ความหมายของชื่อสายพันธุ์มนุษย์นั้น แปลว่า "มนุษย์ที่ฉลาด" หรือที่รู้จักกันดีว่า โฮโมเซเปียนส์ (Homo sapiens) (homo = มนุษย์ sapiens = ฉลาด)
ระยะเวลา 2564 ปีของมนุษย์ตั้งแต่ที่เริ่มมีการนับพุทธศักราช ได้กำเนิดมนุษย์ที่มีความฉลาด และมีความสามารถมากมาย บ้างก็เป็นนักปราชญ์ บ้างก็เป็นจิตกร บ้างก็เป็นนักธุกิจ ภูมิปัญญามากมายต่างถูกส่งต่อจากอดีต มาถึงยังพวกเราคนในยุคปัจจุบัน
1. ขงจื๊อ นักคิดและนักปรัชญา ( 8 กันยายน 551 – 479 ปีก่อน ค.ศ )
คำสอนของขงจื๊อนั้น ฝังรากอิทธิพลลึกลงไปในสังคมเอเชียตะวันออกมาเป็นเวลาถึง 20 ศตวรรษ หลักปรัชญาของขงจื๊อนั้นเน้นเกี่ยวกับศีลธรรมส่วนตัว และศีลธรรมในการปกครอง ความถูกต้องเหมาะสมของความสัมพันธ์ในสังคม และ ความยุติธรรมและบริสุทธิ์ใจ นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้มีคนให้ความเคารพศรัทธา และยึดถือแนวทางคำสอนกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ได้สอนหลักในการคบคนไว้ ดังนี้ "การคบคน ต้องเลือกคบคนที่มีคุณธรรมสูงกว่าหรือเท่า ๆ กับเรา" หากเราคบหาสมาคมกับคนที่ขาดคุณธรรม จะทำให้จิตใจของเรา ตกต่ำตามไปด้วย ดังนั้น ถ้าอยากมีชีวิตที่ดี มีความสุข ประสบความสำเร็จ จะต้องเลือกคบคนดีมีคุณธรรม
หลักการของจื๊อได้แก่
#ศาสตร์สี่แขนง
รากฐานที่ขงจื๊อวางไว้ ได้แก่ วัฒนธรรม ความประพฤติ ความจงรักภักดี และ ความซื่อสัตย์ โดยวัฒนธรรมเน้นถึงการเคารพบรรพบุรุษและพิธีการโบราณ ยึดถือผู้อาวุโสเป็นหลัก แต่ไม่ยึดติดหรืออายที่จะหาความรู้จากคนที่ต่ำชั้นหรืออายุน้อยกว่า
#แปดหลักการพื้นฐานในการเรียนรู้
ได้แก่ สำรวจตรวจสอบ ขยายพรมแดนความรู้ จริงใจ แก้ไขดัดแปลงตน บ่มเพาะความรู้ ประพฤติตามกฎบ้านเมือง ประเทศต้องได้รับการดูแล นำความสงบสุขมาสู่โลก
#ลำดับการเรียนรู้
ได้แก่ พิธีกรรม ดนตรี ยิงธนู ขี่ม้า ประวัติศาสตร์ และ คณิตศาสตร์
#คุณธรรมทั้งสาม
ได้แก่ ภูมิปัญญา เมตตากรุณา และความกล้าหาญ
#สี่ขั้นตอนหลักการสอน
ตั้งจิตใจไว้บนมรรควิธี ตั้งตนในคุณธรรม อาศัยหลักเมตตาเกื้อกูล สร้างสรรค์ศิลปะใหม่
#สี่ลำดับการสอน
ได้แก่ คุณธรรมและความประพฤติ ภาษาและการพูดจา รัฐบาลและกิจการบ้านเมือง และสุดท้ายคือวรรณคดี
2. ลีโอนาโด ดาวินชี จิตรกร นักปั้น นักพฤกษศาสตร์ ( 15 เมษายน ค.ศ. 1452 - 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1519 )
คงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก ลีโอนาโด ดาวินชี เพราะความสามารถอย่างล้นเหลือ จนเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลก ชายผู้ที่เป็น จิตรกร นักปั้น นักพฤกษศาสตร์ และบิดาแห่งศิลปะทางด้านกายวิภาคศาสตร์ (Gross Anatomy) สิ่งที่ดาวินชี่ได้ถ่ายทอดไว้ให้แก่ชาวโลกมีมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ ปรัชญาในการดำรงชีวิตที่เป็นอมตะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทุกเวลา ทุกสถานที่
หลักปรัชญาที่สำคัญจากหนังสือเรื่อง How to Think Like Leonardo da Vinci แต่งโดย Michael Gelb มีใจความสำคัญ ดังนี้
"คุณมองแต่คุณไม่เห็น (You look but you don't see)
คุณฟังแต่คุณไม่ได้ยิน (You listen but you don't hear)
คุณสัมผัสแต่คุณไม่รู้สึก (You touch but you don't feel)
คุณพูดแต่ไม่ได้คิดก่อนที่จะพูด (You speak but you don't think)"
มนุษย์มักทำอะไรโดยขาดสติ ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ต่ำลง การมีสติตลอดเวลา ทำให้ความสามารถในการเรียนรู้รวดเร็ว ว่องไว และเฉียบคม สามารถรู้ว่าตนเองกำลังทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และเพื่ออะไร สามารถเลือกเส้นทางชีวิตของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีชีวิตเป็นของตนเอง
3. เดล คาร์เนกี นักเขียนและผู้พัฒนาหลักสูตรการพัฒนาตนเอง (24 พฤศจิกายน 1888 – 1 พฤศจิกายน 1955)
อดีตเด็กรับจ้างตัดหญ้าด้วยค่าแรงชั่วโมงละ 5 เซนต์ สู่นักพูดค่าตัวนาทีละ 1 ดอลลาห์ และนักเขียนผู้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของหนังสือที่ขายดีที่สุดตลอดกาลอย่าง How to Win Friends and Influence People และ How to Stop Worrying and Start Living
หากคุณอยากที่จะผูกมิตรกับใครสักคน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามลองปฏิบัติตาม กฏทั้ง 6 ข้อนี้
กฎข้อที่ 1 จงเอาใจใส่อย่างแท้จริงต่อผู้อื่น
การผูกมิตรกับผู้อื่นจะได้ผลเรียบร้อยภายในสองเดือนด้วยการเอาใจใส่อย่างแท้จริงต่อเค้าผู้นั้น มันดีกว่าที่จะให้คนอื่นมาพยามใส่ใจเรา เพราะธรรมชาติของมนุษย์ชอบที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ เริ่มจากใส่ใจที่จะจำชื่อใครก็ตามที่อยากรู้จักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยของเค้าไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ชอบ สีโปรด หรือแม้แต่ความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวของเค้าคนนั้น
กฎข้อที่ 2 ยิ้ม
รอยยิ้มเป็นสิ่งมีค่าที่เราให้คนอื่นได้ฟรีๆ หมั่นยิ้มทักทายให้ทุกคนที่ท่านอยากผูกมิตรด้วย รอยยิ้มเปรียบเสมือนเป็นประตูแห่งความสัมพันธ์ เมื่อรอยยิ้มปรากฎมาบนรอยหน้าของคนใดคนนึง เรื่องต่อๆ ไปก็จะง่ายเอง
กฎข้อที่ 3 จงจำไว้ว่าชื่อของบุคคลใดก็ตามสำหรับบุคคลนั้นเป็นสำเนียงหวานที่สุดและสำคัญที่สุดในภาษามนุษย์
หมั่นทักทายผู้อื่นด้วยชื่อของเค้า จดจำชื่อของคนที่ท่านปราถนาจะผูกมิตรให้แม่น เอ่ยชื่อของเค้าอย่างชัดถ้อยชัดคำเมื่อท่านต้องการสรรเสริญถึงความดีความชอบใดๆ ที่เค้าทำ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เพราะคนเราให้ความสำคัญกับชื่อตัวเองอย่างที่สุด
กฎข้อที่ 4 จงเป็นนักฟังที่ดี
จงสนับสนุนให้อีกฝ่ายหนึ่งคุยถึงเรื่องของเขา พูดถึงตัวเองให้น้อยฟังคนอื่นพูดให้เยอะ ทุกคนล้วนอยากเป็นคนสำคัญ อยากถูกเอาใจใส่ การรับฟังเป็นเรื่องง่ายๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้ หากคุณทำได้คุณจะเป็นคู่สนทนาคนโปรดของใครหลายๆ คน
กฎข้อที่ 5 สนทนาในเรื่องที่อีกฝ่ายสนใจ
ศึกษาดูว่าคนที่คุณอยากผูกมิตรชอบอะไรเป็นพิเศษ คุณสามารถหยิบมาเป็นประเด็นในการสนทนาได้เสมอ หากคุณทำการบ้านมาดีคุณจะคุยกับเค้าคนนั้นได้อย่างลื่นไหล
กฎข้อที่ 6 จงทำให้ผู้อื่นรู้สึกสำคัญ และจงทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เราทุกคนต่างมีข้อดีในแบบของตัวเอง ไม่ว่าใครก็ต้องมีเรื่องที่เก่งกว่าคนอื่นสักเรื่องสองเรื่อง ในขณะเดียวกันผู้อื่นก็มีเรื่องที่เราเทียบไม่ได้เลยเช่นกัน หาเรื่องนั้นให้เจอและเอ่ยปากชมเค้าผู้นั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ
4. นโปเลียน ฮิลส์ เนักเขียนแนวพัฒนาตัวเอง ( 26 ตุลาคม 1883 – 8 พฤศจิกายน 1970 )
ปี 1928 นโปเลียน ฮิลล์ ได้เผยแพร่ผลงานของเขา กฎแห่งความสำเร็จ (The Law of Success) ได้แสดงถึง 45 รายชื่อที่เขาศึกษา “ชีวิตส่วนใหญ่ของบุคคลเหล่านี้ในระยะใกล้ ด้วยตัวเอง” เช่นเดียวกับบุคคลที่หนังสือได้อุทิศไว้ แอนดรูว์ คาร์เนกี้, เฮนรี่ ฟอร์ด และ เอ็ดวิน ซี บานส์ (ผู้ร่วมงานของ โทมัส เอดิสัน) คาร์เนกี้ได้ให้จดหมายแนะนำฮิลล์แก่ฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้แนะนำให้ฮิลล์รู้จักกับ อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์, เอลเมอร์ อาร์ เกตส์, โทมัส เอดิสัน และ ลูเธอร์ เบอร์แบงก์
"ท่านทำได้ ถ้าท่านคิดว่าท่านทำได้"
การเชื่อมั่นในตนเองไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่เป็นการตั้งหลักในจิตใจว่า เราจะต้องทำสิ่งเหล่านั้นให้จงได้ เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนพอที่จะเป็นไปได้ และท้าทายความสามารถในระดับหนึ่งรวมกับขั้นตอนและกลยุทธต่าง ๆ ที่จะต้องทำและแผนสำรอง เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ "ความเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำได้"
"ว่าวจะลอยสูงได้ต้องมีลมมาปะทะ"
ผู้ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องฟันฝ่าอุปสรรคนานัปการ ต้องรับได้ในทุกสถานการณ์ และเมื่อเจอปัญหาต้องนิ่งสงบใช้สติปัญญาแก้ไขปัญหาอย่างสุดความสามารถ
5. แจ็ค เวลช์ ผู้จัดการแห่งศตวรรษที่ 21 ( 19 พฤศจิกายน 2478 - 1 มีนาคม 2563 )
แจ็ค เวลซ์ คือ หนึ่งใน CEO ที่ประสบความสำเร็จจนมีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก พูดได้ว่า ไม่มีหนังสือที่เกี่ยวกับ CEO เล่มไหนในโลกที่ไม่อ้างถึงแนวคิดและวิธีการบริหารจัดการของ แจ็ค เวลซ์ เขาจึงเป็น“ต้นแบบ”ที่ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรชั้นนำทั่วโลกต่างยึดถือเป็นแบบอย่าง
แจ็ค เวลส์ คืออดีต CEO ของบริษัท General Electric หรือ GE ที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก สุดยอดแนวคิดของ Jack Welch นำมาจากหนังสือเรื่อง Control the Destiny or Someone Else Will คือการรู้จักกำหนดชะตาชีวิตของตนเองก่อนที่คนอื่นจะเข้ามาบงการชีวิตคุณ
"Live with the present reality as it is, not the kind of reality that used to be in the past or the reality that you want it to be"
"จงอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบันที่คุณกำลังประสบอยู่ ไม่ใช่ความเป็นจริงที่มันเคยเป็น หรือความเป็นจริงที่คุณอยากให้มันเป็น"
จงอยู่กับปัจจุบัน มนุษย์มักยึดติดกับความสุข ความสำเร็จในอดีต และคิดว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้นดังเดิมตลอดไป แต่เมื่อปัจจุบันไม่เป็นอย่างที่หวังก็เศร้าเสียใจ หรือติดกับความทุกข์ในอดีตจนไม่กล้าที่จะทำสิ่งใดต่อไปในอนาคต ชีวิตก็จมปรักอยู่กับที่ การดำเนินชีวิตเพื่อไปสู่ความสำเร็จ คือการอยู่กับปัจจุบันทิ้งอดีต และทำวันนี้ให้ดีที่สุด
6. สตีฟ จ็อบส์ นักธุรกิจและนักประดิษฐ์ (24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955 - 5 ตุลาคม ค.ศ. 2011)
ชายผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งทศวรรษ 21 อัจฉริยะผู้พลิกโลกแห่งวงการไอที แม้ว่าในวันนี้เขาจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่สิ่งที่เขาสร้างเอาไว้ได้เปลี่ยนแปลงโลกของไอทีไปตลอดกาล และตลอดระยะเวลาของการมีชีวิตอยู่ สตีฟ จ็อบส์ ก็ได้ทิ้งบทเรียนดีๆไว้มากมาย
8 บทเรียนที่ สตีฟ จ๊อปส์ ได้บอกคนทั้งโลกผ่านการทำงานของเขาทั้งชีวิตได้แก่
1. อย่าไปฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์ หรือพวกกูรูทั้งหลาย ความเห็นของพวกเขาเป็นร้อยก็ช่วยคุณเป็นผู้ประกอบการไม่ได้หรอก มันก้เป็นเพียงแค่ “ความเห็น” เท่านั้น
“ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการตัวจริง หาทางเอาเองสิ อย่ามัวแต่พึ่งคนอื่น”
2. ลูกค้าบอกไม่ได้หรอกว่าเขาต้องการอะไร
สตีฟ จ็อฟส์บอกเสมอว่า “หลายๆครั้ง คนก็บอกไม่ได้ว่าเขาต้องการอะไรจนกว่าคุณเอาสิ่งที่พวกเขาอยากได้ไปให้เขาเห็น” จงหาปัญหาของผู้คนให้เจอแล้วแก้ปัญหาให้เขาก่อนที่คนอื่นจะทำ
3. ดีไซน์เป็นเรื่องจำเป็น
"ในโลกที่คนพูดแต่เรื่องราคา การออกแบบก็เป็นเรื่องสำคัญ สำหรับหลายๆคนแล้ว ดีไซน์เป็นสินค้าอย่างหนึ่งด้วย"
4. จงทำให้ดีขึ้น 10 เท่า ไม่ใช่ 10 %
นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นถ้าผู้ประกอบการทำสินค้าและบริการให้ดีขึ้น 10 เท่า ไม่ใช่เพียงแค่ 10%
5. ความเป็นเลิศ
ผู้คนตัดสินคุณจากการกระทำ ดังนั้นจงมุ่งเป้าหมายไปที่ผลลัพธ์ จงเป็นมาตราฐานในการวัดคุณภาพ เพราะคนบางคนไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่ต้องการความเป็นเลิศ
6. อย่ากลัวการแข่งขัน
ผมไม่คิดว่า Apple เป็นเจ้าของผม ผมคิดว่าผมเป็นเจ้านายตัวเอง และการที่ผมจะไม่สามารถทำอาชีพที่ถนัดได้อีกในชีวิตนี้ผมเห็นว่าเป็นเรื่องประหลาดพิลึก เราไม่ได้นำเทคโนโลยีหรือความคิดที่เป็นของ Apple โดยเฉพาะใดๆไปจากที่นั่น ไม่มีอะไรที่ระบุว่า Apple ไม่สามารถแข่งขันกับเราถ้าพวกเขาคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นความที่วิเศษ มันยากนะที่จะคิดว่าบริษัทที่มีมูลค่า 2,000 ล้าน และพนักงานกว่า 4,300 คน จะไม่สามารถแข่งขันกับคนนุ่งกางเกงยีนส์แค่หกคน ( หลังจากที่ สตีฟ จ็อบส์ โดนไล่ออก เขาและอดีตพนักงาน Apple ทั้งหกคนต่อมาได้ก่อตั้งบริษัท NEXT )
7. ปฏิเสธเพื่อเป้าหมาย
คนมักคิดว่าการมุ่งเป้า หมายถึง การตอบรับสิ่งที่คุณต้องมุ่งไปหา แต่นั่นไม่ใช่ความหมายของมันเลย มันหมายถึงการ "ปฏิเสธ" ความติดดีๆ อื่นๆ นับร้อยต่างหาก คุณต้องเลือกอย่างระมัดระวัง จรีงๆแล้วผมภูมิใจที่ไม่ได้ทำพอๆกับสิ่งที่ได้ทำ นวัตกรรมนั้นคือ "การปฏิเสธ" อะไรเป็นพันๆอย่าง
8. คิดอย่างผู้เริ่มต้น
ความหนักอึ้งของการประสบความสำเร็จถูกแทนที่ด้วยความเบาหวิวของการเป็นผู้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ความรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในทุกอย่าง มันทำให้ผมมีอิสระที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาที่สร้างสรรค์ที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過16萬的網紅Nat Journey | นัดเจอนี่,也在其Youtube影片中提到,เกิดมา ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าชีวิตนี้จะได้ไปนอนบ้านคนรัสเซีย เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และน่าตื่นเต้นสำหรับเรามากๆ เพราะว่าสิ่งนี้ทำให้เราได้เป็นมากกว่าน...
「living แปลว่า」的推薦目錄:
- 關於living แปลว่า 在 สาระศาสตร์ Facebook 的最讚貼文
- 關於living แปลว่า 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於living แปลว่า 在 Drama-addict Facebook 的精選貼文
- 關於living แปลว่า 在 Nat Journey | นัดเจอนี่ Youtube 的最讚貼文
- 關於living แปลว่า 在 living... - Dr. Bambi - Everyday English ภาษาอังกฤษรอบตัว 的評價
- 關於living แปลว่า 在 live, alive, lively, life ความแตกต่าง เรียนอังกฤษกับ ดร.พี่นุ้ย ศัพท์ ... 的評價
living แปลว่า 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
สรุปการนำ “อิคิไก” มาใช้ในธุรกิจ
การนำ “อิคิไก” มาใช้ในธุรกิจ - MarketThink
หลักคิด “อิคิไก (IKIGAI)” ที่หมายถึง การค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่
ซึ่งมาจากการคำว่า อิคิรุ (IKIRU) ที่แปลว่า การมีชีวิต และ ไก (GAI) แปลว่า คุณค่า
แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า นอกจากเรื่องชีวิตแล้ว
เราสามารถนำหลักคิดนี้ มาปรับใช้กับตัวธุรกิจได้
ซึ่งคุณดั่งใจถวิล อนันตชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทจ (ประเทศไทย) จำกัด เคยอธิบายไว้ว่า
“โมเดล อิคิไก ถ้าเปลี่ยนเป็นมุมธุรกิจ
เราสามารถนำแกนหลัก 4 แกนของ อิคิไก มาตั้งคำถามกับธุรกิจของตัวเองได้”
โดย 4 แกนหลัก ประกอบด้วย
1) สิ่งที่เรารัก ชอบ และมีความสุขที่ได้ทำ (What you love ?)
2) สิ่งที่มีประโยชน์ต่อโลกและผู้อื่น (What the world needs ?)
3) สิ่งที่สร้างรายได้ให้เรา (What you can be paid for ?)
4) สิ่งที่เราทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ (What you are good at ?)
แล้วนำ 4 แกนนี้ มาตั้งคำถามกับธุรกิจของตัวเองว่า
-Passion :
อะไรคือสิ่งที่เรารัก ชอบ และมีความสุขที่ได้ทำ ?
ต้องตอบได้ว่า Core Business หรือแก่นธุรกิจของเราคืออะไร
เราอยากประสบความสำเร็จในสิ่งไหน
สิ่งไหนที่แม้แต่ต้องเจออุปสรรคต่างๆ เราก็อยากจะเดินหน้าทำต่อไป
-Mission :
อะไรคือสิ่งที่มีประโยชน์ต่อโลกและผู้อื่น ?
ธุรกิจของเราสามารถสร้างประโยชน์ต่อคน สังคม ในแง่มุมไหนได้บ้าง
เช่น สะท้อนออกมาเป็นการทำ CSV (Creating shared value) หรือ SB (Sustainability brand)
-Vocation :
อะไรคือสิ่งที่สร้างรายได้ให้เรา ?
ธุรกิจต้องสร้างรายได้และเลี้ยงตัวเองได้ เมื่อเราแข็งแรง เราจะมีกำลังในการสร้างสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่น
-Profession :
อะไรคือสิ่งที่เราทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ ?
หาจุดเด่น หรือความเชี่ยวชาญที่เราถนัด ทำให้จุดเด่นนั้นแข็งแรงขึ้น และต่อยอดธุรกิจต่อไป
เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ
จะเห็นได้ว่า “อิคิไก” ซึ่งเป็นหลักคิดสร้างสุขยั่งยืนของคนญี่ปุ่น ก็สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจได้
สรุปแล้ว
สำหรับการค้นหา อิคิไกของตัวเรา คือ การค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่
แต่ อิคิไก ในแง่มุมธุรกิจ ก็คือ ความหมายในการมีอยู่ของธุรกิจนั้น นั่นเอง..
#อิคิไก
#ธุรกิจ
---------------------------------------------------
อ้างอิง:
-หนังสือ อิคิไก: ความหมายของการมีชีวิตอยู่ ของ เคน โมงิ
-https://thestandard.co/podcast/readery14
-https://mgronline.com/management/detail/9600000114439
Implementing ′′ Ikikai ′′ in business - MarketThink
The principle of ′′ IKIGAI (IKIGAI) ′′ that means finding the meaning of living.
Which comes from Ikiru (IKIRU) meaning living and gai (GAI) means value.
But many people may not know that apart from life.
We can apply this concept to business.
Which is your heart, Wil Anantchai, Chief Operations Officer and Director, Interage Company Limited, has explained.
′′ Ikikai model, if you turn into a business corner.
We can bring Ikikai's 4 core studs to question their business
By 4 main axis consists of
1) What we love, like and are happy to do (What you love? )
2) What is useful to the world and others? (What the world needs? )
3) What make money for us (What you can be paid for? )
4) What we do better than others. (What are you good at? )
And bring these 4 axis to question their business.
-Passion :
What is something we love, like and are happy to do?
What is Core Business or our business?
What do we want to accomplish?
Any obstacle that we have to go through, we want to keep going.
-Mission :
What is it that benefits the world and others?
What extent can our business benefit social people?
For example, reflecting on making CSV (Creating shared value) or SB (Sustainability brand)
- Vocation:
What is it that proceeds us?
Businesses must make money and raise themselves. When we are strong, we will have the strength to create good things for others.
-Profession :
What is it that we do better than others?
Looking for highlights or expertise that we're good at making our highlights stronger and further business ventures.
To strengthen the business
It can be seen that ′′ Ikikai ′′ which is the main principle to create sustainable happiness of Japanese people. It can be applied to business.
In conclusion,
For finding our own Ikikai is finding the meaning of living.
But Ikiki in business aspect is the meaning of business..
#อิคิไก
#ธุรกิจ
---------------------------------------------------
Reference:
- Ikikai Book: The meaning of living of Kenyan
-https://thestandard.co/podcast/readery14
-https://mgronline.com/management/detail/9600000114439Translated
living แปลว่า 在 Drama-addict Facebook 的精選貼文
ตามนัลลลลล ใส่ถุงยางครับ อย่าสด
U=U?????จริง???
ในเอชไอวี แล้วโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นละ????
มาดู Fact
1) Undetactable =Untransmission (U=U)
คำว่า Undetected แปลว่าไม่มีเชื้อในเลือด แต่ในทางแลปคือ ไวรัสน้อยกว่า 20 copies/mm3 รายงานว่า <20
มันไม่ใช่ 0
ไวรัสเอชไอวี ยังมีอยู่ในเซลล์ มันไม่ได้หายไปไหน. ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในเซลล์ต่างๆ ไม่ได้ตาย ยังไม่หายจากโรคนะ
คนติดเชื้อเอชไอวี ยังต้องกินยาตลอดชีวิต ทุกวัน และตรงเวลา
เพื่อไม่ให้ไวรัสมันแบ่งตัว และออกมา
เพ่นพล่าน
และอนาคตก็อาจดื้อยาได้ด้วยแม้กินยาตรงเวลา
แปลว่า..ต่อให้กินยาสม่ำเสมอ นานไปก็ยังดื้อยาได้!
อีกกรณี แม่ติดเชื้อเอชไอวีแม้กินยาดี
ไวรัส <20 และผลเลือดเป็น undetectable ก็ยังต้องกินยา
และลูกคลอดออกมาก็ยังต้องกินยาป้องกัน AZT 4 สัปดาห์ โอกาสติดแม้จะเพียง 1% ลูกยังต้องตรวจเลือด ห้ามกินนมแม่ (แนวทางประเทศไทย)
เพราะยังมีโอกาสติด
ถึงแม้โอกาสจะน้อย ก็ต้องกินยาป้องกัน
2)ยา PrEP คือ Pre-exposure prophylaxis ใช้ก่อนที่จะติดเชื้อ
ใช้กับกลุ่มเสี่ยงเช่น สด ขายบริการ มีเพศสัมพันธ์ หลากหลาย กลุ่มเสี่ยง
ถามว่า 100% ป้องกัน???
ไม่มีอะไร 100%
ในทางการแพทย์อยู่แล้ว
อย่าบอกว่า 100%
ติดเชื้อมามันทำให้ชีวิตนะ
เปลี่ยนไป
และยา PrEP บางคนกินก็แพ้ได้
มีภาวะแทรกซ้อน
และมั่นใจไง คู่คุณไม่สำส่อน เขาจะมาบอกคุณไหม
3)หมอทุกคน ที่รักษาคนไข้
ยังยืนยัน
ควรใส่ถุงยางอนามัย
ป้องกันโรคติดเชื้ออื่นๆ
ที่ผ่านเพศสัมพันธ์
ซิฟิลิส หนองใน หูดหงอนไก่ ...
แม้กินยา PrEP
ที่บอกว่า เป็นซิฟิลิส หนองใน แล้วก็รักษาหาย!!
ไม่ควรให้ความรู้แบบนี้..
ยอมรับ มันรักษาหาย
! แต่ มันแพร่กระจายไปหลายคน
บางคนมีอาการ
บางคนไม่มีอาการแล้วแพร่กระจายก็มี
บางคนรุนแรง เสียชีวิต
และถ้าเกิดไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง และตั้งครรภ์ ติดเด็กไปอีก
เด็กพิการ เสียชีวิต
ซิฟิลิสมีหลายระยะ มีระยะแฝงในร่างกายหลายปี หลายสิบปี มีอาการทางระบบหัวใจ ประสาท และหัวใจ
ยอมรับเลย ช่วงนี้เครียด
..ซิฟิลิส เยอะมาก
ถ้า สด กัน ก็คงยังเจอต่อไป
ไม่มีวันหมด
หมอก็ยังต้องรักษาเคสพวกนี้เยอะ
ไม่มีวันหมด เครียด
สงสารเด็ก ติดเชื้อซิฟิลิสจากแม่
เยาวชน มัธยม วัยรุ่น มหาลัย
คนทำงานก็พบมากขึ้น
นอกจากซิฟิลิส ยังท้องในวัยเรียน
ทำแท้งค์ ปัญหาสังคมอีกเพียบ
2-3 ปี มานี้เคสซิฟิลิสเยอะ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่. ถุงยางช่วยป้องกันแน่นอน ยืนยัน
4)พฤติกรรมเยสด..เป็นความชอบส่วนบุคคล เคารพสิทธิครับ ไม่ก้าวก่าย
แต่ควรใช้กับคู่นอน 2 คน
ผัวเมีย ที่ไม่นอกใจ แฟน
จะไม่เห็นต่างเลย
แต่ถ้าเรารณรงค์ให้เยสด+กิน PrEP คงไม่สู้รณรงค์
ให้รักเดียวใจเดียวและใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
ดีกว่าไหม
ป้องกัน STD ได้ด้วย
5)คนไทยยังอ่อนไหว
ความรู้เรื่องเอชไอวี ยังไม่ได้ดี
หรือ ความรู้เท่ากันทุกคน
บางคนไม่ยอมมาตรวจเพราะกลัวบวก บวกแล้วหนี ไม่มารักษา ตายไปก็เยอะ
ติดเชื้อฉวยโอกาส
3 เดือนมานี้เจอคนไข้เด็กติดเชื้อเอชไอวี 3 คน บางคนแย่พิการ ตาบอด สงสาร
ควรรณรงค์ให้มาตรวจกันเยอะๆและรีบรักษามากกว่า ที่รณรงค์กิน PrEP และสดไหม
ส่วน PrEP ก็ยังให้ตามข้อบ่งชี้ แต่ต้องกินสม่ำเสมอและตรงเวลาในคนไข้กลุ่มเสี่ยง
6)หมอรักษาเอชไอวี โรคติดเชื้อมานาน มันเศร้านะครับ ติดเอชไอวีมา 1 เคส บางคนตายก่อนการรักษาจากเชื้อฉวยโอกาสและโรคอื้นๆ ซิฟิลิส หูดหงอนไก่ วัณโรค
ยืนยัน...ต่อให้ U=U ก็ยังต้องสวมถุงยาง
ไม่โลกสวย
ถ้าไม่ใช่คู่นอนเราแบบรักเดียวใจเดียว อันนั้นสดได้
แล้วคุณมั่นใจหรือ แฟนคุณไม่ไปสดกับคนอื่นมา เค้าจะบอกคุณป่าว??
7)เรื่องตีตรา คนละประเด็น
แอดรักษาคนกลุ่มนี้มานานน่ารักมาก รับผิดชอบ
ไม่เคยดูถูก ไม่เคยรังเกียจเลย
และสังคมก็ไม่เคยรังเกียจ ยอมรับมากขึ้น
แม้บางครั้งจะโดนหลอก บอกไม่มีแฟนๆๆๆ มาอีกที ท้องโย้มาเลย
หมอทุกคนหวังดี ไม่เคยมีอคติ
กับคนไข้กลุ่มนี้ และประชาชนก็เข้าใจมากขึ้น
อย่าคิดไปเองว่า คนลบจะดูถูกหรือบูลลี่คนบวก
แค่ไม่อยากมีเคสติดเชื้อรายใหม่
ทั้งเอชไอวี ซิฟิลิส หูดหงอนไก่ ในแม่และเด็ก
ป้องกันทั้ง PrEP และใส่ถุงยางราคาไม่เท่าไร ดีกว่าต้องมานั่งกินยาตลอดชีวิต
ค่าใช่จ่ายมากกว่า
ไม่สนับสนุน ยสตน
สนับสนุนยืดอกพกถุง
สนับสนุนรักเดียวใจเดียว
ไม่สนับสนุนให้บูลลี่ใคร
ไม่สนับสนุนให้บุคลากรด่ากันเอง
ทีมน้องบาลกิ่งสายบวก
UZU????? True???
In HIV, what about other sex infectious diseases????
Let's watch Fact
1) Undetactable =Untransmission (U=U)
The word Undetected means no blood leavening, but in the lab is less virus than 20 copies / mm3 reported rāyngān 20
It's not 0
The HIV virus still exists in the cell. It hasn't gone anywhere. Virus is a living thing in cells. It's not dead. It hasn't recovered from disease.
HIV infected people still take medicine for life everyday and on time.
So that the virus is divided and out.
I'm going to have fun.
And the future can be drug resistant even if you take medicine on time.
It means.. Even if you take medicine regularly, you can still be drug resistant!
In another case, mother is infected with HIV. Even if she takes good medicine.
wịrạs̄ 20 virus and undetectable blood results still need to take medicine
And the child is born and still has to take medicine to prevent AZT for 4 weeks. The chance is 1 % of the child still needs blood test. Do not drink mother's milk (Thailand guideline).
Because I still have a chance to get addicted.
Even if there are few chances, I need to take a preventive medicine.
2) PrEP medicine is Pre-exposure prophylaxis. Used before infection.
Apply to risk groups such as live, sell, sex services, various groups, risk.
Ask 100 % to protect???
Nothing 100 %
In medical anyway.
Don't say 100 %
Infected. It makes life.
Changed.
And some PrEP medicine can lose
There are complications.
And I'm sure. Your couple is not promiscuous. Will they come to tell you?
3) All doctors who treat patients.
Still confirmed.
Should wear condoms.
Prevent other infectious diseases
That went through sex.
Syphilis, gonorrhea, pouting warts, chicken...
Even took the pill. PrEP.
That said gonorrhea syphilis and healed!!
Shouldn't be given this kind of knowledge..
Accept it. Healed.
! But it's spread to many people.
Some people have symptoms.
Some people don't have symptoms and then spread.
Some violent people have died.
And if the sex with the woman and the pregnant baby stick
Disabled child died.
Syphilis has many range. It has latent range in the body. Dozens of years. It has neurological and heart condition.
I admit that I'm stressed lately.
.. A lot of syphilis
If it's live, we will continue to meet.
Never run out.
Doctors still need to heal a lot of these cases
Never run out of stress
I feel pity for the infected child. Syphilis from mother.
High school youth, teenagers, college
Workers found more and more
Apart from syphilis, still pregnant in school age.
Abortion, more social problems.
2-3 years ago, there are plenty of syphilis cases for both children and adults. Condoms help prevent for sure. Confirm
4) Live behavior.. It's personal preference. Respect rights. Don't intrude.
But it should be used with 2 sleeping partners.
Husband and wife who don't cheat on boyfriend
Won't make any difference
But if we campaign for live + eat PrEP, we won't fight the campaign.
Give one love and use condoms every time
Is it better?
Protect your STD too
5) Thai people are still sensitive.
Knowledge of HIV is not good yet.
Or all the same knowledge
Some people don't come to check because they are afraid of being positive and running away. They don't
Infected. Seize the opportunity.
3 months ago, I have found 3 HIV infected patients. Some people are bad, disabled, blind, pity.
Should we campaign to check it out and heal more than the campaign. Eat PrEP and live?
PrEP is still provided according to the indication, but must eat regularly and be on time in risk group patients.
6) Doctor has been treating HIV. Infected disease for a long time. It's sad that I have infected 1 cases of HIV. Some people die before treatment from opportunistic treatment and syphilis. Syphilis, warts, chicken, tuberculosis.
Confirmed... Even UZU still have to wear condoms.
No, the world is beautiful.
If it's not my partner in one love, that one can be fresh.
Are you confident or your girlfriend doesn't go live with other people. Will they tell you??
7) Badge story. Different issues.
Admin has been keeping this group for a long time. Very cute and responsible.
Never insult, never hate.
And the society has never been more disgusted.
Even sometimes I'm fooled, I tell that I don't have a lover. I come again.
All doctors wish well. Never have prejudice.
With this group of patients and the public understands more.
Don't think that negative people will insult or bully positive people.
Just don't want a new fungus case
Both HIV, Syphilis, Warts, Pouting Chicken in Mother and Child.
Protecting both PrEP and wearing condoms. It's better than taking medicine for life.
The cost of yes pays more
No support for Yuston
Supporting the flowers, carrying a bag.
Support one love.
No support for anyone bully
I don't support staff to scold each other.
Brother Ba's team, King, Positive.Translated
living แปลว่า 在 Nat Journey | นัดเจอนี่ Youtube 的最讚貼文
เกิดมา ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าชีวิตนี้จะได้ไปนอนบ้านคนรัสเซีย เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และน่าตื่นเต้นสำหรับเรามากๆ เพราะว่าสิ่งนี้ทำให้เราได้เป็นมากกว่านักท่องเที่ยว และได้เข้าไปสัมผัสการใช้ชีวิตของคนรัสเซียจริงๆ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเขา รวมไปถึงเขาใจความเป็นรัสเซียได้ในอีกมิติหนึ่ง
ซึ่งการมานอนบ้านชาวรัสเซียในครั้งนี้ เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เข้าใจการใช้ชีวิต และอื่นๆอีกมากมาย ก็หวังว่าเพื่อนๆที่เข้ามาดูคลิปนี้ จะได้สัมผัสกับสิ่งที่เราอยากจะนำเสนอนะครับ
-----------------------------
ภาษารัสเซียในคลิป
*สราทวุยเจ = แปลว่า "สวัสดีครับ/คะ" ใช้สำหรับทักทายผู้ใหญ่ หรือว่าคนที่เราไม่รู้จัก ออกจะทางการหน่อย
*ปรีเวียต = "สวัสดี" ใช้สำหรับคนสนิทหรือเพื่อนๆ แบบไม่เป็นทางการ
รับชมภาพถ่าย และเรื่องราวแบบวันต่อวันได้ที่
Instagram (IG): natjourney.me
ติดตามเรื่องราวนอกคลิป และภาพถ่ายต่างๆได้ที่
Facebook (Page): http://fb.com/natjourney.me
เข้ามาพูดคุย แบ่งปันประสบการณ์ หรือมีคำถามใดๆได้ที่
Facebook (Group): https://www.facebook.com/groups/176429253562954/
ส่วนใครที่เป็นผู้ชายสายฝอ ชอบฝรั่ง อยากมีแฟนเป็นคนต่างชาติ เข้าได้ที่กลุ่มนี้ครับ
https://www.facebook.com/groups/2764769800245921/
ติดต่องานได้ทาง [email protected]
#นอนบ้านคนรัสเซีย #ครอบครัวรัสเซีย #แฟนรัสเซีย

living แปลว่า 在 live, alive, lively, life ความแตกต่าง เรียนอังกฤษกับ ดร.พี่นุ้ย ศัพท์ ... 的推薦與評價

live, alive, lively, life ความแตกต่าง เรียนอังกฤษกับ ดร.พี่นุ้ย ศัพท์อังกฤษ ว่า ด้วย ชีวิต. 695 views · 3 years ago #withme #staystrong #nuienglish ...more ... ... <看更多>
living แปลว่า 在 living... - Dr. Bambi - Everyday English ภาษาอังกฤษรอบตัว 的推薦與評價
◕ living อ่านว่า ลิฟวิ่ง (ตัว v ออกเสียงให้เป็น v นะคะ ไม่ใช่ ว แหวน) . ◕ คำนี้แปลได้หลายอย่าง แปลว่า ลักษณะการใช้ชีวิต ก็ได้ เช่น He is enjoying his bachelor style ... ... <看更多>