關於 ros ย่อมาจาก ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

โลกกำลังก้าวเข้าสู่ อุปกรณ์สวมนิ้ว /โดย ลงทุนแมน
ต่อไปเราจะสามารถ สร้างและปรับแต่ง โลกในจินตนาการได้เพียงแค่ขยับ “นิ้วมือ”

การขยับนิ้วนี้ ไม่ใช่การสไลด์หน้าจอบนสมาร์ตโฟน
แต่เป็นการร่ายเวทมนตร์ไปมาบนอากาศ

แล้วไม้กายสิทธิ์ที่ทาง Apple กำลังสร้างนี้คืออะไร?
แล้วมันทำอะไรได้บ้าง
ลงทุนแมนจะร่ายคาถาให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
เมื่อสัปดาห์ก่อน ทางสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ว่า
Apple ได้ยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตร “อุปกรณ์สวมนิ้ว” สำหรับใช้งานคู่กับอุปกรณ์ AR และ VR

อย่างที่รู้กัน เมื่อปลายปีที่แล้ว
Apple ได้ประกาศข่าวใหญ่ สะเทือนวงการเทคโนโลยี
โดยประกาศว่า ภายในปี 2023 จะเปิดตัวแว่น AR และ VR
ซึ่งคาดว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่จะมาทดแทนสมาร์ตโฟนในอนาคต

AR ย่อมาจาก Augmented Reality เป็นเทคโนโลยีที่นำภาพเสมือนหรือข้อมูลดิจิทัล
มาผสานกับโลกแห่งความเป็นจริงในเวลาเดียวกัน
ทำให้เราเห็นโลก ได้น่าตื่นเต้นกว่าโลกที่เราเคยเห็น

เสมือนมีเลขาส่วนตัว คอยบอกข้อมูลเราตลอดเวลา เช่น คนหรือวัตถุที่เรากำลังมองอยู่ชื่ออะไร มีประวัติเบื้องหลังอย่างไร, เส้นทางแผนที่ซึ่งจะนำไปถึงจุดหมาย, สภาพอากาศของวันนี้

ส่วน VR ย่อมาจาก Virtual Reality เป็นเทคโนโลยีที่จำลองโลกเสมือนขึ้นมา
ให้เราเข้าไปสัมผัสสภาพแวดล้อมที่เกิดจากการจินตนาการ หรือปรุงแต่งขึ้น

โดยอุปกรณ์ทั้งสองนี้ของ Apple จะมีระบบปฏิบัติการใหม่ที่มารองรับการใช้งานชื่อว่า “rOS”

คำถามก็คือ มีแว่น มีอุปกรณ์สวมหัว และระบบปฏิบัติการสำหรับโลกอนาคตแล้ว
แต่อะไรล่ะ จะใช้เป็นตัวควบคุมหรือสั่งการ เครื่องมือเหล่านี้ ให้เป็นไปตามความต้องการของเรา?

ถ้าเราคิดว่าสั่งการจากสมองโดยตรง
เราอาจจะคิดข้ามสเต็ปไปหน่อย..

เพราะคำตอบเพิ่งมาเฉลยเมื่อสัปดาห์ก่อน
ไม่ใช่ถุงมือสวมใส่ ไม่ใช่เครื่องสั่งงานด้วยเสียง หรือเครื่องอ่านความคิด

แต่เป็น “อุปกรณ์สวมนิ้ว” ที่มีขนาดเท่าเล็บมือ
เวลาสวมใส่จะคล้ายๆ เอาแผ่นปลาสเตอร์มาติดที่นิ้วมือ

เจ้าอุปกรณ์สวมนิ้วนี้ มีไว้เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถปฏิสัมพันธ์ ควบคุม และตอบโต้กับวัตถุเสมือนในโลก AR และ VR

ภายในอุปกรณ์ประกอบไปด้วยเซนเซอร์ตรวจจับจำนวนมาก เช่น
เซนเซอร์ตรวจจับแรงกด, ตรวจจับการเคลื่อนไหว, ตรวจจับวัตถุ, ตรวจจับด้วยพลังงานเสียง, หน่วยวัดความเฉื่อย และเซนเซอร์อื่นๆ

ซึ่งเซนเซอร์เหล่านี้จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ จากบริเวณนิ้วที่สวมอุปกรณ์อยู่
เช่น การสัมผัส, การขยับ, การแสดงท่าทาง ในขณะสวมอุปกรณ์ AR หรือ VR

เพื่อเป็นอินพุต นำไปประมวลและแสดงผลเป็นภาพเสมือน ให้เราได้เห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ

หรือพูดง่ายๆ ก็คือ อุปกรณ์สวมนิ้วนี้ เปรียบเสมือนรีโมตทีวีอนาคต
ที่เอาไว้ใช้ควบคุมวัตถุเสมือน สภาพแวดล้อม หรือสิ่งต่างๆ ในโลก AR และ VR
ทั้งสร้าง เคลื่อนย้าย ปรับแต่งวัตถุเสมือน รวมถึงเลือกเมนูรายการที่แสดงบนหน้าเราผ่านแว่นตา

เช่น ถ้าต้องการปรับระดับเสียงของลำโพง ที่กำลังเชื่อมต่อกับแว่นตาอยู่
ก็แค่เอานิ้วไปหมุนปุ่มลำโพง ซึ่งเป็นภาพเสมือนที่ลอยอยู่ในอากาศ ในขณะสวมอุปกรณ์นิ้วมือ

หรือเวลาเล่นเกม เราไม่ต้องถืออุปกรณ์เสริม หรือจอยเกม
แต่สามารถจับอุปกรณ์เสมือนในเกม เช่น ดาบ, ปืน, ไม้กอล์ฟ ด้วยมือเปล่า

เห็นได้ว่า นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิสัมพันธ์กับภาพเสมือน
ยังช่วยทำให้ผู้สวมใส่มีความรู้สึกถึงความสมจริงยิ่งขึ้นไปอีกขั้น

นอกจากนี้ อุปกรณ์สวมนิ้วมือยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple ได้
ไม่ว่าจะเป็น HomePod, MacBook, Apple TV

หลังจาก Apple ได้เปิดตัว iPhone เมื่อปี 2007
วิถีชีวิตของผู้คนก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ทุกคนมีอวัยวะเพิ่มเข้ามา อวัยวะที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน นั่นคือ “สมาร์ตโฟน”
เป็นดั่งของวิเศษ ที่พระเจ้ามอบให้
มันช่วยขยายศักยภาพของมนุษย์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ซึ่งเหมือนทุกคนจะติดอก ติดใจเจ้าสิ่งนี้
ทุกคนต่างก้มหน้าดูจอสี่เหลี่ยม พร้อมกระดิกนิ้วมือบนจอไปมา
โลกทั้งใบอยู่ในนี้ อยู่เพียงปลายนิ้วสัมผัส

แต่ต่อไป วิถีชีวิตเราจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง
เราไม่ต้องก้มหน้า แค่เงยหน้ามองผ่านแว่นตา AR
เราไม่ต้องสไลด์หน้าจอ แต่ขยับนิ้วไปมาบนอากาศ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่ต้องการได้ดั่งใจเรา..

ของวิเศษชิ้นใหม่ จะมอบพลังแบบที่เราจินตนาการไม่ออก
แต่ในขณะเดียวกัน
สิ่งที่เราจะจินตนาการไม่ออกเช่นกัน ก็คือ พฤติกรรมของมนุษย์ที่จะเปลี่ยนไป ในเวลานั้น..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.cnet.com/…/apple-patent-envisions-finger-devic…/
-https://www.patentlyapple.com/…/apple-advances-future-finge…

โลกกำลังก้าวเข้าสู่ อุปกรณ์สวมนิ้ว /โดย ลงทุนแมน
ต่อไปเราจะสามารถ สร้างและปรับแต่ง โลกในจินตนาการได้เพียงแค่ขยับ “นิ้วมือ”

การขยับนิ้วนี้ ไม่ใช่การสไลด์หน้าจอบนสมาร์ตโฟน
แต่เป็นการร่ายเวทมนตร์ไปมาบนอากาศ

แล้วไม้กายสิทธิ์ที่ทาง Apple กำลังสร้างนี้คืออะไร?
แล้วมันทำอะไรได้บ้าง
ลงทุนแมนจะร่ายคาถาให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
เมื่อสัปดาห์ก่อน ทางสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ว่า
Apple ได้ยื่นจดทะเบียนสิทธิบัตร “อุปกรณ์สวมนิ้ว” สำหรับใช้งานคู่กับอุปกรณ์ AR และ VR

อย่างที่รู้กัน เมื่อปลายปีที่แล้ว
Apple ได้ประกาศข่าวใหญ่ สะเทือนวงการเทคโนโลยี
โดยประกาศว่า ภายในปี 2023 จะเปิดตัวแว่น AR และ VR
ซึ่งคาดว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่จะมาทดแทนสมาร์ตโฟนในอนาคต

AR ย่อมาจาก Augmented Reality เป็นเทคโนโลยีที่นำภาพเสมือนหรือข้อมูลดิจิทัล
มาผสานกับโลกแห่งความเป็นจริงในเวลาเดียวกัน
ทำให้เราเห็นโลก ได้น่าตื่นเต้นกว่าโลกที่เราเคยเห็น

เสมือนมีเลขาส่วนตัว คอยบอกข้อมูลเราตลอดเวลา เช่น คนหรือวัตถุที่เรากำลังมองอยู่ชื่ออะไร มีประวัติเบื้องหลังอย่างไร, เส้นทางแผนที่ซึ่งจะนำไปถึงจุดหมาย, สภาพอากาศของวันนี้

ส่วน VR ย่อมาจาก Virtual Reality เป็นเทคโนโลยีที่จำลองโลกเสมือนขึ้นมา
ให้เราเข้าไปสัมผัสสภาพแวดล้อมที่เกิดจากการจินตนาการ หรือปรุงแต่งขึ้น

โดยอุปกรณ์ทั้งสองนี้ของ Apple จะมีระบบปฏิบัติการใหม่ที่มารองรับการใช้งานชื่อว่า “rOS”

คำถามก็คือ มีแว่น มีอุปกรณ์สวมหัว และระบบปฏิบัติการสำหรับโลกอนาคตแล้ว
แต่อะไรล่ะ จะใช้เป็นตัวควบคุมหรือสั่งการ เครื่องมือเหล่านี้ ให้เป็นไปตามความต้องการของเรา?

ถ้าเราคิดว่าสั่งการจากสมองโดยตรง
เราอาจจะคิดข้ามสเต็ปไปหน่อย..

เพราะคำตอบเพิ่งมาเฉลยเมื่อสัปดาห์ก่อน
ไม่ใช่ถุงมือสวมใส่ ไม่ใช่เครื่องสั่งงานด้วยเสียง หรือเครื่องอ่านความคิด

แต่เป็น “อุปกรณ์สวมนิ้ว” ที่มีขนาดเท่าเล็บมือ
เวลาสวมใส่จะคล้ายๆ เอาแผ่นปลาสเตอร์มาติดที่นิ้วมือ

เจ้าอุปกรณ์สวมนิ้วนี้ มีไว้เพื่อให้ผู้สวมใส่สามารถปฏิสัมพันธ์ ควบคุม และตอบโต้กับวัตถุเสมือนในโลก AR และ VR

ภายในอุปกรณ์ประกอบไปด้วยเซนเซอร์ตรวจจับจำนวนมาก เช่น
เซนเซอร์ตรวจจับแรงกด, ตรวจจับการเคลื่อนไหว, ตรวจจับวัตถุ, ตรวจจับด้วยพลังงานเสียง, หน่วยวัดความเฉื่อย และเซนเซอร์อื่นๆ

ซึ่งเซนเซอร์เหล่านี้จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลต่างๆ จากบริเวณนิ้วที่สวมอุปกรณ์อยู่
เช่น การสัมผัส, การขยับ, การแสดงท่าทาง ในขณะสวมอุปกรณ์ AR หรือ VR

เพื่อเป็นอินพุต นำไปประมวลและแสดงผลเป็นภาพเสมือน ให้เราได้เห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ

หรือพูดง่ายๆ ก็คือ อุปกรณ์สวมนิ้วนี้ เปรียบเสมือนรีโมตทีวีอนาคต
ที่เอาไว้ใช้ควบคุมวัตถุเสมือน สภาพแวดล้อม หรือสิ่งต่างๆ ในโลก AR และ VR
ทั้งสร้าง เคลื่อนย้าย ปรับแต่งวัตถุเสมือน รวมถึงเลือกเมนูรายการที่แสดงบนหน้าเราผ่านแว่นตา

เช่น ถ้าต้องการปรับระดับเสียงของลำโพง ที่กำลังเชื่อมต่อกับแว่นตาอยู่
ก็แค่เอานิ้วไปหมุนปุ่มลำโพง ซึ่งเป็นภาพเสมือนที่ลอยอยู่ในอากาศ ในขณะสวมอุปกรณ์นิ้วมือ

หรือเวลาเล่นเกม เราไม่ต้องถืออุปกรณ์เสริม หรือจอยเกม
แต่สามารถจับอุปกรณ์เสมือนในเกม เช่น ดาบ, ปืน, ไม้กอล์ฟ ด้วยมือเปล่า

เห็นได้ว่า นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิสัมพันธ์กับภาพเสมือน
ยังช่วยทำให้ผู้สวมใส่มีความรู้สึกถึงความสมจริงยิ่งขึ้นไปอีกขั้น

นอกจากนี้ อุปกรณ์สวมนิ้วมือยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple ได้
ไม่ว่าจะเป็น HomePod, MacBook, Apple TV

หลังจาก Apple ได้เปิดตัว iPhone เมื่อปี 2007
วิถีชีวิตของผู้คนก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ทุกคนมีอวัยวะเพิ่มเข้ามา อวัยวะที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน นั่นคือ “สมาร์ตโฟน”
เป็นดั่งของวิเศษ ที่พระเจ้ามอบให้
มันช่วยขยายศักยภาพของมนุษย์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ซึ่งเหมือนทุกคนจะติดอก ติดใจเจ้าสิ่งนี้
ทุกคนต่างก้มหน้าดูจอสี่เหลี่ยม พร้อมกระดิกนิ้วมือบนจอไปมา
โลกทั้งใบอยู่ในนี้ อยู่เพียงปลายนิ้วสัมผัส

แต่ต่อไป วิถีชีวิตเราจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง
เราไม่ต้องก้มหน้า แค่เงยหน้ามองผ่านแว่นตา AR
เราไม่ต้องสไลด์หน้าจอ แต่ขยับนิ้วไปมาบนอากาศ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่ต้องการได้ดั่งใจเรา..

ของวิเศษชิ้นใหม่ จะมอบพลังแบบที่เราจินตนาการไม่ออก
แต่ในขณะเดียวกัน
สิ่งที่เราจะจินตนาการไม่ออกเช่นกัน ก็คือ พฤติกรรมของมนุษย์ที่จะเปลี่ยนไป ในเวลานั้น..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.cnet.com/news/apple-patent-envisions-finger-devices-for-controlling-objects-in-ar-and-vr/
-https://www.patentlyapple.com/patently-apple/2020/01/apple-advances-future-finger-devices-that-will-work-with-apples-mr-headset-to-assist-users-interact-with-real-and-virtual-wo.html

อีก 3 ปีเจอกัน Apple กำลังเปลี่ยนโลกอีกครั้ง ด้วยแว่น AR / โดย ลงทุนแมน
วันนี้ มีข่าวสะเทือนวงการเทคโนโลยี
และเรื่องนี้ทำให้ลงทุนแมนคิดถึงภาพอนาคตที่กำลังจะเปลี่ยนไป
ปี 2023 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง เหมือนกับที่ iPhone เปิดตัวในปี 2007
Apple กำลังจะเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่
นั่นก็คือ “แว่นตา AR”
และยังมีระบบปฏิบัติการใหม่ชื่อ “rOS”

เรื่องนี้จะเปลี่ยนโลกอนาคตอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

เริ่มต้นด้วยคำถาม
“อุปกรณ์อะไร จะมาแทนที่สมาร์ตโฟน”

ตอนนี้ทุกคนมีสมาร์ตโฟนติดตัวตลอดเวลา
เรานึกภาพตอนที่ไม่มีสมาร์ตโฟนไม่ออก
และคงยากที่จะมีอะไรมาแทนมัน

ซึ่งบริษัทที่เป็นเหมือนผู้จุดประกายให้เกิดสมาร์ตโฟนก็คือ “Apple”
Apple เปิดตัว iPhone ในปี 2007
หลังจากนั้นทุกอย่างในโลกได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
หลายธุรกิจล้มหายตายจาก
หลายธุรกิจกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เพราะสมาร์ตโฟน

แต่ถ้ามีสิ่งที่มาแทนสมาร์ตโฟนได้ล่ะ สิ่งนั้นจะเป็นอะไร?

ในปี 2023 การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจะเกิดอีกครั้ง
Apple วางแผนจะออกแว่นตา AR รุ่นแรกในปี 2023
นับเป็นช่วงเวลาหลังจาก iPhone เปิดตัวนานถึง 16 ปี

แว่นตา AR คืออะไร?

AR ย่อมาจาก Augmented Reality ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เราเห็นโลก ได้มากกว่าโลกที่เราเคยเห็น

เรื่องนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับทุกเรื่องรอบตัวเราตั้งแต่

การมีเลขาส่วนตัวบอกว่าวันนี้ต้องทำอะไร ไปที่ไหน ฝนจะตกไหม คนนั้นชื่ออะไร อายุเท่าไร หรือแม้แต่เพื่อนที่เราคุยด้วย เขาเพิ่งโพสต์อะไรใน Instagram

ทุกอย่างจะสามารถโชว์ออกมาในภาพบนแว่นตา

นอกจากนั้น ถ้ามันถูกพัฒนาถึงขีดสุด มันจะใช้ประโยชน์ได้ไม่จำกัดเมื่อใส่เซ็นเซอร์ต่างๆ เข้าไป
เช่น การตรวจอุณหภูมิ มลพิษของสิ่งแวดล้อม การวัดสุขภาพของบุคคลที่สวมใส่ การช่วยแปลภาษา การตรวจสิ่งของที่อยู่ตรงหน้าว่าเป็นอะไร

โดย Apple วางแผนจะเปิดตัวแว่น AR ที่รูปร่างเหมือนแว่นตา ภายใต้โค้ดเนม N421 ในปี 2023

นอกจาก AR แล้ว Apple ยังวางแผนให้คนเข้าไปอยู่ในโลกเสมือน (VR) ได้ด้วยอุปกรณ์สวมหัว (Headset) ที่มีคุณสมบัติ AR และ VR ภายใต้โค้ดเนมว่า N301 ซึ่งวางแผนจะเปิดตัวในปี 2022

ซึ่งอุปกรณ์ ทั้ง 2 เครื่องนี้จะมาพร้อมกับจอภาพความละเอียดสูง มีกล้องดิจิทัลภายในตัว
รองรับการสแกน 3 มิติ และเซ็นเซอร์ระดับสูงสำหรับตรวจจับมนุษย์

สามารถช่วยให้ผู้สวมใส่ มองเห็นภาพข้อมูลดิจิทัลจำนวนมากไหลผ่านจอ
มองเห็นวัตถุสมมติ หรือวัตถุเสมือนจริง ปรากฏต่อหน้า
เช่น ข้อความที่ได้รับ, เส้นทางแผนที่ซึ่งจะนำไปถึงจุดหมาย
ข้อมูลและประวัติเบื้องหลังของสิ่งที่เรากำลังจ้องมองอยู่

ยิ่งถ้านำเทคโนโลยีแว่นตา AR มาผนวกเข้ากับเอไอ หรือปัญญาประดิษฐ์
พลังของแว่นตาจะไม่ต่างอะไรกับ จาร์วิส ในเรื่อง Iron Man
หรือ แว่นอีดิธ จากเรื่อง Spider-Man: Far From Home

ต่อไปแต่ละคนจะเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ คอยรับใช้ ช่วยเหลือเราตลอดเวลา
ไม่ต้องก้มหน้า ไม่ต้องกระดกนิ้วมือ
เพียงกระพริบตา โบกมือไปมาในอากาศ สิ่งที่เราต้องการ ก็ปรากฏ

โดย Apple จะมีระบบปฏิบัติการใหม่ที่จะมารองรับการใช้งาน AR และ VR ชื่อว่า “rOS”

ซึ่งตอนนี้ก็มีทีมวิศวกรของ iPhone และ iPad กำลังเชื่อมต่อแอปพลิเคชันที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้อุปกรณ์ปัจจุบันของ Apple ร่วมกับฟีเจอร์ของอุปกรณ์สวมหัวและแว่นตาได้

และ Apple ได้รวบรวมทีมวิศวกรกว่า 1,000 คน มาเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AR และ VR โดยเฉพาะ

ภายในทีมยังประกอบขึ้นจากหลายแผนก ไม่ว่าจะเป็นวิศวกรที่ดูแลแผนกฮาร์ดแวร์ ระบบซอฟต์แวร์เกม และฝ่ายผลิตสินค้า โดยมีรองประธานบริษัท Mike Rockwell เป็นหัวหน้าทีม

ก็ต้องคอยติดตามดูว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
อาจเรียกได้ว่า แว่นตา AR จะทำให้มนุษย์เข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

ในวันนี้
วันที่สังคมก้มหน้า ทุกคนนั่งมองแต่สมาร์ตโฟน
จนเราไม่รู้ว่า จะหลุดออกจากการก้มหน้าอย่างไร

แต่ต่อไป เราอาจไม่ต้องก้มหน้า
เพราะเราจะมองเห็นได้ทุกอย่างจากแว่นตาของเรา

เราอาจไม่ต้องพิมพ์
เพราะแค่พูดทุกอย่างก็ถูกส่งตรงไปหาคนอื่น
และเราอาจไม่ต้องพูด
เพราะแว่นจะรับข้อมูลโดยตรงได้จากความคิดเรา

แต่สิ่งที่น่าคิดคือ
โลกที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน
จากการก้มหน้า มาเป็นแว่นที่อยู่ติดตา

ภาพในแว่น หรือ ภาพจริง
อะไรสำคัญกว่ากัน
แล้ววันที่มันถูกพัฒนาไปมากๆ
เราจะแยกภาพจริง กับ ภาพไม่จริง ได้แค่ไหน

แล้วมนุษย์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร..
เรากำลังอยู่ในช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุด ตั้งแต่ประวัติศาสตร์มนุษย์มีมา
และคงไม่มีใครรู้ว่าจะจบลงอย่างไร
แต่ที่แน่นอนก็คือ
มนุษย์จะไม่มีวันกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ได้อีกต่อไป..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.cnbc.com/…/smart-glasses-that-replace-phones-ma…
-https://www.bloomberg.com/technology
-https://www.theverge.com/…/apple-augmented-reality-ar-heads…