สุดยอดคัมภีร์ไดเอท Low Carb จบครบที่เดียวเข้าใจง่ายมาก พร้อมประกวดเพาะกาย, ถ่ายแบบ, เที่ยวทะเล By Hero Athletes !
ในคัมภีร์นี้เป็นแนวทางที่ผ่านการทดสอบโดยผู้เขียนเองและเป็นไดเอทแบบที่ผ่านการทดสอบจากอีกหลายๆท่านมานานนับหลายสิบปีโดยเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้ผลแน่ๆ ชัวร์ๆ ไม่ต้องไปอ้อมค้อมหาวิธีลัดซ้ายขวาขึ้นเหนือล่องใต้ เพราะที่ได้ผลจริงๆมันอยู่ตรงหน้าแล้ว
ผู้เขียนได้ทดลองไดเอทมาแทบทุกรูปแบบ และบันทึกผลไว้ลงในช่อง Youtube : HeroAthletes ทุกรูปแบบคือทุกรูปแบบจริงๆ ทั้ง Ketogenic, Fasting, 1 Meal A Day, Protein Only, Carnicore, กินแต่เวย์โปรตีน, กินแต่โปรตีนบาร์, etc. สารพัดที่จะนึกออก และค้นพบว่า สุดท้ายแล้ว ที่ได้ผลตลอด และเสมอไป โดยไม่ต้องเดา คือ Low Carb Diet ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง Natural และ Enhanced
บางคนอาจจะมีข้อโต้แย้งได้ว่า แต่ Fasting ลดไวกว่านะพี่ หรือ Ketogenic ไวกว่าซึ่งผมบอกเลยว่าผมชอบทุกวิธีไดเอท อย่าง Fasting ผมชอบมากนะ แต่ผมพยายามเลือกวิธีที่เข้าถึงทุกคนได้ง่ายเหมาะที่สุดกับการประกวด และทำตามได้เลย มีสูตรคำนวณมาให้เรียบร้อย เพราะแต่ละคนก็ตอบสนองต่อ Fasting ไม่เหมือกัน หรือ Ketogenic ไม่เหมือนกัน การคำนวณสารอาหารของแต่ละไดเอทก็คลาดเคลื่อนได้ง่ายกว่า Low Carb Diet มาก
Low Carb Diet หลักๆคือเป็นไดเอทสำหรับคนที่ต้องการจะประกวดเพาะกายเป็นหลัก แต่สามารถปรับประยุกต์ใช้ได้กับกรณีอื่นๆที่ต้องการ ลดไขมัน โดยที่คงปริมาณกล้ามเนื้อให้มากที่สุด และมีโอกาสเพิ่มกล้ามเนื้อในช่วงนี้ได้อีกด้วย เช่นในกรณีของนายแบบต้องการไปถ่ายแบบ หรือต้องการเตรียมหุ่น Summer ที่พอมีความรู้พื้นฐานด้านโภชนาการและ Weight Training บ้างแล้ว และ Carb จาก Low Carb Diet ทำให้กล้ามเนื้อระหว่าง Diet ไม่ดูแบนกรือแฟบลงไปมา
Low Carb Diet นั้นอาจจะมีหลายสูตร แต่สูตรที่กำลังจะได้อ่านเป็นของสไตล์ Hero Athletes ซึ่งเพื่อนๆจะเข้าใจและทำตามได้ง่ายมาก งั้นไม่รอช้าเรามาเริ่มกันเลยนะครับ
1. คุณต้องรู้ก่อนว่า ไขมันในร่างกายของคุณอยู่ที่กี่ % หลักคิดง่ายๆตีตัวเลขรวมๆคือเปอร์เซ็น Body Fat เท่าไร ก็จะใช้จำนวนสัปดาห์เท่านั้น ถ้าอยู่ที่ 20% ก็ตีไปว่าใช้เวลาไดเอททั้งหมด 20 สัปดาห์ ถ้าอยู่ที่ประมาณ 16% ก็จะใช้เวลาไดเอททั้งหมด 16 สัปดาห์ ซึ่งผลลัพธ์สุดท้าย ถ้าใครไดเอทแล้วพอใจที่จุดไหนก็สามารถจัดไดเอทจบ แล้ว Maintain ต่อได้ หรือถ้าใครไดเอทจนสุด % ไขมันจะไปจบอยู่ที่ช่วง 6-8% ครับ ซึ่งถ้าใครอ่านมาถึงจุดนี้ถ้าตกผลึกในเรื่องของเวลาที่ต้องใช้จะรู้ว่า ��‘พยายามไม่อ้วนหรือให้ไขมันเยอะเกินจะดีที่สุด เพราะเสียเวลาไดเอทน้อยที่สุด’��
2. มาคำนวณอย่างง่ายๆกันเลยด้วยการใช้อัตราส่วนที่โปรตีน 1.25 กรัม และ คาร์บ 1.5 กรัม ต่อน้ำหนักตัวไม่รวมไขมัน (Lean Body Mass) เป็นปอนด์ (lbs) และเราจะไม่เติม Fat เพิ่มมานะครับ แบ่งกระจายทาน 6 มื้อ
3. โดยที่โปรตีนเราต้องใช้ในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อและเสริมกรดอะโมจำเป็นต่อร่างกายทุกวัน ส่วนคาร์บเราต้องใช้เป็นพลังงานหลักในการ Weight Training ซึ่งคงที่ 1.5g ถือว่ากำลังดีไม่มากไม่น้อยเกินไป มากกว่านี้จะทำให้เราได้รับพลังงานโดยไม่จำเป็นและลดไขมันยากลง ส่วนไขมัน อยากให้ทานจากแหล่งไขมันในอาหารเช่น ไข่แดง เนื้อแดง หรือ น้ำมันปลาที่มีกรดไขมันจำเป็น EFAs (Esstentials Fatty Acids) มากกว่าครับ
4. ในอัตราส่วนมื้อ หรือจำนวณมื้อ อยากให้ลองกระจายประมาณ 6 ดูก่อน ส่วนใครถ้าเริ่มรู้จักร่างกายตัวเองมากๆแล้ว สามารถใช้เป็นการกระจายมื้อในรูปแบบอื่นๆได้ แต่ถ้าเบสิคได้ผลง่ายๆเลยคือทำตามบทความนี้ได้เลยครับ
5. ตัวอย่าง บุคคลที่หนัก 100 กิโลกรัม มีไขมันอยู่ที่ 10-12% ใช้เวลาไดเอทประมาณ 12 สัปดาห์ (น้ำหนักตัวไม่รวมไขมันอยุ่ที่ประมาณ 90 กิโลกรัม (200lbs) ควรรับประทาน
คาร์บ 300 กรัม โปรตีน 250 กรัม กระจาย 6 มื้อ
มื้อ 1 คาร์บ 75 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Breakfast]
มื้อ 2 คาร์บ 50 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Snack]
มื้อ 3 คาร์บ 75 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Pre-Workout]
มื้อ 4 คาร์บ 50 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Post-Workout]
มื้อ 5 คาร์บ 50กรัม โปรตีน 40 กรัม [Dinner]
มื้อ 6 โปรตีน 50 กรัม [Before Bed]
6. เมื่อรู้สึกว่า พัฒนาการเริ่มช้าลง (โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณสัปดาห์ที่ 3 เป็นต้นไป) ให้ทำการลดคาร์บลง 50g และเพิ่มโปรตีนขึ้นมา 10g เป้าหมายเพื่อลดแคลลอรี่โดยรวมลง เพิ่มโปรตีนมารักษาและซ่อมแซมกล้ามเนื้อมากขึ้น และการทานโปรตีนมากขึ้น ช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญให้แก่ร่างกายขึ้นอีก
คาร์บ 250 กรัม โปรตีน 260 กรัม กระจาย 6 มื้อ
มื้อ 1 คาร์บ 75 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Breakfast]
มื้อ 2 คาร์บ 50 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Snack]
มื้อ 3 คาร์บ 75 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Pre-Workout]
มื้อ 4 คาร์บ 50 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Post-Workout]
มื้อ 5 โปรตีน 50 กรัม [Dinner]
มื้อ 6 โปรตีน 50 กรัม [Before Bed]
และทุกครั้งที่ % Fat เริ่มช้าลง ให้ทำแบบเดิมซ้ำ (ลดคาร์บลง 50g และเพิ่มโปรตีนขึ้นมา 10g)
คาร์บ 200 กรัม โปรตีน 270 กรัม กระจาย 6 มื้อ
มื้อ 1 คาร์บ 75 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Breakfast]
มื้อ 2 คาร์บ 50 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Snack]
มื้อ 3 คาร์บ 75 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Pre-Workout]
มื้อ 4 โปรตีน 50 กรัม [Post-Workout]
มื้อ 5 โปรตีน 50 กรัม [Dinner]
มื้อ 6 โปรตีน 50 กรัม [Before Bed]
*ถ้ายังไม่ได้ Bodyfat ที่พอใจ สามารถทำซ้ำได้จนคาร์บในแต่ละวันเหลือที่ 100g แต่ไม่แนะนำให้ต่ำกว่านี้ ถ้าต่ำกว่านี้เราจะต้องเพิ่ม Fat หลักขึ้นมากลายเป็น Ketogenic Diet อีกซึ่งไม่ใช่อย่างที่เราต้องการเพราะการที่ไม่มีคาร์บหรือต่ำกว่านี้จะทำให้ร่างกายและกล้ามเนื้อค่อนข้างดูไม่เต็มและแรงออกกำลังกายไม่เต็มที่
*เมื่อได้ Bodyfat ในช่วงที่พอใจเรา ก็จะมีการ Carb Up หรือการเพิ่ม Glycogen ในกล้ามเนื้อเพื่อให้กล้ามเนื้อดูเต็มขึ้นมาได้ ก็จะใช้สูตรเป็นการเพิ่ม Carb 100 กรัม จากจุดเริ่มต้น เช่นใช้ตัวอย่างเดิม เราเริ่มไดเอทจาก คาร์บ 300 กรัม โปรตีน 250 กรัม ก็จะกลายเป็น
คาร์บ 400 กรัม โปรตีน 250 กรัม กระจาย 6 มื้อ
มื้อ 1 คาร์บ 100 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Breakfast]
มื้อ 2 คาร์บ 75 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Snack]
มื้อ 3 คาร์บ 100 กรัม โปรตีน 40 กรัม [Pre-Workout]
มื้อ 4 คาร์บ 75 กรัม โปรตีน 50 กรัม [Post-Workout]
มื้อ 5 คาร์บ 50 กรัม โปรตีน 50 กรัม [Dinner]
มื้อ 6 โปรตีน 50 กรัม [Before Bed]
ให้ทดลองดูว่ารูปร่างออกมาเป็นอย่างไร ใช้สายตากะดูว่าหลังจากการเพิ่ม Carb 100 กรัม ร่างกายออกมาเป็นอย่างไร ดูเต็มขึ้นไหม ถ้ายัง ให้ทำซ้ำในวันถัดไป เพิ่มลด Carb ได้ตามสะดวกตามที่เราต้องการและพอใจ
ส่วนในเรื่องตารางการซ้อมและคาร์ดิโอนั้น อยู่ที่เพื่อนๆจะจัดและตามใจชอบได้เลย โดยคาร์ดิโอจะแนะนำอยู่ที่ 30 นาที - 1 ชั่วโมง สองเวลาคือ เช้าหลังตื่นนอน และหลัง Weight Training ตารางซ้อมในช่วงไดเอท พยายามเล่นให้หนักที่สุดที่เป็นไปได้ คุมฟอร์มให้ดี และไม่ Overtrain กล้ามเนื้อจนเกินไปเนื่องจากมีการจำกัดแคลลอรี่ลงมา ในส่วนข้อมูลอื่นๆเพื่อนๆสามารถติดตามได้ในเพจ Hero Athletes , Instagram @hero_athletes และทาง Youtube : HeroAthletes เพื่อข้อมูลที่เป็นเชิงลึกมากขึ้นครับ
#heroathletes
#diet
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
low carb คือ 在 Facebook 的最讚貼文
วันนี้มาสรุป DDC Activ 4ตัว ให้นะ ว่าช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายของเราขนาดไหน
Activ C คือ สารสกัดจาก Açaí Berry 200mg. ซึ่งเป็น Super food ผสมสารสกัด ผัก ผลไม้ อีก 10 ชนิด
ใน 1 ซอง ได้ Vitamin C 1,000 mg.
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และชะลอความแก่
Activ Pro คือ Probiotics 6 สายพันธุ์เลือกตัวที่เป็น King และ Queen มาใช้รวม 10พันล้านตัว
และ เราใส่ Prebiotics 2 สายพันธุ์ เพื่อเป็นอาหารให้กับ Probiotics ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยเรื่องการ Detox ลำไส้ ขับถ่ายดี ทำความสะอาดภายใน ลดการเกิดสิว
Activ Collagen คือ Collagen Dipeptide 100% จากญี่ปุ่น ที่ดูดซึมได้เีและเร็วที่สุด ผสานเทคโนโลยีเม็ดฟู่จากเยอรมัน ทำให้ 1 เม็ด ได้ collagen 4,000 mg. แบบไม่คาวเลย เราผสม Beta Carotene และ Calcium เพิ่มให้ด้วย
ช่วยเรื่อง ผิวลื่น ผิวใส
Activ X3 คือ สารอาหารสำคัญที่ร่างกายควรได้รับ
Plant Based Protein 14 g
Vitamin D 200 iu
Calcium 500 mg.
ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และเพิ่มพลังในการใช้ชีวิต
ทั้งหมดนี้ เป็นอาหารเสริมที่จำเป็นต่อร่างกาย ที่คุณหมอแนะนำว่าควรทาน
วิธีทาน แล้วแต่ชอบเลยค่ะ สะดวกตอนไหน ทานตอนนั้น
มดทำ IF 18/6 ก็จะทาน Activ X3 ตอนมื้อเที่ยง กับ 6โมงเย็น ร่วมกับมื้ออาหาร
และ ผสม Activ C + pro + collagen ด้วยกัน ดื่มช่วงบ่าย 3
Activ ทุกตัว ไม่ผสมน้ำตาล แคลอรี่ต่ำ ใครควบคุมน้ำหนักแบบ Low Carb ทานได้สบาย ทุกตัวค่ะ
#cinnamongalburn
low carb คือ 在 Facebook 的精選貼文
สรุปเลกเชอร์ อยากให้อ่านค่า
เมื่อวาน ใน live DDC ชวนคุณหมอปิแอร์ @pierresira รุ่นน้องคุณหมอโจ้ @drjoe_thedemis ที่รามา และหมอจบจากบอสตันเรื่องต่อมไร้ท่อต่างๆ และศึกษาเกี่ยวกับ Vitamin D มานาน ตัวคุณหมอเอง ทานเสริมมาตลอด 5ปี มาคุยให้ฟังว่า Vitamin D สำคัญยังไง ทำไมเราควรทานเสริม
สรุปแบบนี้ค่า
ปริมาณวิตามินที่ทุกคนควรจะ เสริมต่อวัน คือ
แนะนำให้เสริม
Vitamin D วันละ 200iu -400iu หรือ 5mcg-10mcg
เพราะร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ ยิ่งผู้หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน ควรต้องเสริมมากเพราะถ้าหมด ฮอร์โมนเอสโตรเจนหายไปจะทำให้กระดูกพรุนเร็วขึ้น
และคนที่ใช้ชีวิตไม่เจอแดดเลย จะยิ่งขาด Vitamin D ส่งผลไปที่กระดูกของเรา
Vitamin D ต้องรับแดด แต่แดดที่แนะนำให้สังเคราะห์ได้ผลคือ เวลา 11:00-14:00 ซึ่งจะเกิดผลเสียตรงที่ ฝ้า กระ มาแน่ และแผดเผาผิวเรา
แดดเช้าจะสังเคราะห์ได้น้อยกว่า
แคลเซียม เราได้จากการทานอาหารบ้างแล้ว ให้เสริมวันละ 500 mg ขึ้นไป
Vitamin C วันละ 1,000 mg
Probiotics เพื่อการ Detox ลำไส้ และช่วยให้ระบบภายในทำงานได้ดี
แต่ต้องมี Prebiotic ซึ่งเป็นอาหารของ Pro มาร่วมด้วยนะ ถึงจะทำงานเต็มที่
ดังนั้น
DDC Activ X3 1ซอง มีส่วนผสม
Vitamin D 100% 200iu =5 mcg
โปรตีน14กรัม
แคลเซียมสูง 500 mg
ไม่ใส่น้ำตาล ใส่ ซูคาโรสนิดนึง
พลังงาน 100 Kcal
เป็นปริมาณที่หมอแนะนำให้เสริม
รสน้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง ผสมงาดำ
แคลเซียม เราใช้ cpp เป็นตัวเดียวกับที่มีในนมแม่
Vitamin D ช่วยให้ แคลเซียม ดูดซึมได้ดี เราเลยใส่มาด้วยกัน ให้ทำงานร่วมกัน
โปรตีน คือสิ่งจำเป็นกับทุกวัย เราเอามาใส่อีก14กรัม เทียบได้กับกินไข่2ฟอง หรือ อกไก่หรือ ปลา หรือเนื้อ หนักเกือบ100กรัม
ถ้าคนที่ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ ก็ทาน Activ x3 วันละ2ซอง
คนลดน้ำหนัก low carb ก็ทาน วันละ 1ซอง
ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ทานเสริมยิ่งดี
คุณหมอบอกว่า Vitamin D แคลเซียม และโปรตีน ไม่มีโรคประจำตัวโรคไหนที่ทานไม่ได้
สามารถทานเสริมได้ทุกเพศ ทุกวัย
โปรตีนใช้ plant based ทั้งหมด ค่ะ คนที่แพ้นมวัว ทานได้แน่นอน
แค่ผสมน้ำ 250 ml สามารถทานแบบร้อน อุ่น หรือเย็น ได้หมด ส่วนตัวชอบทานอุ่น เป็นมื้อแรกตอน 12:00น. สบายท้อง หอม อร่อย
และทานเวลาไหนก็ได้ตามสะดวกนะคะ
อาหารเสริมเรามองว่าจำเป็น @ddchealthyskin เลือกผลิต Activ ต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย
คุณหมอและทีมเภสัชกรที่ไต้หวัน เป็นคนผสมสูตรออกมาค่ะ
#ddchealthyskin #ddcactivx3 #cinnamongalreview