⚠️I need a favor from you!
I need your to kindly :
1️⃣ Stick your arms out
2️⃣ Then wrap them around yourself tight
3️⃣ Sway and say "I love me! "
Remember the others that care for you so much 💕
& the people that are rooting for you.
Because you are loved by people all around the world🌎
and also, have accomplished so much!
You deserve love and appreciation🤗
Now,
Take your right hand and pat yourself on the back and say:
"keep going , you're Winning! "
.
Now
Close your eyes 🙈
Take couple of deep breathing ...
Let that sink in...
Open them! and go kick assss🥳
.
Thank you @tonyfromdcsays for being the source of positivity! 💐
📸 @dasdeven
.
.
.
#melomoon #夏沐 #love #SelfLoveSaturday #selflove #Taipei #photography #unicorn #pink #colorful #potrait #攝影 #人像 #愛 #愛自己#正能量
「sink source」的推薦目錄:
- 關於sink source 在 夏沐 Melo Moon Facebook 的最讚貼文
- 關於sink source 在 Pakar diari hati Facebook 的最佳解答
- 關於sink source 在 Do not tell my boss Facebook 的最讚貼文
- 關於sink source 在 [問題] current source和current sink的差別? - 看板Electronics 的評價
- 關於sink source 在 sink or source 意思??? - Mobile01 的評價
- 關於sink source 在 Log In - Facebook 的評價
- 關於sink source 在 xviz/overview-source-sink.md at master - GitHub 的評價
- 關於sink source 在 sink() within source() in R not working properly - Stack Overflow 的評價
sink source 在 Pakar diari hati Facebook 的最佳解答
Tips hari ini⠀
⠀
Menggunakan Softener pelembut Dobi:⠀
⠀
Cuba cara ini dan berhasil, Tuangkan secawan softener pakaian di tangki tandas. Softener akan tenggelam ke bahagian bawah dan kekal di dalam tangki. Setiap kali anda flush, aroma softener akan mengeluarkan bau wangi, dan seluruh bilik mandi akan berbau luar biasa, terpulang pada anda inginkan bau softener yg macam mane, ikut pada bau yang korang suka. Ia perlahan-lahan akan larut dan bahkan akan bertahan lebih lama. Ia tidak akan merosakkan tandas atau sistem septik anda. Jom share pada semua. Sy dah cuba, anda bila lagi 🥰
Sumber : valet.makan
Tips of the day ⠀
⠀
Using a dobi softener: ⠀
⠀
Try this way and succeed, Pour a cup of clothes softener in the toilet tank. Softener will sink to the bottom and stay in the tank. Every time you flush, the softener scent will smell good, and the whole bathroom will smell amazing, up to you want the smell of softener, follow the smell you like. It will slowly late and will even last longer. It won't ruin your toilet or septic system. Let's share with everyone. I've tried it, when will you be 🥰
Source: valet. eatTranslated
sink source 在 Do not tell my boss Facebook 的最讚貼文
ทำไมทัศนคติถึงสำคัญมากกว่าความฉลาด?
Carol Dweck เป็นนักจิตวิทยาที่ได้ทุ่มเทชีวิตการงานของเธอเพื่อศึกษาเรื่องทัศนคติและศักยภาพ ซึ่งงานวิจัยล่าสุดของเธอนั้นแสดงให้เห็นว่า “ทัศนคติบ่งบอกถึงความสำเร็จได้มากกว่าระดับไอคิว” เธอพบว่าทัศนคติที่เป็นแกนหลักของคนเราแบ่งเป็นสองประเภท หนึ่งคือ กรอบความคิดแบบจำกัด (Fixed Mindset) สองคือ กรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset)
คนที่มี กรอบความคิดแบบจำกัด (Fixed Mindset) จะเป็นคนที่ยึดมั่นในความคิดตนเองและไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อสิ่งใดๆ ซึ่งการมีวิธีคิดแบบนี้เอง ที่อาจเป็นปัญหาได้เวลาที่พบเจอกับสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถรับมือได้ และมันจะทำให้รู้สึกสิ้นหวังและพ่ายแพ้ได้
ส่วนคนที่มี กรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) จะเป็นคนที่มักเชื่อว่าคนเรานั้นสามารถพัฒนาตัวเองได้เสมอ ตราบใดที่เรามีความพยายาม และวิธีคิดแบบนี้เองที่จะทำให้เกิดความก้าวหน้ายิ่งกว่าคนที่มีกรอบความคิดแบบตายตัว แม้ว่าจะมีไอคิวที่ไม่สูงก็ตาม เพราะคนประเภทนี้จะชอบสิ่งที่ท้าทาย และมองว่าสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาคือโอกาสในการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ
โดยทั่วไปแล้ว การมีความสามารถหรือเป็นคนฉลาดจะทำให้มีความมั่นใจมากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งเป็นความจริงเวลาพบเจอกับเรื่องง่ายๆ เท่านั้น แต่ปัจจัยที่สำคัญกว่านั้นก็คือ วิธีการจัดการกับความผิดพลาดและอุปสรรคต่างๆ ต่างหาก โดยคนมีกรอบความคิดแบบเติบโตจะอ้าแขนรับกับอุปสรรคได้อย่างไม่ลังเล
Dweck กล่าวว่าความสำเร็จในชีวิต คือเรื่องของวิธีการจัดการกับความล้มเหลวในชีวิตของคุณนี่แหละ โดยเธอได้อธิบายวิธีที่คนมีกรอบความคิดแบบเติบโตไว้ว่า
“ความล้มเหลวก็เป็นแค่ข้อมูลตัวหนึ่ง ที่เราแปะป้ายเอาไว้ว่ามันคือความล้มเหลว ซึ่งมันทำให้เรารู้ว่า หากวิธีนี้มันไม่ได้ผล งั้นฉันก็จะลองแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นดู”
ไม่ว่าคุณจะเป็นประเภทไหนก็ตาม คุณสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองให้มีกรอบความคิดแบบเติบโตได้ทั้งนั้น และเรามีวิธีที่จะช่วยปรับมุมมองของคุณให้ดีขึ้นด้วยวิธีดังต่อไปนี้!
———————————-
อย่าจมอยู่กับความรู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ค่า
———————————-
ใครๆ ก็ต้องเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้ค่าสิ้นดี ซึ่งบททดสอบของคุณก็คือ คุณจะมีปฏิกิริยาตอบรับกับความรู้สึกแบบนี้อย่างไร? คุณจะเลือกเรียนรู้เป็นบทเรียนและก้าวต่อไป หรือจะปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ มีผู้คนที่ประสบความสำเร็จมากมาย ที่ไม่อาจมาถึงจุดๆ นี้ได้ ถ้าหากพวกเขาพ่ายแพ้ให้กับความรู้สึกที่ไร้ค่า ยกตัวอย่างเช่นบุคคลเหล่านี้
* วอลต์ ดิสนีย์ ที่เคยถูกไล่ออกจากบริษัท Kansas City Star เพราะ “ไร้ความคิดสร้างสรรค์และไอเดียดีๆ”
* โอปราห์ วินฟรีย์ ก็เคยถูกไล่ออกจากการเป็นผู้ประกาศข่าวทางโทรทัศน์ในบัลติมอร์ เพราะว่าเธอ “อ่อนไหวกับเรื่องส่วนตัวมากเกินไป”
* เฮนรี่ ฟอร์ด เคยล้มเหลวจากการสร้างบริษัทรถมาแล้วถึงสองครั้งก่อนจะประสบความสำเร็จจากบริษัทฟอร์ด
* สตีเวน สปีลเบิร์ก เคยถูกปฏิเสธจาก USC’s Cinematic Arts School มาหลายต่อหลายครั้งเช่นกัน
ลองจินตนาการดูว่าถ้าพวกเขาเหล่านี้มีกรอบความคิดแบบจำกัด ก็คงยอมแพ้และเลิกล้มความหวังไปแล้ว คนที่มีมีกรอบความคิดแบบเติบโตจะไม่รู้สึกไร้ค่า เพราะรู้ว่าการจะประสบความสำเร็จได้ คุณต้องเต็มใจที่ล้มเหลวและลุกขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง
———————————-
มีความมุ่งมั่นและหลงใหลในสิ่งที่ทำ
———————————-
แน่นอนว่าในโลกนี้ มีคนที่มีพรสวรรค์และเก่งมากกว่าคุณเสมอ แต่คุณสามารถใช้ความมุ่งมั่นและหลงใหลในสิ่งที่คุณทำมาทดแทนพรสวรรค์ที่ขาดหายไปได้ นั่นเป็นสิ่งที่ผลักดันให้คนเราไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเอง ยกอย่างเช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ เขาแนะนำว่าให้หาสิ่งที่รักและหลงใหลจริงๆ ด้วยเทคนิคที่เขาเรียกว่า 5/25 โดยให้เขียนสิ่งที่คุณสนใจมากที่สุด 25 อย่าง แล้วก็ตัดออก 20 ข้อ และ 5 ข้อสุดท้ายที่เหลือนั่นแหละ ก็คือสิ่งที่คุณรักมากที่สุดจริงๆ
———————————-
ลงมือทำ
———————————-
ผู้คนที่มีกรอบความคิดแบบเติบโตไม่ได้เอาชนะความกลัวได้เพราะพวกเขากล้าหาญกว่าคนอื่น แต่เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าความกลัวเป็นอารมณ์ที่ทำให้หมดกำลังใจ ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การลงมือทำ กรอบความคิดแบบเติบโตทำให้พวกเขามีพลังใจและรู้ว่าคนเราไม่สามารถรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อจะก้าวไปข้างหน้าได้หรอก เพราะฉะนั้น การลงมือทำอย่างจริงจังนี่แหละ ที่จะเปลี่ยนความกังวลต่อความล้มเหลวให้กลายเป็นพลังเชิงบวกได้
———————————-
ก้าวไปให้ไกลกว่าจุดที่เคยก้าวมา
———————————-
คนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังใจ จะไม่ลังเลที่จะทุ่มเทให้กับสิ่งที่ทำ พวกเขาจะผลักดันตัวเองไปให้ไกลกว่าจุดเดิมเสมอ มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งของ บรูซ ลี กล่าวว่า บรูซมีลูกศิษย์คนหนึ่งที่วิ่งเป็นระยะ 3 ไมล์กับเขาทุกวัน ในวันหนึ่งตอนที่วิ่งใกล้ครบสามไมล์ บรูซก็พูดขึ้นว่า “วิ่งต่ออีกสองไมล์เถอะ!” แต่ด้วยความเหน็ดเหนื่อย ลูกศิษย์ของเขาจึงตอบไปว่า “ถ้าวิ่งต่ออีกสองไมล์ ผมต้องตายแน่ๆ” รู้ไหมว่าบรูซตอบว่ายังไง? “งั้นก็วิ่งซะสิ!” หลังจากวิ่งครบห้าไมล์แล้ว ลูกศิษย์ของเขาก็ทั้งล้าและโกรธมาก บรูซจึงอธิบายให้เขาฟังว่า
“ต่อให้คุณไม่วิ่งต่ออีกสองไมล์ คุณก็อาจต้องตายอยู่ดี ถ้าเอาแต่สร้างขีดจำกัดให้ตัวเอง ทั้งชีวิตนี้ไม่ว่าเรื่องอะไร คุณก็จะมีแต่ขีดจำกัดให้ตัวเองเต็มไปหมด ขีดจำกัดที่แท้จริงน่ะไม่มีหรอก มีก็แต่อุปสรรคที่คุณต้องก้าวข้ามมันไปให้ได้แม้ว่ามันจะฆ่าคุณก็ตาม เพราะคนเราต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ”
ถ้าคุณไม่พัฒนาตัวเองขึ้นวันละนิดละหน่อย อาจกลายเป็นว่าคุณจะแย่ลงเรื่อยๆ แทนก็ได้ คุณเองก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นหรอกใช่ไหมล่ะ?
———————————-
คาดหวังผลลัพธ์
———————————-
ผู้คนที่มีกรอบความคิดแบบเติบโตมักจะรู้ว่า พวกเขาจะต้องล้มเหลวอยู่เรื่อยๆ แต่พวกเขาไม่เคยหยุดคาดหวังถึงแม้จะรู้อย่างนั้นก็ตาม การตั้งความหวังกับผลลัพธ์เป็นตัวกระตุ้นให้คุณมีพลังที่จะก้าวเดินต่อไปได้ ลองคิดดูสิว่า…ถ้าหากคุณไม่ตั้งความหวังว่าตัวเองจะต้องประสบความสำเร็จ คุณก็คงไม่พยายามมาถึงจุดนี้หรอก จริงไหม?
———————————-
ปรับตัวกับปัญหา
———————————-
ไม่มีใครที่ไม่ต้องพบเจอกับความยากลำบาก ผู้คนที่มีกรอบความคิดแบบเติบโตจะใช้ความลำบากในการพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่เพื่อดึงให้ถอยหลังลงคลอง เมื่อถูกท้าทายด้วยเหตุการณ์ไม่คาดคิด พวกเขาจะปรับตัวเข้ากับมันจนกว่าจะผ่านพ้นไปได้
———————————-
อย่าบ่นเวลาไม่ได้ดั่งใจ
———————————-
การบ่นเป็นสัญลักษณ์ของคนที่มีกรอบความคิดแบบจำกัดแบบชัดเจน คนที่มีกรอบความคิดแบบเติบโตจะมองหาทุกโอกาสที่เป็นไปได้เสมอ จึงไม่มีพื้นที่พอสำหรับการบ่น
ขอบคุณบทความดีๆจาก
https://sumrej.com/why-attitude-is-more-important-than-iq/
Source:
https://www.talentsmart.com/…/Why-Attitude-Is-More-Importan…
Why is attitude more important than intelligence?
Carol Dweck is a psychologist who has dedicated her career to studying her attitude and potential. Her recent research suggests that ′′ Attitude represents success beyond IQ level She finds that our core attitudes are divided into two types. One is a limited mind frame (Fixed Mindset). Two is a growing mind frame (Growth Mindset).
A person with a limited frame of mind (Fixed Mindset) will be a person who holds their own mind and doesn't change themselves for anything. Having this own way of thinking can be a problem. Time to encounter things that they can't cope with and it will cause. Feeling hopeless and defeated
Growth Mindset (Growth Mindset) will always be the one who believes that we can develop ourselves as long as we have this effort and method of thinking to make progress beyond the one who has a dead mind frame, even with the IQ. Not tall because these kind of people will like challenging things and see things coming in as learning new things.
Being talented or smart generally makes you more confident than others. It's true when you encounter simple things. But more importantly, it's how to deal with mistakes and obstacles. Growing mindframe will embrace you. Obstacle without hesitation
Dweck said success in life is a matter of how to deal with failure in your life. She explained how people have a growing mind frame.
′′ Failure is just one of the information that we labeled as failure, which makes us know that if this method doesn't work, then I'll try to solve the problem in another way
No matter what type you are, you can change and develop yourself into a growing mind framework. And we have a way to improve your perspective in the following ways!
———————————-
Don't be stuck in feeling that you are worthless.
———————————-
Everyone has to have a moment when they feel like they are worthless. Your test is how will you react to this feeling? You can either learn as a lesson and move on, or let yourself sink deeper. There are many successful people who can't reach this point if they lose their worthless feelings. For example, these individuals.
* Walt Disney ever got kicked out of Kansas City Star company because of ′′ creativity and good ideas
* Oprah Winfrey was also fired as a television announcer in Baltimore because she was ′′ too sensitive to personal
* Henry Ford once failed to build a car company twice before succeeding from Ford.
* Stevens Spielberg has been rejected from USC's Cinematic Arts School several times as well.
Imagine if they had a limited mind frame, they would have given up and had fallen hope. People with a growing mind frame wouldn't feel worthless. Knowing that to succeed, you would be willing to fail and rise up again.
———————————-
Determined and passionate about what you do.
———————————-
Sure, there are always more talented and talented people in the world than you, but you can use your commitment and passion for what you do to replace your missing talent. That's what pushes people to never stop developing themselves. For example. Raren Buffett. He suggested to find something truly loving and passionate with a technique he called 5/25, writing down 25 of your most interested in and 20 of them. The rest is what you really love the most.
———————————-
Let's do it
———————————-
People with a growing mind framework don't conquer fear because they are braver than others. But because they know that fear is a discouraging emotion. The best way out is to do a growing mind framework. It gives them power and knowledge. People can't wait for the right time to move forward. Therefore, taking serious action will turn their worries about failure into a positive power.
———————————-
Step beyond the point of ever stepping.
———————————-
A full-fledged, supportive person doesn't hesitate to dedicate their way to what they do. They always push themselves further than before. One story of Bruce Lee says Bruce has a disciple who runs 3 miles with him every day one day. When he ran near three miles, Bruce said, ′′ Run two more miles!" But with exhaustion, his disciple said, ′′ If I run two miles, I'm going to die!" Know what Bruce said? ′′ So run!" After a five mile run, his disciple was exhausted and angry. Bruce explained to him.
′′ Even if you don't run for two miles, you will die. If you don't have to limit yourself in this life, you will have limits to yourself. The true limit is not there, but the obstacles you have. Move over it, even if it kills you, because people always develop themselves
If you don't develop yourself a little bit each day, it may turn out to be worse instead. You don't want to be like that, do you?
———————————-
Expect results.
———————————-
People with a growing mind frame of mind always know that they are going to fail, but they never stop expecting it. Even if they know it, hoping for a result will encourage you to move on. Think about it... if you don't. Wish yourself success, you wouldn't have tried to reach this point, right?
———————————-
Adapt to the problem.
———————————-
Nobody doesn't have to encounter difficulties. People with a growing mind framework take the struggle to develop themselves, not to pull backwards down the canal. Once challenged with unexpected events, they will adapt to it until they get through.
———————————-
Don't complain when it's not as you wish
———————————-
Complaining symbolizes a person with a clear, limited-minded framework. A person with a growing mind framework will always look for every possible opportunity, so there's no space for complaining.
Thank you for a great article from
https://sumrej.com/why-attitude-is-more-important-than-iq/
Source:
https://www.talentsmart.com/articles/Why-Attitude-Is-More-Important-Than-IQ-982658569-p-1.htmlTranslated
sink source 在 sink or source 意思??? - Mobile01 的推薦與評價
這兩個「它」是待測物(控制器)還是偵測器? 基本上sink通常是訊號輸入端,source是訊號輸出端。 視量測方式不同決定偵測器輸出訊號 ... ... <看更多>
sink source 在 Log In - Facebook 的推薦與評價
SINK 、SOURCE是什麼呢? ? http://goo.gl/CdHRit ? SINK為NPN電晶體、SOURCE為PNP電晶體為何輸出入回路有這兩種差異呢? 趕緊參考教教我吧馬姐吸收新知識吧? ... <看更多>
sink source 在 [問題] current source和current sink的差別? - 看板Electronics 的推薦與評價
請教一個問題
最近在讀類比電路一直遇到current source和current sink兩個名詞.
其中current source把電流輸入到負載元件驅動,
這一點比較好理解;
但current sink本身是一種接收電流輸入的設計,
不知道該如何解釋current sink驅動負載元件的物理意義?
我目前的想法是:
current source像是水柱由上而下把東西沖走,
current sink像是一個漩渦把負載元件吸引下去,
不知道這樣的比喻是否恰當?
希望有這方面相關經驗的前輩不吝告知
感謝!!
--
※ 發信站: 批踢踢實業坊(ptt.cc)
◆ From: 59.124.99.194
... <看更多>