The biggest adventure you can take is to live the life of your dreams 🚐✨🤎🌞
Oprah Winfrey
ใครยังไม่เคยลองไปนอนรถบ้านครั้งนึงในชีวิต บอกเลยว่าพลาดมาก นี่เป็นครั้งแรกที่พี่จอยได้มานอนที่นี่ ก็เลยอยากมารีวิวให้เพื่อนๆฟัง
ตอนเด็กๆเคยมีความฝันว่าอยากขับรถบ้านแบบนี้เที่ยวรอบโลกแต่ก็ยังไม่เคยได้ทำซักที พอได้มาพักที่นี่ เหมือนได้เติมเต็มความฝันในวัยเด็กอีกครั้ง มีความผจญภัยเบาๆ เพราะถึงแม้ว่าข้างในจะไม่ได้กว้างสบายเหมือนนอนโรงแรมห้าดาว แต่มันคือความสุขที่อบอุ่นหัวใจ ได้ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ สไตล์แคมป์ปิ้ง นอนฟังเสียงคลื่น ตกกลางคืนก็ซื้อของมาปิคนิคหน้าบ้านรถ หรือถ้าอยากจัดหนักทางที่พักก็มีเซ็ตปาร์ตี้ BBQ ให้ด้วย
Location 📍 อยู่ติดกับโรงแรม SO/ Sofitel Hua Hin ที่พักรวมอาหารเช้าไว้แล้ว ตื่นเช้ามาทานอาหาร ดูพระอาทิตย์ขึ้น โรแมนติกสุดๆ
สำหรับห้องน้ำอาจจะเล็กนิดหน่อย แต่มีการแยกโซนห้องอาบน้ำและห้องส้วมออกจากกัน ทำให้สะดวกมากขึ้น
ราคาเข้าพักที่นี่เริ่มต้นที่ 2,000 บาท ส่วนรถบ้านหลังที่พี่จอยพักราคาอยู่ที่ 2,5000 บาท พักมากกว่า 2 คนขึ้นไปจ่ายเพิ่มคนละ 500 บาทค่ะ
ช่องทางการ Booking ที่ https://www.mvcaravan.com/
เอาเป็นว่าถ้าใครตามมา อย่าลืมเตรียมชุดเท่ๆมาถ่ายรูปคู่รถบ้านกันด้วยนะคะ
#awaybyaday #mvcaravan
sofitel booking 在 Just Go,出發去旅行! Facebook 的精選貼文
這並不是業配文😂
分享一下N小編入住雅高集團飯店(AccorHotels)時候遇到的一次小插曲~
———Hi,我是分割線———
很多朋友很喜歡在booking、agoda這些網站預定房間,由於N小編平時出差偶爾會入住雅高集團下屬的飯店,所以一次偶然的機會就隨手辦了一張會員卡(免費)~
雖然出身法國的雅高集團下屬的飯店並不是最便宜的,但從Sofitel、Pullman這種高端五星級飯店,到ibis這種經濟型的hotel應有盡有,所以小編採取的方式是出差可以積分,然後出去玩時候可以用積分住經濟一點的飯店(有點聰明XD)
因為雅高集團的優惠政策是會員訂房原本就有至少10%的優惠,然後根據會員等級不同還有很多優惠類似於2000積分就可以抵扣40歐元等值的房費等,所以如果是去住ibis這種便宜的飯店比起去其他網站訂房,還在官網訂比較實惠的~
這次N小編在莫斯科和聖彼得堡都選擇了ibis,結果回來發現怎麼積分只有集到聖彼得堡一間。(畢竟分分都是錢啊,怎麼可以放棄!)
也有想過直接用英文聯繫莫斯科的ibis,但後來抱著試試看的態度在雅高官網的詢問欄裡填寫了想問的問題,沒想到雖然是用中文詢問但當日就收到了回信(如圖一)原來是由於第一間把入住日期搞錯導致第二間無法錄入積分。
然後很快地,今天就收到了已經修改完成的信息(如圖二)一起查看,還真的是兩間積分都已到位呢!
N小編感嘆讚嘆他們的客服處事效率蠻高的同時,也把它推薦給有需要的朋友~遇到trouble不要急,一定會有解決的辦法噠~顆顆
sofitel booking 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
ธุรกิจเสือนอนกิน agoda / โดย เพจลงทุนแมน
สมัยนี้ไปเที่ยวต่างประเทศ เรามักจะจองโรงแรมผ่าน Agoda รู้ไหมว่าบริษัทนี้มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพ ถือว่าเป็น startup ที่ประสบความสำเร็จเป็นรายแรกๆที่ตั้งอยู่ในไทย บริษัทนี้ทำไมถึงเป็นเสือนอนกิน จะเล่าให้ฟัง
Agoda และ Booking มีเจ้าของเดียวกันคือ บริษัท Priceline จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ธุรกิจนี้เขาเรียกกันว่า OTA หรือ Online Travel Agency ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นมาแทนการจองผ่าน Agent ทัวร์แบบดั้งเดิม และ บริษัท Priceline ถือว่าเป็นบริษัท OTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
จริงๆแล้ว Agoda จะนิยมกันในเฉพาะเอเชีย ส่วนระดับโลกจะเป็น Booking โดยบริษัทมีคู่แข่งที่สำคัญคือ Expedia ที่กำลังรุกตลาดอย่างหนัก แต่ยังมีสเกลที่เล็กกว่า Priceline
ส่วนอีกบริษัทคู่แข่งที่กำลังมาแรงคือ AirBnb ซึ่งรุกตลาดการแปลงบ้านหรือคอนโดของเราให้เป็นโรงแรมได้
ตอนนี้เราจะมาพูดถึงบริษัท Priceline บริษัทเดียวก่อน
ในปีที่แล้วมีการจองโรงแรมผ่านบริษัท Priceline เป็นยอดเงินมากถึง 2.4 ล้านล้านบาท!
ตัวเลข 2.4 ล้านล้านบาท มากขนาดไหน ตัวเลขนี้ คืองบลงทุนเกือบสิบปีของประเทศไทยที่จะสร้าง รถไฟฟ้าสิบสาย รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง
โมเดลธุรกิจนี้น่าสนใจตรงที่ ทุกครั้งที่คนจองผ่านบริษัท บริษัทจะได้รับส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นจากโรงแรม โดยที่บริษัทไม่ต้องมีโรงแรมเป็นของตัวเอง
ในปีที่แล้วบริษัทได้มีรายได้มากถึง 376,005 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16% ของยอดจอง 2.4 ล้านล้านบาท แต่ด้วยข้อดีคือบริษัทไม่ต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินอะไรเลย สิ่งที่บริษัทต้องทำคือพัฒนาระบบการจอง และโฆษณาให้คนมาจองผ่านระบบเท่านั้น
ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า กำไรขั้นต้น Gross Profit ของบริษัทจะมีมากถึง 96% บริษัทมีต้นทุนขายเพียงแค่ 4% ของรายได้ หรือเรียกได้ว่าเกือบทั้งหมดของรายได้คือ กำไรล้วนๆ
ค่าใช้จ่ายของบริษัทที่ต้องเสียมากที่สุดคือ ค่าโฆษณา ค่าบริหาร ค่าพนักงาน คิดเป็น 56% ของยอดขาย และเมื่อหักภาษีต่างๆแล้วจะเหลืออัตรากำไรสุทธิที่ 20% ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรที่ดีมาก
บริษัทมีกำไรแค่ไหนเมื่อเทียบกับเจ้าของโรงแรมเอง?
เรามาดูเชนโรงแรมใหญ่ที่สุดในโลกว่าเขามีกำไรเท่าไหนกัน
บริษัท Marriott
เจ้าของแบรนด์ Ritz-Carlton, JW Marriott, St. Regis, Westin, Renaissance, W Hotel, Sheraton
มี 5,974 โรงแรม 1,170,367 ห้องพัก
มีกำไร 27,300 ล้านบาท
บริษัท InterContinental
เจ้าของแบรนด์ InterContinental, Crowne Plaza, Holiday Inn
มี 5,070 โรงแรม 749,721 ห้องพัก
มีกำไร 14,490 ล้านบาท
บริษัท Hilton
เจ้าของแบรนด์ Conrad, Hilton
มี 4,727 โรงแรม 775,866 ห้องพัก
มีกำไร 12,180 ล้านบาท
บริษัท Accor
เจ้าของแบรนด์ Sofitel, Pullman, Swissotel, Mercure, Novotel
มี 4200 โรงแรม 524,955 ห้องพัก
มีกำไร 8,476 ล้านบาท
เมื่อนำตัวเลขทั้ง 4 บริษัทเชนโรงแรมชั้นนำ มาบวกกันจะได้ 19,971 โรงแรมทั่วโลก มีจำนวนห้องรวมกัน 3,220,909 ห้อง และมีกำไรรวมกัน 62,446 ล้านบาท
น้อยกว่าบริษัท Priceline ที่มีกำไร 75,000 ล้านบาท
โดยที่บริษัท Priceline ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงแรมเลย และไม่มีห้องพักซักห้องเดียว..
อ่านบทความทั้งหมดของลงทุนแมนได้ที่
https://www.facebook.com/longtunman/posts/131589187373698:0