Oh~
สรุปการดีเบต แจ็ก หม่า vs อีลอน มัสก์ ในงานประชุม World AI / โดย ลงทุนแมน
ลงทุนแมนรับรองว่าเป็นเรื่องน่าสนใจที่สุดในช่วงนี้
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
มีการคุยกันระหว่างแจ็ก หม่า กับ อีลอน มัสก์
โดยหัวข้อเรื่องคือความคิดเห็นต่อ AI ในด้านต่างๆ
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
เริ่มจาก อีลอน มัสก์ กล่าวว่า ตอนนี้ทุกคนกำลังประเมิน AI ต่ำไป
ให้นึกถึงว่าตอนนี้ลิงชิมแปนซีเข้าใจมนุษย์ไหม (ทำไมมนุษย์ต้องมีรถยนต์ ทำไมมนุษย์ต้องสร้างตึก)
เรากำลังเป็นอย่างนั้น ในอนาคตเราอาจไม่เข้าใจเหตุผลที่ AI ทำในเรื่องต่างๆ
แล้วเราจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้
คำตอบคือ ถ้าเราไม่สามารถชนะมันได้ ก็ร่วมมือกับมัน ซึ่ง Neuralink (โครงการของ อีลอน มัสก์) ตอบโจทย์นี้ได้
สิ่งที่ Neuralink ทำก็คือ การสร้างช่องทางการสื่อสารขนาดใหญ่ (High Bandwidth) เชื่อมต่อเข้าสมอง
สิ่งนี้เหมือนกับเป็นไซบอร์ก แต่จริงๆ ตอนนี้เราก็เป็นไซบอร์กไปแล้ว
ทุกวันนี้เราใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เป็นเครื่องมือขยายความสามารถ จากร่างกายของเรา
ถ้าเราขาดโทรศัพท์ ความสามารถของเราจะลดลง
แต่ bandwidth ที่เราใช้กันอยู่นั้นต่ำมาก
โดยเฉพาะ การส่งข้อมูลเข้าเครื่อง (input)
จริงๆ แล้ว input ต่ำลงจากคอมพิวเตอร์สมัยก่อนด้วยซ้ำ
เพราะเราต้องพิมพ์ด้วยนิ้วโป้งสองนิ้ว แทนที่จะเป็นสิบนิ้ว
เมื่ออีลอน มัสก์ พูดจบ
แจ็ก หม่า ก็กล่าวว่า เขาไม่ได้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
สิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับชีวิต (Life)
AI กำลังเปิดศักราชใหม่ของสังคม ให้เราเข้าใจตัวเราเองดีขึ้น
และเขาคิดว่า AI เป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้เป็นสิ่งที่มาคุกคาม หรือเป็นสิ่งที่เลวร้าย
อีลอน มัสก์ แย้งว่า AI น่ากลัวกว่าที่ทุกคนคิด
ยกตัวอย่างเช่น วิดีโอเกม เมื่อก่อน มีแค่บล็อกๆ ไว้เล่น ตอนนี้วิดีโอเกมทำภาพให้สมจริงได้
โลกนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 4,000 ล้านปี
อารยธรรมมนุษย์เพิ่งเกิดขึ้น 70,000 ปี
มีเหตุการณ์ผันผวนมากมายในช่วง 70,000 ปีนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ที่มีเทคโนโลยีมากมายเป็นแค่จุดเล็กๆ ของทั้งหมด
มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ให้เรากลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
แจ็ก หม่า เปลี่ยนเรื่องบอกว่า เรามาคุยเรื่องสนุกกันดีกว่า
คุณต้องการไปดาวอังคาร
อะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตบนดาวอังคาร
แต่ผมสนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนโลกมากกว่า
อีลอน มัสก์ ตอบว่า
ผมคิดว่าดาวอังคาร สามารถทำให้ความนึกคิด (consciousness) ของเรายังคงอยู่ต่อไปในอนาคตได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ยืดเวลาให้เราสามารถเข้าใจจักรวาลนี้ได้ดีขึ้น
การมีชีวิตอยู่บนดาวหลายดวง (Multi planet species) จะทำให้อารยธรรมของเราไม่ถูกทำลาย
และนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 4,000 ล้านปี ที่มีหน้าต่างเปิดให้เราพอที่จะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้
คำถามคือหน้าต่างบานนี้จะเปิดไปอีกนานแค่ไหน ก่อนที่มันจะปิดอีกครั้ง ถ้าเราไม่รีบทำอะไรตั้งแต่วันนี้
แจ็ก หม่า แย้งว่า
เราไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องพวกนั้น
การทำให้โลกของเราที่มีคนอยู่ 7,000 ล้านคน ดีขึ้น ยั่งยืนขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า
ไม่เกี่ยวอะไรกับว่า อารยธรรมเราจะผ่านมานานแค่ไหน
แต่พวกเรามีชีวิตได้อย่างมากก็ 100 ปี
เราไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาทั้งหมดในอนาคตด้วยตัวเราเองคนเดียว
สิ่งที่เราควรทำคือ การรับผิดชอบต่อโลกในตอนนี้
ถ้าเรารู้ตัวเราเองดีขึ้น เราสามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้
มันดีที่มีฮีโร่แบบคุณ อีลอน มัสก์ ที่จะพามนุษย์ไปนอกโลก
แต่เราต้องการฮีโร่แบบพวกเรามากกว่า
ฮีโร่ที่ทำงานหนักบนโลก และพัฒนาเรื่องต่างๆ ทุกวันให้โลกนี้ดีขึ้น
อีลอน มัสก์ แย้งว่า
การไปนอกโลก ใช้ทรัพยากรน้อยมาก น้อยกว่า 1% ของการใช้ทั้งหมดในเรื่องต่างๆ บนโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเครื่องสำอาง การผลิตของอื่นๆ ที่จำเป็นน้อยกว่า
สำหรับหัวข้อต่อไปที่คุยก็คือ AI จะเข้ามาแย่งงานหรือไม่?
แจ็ก หม่าตอบ
ทุกครั้งที่มีปฏิวัติทางเทคโนโลยี ทุกคนจะกังวล
เมื่อ 200 ปีก่อนที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทุกคนกังวล แต่สุดท้ายมีงานเกิดใหม่มากมาย
และจริงๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องมีงานเยอะ เราอาจจะทำงาน 3 วันหยุด 4 วันก็ได้
มนุษย์ในอนาคตจะมีเวลาสนุกกับการใช้ชีวิตความเป็นมนุษย์มากขึ้น
ปู่ของผมมีโอกาสได้ไป 3 เมืองในโลกนี้
พ่อของผมมีโอกาสได้ไป 30 เมือง
ส่วนตัวผมได้ไปมาแล้ว 300 เมือง
สิ่งที่สำคัญคือเราต้องเตรียมพร้อมกับยุคที่เราใช้ชีวิตได้นานขึ้น ซึ่งอาจจะนานถึง 120 ปี เราจะใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าเราอยู่ได้นานขนาดนั้น
สำหรับหัวข้อนี้ อีลอน มัสก์ ตอบสั้นๆ ว่า ในอนาคต AI อาจจะมาแทนที่มนุษย์ทั้งหมด มนุษย์เป็นเพียงแค่คนเขียนโปรแกรมให้ AI
หัวข้อต่อไปคือ การศึกษาในยุคนี้ควรสอนเด็กอย่างไร?
แจ็ก หม่า ตอบว่าหลักสูตรการศึกษาในปัจจุบัน เหมาะสมสำหรับเด็กในยุคอุตสาหกรรม
สอนให้ท่องจำ
แต่ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องจำ เพราะหุ่นยนต์จำได้ดีกว่า
สิ่งที่เราควรสอนคือ จะทำอย่างไรให้เด็ก สนุกกับชีวิตของเขา
อีลอน มัสก์ ตอบเรื่องการศึกษาว่า ควรให้เด็กเรียนรู้ให้มากที่สุด มากพอที่จะสามารถคาดการณ์อนาคตได้ โดยผิดพลาดน้อยที่สุด นอกจากคาดการณ์แล้วก็ต้องสร้างอนาคตด้วย
ต่อไป Neuralink จะทำให้มนุษย์สามารถอัปโหลดทักษะเข้าไปในสมองโดยตรง
การศึกษาในปัจจุบันยังถือว่ามีประสิทธิภาพต่ำมาก (Low Bandwidth)
แจ็ก หม่า ตอบว่าเขาไม่กลัวความผิดพลาด เกิดความผิดพลาดแล้วต้องแก้ไขเป็นเรื่องปกติ
มนุษย์ลองผิดลองถูกเสมอมา
และเขาคิดว่า หายนะทางด้าน AI ในอนาคตก็ไม่ได้เกิดจาก AI แต่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์เอง
ซึ่งเขาก็เชื่อว่ามนุษย์จะมีกระบวนการที่สามารถแก้ไขสถานการณ์นั้นได้เอง
สิ่งสำคัญคือ เราจะสอนเด็กอย่างไรให้สมองสามารถสร้างสรรค์ได้มากกว่าเดิม
มนุษย์ไม่สามารถสร้างสัตว์หรือสิ่งอื่นที่ฉลาดว่ามนุษย์ได้
อีลอน มัสก์ แย้งเรื่องนี้ว่า เราสามารถสร้างสิ่งที่ฉลาดกว่าเราได้
ยกตัวอย่างมนุษย์ในยุคเริ่มต้นเราแค่กินอยู่ในป่า
แต่ตอนนี้เรามีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย
เราฉลาดกว่าเมื่อก่อนมาก
และตอนนี้เราก็ไม่ได้ฉลาดที่สุด
อนาคตมนุษย์จะฉลาดกว่านี้อีก
แจ็ก หม่า ท้าให้ อีลอน มัสก์ ยกตัวอย่างสัตว์ที่ฉลาดกว่ามนุษย์บนโลกนี้ที่มนุษย์เคยสร้างมา
อีลอน มัสก์ ตอบว่า ตอนนี้หุ่นยนต์ได้ฉลาดกว่ามนุษย์ในบางเรื่องไปแล้ว
ทั้งหมากรุก ทั้งการแข่งโกะ มนุษย์แพ้การแข่งโกะให้ Alpha Go และ Alpha Go ก็แพ้ให้ Alpha Zero ในที่สุดแล้วหุ่นยนต์จะนำเราไปไกลมาก
แจ็ก หม่า แย้งว่า คำว่า หุ่นยนต์สามารถฉลาดกว่าได้ (Clever)
แต่มนุษย์จะยัง Smart กว่า เพราะมนุษย์มีประสบการณ์
เราสร้างคอมพิวเตอร์ได้ แต่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถสร้างคนได้
เรื่องการแข่งโกะ
โกะสร้างเพื่อที่ มนุษย์จะเล่นกับมนุษย์
มนุษย์โง่เองที่จะแข่งกับคอมพิวเตอร์ในเรื่องโกะ
ไม่ต่างอะไรที่มนุษย์จะไปวิ่งแข่งกับรถยนต์
มีบางเรื่องที่มันออกแบบมาให้หุ่นยนต์ทำได้ดีกว่ามนุษย์
มนุษย์ไม่จำเป็นต้องแข่งกับหุ่นยนต์ในเรื่องเฉพาะเหล่านั้น
มนุษย์มีหน้าที่สร้างเครื่องมือต่างๆ ที่จะทำให้ฉลาดขึ้น
แต่ AI ไม่สามารถสร้างเครื่องมือเหล่านั้นได้ด้วยตนเอง
อีลอน มัสก์ กล่าวตอบว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับ ระดับความเป็นอิสระ (Degree of freedom)
เริ่มจาก หมากรุก ต่อไปเป็น โกะ ที่ซับซ้อนขึ้น และอนาคตหุ่นยนต์จะทำอะไรที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
และอีลอน มัสก์ ยังกังวลว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ ก็คือ “อัตราการเกิด”
อีก 20 ปี ประชากรเราจะหายไปอย่างที่ทุกคนคิดไม่ถึง
แจ็ก หม่า เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และเสริมว่า ในอีก 20 ปี ประชากรจะเจอปัญหานี้
และอัตราการเกิดจะลดลงเป็นอัตราเร่ง (Accelerate)
สิ่งสำคัญคือ ประชากรจีนที่เกิดมา 18 ล้านคนในแต่ละปี เราต้องใช้เวลากับเด็กพวกนี้ให้ดีที่สุด
ถ้าเป็นเรื่องการทำตามขั้นตอน แบบซ้ำๆ ที่เป็นตรรกะ AI จะทำได้ดีกว่า
แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ตรรกะ เช่นความรัก คนจะทำได้ดีกว่า เพราะมันไม่มีเหตุผล
ในอนาคต มนุษย์จะไม่จำเป็นต้องมี IQ หรือ EQ แต่เป็น LQ หรือ Q of Love
หัวข้อคำถามสุดท้ายก็คือ มนุษย์จะมีชีวิตยืนยาวในโลก แบบยั่งยืนได้อย่างไร
อีลอน มัสก์ กล่าวว่าถ้า Neuralink สำเร็จ ก็จะทำให้เราสามารถบันทึกสถานะของสมองได้ (save state) เหมือนเซฟวิดีโอเกม
หรือสิ่งที่จะยืดอายุได้ก็คือการเปลี่ยนแปลง DNA เหมือน หยุดนาฬิกาของ DNA แต่คำถามก็คือมนุษย์จะยินยอมไหมในการทำเรื่องนี้
สำหรับแจ็ก หม่า ตอบเรื่องความยั่งยืนว่า
ในอนาคต AI จะทำให้เราเข้าใจตัวเราเองดีขึ้น
คนฉลาด รู้ว่าเราต้องการอะไร
คนฉลาดกว่า จะรู้ว่าเขาไม่ต้องการอะไร
และจะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นในที่สุด
แจ็ก หม่า กล่าวปิดท้ายว่า
เขาอยากให้โฟกัสที่โลก
การที่เราจะเอาขยะออกจากมหาสมุทร ยังยากกว่าการไปดาวอังคาร
ไม่ใช่แค่อายุยืน แต่ใช้ชีวิตอยู่อย่างไรให้มีสุขภาพดี
ไม่ใช่แค่ใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี แต่ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
สุดท้าย มนุษย์ต้องโฟกัสที่คุณค่า มนุษย์ต้องมีความฝัน
ไม่ใช่เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก แต่เป็นความฝันที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก
เราต้องเชื่อในตัวเราเอง เราต้องเชื่อในความเป็นมนุษย์ เราต้องเชื่อในมนุษย์รุ่นต่อไป
เราควรรับผิดชอบสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มากกว่าการอยากแก้ปัญหาทั้งหมดของโลกในวันพรุ่งนี้
มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะผิดพลาด
มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะเรียนรู้จากความผิดพลาด
และ มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะตาย
ปิดท้ายด้วยคำพูดของ อีลอน มัสก์ ที่กล่าวปิด หลังแจ็ก หม่า พูดจบ
“Fight for the life of consciousness”
จงต่อสู้เพื่อให้ความนึกคิด มีชีวิตอยู่ในจักรวาลนี้ต่อไป..
╔═════════════════╗
Blockdit แอปที่เป็นเหมือน คลังความรู้ขนาดใหญ่
อ่านฟรี โหลดเลย Blockdit.com/download
╚═════════════════╝
Summary of Debet Jack Ma vs Elon Musk in World AI / By Investing Man
Investing man is the most interesting thing these days.
A few hours ago.
There was a conversation between Jack Ma and Elon Musk.
The topic is opinion of AI in various aspects.
How interesting is this story?
Investing man will summarize it.
Starting with Elon Musk said now everyone is underestimating AI
I think that Chimpanzee monkey understands humans. (Why do humans have cars, why do humans have buildings?)
We are being like that in the future. We may not understand the reason AI does things.
So what do we do with this situation
The answer is, if we can't win it, cooperate with it. Neuralink (ELON Musk's project) meets this problem.
What Neuralink does is create a large communication channel (High Bandwidth) connecting to the brain.
This is like a cyborg, but we're actually a cyborg now.
Nowadays, we use computer, phone as a tool to expand our body's ability.
If we lack a phone, our ability will decrease.
But the bandwidth we are using is low.
Specifically, sending information to the engine (input)
Input was actually low from computer in the past.
Because we have to type with two thumbs instead of ten fingers.
When Elon Musk finishes talking
Jack Ma also said he's not tech-savvy.
What he thinks about life (Life)
AI is opening a new era of society for us to understand ourselves better.
And he thinks AI is good. Not a threat or a bad thing.
Elon Musk argues that AI is scarier than anyone thinks.
For example, video games were just blogged to play. Now video games can make realistic images.
This world has happened for 4,000 million years.
Human civilization just happened 70,000 years
Lots of volatile events during these 70,000 years.
What's happening now with so much technology is just a small point of all.
What can happen? Let us start again.
Jack Ma changed the story. Let's talk about fun.
You want to go to Mars
What will happen to life on Mars
But I'm more interested in what happens on earth.
Elon Musk replied
I think Mars can make our thoughts (consciousness) continue in the future, so that we can understand the universe better.
Living on many stars (Multi planet species) will unbroken our civilization.
And this is the first time in 4,000 million years that there is a window open for us to be able to do something like this.
The question is how long will this window open before it closes again if we don't do anything from today
Jack Ma argues that
We don't need to think about them.
Making our world 7,000 million people better, standing up would be a better one.
Nothing to do with how long our civilization has passed.
But we have lived so much 100 years
We don't have to solve all the future problems by ourselves alone.
All we should do is take responsibility for the world now.
If we know ourselves better, we can make this world better.
It's good to have a hero like Mr. Elon Musk to take humans outside the world.
But we need more heroes like us
A hero who works hard on earth and develops everyday things to make the world better.
Elon Musk argues that
Going out of the world uses less resources than 1 % of the total use of things on this planet, cosmetic production, production of other things that are less necessary.
For the next topic discussed, will AI come to steal the job?
Jack Ma answered.
Every time there is a technological revolution, everyone worries.
200 years ago there was an industrial revolution, everyone worried, but at the end there were many emerging events.
And we actually don't need a lot of work. We might work 3 days off 4 days.
Future humans will have time to enjoy living more humanity.
My grandfather had a chance to go to 3 cities in the world.
My dad had a chance to go to 30 cities.
Personally, I have visited 300 cities.
What matters is that we must be prepared for the age we live longer, which may be 120 years. How can we live if we live that long?
For this topic, Elon Musk briefly said that in the future, AI might replace all human beings. Human beings are just programmers for AI.
The next topic is how should education in this generation teach kids?
Jack Ma answered that current education course is suitable for children in industrial age.
Teaching you to memorize.
But now we don't have to remember because robots remember better.
What we should teach is how to make a child enjoy his life.
Elon Musk answers education that children should learn as much as possible to predict the future at least. In addition to prediction, we have to build a future.
Next Neuralink will allow humans to upload skills directly into the brain.
Current studies are still considered very low performance (Low Bandwidth)
Jack Ma said he wasn't afraid of mistakes, mistakes, mistakes, then fixing is normal.
Human beings have been wrong, always been right.
And he thinks the future AI disaster is not due to AI, but by human error.
He also believes that humans have a process that can fix that situation.
The important thing is how we teach kids to be more creative.
Humans can't create animals or other things that are smart as humans.
Elon Musk argues that we can create something smarter than us.
For example, humans in the beginning of the era. We just eat in the forest.
But now we have many amenities.
We are much smarter than before
And now we ain't the smartest
Human future will be smarter than this.
Jack Ma challenged Elon Musk for an example of an animal that is smarter than human beings on this planet ever created.
Elon Musk replied that robots are now smarter than humans in some things.
Both chess and human race lost. Alpha Go and Alpha Go and Alpha Go lose to Alpha Zero. Finally, robots will take us very far.
Jack Ma argues that the word robot can be smarter (Clever)
But humans are more smart because humans experience it.
We can build computers but computers can't build people.
About the racing.
Ko made for humans to play with humans.
Stupid human to compete with a computer in Ko.
It's no different that a human would run a car race.
There's something designed for robots to do better than humans.
Humans don't need to compete with robots in those specific things.
Human beings have a duty to create tools to make smarter.
But AI can't build those tools by itself.
Elon Musk says this is about level of freedom (Degree of freedom)
Starting from chess, next to a more complex and future robots will do more complicated things.
And Elon Musk is concerned that one thing that harms humanity is ′′ birth rate
In another 20 years, our population will be gone as everyone cannot think about it.
Jack Ma agrees with this and reinforces that in 20 years, the population will face this problem.
And the birth rate is reduced to accelerate (Accelerate)
The important thing is that the Chinese population born is 18 million each year. We need to spend the best time with these kids.
If it's a logical recurring process, AI will do better.
But if it's not logical, like love, people will do better because it doesn't make sense
In the future, humans will not need cảpĕn t̂xng or EQ but LQ or Q of Love.
The topic of the last question is how can humans live in a sustainable world?
Elon Musk said if Neuralink succeeded, it would allow us to record the state of brain (save state) like a video game save.
Or what it takes to age is DNA change like DNA stop a DNA clock. But the question is, will humans agree to this?
For Jack Ma to answer about sustainability
In the future, AI will make us understand ourselves better.
Wise people know what we want
A wise man knows what he doesn't want.
And will make this world a better place eventually
Jack Ma said the end
He wants to focus on the world.
It's harder to take garbage out of the ocean than going to Mars.
It's not just a longevity, but how to live healthy.
Not just living a healthy life but how to live a happy life
Finally, humans must focus on values. Human must have dreams.
It's not technology that will change the world, but it's the dream behind technology that will
We must believe in ourselves. We must believe in humanity. We must believe in the next generation of humans.
We should be responsible for what is present, rather than wanting to solve all the problems of the world tomorrow.
It's a good thing humans can go wrong.
It's good that humans learn from mistakes.
And it's a good thing that humans will die.
Ending with the words of Elon Musk that shuts down after Jack Ma's finish.
“Fight for the life of consciousness”
Fight to keep your thoughts alive in this universe..
╔═════════════════╗
Blockdit an app that is like a huge inventory of knowledge.
Read it for free. Load it Blockdit.com/download
╚═════════════════╝Translated
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過1,470的網紅5歲都要懂的國際觀,也在其Youtube影片中提到,直播內容提要: 這次COVID19疫情對全球教育帶來的衝擊跟影響?身為父母, 你該怎麼做? 1. 現在世界的教育學習狀況 2. Lara個人的經驗 * Discipline *Self-Motivation*Inspiration *Time Management * Diversity...
industrial education course 在 國立臺灣大學 National Taiwan University Facebook 的最佳貼文
《南華早報》專訪郭大維代理校長:臺大國際化及跨領域研究發展
Interview by South China Morning Post: Interim President Kuo on Internationalization and Multidisciplinary Education at NTU
適逢九十年校慶,本校郭大維代理校長接受香港英文媒體《南華早報》(South China Morning Post)專訪,暢談臺大九十載以來如何與臺灣歷史社會脈動息息相關。無論是在流行病學、氣象科學、癌症研究、農業食安等領域,臺大都做出重大貢獻。近年來更著重發展跨領域研究,結合眾力,屢創突破。
臺大本著校訓「敦品勵學,愛國愛人」,推動服務利他的精神,為臺灣和世界培育新一代領導者。本校學術環境自由,在研究和教學上致力追求卓越,也對學生關懷備至,培養其同理心,塑造社會領導者。2003年臺灣發生SARS疫情,臺大醫學院檢驗SARS冠狀病毒,並與校內化學、工程人員合作,適時控制疫情。2016年尼伯特颱風襲臺,由於臺大海洋研究所設置的觀測浮標,臺灣中央氣象局得以準確預測颱風動向。此外,臺大在癌症研究上亦有重大突破,開發電腦輔助診斷系統,以利肝癌早期診斷。
臺大歡迎全球的學生、教師、研究員及企業夥伴加入。目前本校開設800堂英語授課課程、60個雙聯學位學程,更與筑波大學及波爾多大學合作創立三聯碩士學位學程。
郭代理校長表示:「未來五年中,臺大的國際化發展,將有助於我們營造更可激發創意、創新、創業的學習環境。此外,藉由跨領域教育,我們的學生在未來將能獲得更多的發展機會。」
全文詳《南華早報》報導內容:https://www.scmp.com/…/taiwan-…/article/2173137/breakthrough
===
As 2018 marks the 90th anniversary of NTU, Interim President Tei-Wei Kuo was interviewed by the Hong Kong-based English-language newspaper, South China Morning Post. In the interview, Dr. Kuo talked about how NTU has contributed to scientific/industrial reforms and progress in Taiwan, and how NTU’s comprehensive course offerings and breakthrough research have reinforced its legacy as the nation’s oldest public university. Dr. Kuo also stressed the University’s emphasis on internationalization and multidisciplinary education to boost global partnerships and develop a conducive environment for creativity, innovation, and entrepreneurship.
“Breakthrough Research, Global Aspirations Reinforce NTU’s Legacy” on South Morning China Post (Nov 20, 2018)
📰 Read the full interview article: https://www.scmp.com/…/taiwan-…/article/2173137/breakthrough
industrial education course 在 AOPEN Taiwan Facebook 的最佳貼文
人工智慧=未來趨勢?! AOPEN在浪潮跟你一起IoT🤣🤣
#李開復先生怎麼說
#各位看官意下如何
#人工智慧這樣行👊👊
#偵測到你無所遁形
#人潮就是錢潮🤑🤑🤑🤑🤑
#AOPEN #建碁
【李開復Quartz專文:「人形機器人」將進入千家萬戶是無稽】人工智能時代的到來已經指日可待了。但是目前情感機器人、家庭機器人都離我們很遠。下面是外媒Quartz跟我的約稿:
▲ 機器人能幫著賺錢、省錢、提高生產力,也助人們回歸人性
人工智能時代的到來已經指日可待了。但是目前情感機器人的發展方向有點南轅北轍。
首先,讓我們明確一下人工智能的幾個要點:
人工智能擅長對目標明確的工作進行優化(但是不能創造,沒有感情)。
機械控制的發展速度較人工智能軟件的發展要緩慢得多。
傳感器雖然得到迅猛發展,但價格昂貴、體積偏大且太耗電。
鑒於以上原因,人形機器人將馬上進入千家萬戶的說法,簡直是無稽之談。當機器人在言談舉止各方面都與人類極其相似時,普通家庭用戶對機器人的「人類素質」的期望也會變得高不可攀。僅僅這種期望所帶來的失望就足以讓很多公司的「未來十年讓科幻小說成為現實」的展望受挫,更別提消費市場對價格的苛刻要求了。
機器人的開發要牢記實用性這一原則:機器人或能創造效益,或能節省成本,或能提高生產,或可以提供娛樂。依託現有技術製造的工業機器人將高效製造出其它機器人;商用機器人將會帶來更多經濟收益(例如替代保安、前台和司機等職位);家用機器人將能發揮家用電器和玩具的功能——它們簡單易用且不具備任何「人性素質」。
這樣的機器人未必具備人類外形。工業機器人就是在黑暗廠房(例如富士康最先進的廠房)或者配備了智能升降機倉庫里(例如我們投資的開源機器人Dorabot)從事勞務的機器;商用機器人的形式和用途就更多樣了:它們也許就是一排攝像頭(例如曠視科技的產品),或者是一家自動商店(例如F5未來商店)。自動駕駛車將有車的外形——除了那種低速貨運、功能固定的運輸工具,例如機場鋪設的自動車道,或者從停車場到商店、主題公園的運輸設備(例如UISEE馭勢科技);消費機器人也許會像一個揚聲器(例如亞馬遜的Echo)、一台電視機、一台吸塵器(例如Roomba)、一個教學玩具(例如奇幻工房的Dash Bot)或者一台用於家庭聯繫的平板電腦(例如小魚在家)。
人工智能也會與時俱進嗎?這一點毋庸置疑。聲音識別技術將更精准,電腦視覺技術也會提高,SLAM技術將讓機器人的動作更加流暢,機器人將會翻譯,還會針對限定領域進行對話。機器人也可能會瞭解我們的情緒並能模仿人類的情緒。這種情緒模仿將從搞笑的、娛樂性的發展為一定程度上能產生共鳴的模仿。誠然,這種模仿也都不是自發性的。在未來數十年,機器人還不能獨立進行常識性的推理、創造及規劃工作,它們也不會擁有自我意識、情感及人類的慾望。那種「全知全能人工智能」尚不存在,而且現在已知的開發技術也無法開發出此類機器人。這種技術在未來數十年都不會出現,也許永遠都不會出現。
人形機器人的研發對人工智能科學家充滿了誘惑力,而對人形機器人的預測也順理成章地激發著科幻小說家們的創作靈感。但是我們和人工智能有著本質區別:我們會創造,AI只會在創造的基礎上優化;我們多愁善感,AI冷酷無情;我們具備常識判斷能力,而AI只會從特定領域的大數據獲得信息。一言以蔽之,人類所長正是AI所短,而AI所長也是人類所短。
展望未來,人類最前沿的領域將是創造及社交領域。因此,我們應該推動機器人向它們所擅長的領域發展,例如進行重復性工作、優化工作或者創造財富的實用性工作。而我們人類也應該做一些我們擅長的工作:創新、創造、社交溝通或者娛樂。
我一直倡導要開發一些實用性機器人,鼓勵人們進入服務行業。但我不支持製造「類人」機器人。這種機器人開發難度大,而且永遠無法滿足人們的期望,因此,這種機器人的勝算不大。我分析的正確與否暫且不論,但是有一點我們需要有清晰的認識,那就是,未來十年,AI將大規模地取代那些依靠人力的、重復性的、分析性的崗位。因此,我們要肩負起創造更多社會服務性崗位的職責,而不是空想或謀劃一個充斥著「不適用於人類」職位的社會。
◀英文原文▶
Robots should make money, save money, increase productivity, or deliver entertainment—and let humans be human
Robots should make money, save money, increase productivity, or deliver entertainment—and let humans be human
The age of artificial intelligence (AI) and robotics is upon us, but the current fad of emotional humanoid robots is not headed in the right direction.
First, let’s understand what robotics are based on:
AI algorithms which are very good at optimization of explicitly defined goals (but cannot create, and have no feelings)
Mechanical control which advances much slower than AI software algorithms
Sensors which are rapidly improving but are often still too expensive, too large, or too power-hungry
Given the above, it is ludicrous to think that human-like robots will roam our homes any time soon. When a robot looks like a person, talks like a person, and has features like a person, home users will have unattainable human-capability expectations. The disappointment alone will doom any company hoping to bring science fiction to the living room in the next decade, not to mention the price-sensitivity for consumer markets.
Robotics must begin with utilitarianism in mind—robots should make money, save money, increase productivity, or deliver entertainment. There will be industrial robots that build other robots in high-volume, manufactured with today’s technologies. There will be commercial robots that deliver economic value (such as replacing security, receptionists, and drivers). There will be consumer robots that mimic today’s appliances and toys, requiring no consumer education, and causing no human-capability expectation.
These robots won't look like a person. The industrial robot is a giant factory run in the dark by machines (like at Foxconn’s most advanced factories), or a warehouse with smart forklifts (like our investment Dorabot). The commercial robot comes in various forms and applications. It might look like an array of cameras (like our investment Megvii) or an automated store (like our investment F5 Future Store). The autonomous vehicle will look like a car, except will be first deployed in low-speed, freight, or fixed-function transport—such as in airport autonomous car-only lanes, or in transport from parking garages to shopping malls/theme parks (like our investment UISee). And the consumer robot may look like a speaker (like the Amazon Echo), a TV, a vacuum cleaner (like Roomba), an educational toy (like our investment Wonder Workshop Dash Bot), or a pad-on-steroids for family communications (like our investment Ainemo).
Will AI capabilities increase over time? Of course. Speech recognition will get better, computer vision will improve, SLAM will be improved to help the robot move around fluidly, and the robot will be able to translate languages, or have a dialog within limited domains. The robot may be able to read some of our emotions, or mimic certain human emotions. But this mimicking will go from laughable and entertaining to occasionally acceptable—and generally not genuine. For decades to come, robots by themselves will be unable to learn common sense reasoning, creativity, or planning. They also won't possess the self-awareness, feelings, and desires that humans do. This type of “general AI” does not exists, and there are no known engineering algorithms for it. I don’t expect to see those algorithms for decades, if ever.
Trying to make robots human-like is a natural temptation for robotics and AI scientists, and predicting humanoid robots comes naturally to science fiction writers. But we humans simply think differently from AI. We create and AI optimizes. We love and AI is stoic. We have common sense and AI learns patterns from big data in a singular domain. Simply stated, we are good at what AI is not, and AI is good at what we are not.
In the future, the human edge will be in creativity and social interaction. Therefore, we need to focus robotics development toward what they’re good at: repetitive tasks, optimization, and utilitarian value creation. We should also let people do what they’re good at: innovation, creation, human-to-human interaction, and performing services.
I am an advocate of making utilitarian robots, and encouraging people to go into service jobs. I am not an advocate of making humanoid service robots—it is too hard today, and will not meet people’s expectations; therefore they will likely fail. Whether or not my analysis is correct, we need to be reminded that in the next decade AI will replace a massive number of manual-labor, repetitive, and analytical jobs. We have a human responsibility to help create societal service jobs—not dream or plan a society in which all jobs come with a sign “humans need not apply.”
industrial education course 在 5歲都要懂的國際觀 Youtube 的最佳解答
直播內容提要:
這次COVID19疫情對全球教育帶來的衝擊跟影響?身為父母, 你該怎麼做?
1. 現在世界的教育學習狀況
2. Lara個人的經驗
* Discipline
*Self-Motivation*Inspiration
*Time Management
* Diversity
3. Home Office = Home School
4. 教育的定義? ( by Sir Ken Robinson ) - 經濟發展 - 跟上世界 - 文化發展
"COMPENTENCY" 素養教育
5. 2006 可汗學院 2012 均一平台 ( 一土) 2012 MOOC (Massive Open Online Course ) 2020 ??
6. Online learning, not just a repeat of nowaday's school, which last from 19century, the first Industrial Revolution. 線上教育不應該只是把現在的體制學校搬到網路上, 那只是在延續從19世紀開始的工業革命.....
7. with help of technology, back to the natural of EDUCATION!