ทำคอนเทนท์อะไรดี คิดไม่ออก?
5วิธีทำคอนเทนให้ไม่มีทางตันอีกเลย
ตลอดชีวิต
(ฉบับใช้ได้จริง ทำจริง ไม่มโน)
Ver.สำหรับพี่น้องที่ชอบการอ่าน
ผมแกะมาให้เพื่อพี่น้องที่ชอบอ่าน
(ใครชอบดูเป็นคลิปสามารถไล่ดูได้
ในวีดีโอหน้าเพจ)
ผมได้รับคำถามจากพี่น้อง
จำนวนมาก
เพราะถ้าทุกคนตามมาตลอด
จะเห็นว่าผมอ่านเองทุกคอมเม้น
ผมได้รับคำถามยอดฮิตอีกอัน
เป็น1ในTop5คำถามยอดฮิต
คือ...
เปิดเพจมาแล้วเนี่ย
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
คิดไม่ออก
ตันไปหมด
—————
ตอนนี้
จะขายเสื้อผ้า
จะขายรถยนต์
เป็นเซล
หรือเป็นเจ้าของโชว์รูม
เป็นนายหน้าอสังหา
เปิดร้านอาหารสืบทอดครอบครัว
หรือขายอาหารสัตว์
ขายservice
เช่น
รับทำสระว่ายน้ำ
ฉีดปลวก
—————
ตอนนี้เปิดเพจมาแล้วเนี่ย
ฟังเอเท็นมาจนตอนนี้เริ่มทำแล้ว
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ปัญหาใหม่คือ...
ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
นึกไม่ออกไม่รู้จะPostเรื่องอะไร
จะเอาเรื่องอะไรไปทำบทความ ทำคลิป?
ช่วยบอกหน่อยได้ไหม?
———
ผมอยากบอกว่า
นี่ก็เป็นปัญหาระดับชาติเลยนะ
ผมเองตอนเปิดเพจใหม่ๆ
สมัยก่อน
นี่ติดคำถามนี้อยู่เป็นเดือนๆนะ
คือคนเราไม่มีประสบการณ์ไง
เคยแต่ขายOffline
สมัยก่อนขายรถ
แล้วเป็นลูกจ้างเค้า
ทำการตลาดก็ไม่เป็น
บริษัทเค้าเป็นคนทำ
ก็เลยทำได้แต่ขายๆๆ
รอลูกค้าเดินขึ้นมาหาอย่างเดียว
(แรกๆพอมาOnlineก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน)
———
แต่7-8ปีก่อนก็ได้รู้ว่า
คนเริ่มซื้อของทางOnline
และในอนาคต
คนจะซื้อของทางOnlineเป็นเรื่องปกติ
วันนั้นถ้าเราทำOnline
เปิดเพจทำการตลาดOnlineได้
เรามีโอกาสจะได้ลูกค้าจากทั่วประเทศ
ได้รายได้ที่มากขึ้นได้
เป็นข้อได้เปรียบ
แต่ถ้ากลับกันโลกมันเคลื่อนไปจนถึงจุดที่
ทุกคนทำขายOnlineกันหมด
แต่วันนั้นเราไม่ทำ
มันจะไม่ใช่แค่ไม่ได้รายได้เพิ่มจากOnline
แต่เราจะถูกOnline ดึงลูกค้าไปหมด
————————
เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆผมก็
มาเลย
มาขายแบบยุคเก่า
ก็มาขายตรงๆเลย
หรือไปPostตามกลุ่ม
ไปฝากแปะตามPostชาวบ้านเค้า
ว่าเรามีโปรโมชั่น ถูกกว่า ดีกว่า
ก็ได้ยอดมาบ้าง
โดนเตะออกมาบ้าง
จนถึงวันนึงที่เริ่มตัน
เริ่มได้ผลน้อยลง
เริ่มเห็นสัญญาณอะไรบางอย่าง
เลยเริ่มได้รู้ว่า
ถ้าเราจะอยู่ได้จริงๆบนOnline
มันจะต้องไม่ใช่แบบนี้
ที่จะมาPostขายตรงๆ
ไปแปะรบกวนตามกลุ่มชาวบ้านเค้า
หรือยิงแอดขายหน้าเพจ
Ok ตอนนั้นอาจจะได้
เพราะมันไม่มีใครมาขายเยอะ
————
แต่ถ้าวันนึงคนมาขายเยอะกว่านี้ล่ะ?
Choice Crisisเกิด
ซึ่งวันนั้นมันมาแน่นอน
วันนั้นเราจะทำยังไง?
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
ถูกบล็อคถูกเตะออกจากกลุ่ม
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
ถูกคนที่ขึ้นมาขายใหม่ๆ
เค้าอยากได้ลูกค้า
ก็ยอมเข้าเนื้อลดมากกว่า
จนผมอยู่ลำบากขึ้น
ผมเห็นภาพอนาคตตัวเอง
มีเพจที่ต้องยิงแอดมากขึ้นเรื่อยๆ
จนเริ่มที่จะไม่คุ้มทุน
ผมมองว่า
การที่เราอยู่แบบนี้
นี่ไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง
—————
จนราว7ปีที่แล้วผมไปเจอเพื่อนคนนึง
ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนของผม
เค้าชอบกินไวน์มาก
แล้วเค้าก็เปิดคลิปของ
Gary vee ดูอยู่
ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้จัก
เค้ามาโชว์ชิมไวน์
โชว์ว่าไวน์ไหนอร่อย
ไวน์ไหนเหมาะกับโอกาสอะไร
ไวน์ตัวไหนใช้ในงานไหน?
มีเป็น100วีดีโอ
(จริงๆเพื่อนผม
ไม่ได้ชอบกินไวน์
แต่ว่าที่พ่อตามันชอบไวน์เว้ย)
มันก็เลยต้องศึกษา
มันก็ไปหาข้อมูล
ก็มีแต่คนขายๆๆ
มือใหม่มันแยกไม่ออก
จนมาเจอyoutube ของGary V
มันก็เก่งขึ้นเลย
เอาใจพ่อตามันได้
แล้ววันนั้นผมปิ๊งไอเดีย
อะไรบางอย่างขึ้นมา
มีสมมุติฐานบางอย่างในใจ
ว่ามันใช้สิ่งที่ผมคิดไหม?
ผมเลยถามไปว่า
แล้วมึงซื้อไวน์ที่ไหน?
แล้วมันก็บอกสั่งในเวป
ผมถามเวปอะไร?
มันก็บอกว่า...
Wine library
พอผมเข้าไปดูเท่านั้นแหละ
หน้า gary vee โผล่มาเลย
ผมถามว่ามันคือของ gary v เหรอ
มันบอกใช่
ผมถามทำไมมันถูกเหรอ?
เพื่อนบอกเปล่าก็
ไม่รู้ดิ
อยากซื้อที่นี่
เค้าก็ให้ข้อมูลดี
—————
วันนั้น
“ผมได้จุดเปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่เลย”
ถ้าวันนั้นผมขายรถ
ถ้าเราจะเปิดเพจ
แล้วถ้าเราคิดแต่จะขาย
เหมือนทั่วไป
เพื่อนผมหรือคนอื่น
ก็คงไม่มีทางซื้อกับผมแน่นอน
เพราะคนส่วนใหญ่
ที่ไม่มีความรู้
เค้ามักจะไม่ซื้อเลยทันที
ต้องหาข้อมูลก่อน
แต่เราไม่มีอะไรเลย
ถ้ามาถึงเจอเพจผม
ที่มาถึงขายๆๆ
ไม่มีอะไรให้ติดตาม
เพื่อนผม
หรือคนที่จะซื้อไม่เอาแน่นอน
และคงไม่ตามเพจต่อด้วย
——
แต่ตรงกันข้าม
กับกรณี ร้านไวน์
มันคือการ Educateตลาด
มันคือให้ how to แก้ปัญหาให้ลูกค้า
หรือจะพูดง่ายๆ
เราเป็นห้องสมุดของลูกค้า
แล้วเค้า ไม่ได้ขายอะไรเลยนะ
แต่เค้าเหมือนทำห้องสมุด
รวมรวมhow to
ให้สำหรับคนชอบกินไวน์
คนกินไวน์ไม่รู้ อะไรบ้าง?
ไม่เข้าใจอะไรบ้าง?
ตั้งแต่ไม่เคยกินเลย
ไม่เข้าใจวัฒนธรรม
ไม่รู้เรื่องความแตกต่างของชนิด
แม่งเป็น1,000ปัญหา
เหมือนเราเข้าไปชมนิทรรศการไวน์
ได้รู้เรื่องใหม่ๆ ได้แก้ปัญหาตัวเองได้
แล้วพอถึงจุดนึง
อยากซื้อ
ก็ซื้อกับเค้านี้แหละ
————
วันนั้นผมบอกตัวเองเลยว่า
นี่แหละ Game Changer
ที่เราหามานาน
ผมจะไม่ขายอย่างเดียวแล้ว
เพราะแบบนั้น
วันนึงChoice crisisมา
ผมจะไม่ต่างกับใครเลย
แล้วจะตายในที่สุด
————
เพราะฉะนั้น
ผมจะสร้างห้องสมุด
ของลูกค้าผม
ผมListทันทีเลยว่า
ห้องสมุดของคนซื้อรถล่ะ?
มีอะไรบ้าง?
คนที่ไม่เคยมีรถเลย
ปัญหาเพียบเลย
คนที่ได้รับรถไปแล้ว
แต่เป็นรถคันแรก
เค้ารู้ไหมต้องทำอะไรบ้าง
โหปัญหาเพียบเลย
ผมทำเลย
(เลิกไปแปะขายดื้อๆแล้ว)
สมัยก่อนผมทำสิ่งนี้แหละ
แล้วในเวลาไม่นาน
มันเปลี่ยนการขายผมไปเลย
—————
จนตอนหลังผมถูกคน
บอกมาสอนเรื่องพวกนี้หน่อย
ผมถ่ายทอดให้เพื่อนที่ขายรถ
เอาไปทำ
วันนี้เค้าไม่ต้องไปยืนขาย
ก็อยู่ได้แล้ว
เพราะลูกค้ามามหาศาลทางออนไล
ผมให้คนที่เป็นนายหน้า ตัวแทน
และเพื่อนๆที่รู้จักในวงการ
พอเค้าทำวิธีนี้
เป็นห้องสมุดของลูกค้าเค้า
ภายหลังชีวิตเปลี่ยนหมดเลย
จนผมถูกถามเยอะมาก
ให้มาไปแชร์เรื่องทำการตลาดOnline
มันก็กลายเป็นอีก1ธุรกิจ
จนตัวผมเอง
ก็ต่อยอดมาถึงวันนี้
—————
และธุรกิจนี้ของผม
ผมก็ทำเช่นเดียวกัน
ผมช่วยเหลือการด้านตลาดOnline
ให้คนที่มีธุรกิจแล้ว
ต่อยอดโตขึ้นได้
ทุกวันนี้เนี้ย
ผมก็ทำห้องสมุดของผม
ช่วยนักธุรกิจต่อยอดโต
ทุกปัญหาอะไรที่พี่น้องเป็นกัน
ผมก็ทำคลิป
ทำบทความ
ออกมาแชร์แก้ปัญหาพี่น้อง
ผมทำเพจนี้มาจะครบ7ปีแล้ว
ถึงวันนี้
พี่น้องเคยเห็นผมหยุดPostไหม?
7ปี หรือ2,000กว่าวันที่ผ่านมา
ทำไมผมไม่เคยตันในการ
ทำ Contentเลย?
สงสัยไหม?
เพราะอะไร?
เพราะปัญหาของคนมันมีตลอดเวลาไง?
เห็นภาพไหมครับ?
————
เพราะฉะนั้น
กลับไปที่คำถามวันนี้
ขึ้นมาทำ Online เต็มตัวแล้ว
แต่ไม่รู้จะทำคอนเทนอะไร?
ทำยังไงให้คอนเทนต์ไม่ตัน
ผมแชร์ในฐานะ
คนที่ทำเพจมาเกือบ7ปี
แล้วทำคอนเทนได้ทุกวัน
แชร์จากการทำจริง
จากผลลัพธ์ของจริง
ทุกคนที่รู้จักผม
ที่มาปรึกษา หรือPrivate
เรื่องการทำเพจ
จะให้ผมแชร์เรื่องนี้เสมอ
เค้าอยากรู้ว่า
ผมทำContentได้ยังไงทุกวันเกือบ7ปี
โดยไม่เคยตัน
เพราะฉะนั้น
แน่นอน
วันนี้ผมเอาสิ่งนี้มาให้พี่น้องด้วย
แล้วผมรับรองเลยว่ามันจะเปลี่ยน
ทั้งmindset และผลลัพธ์
—————
5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
ข้อที่
1.เปลี่ยนจุดศูนย์กลางใหม่
ถ้าใครฟังคลิปผม
แทบทุกคลิปเลย
ผมจะให้แก่นกับพี่น้องเสมอว่า
“แก่นของการทำธุรกิจ
คือการตอบโจทย์ลูกค้า”
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะทำธุรกิจ
ไม่ใช่focusว่าจะขายอะไร?
ถ้าคุณตั้งต้นแบบนี้
มันก็อินดี้ไง ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง
เข้าใจไหม?
เพราะตั้งโจทที่
คุณตอบโจทย์ตัวเอง
แต่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า
ไม่ได้เริ่มต้นมองจากลูกค้า
แล้วจะไปหวังให้คนซื้อได้ยังไง
ถูกไหม?
แต่ถ้ากลับกัน
คุณไปดูว่าผู้คนเค้ามีปัญหาอะไร?
แล้วเราเซิฟสิ่งนั้นได้
หรือเรามีสิ่งนี้อยู่
แล้วไปเช็คตลาด
หรือมองแล้วว่า
เราEducateตลาดได้
โอกาสที่เป็นจริงมันก็มากกว่า
————
เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจ
เราจะได้กำไรได้ก็ต่อเมื่อ
ลูกค้าเค้าต้องซื้อคุณ
ในอีกแง่นึงคือ
เราก็ตอบโจทย์เค้าได้นั่นแหละ
เพราะฉะนั้น
“คุณต้องตั้งต้นด้วยลูกค้า”
ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้าก็จริงๆ
แต่จริงๆ
ลูกค้าคือจุดศูนย์กลางเลย
อย่าFocusที่ตัวเอง
Focusไปที่ลูกค้า
ใครที่หาธุรกิจอยู่แนะนำไปดู
(คลิปที่ชื่อว่า4วิธีหาไอเดียทำธุรกิจ)
(ver.เจาะลึก ไม่มโน)
เช่นกัน
ในแง่การทำคอนเทน
วันนี้
คุณขายอะไรอยู่
จะขายเสื้อผ้า
จะขายรถยนต์
เปิดโชว์รูมรถยนต์
เป็นนายหน้าอสังหา
เปิดร้านอาหารสืบทอดครอบครัว
หรือขายอาหารสัตว์
ขายservice
ทำสระว่ายน้ำ
ฉีดปลวก
ต้องเลิกถามตัวเองแบบ
จะทำคอนเทนอะไรดี
แล้ว...
———
ไปทำข้อ
2.คือ
ถามคำถามใหม่กับตัวเองว่า
“ลูกค้าเรามีปัญหาอะไรบ้าง”
เค้ายังไม่รู้หรือไม่เข้าใจอะไรอยู่
หรือขาดความรู้อะไรอยู่
เช่น ฉีดปลวก
มีปัญหาอะไรว่ะ?
เค้ามีเด็กเล็กกลัวเคมีหรือเปล่า
ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนฉีดปลวก
มีสัตว์เลี้ยงรึเปล่า
ต้องทำยังไงก่อนหรือหลังฉีด?
มีผู้สูงอายุไหม ต้องทำยังไง ปลอดภัยไหม?
บ้านปูน บ้านไม้ต่างกันยังไง
น้ำยาเคมีแบบไหน
การเตรียมตัว
ควรรื้อทิ้ง หรือยังซ่อมได้
ปลวกขึ้นฝ้า
มีเป็น100 ปัญหานะ
เห็นไหม?
—————
เห็นพี่ตัวอย่างพี่น้อง OTO เกษตรกล้าไหม?
จริงๆเค้าทำเรื่องเกษตรนะ
เรื่องปลูกผลไม้
แต่50กว่าวันที่ทำเพจไป
คนติดตามจะ20,000แล้ว
ตัวเค้ายังพูดเรื่องทุเรียนไม่หมดเลย
เพราะปัญหามันมีเยอะ
เกษตรกรมีปัญหาอะไรล่ะ ?
เนี่ย คอนเทนทั้งนั้น
วันก่อนผมเจอคำถามว่า
เลี้ยงวัวขาย หรือขายอาหารวัว
จะทำคอนเทนยังไง?
ลองไปดูพี่น้องที่เพิ่งเข้าไปเรียนOTO
ได้ยังไม่ถึงเดือน
เพิ่งเริ่มทำเพจ ที่ชื่อว่ารู้รอบตอบโจทวัวขุน
ตอนนี้เพจยังไม่โต
แต่ก็1,000กว่าคนติดตามแล้ว
แต่ทำไมเค้าทำ คอนเทนได้ทุกวัน?
เห็นภาพไหม?
เพราะเค้ามองไปที่ปัญหาของลูกค้า
ว่ามีอะไรบ้างที่ยังไม่ได้รับคำตอบ
เค้าก็เอามาทำ
ซึ่งมันมีเยอะมาก
————
ในคลาสOnline Take Over
มีธุรกิจแทบทุกวงการเลย
เพชร จะทำคอนเทนอะไร?
ลูกค้าซื้อเพชร
เค้าอยากได้อะไร?
บางคนบอกวิธีดูเพชร
พูดไป20คลิปก็หมดแล้ว
อย่าไปมองแบบนั้นดิ
มองให้ลึกไปอีกสิ
เพชรแบบไหน เข้าชุดอะไร
เข้ากับโอกาสแบบไหน
เนี่ยก็ทำได้
ไปดูพี่น้อง1 Year และ OTO
เค้าชื่อน้ำตาล
เจ้าของร้าน เพชร นพรัตน์
เค้าก็ทำคอนเทนได้ไม่รู้จบ
————
ถ้าเรามองที่ปัญหาลูกค้าจริงๆ
พี่น้องในOTO ที่ตอนนี้ที่กำลังทำเพจ
มีหลายธุรกิจเต็มไปหมดเลย
คลีนิคคุณหมอ รักษาผิว
รักษาเบาหวาน
สักคิ้ว
ขายกล้อง
ทำฟิตเนส
หมอฟังเข็ม
หมอฟัน
ร้านอาหาร
นายหน้าอสังหา
ร้านทอง
ติวเตอร์
ร้านสูท
Expert Biz ทั้งหลายเป็น100คน
หรือเรื่องภาษี
ทำไมเค้าทำคอนเทนได้ตลอดเวลาไม่ตัน?
เพราะเค้าFocusที่ปัญหาลูกค้า
ตราบใดที่ลูกค้ายังมีปัญหา
คอนเทนท์ก็ไม่มีทางตัน
—————————
ข้อ3.ลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์ของContent
ยิ่งถ้าวันนี้คุณมีลูกค้า
หรือเคยขายอยู่แล้วยิ่งสบาย
ที่ผ่านมา
ก่อนเค้ามาใช้บริการคุณ
หรือซื้อคุณ
เค้าเคยถามเคยมีปัญหาอะไร้บาง?
เช่น
ผมไล่นึกเลยลูกค้าเก่าที่เคยซื้อรถไป
ก่อนหน้านั้นเค้าเคยถามอะไร
เคยมีปัญหาอะไรที่เราเคยตอบไปแล้ว
ช่วยเค้าไปแล้ว
เช่นเลือกไม่ถูก?
ไม่รู่ว่ารุ่นไหนเหมาะกับเค้า?
สัดส่วนรถ
ข้อดีข้อเสีย?
รีโมทเปลี่ยนถ่านเองยังไง
ดิสเบรคเป็นสนิม ปกติไหม?
เศษหินติดดอกยางรถ จะระเบิดไหม
ต้องแคะไหม?555
เรื่องพวกนี้
เพียบเลย เอาจริงๆหลายร้อยๆ
แต่มันเป็นปัญหาเค้าจริงๆนะ
คำถามไหนที่ผมเคยถูกถามไว้
ผมก็นำมาทำเป็นบทความเป็นคลิป
ก็รวบรวมเป็นห้องสมุดของลูกค้าผมเลย
ช่วยลูกค้ารายใหม่ๆได้
เค้ายังไม่ซื้อเราวันนี้
แต่เค้ามาศึกษาจากห้องสมุดของเราไปก่อนได้
วันที่จะซื้อ เราก็เป็นตัวเลือกต้นๆ
———
มีอะไรอีกขายเพชร
เช่นลูกค้าเคยถาม
เพชรอันนี้มันจะเข้ากับโอกาสนี้ไหม?
มันใหญ่ไปไหม?
เข้ากับเสื้อผ้าอะไร
แหวนหมั่นแหวนแต่ง
ควรแบบไหน
(เนี่ยปัญหา)
ผมอยากได้เสื้อสูทไปงานที่มีผู้ใหญ่ในสังคม
แต่ไม่รู้จะใช้สีอะไรดี ผ้าอะไรดี?
ปกคอแบบไหนเหมาะกับโอกาสอะไร
หรือสรีระเราเหมาะกับแบบไหน
(เนี่ยปัญหา เอามาทำ)
กระเป๋านี้ใส่ของได้ยาวกี่เซ็นกี่นิ้ว
ใส่macbookได้ไหม
ควรเลือกยังไงดี?
วัวไม่กินอาหาร?
ทุเรียนเป็นราแก้ยังไง?
พวกนี่ปัญหาทั้งนั้น
คนอื่นมันก็เป็น
เอามาทำสิ
สิ่งที่ลูกค้าเก่าเคยเป็นปัญหา
เราแก้ให้เค้าไปแล้ว
เราก็เอามาเป็นตำรา
เอามาสะสมเป็นห้องสมุด
ช่วยลูกค้าใหม่
รวบรวมเป็นห้องสมุด
สำหรับลูกค้าที่สนใจเรื่องนั้น
เห็นภาพไหม?
————
คุณลองคิดดูนะ
คุณเองก็มีปัญหา
บางทีจะซื้ออะไร
มีแต่คนขายๆๆ
คนไปดูเพจก็ไม่มีอะไรเลย
มีแต่ขาย
แล้วคุณก็ไม่สนใจ
หนีไปดูเจ้าอื่น
แล้วก็ลืมเค้าไปแล้ว
(ลูกค้าคุณก็คิดแบบนี้กับคุณเช่นกัน)
———
แต่ถ้ากลับกัน
คุณเห็นPostๆนึงของร้านขายสูท ขายชุดออกงาน
น่าสนใจ
ตามเข้าไปดูเพจเค้า
เห้ยแตกต่าง
ไม่ได้มีแต่Postขายๆๆๆ
(ปกติเจอแบบนี้เด้งออกมาแล้วถูกไหม)
แต่ไม่ใช่เว้ย
เข้าไปปุ๊บมีเรื่องให้อ่าน
มีคลิปให้ดูให้เราเข้าใจมากขึ้น
ว่าไปงานนี้ใส่อะไร
ไปงานนี้แต่งแบบไหน
สีอะไรขับความหล่อ สวยของเรา
การตัดเย็บแบบไหน
เราอาจจะไม่ได้ซื้อวันนั้น
แต่เมื่อเราจะซื้อขึ้นมา
ร้านนั้นเด่นขึ้นมาในใจทันทีถูกไหม?
ลูกค้าคุณก็เช่นกัน
เค้าก็คิดแบบนั้นอยู่
จริงๆนี้ผมพูดเกินกว่า
เรื่องหาคอนเทน
ไปเยอะเลยนะ
นี่พูดไปถึงจิตวิทยาเลย
เป็นของแถมไปละกัน555
จริงๆมาถึงแค่ข้อนี้
คอนเทนมหาศาลแล้วถูกไหม?
แค่เรากลับไปที่แก่นของการทำธุรกิจ
ลูกค้าเป็นศูนย์กลางของการทำคอนเทนคุณ
และลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์อันล่ำค่า
ที่มอบคอนเทนดีๆให้กับคุณ
จงใส่ใจลูกค้า
คลุกคลีกับลูกค้า
ดูแลลูกค้าที่ขายไปแล้วให้ดี
Thx economyกับเค้า
ธุรกิจคุณจะเติบโตก้าวกระโดด
และcontent คุณจะไม่มีวันตัน
—————
ข้อ4 แวดล้อมตัวเองไปด้วยคนที่ทำธุรกิจ
ถ้าคุณแวดล้อมตัวเองด้วยคนที่ทำธุรกิจ
มันจะช่วยได้มหาศาลเลย
ทั้งเรื่องไอเดียมุมมอง
ถ้าอยู่ในกลุ่ม
ธุรกิจแบบเดียวกับที่คุณทำ
คุณก็จะได้ปัญหาเชิงลึก
จากเค้า
เช่นเค้าเจอเคสอะไรมา
แก้ยังไงไป
นี่ก็เป็นไอเดียในการมาทำคอนเทน
แบบเชิงลึก
หรือ
แวดล้อมด้วยคนในธุรกิจอื่นๆอันนี้ก็ดี
เพราะมันจะทำให้เห็นภาพกว้าง
มันจะมีอะไรมาadaptได้เสมอ
อย่างพี่น้องในOTO
มีหลายธุรกิจมาก
ไอเดียเต็มไปหมด
เอาไอเดียมาAdapt ใช้กันได้
เพราะมันธุรกิจเหมือนกัน
——
คนทำร้านเพชรก็ได้ไอเดีย
จากธุรกิจเสื้อผ้า
คนทำร้านเสื้อผ้าก็ได้ไอเดีย
จากธุรกิจเครื่องประดับ
ไอเดียบางอันมันCrossกันได้
หรือใน1 year แต่ละคนมีของทั้งนั้นเลย
เค้าก็ช่วยกันมองหน้ามองหลัง
และแนะนำกัน
มันก็เลยไปเร็วไง ไฟลุกตลอด
และContentก็ไม่มีทางตัน
ขอให้ถามขึ้นมาเถอะ
รุมช่วยกันใหญ่
--------
เพราะฉะนั้น
ถ้าคุณทำเพจ
และถ้าคุณหากลุ่มที่เค้าทำธุรกิจเก่งๆอยู่ด้วย
คลุกคลีกัน
มันจะช่วยคุณได้มาก
เพราะเหมือนเรามีตารอบทิศช่วยกันมอง
ในมุมที่เราไม่เห็น
ผมทำแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มทำOnline
มีกลุ่มมีเพื่อนที่เค้าทำเหมือนกัน
ช่วยได้เยอะมาก
ลองทำดูคุณจะเห็นความมหัศจรรย์
คุณจะไปหาเอง
หรือคุณอยากจะมาจอยในOTO
แชร์ไอเดีย
กับพี่น้องที่ทำเพจร่วม1,000คนก็ได้
หรือถ้าคุณมีธุรกิจมาอยู่แล้วระดับนึง
อยากจะมาจอยใน1yearCLUB
ที่มีพี่น้องเจ๋งๆที่ทำธุรกิจ
ก็ยินดีต้อนรับครับ
————————
ข้อ5 จงตั้งเป้าไปเลยว่าจะเพจแบบยุคใหม่
ที่ไม่ใช่ขายอย่างเดียว
แต่เป็นเพจที่มีฐานแฟน
นี่เป็นข้อนึงที่จะยกระดับการทำContentคุณ
คุณจะสังเกตุเห็นว่า
วันก่อนผมPostหน้าเพจ
ถามว่าพี่น้องที่ทำเพจ
มีปัญหาอะไรบ้าง?
แล้วพี่น้องก็ตอบมาหลายร้อยข้อความ
แล้วผมก็มีไอเดียทำคอนเทน
ออกมาแก้ปัญหาให้พี่น้องได้
เนี่ยคอนเทนในวันนี้
ผมก็เอามาจากปัญหาของพี่น้องนะ
—————
พี่น้องในOTOตอนนี้
หลายคนตอนนี้มีฐานแฟนแล้ว
หลายคนเพจขึ้นไปหลัก10,000แล้ว
มีฐานแฟนเหนียวแน่น
เค้าก็สามารถpostถามฐานแฟนตัวเอง
ปัญหาอะไรที่ฐานแฟนเค้า
ยังติดอยู่
ซึ่งพี่น้องOTOหลายคนก็
ใช้วิธีนี้
ก็ได้ปัญหาดีๆมาทำคอนเทน
ช่วยแฟนๆของเค้าอีก
ถ้าเพจคุณมีฐานแฟนเหนียวแน่น
คุณก็ไม่ต้องไปหาว่า
จะทำคอนเทนอะไรจากไหนเลยนะ
คุณถามฐานแฟนคุณได้ตรงๆแบบนี้เลย
เนี่ยคอนเทนจะตันได้ยังไง?
เห็นภาพไหม?
ไม่มีทางตันเลย
คุณชอบไหมล่ะ
การที่คุณเป็นเจ้าของธุรกิจ
เป็นเจ้าของเพจ
ที่สามารถทำแบบนี้ได้
ถ้าชอบ
ก็...
“วันนี้ตั้งมันเป็น1ในเป้าหมายของคุณสิ”
ว่าเราจะทำเพจเราให้เป็นแบบนี้
เหมือนกับพี่น้องหลายคน
หรือพี่น้อง OTO
———
สรุป5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
1.เปลี่ยนจุดศุนย์กลางใหม่
(ลูกค้าคือศุนย์กลาง ไม่ใช่เรา)
2.ถามคำถามใหม่กับตัวเอง
(ไม่ใช่จะpostอะไรดี
(เปลี่นเป็นเอ้ย
ลูกค้าเรามีปัญหาอะไรบ้างนะ)
ข้อ3.ลูกค้าเก่าคือขุมทรัพย์ของContent
(ปัญหาอะไรที่ลูกค้าเก่าเคยถาม
และเราตั้งใจแก้ไขให้เค้าไปแล้ว
นั่นคือสุดยอดคอนเทนท์สำหรับลูกค้าใหม่)
(จงเอามาทำ)
(และดูแลลูกค้าเก่าให้ดี)
ข้อ4 แวดล้อมตัวเองไปด้วยคนที่ทำธุรกิจ
(เอาตัวไปอยูกับคนที่ทำเพจทำธุรกิจเก่งๆ
แวดล้อมด้วยบรรยากาศแบบนั้น)
ไอเดียทำคอนเทนดีๆหลายครั้งก็มักมาจากเพื่อน
(เหมือนเรามีตารอบทิศช่วยกันมอง
ในมุมที่เราไม่เห็น)
ข้อ5 จงตั้งเป้าไปเลยว่าจะทำเพจแบบยุคใหม่
(ที่ไม่ใช่ขายอย่างเดียว
แต่เป็นเพจที่มีฐานแฟน)
นี่เป็นข้อนึงที่จะยกระดับการทำContentคุณ
และไม่มีทางเลยที่คอนเทนจะตัน
เพราะถามแฟนๆได้ตลอด
-------
และนี่ก็คือ5วิธีทำคอนเทน
ให้ไม่มีทางตันตลอดชีวิต
(ฉบับใช้ได้จริง ทำจริง ไม่มโน)
ผมเชื่อว่า(Postนี้)จะเป็นประโยชน์กับพี่น้อง
ที่ทำธุรกิจ ทำเพจทุกคนครับ
ก็ถ้าชอบ ได้ประโยชน์
ได้ไอเดียจากคลิปนี้ก็ช่วยกดLikeให้ผม
หรือคอมเมนต์บอกกันหน่อย
จะได้ไม่พลาดคลิปหน้า
Postหน้า
ที่ผมจะคัดสรรนำมาลงอีก
แล้วก็ถ้าคุณรักใคร คุณอยากโตไปพร้อมกับใคร
ก็อย่าลืมแชร์ไปให้เค้า
เพื่อทุ่นเวลาซึ่งกันและกัน
ลุย!
A10(เอเท็น)
iClass
Online Take Over
1 Year Club
สังคมแห่งความเป็นไปได้
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過241萬的網紅Mindset TV,也在其Youtube影片中提到,แม่ยายมาแล้วจ้าาา วันนี้แม่ยาย ของนำเสนออาหารเม็กซิกันสูตร พิเศษตามใจแม่ยายให้พวกเราได้ทำตามกัน มาดูกันว่าอาหารเม็กซิกันที่ว่าจะเป็นอะไร และจะเด็ดสมเ...
「mindset มีอะไรบ้าง」的推薦目錄:
- 關於mindset มีอะไรบ้าง 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最佳解答
- 關於mindset มีอะไรบ้าง 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於mindset มีอะไรบ้าง 在 Fit Kab Dao Facebook 的精選貼文
- 關於mindset มีอะไรบ้าง 在 Mindset TV Youtube 的精選貼文
- 關於mindset มีอะไรบ้าง 在 Paul Pattarapon พอล ภัทรพล Youtube 的最佳解答
- 關於mindset มีอะไรบ้าง 在 MONEY HERO Youtube 的最讚貼文
mindset มีอะไรบ้าง 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
สรุป แนวคิดอนาคตแพลตฟอร์มไทย จากคุณยอด CEO ของ LINE MAN Wongnai
เมื่อคืนที่ผ่านมา ลงทุนแมนมีโอกาสได้เข้าไปฟังเรื่องราวน่าสนใจใน Clubhouse
ในห้องที่มีการพูดคุยถึงประเด็น อนาคตของแพลตฟอร์มไทย “LINE MAN Wongnai”
โดยมี คุณยอด ชินสุภัคกุล CEO ของ LINE MAN Wongnai เป็นผู้ฉายภาพให้ผู้ฟังกว่า 1,000 คนได้ฟังกันแบบสด ๆ
เรื่องราวนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
“หลังจากทำงานมากว่า 5 เดือน ผลลัพธ์ดีกว่าที่เราคิดไว้”
และวิกฤติโควิด 19 เป็นแรงกระตุ้นสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจ Food Delivery เติบโตอย่างก้าวกระโดด
นี่คือประโยคแรก ๆ ที่ คุณยอด CEO ของ LINE MAN Wongnai ได้เล่าขึ้นมา
เมื่อถามคุณยอดว่า ตั้งแต่เกิดการควบรวมกิจการระหว่าง Wongnai และ LINE MAN อะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนไป ?
คุณยอดตอบว่า เมื่อ 2 องค์กรควบรวมกิจการเป็นหนึ่งเดียว สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ถึงจะปรับจูนวัฒนธรรมของสององค์กรเข้าด้วยกันได้
เป้าหมายของเรากับทีมงานคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทีม
โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจในทีมงานไลน์แมนว่าเป็นอย่างไร คิดเห็นอย่างไร
และเราต้องแสดงให้เห็นว่า ตัวเรามีมาตรฐานในการตัดสินใจอย่างไร แสดงความเป็นตัวตน
แสดงให้เห็น “common enemy” คือมองว่า ศัตรูอยู่ข้างนอก ไม่ใช่ภายในองค์กร
เมื่อภายในองค์กรเกิดความเข้มแข็งแล้ว การรับมือกับความท้าทายภายนอก ก็ไม่ใช่เรื่องยาก..
ในตอนนี้ธุรกิจ Food Delivery ก็ได้เติบโตขึ้นมาก
ยอดออร์เดอร์ของ LINE MAN ในปี 2563 สูงขึ้นกว่า 5 เท่า จากปีก่อนหน้า
POS (Point of sale) หรือจุดชำระเงินหน้าร้าน โตขึ้น 3.5 - 4 เท่า
รวมทั้ง ยังสามารถขยายพื้นที่บริการจนครอบคลุม 36 จังหวัด จากเดิมมีเพียง 7 จังหวัด
เรียกได้ว่า LINE MAN Wongnai เป็นอีกหนึ่งผู้ได้รับผลประโยชน์จากโควิด 19
แต่.. ก็ต้องยอมรับว่าในฝั่ง media นั้นอยู่ในภาวะชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า ในวันที่สนาม Delivey กำลังดุเดือด อะไรคือจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าเลือก LINE MAN Wongnai ?
คุณยอดบอกว่า เราให้ความสำคัญเรื่อง Choice (ทางเลือก) กับร้านอาหาร
มีให้เลือกทั้งแบบ GP หรือ Non-GP ก็ได้ ถ้าร้านอาหารมีกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว
ก็สามารถเลือกแบบ Non-GP ได้
สำหรับผู้บริโภค เรามีร้านค้ากว่า 300,000 ร้าน ตั้งแต่ถูกสุดไปจนถึงแพงสุด ให้เลือกทาน
รวมทั้งการมี “local mindset” หรือออกแบบบริการให้เหมาะกับคนในพื้นที่
ไม่ใช่แค่ระดับจังหวัด แต่จะลงไปให้ถึงระดับอำเภอ
อีกทั้งมีการใช้ Ecosystem ของ LINE ให้เป็นประโยชน์
เช่น Mini-app สั่งผ่านไลน์ได้เลย ซึ่งอยู่ในส่วนของ Wallet ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องโหลดแอปเพื่อมาสั่ง
ส่วน Restaurant solution (ระบบจัดการสำหรับร้านอาหาร) เราจะใช้ Point of sale หรือจุดชำระเงินหน้าร้านให้เป็นประโยชน์ในการดูแลร้านอาหาร เชื่อมต่อออนไลน์ ออฟไลน์ รองรับทุกการบริการให้ครบ จบในตัว
ส่วนในเรื่องของคู่แข่งและขนาดตลาด Food Delivery
ก็ยังมีโอกาสขยายตัวอีกเยอะ เพราะยังมีคนที่ยังไม่ได้ใช้งานอยู่อีกมาก
เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่า ตอนนี้เราเดินอยู่ครึ่งทางของเกม
เพราะตลาด Food Delivery เริ่มจริงจังในปี 2018 ซึ่งก็ผ่านมาเพียง 4 ปี
ยังมีโอกาสที่ Food Delivery จะโตต่อไปได้
เมื่อถามว่า อะไรคือเป้าหมายสำคัญของ LINE MAN Wongnai ?
คุณยอดตอบว่า เราต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน ว่าเราทำสิ่งนี้ไป เพื่ออะไร
ซึ่งตรงนี้เรารู้ว่า เราทำไปเพื่อให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น ร้านอาหารค้าขายได้ คนขับรถมีรายได้
คนใช้งานได้มีช่องทางสะดวกในการสั่งอาหารทานได้
มากกว่านั้น คือเราต้องการจะเป็น “E-Commerce Platform for Services”
หมายถึงรองรับรูปแบบบริการหลากหลายในอนาคต ไม่ใช่แค่เรื่องอาหาร
แต่ยังรวมถึง การขนส่งคน, การขนส่งสิ่งของ, การให้บริการสปาที่บ้าน
สิ่งสำคัญคือ การสร้างทีมงานที่เป็นคนไทย เพื่อทำบริการให้คนไทยอย่างแท้จริง
รายได้หลักตอนนี้มาจากส่วนที่เป็นดิลิเวอรีเป็นส่วนใหญ่
และถือว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงที่ดีมากขึ้น เรียกได้ว่าเข้าใกล้จุดคุ้มทุนมากขึ้น
เมื่อถามคุณยอดว่า แผนธุรกิจในปี 2564 นี้ และในอนาคต มีอะไรบ้าง ?
คุณยอดตอบว่า เราจะเปิดบริการดิลิเวอรี LINE MAN Wongnai ให้ครบ 77 จังหวัดทั่วไทย และจะเริ่มดำเนินกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น
เริ่มจากแคมเปญ “LINE MAN Food Hero” ซึ่งเป็นแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่ที่สุด
ที่ LINE MAN Wongnai เคยทำมา
โดยไฮไลต์ของแคมเปญ ก็คือ “นายฮ้อย-ล่ามทรง” นักรีวิวอาหาร
ในฐานะ Eating Master ที่จะมาเป็น “Food Hero” หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของ LINE MAN Wongnai ที่จะเป็นตัวแทนของคนธรรมดา ๆ เข้าถึงได้ง่ายในสายตาผู้บริโภค
ด้านแผนระยะยาวของ LINE MAN Wongnai
คือ “Help Thai People Live Better” หรือก็คือ ช่วยให้ชีวิตคนไทยดีขึ้น
โดยอาศัยจุดเด่นเรื่อง Ecosystem เต็มที่ครบวงจร
ใช้จุดแข็งที่เป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกันกับ LINE
เชื่อมต่อลูกค้า, คนทำงาน และธุรกิจท้องถิ่นเข้าด้วยกัน
แล้วเส้นชัยวันนี้ ของ LINE MAN Wongnai อาจไม่ใช่ ยูนิคอร์น อีกต่อไปแล้วหรือไม่ ?
คุณยอดยอมรับว่า วันนี้เราเข้าใกล้ ยูนิคอร์น มากขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วเราไม่ค่อยเห็นคนที่เป็น ยูนิคอร์น ที่พูดถึงยูนิคอร์น กันสักเท่าไร
เพราะการจะเติบโตไปให้ไกลหรือยั่งยืน ไม่ได้มีแค่ประเด็นนี้เท่านั้น
5 เดือนที่แล้ว เราเป็นสตาร์ตอัป และมีเป้าหมายจะเป็นยูนิคอร์น
ผ่านมาวันนี้ เราโตขึ้น 5 เท่าตัว และยูนิคอร์น อาจไม่ใช่เป้าหมายของเราที่ต้องการอีกแล้ว
เพราะเราต้องการสร้างคุณค่าให้กับสังคม
มากกว่าแค่การสร้างตัวเลขที่จะเป็นยูนิคอร์น..
แรงผลักดันสำคัญในตอนนี้ คือทำยังไงให้คนขับรถมีรายได้มากขึ้น
คนขายอาหาร สามารถขายอาหารได้มากขึ้น
รวมทั้ง ผู้ใช้งาน ที่อยากจะกลับมาใช้งานซ้ำไปเรื่อย ๆ
ปัจจัยเชื่อมโยงเหล่านี้ คือแรงผลักดันสำคัญในวันนี้
ที่ทำให้เราอยากจะท้าทายความสำเร็จต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคตข้างหน้า
การจะไปให้ถึงเป้าหมายใหญ่ได้ ก็ต้องฝึกการมองไปให้ไกล
แต่แน่นอนว่า ก็ยังมีทีมงานบางส่วนที่ต้องวางเป้าหมายในระยะสั้น ๆ
เพราะการทำงานต้องถูกวัดด้วย KPI ตัวเลขต่าง ๆ อีกมากมาย
แต่ในฐานะ CEO ก็ต้องฝึกให้ทุกคนมองเป้าหมายระยะยาว
ควบคู่ไปกับการทำเป้าหมายระยะสั้นให้ได้ด้วยเหมือนกัน การทำธุรกิจถึงจะไปต่อได้อีกยาว
เมื่อถามคุณยอดว่า ความเป็นผู้นำจากวันแรกถึงวันนี้ มีอะไรที่เหมือนหรือต่างจากเดิม ?
คุณยอดให้คำตอบว่า บริษัทขนาดเล็ก ที่มีพนักงาน 10 - 30 คน เราจะเน้นไปที่เรื่องของ Hard-Skills
อย่างเช่น ทักษะเฉพาะในเรื่องของการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์
เมื่อถึงช่วงที่บริษัทมีขนาดกลาง ควรเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรมากขึ้น
โดยมองหาทีมงานที่มีความเหมาะสมกับองค์กร
และปัจจุบัน ในวันที่กลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีแถวหน้าของไทย
มีพนักงานกว่า 700 - 800 คน แน่นอนว่าหลักในการบริหารจัดการต้องเปลี่ยน
ต้องใช้คนอื่น ๆ มาทำงานแทนตัวเองมากขึ้น ต้องหาวิธีในการบริหารจัดการคนเก่ง ๆ
หรือหาวิธีที่จะดึงคนเก่ง ๆ ให้เข้ามาอยู่ในบริษัท
เพื่อให้เขาเข้าไปดูแลทีมงานในส่วนอื่น ๆ ได้อย่างใกล้ชิด
แต่ส่วนที่ยังคงเหมือนเดิมก็คือ
1. ความอึด (Grit)
ไม่ว่าบริษัทจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ เราที่เป็นผู้นำก็จะต้องทำงานให้หนักและต้องไม่ยอมแพ้
แต่ก็จะต้องหาจุดสมดุลให้ตัวเองได้พัก เพราะการพักมันจะทำให้เรากลับมามีแรงมากขึ้น
2. การบอกเล่าเป้าหมายของเรา (Storytelling)
เราต้องบอกทุกคนว่าสิ่งที่เราจะไปถึงคืออะไร ทั้งตอนที่อยู่ในช่วงกำลังจะจ้างพนักงานใหม่
ตอนบริหารจัดการทีม เราต้องบอกพวกเขาให้ชัดว่าเรากำลังจะไปในทิศทางไหน
ในอนาคต คุณยอด ก็ได้วางอีกหนึ่งเป้าหมาย คือ ต้องการทำให้พนักงานมีความมั่นคงมากขึ้น
เมื่อพนักงานมีความมั่นคงในชีวิต อัตราการลาออกก็จะน้อยลง บริษัทก็จะไปถึงเป้าหมายได้เร็ว
เมื่อถามคุณยอดว่า ถ้าอยากเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในแพลตฟอร์มของ LINE MAN Wongnai ต้องมีเทคนิคอะไร ?
คุณยอดให้คำแนะนำว่า
LINE MAN Wongnai ก็เป็นเหมือนกับ Marketplace
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่จะทำให้สินค้าของเราโดดเด่นในตลาด
จะต้องให้ความคุ้มค่า ทั้งคุณภาพสินค้าและราคา
และถ้าหากว่าเรามั่นใจในคุณภาพของสินค้าแล้ว
สามารถติดต่อทีมงานของ LINE MAN Wongnai ได้ทันที
ว่ากำลังจัดแคมเปญอะไรบ้าง หรือมีอะไรที่ Exclusive หรือพิเศษ ที่จะช่วยดึงลูกค้าเข้ามามากขึ้น
ซึ่งการที่ร้านค้าเข้าร่วมในทุก ๆ แคมเปญ
ก็จะเป็นการเปิดประตู ให้ลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักแบรนด์มาก่อน
ได้เข้ามาทำความรู้จักแบรนด์
ในครั้งแรกลูกค้าอาจจะเข้ามาซื้อเพราะโปรโมชัน
แต่ถ้าเขารู้สึกว่าสินค้าของคุณคุ้มค่า มีคุณภาพ ครั้งต่อไปเขาก็จะมาซื้อกับคุณอีก
การเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ จึงถือเป็นการลงทุนให้ได้ลูกค้าประจำในอนาคต
อนาคตของสตาร์ตอัป จะเป็นอย่างไร หลังจากจบโควิด 19
และในสนามดิลิเวอรี อะไรจะเป็นตัววัดผู้ชนะ ?
คุณยอดแชร์มุมมองว่า
ในวันนี้สตาร์ตอัปแข่งอยู่บนสนามระดับโลก ตั้งแต่วินาทีแรกที่ตั้งบริษัท
ดังนั้น มันยากมากที่จะแข่งขันสู้เจ้าอื่น ๆ ได้
นอกเสียจากว่าเราจะเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก ๆ
เพราะถ้าเป็นแพลตฟอร์มอย่าง Social Media ไม่มีจุดแข็งอื่น ๆ ก็จะแข่งขันกับเจ้าใหญ่ ๆ
ที่อยู่ในประเทศไทยมานานแล้วได้ยาก
และสำหรับในสนาม Food Delivery..
สิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดผู้ชนะในมุมมองของคุณยอดก็คือ
คนที่สามารถทำให้ ผู้ใช้งาน (User), ร้านอาหาร-ร้านค้า, พาร์ตเนอร์ เช่น คนขับ
ได้ประโยชน์และได้รับความสะดวกมากที่สุด ไปพร้อม ๆ กัน
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าการทำธุรกิจ เราเดินไปถูกหรือผิดทาง ?
ในมุมมองของคุณยอด การทำสตาร์ตอัป เราต้องมีความเชื่อมั่น มีความดื้อรั้น
ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
เพราะถ้าไม่มีความเชื่อมั่น เราก็จะยอมแพ้ง่ายเกินไป
แต่ในความมั่นใจและความดื้อรั้นเหล่านี้
ต้องอยู่บนพื้นฐานของไอเดียที่ดี และการเล่าเรื่องให้เป็น
และวิธีที่จะดูว่าไอเดียเราเวิร์กหรือไม่นั้น
ให้ดูว่ามีเพื่อนหรือทีมงานเข้ามาร่วมทีมกับเรามากแค่ไหน
เพราะไอเดียที่ดี จะซื้อใจคนได้
และต้องดูตลาดด้วยว่าใหญ่เพียงพอหรือมีโอกาสเติบโตหรือไม่ ?
หากเรามีแต่ความอึด แต่ไปอยู่ในตลาดที่ผิด ก็ไม่เติบโต
สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องก็คือ การฝึกมองไปข้างหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้น
คุณยอดยอมรับว่า เราไม่สามารถคาดการณ์ทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ
แต่เราต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่หลากหลายให้ได้
เช่นเดียวกับ LINE MAN Wongnai ที่ต้องการทำให้ธุรกิจมีความหลากหลาย
และการร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ LINE ทำให้ Wongnai ไม่ถูกจำกัดอยู่กับธุรกิจมีเดีย
แต่มีฟูดดิลิเวอรี มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หรือแม้แต่สปาความงาม ที่แข็งแกร่งมากขึ้น
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมากระทบกับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง เราก็จะรับมือกับสถานการณ์ได้ดี
สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำสตาร์ตอัป หรือคนทำธุรกิจ SMEs
เราทุกคนต้องมองอนาคต และการทำให้ธุรกิจมีความหลากหลาย เป็นเรื่องสำคัญ
และคุณยอดก็ได้ปิดท้ายจุดยืนของ LINE MAN Wongnai ไว้ว่า..
LINE MAN Wongnai จะเป็นแพลตฟอร์มสัญชาติไทย
ที่จะเข้ามาช่วยให้ชีวิตของคนไทยทุกคนดีขึ้น
ออกแบบนวัตกรรมเพื่อคนไทย พร้อมกับ Local Mindset
และเคารพทุกความคิดเห็นจากทั้งร้านอาหาร คนขับ และผู้ใช้งานทุกคน
เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มที่เข้าใจคนไทย และตอบโจทย์คนไทยได้มากที่สุด..
mindset มีอะไรบ้าง 在 Fit Kab Dao Facebook 的精選貼文
🔥 ชาเลนจ์ใหม่มาแล้ว รอบนี้จัดเต็มกันเลย 30 วัน🤩
.
ชาเลนจ์ใหม่ ที่จะช่วยเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่‼️
จะดีกว่าไหม❓ถ้าสามารถฟิตหุ่นได้ฟรีๆ ถึง 30 วัน😍 แถมจบชาเลนจ์แล้ว ได้หุ่นลีนสวยตามที่ฝัน😲 ขอไม่พูดเยอะนะคะ 😁
.
💁🏻♀️ วันนี้มาดูกันดีกว่าว่า "ชาเลนจ์ 30 วัน หุ่นลีน" มีอะไรบ้าง❓
.
1️⃣ วิดีโอออกกำลังกาย หุ่นลีน 20 วิดีโอ วันละ 30 นาที จัดเต็มทุกส่วน แถม warm up และ cool down🥳
2️⃣ สอนทำ Smart Goal เพื่อสร้างเป้าหมายที่ชัดเจน📝
3️⃣ Checklist วิเคราะห์ปัญหาที่ผ่านมา ในเรื่องการลดน้ำหนักของคุณ📝
4️⃣ Mindset Training เปลี่ยนความคิดก่อนเริ่มออกกำลังกาย
5️⃣ ซีรี่ย์เทรนนิ่งโภชนาการอาหาร 4 ตอน🎞
6️⃣ วิดีโอเทรนนิ่งสำหรับมือใหม่ก่อนออกกำลังกาย
7️⃣ ตารางออกกำลังกายตลอดชาเลนจ์ 😎
8️⃣ ตารางอาหาร 30 วัน หุ่นลีน ทำง่าย ไม่ยาก😍
.
เตรียมพบการออกกำลังกายแนวใหม่ที่ช่วยเผาผลาญมากกว่าเดิมถึง 4 เท่า❤️
ใช้เวลาน้อย ทำตามไม่ยาก มือใหม่ทำได้ ครบจบในที่เดียว😁
🔻 🔥สนใจเข้าร่วม คอมเม้นท์ "สนใจ" และอย่าลืม คลิกลงทะเบียนตรงนี้ได้เลยค่า 👉🏻 http://bit.ly/join30dayleanchallenge
#ชาเลนจ์30วันหุ่นลีน
mindset มีอะไรบ้าง 在 Mindset TV Youtube 的精選貼文
แม่ยายมาแล้วจ้าาา วันนี้แม่ยาย ของนำเสนออาหารเม็กซิกันสูตร พิเศษตามใจแม่ยายให้พวกเราได้ทำตามกัน มาดูกันว่าอาหารเม็กซิกันที่ว่าจะเป็นอะไร และจะเด็ดสมเป็นสูตรแม่ยายขนาดไหน ติดตามได้ใน #แม่ยายmindset
**ดูแล้วอย่าลืม Subscribe กด Like กด Share ให้เฮียกับเจ๊ด้วยนะฮ้า**
________________________________
สามารถรับชมรายการ แม่ยาย MINDSET ได้ทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 และ 4 ของเดือน เวลา 20:00 น.
ช่องทางการรับชมเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/pokmindset
สนใจติดต่อโฆษณาได้ที่:
Tel. 063-343-9429 (คุณเนตร)
E-mail [email protected]
mindset มีอะไรบ้าง 在 Paul Pattarapon พอล ภัทรพล Youtube 的最佳解答
EP. นี้ว่าด้วยเรื่อง ฟรีแลนซ์ กับการเงิน ซึ่งผมจะมาเล่าถึงข้อดี ข้อเสีย ว่าเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง
ให้ทุกคนได้รับชมกันครับ ส่วนใครที่กำลังจะตัดสินใจจะเป็นฟรีแลนซ์ คลิปนี้มีประโยชน์กับคุณมากๆครับ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้กดติดตาม
สามารถเข้าไปได้ที่ YouTube Channel : Paul Pattarapon พอล ภัทรพล
Link: https://www.youtube.com/channel/UCunVACpk7PRWB1tz1VrhrrA
ช่องทางการติดตาม
Facebook : https://www.facebook.com/paulpattaraponofficial
Instagram : https://www.instagram.com/paulpattarapon
Website : https://www.paulpattarapon.com
สนใจติดต่อโฆษณา และทำวีดีโอ YouTube
โทร : 02-048-5705-9
Email : [email protected]
Powered by CastingAsia
#MoneyMatters #PaulPattarapon #พอลภัทรพล
mindset มีอะไรบ้าง 在 MONEY HERO Youtube 的最讚貼文
สมัครเรียน line@ : https://lin.ee/iDPznwt
เปิดพอร์ตหุ้นแบบส่งเอกสาร https://forms.gle/7fUvov6qgvAVUHiy5
เปิดพอร์ตหุ้นแบบ online http://bit.ly/stocksMindmap
แอปดูกราฟ https://youtu.be/uFCJ_xR_uwE
สอนดูกราฟหุ้นมือใหม่ https://www.youtube.com/watch?v=2mW1qQwuCOE
สั่งหนังสือเจาะตื้นหุ้น https://serazu.com/web/product/2050
ติดต่องาน email : ubuwall@gmail.com
fanpage FB : อ่านงบการเงินไม่ยาก สนใจเรียนหุ้น online เนื้อหาเรียบง่ายฟังสบายๆ และนำไปปรับใช้ได้จริง
คอร์ส จากเม่าสู่นางพญา
เพื่อติดปีกให้นักลงทุนมือใหม่ มี mindset ที่ดีในการลงทุน
เนื้อหา
-ปูพื้นฐานหุ้น
-ที่มาของหุ้น
-ลักษณะของธุรกิจที่ดี
-เทคนิคการเลือกหุ้น
-มี case study ให้ดูอีก 5 cases
สนใจสมัครและลงทะเบียนได้ที่
https://line.me/R/ti/p/%40qwi0335e #เล่นหุ้นอะไรดี #ซื้อหุ้นตอนไหนดี #หุ้นปั่น