หลังจากที่ดูเรื่อง Tantei wa mou shindeiru แล้ว
ผมก็รู้สึกเสียดายงานนี้อย่างนึงครับว่า
.................
...............
.......
....
...
..
.
.................. ทำไม Shinbou Akiyuki ไม่กำกับงานนี้ฟะ
(คนกำกับ Bakemonogatari ชุดแรกๆ)
-------------------------------
โดยเรื่องมันมีอยู่ว่า
ผมจัดงานนี้เป็นงานกลุ่ม Conversation Driven Story
คือผลงานที่ประเด็นสำคัญเกือบทั้งหมดอยู่ที่การสนทนา
และการต่อกรทางวาทะกันของตัวละครต่างๆ
ซึ่งตัวอย่างผลงานอื่นๆที่เป็นแนวนี้
ก็จะมีของจำพวก Bakemonogatari
Saenai Kanojo
Ryouou no Oshigoto
หรือถ้าคุณจะเอาหนังคนแสดง
ก็จะมี Inglourious Basterds ของ Quentin Tarantino
และอื่นๆ
-------------------------------
ถ้าคุณเป็นคนที่เคยอ่านผลงานของ Nishio Ishin
(คนแต่ง Bakemonogatari )
คุณก็คงจะทราบกันครับว่า
ส่วนใหญ่มันเป็นผลงานที่พูดกันทั้งเรื่อง
จะเดินทางขี่จักรยานก็พูด
แค่นึกในหัวก็ยังมีการต่อกรกันด้วยคำพูด
ขนาดจะแอ็คชั่นฆ่ากันก็ยังพูดพล่ามกันได้
ซึ่งตัวต้นฉบับเดิมนั้นมันไม่ได้มีเนื้อหาทางการเคลื่อนไหวมากนัก
ผลงานต่อยอดที่เอางานต้นฉบับมาทำ
จึงมีความหลากหลายทางภาพมาก
ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนเอามันมาทำ
คนที่ทำงานต่อยอด
ต้องมาจินตนาการถึงสถานการณ์ต่างๆในเหตุการณ์กันเอง
นอกเหนือไปจากวาทะคารมที่อยู่ในต้นฉบับ
อย่าง Medaka Box นี่ก็เรื่องนึง
Bakemonogatari ฉบับมังงะกับอนิเมหลุดกันไปคนละแนวเลย
ทั้งๆที่คนแต่งเรื่องก็คนเดียวกัน
--------------------------------------
ซึ่งงานประเภทนี้นะ ....... *ทำยากมาก*
.......... คือมันเป็นงานที่โคตรจะปลายเปิด
............ ยิ่งคุณมีอิสระในการตีความเท่าไหร่
คุณก็จะยิ่งต้องมีฝีมือในการกำหนดแนวทางมากเท่านั้น
และความยากมันอยู่ที่ว่า
..................... ทำยังไงถึงจะให้ฉากพูดมันดูไม่น่าเบื่อ
คือถ้าฉากพูดมันมีแค่ไม่กี่นาทีสลับเป็นช่วงๆมันก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้ามันพูดต่อกันเป็น 10 นาทีขึ้นไป
มันจะต้องมีคนง่วงหาวนอนถ้ามันมีแต่ฉากคนพูดกันซึ่งๆหน้า
ผลงานอย่าง Bakemonogatari ที่มันดังมาได้
เพราะความสามารถในการใช้ Mise-En-Scene
ของผู้กำกับ Shinbou
ที่ใช้ภาพนอกเหตุการณ์และสัญศาสตร์ต่างๆ
มาอุปมาอุปมัยเหตุการณ์ในเนื้อหาได้
ทำให้ผลงานนั้นสามารถกลบความจำเจของฉากพูดได้
ด้วยการเล่นกับจังหวะของการ Transition
และองค์ประกอบภาพที่แหวกแนวได้ขึ้นมา
-------------------------------
ทีนี้นะครับ
Kurihara Manabu ที่เป็นผู้กำกับ Tantei wa Shindeiru นะ
.................... ไม่ใช่คนฝีมือกระจอก
และมีผลงานในฐานะ "ผู้กำกับภาพ" "作画監督" จำนวนไม่ถ้วน
ซึ่งก็เห็นได้จากฉากต่อสู้ในตอนแรก
ที่พูดกันได้เต็มปากว่ายอดเยี่ยมกัน
................ แต่ ...................
ฉากต่อสู้มันไม่ใช่ตัวชูโรงของเรื่องนี้ครับ
ตัวชูโรงของเรื่องนี้คือฉากการโต้กันด้วยคารม
ซึ่ง ..................... ธรรมดามาก
คือมันก็ไม่ได้แย่นะ
แต่ว่ามันไม่ได้มีอะไรที่มาดึงดูดเราแบบประมาณว่า
ดูแล้วโอ้โห ทำไมถึงมีสไตล์ที่โดดเด่นงดงามขนาดนี้
ถ้าจะให้เทียบ
ขอให้นึกถึงเรื่อง Kizumonogatari
ที่ฉากต่อสู้กับ Kisshot คุณภาพระดับเดียวกัน
แต่ของอย่างอื่นนั้นเรียบๆธรรมดา
ผมถึงได้เสียดายว่า
ผลงานนี้มีองค์ประกอบที่สามารถขึ้นเทียบชั้น Bakemonogatari ได้
แต่มันไม่ใช่แนวทางที่ผู้กำกับคนนี้ชำนาญ
-------------------------------
.......... ซึ่ง ...............
จริงๆก็เข้าใจอยู่นะว่า
ทำไม Shinbou Akiyuki ถึงจะมาทำเรื่องนี้ไม่ได้
................. ก็ซีซั่นที่ผ่านมา
เขาร่วมกำกับ Bishonen Tantei Dan ของ Nishio Ishin อะ
-------------------------------
ishin 在 Ishin Japanese Dining - 首頁- 吉隆坡- 菜單、價格 - Facebook 的推薦與評價
ISHIN is an award-winning Japanese restaurant serving genuine Japanese and Kaiseki style cuisines... No. 202, Persiaran Klang, Batu 3 3/4, Off Jalan... ... <看更多>