่ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
Gates จึงได้แนะนำกับ IBM ว่าให้ไปหา Kildall แห่งบริษัท Digital Research ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว IBM ตัดสินใจเดินทางไปพบ Kildall ที่ซีแอตเทิลทันที
Gates โทรไปบอก Kildall ว่าจะมีคนสำคัญมากไปพบ ให้ปฏิบัติกับพวกเขาดี ๆ
แต่ Gates เล่ารายละเอียดให้ฟังไม่ได้เพราะติดสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลกับ IBM
Kildall ไม่รู้เลยว่ากลุ่มคนที่กำลังมาพบเขา จะมาจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลก
ซึ่งเขากลับคิดว่าคนที่ Gates เล่าถึงจะเป็นเพียงกลุ่มคนที่มาจากบริษัทขนาดเล็ก
เขาจึงไม่ได้สนใจมากนักและเขาก็ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปอีกเมือง ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเขาไปขับเครื่องบินเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือไปติดต่องานทางธุรกิจกันแน่
นั่นจึงทำให้เมื่อ IBM ไปถึงออฟฟิศบริษัท Digital Research ทีมงานจึงได้เจอแต่เพียงภรรยาของ Kildall ซึ่งก่อนที่ทีมงานจาก IBM จะแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการให้ฟัง
ทาง IBM ก็ได้ขอให้ภรรยาของ Kildall เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลก่อนเหมือนกับที่ให้ Gates เซ็น แต่ภรรยาของ Kildall ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา
ซึ่งสาเหตุที่เธอไม่ได้เซ็นก็เพราะว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนบังคับ
รวมถึงเธอก็อยากรอ Kildall กลับมาพูดคุยเองมากกว่า
ส่วนทาง IBM ก็เริ่มหัวเสียที่เธอไม่ยอมเซ็นสัญญา ทีมงานจาก IBM ก็รอต่อไปไม่ไหว
สุดท้ายแล้ว IBM จึงเดินทางกลับไปโดยยังไม่ทันได้เล่ารายละเอียดเรื่องระบบปฏิบัติการให้ฟัง..
หลังจากนั้น IBM เลยติดต่อไปหา Gates อีกครั้ง
Gates เห็นว่าโปรเจกต์ PC ของ IBM กำลังจะเปลี่ยนตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของเราให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
Gates เลยบอก IBM ไปว่า Microsoft สามารถทำระบบปฏิบัติการให้ได้
ทั้งที่ความจริงแล้ว ในตอนนั้น Microsoft ยังไม่มีอะไรเลย
ทางออกเดียวที่ Microsoft จะมีระบบปฏิบัติการไปเสนอให้ IBM ได้ทันเวลาก็คือ การควานหาผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการไว้แล้วและไปซื้อต่อมา
Microsoft ไปเจอว่ามีโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า Tim Paterson ซึ่งทำงานในบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อ Seattle Computer ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Q-DOS
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft จึงเดินทางไปพบ Paterson เพื่อเจรจาขอซื้อ Q-DOS และดึงตัว Paterson มาเพื่อดัดแปลง Q-DOS ให้เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อขายให้ IBM
โดยใช้ชื่อว่า “MS-DOS” โดยที่ Microsoft ไม่รู้ว่า Q-DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ Paterson เลียนแบบและดัดแปลงมาจาก CP/M ของ Kildall
IBM ตกลงซื้อ MS-DOS ของ Microsoft แต่แทนที่ Microsoft จะขายระบบปฏิบัติการแบบครั้งเดียวจบ Gates เสนอกับทาง IBM ว่าให้ Microsoft ได้รับส่วนแบ่งจากทุกเครื่อง PC ที่ทาง IBM ขายได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ Gates เคยใช้มาแล้วตอนเขียนซอฟต์แวร์ให้ไมโครคอมพิวเตอร์ Altair 8800
ความนิยมของ PC จาก IBM ก็เป็นไปตามที่ Gates คาด เพราะหลังจากที่ “IBM PC” เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1981 ผ่านไป 2 ปีแรก IBM PC สามารถขายได้กว่า 2 ล้านเครื่อง เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เกือบ 10 เท่า
และด้วยความที่ IBM PC มีราคา คิดเป็นเพียง 2 ใน 3 ของ Apple จึงทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำไปใช้กันทั่วไปในสำนักงาน จน IBM สามารถเอาชนะ Apple และกลายมาเป็นผู้ผลิต PC ที่ใหญ่สุดในโลกได้
แต่จุดอ่อนของ IBM PC ก็คือตัวเครื่องไม่มีอะไรซับซ้อนและเลียนแบบได้ง่าย
จึงทำให้ในเวลาต่อมา แบรนด์อื่นอย่างเช่น Compaq และ HP ซึ่งก็เป็นผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์เหมือนกันสามารถทำตามได้ ในขณะที่เจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ก็ไม่เคยตกลงว่าจะขายระบบปฏิบัติการให้ IBM เจ้าเดียว..
Microsoft เลยสามารถขาย MS-DOS ให้กับคู่แข่งของ IBM ได้ทั้งหมด
ซึ่ง Microsoft ก็ยังใช้วิธีเดิมคือคิดส่วนแบ่งจาก PC ทุกเครื่องที่ขายได้
แต่สุดท้ายแล้ว ของเลียนแบบก็คือของเลียนแบบ
เพราะในภายหลัง MS-DOS ที่ดัดแปลงมาจาก Q-DOS ถูกพบว่าเป็นของที่เลียนแบบมาจาก CP/M ของ Kildall
พอ Kildall รู้ เลยจะฟ้องร้อง IBM และ Microsoft ว่าลอกเลียนแบบผลงาน
IBM ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เลยยอมวางขายระบบปฏิบัติการทั้ง 2 ยี่ห้อไปพร้อมกัน Kildall ดีใจได้เพียงไม่นาน ก็ต้องพบว่าราคาขาย CP/M ของเขา แพงกว่า MS-DOS ถึง 6 เท่า
ของคล้ายกันที่ใช้ทดแทนกันได้ แต่มีราคาต่างกันถึง 6 เท่า แถมคนส่วนใหญ่ได้รู้จักและลองใช้ MS-DOS มาก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นที่ต้องลองอีกยี่ห้อหนึ่ง สุดท้ายแล้ว CP/M จึงหายไปจากตลาด
Microsoft จึงกลายเป็นผู้ชนะไป ซึ่งในเวลาต่อมา MS-DOS ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “Microsoft Windows” ที่ได้เปิดตัวในปี 1983 ก่อนที่จะเริ่มวางขายจริงในปี 1985
หลังจากพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ Kildall เขาได้หย่ากับภรรยา และใช้ชีวิตอยู่กับความสิ้นหวัง จนท้ายที่สุด เขาก็ได้จบลงที่กลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนบริษัท Digital Research ก็ถูกขายให้กับบริษัท Novell ในปี 1991
จนกระทั่งในปี 1994 Kildall ในวัย 52 ปี ก็เสียชีวิตลง จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในบาร์ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีก่อนที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 95 จะเปิดตัวและดังระเบิดไปทั่วโลก
ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากวันนั้น Kildall ใส่ใจในสิ่งที่ Bill Gates พูดสักนิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ จะมีเส้นทางที่ต่างจากเดิมมากแค่ไหน
Kildall อาจกลายเป็นมหาเศรษฐีคล้าย Bill Gates
Bill Gates อาจจะไม่ได้โปรเจกต์นั้น และ Windows คงไม่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เส้นทางที่เป็นไปแล้วก็คือ ทุกคนรู้จัก Windows และไม่รู้จัก CP/M..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2004-10-24/the-man-who-could-have-been-bill-gates
-https://www.forbes.com/forbes/1997/0707/6001336a.html?sh=65404ead140e
-https://www.theguardian.com/technology/blog/2004/oct/16/themanwhocou
-https://www.embedded.com/was-dos-copied-from-cp-m/
-https://medium.com/@Harasees_Singh/gary-kildall-the-inventor-of-operating-system-ccae7bb50e46
-https://bookjelly.com/the-tragic-story-of-gary-kildall/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gary_Kildall
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過7萬的網紅BOM BOM PENG 蹦蹦,也在其Youtube影片中提到,▪✉️合作邀約請𝐌𝐚𝐢𝐥 ▸▸ [email protected] 🌼𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤 ▸▸ https://goo.gl/KApXtI 正在認真努力發文中🧡記得來追蹤我喔 #寶雅開箱 #開架新品 #開架彩妝 /𝐏𝐫𝐨𝐝𝐮𝐜𝐭 ▪Za 超磁久無暇美肌粉底液 25ml / $380 ▪Sol...
home blog 在 槑槑散策記 Facebook 的最佳貼文
想要逃離雜亂繁瑣的忙碌,極簡風的ins韓系居家佈置總是最療癒的。
特別喜歡韓國風的我,在網路閒晃IG之中,發現韓國的母嬰用品,也是這樣顏值爆表,忍不住下單手滑。韓國品牌Blanc 101,是韓國相當有人氣的衣物清潔劑品牌,專門針對「珍貴的孩子」而設計的品牌。Blanc 101的商品,在HOME MAMA 親子用品專賣店就可以購買到了!
因為防疫需要,現在最缺的用品就是消毒相關用品了。家裡有寶寶,又不方便直接噴一般市面上的酒精,擔心寶寶舔到。所以當我發現Blanc 101出了這款多用途消毒噴霧,就馬上下單來使用。
分享 #Blanc101多用途消毒噴霧
開箱心得⤵︎ ⤵︎ ︎
🏷 ꔛ https://loveyuwa.pixnet.net/blog/post/231043759
*
/) /) ᜊﬞﬞ
*・×・)
*
home blog 在 Facebook 的精選貼文
Top 3 Tips to Keep Your Cat Healthy & Happy
.
Well, there is no doubt that having a cat or pet at home especially during this pandemic period can bring joy. At the same time, cat can also help to reduce the feeling of loneliness, anxiety, and depression.
.
Owning a cat is a privilege, but it’s comes with responsibilities too. Check out the Top 3 Tips to Keep Your Cat Healthy & Happy in my blog!
home blog 在 BOM BOM PENG 蹦蹦 Youtube 的最佳解答
▪✉️合作邀約請𝐌𝐚𝐢𝐥 ▸▸ bomsblog@gmail.com
🌼𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤 ▸▸ https://goo.gl/KApXtI
正在認真努力發文中🧡記得來追蹤我喔
#寶雅開箱 #開架新品 #開架彩妝
/𝐏𝐫𝐨𝐝𝐮𝐜𝐭
▪Za 超磁久無暇美肌粉底液 25ml / $380
▪Solone 專屬訂製濾鏡輕蜜粉 $260
▪點胭脂 繁花似錦壹壹零 經典5入組化妝刷具
▪heme 特調眼彩盤 02 $360
▪solone 專業訂製睫毛夾 EC30 $120
▪carome 自然纖長睫毛膏 $650
▪kiss me 超!持久極細抗暈眼線液筆 $439
▪Etude 修飾專家雙色修容餅 $590
▪HANDME 玩色腮紅 02 $99
▪solone 女神光打亮餅 020 $159
▪Celefit STAR FIT聯名唇釉 02
/𝐀𝐛𝐨𝐮𝐭 𝐌𝐞
在25歲決定與交往七年的男友結婚
變成了人妻,展開不一樣的生活
頻道也從單純的美妝分享增添了一點生活氛圍
打造簡單輕鬆帶點質感的生活
讓枯燥乏味的柴鹽油米醬醋茶增添一點儀式感
但不變是依然熱愛分享、熱愛美妝的我
在這邊讓我們一起變健康變漂亮吧 :)
/𝐂𝐨𝐧𝐭𝐚𝐜𝐭
合作邀約請mail➪ bomsblog@gmail.com
Facebook ➪ https://goo.gl/KApXtI
blog ➪ http://bom1114.pixnet.net/blog
/𝐂𝐨𝐮𝐩𝐨𝐧
*嘉丹妮爾vecsgardenia
https://vecsgardenia.com/index.php?route=common/home
結帳輸入折扣碼『𝐁𝐎𝐌』打85折
必買推薦:紅茶霜、水感防曬、面膜
*Ann’S女鞋
https://www.anns.tw/page/BOMBOM95
頁面都是自己穿過推薦的鞋款!安心入
結帳輸入優惠序號: 『 𝐁𝐎𝐌𝐁𝐎𝐌95 』
95折優惠序號可與官網活動合併使用
*Shopback返利網
網購必備!有很多電商平台與Shopback合作
只要下單前透過返利網就會有回饋金
用👇連結註冊會員可以獲得100元現金
https://app.shopback.com/hdXOdYUjJhb
*lookfantasic
https://www.lookfantastic.com.tw/
結帳輸入折扣碼『𝐋𝐅𝐁𝐎𝐌 』全年度7折
/ 𝐅𝐐𝐀
我的相機My camera:Cannon M50
我的膚質My skin type:Combination Skin混合肌
我的隱眼Monthly Disposable Contact Lens:透明隱眼
/ 𝐅𝐓𝐂
此影片不是合作影片
心得都是誠實分享,絕對對得起良心
但是我的蜜糖說不定是你的毒藥
所以麻煩各位水水親自試試再決定要不要購買
錢包只有自己能守住啊啊啊千萬理性購物
/𝐌𝐮𝐬𝐢𝐜
Music by Gil Wanders - Poco Pico - https://thmatc.co/?l=A83B81EE
home blog 在 北斗晶のYouTube Youtube 的最讚貼文
「なんちゃって焼きマリトッツォ」のレシピ
===================
【材料】(4個分)
バターロール:4個
A
・はんぺん:1枚(110g)
・牛乳:大さじ4
・粉チーズ:大さじ4
茹でえび:2尾
ブロッコリー(茹で、小房):4個
スライスチーズ:4枚
【工程】
①バターロールに切り込みを入れ、茹でえびは2枚に削ぎ、チーズは1枚ずつ半分に折ってくるくる丸める。
②ビニール袋にAを入れてすりつぶすようにしてなめらかになるまで混ぜる。
③バターロールにチーズを挟み、②を絞りだし、表面を整え、えび、ブロッコリーを飾り、170~180℃のオーブントースターで3~5分軽く焼き色がつくまで焼く。
🍀🌺🐶🌻🐱🌸🌷🍀🌺🐶🌻🐱🌸🌷
🍀チャンネル登録はこちらから
https://www.youtube.com/channel/UCwHOp7PQNZBAQ9XXlpNjvZQ?sub_confirmation=1
🌺北斗晶オフィシャルブログ
https://ameblo.jp/hokuto-akira/
💐北斗晶TikTok
https://vt.tiktok.com/kkKAM5/
🌻佐々木健介オフィシャルブログ
https://ameblo.jp/sasaki-kensuke-blog/
🌸健介オフィス公式HP
http://kensuke-office.co.jp/
🌷運営
株式会社FIREBUG
https://firebug.jp/
#北斗晶
#マリトッツォ
#パン
#簡単
#料理
#レシピ
#作り方
#メニュー
#美味しい
#節約
home blog 在 ochikeron Youtube 的最佳貼文
Karaage (also called Tatsutaage) is Japanese fried chicken. It is usually cooked for lunch, dinner, or bento. Also, it is the best party recipe favored by most people!
FYI: Dried soy meat I used.
https://amzn.to/3zBFQ4m
---------------------------------
Vegan Karaage (Soy Meat Fried Chicken) Recipe
Difficulty: Very Easy
Time: 40min (incl. marinating time)
Number of servings: 4
Ingredients:
100g (3.5oz.) dried soy meat blocks https://amzn.to/3zBFQ4m
* 2 tbsp. soy sauce
* 2 tbsp. sake
* 1 tbsp. grated ginger
* 1 clove grated garlic
* 1 tsp. sesame oil
2 tbsp. Katakuriko (potato starch)
deep frying oil
lemon wedges if preferred
Directions:
1. In a boiling water, cook dried soy meat blocks for 4 minutes. Or as directed on its package. Wash well (change water for a few times) to remove the bad smell, then drain well.
2. Mix the seasonings in a bowl and marinate the soy meat for about 30 minutes. Overnight is okay, longer makes them tasty.
3. Drain lightly (do not squeeze out the marinade liquid), coat with Katakuriko in a plastic bag.
4. Deep fry in oil at 180C (350F) until crisp golden brown.
5. Serve with lemon wedges if you like.
レシピ(日本語)
http://cooklabo.blogspot.com/
---------------------------------
Music by
YouTube Audio Library
Follow me on social media. If you have recreated any of my food, you can share some pictures #ochikeron. I am always happy to see them.
♥FOLLOW ME HERE♥
http://instagram.com/ochikeron/
https://www.facebook.com/ochikeron
https://plus.google.com/+ochikeron
http://twitter.com/ochikeron
♥My COOKBOOK available on Amazon Kindle♥
http://amzn.to/2EwR3ah
NO MORE hard copies... those who got one are lucky!
♥More Written Recipes are on my BLOG♥
http://createeathappy.blogspot.com/
♥My Recipe Posts in Japanese♥
http://cooklabo.blogspot.jp/
http://cookpad.com/ami
http://twitter.com/alohaforever
♥and of course PLEASE SUBSCRIBE♥
http://www.youtube.com/user/ochikeron?sub_confirmation=1