หลายคนสมัคร Disney+ Hotstar คงรู้กันอยู่แล้วว่าสามารถดูคอนเทนต์ Marvel, Pixar, Star Wars, และ Disney Princess ได้ แต่ไหน ๆ สมัครกันแล้ว อยากหาไอเดียหรือหนังอื่น ๆ ดูบ้าง เราขอเชียร์ 10 เรื่องนี้ ให้ลองดูกันครับ เป็นหนังที่เพจหนังโปรด ให้คะแนนเกรด 8+ ทุกเรื่อง
เรื่องแรก In the Mood for Love ตัวอย่างหนังที่เราเชื่อว่าต่อให้มีนิยายก็ไม่สามารถบรรยายอารมณ์เหงา ซับซ้อน และสับสน ออกมาได้ดีเท่าการดูหนัง พลังของภาพและเสียงทำงานฉายภาพความรู้สึกตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นหนังหว่อง กา ไว เรื่องแรกที่ดูแล้วตกหลุมรักทันที
เรื่องที่ 2 เพิ่งชนะรางวัลออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาหมาด ๆ คือเรื่อง Nomadland เล่าถึงคนเร่ร่อนที่ต่างเลือกเส้นทางของตัวเองด้วยเหตุผลแตกต่างกันไป สะท้อนภาพคนชายขอบที่หล่นหายในระบบทุนนิยม เกิดแก่ทำงานจนตายไม่เคยได้ออกไปใช้ชีวิต ภายใต้ความคับแคบบนรถแวนที่กลายเป็นที่พักอาจจะเป็นที่สบายใจกว่าพักพิงเป็นหลักแหล่งในบ้านไหน ๆ เป็นทางที่เธอเต็มใจเลือกเดินทางพบเจอผู้คน ค้นหาตัวเอง ดูจบแล้วแทบอยากหาซื้อ Hasselblad XPan มาถ่ายทิวทัศน์พาโนราม่า
เรื่องที่ 3 เป็นหนังที่เราดู 2 รอบ เพราะรอบแรกหลับ แต่พอดูซ้ำคือตกหลุมรักหนังจนหยิบมาเชียร์ทุกครั้ง Tomorrow I Will Date With Yesterday's You พระเอกเวลาเดินหน้าแต่นางเอกเวลาเดินย้อนกลับหลังสวนทางกัน เป็นหนังที่ต้องใช้สมองและใจทำงานไปพร้อมกัน อารมณ์หนังมีความสุขบนความเศร้าที่อินเนอร์รุนแรงสุดขีด จนกลายเป็นหนังโรแมนติก-แฟนตาซี ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในใจเรา
เรื่องที่ 4 ขอเชียร์ The Favourite ชิงดีชิงเด่นกันร้ายเว่อร์แบบมีคลาสสุด ๆ สนุกและเข้าถึงง่าย ติดทะลึ่งหน่อย ๆ เป็นความบันเทิงที่คุ้นเคยบนโปรดักชั่นแบบหนังพีเรียดชั้นดีสมราคาเข้าชิงออสการ์ สามนักแสดงนำทำหน้าที่กันได้ดี ความร้ายของทั้งเรเชล ไวสซ์ และเอ็มม่า สโตน เวลาแย่งกันเป็นคนโปรดของโอลิเวีย โคลแมน ทำได้ชวนขำและดำดิ่งสู่ก้นบึ้งหัวใจได้ครบรส ยิ่งพอไปอ่านเจอประวัติยุคนั้นคร่าว ๆ ยิ่งรู้สึกว่าหนังเอาข้อเท็จจริงมาขยายใส่สีตีไข่เล่าสไตล์เรื่องซุบซิบในวังได้เยี่ยมมาก มันไม่ใช่แค่หนังที่พูดเรื่องผู้หญิงตบตีแต่ยังแทรกการเลือกข้างทางการเมืองของสองคนโปรดที่มีอิทธิพลต่อควีนแนบเนียนมาก
เรื่องที่ 5 ไม่เชียร์ไม่ได้ Shin Godzilla มันคือก็อดซิลล่าเวอร์ชั่นที่ถูกใช้เป็นตัวแทนของหายนะสเกลใหญ่โตจนก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหนังก็พาเราไปดูการทำงานของภาครัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ในการรับมือวิกฤติที่ไม่เคยมีปรากฎในคู่มือใด ๆ มาก่อน ตรงนี้เองที่ทำให้ Shin Godzilla กลายเป็นโฆษณาชวนเชื่อโชว์พลังการประสานงานของหน่วยงานต่าง ๆ แบบญี่ปุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม ยิ่งถ้าใครเคยเห็นคนญี่ปุ่นรับมือกับวิกฤตสึนามิ, กัมมันตภาพรังสีรั่ว, แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จะยิ่งอินกับหนังเพราะพวกเขาสามัคคีรวมพลังกันสร้างชาติใหม่ได้ตลอดจริง ๆ
เรื่องที่ 6 หนังยาว 2 ชั่วโมงครึ่งแล้วไง Ford v Ferrari การกำกับเหมือนแข่งรถเลย ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะต้องเร่งความเร็วทะยานไปข้างหน้าตลอดการแข่ง มันต้องมีช่วงผ่อนช่วงเร่งที่แม่นยำ ตอนแรกกังวลกับความยาวหนังแต่พอดูจริงเพลินมาก เวลาผ่านไปเร็ว เล่ากระชับ โฟกัสเส้นเรื่องหลักคงเส้นคงวา ที่ได้ลุ้นมากคือการแข่งสนามสุดท้ายที่จัดเต็มความยาวและความแรงเต็มเหนี่ยว ดู ๆ อยู่อาจมีเผลอเหยียบคันเร่งกันเลยทีเดียว
เรื่องที่ 7 Jojo Rabbit ถ้าบอกหนังนาซีอาจจะดูไกลตัวไปหน่อย แต่ถ้าบอกว่าหนังผู้ใหญ่คลั่งชาติล้างสมองเด็กให้มีความคิดเหยียดชาติพันธุ์ ยัดเยียดความรุนแรง ลดทอนความเป็นมนุษย์ อันนี้จะดูใกล้ตัวขึ้นมาเลย การใช้อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ มาเป็นเพื่อนในจินตนาการของเด็กคลั่งไคล้สวัสดิกะ คือการให้เด็ก เกิดความเอ๊ะ สงสัยความถูกต้องของสิ่งที่ถูกสอนมาหรือความเชื่อที่ฝังแน่นในหัว คือการละลายอคติของเชื้อชาติลงเมื่อได้สัมผัสตัวตนกันจริง ๆ ตอนแรกคิดว่าหนังจะตลกกว่านี้ แต่พอดูจริงมันออกแนวคอมเมดี้แบบการ์ตูนมากกว่าจะเป็นตลกขำก๊าก
เรื่องที่ 8 The Martian ชอบตรงที่มันเป็นไซไฟที่สมจริงมากจนจับต้องได้ว่าสามารถทำได้จริง ด้วยความที่เทคโนโลยีในหนังทั้งหมดมันมีอยู่จริง แถมทฤษฎีและภาคปฏิบัติต่าง ๆ ยังน่าเชื่อถือในความเป็นไปได้ และคนเขียนบทยังเก่งในการทำให้เรื่องฟิสิกส์วิทยาศาสตร์ฟังดูยุ่งยากให้เข้าใจง่าย ทั้งหมดนี้มาในรูปแบบหนังมนุษย์ติดดาวอังคารต้องเอาตัวรอดหาทางกลับโลกที่สนุกในความสมจริงคู่ควรกับการยกย่องให้เป็นไซไฟชั้นเลิศ
เรื่องที่ 9 คลาสสิก ต่อให้โดนสปอยล์แล้วก็มานั่งจับผิดดู The Sixth Sense กันได้ ส่วนตัวดูแบบรู้ตอนจบแล้วเหมือนกัน ใครอยู่ยุคนี้คงรอดยาก ตอนนั่งดูเลยเน้นศึกษาเทคนิคล่อลวงคนดูให้ติดกับดักของหนัง ก่อนสร้างความประหลาดใจให้คนดูด้วยฉากหักมุมที่ยอดเยี่ยม รับประกันว่าต่อให้โดนสปอยล์มาแล้วก็ยังไม่ควรพลาด
เรื่องสุดท้ายต้องเชียร์เช่นกัน คือ Kim Ji Young, Born 1982 เป็นหนังที่ดูแล้วยิ่งเห็นด้วยเลยว่าความเท่าเทียมระหว่างเพศชายและเพศหญิง ไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยง่ายถ้าหากสังคมชายเป็นใหญ่ไม่ช่วยกันสนับสนุนให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ดูแล้วมีความหวังว่าค่านิยมกดทับเพศหญิงจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละ generation จากเพศหญิงที่เป็นพลังช่วยเหลือกัน และจากเพศชายที่เข้าใจโลกผู้หญิงมากขึ้น มันควรจะจบสิ้นได้แล้วสำหรับสังคมกล่าวโทษเพศหญิงในฐานะเหยื่อเป็นฝ่ายผิด (เรียนพิเศษไกล/กลับดึก/กระโปรงสั้น/สบตาเพศตรงข้าม) พวกเธอควรมีอิสระในการดำเนินชีวิต ส่วนพวกผู้ชายที่ผิดต่างหากที่ไม่ควรมีข้ออ้างใด ๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้หนังจะนำเสนอภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (postpartum depression) แต่ถ้าดูชีวิตของเพศหญิงในสังคมชายเป็นใหญ่คงไม่ต้องรอให้กำเนิดบุตรก็เครียดหนักได้เหมือนกัน ทั้งจากครอบครัวในฐานะลูกสาว / คำสอนของครูในโรงเรียนที่ให้สำรวม / หลายอย่างในที่ทำงาน / สังคมแวดล้อมนินทาการต้องเลี้ยงลูก / ความอับอายในฐานะเหยื่อ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังเรื่องนี้จะช่วยทำลายกำแพงค่านิยมระหว่างเพศ เช่นผู้หญิงต้องเลี้ยงลูก หรือเป็นลูกสาวต้องทำงานบ้าน และนำไปสู่สังคมที่ความเท่าเทียมระหว่างเพศเป็นจริงขึ้นได้
----------
เรื่องอื่น ๆ ที่มีให้ดู เช่น
- หนังออสการ์ Parasite
- สารคดีไต่ผามือเปล่า Free Solo
- Dead Poets Society
marvel ทุกเรื่อง 在 รวมภาพยนตร์ Marvel ในจักรวาล MCU ทั้ง... - All Things ... 的推薦與評價
รวมภาพยนตร์ Marvel ในจักรวาล MCU ทั้ง Phase 1-3 #PHASE1 1. Iron Man (2008) 2. ... แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นเรื่องอะไรบ้าง ... ดูทุกเรื่อง. ... <看更多>