เตรียมย้ายไปพรฮับ
RIP Youtube
เอาจริง ๆ เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับแอดตรง ๆ หรอก
เพราะว่ามันเกี่ยวกับ Youtube
.
แต่การเปลี่ยนแปลงใน Youtube ครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อ Caster หลายคนในบ้านเรา
แต่ก็ยังไม่มีการพูดถึงกันนัก
.
วันนี้จะพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ Creator ส่วนใหญ่ในบ้านเราเสียรายได้ไป 90 %
(ข้อมูลอาจไม่สมบูรณ์ถูกต้อง 100% เพราะแอดไม่ได้เรียนกฏหมาย ใครสนใจก็สามารถศึกษาข้อมูลและมาพูดคุยกันได้)
.
.
เรื่องมันเริ่มตั้งแต่ปี 1998
FTC หน่วยงานหลักที่บริหารควบคุมกิจกรรมต่างๆในพาณิชย์อิเลคโทรนิกส์
ที่มีหน้าที่หลักในการปกป้องผู้บริโภคใน สหรัฐอเมริกา
ได้ออกกฏหมายใหม่ชื่อย่อว่า COPPA
(The Children's Online Privacy Protection)
ซึ่งเป็นกฏหมายที่ปกป้องข้อมูลส่วนตัวของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี
.
จุดประสงค์ของ COPPA คือป้องกันไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีเอาข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ไปให้กับเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยผู้ปกครองไม่ยินยอม
เพราะกลัวว่าข้อมูลเหล่านั้นจะถูกใช้ในทางผิดกฏหมาย
.
แต่ผ่านไป 15 ปี ในปี 2013
FTC เล็งเห็นว่าภัยที่แท้จริงไม่ใช่การที่เด็กจะเอาข้อมูลไปบอกเว็บต่าง ๆ หรอก
แต่เป็น Cookies ข้อมูลที่อยู่บนคอมพิวเตอร์/มือถือเรา
ที่มีข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ทั้งที่อยู่ เบอร์โทร
ซึ่งเว็บไซต์ต่างมักเก็บข้อมูลจาก Cookies เราแล้วนำไปขาย ให้กับคนที่ลงโฆษณาออนไลน์ เพื่อที่จะสามารถแสดงโฆษณาได้ตรงกับที่แต่ละคนสนใจ
.
ซึ่งเว็บต่าง ๆ รวมทั้ง Youtube เองก็เก็บ Cookies และที่ FTC เล็งเห็นเว็บไซต์ต่าง ๆ เก็บ Cookies ที่สร้างโดยเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี จึงแก้กฏหมาย COPPA
.
โดยให้ รวม Cookies เป็นข้อมูลส่วนตัวที่ไม่สามารถเก็บได้หากถูกสร้างโดยเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี
ซึ่งหลาย ๆ เว็บก็ปรับตัวตามและเลิกเก็บ Cookies
แต่ว่า Youtube ไม่ปรับตามกฏแล้วอ้างว่า Youtube เป็นสื่อสำหรับคนที่อายุมากกว่า 13 ปีนะ ไม่ได้มีเด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
.
ซึ่ง FTC ก็เชื่อและปล่อย Youtube ไป
.
.
แต่ก็อย่างที่เรารู้กัน Youtube มันเก็บข้อมูลทุกอย่างจริง ๆ เพื่อเอาไปขายให้กับคนอยากยิงโฆษณา และ เอาโฆษณาลงตามคลิปกันเพียบเลย
.
โฆษณาที่มีเป้าหมายเฉพาะบุคคลนั้น ๆ เรียก Personalize Ads เป็นการเอาข้อมูลจากเราแต่ละคนไปดูว่าสนใจอะไรอยู่แล้วก็ยิงโฆษณาที่เราน่าจะสนใจมาให้เรา
.
Personalize Ads เนี่ยสามารถทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้มากกว่าการโฆษณาแบบยิงสุ่ม ๆ ให้ทุกคนเห็น
มันจึงเป็นแหล่งเงินชั้นดีของ Youtube ซึ่ง Youtube ก็ได้แบ่งรายได้ส่วนนั้นให้กับ Creator Youtuber แคสเตอร์ต่าง ๆ เพื่อให้คนเหล่านี้ทำวีดีโอลงให้คนมาดูอีกเยอะ ๆ
.
แต่ในช่วงปีนี้ Youtube ก็เปลี่ยนนโยบายเรื่องความหยาบคาย
คือถ้าคลิปมีเนื้อหาผู้ใหญ่ เช่นเนื้อหาทางเพศ คำหยาบ การใช้คำรุนแรง มุข 18+ จะทำให้ไม่สามารถหารายได้จากคลิปนั้นได้
.
.
การเปลี่ยนนโยบายนี้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพราะมันทำให้ Youtuber ต่าง ๆ หันมาสร้างเนื้อหาที่สามารถให้เด็กดูได้เป็นหลักแทน ก็เพราะมันทำเงินได้
.
เนื้อหาที่เป้าหมายเป็นเด็กกลายเป็นเนื้อหาที่หารายได้มากที่สุดใน Youtube
ลองไปกดมาแรง หมวดเกมบน Youtube สิ
เกือบทั้งหมดเป็นเกมที่เด็ก ๆ ชอบเล่นทั้งนั้น Roblox Minecraft เกมที่เด็ก ๆ ชอบดู เห็นได้ชัดว่าเล็งกลุ่มเป้าหมายไปที่เด็ก
.
Youtuber ที่ทำเงินได้มากที่สุดในโลกก็คือช่อง
Ryan ToysReview ซึ่งก็เป็นช่องรีวิวของเล่นเด็ก
.
เห็นได้ชัดว่าเด็กกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ Youtube ไป
.
.
ในปี 2019 Youtube เลยโดนฟ้องเพราะไปโกหกหน้าตายว่าเด็กไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลัก
แต่เห็น ๆ กันว่าใช่ แถมยังไปเก็บ Cookies มาทำโฆษณาให้เด็กดูอีก ผิดกฏหมาย COPPA เห็น ๆ
ซึ่งขอพูดกันตรง ๆ ว่าที่ Youtube แพ้เพราะปากตัวเองแท้ ๆ เลย ทั้ง ๆ ที่ในเงื่อนไขการใช้งาน Youtube ก็เขียนบอกว่าต้องอายุ 13 ปีขึ้นไป ใช่เด็กอาจจะโกหกอายุและมาแอบดู Youtube ได้ แต่ว่านั้นก็เป็นเพราะเด็กอยากดูเอง เพราะพ่อแม่ยอมให้เด็กเล่นเอง Youtube ไม่ได้ผิด
แต่ที่ Youtube ผิดก็เพราะดันไปเที่ยวป่าวประกาศว่า Youtube เป็นเว็บที่เด็กดูมากที่สุดให้กับผู้ลงโฆษณา ทั้งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าให้ไม่ให้เด็กต่ำกว่า 13 ดู
ดูยังไงก็แพ้คดีแน่นอน
.
Youtube จึงโดนปรับเงิน 170,000,000 $ พร้อมกับทำข้อตกลงกับ FTC ในการจัดการกับเนื้อบน Youtube ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ซึ่งบอกเลยว่าแย่มาก ๆ เพราะมันจะทำให้ Creator ขาดรายไปจนถึงช่องบินได้เลย
.
ตอนนี้ Youtube มีการตั้งค่าใหม่ให้กับผู้สร้างเนื้อบน Youtube ทุกคนว่า เนื้อหาของคุณเป็นเนื้อหา สำหรับเด็กหรือไม่ เพื่อปรับตามกฏหมาย COPPA โดย Youtube จะไม่เก็บข้อมูลจากคลิปคุณ และจะไม่ลงโฆษณาแบบ Personalize Ads ด้วย แปลว่าเนื้อหาคุณจะเสียรายได้ถึง 90% เลย
OMG
.
และถ้าคุณฝ่าฝืน หรือโกหกปรับไม่ตรงกับเนื้อหาของคุณ
เนื้อหาของคุณจะโดนลบ ช่องอาจโดนแบน และถ้าคุณอยู่สหรัฐอเมริกาคุณอาจโดนฟ้องโดย FTC และเสียค่าปรับ 40,000+ $
.
แล้วคุณจะรู้ได้ไงว่าเนื้อหาของคุณเข้าข่ายเนื้อหาเด็กหรือไม่
Youtube ก็ได้ให้กฏมาด้วยว่าเนื้อหาใดเข้าข่าย
.
ก็มีตั้งแต่แบบว่า เนื้อหาคุณมีเป้าหมายเป็นเด็กโดยตรงหรือไม่ซึ่งอันนี้คนที่รู้ดีที่สุดคือคนทำคลิป
เนื้อหาคุณมีตัวการ์ตูน Animation หรือไม่
มีของเล่น ขนมขบเคี้ยว อาหารเช้า Cereal หรือไม่
มีเด็กอยู่ในคลิปหรือไม่
มีกิจกรรมที่เด็กสนใจหรือไม่ เช่นการละเล่น วีดีโอเกม
มีภาษาวัยรุ่นที่เด็กสนใจหรือไม่
มีข้อความแสงสีดึงดูดเด็กหรือไม่
มีตัวการ์ตูนหรือคนดังที่เด็กชอบหรือไม่
และถ้าคุณไม่แน่ใจ Youtube ก็ให้คุณปรึกษานักกฏหมายเอานะจ๊ะ
.
.
ซึ่งฟังมาจากทั้งหมดแล้ว โคตรแย่
ใช่อยู่เนื้อหาสำหรับเด็กอย่างนิทานหรือการ์ตูน ต้องตีเป็นเนื้อหาเด็กอยู่แล้ว
แต่ว่าวีดีโอเกมละ
การที่คุณมีเนื้อหาเล่น วีดีโอเกม ก็สามารถถูกตีความเป็นเนื้อหาเด็กได้
เหล่าแคสเตอร์งานงอกเลย
โดยเฉพาะที่เล่น Roblox Minecraft
พี่เอกที่เล่น Planet Zoo ยังไม่รู้จะรอดมั้ย
แถมยังมีอีกหลาย ๆ ช่องที่รีวิวของเล่นต่าง ๆ
VRZO ก็มีภาษาวัยรุ่น และข้อความแสงสีไม่น้อย
ทั้ง ๆ ที่หลายช่องไม่ได้เล็งเป้าหมายหลักเป็นเด็ก แต่ถ้าตรงตามเงื่อนไขก็มีความเป็นไปได้ที่จะโดนด้วยเช่นกันจากคำนิยามด้านบน
.
ถ้าช่องเหล่านี้ถ้าถูกนับว่าเป็นเนื้อหาสำหรับเด็กจะถูกลดรายได้ถึง 90%!! หนักเอามาก ๆ
.
มิหนำซ้ำ เนื้อหาที่เป็นของเด็กยังตัด Features ไปเกือบหมด
คลิปจะไม่สามารถค้นหาได้ในช่องค้นหา
จะไม่เด้งเป็นแจ้งเตือนให้เห็น ไม่มีในช่องแนะนำด้านข้าง
ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้
คือถ้าคุณอยากดูคลิปใหม่ คุณต้องกดเข้าไปใน Profile ช่องเท่านั้นอะ
.
หักเงินไม่พอ ยังลดคนดูอีกต่างหาก
.
และถ้าคุณไม่ยอมจำแนกว่าคลิปคุณเป็นคลิปเด็กหรือเปล่า Youtube จะใช้ Machine Learning มาจำแนกให้คุณ
ซึ่งบอกตามตรงว่าทำงานได้โคตรแย่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
เตรียมเจอ Happy Tree Friends และ South Park ตีเป็นเนื้อหาเด็กแน่นอน
.
กฏหมาย COPPA โคตรแย่ FTC โคตรเลว
CEO ของ Youtube
Susan Wojcicki บอกว่าคนที่ออกกฏหมายของ FTC บางคนไม่มีมือถือด้วยซ้ำ
ให้คนที่ไม่มีแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ มาออกกฏหมายในยุค 2019
.
.
และถ้าคุณคิดว่าอยู่ไทยคงไม่เป็นไรละก็
ไม่ Youtube บอกว่ากฏนี้มีผลใช้ทั่วโลก
แล้วเราจะทำอะไรได้บ้าง เรื่องนี้แอดไม่แน่ใจ
เพราะว่า FTC ยังเปิดรับฟังความเห็นเพื่อปรับแก้กฏหมายและข้อตกลงอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าเราในฐานะคนนอกสหรัฐอเมริกาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง
แต่ถ้าสนใจก็ไปค้นหาเเพิ่มเติมได้
.
.
FTC ไม่ใข้คนผิดฝ่ายเดียวหรอก
Youtube เป็นตัวร้ายเช่นกันในเรื่องนี้
เพราะ Youtube เป็นคนที่เก็บข้อมูลจากเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี
ทว่าพอตอนนี้กลับบอกว่า Youtuber ต้องมารับผิดชอบด้วยโดยตัดเงินโฆษณา ต้องบอกว่าเนื้อหาคุณเป็นเนื้อหาเด็ก และถ้าเนื้อหาคุณไม่ได้บอกว่ามีเป้าหมายเพื่อเด็ก แต่ FTC คิดว่ามันเป็น คุณก็มีโอกาสโดนฟ้อง โดนลบคลิปและปิดช่อง ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่ Youtuber แค่ทำคลิปออกมา ซึ่งไม่ได้ผิดกฏหมาย COPPA เลย
Youtube เองต่างหากที่ผลักความรับผิดชอบในการจัดการเนื้อหามาให้ Youtuber เป็นหลัก
.
Youtube สามารถที่จะจัดการระบบโดยเคร่งครัดไม่ให้เด็กต่ำกว่า 13 ปี มาดูเนื้อหาบน Youtube ได้ไม่ยาก
แค่บังคับให้ทุกคนต้องมีบัญชีและต้องยืนยันว่าตนอายุ 13 ปีก็จบแล้ว
.
ไม่ Youtube ไม่ทำแบบนั้น
ที่จริงความผิดของ Youtube คือการเก็บข้อมูลจากเด็ก
แค่ Youtube ไม่เก็บก็จบ
ไม่เห็นจำเป็นต้อง ยกเลิกการหารายได้โดยการไม่ลงโฆษณา
ไม่จำเป็นต้องยกเลิกการแจ้งเตือน หรือทำให้คลิปถูกค้นหาไม่เจอเลย
สิ่งที่ Youtube ทำเหมือนบอกใบ้ให้พวก Creator เลิกทำเนื้อหาเด็กแบบอ้อม ๆ
ทำไมนะหรอ เพราะว่า Youtube ไม่สามารถเก็บข้อมูลเอาไปขายให้กับลูกค้าที่ลงโฆษณาได้ยังไงละ
.
.
Youtube โคตรใจร้ายกับ Creator เลย
คือก่อนหน้านี้ทำเนื้อหาผู้ใหญ่ไม่ได้
ตอนนี้ก็ทำเนื้อหาเด็กไม่ได้ด้วย
แล้วที่นี้จะเหลืออะไรให้ Youtuber ทำ
.
และที่เลวร้ายที่สุด คือ มันมีทางออกทางกฏหมายแต่ Youtube ไม่บอกด้วย
คือ FTC ได้ให้เงื่อนไขของกฏหมาย COPPA ไว้ในปี 2015 ว่า มันมีสิ่งที่เรียกว่า เนื้อหาสำหรับทุกเพศทุกวัย
ซึ่งหมายความว่า เป็นเนื้อหาที่ไม่ได้เล็งแค่เด็ก แต่วัยอื่น ๆ ก็ดูได้
และกฏหมาย COPPA ไม่สามารถมีผลต่อเนื้อหาจำพวกนี้ได้
เพราะกฏหมายนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อเนื้อหาของคุณมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 และจงใจเก็บข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายนี้โดยเฉพาะ
.
หมายความว่าช่องเกมต่าง ๆ สามารถบอกว่าเนื้อหาเป็นสำหรับทุกเพศทุกวัย ก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฏหมายได้แล้ว
.
.
แต่ Youtube กลับบีบบังคับให้คนแยกเลยว่าให้เด็กดู หรือ ไม่ให้เด็กดู ซึ่งเป็นการจำกัดเกินไป เช่น พี่เอก HRK ถึงจะเล่นเกมแต่วัยรุ่นผู้ใหญ่ก็ดูได้ เด็กหลายคนก็ชอบ แต่ถ้าทำตามกฏของ Youtube พี่เอกก็จะกลายเป็นเนื้อหาสำหรับเด็กและจะไม่แจ้งเตือน ให้ใครเห็นอีก
มันแย่นะ การเหมารวมเอาแบบนี้หมด
.
วงในจาก Youtube ก็ออกมาใบ้ว่าทำไม Youtube ถึงไม่ให้ทางเลือก เนื้อหาสำหรับทุกเพศทุกวัยละ
คำตอบคือ เพราะจะทำให้บริษัทได้กำไรน้อยลง
.
WTF การที่ Youtube ไม่สามารถเก็บข้อมูลแบบเจาะจงหรือการยิงโฆษณาตรงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เสียกำไร
จึงบีบบังคับ Youtuber ให้ดิ้นรนเพื่อจะได้กำไรมากขึ้น
Youtuber คนไหนอยู่ไม่ได้ก็ตายไป
.
.
Youtuber ทำคลิปที่เหมาะกับเด็กไม่ได้เพราะมันจะไม่แจ้งเตือนรายได้ก็ลดลง 90%
ทำคลิป 18+ ก็ไม่ได้เพราะจะะหารายได้ไม่ได้
คนที่หาเลี้ยงชีพด้วย Youtube อยู่ยากแน่ ๆ
ช่องใหญ่คงได้รับผลกระทบเยอะ
ช่องเล็ก ๆ คงดับเลย ไปหางานอื่นทำ
แล้วต่อไปจะเหลืออะไรบน Youtube ละ
.
.
.
สำหรับใครที่สนใจเรื่องนี้ก็มาดูคลิปที่แอดดูได้ที่นี่
https://youtu.be/pwnvjuCTb54
https://youtu.be/3GwDrHOe43E
https://youtu.be/pd604xskDmU
https://youtu.be/Ms2fXk7eaxQ
https://youtu.be/0veLrwd9CK4
https://youtu.be/xDJw4L1P_2s
https://youtu.be/GHMjD0Lp5DY
RIP Youtube
Seriously, this has nothing to do with add straight.
Because it's about Youtube
.
But this change on Youtube will impact many caster in our house.
But there is no mention yet.
.
Today I will talk about changes that will cost most creators in our home. 90 % of income.
(information may not be complete. 100 % correct because admin hasn't studied law. Anyone is interested can study information and let's talk)
.
.
The story started in 1998
Ftc main agencies that manage various activities in commercial electronics
The main duty to protect consumers in the United States.
Got a new law. Initials Coppa
(The Children's Online Privacy Protection)
Which is a law that protects personal information of children under 13
.
The purpose of coppa is to prevent children under the age of 13 years of 13 years of personal information such as names, addresses, phone numbers to websites without consent.
For fear that the information will be used in law.
.
But 15 years passed in 2013
The FTC sees that the real threat is not for kids to tell the web.
But cookies. Information on our computer / mobile phone.
With Personal Information, address, phone number.
Websites often collect information from cookies and sell to people who advertise online so they can show ads exactly what they are interested.
.
The Web, including Youtube, collect cookies and ftc, looking for websites that collect cookies created by children under the age of 13, so they solve coppa law.
.
Include cookies as personal information that cannot be collected if it is created by children under 13
Many web adapt and stop picking cookies
But Youtube doesn't adjust the rules and claims that Youtube is the media for people over 13 years old. They don't have kids as the main audience.
.
Ftc believes and releases Youtube
.
.
But as we know, Youtube really collect all the information to sell it to those who want to shoot ads and put ads on the clip at cuddle
.
Advertisement with a specific person called personalize ads to take information from each of us. See what they are interested in. Shoot us an ad we should be interested in.
.
Personalize Ads can make customers buy more products than random shooting advertising for everyone to see.
So it's a great source of Youtube, which youtube has shared that income for creator youtuber castor so these people can make videos for many people to watch.
.
But during this year, Youtube changed the policy on rudeness.
Well, if the clip contains adult content such as sexual content, profanity, using severe words, 18 + jokes will not earn money from that clip.
.
.
Changing this policy makes a huge change because it makes youtuber turn to create content that can show kids because they make money.
.
The content that targets kids becomes the most earning content on Youtube.
Try to hit the game category on Youtube
Most of them are games that kids love to play. Roblox Minecraft. The game that kids love to watch. Apparently aiming at kids.
.
Youtuber that makes the most money in the world is channel
Ryan toysreview which is also a review channel for children's toys.
.
Apparently kids become Youtube's main audience
.
.
In 2019, Youtube got sued because he lied to death that the kid is not the main audience.
But I see that it's right and I went to collect cookies to make advertisement for kids. It's illegal. Coppa. See.
Let me say that youtube lost because of his mouth. Even in terms of use, Youtube says that it has to be 13 years old or older. Yes, kids may lie to age and sneak peek at Youtube. But it's because kids want to watch it. Because parents let kids play by themselves. Youtube is not wrong.
But Youtube is wrong because I'm going to travel. I announced that Youtube is the most watched web for advertisers. I told you not to let kids under 13 watch.
No matter how I watch it, I will lose the case
.
So Youtube got paid 170,000,000 $ with ftc deal with meat on Youtube last September.
Which I can tell you that it's very bad because it will make creator to the flight channel.
.
Youtube now has a new set for all youtube meat creators whether your content is child content. to adjust according to coppa law. Youtube will not collect data from your clip and will not advertise ads. It means your content. I will lose 90 % of income.
OMG
.
And if you disobey or lie, adjust your content
Your content will be deleted. It may be banned and if you live in usa you may be sued by ftc and pay 40,000 + $
.
So how do you know if your content fits kid's content?
Youtube also gives rules which content fits.
.
It's like, is your content directly targeted as a kid. This is the one who knows best is the clip maker.
Content do you have an animation cartoon character?
Is there a cereal breakfast snack toy?
Is there a kid in the clip
Are there activities that kids are interested in such as playing video games
Is there a teenage language that children are interested in?
Is there a light message attracted to children?
Is there a cartoon character or celebrity that kids like?
And if you're not sure, Youtube will let you consult the lawyers.
.
.
Which has heard from all of them is so bad
Yes, kids content like tales or comics must be childish content
But video games
The way you have video game content can be interpreted as child content.
Castor. Work is growing.
Especially playing roblox minecraft
Brother Ek who plays planet zoo doesn't know if he will survive.
Plus, there are many more channels that review toys.
Vrzo also has teenage language and light messages
Although many channels are not aiming for the main goal as a kid, but if it meets the conditions, there is a possibility of getting hit as well from the definition above.
.
If these channels, if they are counted as content for children, they will be reduced to 90 %!! very heavy.
.
Repeated content that belongs to children still cut off most of the features
Clip will not be searched in search box
Won't bounce as a notification. No side suggestion.
Can't comment
Well, if you want to watch the new clip, you must click into profile channel only.
.
Not enough deduction. Still reduce the audience.
.
And if you don't classify that clip, are you a kid's clip? Youtube will use machine learning to classify you.
Which honestly works pretty bad from past experience
Get ready to meet happy tree friends and south park. It's content for sure.
.
Coppa law is so bad. FTC is so bad
CEO of Youtube
Susan Wojcicki says some ftc law people don't even have mobile phones
Let people who don't even have cell phones come to law in the 2019 s.
.
.
And if you think it's okay to live in Thailand.
No, Youtube says this rule is effective around the world.
So what can we do about this? I'm not sure.
Because the ftc is still open to hear opinions to solve laws and agreements, but not sure what we as outsiders can do.
But if interested, go find out more.
.
.
The FTC is not one on the wrong side.
Youtube is a villain as well on this
Because Youtube is the one who keeps data from children under 13
But now I say that youtuber is responsible by cutting off ad money. You have to say that your content is young content. and if your content is not saying that you are targeted for kids, but ftc thinks it is, you have a chance to be sued, deleted and close the whole channel What Youtuber just made a clip which is not illegal coppa
Youtube is primarily pushing the responsibility of managing content for youtuber.
.
Youtube can strictly manage the system from children under 13 years to watch content on Youtube.
Just forcing everyone to have an account and confirm that they are 13 years old is done.
.
No Youtube don't do that
In fact, Youtube's fault is keeping information from children.
Just Youtube doesn't keep it. It's done.
No need to cancel income without advertising
No need to cancel notifications or make the clip unsearchable
What Youtube does like hints for creators to stop making kid content indirectly
Why? Because Youtube can't sell it to customers who advertise
.
.
Youtube is so mean to creator
Well, I couldn't make adult content earlier.
Now can't make kids content too
So what's left for youtuber to do
.
And the worst thing is that there is a legal solution but youtube doesn't tell.
Well, the ftc provided coppa law conditions in 2015 that it has what is called content for all ages.
Which means it's content that is not only aiming for young but other ages can watch.
And Coppa law cannot affect these content
Because this law only applies when your content has a primary audience, children under 13 and deliberately collect information from this audience.
.
It means that game channels can say content is for all ages. It can avoid legal issues.
.
.
But Youtube forced people to separate whether they let kids watch or not to watch. Which is too limited. Such as brother ek hrk. Even if they play games, teenagers, adults can watch it. Many kids like it. But if they follow youtube rules, brother ek. Will become content for kids and won't notify anyone else
It's too bad. It's all like this.
.
The inner circle from Youtube also comes out why youtube doesn't provide content choices for all ages.
The answer is because it will make companies less profit.
.
WTF. Youtube can't store specific data or shooting ads straight to the audience makes profit.
So I forced youtuber to struggle to gain more profit.
Any Youtuber can't live then die
.
.
Youtuber can't make a clip that fits kids because they won't alert. Income is reduced by 90 %
I can't make a clip of 18 + because I can't earn money.
People who earn a living with Youtube will be hard to live.
The big channel must have affected a lot.
The small channel must have gone out so I went to find another job.
So what's left on Youtube
.
.
.
For those who are interested in this, check out the clip that you can watch here.
https://youtu.be/pwnvjuCTb54
https://youtu.be/3GwDrHOe43E
https://youtu.be/pd604xskDmU
https://youtu.be/Ms2fXk7eaxQ
https://youtu.be/0veLrwd9CK4
https://youtu.be/xDJw4L1P_2s
https://youtu.be/GHMjD0Lp5DYTranslated
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
real impact definition 在 Firdaus Wong Wai Hung Facebook 的精選貼文
The Evolution of Chinese Religion: From Monotheism to Polytheism
There are few well known religions in China such as Confucianism, Taoism and Buddhism. The belief in Oneness of God was there before the existence of religion in Chinese society. Chinese community believe the existence of one God which is Shang Di before the arise of Confucianism and Taoism philosophy. The Chinese historian, Sima Qian wrote in his book entitled Shi Ji state:“Shang Di is another name for Tian. The spirits do not have two Lords”[1]
Shang Di (上帝) or Tian (天) is the name of a God in Chinese community believed since a long time ago. It does not have any image, picture or statue in a form of idols. Furthermore, it is an entity that is not the same as human beings.
Chinese community understand it through characters of letters such as hanzi 上帝 and 天. Tian (天) symbolised the concept monotheism, due to the Chinese word character of hanzi for Tian (天) is a combination of two Hanzi characters which are Da (大) dan Yi ( 一). Da means the All-Mighty while Yi means Oneness. Two letters is formed for Tian which means the Sky and Heaven. It indicates the God is at the sky.
That is the reason why the ancient Chinese community worship one God and around the year 2000 BC - 800 BC, the doctrine of Shamanism and fortune teller was developed in China. Then the believes was influenced by the Taoism religion which came later on such as the usage of talisman and mantra to fight against the supernatural and binding spells in order to cure the one affected. But the earliest Taoism belief do not teach these particularly rituals.[2]
Existence of Confucianism and Taoism Philosophy
There were a lot of war and coup between small states during the classic era around 700 BC – 220 BC hence created the need towards political and strategy advice. However, they also focused on social development and the era which new leaders appeared such as Lao Zhi ( 604 BC – 531 BC) and Kongfu Zi (551 BC – 479 BC).[3]
Both of them brought their own philosophy for the purpose of social development. Both philosophy brought the believe that was well influenced even the concept of God was influenced by the concept of god in ancient Chinese community.
God term used between Lao zi and Kongfu Zi have a few differences mainly inside the form of characters letter of Hanzi and the definition of the letter. According to Lao Zi in his book entitled Dao De Ching used the term Dao (道) which indicates God.[4] Besides, according to Kongfu zi, he used the term Tian (天) inside the book to indicate God too. Both of them used the term which was used by the ancient Chinese community to described God. Even both terms for God was not made into image or idols. They believed that God is one and only.
Outside influence towards the concept of God
Buddhism came from India then entered into China and expanded around the year in 240 BC which is the era under the ruling of King Asoka in India. Buddhism remain in China in first 10 AD.[5] There are various types of Buddhism over there such as Theravada, Yogacara, Vajrayana and Mahayana.
The teachings of Lao zi and Kongzi also developed and expanded in China. Even though there was innovation in the teachings. The teaching that was brought by Lao zi or known as Taoism gave a huge impact to the shamanism doctrine which was by the ancient Chinese community while the teaching of Kongfu zi did not impacted the Shamanism influence.
Syncretism or mixing of and believed occurred in the teaching of Taoism. The evolution of Taoism from philosophy to religion in the year between 20 BC – 600 AD.
A well known Taoist figure called Zhang Daoling. He became first person who embed and strengthened the system into Taoism whereas the founder, Lao Tze did not introduced the religion system according to Zhang Daoling. Taoism made history when it became a religion through the formation of religious leader, set of rituals, scriptures and a lot of followers.
Taoism firstly became well known in the era of dynasty Han (25 AD-219 AD) when shamanism influenced was less practiced in the castle. In year 150 AD, the kings built a temple of kings specifically to performed the official ceremony as an honour towards the purification of Lao zi. Aligning with the belief on purification thus followed by the need to increase the rank of Laozi to the highest level of God.
During the era of dynasty Tang (618 AD - 907 AD), the royal family indicted the ancestry of Laozi for having the same family name, Li 李. Therefore, Taoism have achieved an official status under his ruling. Moreover, Gaozong King make Dai De Jing scriptures as one of the compulsory subject for the people who set for the public services examination.
If it is measure in terms of historical Taoism practices, the figure that is worthy to be given credit as the founder of Taoism is Zhang Daoling.[7] Zhang Ling is his real name and He was born in South of China in a place which strong shamanism was at that time.[8]
According to the legend, he succeed in finishing the whole classic text of Dao de Jing.[9]. During his adulthood, he went on exploring the Sichuan territory to undergo the ascetic life and to seek knowledge on religion. In the year 142 AD, he professed of an event that occurred which changes his life. A god appeared from the sky then came face to face with him in an awake state (yaqazhah), then gifted him with the power to do miracles and elevate his title to Tianshi (Heaven Master). The god is said to be the resemblance of Laozi and is known as the elder of the highest greatness (太上老君).
Jumping-off point from the event, Zhang Daoling have established the movement of Tianshi Dao (School of Heaven Master) in Sichuan territory. It also known as Wudoumi Dao 五斗米道 (Way of The Five Pecks of Rice) because the criteria of acceptance of a member is by giving tax five dou (1 dou =10kg) rice or items which have the same quantity.
Besides, Tianshi Dao has an well organized organization structure such as hierarchy of religious leader, record system of supernatural, talisman, moral principal, studying the classic text of Dao de Jing and etc. Furthermore, in the earliest era, it consist of twenty four states ruled under the Sichuan territory.
Under the leadership of his grandchild, Zhang Lu the movement later became militancy thus launching a rebel in the year 189 AD but they surrendered peacefully to Cao Cao (曹操). Cao Cao (曹操) was a warlord in the year (155AD – 220AD). Therefore, the movement indirectly exist until now.
Taoism brought by Zhang Daoling was easily accepted due to the fact that the people at that time are strong followers of shamanism and animism. The movement lead by Zhang Daoling have influence the Taoism we know today. As an example, the religious rituals whereby Zhang Daoling popularized the usage of talisman which is still practice until today. Usually the necklace is in the form of a yellow paper and written using Chinese characters, the meaning are kept as secret.[10]
Even the belief of worshipping gods and goddess was embedded into Taoism to a point where they included many idols, gods and goddess in their worship. Whereas the reality of earliest leader did not introduce the such practices and beliefs.
Mixing of Beliefs Occurred
Lastly, the Chinese community incorporated all four beliefs into their practices. There are times where they practice Taoism, Confucianism, Buddhism and also Chinese traditional beliefs. Besides that, they also practice Feng Shui and etc.
This mixing of beliefs is called as syncretism among the religions. According to them, all the four religion is compensate with each other. If they want the understanding of philosophy and moral, they will refer to Confucianism and if they want spiritual and balance between two worlds, they will refer to Taoism. These are the way they practiced the religions until now.
Conclusion
It is recorded in history that the ancient Chinese community worship one God that does not have an image nor given birth to but later on the practiced of worshipping Gods and Goddesses were added on into Taoism. Even though, the founder himself did not introduce this way of worship. It was created by the people later on.
Lastly, Chinese community consider that all religion that exist till the classic era is important and is practiced synchronously.
Key Note
[1] Refer to Sima Qian (-). Shi Ji, volume 28, book 6, pg 624
[2] Refer to Eva Wong, (2011). Taoism An Essential Guide, Shambhala Publications, London, pg 11-19
[3] Ibid, pg 20-30/ refer to Cao Dawei & Sun Yanjing, (2010). China’s History, China Intercontinental Press, Beijing, pg 44-45
[4] Refer to the scriptures of Dao Te Ching chapter 4: Xiang Di Zhi Xian, chapter 25: Dao De Zhen Mian Mu, chapter 39: Dao De Gen Ben. And refer to scriptures of Kongfu zi dalam The Anaclets 3: 13, 9: 5, 16: 8, 14: 35
[5] Refer to Milon Nandy, (1996). The Profund Teachings of Buddhism, Taoism, Confucianism & Shintoism, Eurasia-Pasific Books, Ampang, pg 34
[6] Refer to Eva Wong, (2011). Taoism An Essential Guide, Shambhala Publications, London, pg 34
[7] Refer to Herman, J. (2013). Taoism For Dummies. Mississauga, Canada: John Wiley & Sons Canada pg 75/ refer to Palmer, M. (2000). T’ung Shu. Kuala Lumpur: Vinpress, pg 82.
[8] Refer to Eva Wong, (2011). Taoism An Essential Guide, Shambhala Publications, London, pg 34
[9] Refer to Palmer, M. (2000). T’ung Shu. Kuala Lumpur: Vinpress, pg 82
[10] Refer to Milon Nandy, (1996). The Profund Teachings of Buddhism, Taoism, Confucianism & Shintoism, Eurasia-Pasific Books, Ampang, pg 59
MRM's R&D Team